คบผู้ชายโปรไฟล์ดี หน้าตาดี ได้เกือบปี จับได้เขานอนกับหญิงอื่น ตอนนี้เลิกกันแล้ว แต่ห้ามใจตัวเอง ตามรังควานเขาไม่ได้ ตอนนี้ทั้งรัก ทั้งแค้น อยากมูฟออนทำไงดีคะ?

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบผู้ชายโปรไฟล์ดี หน้าตาดี ได้เกือบปี จับได้เขานอนกับหญิงอื่น ตอนนี้เลิกกันแล้ว แต่ห้ามใจตัวเอง ตามรังควานเขาไม่ได้ ตอนนี้ทั้งรัก ทั้งแค้น อยากมูฟออนทำไงดีคะ?

18 ธ.ค. 2023

          “คุณกระต่าย(นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (13 ธ.ค 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจต้นหอม – ดีเจเติ้ล – ดีเจอั๋น กับปัญหาเลิกกับแฟน แต่ยังรู้สึกรักเขา ถึงขั้นเคยไปตามรังควานผู้หญิงเขาทุกคน แต่ก็เลิกทำไปแล้ว

            โดย “คุณกระต่าย(นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า หนูไม่สามารถมูฟออนจากแฟนเก่าได้ ก่อนหน้านี้หนูรักเขามาก แต่ตอนนี้ทั้งรักทั้งเกลียด และไม่สามารถมูฟออนได้ เขาเป็นคนที่ดีมาก และอบอุ่นมากคนนึง ด้วยความที่เขาเป็นคนหน้าตาดี ทำให้หนูคิดว่าเขาคงไม่จริงจังกับหนู แต่พอคุยกันไปมาก็ตกลงที่จะอยู่ด้วยกัน ซึ่งระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันนั้นไม่นานแต่ก็รักเขามาก

            อยู่มาวันนึงเขาขอไปกินเหล้า ต้องเท้าความก่อนว่าก่อนหน้านี้หนูเป็นคนที่ชอบโทรจิกโทรตามตลอด แต่รอบนี้หนูตัดสินใจที่จะปล่อยเพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร แต่พอเขากลับมาบ้านตัวเขากลับไม่มีกลิ่นเหล้า มีแต่กลิ่นน้ำหอม อีกทั้งเนื้อตัวก็สะอาดผิดปกติ หนูเองก็สงสัยอยู่ในใจแต่คิดว่าคงไม่มีอะไร ด้วยความที่คนเราจะมีเซนส์ถ้าเกิดว่ามีอะไรผิดปกติจะรับรู้ได้ จนวันถัดมาเขาทำตัวน่ารักซึ่งผิดปกติมาก ๆ จากที่ปกติชอบมีอะไรกับเราแล้วไม่ใส่ถุงยาง แต่วันนั้นเขากลับยอมใส่ถุงให้

            ตอนที่เขาหลับ หนูจึงแอบเช็คโทรศัพท์เขา ลองเปิด Google Maps ดูไทมไลน์ ก็เห็นหมดเลยว่าเขาไปไหน ไปกี่โมง ไปที่ไหน ซึ่งตอนที่รู้ หนูไม่ได้โวยวายอะไรทำตัวตามปกติ แต่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ไม่กี่วัน เพราะหนูรับไม่ได้ หนูจึงตัดสินใจที่จะคุยกับเขา สรุปความได้ว่าเขาไปมีอะไรกับคนอื่น หาสาวจากแอพลิเคชันนึงแล้วจึงนัดไปมีอะไรกัน

            เขาให้เหตุผลว่าเขาเบื่อหนู แต่ยังไม่อยากเริ่มต้นใหม่จึงยังไม่บอกเลิก เขาอยากลองไปมีอะไรกับคนอื่นดูก่อน เขายังบอกหนูอีกว่าการที่เขาไปมีอะไรกับคนอื่นมันทำให้เขามีความสุขมาก ๆ ทำให้เขาหายเครียดได้ ซึ่งหนูทำไม่ได้ สุดท้ายหนูกับเขาก็จบกันไม่ดี เพราะหนูตามราวีรังควานผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเขาไม่จบไม่สิ้น เพราะหนูทั้งแค้น ทั้งรัก ทั้งเป็นห่วงเขา เขาเป็นคนที่ทำให้หนูรู้จักคำว่า ทั้งรัก ทั้งเกลียด ว่ามันเป็นแบบไหน หนูจึงอยากขอคำปรึกษาว่า “หนูควรมูฟออนยังไง แล้วควรรักษาใจตัวเองยังไง ณ ตอนนี้หนูไม่สามารถเริ่มความสัมพันธ์กับใครได้เลย เพราะยังกลัวและเข็ดจากเหตุการณ์ครั้งนั้น”

            คุณกระต่ายยังเสริมอีกว่า ตอนนี้หนูเลิกตามรังควานเขาประมาณ 1 เดือนแล้ว แต่หนูแค่ต้องการที่จะมาจัดการความรู้สึกตัวเองว่าจะต้องทำยังไงถึงจะลืมเขา หรือจะทำยังไงให้ความรู้สึกที่มีกับเขาน้อยลง ตอนนี้แค่เหมือนหนูยังปล่อยวางไม่ได้

            รอบล่าสุดที่คุยกันเขายังบอกหนูอีกว่าตอนแรกเขารู้สึกผิดแต่ก็รู้สึกเกลียดหนูด้วย ก็เลยกลายเป็นว่าตอนนี้เราสองคนเกลียดกัน ไม่ได้ต้องการที่จะกลับมาหากัน เพราะตัวหนูก็ไม่รู้ว่าจะยังมีความเชื่อใจให้เขาได้มั้ย ถ้าเขากลับมา ก่อนหน้านี้หนูมีแฟนมีครอบครัวมาแล้วสองครั้งแต่ก็จบไม่ดีเหมือนกัน ส่วนตัวหนูก็มีลูกแล้ว 2 คน คนโตอยู่กับหนู ส่วนคนเล็กอยู่กับพ่อเขา หนูมีลูกคนแรกตอนอายุ 16 ปี ซึ่งตอนนี้คนโตก็อายุ 7 ขวบได้แล้ว

            โดย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘วิธีการที่จะตัดใครออกจากชีวิตมันง่ายมาก คือให้นึกถึงความเลวของเขา แต่พี่จะไม่แค้น ไม่ไปราวีผู้หญิง เพราะพี่รู้สึกว่ามันทำให้เราไร้คุณค่า พี่จะมองว่าเขาไม่ได้คู่ควรกับเรา แล้วก็ไม่ได้คู่ควรขนาดที่ต้องไปราวีเพื่อเอาเขาคืนมา ฉะนั้นการที่เขาจะไปอยู่กับใคร ถ้าภูมิคุ้มกันเราแข็งพอ เราไม่ต้องเลิกติดตามเขา แต่ถ้าภูมิคุ้มกันเราต่ำมากถึงขนาดไปราวีเขา พี่แนะนำให้เราเลิกติดตามเขาทุกช่องทาง แล้วก็บล็อค ลบรูปคู่ ที่มันทำให้เราดูแล้วรู้สึกเจ็บปวด หรืออะไรที่ทำให้รู้สึกว่ายังแค้นให้ตัดออกไปเลย

            ทีนี้วิธีมูฟออนคือ ถ้ามีลูกให้มองหน้าลูกเยอะ ๆ เราคือโลกทั้งใบของลูก ลูกจะรู้สึกแย่มากถ้ารู้ว่าแม่ตัวเองกำลังทุกข์หรือเสียใจ โลกของเขาถ้าแม่เขามีความสุขมันทำให้โลกเขามีความสุขไปด้วย ทำให้โลกของลูกและเรามีความสุขไปด้วยกัน ตัดคนที่ไม่ใช่ออกจากชีวิต พี่ก็หวังว่ากระต่ายจะมีความสุขในเร็ววัน เพราะว่าความสุขของกระต่ายจะส่งผลถึงลูกของกระต่ายด้วย มองหน้าลูกเยอะ ๆ แล้วคิดว่าลูกเราไม่ควรต้องมาเห็นเรานั่งทุกข์เพราะคนเลว ๆ ลูกไม่ควรต้องรับสิ่งเหล่านั้น เพราะเขารักเรามาก’

            ต่อมาเป็น “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าอันนี้เป็นห้วงเวลานึงที่คุณกระต่ายต้องใช้เวลาในการทำใจเหมือนเดิม คุณกระต่ายต้องเข้าใจว่าเราเป็นคนที่ใช้เวลามูฟออนนานกว่าคนอื่น อย่างแรกเลยพี่อยากให้คุณกระต่ายเข้าใจตัวเอง ไม่ต้องพยายามบีบคั้นให้ตัวเองทำใจให้ได้ เพราะโดยธรรมชาติของคุณกระตายเป็นคนแบบนี้ บางคนแผลเจ็บแล้วหายเร็ว บางคนใช้เวลานานเพราะเรื้อรัง

            พี่เห็นด้วยกับพี่หอม ถ้าคุณกระต่ายมีลูกแล้ว  ความสำคัญที่สุดในชีวิตคุณกระต่ายก็คงเป็นเรื่องของลูก ไม่ว่าเราจะผิดหวังขนาดไหนกับเรื่องความรักที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเรา พี่ไม่อยากให้คุณกระต่ายเอาสิ่งนั้นมากระทบตัวคุณกระตาย จนลามไปกระทบลูก ถ้าเรายิ่งเสียเวลาให้เรื่องนั้นมากเท่าไหร่ เวลาที่เราควรมีให้กับลูกเรามันจะถูกลดทอนไปด้วยเท่านั้น เอาเวลามาใช้ประโยชน์กับลูก และตัวเราเองดีกว่าที่จะไปเฝ้ารออะไรที่จะไม่กลับมาอีก ซ้ำแล้วเขายังเกลียดเราอีก ทำสิ่งไม่ดีกับเราด้วย’

            สุดท้ายเป็น “ดีเจอั๋น” ให้คำปรึกษาว่า ‘ในที่สุดแล้วเราอยากเห็นตัวเราเองเติบโตไปเป็นกระต่ายแบบไหนในอนาคต เราอยากเห็นตัวเราเองเป็นคุณแม่แบบไหน ไม่จำเป็นเป็นต้องเป็นภรรยาก็ได้ เป็นแค่คนหนึ่งคน เราอยากพาตัวเองไปจุดไหน ซึ่งมันจะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ เราอาจจะบังเอิญไปเจอคนเจ้าชู้ เข้าใจว่ามันคงต้องเจ็บบ้าง ถ้าหากว่าเรารู้สึกว่าเขาทรยศเรา แต่พี่คิดว่าถ้าเราอยู่กับความปรารถนาร้ายในทุกรูปแบบ ในที่สุดแล้วมันคือไฟที่เผาตัวเราเอง

            ตอนนี้เขาอาจจะมีความสุขอยู่ก็ได้ ในขณะที่เรายังรู้สึกร้อนรน เช่นกันถ้าตอนนี้ยังรู้สึก เจ็บ ปวด แค้น ยังปล่อยวางไม่ได้ ก็ยังไม่ต้องพยายาม ถ้ายังอยากจะถือไว้ ก็ถือไว้สักพักเดี๋ยวก็เมื่อยเอง แล้วมันจะหยุดเอง เหมือนถ้าเสียใจ แล้วยังรู้สึกว่ายังอยากร้องไห้ก็ร้องออกมา ก็ค่อย ๆ คุยกับตัวเองว่าเมื่อไหร่ที่เรายังปรารถนาร้ายกับคนอื่น ไม่มีทางเลยที่จะมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นกับชีวิตเรา เอาพลังงานทำชีวิตเราให้ดี คือวิธีการแก้แค้นที่ดีที่สุดในทุกรูปแบบ’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

การที่หนู ทักคนคุยเก่าไปอวยพรวันเกิด สวัสดีปีใหม่ แล้วแฟนมาเห็น โกรธทะเลาะกันบ้านแทบแตก หนูผิดหรอคะ? แค่ทักไปไม่ได้คิดอะไร เพราะมองเขาเป็นเพื่อนคนนึง ถึงแม้จะไม่ได้คุยกันไปแล้ว

31 ม.ค. 2025

การที่หนู ทักคนคุยเก่าไปอวยพรวันเกิด สวัสดีปีใหม่ แล้วแฟนมาเห็น โกรธทะเลาะกันบ้านแทบแตก หนูผิดหรอคะ? แค่ทักไปไม่ได้คิดอะไร เพราะมองเขาเป็นเพื่อนคนนึง ถึงแม้จะไม่ได้คุยกันไปแล้ว

“คุณฟาง (นามสมมติ)” อายุ 32 ปี เป็นสายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [29 ม.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล’ เกี่ยวกับปัญหาทักไปอวยพรวันเกิดแฟนเก่าหรือคนคุยเก่า โดย “คุณฟาง (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ปัจจุบันเรามีเเฟนอยู่เเล้ว แต่เราก็เล่นโซเชียล เเล้วเราไปเห็นแฟนเก่าหรือคนคุยเก่าลงวันเกิดเขาเอง เราก็เลยตอบกลับสตอรี่เขาไปว่า Happy Birthday เเค่นั้นเลย เเต่ปกติเราก็ไม่ได้คุยกับเขาในเเชทเป็นการส่วนตัวอยุู่เเล้ว สิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาคือตอนนั้นเเฟนปัจจุบันของเรา เข้าไปดูในเเชทพอดี อาจจะเพราะเหมือนเขาตะหงิดใจเลยกดเข้าไปดู เเล้วเขาก็เห็นเเชทว่าเราไป เเฮปปี้เบิร์ดเดย์ คนคุยเก่า เลยมีปัญหากันแบบบ้านเเตกเลย ส่วนที่เราทักไปเเฮปปี้เบิร์ดเดย์เขาเพราะว่าเราเห็นถึงความเป็นมิตรภาพที่จบกันไปเเล้ว เพราะคนที่เรายังติดตามกันอยู่ ส่วนมากก็จบกันด้วยดี เลยเป็นเเบบพี่น้องกัน สำหรับเรา เราก็ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ หลังจากเราทักไปอวยพรวันเกิด ก็ไม่ได้มีประโยคสนทนาอะไรกันต่อ ก็เลยอยากถามพี่ๆดีเจว่า เราควรทักไป Happy new year หรือ Happy birthday กับเเฟนเก่าหรือคนคุยเก่าไหม แล้วถ้าทำผิดไหม? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้ความคิดเห็นว่า ‘สำหรับมุมผมเลยนะ มันก็มีความสุ่มเสี่ยงกับการทัก เเต่เคสของเเฟนเก่าเนี่ยถ้าเเบบยังรู้สึกว่าโอเค สายสัมพันธ์ยังมีอยู่ กับการ Happy birthday หรือเหตุการณ์วันสำคัญของปีอันนี้โอเค เเต่กับคนคุยอันนี้รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน เพราะว่ามันมีความสำคัญขนาดที่เราจะต้องเเฮปปี้เบิร์ดเดย์หรอ? ซึ่งในมุมของพี่ ในเรื่องของคนคุยเก่า พี่ก็ไม่โอเค เเต่ถ้าเป็นเเฟนเก่าที่จบกันไปแล้วจริงๆ อันนี้ก็ยังพอสามารถเข้าใจได้อยู่’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้ความคิดเห็นว่า ‘อันนี้คือฟางหาเรื่องให้ตัวเองเพราะฝั่งนั้น เขาก็ไม่ได้ต้องการอะไรจากฟางเลย เเละมันก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรเลยนอกจากคำว่าหาเรื่องให้ตัวเอง ซึ่งการที่เเฟนของฟางจะโกรธก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เเละหนูก็ควรรู้ไว้ว่าไม่ต้องทำ มันไม่มีประโยชน์อะไรกับทุกฝ่ายเลย เพราะฉะนั้นถ้าอยากอยู่อย่างสงบๆก็เลิกทำ’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้ความคิดเห็นว่า ‘สำหรับหอมเองไม่ใช่เเค่คนคุยเก่าอย่างเดียว เเฟนเก่าก็ไม่ได้ ถ้าเป็นเเฟนเก่าต้องเป็นคนที่รู้ว่าเราคือเเฟนใหม่ของคนปัจจุบัน เเละเราก็ต้องเคยเจอ ตอนนี้ฟางเหมือนอยู่ในภาวะบุคคลสุ่มเสี่ยง ซึ่งถ้ารู้ว่ามันสุ่มเสี่ยงก็ไม่ควรไปหาเรื่อง ลองชั่งน้ำหนักดูว่าทำเเล้ว มันได้ประโยชน์อะไร เพราะความสุ่มเสี่ยงมันสูงกว่าเยอะ เพราะบางเรื่องมันทำไม่ได้ก็ไม่ควรทำ ชีวิตอยู่กับเเฟนดีๆอยู่เเล้ว ไปหาเรื่องให้ตัวเองทำไม ถ้าบอกว่าเราเเค่เเฮปปี้เบิร์ดเดย์ มันก็จะมีคำถามในหัวว่าทำไปทำไม เพราะฉะนั้นอย่าทำเรื่องเเบบนี้ให้มันกระทบกับความสัมพันธ์ของฟางอีก’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

อากง อาม่า ให้เราออกจากงานประจำมาเป็น CEO ดูแลธุรกิจกงสี เราต้องวางระบบใหม่ทั้งหมด ทั้งๆที่เราเป็นลูกคนกลาง พี่ชาย น้องชาย ไม่เห็นต้องมาทำอะไรแบบนี้เลย พี่ชาย กับ น้องชายเรา เอาเงินกงสีออกมาใช้ซื้อรถหรูไปใช้

01 ส.ค. 2025

อากง อาม่า ให้เราออกจากงานประจำมาเป็น CEO ดูแลธุรกิจกงสี เราต้องวางระบบใหม่ทั้งหมด ทั้งๆที่เราเป็นลูกคนกลาง พี่ชาย น้องชาย ไม่เห็นต้องมาทำอะไรแบบนี้เลย พี่ชาย กับ น้องชายเรา เอาเงินกงสีออกมาใช้ซื้อรถหรูไปใช้

อากง อาม่า ให้เราออกจากงานประจำมาเป็น CEO ดูแลธุรกิจกงสี เราต้องวางระบบใหม่ทั้งหมดทั้งๆที่เราเป็นลูกคนกลาง พี่ชาย น้องชาย ไม่เห็นต้องมาทำอะไรแบบนี้เลย พี่ชาย กับ น้องชายเราเอาเงินกงสีออกมาใช้ซื้อรถหรูไปใช้ หลายครั้งที่รู้สึกว่า ได้รับการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมน้อยใจกับสิ่งที่เจอมาก ล่าสุดเราไปช่วยอากงขายที่ดินได้แต่อากงกลับบอกว่าให้หารพี่น้องเท่าๆกันทุกคน “คุณสอง (นามสมมติ)” สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [30 ก.ค 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเป็นลูกสาวคนกลางในครอบครัวเชื้อสายจีน ทำทุกอย่างมากกว่าลูกชายสุดท้ายได้ผลตอบรับไม่เท่ากัน โดย “คุณสอง (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วอาม่าหนูเสีย แต่ก่อนจะเสียได้มีการเรียกลูกหลานทุกคนกลับมารวมตัวกันแล้วประกาศว่าจะยกกิจการกงสีของบ้านที่ต่างจังหวัดให้กับหนู ทำให้หนูต้องลาออกจากงานประจำที่กรุงเทพเพื่อมาดูแลต่อ ตั้งแต่มาอยู่ก็รู้สึกว่าเหนื่อยจังเลย เรารู้ว่าอากงรักเราแต่มันดันเป็นความรักแบบ Tough Love ไม่ว่าจะทำอะไร ก็รู้สึกว่าดีไม่พอ อากงก็จะชอบพูดว่า “เนี่ย ทำไมยอดขายได้เท่านี้เอง ทำไมทำได้แค่นี้ มันไปไหนหมด!” ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกที่มาทำมันเครียดมากเลย การเงินก็สะเปะสะปะไปหมด อากงมักจะคิดว่าหนูเอาเงินไปใช้คนเดียว พอหนูเริ่มเข้ามาเคลียร์ว่าเงินไหนใช้ในกงสี เงินไหนไว้ใช้จ่ายในบ้าน ก็ได้รู้ว่าไม่ใช่เราหนิที่ใช้เงิน เงินจากกงสีก็ถูกคนในบ้านดึงไปใช้เยอะมาก พี่ชายกับน้องชายก็ได้รถหรูไปคนละคัน ในขณะที่หนูยังต้องซื้อรถใช้เองอยู่เลย ก็เลยเริ่มมีความน้อยใจ เพราะหนูทั้งลาออกจากงาน ทั้งยอมห่างกับแฟน แต่ที่สำคัญที่บ้านก็ไม่ชอบให้คบกับแฟนคนนี้อีกเพราะเขามองว่าแฟนเรามีที่ติ พ่อแม่แยกทางกันแถมแม่ก็เสียแล้ว เขากลัวแต่งแล้วจะไม่มีญาติมา เขาอยากให้หนูไปแต่งกับกงสีชาวจีนด้วยกันมากกว่า ส่วนตัวด้านการทำงานไม่มีปัญหาเลยเพราะมันคล้ายกับงานประจำที่เคยทำมาแต่จะมีปัญหาจิตใจมากกว่าที่เขากดดันหนู แล้วเป็น Tough Love แบบคนจีนเลยจริง ๆ ทำอะไรก็ดีไม่พอ ล่าสุดหนูช่วยขายที่ดินให้จนได้ แต่อากงกลับบอกว่าให้หารเงินเท่ากันทุกคน ทั้ง ๆ ที่เราเป็นคนพาไป โดยเขาก็บอกอีกว่าหนูไม่ต้องเอาหรอก ได้จากเงินกงสีไปแล้ว แถมได้เยอะกว่าเพื่อนเลย แต่บางทีหนูก็รู้สึกว่าน้อยใจจัง หนูกับพี่น้องไม่ได้มีปัญหากันแค่เป็นความรู้สึกของคนที่ทำมากกว่าว่าเราควรได้มากกว่าหรือเปล่า หนูไม่รู้ว่าหนูคิดไปคนเดียวหรือเปล่าว่า หรือเพราะหนูเป็นลูกสาวคนเดียวแถมเป็นคนกลางด้วย พี่ชายรับราชการ น้องชายก็เล่นหุ้นออกงานสังคม อากงเลยบอกว่าอย่าไปยุ่งกับพี่น้องนะเพราะเขามีหน้ามีตาในสังคมแล้ว หนูก็เลยแอบรู้สึกว่าทำไมต้องเป็นหนูที่ต้องคอยเสียสละทุกอย่าง ต้องคอยดูแลคนในบ้านซึ่งก็มีแต่ผู้สูงอายุที่เอาใจยากมากเลย ตอนอยู่กรุงเทพต่างคนต่างใช้ชีวิตของตนเองไม่มีปัญหาเลย หนูอยู่กับแฟน คบกันมา 4 ปี จนมีการวางแผนแต่งงานกัน หนูรักแฟนคนนี้มาก แฟนก็น่ารักกับหนูมาก เขาพร้อมที่จะแต่งเข้าในบ้านหนูด้วย ขนาดเราเองยังอยากออก แต่เขาเต็มใจที่จะแต่งเข้าเพราะเห็นว่าหนูเหนื่อย ผู้ชายแบบนี้คือมันหาไม่ได้แล้ว หนูเคยพูดคุยกับพ่อแม่แล้วแต่ก็เหมือนไม่มีใครอยู่ข้างหนูเลย เขาก็ไม่ชอบแฟนหนู เวลาพาแฟนมาเจอเขาก็จะทำหน้าขรึม ๆ ไม่ยิ้ม ไม่ต้อนรับ อาม่าอากงเลยชอบแนะนำว่าบ้านนั้นดีมากเป็นเพื่อนในวงกันเอง อารมณ์อยากให้ดองกัน เขาคงคิดว่าถ้าได้แต่งงานกับคนที่รวยกว่าอาจจะสบายขึ้นก็ได้ หนูว่าการที่หนูเข้ามาทำในสิ่งที่รุ่นอากงอาม่าเขาไม่ทำ หนูเข้มงวดขึ้น ทุกคนก็คงจะคิดว่าเขาได้ผลประโยชน์น้อยลงด้วย หนูก็เลยอยากได้กำลังใจจากพี่ ๆ รวมถึงอยากได้ความคิดเห็นจากพี่ ๆ ว่าทำยังไงดีให้เรา compromise อยู่ได้ แล้วในอนาคตถ้าอยากแต่งงานกับคนนี้จะทำยังไงดี มีวิธีการไหม?’ เริ่มจาก “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องขอส่งกำลังใจให้เพราะไม่ใช่แค่เราที่เจอปัญหาแบบนี้แน่ ๆ เวลาดูหนังมาแล้วรู้สึกตรงกับชีวิตตัวเองแปลว่าหนังก็เขียนมาจากเรื่องชีวิตจริงของเขาเหมือนกัน มันเป็นเรื่องที่คนไทยเชื้อสายจีนเจอกันหมดทุกแซ่ ทุกตระกูลอย่างไม่น่าเชื่อ คงต้องรอให้เกิดการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยไปก่อน ให้มันค่อย ๆ คลายความคิดและวัฒนธรรมนี้ไป ซึ่งมันกำลังเปลี่ยนแหละแต่เราดันมาเจอช่วงเปลี่ยนผ่านพอดี แต่ในเมื่อเกิดมาในครอบครัวนี้แล้ว แถมชีวิตตอนนี้เราเป็นคนเลือกเอง ก็คงทำได้แค่ต้องเข้าใจมัน เพราะฉะนั้นถ้ามันจำเป็นต้องอยู่ในเส้นทางที่เหนื่อยใจแบบนี้ก็แนะนำให้มีคนที่เราเลือกเองคอยอยู่ข้าง ๆ ให้เราได้พักบ้าง อย่างน้อยก็เป็นสิทธิ์อย่างหนึ่งของเราที่ต้องได้เลือกคู่ครองด้วยตัวเอง สุดท้ายแล้วคนที่เราเลือกไม่ได้ทำให้กิจการครอบครัวเสียหายหรืออาจจะดีขึ้นด้วยซ้ำ เราก็ควรจะพักผ่อนหัวใจบ้าง และการจะได้แต่งงานกับคนนี้ได้คงต้องใช้เวลาเพราะตลอดเวลาที่คบกับก็ไม่ได้ไปเจอกับที่บ้านบ่อย การเอาชนะใจคงต้องใช้เวลา เพราะจากที่เล่ามาก็ไม่น่าจะถึงขั้นสั่งให้เลิกแล้วจะคลุมถุงชนหรอก สักวันเขาจะรับเขยคนนี้ได้ มันก็อยู่ที่การกระทำของแฟนเราด้วย ถ้าไปแบบเรียบร้อย ใจเย็น เข้ากับผู้ใหญ่ได้ก็ไม่นานหรอก’ ต่อไป “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าจะ compromise ก็ต้องมองเรื่องนี้เป็นเรื่องดีให้ได้ ซึ่งเข้าใจว่ายากแต่ก็ต้องพยายาม พี่เชื่อว่าเราชินแล้วเพราะเราเติบโตมาในครอบครัวนี้ เพียงแค่ตอนนี้มันหนักเกินไปจนอยากหาที่ระบาย ถ้ารู้สึกว่าอันไหนไม่สมเหตุสมผลเรามีสิทธิ์พูดออกมาได้ เฮงซวยก็พูดออกมาได้ พี่ว่าเราต้องทำให้เขาเห็นว่าในเมื่อเลือกเรามาจัดการกงสีนี้แล้ว เขาต้องเคารพในสิ่งที่ตัวเราตัดสินใจ เพราะไม่งั้นให้เอาคนอื่นมาทำแทน พยายามมองในแง่ดีว่าการที่เขาเลือกเราแปลว่าเขาเห็นแล้วว่าเราทำได้ ถ้าให้พี่กับน้องมาทำคงไม่รอด ทำให้เขาเคารพเราให้ได้ แต่ไม่ใช่บ้าอำนาจ แค่ต้องอธิบายว่าที่เราทำคืออะไร เพื่ออะไร แต่ถ้าถึงจุดที่อธิบายแล้วไม่เข้าใจ ไม่มีใครฟัง ก็สามารถพูดออกไปได้ว่างั้นให้คนอื่นทำ ในเมื่อเราขึ้นมารับหน้าที่นี้แล้วก็อย่าให้คนอื่นมาแทรกแซงโดยไม่สนอะไร ส่วนเรื่องการแต่งงานคิดว่าก็ต้องใช้เวลาเพราะเรารู้อยู่แล้วว่าบ้านนี้มันไม่ง่ายมันต้องใช้ความสม่ำเสมอ ใช้เวลาในการพิสูจน์ อีกอย่างถ้าเราทำให้เขารู้สึกได้ว่าขาดเราไปไม่ได้ การต่อรองในอนาคตก็จะง่ายขึ้น เรื่องการเลือกคู่ครองก็จะง่ายขึ้นให้ทุกคนยอมรับว่านี่คือสิ่งที่เราเลือกแล้ว’ และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สิ่งที่พี่จะบอกคงเป็นตัวเลือกสุดท้ายเพราะคุณสองคงยังไม่กล้าทำคือเรียกทุกคนในบ้านมานั่งคุย ว่าให้เรามาอยู่ตรงนี้จะยื่นคำขาดว่าจะวางทุกอย่างให้เป็นระบบแล้วนะ คนทำงานจะต้องได้เงินมากกว่า ฉะนั้นใครอยากได้ค่าตอบแทนจากกงสีนี้ก็ต้องมาทำงานเพื่ออากงจะได้ไม่พูดกับเราว่ามีปัญหาเรื่องเงิน แต่ถ้าวางระบบแล้วอากงยังมีปัญหาเราก็เปิดแพลตฟอร์มให้ดังกว่าน้องชาย เพราะเขาบอกน้องมีหน้ามีตาในสังคมเราก็ทำคอนเทนต์เลย เรื่องงานจบแล้วก็คุยเรื่องต่อไปเลย ก็แนะนำแฟนให้ทุกคนรู้จักแล้วพูดว่า “เวลาเจอกันทุกครั้งช่วยรักษามารยาทด้วยคนนี้คือพ่อของลูก อันนี้ไม่ได้มาขอ แต่มาบอกให้รับทราบและทั้งหมดนี้ใครมีปัญหาเราจะขายกิจการแล้วก็แบ่งเงินเอาไปตั้งตัวด้วยกันทั้งหมด” พี่เชื่อว่าอากงมีปัญหาแน่ ๆ แต่ก็เน้นว่า “ไม่ได้มาขอ มาแจ้งให้ทราบ” ส่วนถ้าเป็นในชีวิตจริงที่น่าจะกล้าทำ พี่จะแนะนำว่าให้แต่งงานแล้วพาแฟนมาอยู่ด้วย ให้ช่วยทำงาน ให้ทำรายได้หรือทำสิ่งแปลกใหม่ที่บริษัทนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ให้เขารู้ว่าสิ่งนี้มาจากเราและแฟน แล้วอากงก็จะยอมรับเพราะบ้านไหน ๆ ก็หวงเรื่องเงินทั้งนั้น อำนาจอยู่ในมือแล้วหรือถ้าใครไม่โอเคกับแฟนคนนี้ก็เชิญย้ายออกได้เลย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เกิดมาเพิ่งเคยเจอ... หนูไปเจอกับเพื่อนของเพื่อนมา ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน พอเขาได้ยินว่าหนูคุยกับเพื่อน หนูเรียกมอเตอร์เวย์ว่า ทางด่วน เค้ารีบพูดแทรกขึ้นมาว่า ไม่ถูกต้องมอเตอร์เวย์ไม่ใช่ทางด่วน หนูเลยตอบกลับว่า...

26 ก.ค. 2024

เกิดมาเพิ่งเคยเจอ... หนูไปเจอกับเพื่อนของเพื่อนมา ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน พอเขาได้ยินว่าหนูคุยกับเพื่อน หนูเรียกมอเตอร์เวย์ว่า ทางด่วน เค้ารีบพูดแทรกขึ้นมาว่า ไม่ถูกต้องมอเตอร์เวย์ไม่ใช่ทางด่วน หนูเลยตอบกลับว่า...

เกิดมาเพิ่งเคยเจอ... หนูไปเจอกับเพื่อนของเพื่อนมา ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนพอเขาได้ยินว่าหนูคุยกับเพื่อน หนูเรียกมอเตอร์เวย์ว่า ทางด่วน เค้ารีบพูดแทรกขึ้นมาว่าไม่ถูกต้องมอเตอร์เวย์ไม่ใช่ทางด่วน หนูเลยตอบกลับว่า เราน่าจะมาจากคนละถิ่นกันเขาโกรธจนตัวสั่น เสียงดังใส่ หนูผิด? “คุณอัย (นามสมมติ)” อายุ 31 ปี สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (24 ก.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาทะเลาะกับเพื่อนของเพื่อนเรื่องที่เราเรียกมอเตอร์เวย์ว่าทางด่วน โดย “คุณอัย (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘ก่อนหน้านี้เราขับรถไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อน ก่อนที่จะถึงร้านอาหารเราก็ขึ้นทางด่วน แล้วเราก็คุยกับเพื่อนเราแต่ด้วยความที่งานวันเกิดเพื่อนไม่ได้มีแค่เรา มีเพื่อนของเพื่อนที่เราไม่ได้รู้จัก ชื่อเปรี้ยว (นามสมมติ) น่าจะโตกว่าเรา เราคุยกับเพื่อนว่าตอนขับรถมาเปิด Google map มา มันให้ขึ้นมางด่วน เปรี้ยวก็โพร่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แบบว่าทำไมเราไม่รู้ “ไอที่เรียกว่าทางด่วน มันไม่ใช่” เราคิดว่า ไม่ใช่ได้ไง เราเรียกว่าทางด่วนมาตลอด เลยตอบว่า “ไม่ค่ะ เราก็เรียกทางด่วนมาตลอดนะคะ” เขาก็ยังยืนยันด้วยน้ำเสียงโกรธว่า “ไม่ใช่ ไอที่เราเรียกอยู่มันคือ มอเตอร์เวย์ ทางด่วนคืออันที่ลอยฟ้า” เราเลยตอบว่า “ก็เราไม่ได้เรียกแบบนี้ เราเรียกของเรามาแบบนี้” แล้วเขาก็บอกว่า “สมัยก่อนมันใช้บัตรคนละใบกันด้วยนะ ทางด่วนกับมอเตอร์เวย์” เราก็บอกว่า “แต่สมัยนี้ใช่ Easy Pass ได้ทั่วราชอาณาจักรนะ” เขาก็ยังไม่ยอม เราก็เลยบอกว่า “งั้นไม่เป็นไร พี่จะเรียกแบบนั้นก็เรียกของพี่ หนูก็เรียกแบบนี้ เราอาจจะมาจากคนละจังหวัด ถิ่นหนูอาจจะเรียกแบบนี้ ถิ่นพี่อาจจะเรียกอีกแบบ” เหมือนเขาโกรธมากที่เราพูดแบบนั้น แล้วเขาก็เงียบไปประมาณ 1 นาที ตอนนี้ใจเราก็เริ่มอยากกลับบ้านละ เลยหันไปคุยกับเพื่อนว่าเราจะกลับทางไหนดี ระหว่างมอเตอร์เวย์ กับบูรพาวิถี ซึ่ง 2 เส้นนี้เราเรียกว่าทางด่วน แต่รอบนี้เราต้องพูดชื่อ เพราะถ้าไม่พูดชื่อแล้วเรียกแค่ทางด่วน เพื่อนก็จะไม่รู้ว่าทางด่วนไหน แล้วเราก็ดูใน Google map มันให้เราขึ้นมอเตอร์เวย์ แต่เราอยากไปทางบูรพาวิถี เราเลยพูดว่า “Google map มันให้เราไปมอเตอร์เวย์” ทีนี้เปรี้ยวก็หันมาโวย “ทำไมรอบนี้เรียกมอเตอร์เวย์ เมื่อกี้เรียกว่าทางด่วนไม่ใช่หรอ” เราก็บอกว่า “ก็รอบนี้มันมี 2 ทางเราเลยต้องเรียกชื่อทางด่วน จะได้รู้ว่าไปทางไหน” แต่คือเขาเหมือนไม่ฟังเรา แล้วเขาโกรธ โวยวายขึ้นมา “มึงเรียกแบบนี้ทำไมๆ ทำไมมึงไม่เรียกทางด่วน มึงเรียกไม่ได้” เขาเสียงดังมาก แต่ในร้านคือบรรยากาศร้านเหล้า เราก็เสียงดังเหมือนกัน เราก็ไม่พอใจ ทำไมเขามาพูดกับเราแบบนี้ ตอนแรกก็นึกว่าเขาเป็นคนห้าวๆ แล้วเขาก็จับแขนเรา ส่วนแฟนเขาก็ไม่ห้ามนั่งเล่นเกม เพื่อนก็นั่งอึ้งอยู่ แล้วเขาก็พูดว่า “มึงต้องเรียกทางด่วน เรียกมอเตอร์เวย์ไม่ได้ เมื่อกี้มึงเรียกทางด่วน มึงต้องเรียกแบบนี้” คือเขาโกรธมากๆ เราก็เลยสบัดแขนออก คือไม่โอเคเเล้วเราก็จะกลับ พอเราลุกจะกลับ แล้วเราก็ดันเก้าอี้กลับแต่มันดันเสียงดัง เปรี้ยวก็เลยเข้าใจว่า ประชดเขา เขาก็เลยดันเก้าอี้ว่างข้างๆเขาเสียงดังบ้าง แล้วเราก็หนีกลับบ้านเลย แล้วมารู้จากเพื่อนว่า คนที่เป็นเพื่อนของเพื่อนเรา คือแฟนเปรี้ยว ไม่ใช่เปรี้ยว อยากถามพี่ๆดีเจว่า การเรียกทางด่วนคือเราเรียกผิดหรอ กับ จริงๆแล้วเราทำอะไรไม่ดีรึป่าวเขาถึงได้โกรธ หรือเป็นเพราะพูดว่า “เราอาจจะมาจากคนละจังหวัด ถิ่นหนูอาจจะเรียกแบบนี้ ถิ่นพี่อาจจะเรียกอีกแบบ” เขาเลยโกรธ’ ซึ่ง “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘ทางมอเตอร์เวย์สำหรับผมคือเรามาจากพระราม 9 ข้ามศรีนครินทร์พอลงแตะพื้นปุ้ป ผมนับว่าเป็น มอเตอร์เวย์ยาวไปสุวรรณภูมิ-ชลบุรี-พัทยาเลย แต่ทางยกระดับที่ไปชลบุรี คือ บูรพาวิถี ส่วนประโยคจุดระเบิดเนี่ย บางทีมันอยู่ที่คนรับสาร ว่ามีวุฒิภาวะ อารมณ์ เราไม่รู้เจอคนแบบไหน ก็เป็นไปได้ที่จะจุดประกายความโกรธ แต่เขาเองก็ควบคุมอารมณ์ได้น้อยไปหน่อย มันใช่เรื่องมั้ยที่จะมาชี้ว่าใครเรียกอะไร ถ้าเรียกต่างกันเเต่ก็ไปเหมือนกันก็ช่างมันไปเถอะ’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาต่อว่า ‘สำหรับพี่ พี่ไม่เรียกมอเตอร์เวย์ว่าทางด่วน บูรพาวิถีก็อาจจะไม่ด่วนนะ เพราะพี่ไว้ใช้ออกจากเมือง ทางด่วนสำหรับพี่คือทางด่วนที่ไม่ต้องลงไปด้านล่าง แบบด่วนวิภาวดี ด่วนบ่อนไก่ บูรพาน่าจะด่วนแหล่ะ แต่มอเตอร์เวย์คนเขาจะไม่ค่อยเรียกว่าด่วนก่อน แล้วประเด็นที่พูดคือด้วยรูปประโยคมันก็เหมือนเราด่าเขานั่นแหล่ะ แต่มันเหมาะสมในกรณีนี้ เพราะว่าเขาเสือก ไม่ใช่เรื่องของมึงเลย 1.มึงไม่ใช่เพื่อนกู 2.คือก็จะขึ้นทางด่วนไหนก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมึงเลย แล้วก็ที่อยู่ๆก็พูดมาแบบนั้นคือมันเสียมารยาท คนเสือกเท่านั้นที่จะทำแบบนี้ เป็นคนอื่นอาจจะด่าแรงกว่านี้ด้วย’ และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าอีเปรี้ยวมันแหลมเข้ามาปุ้ป กูเรียกทุกเส้นคือทางด่วน เพราะกูรีบ! นี่คือวิธีตอบ จะไม่มีว่าถิ่นหนูถิ่นใคร แล้วที่ไปพูดกับเขาเรื่องถิ่นเหมาะสมไหม ไม่เหมาะสม อันนี้ไม่เห็นด้วย เพราะหนูพูดเบาไป หลังเขาบ้านมึงตัดถนนเส้นอะไรมาอธิบายซิ้ หลังจากนั้นก็ตบกัน พูดจบอย่าปล่อยให้มือถึงเราก่อน ใครล้มก่อนแพ้ สู้ ใจอย่าไปกลัวมัน อย่างน้อยอีเปรี้ยวจะไม่กล้าพูดแบบนี้กับใครอีก ทั้งสองคำถามสรุปได้ในคำเดียว เสือก!!!’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เราเป็นทอม เคยคบกับแฟนผู้หญิงตอนมัธยม เลิกกันไป มาเจออีกที แฟนเก่าเราอุ้มลูก มีสามีแล้ว เราโกรธบล็อกเขาทุกช่องทาง แล้วเราก็มีแฟนใหม่ จนทราบข่าวว่าแฟนเก่าเสียชีวิต ย้อนดูในโซเชียลเขาไม่เคยลบรูปเราเลย พยายามติดต่อมาคุยกับเรา

07 มิ.ย. 2024

เราเป็นทอม เคยคบกับแฟนผู้หญิงตอนมัธยม เลิกกันไป มาเจออีกที แฟนเก่าเราอุ้มลูก มีสามีแล้ว เราโกรธบล็อกเขาทุกช่องทาง แล้วเราก็มีแฟนใหม่ จนทราบข่าวว่าแฟนเก่าเสียชีวิต ย้อนดูในโซเชียลเขาไม่เคยลบรูปเราเลย พยายามติดต่อมาคุยกับเรา

เราเป็นทอม เคยคบกับแฟนผู้หญิงตอนมัธยม เลิกกันไป มาเจออีกที แฟนเก่าเราอุ้มลูก มีสามีแล้วเราโกรธบล็อกเขาทุกช่องทาง แล้วเราก็มีแฟนใหม่ จนทราบข่าวว่าแฟนเก่าเสียชีวิตย้อนดูในโซเชียลเขาไม่เคยลบรูปเราเลย พยายามติดต่อมาคุยกับเรา รู้สึกติดค้างไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลย “คุณนิค (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สองในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [5มิ.ย.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาความรักที่ความรู้สึกยังค้างคา โดย “คุณนิค (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เป็นเรื่องราวที่เราเคยถูกผู้หญิงคนหนึ่งทิ้งไปนานมากแล้ว ซึ่งเรื่องมันจบไปแล้วแต่เรายังรู้สึกผิดอยู่ เริ่มจากเราเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องกันมาก่อนตั้งแต่ม.ปลาย เค้าเคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อนแล้วก็ค่อยมาคบกับเราที่เป็นทอม เวลาที่เค้าทะเลาะกับเพื่อนเราก็จะอยู่ข้าง ๆ เค้าตลอด เค้าก็มักจะบอกกับเราว่า “อย่าทิ้งเค้าไปไหนนะ” เพราะเราเหมือนเป็นที่พึ่งทางใจให้กับเค้า จนจุดเปลี่ยนมันเกิดช่วงที่เราทั้งคู่เข้ามหาลัย เค้าสอบติดมหาลัยที่อยู่ต่างจังหวัด เราก็ไปส่งเค้าที่สนามบิน แต่หลังจากนั้นได้ 2 อาทิตย์เค้าก็โทรมาบอกเลิกเราเลย ทั้งๆไม่มีสัญญาณอะไรและเราก็ไม่ได้เตรียมใจไว้เลย ซึ่งเหตุผลที่เค้าบอกเราคือเราขี้หึงเกินไป งี่เง่าเกินไป โทษความผิดให้กับเราหมดเลย เราเลยไปส่องเฟซบุ๊คของเค้า และสิ่งที่เราเจอคือเค้าโพสรูปคู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่น่าจะเป็นคนคุยใหม่ของเค้า เราเลยโกรธเค้ามาก ไล่ลบรูปคู่ทั้งหมด บล็อกเค้าทุกช่องทาง แต่ด้วยความที่พี่สาวของเราเรียนที่มหาลัยเดียวกับเค้า เราเลยยังได้ทราบข่าวเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง หลังจากจบมหาวิทยาลัย แฟนเก่าเราประกาศแต่งงานทันที เราก็แอบรู้สึกช็อคนิดนึงแต่ก็รู้สึกว่ามันผ่านมานานมากแล้วทำไมถึงต้องไปคิดอีก แต่มันดันมีเรื่องบังเอิญที่ทำให้เราต้องไปเจอเค้าและภาพที่เราเห็นคือเค้ากำลังอุ้มลูกอยู่ เราตัวชา ทำตัวไม่ถูก เลยเลือกที่จะเดินสวนไป ผ่านไปสักพักเราก็ได้ยินข่าวคราวอีกทีคือเค้าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ทั้งแม่และพี่สาวก็ไปให้กำลังใจเค้าและเหมือนจะดีขึ้น แต่สุดท้ายเค้าก็เสียชีวิต พอเราได้ยินแบบนั้นก็เหมือนโลกถล่ม สิ่งที่เราพยายามเกลียดเค้าหรือลืมเค้ามาโดยตลอดทำให้เราเสียศูนย์ไปเลย เราเลยขอแฟนคนปัจจุบันไปงานศพของเค้า และเราก็เสียใจที่คุยกับเค้าผ่านธูป และบอกกับตัวเองว่าทำไมเราไม่ทักไปคุยกับเค้า ทำไมเราถึงใจร้ายกับเค้า เราเลยกลับไปดูในเฟสบุ๊คคือเค้าไม่เคยลบรูปคู่กับเราเลย มันเลยยิ่งทำให้เราคิดว่าทำไมมีแต่เราที่มีทิฐิ และโกรธเค้าอยู่ฝ่ายเดียว ทำให้เราต้องไปปรึกษาจิตแพทย์และกินยา แต่เมื่อไหร่ที่นึกถึงเค้าเราก็จะร้องไห้ตลอด เลยอยากจะถามพี่ ๆ ว่าเราผิดมั้ยที่ตอนเลิกกันเราบล็อกเค้าทุกช่องทาง และถ้าอยากเลิกคิดเรื่องนี้พี่ช่วยแนะนำมุมมองใหม่ให้ได้มั้ยคะเพราะเราจมปลักกับตรงนี้มานานมาเกินครึ่งปีแล้ว’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คุณนิคไม่ผิดที่บล็อกเค้าเพราะเค้าบอกเลิกเรา จริง ๆ สำหรับผู้หญิงเรื่องแบบนี้เค้าวางแผนมาแล้วว่าจะเลิก กะว่าไปถึงอีกจังหวัดเค้าจะหาวิธีบอกเลิก หรือเค้าอาจจะไปแล้วไปเจอใครที่นู้นภายใน 2 อาทิตย์ สำหรับหอมมันก็คือการนอกใจ ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้เราต้องเสียดาย เป็นหอมหอมก็ไม่ทักหา อาจจะใช้เวลาไปสักพักถึงจะให้อภัย ฉะนั้นตรงนี้ไม่ผิดอยู่แล้วเพราะเลิกกันไม่ดี ส่วนรื่องเปลี่ยนมุมมอง หอมว่าเราไม่ใช่หมอดู ไม่มีใครรู้อนาคตว่าใครจะต้องไปเจออะไร แล้วสัจธรรมของชีวิตคน เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องปกติมาก ไม่วันหนึ่งคุณนิคไปเค้าก็ไป มันไม่ใช่ความผิดเรา สิ่งที่เราทำมันก็ถูกต้องแล้วคือต่างคนต่างใช้ชีวิตเพราะเลิกกันไปแล้ว นิคอาจจะรู้สึกเสียดายที่น่าจะให้อภัยและคุยกับเค้าเพราะนี่คือเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง หอมคิดว่ามันเป็นความเสียดายมากกว่าที่คุณนิคจะเก็บมาโทษตัวเองว่าเราทำผิดทำไมเราไม่คุยกับเธอ มันไม่ใช่แค่คุณนิคอย่างเดียว เค้าอยากคุยกับเรารึเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้ แล้วที่บอกว่าไลน์เด้งมาหาเราก็มีคนให้ข้อสันนิฐานว่า จริง ๆ เค้าอาจจะไม่ได้แอดเรามา แต่ถ้ามีเบอร์เราไลน์มันก็จะเด้งอัตโนมัติเวลาที่เค้าเปลี่ยนมือถือ และในเมื่อเค้าเป็นคนทิ้งเราก่อนเราก็ไม่ผิดที่เราทักเค้าไป แล้วการที่คุณนิครู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และวันที่เค้าเสียชีวิตแล้วคุณนิคจะไปอโหสิกรรมอันนี้ก็เปนเรื่องที่ถูกต้อง เพราะเราไม่รู้เลยว่าวันหนึ่งเค้าจะเจออะไร เค้าจะจากเราไปตอนไหน ถ้าคุณนิครู้สึกว่านี่เป็นบทเรียนและไม่อยากเจอเรื่องแบบนี้อีก วันนี้คนที่อยู่ข้าง ๆ คุณนิค คุณนิคก็ต้องทำดีกับเค้าเช่น แฟนใหม่ที่เราคบ ถ้าวันหนึ่งเค้าเป็นอะไรขึ้นมาเราจะเสียดายอะไรที่เรายังไม่ได้ทำบ้าง ให้ทำกับคนนี้หรือทำกับคนรอบข้างเหมือนจะจากกันตลอดเวลา เพราะงั้นทำตีต่อกันกับคนที่ยังเหลืออยู่ อันนี้หอมว่าดีกว่า และเลิกคิดถึงคนที่จากไปแล้วและไม่ต้องโทษตัวเอง เพราะเค้าไปแล้วและไม่รับรู้อะไรแล้ว’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็ใกล้เคียงกับหอม เพราะพี่ก็ถามว่าว่าทำไมนิคคิดว่าตัวเองผิด แต่ด้วยจังหวะของการเลิกกันมันอาจจะกระทันหัน ซึ่งการเลิกกันแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้นกับคู่อื่น ๆ คนเรามีการบอกบอกเลิกหรือวิธีหยุดความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนกัน บางคนก็หายไปเลย บางคนก็มานั่งคุย อันนี้ก็แล้วแต่คู่ แล้วพอเลิกกันไปผมมองว่าต่างคนต่างวางตัวกันดี เอาจริงคุณนิคก็ไม่ควรทักไปอยู่แล้ว เพราะมันไม่มีสาเหตุที่ต้องคุยกันในฐานะเพื่อนเก่าหรืออะไรก็ตาม ยิ่งทักคุยกันอาจจะยิ่งเป็นปัญหากับความสัมพันธ์ปัจจุบันของแฟนเค้าซะมากกว่า ผมว่าต่างฝ่ายต่างทำถูกแล้วที่ไม่ได้ติดต่อกัน และสุดท้ายคนที่จะติดค้างเรื่องคำขอโทษก็น่าจะเป็นฝ่ายเค้ามากกว่า ผมมองว่าทุกอย่างดำเนินไปตามปกติที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว ไม่เห็นว่าจะมีความผิดอะไรจากคุณนิคเลย ในเรื่องของมุมมองคุณนิคต้องล้างความคิดว่าตัวเองผิดก่อน ผมไม่เห็นว่าคุนนิคจะต้องมีอะไรที่ติดค้างหรือรู้สึกผิด เพราะต่างฝ่ายก็ต่างไปมีชีวิต คนที่เลิกกันแล้วบางทีก็ไม่เหมาะไม่ควรที่เราจะคบหากันต่อ แม้จะเป็นเพื่อนกันก็ตามมันต้องย้อนกลับไปตั้งแต่เป็นเพื่อนกัน เมื่อไหร่ที่ตัดสินใจก้าวข้ามความเป็นเพื่อนมาเป็นแฟน มันคือการเปลี่ยนแปลงที่ย้อนกลับไปไม่ได้ พอเลิกกันก็ต้องทำใจว่าความสัมพันธ์แบบเพื่อนมันจะไม่กลับมา และทุกอย่างี่เกิดขึ้นมาผมมองว่ามันเป็นเรื่องปกติทุกอย่าง’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่จะเสนอมุมมองที่ต่างพี่เผือกพี่หอมนิดนึง เท่าที่พี่ฟังมาพี่รู้สึกเสียดายชีวิตคุณนิคมากเลย พี่รู้สึกว่า 9 ปีตั้งแต่เลิกกับเค้าคุณนิคไม่ได้ไปไหนเลย อย่างตอนที่เจอเค้าอุ้มลูกแล้วคุณนิคหนี ถ้าเป็นคนที่มูฟออนแล้วพี่ว่าเค้าคงเดินไปถามสารทุกข์สุขดิบ แต่สำหรับเติ้ลมองว่าเหมือนคุณนิคยังอยากได้เค้าเป็นแฟน ยังเฝ้าดูชีวิตเค้าตลอด เรื่องของเค้ายังเข้ามากระทบจิตใจคุณนิคตลอด แล้วสุดท้ายคนที่ไม่ไปไหนก็คือตัวคุณนิค แต่วันนี้เค้าเสียไปแล้วแต่คุณนิคเองที่ยังไม่ไปไหน ซึ่งทำให้เติ้ลเสียดายเวลาที่คุณนิคจะไปมีความสุขกับตัวเอง ถ้าคุณนิคยังไม่เลิกคิดว่าตัวเองผิด ก็โปรดให้อภัยตัวเอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1