คบแฟนมา 4-5 ปี ไม่รู้เป็นอะไร ช่วงนี้เรารู้สึกเฉยๆกับความสัมพันธ์มาก เราทำงาน 6 วัน/สัปดาห์ วันว่างไปเที่ยวกับเขาก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้สนุกเกิน100% เหมือนเมื่อก่อนแต่ก็ไม่อยากเลิก เขาเป็นคนดีมาก แค่รู้สึกดาวน์ๆทำไมตัวเองรู้สึกแบบนี้ คนที่คบแฟนนานๆ

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบแฟนมา 4-5 ปี ไม่รู้เป็นอะไร ช่วงนี้เรารู้สึกเฉยๆกับความสัมพันธ์มาก เราทำงาน 6 วัน/สัปดาห์ วันว่างไปเที่ยวกับเขาก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้สนุกเกิน100% เหมือนเมื่อก่อนแต่ก็ไม่อยากเลิก เขาเป็นคนดีมาก แค่รู้สึกดาวน์ๆทำไมตัวเองรู้สึกแบบนี้ คนที่คบแฟนนานๆ

07 มิ.ย. 2024

คบแฟนมา 4-5 ปี ไม่รู้เป็นอะไร ช่วงนี้เรารู้สึกเฉยๆกับความสัมพันธ์มาก เราทำงาน 6 วัน/สัปดาห์

วันว่างไปเที่ยวกับเขาก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้สนุกเกิน100% เหมือนเมื่อก่อนแต่ก็ไม่อยากเลิก เขาเป็นคนดีมาก

แค่รู้สึกดาวน์ๆทำไมตัวเองรู้สึกแบบนี้ คนที่คบแฟนนานๆ จัดการความรู้สึกยังไงหรอคะ?

            “คุณแพท (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 มิ.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาความรัก แฟนทำเหมือนเดิมทุกอย่างดูแลเทคแคร์ดี แต่เรากลับรู้สึกเนือยๆ เบื่อๆ หรือว่ามันถึงจุดอิ่มตัวของความรักครั้งนี้แล้ว

            โดย “คุณแพท (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘เป็นปัญหาเรื่องความรัก หนูมีแฟนที่คบกันมา 3 ปี จะ 4 ปี เขาอายุ 21 ปี หนูทำงาน ส่วนเขายังเรียนอยู่แต่ก็จะมีรับพาร์ทไทม์บ้าง เราไม่ได้อยู่กินด้วยกัน แต่อยู่จังหวัดเดียวกัน ซึ่งไม่ได้อยู่ไกลกันมาก แล้วก็ไม่ได้เจอกันทุกวันด้วย ส่วนใหญ่จะเจอกันแค่วันเสาร์ เดือนหนึ่งจะไปเที่ยวกัน 2 - 3 ครั้ง แล้วแต่โอกาสและเวลาว่างของทั้งคู่ แต่เราก็โทรคุยกันทุกวัน

            ซึ่งเราทั้งคู่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน เขาดีทุกอย่าง  ไม่มีเรื่องนอกใจ เรื่องเที่ยวตอนกลางคืน คือไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่ดีเลย แต่พอดีหนูเกิดความรู้สึกหนึ่งกับตัวเอง มันเป็นความรู้สึกแบบ เนือยๆ เบื่อๆ แบบว่าเหมือนอยากอยู่เงียบๆ เป็นบางที ซึ่งความรู้สึกแบบนี้มันเคยเกิดขึ้นครั้งแรกตอนที่คบกันได้ 1 ปี หรือ 2 ปี แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เป็นอีกเลย พึ่งกลับมาเป็นอีกครั้งเมื่อตอนต้นปี แล้วก็เป็นถี่ขึ้นด้วย เกือบจะทุกเดือนเลยก็ว่าได้ ส่วนแฟนก็เหมือนเดิมทุกอย่าง ดูแลหนูดีทุกอย่าง แต่ว่าหนูมีภาระงาน ต้องทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ หนูแทบจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย แค่เดินทางไป - กลับ จากที่ทำงานก็เหนื่อยมากพอแล้ว เพราะที่ทำงานกับบ้านค่อนข้างอยู่ไกลกัน ซึ่งพอมีเวลาว่างก็จะทุ่มเวลาตรงนั้นให้กับเขาได้มากที่สุด อย่างเช่นวันนี้เลิกเร็วก็จะโทรหาเขา ชวนเขาเล่นเกม เหมือนว่าเป็นหน้าที่ไปแล้ว บางทีเขาถามหนูว่า “เราคอลกันมั้ย” แต่ตอนนั้นหนูใช้เวลานั่งพักของตัวเองอยู่ เลยรู้สึกไม่อยากคอลเลย แต่ก็ต้องหยุดสิ่งที่ทำอยู่เพื่อไปให้เวลาเขาก่อน

            แล้วก็มีเรื่องที่บ้านที่ต้องรับผิดชอบหลายเรื่อง ก็เลยไม่มั่นใจว่าตรงส่วนนี้  มันมาเกี่ยวด้วยรึเปล่า เพราะทุกครั้งที่มีอาการแบบนี้ หนูก็จะเนือยกับตัวเองแบบ “เฮ้ยเป็นอีกแล้วหรอ” อะไรอย่างเงี้ย และหนูก็กลัวว่า หนูจะพาให้เขาเครียดไปด้วย โดยตัวหนูเองก็ไม่ได้อยากจะเลิกกับเขาอยู่แล้ว เราทั้งคู่ก็มีคุยเรื่องนี้กันเพื่อหาทางแก้ แต่ก็ไม่รู้จะแก้ยังไง เพราะตัวหนูก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร และเขาก็ไม่รู้ว่าจะช่วยหนูได้ยังไง เคยลองห่างกันไป ไม่เชิงว่าเลิกกัน แค่แยกย้ายกันไปทำกิจวัตรของตัวเอง เขาโฟกัสเรื่องอ่านหนังสือ หนูก็โฟกัสเรื่องงาน พอทำแบบนี้มันก็เหมือนจะดีขึ้นมานิดนึง อย่างเมื่อก่อนที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยกัน สมมุติมาตรวัดมันอยู่ที่ 150 แต่ว่าหลังๆ มามันเหลือ 100 มันไม่ได้ลดลงมาแต่มันเนิ่บๆ นิ่งๆ แล้วหนูก็ไม่เคยมีแฟนที่คบมานานขนาดนี้ด้วย ก็เลยไม่มั่นใจว่าตัวเอง เป็นอะไร เคยคิดจะไปหาจิตแพทย์ด้วย เผื่อมันเกี่ยวกับเรื่องลึกๆ ภายใต้จิตใจ

            พอหนูเป็นแบบนี้ หนูก็ลองไปหาข้อมูลในเน็ต ในเน็ตเขาบอกว่า เวลาคนคบกันมานานส่วนใหญ่เขาก็จะมาตายกันตรงนี้ หนูก็เลยหาต่อว่ามันเป็นอาการหมดรัก อิ่มตัว อะไรอย่างงี้รึป่าว ไปหาดูหลายที่มาก หนูก็พยายามคิดว่าตัวเองคงไม่ได้หมดรักแฟนหรอก ก็เลยอยากจะถามว่าพี่ๆ ว่าถ้าเกิดว่าความรู้สึกแบบนั้นมันกลับมาเล่นงานหนูอีก หนูจะทำยังไง หรือว่าทำเหมือนที่เคยทำมาตลอดทุกครั้งดี

            โดย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ภาวะอย่างงี้ต้องคุยกัน คือ ตอนนี้มันเหมือนกับหน้าที่การงานของหนูมันเยอะมาก และด้วยวัยนี้มันจะมีปัญหาเรื่องการสร้างตัว เพราะเราอยากจะทำงานทุกอย่างที่เราทำได้ เป้าหมายของเรามันคือเงิน แล้วก็บางทีแฟนอาจจะเข้ามาในจังหวะที่ไม่พร้อม ไม่พร้อม หมายความว่า คือการที่มีแฟน นอกจากเราจะทำงานแล้ว เรายังต้องมีเวลาให้เขาด้วย เรามีเวลาส่วนตัวของเรา และเขาก็ต้องมีของเขา และเราต้องมีเวลาร่วมกันอีก ทีนี้ของหนูเนี่ย แม้กระทั่งเวลาของตัวเองหนูยังไม่มีเลย แล้วพอหนูจะต้องแชร์เวลาให้เขาอีก มันกลายเป็นเวลาก้อนเดียวกัน ที่เหมือนต้องเจียดแบ่งกัน มันเลยทำให้หนูรู้สึกอึดอัดว่าทำไมหนูเหนื่อยจังเลย ตอนนี้หนูแบกอะไรไว้เยอะเกินไป

            ฉะนั้นหอมรู้สึกว่าเราควรต้องคุยกันกับแฟนว่า “เฮ้ยตอนนี้งานมันยุ่งมากเลย แล้วเราแทบไม่มีเวลาส่วนตัวเลย ช่วงนี้อาจจะขอให้มันยืดหยุ่นหน่อยได้มั้ย อาจจะไม่ได้มีเวลาคอลบ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อน หรืออาจจะไม่ได้ไปเดทกันทุกวันเสาร์ แต่อยากให้เข้าใจหน่อย ช่วงนี้มันเครียดจริงๆ” หอมคิดว่าการพูดคุยกับเขาน่าจะดีกว่าเพราะว่า เรารักกัน เท่าที่หอมเช็คแล้วเนี่ย แพทไม่ได้เบื่อแฟน ไม่ได้ถึงจุดอิ่มตัว แพทยังรู้สึก ภูมิใจในตัวแฟน ว่าแฟนเป็นคนดีอย่างนู้นอย่างนี้ แต่สิ่งที่แพทขาดมันเป็นเรื่องของเวลา ที่เวลาส่วนตัวกับเวลาของแฟนตอนนี้มันแย่งกันอยู่ แล้วแพทต้องการเวลาส่วนตัว ช่วงนี้มันอาจจะเป็นสถานการณ์ที่ยากนิดนึงสำหรับชีวิตคู่ แต่เรายังจะเดินไปด้วยกัน คือเราต้องวิเคราะห์ตัวเองให้ได้ก่อน ไม่งั้นอีกฝ่ายหนึ่งก็จะเหนื่อยกับเราเหมือนกัน ค่อยๆ ปรับมันจะเป็นอย่างงี้แหล่ะ ช่วงเวลาสร้างตัว’

            ต่อด้วย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เอาจากประสบการณ์ที่เคยเจอมาแล้วกัน อยากให้ลองตรวจสอบ “PMS อาการผิดปกติก่อนมีประจำเดือน” บางทีผู้หญิงบางคนไม่รู้ตัวว่ามันเกิดจาก ฮอร์โมน ที่สวิงเร็วมาก คือบางครั้งถ้าเรานอยด์อะไรแบบไม่มีเห็นผล แล้วเป็นทุกเดือน เป็นสักพักหนึ่งในช่วงประจำเดือนมา มันแทบจะใช่เลยนะ เท่าที่พี่เคยสัมผัสมา เพราะฉะนั้นเริ่มจากลงวันที่ประจำเดือนมาก็ได้ ลองบันทึกดูมันอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่ง สมมุติฮอร์โมนมันเปลี่ยนแบบรวดเร็วมาก บวกกับปัญหาเรื่องงาน ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ฮอร์โมนเราเปลี่ยนก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง แล้วอีก 1 สาเหตุสำคัญคือ การที่เราคบกันมา 3 - 4 ปี พี่ว่ามันเข้าสู่ช่วงนิ่งของความสัมพันธ์พอดีเลย พอสัก 3 ปี อะไรที่มันเคยหวือหวา หรือมันเคย 150 อย่างที่แพทว่า แล้วมันลดลงมาเหลือ 100 พี่ว่ามันก็ปกติ อาจจะมีอะไรหลายๆ อย่างที่ประกอบกันพอดี แล้วทำให้ทุกอย่างมันผสมรวมกันเป็นอารมณ์เดียวที่แพทสัมผัสได้ เพราะฉะนั้นลอง Checklist ดูทีละอย่าง แล้วก็ถึงแม้ว่าจะคบกันมา 3 - 4 ปี ความหวือหวามันจะลดลง หรือเราจะเริ่มรู้สึกมีความเบื่อ ปรากฎขึ้นมา ซึ่งมันยังปกติ

            ถ้าสุดท้ายแล้วคำถามที่เราลองถามตัวเองว่า ถ้าเบื่อแล้ววันหนึ่งไม่มีเขาอยู่ในชีวิต เราอยู่ได้มั้ย ลองดูเลยว่าถ้าเราไม่ได้คบกับคนนี้อีกต่อไป ชีวิตเราจะเปลี่ยนไปยังไงบ้าง ถ้าคำตอบคือ “อยู่ไม่ได้” นั่นแปลว่า ความเบื่อที่มันลดลง และความหวือหวาที่มันหายไป พี่ว่ามันคือเรื่องปกติของความสัมพันธ์ ทุกๆ คู่มันจะต้องผ่านจุดนี้ จุดที่เราไม่ได้หวานฉ่ำ ไม่ได้หลงไหลกันเท่ากับตอนที่เราจีบกันปี 2 ปีแรก หรือใดๆ ก็ตาม จะผ่านได้ ไม่ได้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างที่เขาว่าถ้าคบกันก็จะกลายเป็นเพื่อนกัน แพทคงเคยได้ยินประโยคนี้ แต่พี่ว่า ไม่ใช่ จริงๆ คบกันไปจะกลายเป็นคู่ชีวิตกัน แล้วยิ่งอยู่เป็นคู่ชีวิตแล้ว มันไม่ต้องการความหวือหวาและมานั่งตื่นเต้นอะไรกันแล้ว มันอยู่เพื่อสร้างครอบครัว อยู่กันเพื่ออนาคตมากกว่า มันคือความรักนั่นแหล่ะ แต่แค่เปลี่ยนรูปแบบ เปลี่ยนเป้าหมาย เปลี่ยนความรู้สึกไปบ้างตามธรรมชาติของมนุษย์’

            สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ทุกอย่างที่พี่จดไว้บนกระดาษ ก็คือพี่หอมและพี่เผือกพูดไปหมดแล้ว เห็นตรงกันหมดเลย พี่ไม่ได้รู้สึกว่าคุณแพทไม่ได้ ไม่รักเขา เพียงแต่ว่า ณ ตอนนี้มันมีเรื่องงานที่พี่คิดว่าน่าจะเป็นปัญหาหลักๆ อันนี้จากที่ฟัง แล้วพี่คิดว่า ที่คุณแพทบอกว่าเหมือนเคยอยากจะไปปรึกษาจิตแพทย์ พี่ว่าลองดูก็ได้นะ เพราะพี่ไม่รู้ว่า ไอความเนือยๆ เบื่อๆ ของคุณแพท บางทีมันส่งผลจริงๆ โดยที่คุณแพทไม่ได้รู้ตัว บางคนพอเวลาเครียดกับงาน เหมือนมันอยู่ในจิตตลอดเวลา ไม่สามารถทำงานหรือเคลียร์งานได้ พะว้าพะวง หรืออะไรก็ตาม แล้วพี่ว่าอายุแบบคุณแพทเรื่องงานมันสำคัญจริงๆ ซึ่งบางครั้ง เวลาที่เราต้องโฟกัส กับงานมากๆ การมีแฟน บางทีมันอาจจะกลายเป็นภาระก็ได้ คือถ้าไม่เจ๋งจริงเอาไม่อยู่เหมือนกันนะ หมายถึงว่าต้องเป็นคนที่มีทักษะประมาณหนึ่งเลย ที่สมมุติเวลามันมีงานที่ต้องรับผิดชอบมากๆ โดยที่เราก็ยังไม่ขาดตกบกพร่องเรื่องแฟน มันหาไม่ได้ในทุกคน เราจะเห็นว่าบางคน งานสำเร็จมาก แต่ความรักคือพังพินาศ เพราะว่าเขาไม่สามารถจัดการมันได้จริงๆ

            พี่ก็รู้สึกว่า ถ้าคุณแพทมีโอกาสก็ลองคุยกับคุณหมอจิตแพทย์ดู บางทีมันอาจจะปลดล็อคก็ได้ หรือจะเป็น PMS อย่างที่พี่เผือกบอกก็เป็นไปได้หมด แต่ถ้าตอนนี้พี่รู้สึกว่า สิ่งหนึ่งที่มันน่าจะเป็นปัญหาเลยคือ ความโหลด ของคุณแพทที่ทำงานหนัก แต่ว่าสุดท้ายทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ไปอยู่ที่พี่เผือกพูดว่า ถ้าแพทจะทำงานจนรู้สึกว่า เฮ้ยเราอยู่กับงานแล้วเราอยู่คนเดียวได้ สุดท้ายถ้าวันนั้นแพทรู้สึกว่า เฮ้ยเราทุ่มเทกับงานแล้วได้อยู่กับตัวเองแล้วมันสบาย โดยที่แพทกลับบ้านแล้วไม่มีใครมาถามว่า วันนี้เป็นยังไงบ้าง เหนื่อยมั้ย ถ้าแพทโอเค มันก็อาจจะเหมาะกับชีวิตของแพทก็ได้ แต่ถ้าแพทรู้ตัวว่า หนูก็ยังเป็นคนที่เวลากลับบ้านมาเหนื่อยๆ แล้วอยากให้มีคนถามไถ่ว่า วันนี้เป็นไงบ้าง เหนื่อยมั้ย ให้มีคนได้พูดได้ปรึกษา แพทก็ต้องช่างน้ำหนักตัวเองดู มันต้องมีคำตอบให้ตัวเองว่า สุดท้ายการอยู่คนเดียวหรือว่ามีเขาอยู่ อะไรมันดีกับชีวิตเรามากกว่ากัน แล้วเรื่องสุดท้ายเช่นกัน พี่ว่าการที่หนูไม่เคยมีแฟนระยะยาวมันเลยยิ่งทำให้หนูงงว่า เฮ้ยก่อนหน้ามันหวือหวาตลอด เพราะหนูเวลาแค่นั้นไง สำหรับพี่ทุกวันนี้นั่งเล่นมือถือหรืออ่านหนังสือแล้วมีแฟนนั่งอยู่ข้างๆ ก็พอ มันก็ไม่ได้มีความหวือหวาใดๆ แล้ว แต่มันก็อาจจะต้องหากิจกรรมทำร่วมกัน ไปเดทกันเพื่อเติมความหวานกันหน่อย ไม่ใช่อยู่กันเฉยๆ ไม่หาอะไรทำด้วยกัน ถ้าในความโรแมนติกมันก็จะหมดกันไปได้ในสักวัน แต่ว่าความหวือหวามันไม่เท่าอยู่แล้วน้องแพท มันไม่มีทางเท่า ใครทำเท่าได้นี่คือ กราบเลยอ่ะ มันลดลงอยู่แล้วตามปกติ เพียงแต่ว่ามันลดลงในปริมาณที่เรารู้สึกว่า เออพอดีอ่ะ มันอยู่ด้วยกันแล้วเราสบายใจที่มีคนอยู่ข้างๆ มากกว่า’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เดินทางรถทัวร์ช่วงเทศกาล!! หนูนั่งท้ายรถ ตอนเที่ยงคืน เบาะข้างหลังหนู เค้ากำลังทำอะไรกัน หันไปเห็นอีกที ผู้หญิงรวบผมพร้อมลุย ตอนแรกไม่คลุมผ้า พอเห็นว่าหนูกับคนข้างๆตื่น เขาก็เอาผ้ามาคลุม

09 เม.ย. 2024

เดินทางรถทัวร์ช่วงเทศกาล!! หนูนั่งท้ายรถ ตอนเที่ยงคืน เบาะข้างหลังหนู เค้ากำลังทำอะไรกัน หันไปเห็นอีกที ผู้หญิงรวบผมพร้อมลุย ตอนแรกไม่คลุมผ้า พอเห็นว่าหนูกับคนข้างๆตื่น เขาก็เอาผ้ามาคลุม

เดินทางรถทัวร์ช่วงเทศกาล!! หนูนั่งท้ายรถ ตอนเที่ยงคืนเบาะข้างหลังหนู เค้ากำลังทำอะไรกัน หันไปเห็นอีกที ผู้หญิงรวบผมพร้อมลุยตอนแรกไม่คลุมผ้า พอเห็นว่าหนูกับคนข้างๆตื่น เขาก็เอาผ้ามาคลุม เก้าอี้สั่นจนตีสามพอทุกอย่างเสร็จผู้หญิงลงก่อนถึงปลายทาง หนูคิดว่าคงเป็น "รักทางไกล" “คุณสุ (นามสมมติ)” อายุ 20 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (3 เม.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับการแชร์ประสบการณ์เสียวระหว่างทางบนรถทัวร์! วอนสังคมอย่าหาทำ โดย ​“คุณสุ(นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า ‘ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา หนูลงไปฉลองที่กรุงเทพกับครอบครัว แล้ววันที่ 2 หนูต้องกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยทางภาคเหนือ ซึ่งระยะเวลาในการนั่งรถค่อนข้างนาน 8-9 ชั่วโมง หนูก็เลยจองช่วงกลางคืนไว้ แล้วที่นั่งของหนูอยู่ฝั่งซ้ายข้างกระจกเกือบหลังสุด และมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งข้างหนู อีกฝั่งจะเป็นผู้หญิงกับผู้ชายนั่งข้างกระจกอยู่โซนฝั่งขวา ตอนที่หนูขึ้นรถไปครั้งแรก หนูก็พยายามมองว่าเขามีผ้าห่มให้ไหม แล้วพอหนูเห็นว่า ข้าง ๆ ผ้าห่มของเขาผืนหนามาก หนูก็คิดในใจว่าแอร์น่าจะเย็น หนูก็เตรียมของตัวเองมาซึ่งอยู่ในกระเป๋าข้างล่างเท้า ตอนแรกหนูก็ยังไม่ได้เอาผ้าห่มขึ้นมา เพราะนั่งเม้าท์กับพี่ข้าง ๆ ฉ่ำอยู่ พอมันเริ่มดึกเราก็เลยหยุดคุย แล้วก็นอนกัน แล้วเหมือนหนูเริ่มสะดุ้งตื่นเพราะแอร์เย็นเลยจะก้มลงไปหยิบผ้าห่มใต้เท้า แต่ว่าหนูได้ยินเสียงจ๊วบจ๊าบมาจากฝั่งขวา หนูก็หาที่มาของเสียงว่ามันมาจากไหน หนูหันไปเห็นคู่รักตรงนั้น จังหวะที่ไฟถนนสาดเข้ามา มันชัดมาก คล้องคอนัวฉ่ำ ตอนแรกนอกผ้าห่ม พอเขารู้สึกว่าเริ่มจะเสียงดังกันแล้วก็เลยคลุมผ้าห่ม พอเขาหยุดทำ เขาก็เปลี่ยนจากที่คลุมแค่ตัวมาเป็นคลุมโปง และครั้งนี้เขาทำมากกว่าเดิม ก็คือเขาช่วยผู้หญิง หนูก็ไม่มองและเล่นโทรศัพท์ต่อ พอหนูหันไปอีกทีก็เห็นว่าเขาหยุดทำแล้ว แต่ว่าผู้หญิงกำลังมัดผมอยู่ พอหันไปใหม่เขาก็คลุมโปงทำให้ผู้ชาย หนูก็พิมพ์หาเพื่อนเลยว่าเจอแบบนี้อยู่ เพื่อนก็ไม่เชื่อหนู แล้วหนูก็พิมพ์แชทบอกเพื่อนอีก อันนี้หนูอาจจะเสียมารยาท อาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับเขา หนูก็ถ่ายรูปให้เพื่อนดู แล้วเพื่อนก็บอกว่า เขาอาจจะอยากเปลี่ยนฟีลหรือเปล่า? แต่ ณ ตอนนั้น หนูรู้สึกอึดอัดมาก คือตอนที่เขามัดผม หนูก็พยายามหันไปดูหน้าเขา เพื่อจะดูว่าเป็นคนที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับหนูไหม เพราะว่าส่วนใหญ่ในรถคันนี้จะเป็นนักศึกษาประมาณ 90% เลย จากนั้นหนูก็เริ่มไม่สนใจ แล้วหลับต่อ พอช่วงตี 1 พี่ข้าง ๆ สะกิดแล้วก็ถามหนูว่า เนี่ย เขาทำอะไรกันไม่รู้ หนูก็บอกว่า หนูเห็นมาสักพักแล้ว พี่เขาตกใจมาก ไม่นอนต่อ แต่หันไปมองฉ่ำเลย แล้วก็เล่นโทรศัพท์ แวะเข้าห้องน้ำบ้าง เปิดแฟลชหาของบ้าง คือตื่นมาหันไปเมื่อไหร่ก็เจอเขาทำกันทั้งคืน จนช่วงตี 3 ที่หนูตื่นขึ้นมาอีกรอบนึง หนูก็หันไปดูเขายังนัวเนียกันอยู่ เหมือนหนูหันไปได้ยินเสียง ชู่วววว... เขาก็บอกกันเองว่าให้เงียบ หนูก็หันกลับอย่างไวแล้วไม่สนใจ นอนต่อเพราะเริ่มจะเช้า ตื่นมาอีกทีพี่พนักงานก็มาปลุกว่า คุณลูกค้า ใกล้จะลงตรงนี้แล้วนะคะ จังหวะที่พี่พนักงานจะหยิบอาหารจัดเบรคไปให้ฝั่งนู้น หนูก็เห็นว่าผ้าห่มมันคลุมโปงอยู่ พี่พนักงานก็เรียก 2-3 ครั้งไม่ตื่นสักที พี่ข้าง ๆ ก็ช่วยเรียกจนเขาตื่น พอตื่นเขาก็ลนกัน ตอนลงรถหนูก็หันไปมีผู้หญิงลงมากับหนูแค่คนเดียว นั่นแสดงว่ารักทางไกลละ แล้วหนูก็รอจังหวะที่ลงไปเอากระเป๋าข้างล่าง พยายามเล็งดูว่าเป็นคนที่หนูรู้จักหรือเปล่า แต่ดูแล้วก็ไม่รู้จัก หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า เสาร์นี้หนูจะต้องเดินทางกลับไปอีก ถ้าหนูเจอต้องทำตัวยังไงดี? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็หลับ พี่ไม่เคยขึ้นรถทัวร์บ่อย ก็เลยไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยไหม แต่ก็ไม่น่า ถ้าตามสามัญสำนึก ซึ่งต่อให้เขาอะไร เราก็หันซ้ายออกกระจกไป คราวหน้านะสุตะแคงซ้ายแล้วข่มตาหลับไป’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘คงไม่เจอหรอก ถ้าเจอสุต้องไปวัดแล้วแหละพี่ว่า ถ้าอยากจะเตือนเขาก็อาจจะแจ้งพนักงาน’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘เวลาไปถ้าเดินทางคนเดียว พี่ว่าสิ่งตรงนี้ไม่ควรระวัง แต่สิ่งที่น่าระวังคืออย่างที่พี่เจอ ผู้ชายนั่งข้าง ๆ แล้วลวนลาม อันนั้นน่ากลัวกว่า เพราะมันเดินทางยาว’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่ นิสัยส่วนตัว ชอบผูกมิตร เลยซื้อของกินไปฝากพี่ๆรปภ. แต่เอาให้คนนึง อีกคนก็แซวว่า มีสาวเอาข้าวมาให้ด้วย ทั้งๆที่เราบอกว่า "แบ่งๆกันกินได้เลยนะคะ" หลังจากนั้นโดนแซวทุกครั้งที่เข้าออกคอนโด จนรู้สึกอึดอัด

15 ก.ค. 2024

ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่ นิสัยส่วนตัว ชอบผูกมิตร เลยซื้อของกินไปฝากพี่ๆรปภ. แต่เอาให้คนนึง อีกคนก็แซวว่า มีสาวเอาข้าวมาให้ด้วย ทั้งๆที่เราบอกว่า "แบ่งๆกันกินได้เลยนะคะ" หลังจากนั้นโดนแซวทุกครั้งที่เข้าออกคอนโด จนรู้สึกอึดอัด

ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่ นิสัยส่วนตัว ชอบผูกมิตร เลยซื้อของกินไปฝากพี่ๆรปภ.แต่เอาให้คนนึง อีกคนก็แซวว่า มีสาวเอาข้าวมาให้ด้วย ทั้งๆที่เราบอกว่า"แบ่งๆกันกินได้เลยนะคะ" หลังจากนั้นโดนแซวทุกครั้งที่เข้าออกคอนโดจนรู้สึกอึดอัด ถ้าแจ้งนิติ จะมีผลอะไรกับเราในอนาคตไหมคะ หนูกลัว “คุณต.น. (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [10 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับที่มีปัญหากับรปภ.ที่คอนโด เพราะเขาชอบแซว โดย “คุณต.น. (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูพึ่งย้ายมาอยู่คอนโดใหม่นี้ได้ 2 เดือน ซึ่งนิสัยส่วนตัวหนูเป็นคนชอบผูกมิตร หนูเลยชอบซื้อของไปฝากพี่รปภ.อยู่บ่อย ๆ เพราะพี่ ๆ เค้าดูแลเรา หนูก็อยากทำดีด้วย ตอนที่เอาของไปฝากก็จะมีพี่รปภ.ประมาณ 2 คน หลัก ๆ จะเป็นพี่รปภ.ตัวเล็ก แต่พักหลัง ๆ จะมีพี่รปภ.ตัวใหญ่ เขาชอบเดินไปแซวพี่รปภ.ตัวเล็กประมาณว่า “มีสาวซื้อของมาฝาก” ซึ่งหนูเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบโดนแซว จนหลัง ๆ มันเริ่มหนักขึ้น คือ หนูแค่เดินผ่านทักทายพี่รปภ.ตัวเล็ก เค้าก็จะเริ่มแซวแล้ว มีครั้งหนึ่งแปลกมาก หนูเอารถไปจอดที่ข้างตึก พี่รปภ.ตัวใหญ่ก็มาโบกรถให้ พอหนูลงจากรถเค้าก็ถามหนูว่าหนูเป็นลูกบ้านรึเปล่า มีสติ๊กเกอร์คอนโดมั้ย ทั้ง ๆ ที่เค้าก็เคยแซวหนู หนักสุดคือตอนหนูลงไปเอาข้าว พี่รปภ.ตัวใหญ่ที่เปิดประตูกระจกให้ลูกบ้านคนอื่นอยู่ พอเห็นหนูเขาก็ปิดใส่ หนูเลย หนูอยากถามพวกพี่ๆดีเจว่า หนูควรจัดปัญหายังไง? ถ้าหนูไปแจ้งนิติมันจะมีผลต่ออนาคตรึเปล่า? หรือหนูควรจัดการความคิดยังไงดี?’ โดย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘นี่ยังหาเหตุผลไม่เจอเลยว่ารปภ.ตัวใหญ่เขาจะมาวุ่นวายอะไร และไม่ชอบอะไร หรือว่าหนูให้ของฝากไม่ทั่วถึงหรอ แต่พี่ว่ามันต้องมีสาเหตุที่คน ๆ หนึ่งจะไม่ชอบเรา ถ้าสมมติการซื้อของไปฝากให้รปภ.แล้วมีปัญหาขนาดนี้พี่ว่าไม่ต้องให้ และถ้าปัญหานี้มันทำให้หนูหงุดหงิดใจ และไม่ชอบกับการที่ต้องไปแล้ว แล้วไปเผชิญกับคนเหล่านี้ไม่ต้องซื้ออะไรไปฝาก และวางตัวห่าง ถ้าเราทักละมีปัญหาก็ไม่ต้องทัก’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘รายงานไปเลยว่าเขาพูดแบบนี้ บอกนิติไปเลย เค้าจะจัดการเอง หนูต้องยุติเรื่องซื้อของฝาก เพราะถ้าเอาจริง ๆ เค้าก็ไม่ทักกันด้วยซ้ำ นอกจากจะมีเรื่องให้ช่วยเหลือ’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘บอกนิติว่าให้ดูแลพฤติกรรม เราอยู่เหนือกว่าเค้าเราเป็นลูกบ้าน เค้าต้องดูแลเทคแคร์เรา และหนูต้องวางตัวใหม่’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูมีแฟนแล้ว แต่ก็คบพี่ผู้ชายอีกคน แฟนคนแรกหนูเขาไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่ แต่พี่ผู้ชายอีกคนดูแล จ่ายเงินให้เราตลอด ติดที่เค้ามีลูกเมียแล้ว เขาขอให้หนูไปเคลียร์กับคนแรก แต่หนูอยากได้วิธีที่จะ "คบกับเขาทั้งสองคนต่อ และ อยากให้แฟนคนแรกสนใจหนูมากกว่านี้"

14 มิ.ย. 2024

หนูมีแฟนแล้ว แต่ก็คบพี่ผู้ชายอีกคน แฟนคนแรกหนูเขาไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่ แต่พี่ผู้ชายอีกคนดูแล จ่ายเงินให้เราตลอด ติดที่เค้ามีลูกเมียแล้ว เขาขอให้หนูไปเคลียร์กับคนแรก แต่หนูอยากได้วิธีที่จะ "คบกับเขาทั้งสองคนต่อ และ อยากให้แฟนคนแรกสนใจหนูมากกว่านี้"

“คุณแอม (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [12 มิ.ย. 67] ได้โทรเข้ามาขอคำปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแฟน 2 คนที่อยากจะเก็บไว้ทั้งคู่ โดย “คุณแอม (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘หนูเคยทำงานร้านเหล้า และตอนนี้หนูมีแฟน 2 คน ซึ่งคนหนึ่งที่มีครอบครัวแล้ว อายุประมาณ 40 ปี คนนี้ดูแลหนูดีมาก ดีกว่าอีกคน และแฟนอีกคน คือ คนที่หนูเปิดตัวกับทางบ้างและกำลังหมั้นกัน คนนี้อายุ 28 ปี ซึ่งหนูเจอแฟนทั้งคู่ของหนูในร้านเหล้าที่หนูทำงาน ซึ่งต่างฝ่ายต่างไม่มีใครรู้ว่าหนูมีแฟนอีกคน คนที่อายุ 28 เค้าทำงานข้าราชการ จะไปกินเหล้ากับเพื่อนและปาร์ตี้บ่อย จนไม่ค่อยสนใจหนู และจะเป็นคนที่อยากทำอะไรก็ทำโดยที่ไม่แคร์หนู ต่างจากคนที่อายุ 40 เค้าดูแลหนูทุกอย่าง ใส่ใจหนู หนูไปเที่ยวเค้าก็จะคอยถาม คอยเป็นห่วง และหนูจะเจอเค้าอาทิตย์ละ 2 ครั้ง แต่จะเป็นการมามีอะไรกันแล้วก็กลับ แต่ก่อนที่หนูจะไปเจอกับคนอายุ 40 หนูจะไปเจอคนอายุ 28 แล้วมีอะไรกันก่อนเพราะเจอกันตลอด ซึ่งปัญหาในตอนนี้ คือ หนูกำลังจะเลิกกับคนที่อายุ 28 และรู้สึกผิดที่ไปคบกับคนที่เค้ามีครอบครัวแล้ว แต่คือหนูไม่ได้อยากเสียเค้าไปทั้ง 2 คน เพราะคนที่อายุ 40 เคยจับได้ว่าหนูมีแฟน แต่หนูบอกเค้าไปว่าแค่คุย ๆ กัน ซึ่งเค้าก็เชื่อหนู เลยให้อภัยและเลี้ยงดูหนูต่อ ซึ่งคำถามของหนูคือ หนูอยากเก็บเค้าไว้ทั้งคู่ แต่แค่อยากให้คนที่อายุ 28 สนใจหนูเพิ่มหนูต้องทำยังไงคะ? โดย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘การที่เค้าสนใจหรือไม่สนใจมันก็เป็นนิสัยของเค้า และมันก็แปลได้ตรงตัวว่าเค้าจะเป็นที่ดีรึเปล่า ผู้ชายบางคนก็ดูแลเอาใจใส่แฟน บางคนก็ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ บางคนก็ติดแฟนบางคนก็ติดเพื่อน คำว่ารักใครก็พูดได้ แต่สิ่งที่แตกต่างคือการกระทำ ทีนี้หนูพยายามตามหาความรักให้กับตัวเอง แล้วหนูเคยมองตัวเองมั้ย ว่าทำอะไรอยู่ เพราะตอนนี้หนูกำลังทำผิดกับครอบครัวชาวบ้านเค้า หนูกำลังทำให้ครอบครัวหนึ่งมีปัญหา แล้วสิ่งที่หนูต้องการในวันนี้คือเก็บไว้ทั้งสองคน และอยากให้คนที่อายุ 28 รักหนูมากกว่าเดิม พี่ว่าหนูเห็นแก่ตัวไปหน่อยนะ มันไม่ใช่การที่เราอยากจะได้ทุกอย่าง แล้วเราจะครอบครองมันได้ทั้งหมด หรือถ้าเราอยากจะมีทุก ๆ อย่างในมือเราก็จะได้ของแบบนี้ คนดี ๆ เค้าไม่มาอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้หรอก เราต้องแยกเรื่องนะว่าเค้าเหมาะกับการเป็นแฟนที่ดีของเรารึเปล่า กับอีกเรื่องหนึ่งคือเราควรทำตัวแบบนี้รึเปล่า พี่ห่วงความคิดของหนูมากกว่าห่วงว่าผู้ชายมันจะดีพอสำหรับหนูรึเปล่า ทำไมหนูถึงพร้อมที่จะอยู่กับคนที่มีครอบครัวแล้วโดยที่เราไม่ได้รู้สึกรู้สาว่ามันสมควรรึเปล่า แล้วยิ่งอยากเก็บไว้ทั้งสองคนอีก สำหรับพี่พี่คิดว่าตรรกะที่หนูใช้ในตอนนี้มันไม่ถูกต้อง พี่ไม่รู้จะให้คำแนะนำยังไงที่จะให้อีกฝ่ายรักหนูมากขึ้น แต่อยากให้หนูคิดว่าถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคนรอบตัวหรือว่าเพื่อน แล้วเค้ามาปรึกษา ลองจินตนาการถึงเหตุการณ์นี้แล้วคิดดูสิว่ามันปกติที่ไม่ผิดมั้ย เราจะยังแนะนำเพื่อนคนนั้นให้เห็นแก่ตัวแล้วเก็บไว้ทั้งสองคนโดนไม่คิดที่จะแก้ไขอะไรแบบที่เราตั้งใจรึเปล่า’ ต่อด้วย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ผู้ชายที่เค้าไม่สนใจหนู ขนาดเค้าไม่รู้ว่าหนูนอกใจเค้ายังไม่สนใจหนูเลย แล้วถ้าเค้ารู้ว่าหนูนอกใจหนูน่าจะโดนเทไปเลย 1. เค้าอาจจะไม่สนใจเป็นนิสัย หรือ 2.หนูอาจจะไม่ได้มีค่าพอที่เค้าจะสนใจ การคบกัน 1 ปีสำหรับพี่มันน้อยไปที่จะวัดว่าคนนี้เป็นยังไง แล้วที่ไปหมั้นกันแล้วก็ไม่ต้องแคร์ แล้วทุก ๆ การกระทำ การใช้ชีวิตทุกอย่างในวันนี้มันผิดไปหมดเลย สุดท้ายการเก็บไว้ทั้งสองคนมันจะเก็บไปได้ระยะหนึ่ง แต่อยู่ที่ว่าใครจะเริ่มทิ้งหนูก่อน ระหว่างเบอร์ 1 กับเบอร์ 2 แล้วคนที่อายุ 40 หนูจะใช้คำว่าแฟนไม่ได้นะลูก นี่คือเด็กเลี้ยง การที่ผู้ชายคนหนึ่งให้เงินเรา แล้วมามีอะไรกับเราแล้วกลับ อันนี้คือ “เด็กเลี้ยง” ที่นี้ผู้ชายที่เที่ยวกลางคืนแล้วเจอเด็กอายุ 19 มันก็อารมณ์เหมือน “โคแก่กินหญ้าอ่อน” อยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติที่เค้าจะหึงหวงเพราะหนู 19 แต่ถ้าเค้าต้องจ่ายเงินแล้วเด็กของเค้ายังไปมีอะไรกับแฟนอีกคนอยู่ เดี๋ยวเค้าก็ไม่เอา อย่างผู้ชายอายุ 28 ที่ไม่สนใจแล้วหนูอยากรู้ว่าต้องทำยังไงให้สนใจ หนูไม่ต้องทำ หนูแค่เปลี่ยนคน มีแค่นี้ ส่วนคนอายุ 40 มันไม่ใช่ความรักมันอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง คือเค้าจะเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะเอาเราต่อหรือไม่เอาเราต่อ ฉะนั้นวันนี้พี่รู้สึกว่าผู้ชายทั้งสองคนไม่ใช่เซฟโซนสำหรับหนูเลย แต่ถ้าหนูมีปัญหาเรื่องการเงิน หนูจะเก็บคนที่อายุ 40 ไว้ก็ได้ถ้าเมียจับได้ก็เลิก แล้วการเจอการที่สถานที่กลางคืน เราก็รักเงินเค้า เค้าก็รักในตัวเรา แต่การที่ตอนนี้หนูไม่สามาไปจากเค้าได้เพราะเค้าซัพพอร์ตเรื่องเงิน พี่จะบอกว่าเรื่องแบบนี้มันไม่สามารถการันตีได้ว่าหนูจะมั่นคงตลอดไป ถ้าวันไหนที่เมียเค้ารู้แล้วเค้าไม่ยอมคือหนูก็ต้องเลิกกันแน่นอน หนูก็ต้องหาแพลนบีว่าถ้าเค้าเลิกกับหนูหนูจะเอาเงินที่ไหนใช้ เป็นป้หญิงก็ต้องรู้จักดูแลตัวเองให้ได้ ไม่ใช่ใช้ชีวิตโดยการแบมือขอเงินเค้าไปตลอด เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าจะอยู่กับเราไปอีกนานแค่ไหน เพราะถ้าหนูมองเรื่องเงินก็มองถึงความผันผวนเอาไว้ด้วย เผื่อใจไว้อน่าไปรัก เราไม่หลงรักแขกลูกสาว’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หนูต้องปรับวิธีคิดใหม่ เพราะตอนแรกที่หนูเอามาเปรียบเทียบกัน 2 คน มันเทียบกันไม่ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะอย่างที่บอกคนแรกเค้าคือแฟนหนู แต่คนที่สองไม่ใช่ เราต่างตอบแทนด้วยผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน เพราะหนูต้องการเงินเค้า เค้าต้องการความสาวของหนู แต่พี่อยากจะบอกหนูว่า ตอนนี้หนูสร้างเงื่อนไขของชีวิตบนตรรกะที่ประหลาดมาก ซึ่งพี่ไม่รู้ว่าหนูคิดตรงนี้ได้รึเปล่า การที่หนูบอกว่าคนที่อายุ 28 ไม่ดีกับหนู มันเลยเป็นเหตุผลทำให้หนูมีคนที่อายุ 40 และเค้าดันมีครอบครัวอยู่แล้ว ถ้าคนปกติเค้ามีปัญหากับแฟนเค้าจะเคลียร์กับแฟน และถ้ามันไม่ลงตัวคือเลิก ไม่ใช่ไปเป็นเมียน้อยบ้านอื่น แต่ทีนี้พอหนูพูดมาล่าสุดว่าหนูต้องการเงินจากคนที่อายุ 40 มันก็ชัดเจนแล้วว่าตอนนี้หนูต้องการอะไร เพราะตอนนี้เหมือนกับว่าถ้าหนูขาดคนที่อายุ 28 หนูขาดได้ เพราะสิ่งที่หนูนะไม่ได้รับคือความรักความห่วงใยในฐานะแฟน ซึ่งจริง ๆ หนูสามารถมีให้ตัวเองได้ หนูไม่ได้เกิดมาแล้วจูงมือเค้าออกมาจากท้องแม่ แต่ตอนนี้หนูต้องการเงินจากคนอายุ 40 หนูก็รู้ว่าสถานะของตัวเองคืออะไร ถ้าหนูจะอยู่บนกติกานี้ หนูก็อย่าพร่ำเพ้อคิดฝันว่าเค้าจะรักหนูจริง ๆ ต้องยอมรับให้ได้ว่าเราคือเครื่องมือที่จะมาตักตวงอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งหนูก็รู้ เพราะฉะนั้นต้องจัดระบบความคิดตัวเองดี ๆ ตอนนี้การที่หนูอยากมีสองคนพร้อมกันพี่ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ แล้วการคาดหวังให้คนอายุ 28 มารักเค้าจะรักได้ยังไงเพราะหนูมีคนอื่น ถ้าหนูอยากได้ความรักดี ๆ หนูต้องทำตัวดี ๆ เพื่อให้คนที่เค้าเห็นคุณค่ามารัก แต่ถ้าหนูทำตัวแบบนี้พี่ว่าหนูไม่สามารถเจอความรักที่ดีได้ พี่ไม่ได้แช่งแต่อยากบอกให้เข้าใจว่าสิ่งที่หนูทำตอนนี้มันทำให้หนูไม่สมควรที่จะได้รับความรักที่ดีจากใครเลย ถ้าวันหนึ่งคนที่อายุ 28 รู้เค้าไปนากหนูแน่นอน คนที่อายุ 40 ถ้าวันหนึ่งเค้าเบื่อ วันหนึ่งเมียเค้าจับได้ เมียเค้าเอาเรื่อง หนูคิดแล้วกันว่าชีวิตหนูจะเป็นยังไง อย่าเห็นแค่ว่าวันนี้มันผ่านไปได้สบาย ๆ แล้วไม่นึกถึงอนาคตตัวเองเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูมาทำงานต่างประเทศ สามีบอกเดี๋ยวจะตามมา หนูส่งเงินค่ากิน ค่าใช้ ค่าเช่าบ้าน ค่ารถให้เขามา 8 เดือนกว่า เขาไม่ทำงานเลย จนมารู้ทีหลังว่ามีผู้หญิงอีกคน ตอนนี้สามีขอคบ 2 คน ถ้าไม่ยอมก็ท้าให้เราฟ้องเอา หาหลักฐานมาให้ได้สิ หนูเสียใจที่สุด...

01 พ.ย. 2024

หนูมาทำงานต่างประเทศ สามีบอกเดี๋ยวจะตามมา หนูส่งเงินค่ากิน ค่าใช้ ค่าเช่าบ้าน ค่ารถให้เขามา 8 เดือนกว่า เขาไม่ทำงานเลย จนมารู้ทีหลังว่ามีผู้หญิงอีกคน ตอนนี้สามีขอคบ 2 คน ถ้าไม่ยอมก็ท้าให้เราฟ้องเอา หาหลักฐานมาให้ได้สิ หนูเสียใจที่สุด...

“คุณมิวสิค (นามสมมติ)” สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [30 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาทำงานอยู่ต่างประเทศ ส่งเงินให้แฟนที่ไทยตลอด แต่ตอนนี้เขาไปกับคนอื่น โดย “คุณมิวสิค (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘พอดีเรามาทำงานตามความฝันที่ต่างประเทศก่อนแฟน แล้วก็ส่งเงินให้เขาใช้จ่ายส่วนตัว พร้อมกับจ่ายค่าธุรกิจของเขาตลอดเลย แต่ตอนนี้เขาไปกับอีกคนนึง หนูมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณปีกว่าๆ เราทั้งคู่ยังไม่ได้แต่งงาน แต่มีการจดทะเบียนกันเพื่อจะไปทำงานที่ต่างประเทศ หนูคบกับแฟนคนนี้มาประมาณ 10 ปี คบกันตั้งแต่เรียนอยู่ ซึ่งเขาเป็นคนที่เจ้าชู้มากๆ ตั้งแต่คบกันมาเขามีคนอื่นมาตลอด จับได้ตลอด นิ้วมือนิ้วเท้าหนูนับไม่ได้เลย บางคนหนูก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่หนูก็ให้อภัยเขามาตลอด บวกกับพอเราทำงาน เขาก็จะมีช่วงที่ทำงานไม่ได้ ทำงานได้บ้าง หนูก็จะเป็นคนที่ซัพพอร์ตเขามาตลอด จนมีช่วงนึงที่เขาป่วย แทบจะเดินไม่ได้เลย หนูก็ยังอยู่กับเขา พอเขาหายดีขึ้น เขาก็กลับมาเป็นคนเดิมที่ก็ยังแอบนอกลู่นอกทางมาตลอด แต่เขาก็ไม่ได้ไปไหน ยังอยู่กับหนู แล้วหนูก็ให้อภัยเขา จนพอเราอายุมากขึ้น เรามีการพูดถึงอนาคตมากขึ้นว่าจะทำยังไง? ด้วยความที่เขาไม่ได้มีการงานที่มั่นคง เราจึงคุยกันว่าเราจะมาทำงานที่ต่างประเทศ มีการเลือกหลายๆประเทศ แต่ก็มาจบที่ออสเตรเลีย ซึ่งคุณสมบัติการมาที่นี่ของเขามันยากกว่าของหนู ด้วยวุฒิการศึกษา หน้าที่การงานของหนูดีกว่าเขา จึงทำให้เขาไม่สามารถมาพร้อมกับหนูได้ หนูเลยต้องมาคนเดียว และเราก็มีการตกลง สัญญากันว่าถ้าหนูมาครบ 1 ปีแล้วเขาจะตามหนูมาที่นี่ แต่พอหนูมาจริงๆ เขาก็ไม่ได้มีความกระตือรือร้นที่จะมาที่นี่ ตลอดระยะเวลาประมาณ 8 – 9 เดือนที่ผ่านมาเขาไม่ทำงานเลย แล้วเขาก็ต้องมีรถยนต์ที่ต้องผ่อนเดือนละ 9 พัน บวกกับค่าใช้จ่ายของเขา ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเดินทาง เหมือนบางวันเขาก็บอกจะไปหางานทำ แต่ก็ไปแล้วไม่ได้ ไปแล้วไม่เอา จริงๆก่อนหน้านี้ตัวหนูเองอยากแต่งงานมาตลอด แต่ด้วยความที่มันไม่พร้อมอะไรเลย มันทำให้ไม่มีการได้แต่งงานกัน แต่พอวีซ่าหนูผ่านปุ๊บ เขาก็ขอหนูแต่งงาน พอวันเกิดหนูเขาก็พาไปจดทะเบียนสมรส แล้วหนูก็ถามเขาว่ามั่นใจหรอว่าจะอยู่กับคนแบบเราได้ ซึ่งหนูก็ถามตัวเองเหมือนกันว่าหนูจะอยู่กับเขาได้มั้ย? หนูก็คิดว่าเราไม่น่าจะอยู่กับคนแบบนี้ได้ แต่เหมือนเราคบกันมานาน แล้วเขาก็เป็นแฟนคนแรกของหนู มันมีความไม่กล้าเดินออกมา หนูคิดข้อดีของเขาไม่ออกเลย พอหนูมาอยู่ที่นี่ ด้วยความที่หนูอยากให้เขามาที่นี่ด้วย หนูก็ช่วยเขา เพราะเขาต้องทำตัวเองให้มีคุณสมบัติที่ดีเหมือนซัพพอร์ตเราได้ มีการมีงานที่ดีทำถึงจะติดตามมาที่นี่ได้ พอเขาไม่ทำงาน ไม่ทำอะไรเลยเป็นเวลาเกือบปี หนูก็รู้สึกว่าทำไมเขาไม่มีความกระตือรือร้น พยายามพูดแล้ว แต่พอพูดเราก็จะทะเลาะกัน หนูเลยเสนอเขาไปว่าถ้าเขาไม่อยากทำงานประจำ ไม่อยากเป็นลูกน้องคนอื่น งั้นเราเปิดธุรกิจกันมั้ย? เราเปิดร้านอาหารเล็กๆให้เธอ เพื่อทำสเตจเม้นแล้วให้เธอได้มาที่นี่ แล้วหนูก็เป็นคนลงทุนให้เขา ตอนแรกเขาไม่อยากทำเลย แต่พอหนูพูดให้เขาทำ เขาก็ไปทำจริงๆ ซึ่งตอนนี้ก็ยังทำอยู่ 3 เดือนแรกหลังจากเปิดร้านอาหารก็ดูโอเค เขายังคุยกับหนูปกติ แต่หนูเป็นคนที่ติดเขา หนูเลิกเรียนหนูโทรหาเขา หลังเลิกงานหนูโทรหาเขา แต่หลังๆมานี้ทุกอย่างที่หนูทำคือเขารำคาญหนู เขาทำให้หนูร้องไห้ตลอดเวลา ตั้งแต่ต้นปีจนถึงกลางปีนี้ หนูไม่รู้สาเหตุด้วย หนูพยายามถามเขาว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมดูเหมือนไม่รัก ไม่คิดถึง ไม่โหยหา ทั้งๆที่หนูดูแล้วว่าโอกาสที่เขามาที่นี่ไม่ได้ หนูพยายามกลับไปหาเขามากๆ หนูพยายามพูดว่าถ้างั้นไม่เป็นไร ขอกลับบ้านไปอยู่กับเขาได้มั้ย? ซึ่งเขาจะพูดประมาณว่ากว่าจะได้มา มันยากนะ อยู่ต่ออีกหน่อยสิ เหมือนพูดเกลี่ยกล่อมให้เราอยู่ต่อ มันก็ทำให้เรารู้สึกว่า เรามาทำเพื่อความฝันของเรา เอาจริงหนูไม่ได้มีความฝันอะไรมากเลย หนูแค่อยากอยู่กับเขา แต่ความฝันของเขา เขาอยากมีนู้นมีนี่ ซึ่งหนูคิดว่าเขาทำคนเดียวไม่ได้ หนูต้องช่วยเขา เพราะฉะนั้นหนูเลยต้องอยู่ต่อ จนความรู้สึกนั้นมันมากเลยทำให้หนูน้อยใจ แล้วเวลาที่ไทยกับออสเตรเลียต่างกัน 3 – 4 ชั่วโมง หนูยอมนอนดึกทุกวัน เพื่อรอคุยกับเขาหลังจากที่เขาเก็บร้านเสร็จ แต่เขาบอกหนูว่า รอเขาทำไม? จากที่เราเคยคอลกัน เขาเริ่มไม่อยากคอล ไม่อยากคุย เขาบอกว่าหนูทำแบบนี้ เขาเหนื่อย แค่ทำงานเขาก็เหนื่อยแล้ว ทำไมเขาต้องมาเหนื่อยกับหนูอีก จนหนูเลยลองไม่ตามเขาบ้าง แล้วเขาก็บอกเลิกหนู แต่เขากลับมาแอดเฟซบุ๊กหนู ตอนนั้นหนูดีใจมาก แต่หนูไปเห็นว่ามีผู้หญิงคนนึงคอมเมนต์เขาทุกโพสต์ หนูก็เอะใจเพราะเป็นพี่ที่หนูรู้จัก แล้วคุณแม่ของเขาเป็นคนบอกหนูเองว่าเขามีคนอื่นมาตลอด ผู้หญิงคนนั้นก็บอกหนูว่าเขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ต้นปี แต่ผู้ชายไม่ยอมรับ แล้วบอกหนูว่าเขาขอมี 2 คนได้มั้ย? เพราะเขาขาดใครไปไม่ได้สักคน เลยอยากถามพี่ๆดีเจว่า หนูอยากหย่ากับเขา แต่เขาไม่ยอมหย่า หนูต้องทำไงดี?เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1