ผิดหรอครับที่ผม Move on จากความเศร้าได้ไว... คุณพ่อเพิ่งเสียชีวิต ผมร้องไห้หนักชั่วโมงเดียว แล้วบอกตัวเองเดินหน้าต่อ แต่ญาติไปบอกแม่ว่า "ถ้าร้องแค่นี้แสดงว่าไม่รักพ่อเลย หวังแค่สมบัติพ่อรึเปล่า?"

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผิดหรอครับที่ผม Move on จากความเศร้าได้ไว... คุณพ่อเพิ่งเสียชีวิต ผมร้องไห้หนักชั่วโมงเดียว แล้วบอกตัวเองเดินหน้าต่อ แต่ญาติไปบอกแม่ว่า "ถ้าร้องแค่นี้แสดงว่าไม่รักพ่อเลย หวังแค่สมบัติพ่อรึเปล่า?"

01 เม.ย. 2024

ผิดหรอครับที่ผม Move on จากความเศร้าได้ไว... คุณพ่อเพิ่งเสียชีวิต ผมร้องไห้หนักชั่วโมงเดียว 

แล้วบอกตัวเองเดินหน้าต่อ แต่ญาติไปบอกแม่ว่า "ถ้าร้องแค่นี้แสดงว่าไม่รักพ่อเลย หวังแค่สมบัติพ่อรึเปล่า?"

คุณแม่ก็ฟังคำพวกเขา ตอนนี้ทุกคนในบ้านยังเสียใจร้องไห้ไม่หยุด ผมจะทำยังไงดี

          “คุณมิน(นามสมมติ)” อายุ 29 ปี สายที่ 4 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [27 มี.ค. 67] ได้โทรมาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล และ ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับมูฟออนจากการเสียคุณพ่อเร็วเกินไป จนที่บ้านคิดว่าไม่เสียใจเลยหรอ...

            โดย “คุณมิน(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมมูฟออนไวจากการเสียคุณพ่อ ผมผิดหรือเปล่า? คือคุณพ่อของผมเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว และผมสนิทกับพ่อมาก พ่อผมเสียชีวิตที่กรุงเทพแต่ผมนั่งรถขนศพคุณพ่อ มาทำพิธีที่บ้านเกิดของพ่อ ที่บ้านก็เตรียมไว้เรียบร้อยและจัดการทุกอย่าง หลังจากเอาศพของพ่อไปไว้ที่วัด ผมก็กลับมาที่บ้าน พอมาที่บ้านก็เห็นบรรยากาศและนึกถึงพ่อว่า... ต่อไปนี้บ้านที่พ่อสร้างจะไม่มีพ่อตลอดไปแล้วนะ ผมก็ร้องไห้ชั่วโมงเดียว แล้วก็จบนั่นคือการร้องไห้ครั้งเดียวตอนที่ผมสูญเสียคุณพ่อ ผมก็ไปช่วยงานศพปกติ แต่อยู่ๆก็มีญาติของแม่บอกว่าไม่คิดจะร้องไห้ให้พ่อหน่อยหรอ? ผมก็บอกว่าผมร้องไปแล้ว ผมทำใจได้แล้ว จะร้องทำไมเยอะแยะ เขาก็พูดกับมาว่า ถ้าร้องแค่นี้แสดงว่าไม่รักพ่อจริงนะ

            ส่วนแม่ผมก็ร้องไห้เหมือนขาดสติก็มีญาติคนนี้แหละที่คอยปลอบเขา คอยให้กำลังใจ ผมเป็นคนที่ปลอบคนไม่เก่ง เพราะผมเป็นคนที่สนิทกับพ่อและมูฟออนไวไม่ยึดติดอะไรมาก น้าเค้าก็บอกว่าเนี้ยไม่รักพ่อจริงนี่น่า ถ้ารักจริงก็ต้องร้องไห้มากกว่านี้สิ อย่างนี้ก็ดูออกว่าไม่รัก หวังสมบัติ เขาก็ไปบอกแม่ผม ซึ่งแม่ก็สนิทกับเขาอยู่แล้ว แม่ผมก็เชื่อเขา แม่ผมก็มาต่อว่าผมด้วยทำนองเดียวกันว่าทำไมถึงไม่ร้องไห้เลย ระหว่างช่วงงานศพเวลากลางวันผมก็มีการเข้ายิมปั้นหุ่น เพราะนอกจากงานประจำผมรับงานนายแบบด้วย ผมมีถ่ายงานช่วงก่อนสงกรานต์ที่ต้องใช้รูปร่างเลยไปเข้าฟิตเนส เขาเลยบอกว่า เนี่ยช่วงงานศพพ่ออยู่ยังมีอารมณ์ไปเล่นฟิตเนส เข้ายิมอีกหรอ?

            พอหลังจากจบงานศพจากพระสวดเสร็จ ผมก็กลับมาที่บ้าน และผมเป็นคนที่ชอบเต้นตามเทรน ผมก็เต้นอยู่ในห้องของผมในจังหวะเดียวกัน แม่เปิดประตูมาเจอและบอกว่าทำไมอารมณ์ดีในช่วงงานศพพ่อ แต่ผมก็เต้นในห้องของผมไม่ได้ไปเต้นในวัดผมก็รู้กาลเทศะ แค่บรรยากาศในบ้านก็อึมครึมพอแล้ว เพราะว่าทุกคนก็มานอนกันอยู่ที่บ้านและมีแต่เสียงร้องไห้ แล้วผมเป็นคนเดียวที่มูฟออนอยู่คนเดียวในบ้าน ผมก็ฟังเพลง เต้นของผมอยู่คนเดียวในบ้าน ผมก็โดนด่า แต่ไม่ได้หมายความว่าผมไม่รักพ่อนะ ถ้าพ่อยังอยู่พ่อก็คงโอเคกับการที่ผมทำอย่างนี้ด้วยซ้ำ แต่ในมุมมองของคนอื่นเขาอาจจะไม่โอเค แล้วแม่ก็จะเชื่อคำพูดของญาติ ๆ มาก ตอนนี้ก็เหลือผมที่ Work form home อยู่ที่บ้านกับแม่แค่ 2 คน แม่ก็เอาแต่โทษผมว่าผมไม่รักพ่อ ผมก็พูดกับแม่แบบจริงใจสุด ๆ แล้วว่าที่ผมไม่เศร้าไม่ใช่ว่าผมไม่รักนะ ผมอยากกลับ กทม. มากเลยแต่ผมก็เป็นห่วงแม่ อยากถามพี่ๆดีเจว่า ผมจะ Work form home ต่อดีไหม? หรือจะหนีความ toxic ไปเลย

            ซึ่ง “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าถามว่าพี่รู้สึกยังไงถ้าสมมุติพี่เป็นญาตินั่งอยู่ตรงนั้น เรื่องร้องไห้ตัดไปเลยเพราะมันไม่เกี่ยวการร้องไห้ไม่ได้แสดงรักหรือไม่รัก การร้องไห้คือการแสดงออกของอารมณ์ ณ ตอนนั้น บวกกับใครที่สามารถควบคุมและกลั้น คนบางคนที่เขาไม่ร้องเขาอาจจะกลั้นมันอยู่มือเค้าอาจจะกำ แทบจะจิกเข้าไปในเนื้อแต่แค่ว่าน้ำตาเขาไม่ได้อยากให้ไหลออกมาด้วยหลากหลายสาเหตุ เพราะฉะนั้นอย่าเอาการที่ว่าร้องไห้เยอะหรือร้องไห้น้อยมาวัดว่ารักหรือไม่รัก ถ้ามีญาติมาคุยกับพี่แบบนี้พี่ด่า อันนี้พี่มองว่ามันไม่เกี่ยว

            แต่พี่มาสะดุ้งนิดนึงตอนเต้นอันนี้พี่ตกใจพี่พูดตรง ๆ แต่พี่ก็จะแค่ตกใจที่เต้นพี่ก็คงจะไม่ไปผูกกับเรื่องที่ว่าไอ้นี่ไม่รักพ่อถึงเต้น อย่างมากพี่ก็จะคิดแค่ว่า อ๋อ มันทำใจได้เร็ว เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าเวลานี้แล้วเอายังไงต่อ ก็ถ้าที่บ้านเขาอยู่กันได้แล้วเราก็สามารถ Work form home ได้ก็อยู่ดูอีกสักหน่อย ให้เขาค่อย ๆ ทำใจกันได้ เพราะถ้าคนใดคนหนึ่งในครอบครัวเสียชีวิตบรรยากาศความเศร้ามันก็ตลบอบอวลอบอยู่ในนั้นสักพักนึง แต่สุดท้ายแล้วทุกชีวิตมันก็จะค่อย ๆ เดินต่อตามความจำเป็นของแต่ละคน บางคนชีวิตเขาไม่ต้องมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบมากหรือไม่ได้มีสิ่งที่จะต้องลุกขึ้นและเดินต่อ เขาก็สามารถปล่อยให้มันจมอยู่กับความเศร้าได้เต็มที่ แต่สำหรับคนที่พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงาน มันก็ต้องตื่นก็ต้องหยุดร้องไห้ เพราะฉะนั้นเราก็คงไม่ตัดสินว่าใครจะร้องมากร้องน้อย ชีวิตแล้วสุดท้ายจะ ช้าหรือเร็วมันก็ต้องเดินต่อ และถ้ามินถามว่ามินจะต้องอยู่ต่อไหมก็กลับมาที่พี่พูดเมื่อกี้ แล้วชีวิตมินจำเป็นที่จะต้องเดินต่อหรือยัง งานการมันต้องลุยเลยไหม ถ้ามีก็ไปทำแต่ถ้ามันยังอยู่ดูแลกันได้ใช้เวลาตรงนี้ได้ ก็ลองอยู่อีกสักหน่อย สุดท้ายชีวิตมันก็ต้องเดิน’

            ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่แยกก่อนนะเรื่องร้องไห้ พี่ว่าหลายคนเป็นบางทีเจอเรื่องเศร้าแล้วมันไม่ร้อง พี่เองก็เป็นพี่เสียน้ำตาให้เรื่องที่ตัวเองมีความสุข แต่คนตายหรืออะไรอย่างเงี้ยไม่ร้อง ไม่รู้ว่าเป็นอะไรแต่ว่าพี่เป็นนิสัยอย่างเงี้ย ซึ่งพี่ว่าหลาย ๆ คนเป็น บางทีเราอาจจะรู้สึกเสียใจข้างในแต่แค่ว่ามันไม่ร้องออกมา

            อีกเรื่องหนึ่งเท่าที่พี่ฟังมินมาพี่ว่ามินเป็นคนสุขนิยมจริง ๆ หมายถึงว่าพร้อมที่จะบล็อกเรื่องที่ไม่สบายใจได้เลย แล้วก็มีความสุขกับตัวเองได้เลย กับอีกแบบนึงมินเป็นคนที่ ถ้าบรรยากาศรอบข้างมันทำให้มินไม่มีความสุข มันจะทำอะไรบางอย่างเพื่อที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกว่า ไม่อยากเป็นแบบนั้นมันก็เลยเกิดอาการเต้นออกมาถ้าให้เราวิเคราะห์ แต่ไม่ว่าอย่างไรพี่รู้สึกว่าเหมือนมินจะลืมนึกถึงความรู้สึกคนรอบข้างไปหน่อยในกรณีนี้ สำหรับพี่นะคือมินรู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าคนรอบข้างบ้านมินเขาเป็นแบบนี้กันหมด เหมือนเขาต้องการให้เราอยู่ฝั่งเดียวกับเขา ด้วยการแสดงออกหรืออะไรก็ได้ พี่ไม่ได้หมายความว่าให้มินไปร้องห่มร้องไห้กับเขานะ แต่พี่รู้สึกว่าถ้าบางอย่างทำได้เช่นเรารู้อยู่แล้วว่าเขาจับตามองเราแล้วการเต้นของมินอาจจะรู้ว่าเค้าจะเห็นเราก็ต้องห้ามตัวเอง

            ซึ่งมินต้องนึกถึงแม่ด้วยว่าตอนนี้เขาเศร้าอยู่ เราอ่ะไม่อยากเศร้าอยากมูฟออนนั่นมันไม่ผิด แต่ ณ ตอนนี้เขายังไปไหนไม่ได้ ณ ตอนนี้เขายังไม่มีใคร เพราะฉะนั้นมินอาจจะต้องบังคับตัวเองอยู่เป็นเพื่อนเขาก่อนนะตอนนี้ ในฐานะลูก ที่จะทำให้แม่ได้ พี่รู้สึกว่าถ้ามินแบบไม่เอาแล้วว่ะไม่อยากเศร้าแล้ว พี่ว่าอันนี้มันก็สนใจแต่เรื่องเราเกินไป มันก็ต้องฝืนใจตัวเองแหละพี่รู้ว่ามินไม่อยากเศร้าอยู่ในบ้านหลังนี้ แต่ทำยังไงได้ถ้าแม่ที่เขารักเราแล้วเขายังเศร้าอยู่ เราก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนเขาก่อน แล้วรอเวลาที่เขาดีขึ้นเราก็กลับมา ใช้ชีวิตของเราได้’

            ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยว่าตอนนี้ควรอยู่ดูใจแม่ เพราะบรรยากาศในบ้านตอนนี้แม่เขาดูเจ็บมากถ้าเราทิ้งไปอีกคนนึงแม่ก็ไม่เหลือใคร อยากให้มินมองภาพรวมของบ้านมากกว่าเรื่องราวของตัวเอง การมูฟออนได้เป็นสิ่งที่ไม่ได้ดูแย่อะไรเลยเพียงแต่ว่าบรรยากาศในบ้านเราต้องไม่สวนทางกับเขา เราอาจจะต้องสำรวมสักนิดนึงแต่การที่เราไม่ร้องไห้มันไม่ผิดเลยแล้วญาติคือผิด ส่วนมินพี่ว่าอยู่ที่นั่นก็ปั้นหุ่นได้นะ จะเข้ายิมหรือเล่นฟิตเนสไปได้เลย เพราะว่าเราต้องทำงานแล้วเมษาเรามีงานเราก็กลับไปทำงานเท่านั้นเอง แต่พี่ว่าเวลานี้เราไม่ควรทิ้งคุณแม่ เพราะว่าสภาพจิตใจเขาแย่ถ้าเราไม่ดูเขาก็ไม่มีใครดูเขา แล้วสภาพจิตใจเขาตอนนี้คือแกว่งมาก เหมือนลอยอยู่กลางน้ำ มินอาจจะต้องทำอะไรที่ไม่ขัดหูขัดตาเพิ่ม เราบอกตัวเองเลยว่าเรามีหน้าที่เป็นยารักษาเขา เพราะฉะนั้นอะไรที่เป็นพิษต่อเขามินเลี่ยงแค่ช่วงนี้ที่เขาจะหนัก อดทนหน่อยเพราะตอนนี้เราคือที่พึ่ง เวลานี้เขาต้องการเราก็มีมินนั่นแหละที่ต้องอยู่ตรงนี้กับเขา’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูมีแฟนเป็นผู้หญิง คบกันได้เกือบปีแล้ว แต่หนูมีความลับที่ไม่ได้บอกเขา ว่าหนูมีเสี่ยเลี้ยง หนูทำงานเป็นเด็กเอ็น ปรากฎว่าไม่นานมานี้ เพิ่งจับโป๊ะได้ ว่าแฟนหนูก็มีเสี่ยเลี้ยงเหมือนกัน ตอนนี้แฟนหนูเขารับเงินก้อนจากเสี่ยฝั่งนู้นมาแล้ว

06 มิ.ย. 2025

หนูมีแฟนเป็นผู้หญิง คบกันได้เกือบปีแล้ว แต่หนูมีความลับที่ไม่ได้บอกเขา ว่าหนูมีเสี่ยเลี้ยง หนูทำงานเป็นเด็กเอ็น ปรากฎว่าไม่นานมานี้ เพิ่งจับโป๊ะได้ ว่าแฟนหนูก็มีเสี่ยเลี้ยงเหมือนกัน ตอนนี้แฟนหนูเขารับเงินก้อนจากเสี่ยฝั่งนู้นมาแล้ว

หนูมีแฟนเป็นผู้หญิง คบกันได้เกือบปีแล้ว แต่หนูมีความลับที่ไม่ได้บอกเขา ว่าหนูมีเสี่ยเลี้ยง หนูทำงานเป็นเด็กเอ็นปรากฎว่าไม่นานมานี้ เพิ่งจับโป๊ะได้ ว่าแฟนหนูก็มีเสี่ยเลี้ยงเหมือนกัน ตอนนี้แฟนหนูเขารับเงินก้อนจากเสี่ยฝั่งนู้นมาแล้วเสี่ยเสนอให้ทดลองอยู่กัน 2 เดือนก่อน ถ้าไปต่อได้ จะเพิ่มเป็น 5 เดือน แฟนหนูเขาย้ายออกไปจากหนูแล้ว5 เดือนต่อจากนี้ หนูควรจะรอเขาไหม? หรือ หนูควรหาคนใหม่คุยไปเลย ... “คุณเรย์ (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [4 มิ.ย. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาความรักเพศเดียวกัน แต่ดันทำอาชีพเด็กเอนเหมือนกัน โดย “คุณเรย์ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูกับแฟนคบกันมาประมาณ 11 เดือน ที่ผ่านมาเราอยู่ด้วยกันมาตลอด อยู่กินด้วยกันที่บ้าน แต่หลัง ๆ เริ่มขอดูโทรศัพท์ของกันและกัน ก็เลยจับโป๊ะเรื่องที่ปิดบังกันได้ว่า ต่างคนต่างทำอาชีพเหมือนกันก็คือเขาเป็นเด็กเอน หนูก็เป็นเด็กเอนเหมือนกัน แล้วก็มีเสี่ยเลี้ยงกันทั้งคู่เลย เขาเป็นฝ่ายจับได้ก่อนแต่ปิดบังมาตลอด เขาพยายามรับให้ได้ เพราะไม่อยากเสียเราไป แต่พอหนูมารู้ความจริงของเขาทีหลังหนูเลือกที่จะถามไปตรง ๆ ว่า ไปเจอมาจากไหน? ทำไมถึงทำแบบนี้? ที่ถามออกไปแบบนี้ เพราะหนูไม่คิดว่าเขาจะทำงานแบบนี้ ฐานะที่บ้านเขาดีมาก ๆ แตกต่างกับหนูที่ทำเพื่อความจำเป็น แต่เขาก็พูดกับหนูตรง ๆ ว่าเงินไม่พอใช้สำหรับเขา ถึงจะมีมากแค่ไหนก็อยากจะใช้ฟุ่มเฟือย หลังจากนั้นเราก็พยายามปรับความเข้าใจกัน ซึ่งบอกว่าหนูทำเพราะจำเป็นนะ เขาก็บอกเขาทำเพราะอยากใช้เงินฟุ่มเฟือยและหนูไม่สามารถดูแลเขาได้ในตรงนี้ ก็เลยต้องยอมรับในส่วนนี้ด้วย เราก็เหมือนฝืนกันทั้งคู่ จนหลัง ๆ ทะเลาะกันบ่อยขึ้นในเรื่องงาน เริ่มฝืนไม่ได้แล้ว จนวันหนึ่งเราออกไปทำงานกันทั้งคู่ แต่เขากลับมาที่ห้องก่อน แล้วโทรให้เรารีบกลับได้ไหม มีเรื่องจะคุยด้วย แต่พอเรากลับมาเขาก็หลับไปแล้ว ตื่นเช้ามาแฟนพิมพ์แชทมาบอกว่า เขาจำเป็นต้องไปอยู่กับคนที่จะรับเลี้ยงดูแลวันนี้เลย ต้องเก็บของเลย ขอลองไปอยู่สัก 2 อาทิตย์ก่อน ถ้าเขาอึดอัดเขาจะรีบกลับมา ตอนนี้เขาไปอยู่ที่นั่น 4 วันแล้ว ซึ่งการไปอยู่กับเสี่ยคนนั้นเขาต้องแลกด้วยอิสระ เวลาจะไปไหนมาไหนต้องพาเสี่ยคนนี้ไปด้วยตลอดเวลา จะออกไปไหนก็ยากมาก ๆ และที่สำคัญห้ามมีแฟน ซึ่งเขาตัดสินใจไวมากแค่ภายในคืนเดียว เพราะเสี่ยบอกไว้ว่า อยากได้อะไรสามารถให้ได้ทุกอย่าง มีความฝันอะไร อยากเรียนพิเศษอะไร อยากไปไหน อยากดูแลตัวเองมากขึ้น เสี่ยสามารถให้ได้หมดเลย ณ ตอนนั้นหนูไม่คิดว่าเขาจะไปจริง ๆ เพราะเราไม่ได้ร่ำลากันเลย จนวันนี้เราเลิกกันแล้ว แต่หนูก็ยังอยู่ในห้องเดิมของเรา 2 คน ตอนแรกเขาบอกจะไปแค่ 2 สัปดาห์ แต่หลังจากเสี่ยให้ไปตรวจโรค ถ้าพบว่าปกติ ก็ต้องอยู่ต่ออีก 5 เดือนเพราะรับเงินไปแล้วก้อนนึง เขาไปดินเนอร์กับเพื่อนก็มีเสี่ยไปด้วย แล้วหนูก็สงสัยทำไมเขาไม่บอกว่าหนูเป็นเพื่อน แล้วให้หนูไปเจอ ทำไมหนูไปหาเขาไม่ได้ เขาก็บอกว่า เขากลัวหนูเจ็บที่เห็นภาพแบบนั้น หนูไม่เคยเห็นหน้าเสี่ยแต่เขาบอกว่าเสี่ยเป็นผู้มีอิทธิพล หนูเลยอยากถามพี่ๆดีเจว่า ทำยังไงดี? ใจนึงก็อยากเปิดโอกาสให้ตัวเองได้คุยกับคนอื่นบ้าง หรือหนูควรจะรอเขาแต่ในระหว่างที่รอก็คุยกับคนอื่นไปด้วย’ ทางด้าน “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาเป็นคนแรกว่า ‘มันขึ้นอยู่กับว่าเรย์อยากมูฟออนไหม ถ้าอยากมูฟออนก็ออกมาจากห้องนั้นซะ แต่ถ้าอยากรอคนที่เขาไม่เห็นคุณค่าในตัวเราแล้วไม่มูฟออน ก็อยู่ในห้องนี้ต่อไป แบกความเจ็บปวด หรือการรอคอยแบบนี้ไปเรื่อย ๆ มันเป็นสิ่งที่เรย์ต้องได้รับอยู่แล้ว เพราะเขาไปโดยที่ไม่เหลือคุณค่าให้เราเลย เรย์ก็ต้องอยู่อย่างไม่มีคุณค่าและรอต่อไป ซึ่ง ณ เวลานี้เรย์ก็เหมือนไม่มีใจจะมูฟออน ถึงจะเป็นแผลสดเรย์ก็ดูไม่ได้อยากจะรักษาด้วย ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะกลับมาหรือไม่กลับมา ถ้าเรย์เลือกที่จะรอ ก็อยู่กับความเจ็บปวดต่อไปจนกระทั่งถึงที่สุด แล้วบอกตัวเองว่าไม่ไหวแล้ว เรื่องนี้มันมีสองทางระหว่างเขากลับมากับเรย์ทนไม่ไหว ถ้าถามพี่ว่าทำยังไงได้ พี่บอกเลยว่าก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอให้เวลามันผ่านไปและถามตัวเองบ่อย ๆ ว่ารู้สึกแบบไหนแล้ว ’ ต่อด้วย “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเรย์จะอยู่วงการนี้ต้องจิตแข็งกว่านี้ เรย์ดูอ่อนต่อโลกใบนี้เกินอาชีพที่ทำอยู่เยอะเลย มากกว่าความสัมพันธ์ที่ลงไปเล่น มากกว่าเงื่อนไขที่เจอมากมาย เรย์มองตัวเองด้านเดียว เรย์ไม่มองด้านอื่นเลย พี่ว่าอันตราย เรื่องราวที่เล่าก็ดูประหลาด ๆ ไม่สมเหตุสมผล ตรรกะของตัวละคร ถ้าเขียนบทก็คงไม่กล้า ซึ่งถ้าพูดถึงแค่ประเด็นที่เขารีบเก็บของออกไปไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่เขากลับมา มันเป็นการที่เขาตัดเราไปง่าย ๆ โดยไม่ต้องคิดหน้าคิดหลังเลย สำหรับพี่เท่านี้ก็เพียงพอแล้วกับการที่ไม่ต้องรอคนนี้ รอทำไม ความจริงเดียวคือเขาทิ้งเราไป จบ’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเพียงเพราะเหตุผลที่เขาบอกว่าเขาต้องการใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่ายแล้วต้องเอาอิสระของชีวิตไปอยู่กับผู้ชายเพื่อแลกกับเงิน ถ้าเป็นพี่ พี่ไม่เอาคนนี้มาเป็นคู่ชีวิต เพราะเขากลวงเหลือเกิน สำหรับพี่พอแล้ว เรย์ก็คิดเอาว่าจะเอาคนนี้มาเป็นคู่ชีวิตเพื่ออะไร แต่ถ้าจะรอก็แล้วแต่เรย์เลย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หัวหน้างานมีลูกมีเมียแล้ว แต่มาขอเลี้ยงดูเรา แบบไม่หวังผลอะไร เราปฏิเสธไปแล้ว แต่เขาก็โอนมาให้ทีละ 1000 2000 5000 ตอนนี้อึดอัด ไม่อยากออกงานเพราะงานดี เงินก็ดี เสียดายงานนี้ จะทำยังไงดี?

12 ธ.ค. 2023

หัวหน้างานมีลูกมีเมียแล้ว แต่มาขอเลี้ยงดูเรา แบบไม่หวังผลอะไร เราปฏิเสธไปแล้ว แต่เขาก็โอนมาให้ทีละ 1000 2000 5000 ตอนนี้อึดอัด ไม่อยากออกงานเพราะงานดี เงินก็ดี เสียดายงานนี้ จะทำยังไงดี?

“คุณเอ (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (6 ธ.ค 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจต้นหอม – ดีเจเติ้ล – ดีเจอั๋น กับปัญหาพี่ที่ทำงานอยากขอเลี้ยงดูเรา ทั้งๆ ที่เขาก็มีลูกมีเมียแล้ว โดย “คุณเอ (นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า ‘เป็นเรื่องที่พี่หัวหน้าที่ทำงาน เขาอายุห่างกับหนูเกือบ 20 ปี เขามาขอดูแลเรา ทั้งๆที่เขามีลูกมีเมียอยู่แล้ว แล้วหนูก็ไม่ได้อยากออกจากงาน เขามาพูดว่า “เขาอยากดูแล เขาไม่อยากได้อะไรจากเรา ขอแค่ดูแล” แต่พอมันเยอะขึ้นๆ หนูก็รู้สึกอึดอัด ก็เลยบอกเขาไปว่า “ไม่ต้องดูแลก็ได้ค่ะ แค่ถามไถ่กันอย่างนี้ก็พอ” แต่มันจะมีช่วงที่เขาให้คนมาถามเวลาเราคุยโทรศัพท์ ว่าเราคุยกับใคร? คุยกับผู้หญิงหรือผู้ชาย ช่วงแรกๆ ที่หนูมาทำงาน เขาก็จะซื้อน้ำ ซื้ออะไรมาให้ “หนูก็ไม่เป็นไรค่ะ เกรงใจ” แต่พี่เขาก็บอกว่า “ไม่เป็นไร พี่แค่อยากช่วย เห็นเราเป็นรุ่นน้อง” แต่มันเริ่มข้ามเส้นเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เขาฟอลไอจีมา ไม่รู้ว่าหามาจากไหน หลังจากนั้นเขาก็เริ่มมาชวนเราไปทานข้าว ซื้อของราคาแพงให้เรา บางทีก็โอนเงินมาให้ ครั้งละ 1,000 บ้าง 2000 บ้าง มากสุด คือ 5000 บาท เขาบอกว่า “เขาแค่อยากให้ เขาไม่ได้ต้องการอะไร” หนูก็รู้สึกแปลกๆ เพราะมันมีด้วยหรอที่ให้แล้วไม่ต้องการอะไร เขาก็มีลูกมีเมียอยู่แล้ว และหนูเองก็มีคนคุยอยู่เหมือนกัน หลังจากนั้น 2 เดือนต่อมาเขาก็มาบอกว่า “ขอคุยในฐานะอื่นได้ไหม” หนูก็บอกเขาไปว่า “พอดีมีคนคุยแล้ว แล้วก็ไม่ได้คิดจะชอบเขา” เหมือนมันจะดีขึ้น แต่สักพักเขาก็มาชวนไปทานข้าว ส่งสติกเกอร์ ส่งไลน์ ส่งเพลงมาให้ บางทีหนูก็รำคาญแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาเป็นรุ่นพี่ เป็นหัวหน้างานเรา เคยปฏิเสธไปแล้ว แต่เขาก็ตึงๆ ใส่เรา บรรยากาศมันก็จะตึงๆ บางทีก็เลยยอมไปกับเขาด้วย แล้วเขายังเคยทักไปหาคนคุยเราว่าคุยกับเราจริงไหม? เขาบอกว่าเขาต้องการความชัดเจน แต่งานนี้เงินดี แล้วงานก็ดีมาก ก็เลยไม่อยากจะออก หนูอยากจะปรึกษาว่าควรจะทำยังไง หรือหาคำพูดยังไง หรือว่าควรบอกภรรยาเขาเลยดีไหม?’ โดย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่กำลังเป็นห่วงความปลอดภัย มันปลอดภัยแค่ไหนถ้าเราทำงานอยู่กับเขา 2 คน ถ้าเกิดเขาใช้กำลังกับเรา ถ้าแนะนำตอนนี้คือปฏิเสธให้เด็ดขาด สิ่งที่เขาทำให้อึดอัด แล้วเขาน่าจะเริ่มเข้ามาได้ไม่นาน ฉะนั้นเขาน่าจะไม่ได้มีความหวังอะไรมาก การไม่ไปกินข้าวกับเขาสองต่อสองเป็นการดับความหวัง เพราะการไปกินข้าวกับเขามันเป็นการให้เขามีความหวัง แล้วเขารู้ว่าเราเป็นคนใจอ่อน แล้วของทุกอย่างไม่ต้องรับ เราต้องไม่รับของเขาเพื่อทำให้เขารู้ในความชัดเจน ต่อให้เขาจะไล่หนูออกหรือว่าต้องหางานใหม่ พี่ว่าก็หางานใหม่ถ้าเขาจะไล่เราออกด้วยเหตุผลแค่นี้ ถ้าเขาให้เงินมาก็บอกไปว่าขอไม่รับ หนูรู้สึกอึดอัดหนูขอไม่รับดีกว่าหนูจะสบายใจกว่า การรับผลประโยชน์จากเขามันแปลว่าเรายอมรับนิดนึงแล้วต้องชัดเจน สำหรับพี่ถ้ายังเสียดายงานนี้ ก็ตีตัวออกห่างแสดงความชัดเจนเลย ผู้ชายคนนี้น่ากลัวมาก เราพูดไปเลยว่า “พี่คะ สิ่งที่พี่กำลังทำอยู่หนูอยากให้หยุดเพราะหนูอยากมาที่นี่เพื่อทำงาน แล้วหนูรู้สึกอึดอัด แล้วหนูก็รู้จักกับครอบครัวพี่ ถ้าพี่จะถามหาความชัดเจนระหว่างเราหนูขอปฏิเสธตรงนี้เลย ว่าหนูไม่ได้คิดอะไร สิ่งที่พี่ทำอยู่มันทำให้หนูรู้สึกไม่สบายใจ” ชัดเจนไปเลยต่อให้เราไม่มีแฟนเขาก็ไม่มีสิทธิ์มาทำอะไรกับเราแบบนี้’ ต่อมา “ดีเจอั๋น” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าหนูจะบอกภรรยาเขาหนูเตรียมหางานใหม่ ซึ่งถ้าหนูคิดว่าจะหางานใหม่อยู่แล้วก็ไม่ต้องไปบอกภรรยาอยู่ดี พี่ว่าไม่จำเป็นต้องไปถึงขั้นนั้น ถ้าเขาจะให้เงินเรา เราก็บอกไปว่า “ถ้าพี่เห็นหนูทำงานดี พี่ให้เป็นโบนัสเลยตอนปลายปี” จริงๆ นี่คือคุกคามอย่างชัดเจน และคุกคามโดยเอาหน้าที่การงานมากดทำให้เราอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถปฏิเสธ แล้วก็เราพูดไปเลยว่า “แล้วถ้าบังเอิญหนูทำอะไรให้พี่เข้าใจผิดไปว่าหนูมีใจ หนูขออภัยด้วยค่ะ แล้วสิ่งสุดท้ายที่หนูจะทำในชีวิต คือการยุ่งกับคนมีเจ้าของแล้ว เพราะมันเป็นบาปค่ะ” แต่พี่ว่ายังไงเราควรหางานอื่นสำรองไว้’ และสุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘หนูเริ่มต้นงานอื่นได้ พี่ว่าสิ่งที่เขาทำมันเกินไปแล้ว พื้นที่ส่วนตัวของเรา มันคุกคามแล้วก็ยิ่งเขาชัดเจนว่าขอดูแลเราพี่ว่าเขาไม่ได้หวังดีกับเรา ไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นได้ขนาดไหน ถ้าเขายังขนาดนี้ ทั้งที่เขามีลูกมีเมียอยู่แล้ว พี่ว่าหนูไปทำงานที่อื่นสำหรับพี่ แล้วยืนยันไปว่าหนูไม่มีอะไรมากกว่าการทำงานเลย น้องเอต้องคิดดีๆ พี่ว่าอย่าละเลยต้องระวัง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่ นิสัยส่วนตัว ชอบผูกมิตร เลยซื้อของกินไปฝากพี่ๆรปภ. แต่เอาให้คนนึง อีกคนก็แซวว่า มีสาวเอาข้าวมาให้ด้วย ทั้งๆที่เราบอกว่า "แบ่งๆกันกินได้เลยนะคะ" หลังจากนั้นโดนแซวทุกครั้งที่เข้าออกคอนโด จนรู้สึกอึดอัด

15 ก.ค. 2024

ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่ นิสัยส่วนตัว ชอบผูกมิตร เลยซื้อของกินไปฝากพี่ๆรปภ. แต่เอาให้คนนึง อีกคนก็แซวว่า มีสาวเอาข้าวมาให้ด้วย ทั้งๆที่เราบอกว่า "แบ่งๆกันกินได้เลยนะคะ" หลังจากนั้นโดนแซวทุกครั้งที่เข้าออกคอนโด จนรู้สึกอึดอัด

ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่ นิสัยส่วนตัว ชอบผูกมิตร เลยซื้อของกินไปฝากพี่ๆรปภ.แต่เอาให้คนนึง อีกคนก็แซวว่า มีสาวเอาข้าวมาให้ด้วย ทั้งๆที่เราบอกว่า"แบ่งๆกันกินได้เลยนะคะ" หลังจากนั้นโดนแซวทุกครั้งที่เข้าออกคอนโดจนรู้สึกอึดอัด ถ้าแจ้งนิติ จะมีผลอะไรกับเราในอนาคตไหมคะ หนูกลัว “คุณต.น. (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [10 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับที่มีปัญหากับรปภ.ที่คอนโด เพราะเขาชอบแซว โดย “คุณต.น. (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูพึ่งย้ายมาอยู่คอนโดใหม่นี้ได้ 2 เดือน ซึ่งนิสัยส่วนตัวหนูเป็นคนชอบผูกมิตร หนูเลยชอบซื้อของไปฝากพี่รปภ.อยู่บ่อย ๆ เพราะพี่ ๆ เค้าดูแลเรา หนูก็อยากทำดีด้วย ตอนที่เอาของไปฝากก็จะมีพี่รปภ.ประมาณ 2 คน หลัก ๆ จะเป็นพี่รปภ.ตัวเล็ก แต่พักหลัง ๆ จะมีพี่รปภ.ตัวใหญ่ เขาชอบเดินไปแซวพี่รปภ.ตัวเล็กประมาณว่า “มีสาวซื้อของมาฝาก” ซึ่งหนูเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบโดนแซว จนหลัง ๆ มันเริ่มหนักขึ้น คือ หนูแค่เดินผ่านทักทายพี่รปภ.ตัวเล็ก เค้าก็จะเริ่มแซวแล้ว มีครั้งหนึ่งแปลกมาก หนูเอารถไปจอดที่ข้างตึก พี่รปภ.ตัวใหญ่ก็มาโบกรถให้ พอหนูลงจากรถเค้าก็ถามหนูว่าหนูเป็นลูกบ้านรึเปล่า มีสติ๊กเกอร์คอนโดมั้ย ทั้ง ๆ ที่เค้าก็เคยแซวหนู หนักสุดคือตอนหนูลงไปเอาข้าว พี่รปภ.ตัวใหญ่ที่เปิดประตูกระจกให้ลูกบ้านคนอื่นอยู่ พอเห็นหนูเขาก็ปิดใส่ หนูเลย หนูอยากถามพวกพี่ๆดีเจว่า หนูควรจัดปัญหายังไง? ถ้าหนูไปแจ้งนิติมันจะมีผลต่ออนาคตรึเปล่า? หรือหนูควรจัดการความคิดยังไงดี?’ โดย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘นี่ยังหาเหตุผลไม่เจอเลยว่ารปภ.ตัวใหญ่เขาจะมาวุ่นวายอะไร และไม่ชอบอะไร หรือว่าหนูให้ของฝากไม่ทั่วถึงหรอ แต่พี่ว่ามันต้องมีสาเหตุที่คน ๆ หนึ่งจะไม่ชอบเรา ถ้าสมมติการซื้อของไปฝากให้รปภ.แล้วมีปัญหาขนาดนี้พี่ว่าไม่ต้องให้ และถ้าปัญหานี้มันทำให้หนูหงุดหงิดใจ และไม่ชอบกับการที่ต้องไปแล้ว แล้วไปเผชิญกับคนเหล่านี้ไม่ต้องซื้ออะไรไปฝาก และวางตัวห่าง ถ้าเราทักละมีปัญหาก็ไม่ต้องทัก’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘รายงานไปเลยว่าเขาพูดแบบนี้ บอกนิติไปเลย เค้าจะจัดการเอง หนูต้องยุติเรื่องซื้อของฝาก เพราะถ้าเอาจริง ๆ เค้าก็ไม่ทักกันด้วยซ้ำ นอกจากจะมีเรื่องให้ช่วยเหลือ’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘บอกนิติว่าให้ดูแลพฤติกรรม เราอยู่เหนือกว่าเค้าเราเป็นลูกบ้าน เค้าต้องดูแลเทคแคร์เรา และหนูต้องวางตัวใหม่’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบกับแฟนมา 10 ปี เพิ่งได้ฟังไฟล์เสียงบันทึกการโทรอัตโนมัติจากมือถือแฟนที่เขาคุยกับครอบครัว ครอบครัวแฟนไม่ชอบเราเลย ด่าเราว่า ... “ไม่ช่วยทำอะไรให้บ้านแฟนเลย ไม่ดูแลยาย มาอยู่เฉยๆ”

04 ก.ค. 2025

คบกับแฟนมา 10 ปี เพิ่งได้ฟังไฟล์เสียงบันทึกการโทรอัตโนมัติจากมือถือแฟนที่เขาคุยกับครอบครัว ครอบครัวแฟนไม่ชอบเราเลย ด่าเราว่า ... “ไม่ช่วยทำอะไรให้บ้านแฟนเลย ไม่ดูแลยาย มาอยู่เฉยๆ”

คบกับแฟนมา 10 ปี เพิ่งได้ฟังไฟล์เสียงบันทึกการโทรอัตโนมัติจากมือถือแฟนที่เขาคุยกับครอบครัวครอบครัวแฟนไม่ชอบเราเลย ด่าเราว่า ... “ไม่ช่วยทำอะไรให้บ้านแฟนเลย ไม่ดูแลยาย มาอยู่เฉยๆ”ทั้งๆที่หนูทำมาตลอด หนูเลยเปิดใจไปคุยกับผู้ชายอีกคน ที่มาเป็นที่ปรึกษาหัวใจให้กับหนูจนตอนนี้เริ่มรู้สึกดีต่อกันและกัน เขาอยากได้สถานะจากหนูแล้ว แต่หนูก็ยังไม่ได้เลิกกับแฟน เพราะคิดว่าแฟนไม่ได้ผิดอะไรถ้าหนูคบกับเขาต่อครอบครัวเขาก็ไม่ชอบหนูอยู่ดี หนูจะเลือกทางไหนดี ?? “คุณบี (นามสมมติ)” อายุ 31 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [2 ก.ค 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจก็อตจิ - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับเรื่องครอบครัวแฟนไม่ชอบเรา โดย “คุณบี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘บีกับแฟนคบกันมาประมาณ 8 – 9 ปี ครอบครัวเขาโอเคกับเรามาทุก ๆ อย่างในระยะเวลาที่คบกัน แต่มามีช่วงหนึ่ง คือ วันนั้นเหมือนที่บ้านเขาน่าจะพูดอะไรกับเขามา เขามีเกริ่น ๆ กับบีมาประมาณว่า “ไม่ช่วยอะไรที่บ้านเลยหรอ” แต่ตัวบีเองก็ไม่ได้พูดอะไรกับเขา แต่บีตงิดใจว่ “เอ๊ะ มันผิดสังเกตจัง” ในตอนนั้น บีจึงได้ไปดูในโทรศัพท์เขา ซึ่งโทรศัพท์เขาสามารถบันทึกเสียงการโทรเข้า – ออกได้ ทำให้บีได้เปิดฟังสายของแม่และน้องสาวเขา และได้ยินมาคำนึงประมาณว่า “ตอนที่อยู่ที่บ้านเขา เราไม่เคยช่วยอะไรที่บ้านเขาเลย’ แต่บีก็ไม่ได้อะไร เพราะบีรู้อยู่แล้วว่าความในใจเขาคืออะไร ปกติบีจะช่วยบ้านเขาทุกอย่าง แล้วพอวันหนึ่งที่บีไปเปิดบันทึกเสียงในโทรศัพท์เขา คือบีก็เปลี่ยนไป จากที่เคยทำทุกอย่างก็ไม่ทำ แม่เขาตำนิบีตั้งแต่ก่อนหน้านี้ที่บีช่วยเขาทำทุกอย่าง เขาน่าจะพูดไม่จริงกับลูกชายเขา จึงทำให้บีคิดว่า “เอ๋ ถ้าเกิดว่าจากที่เราเคยทำ ทำแล้วมันไม่ได้ดีอะ โอเค เราก็ไม่ทำเนอะ” บีได้บอกกับแฟนไปว่า “บีขอกลับไปทำบริหารธุรกิจ เพราะว่าตอนนี้ธุรกิจบีมีปัญหา” แต่จริง ๆ แล้วความจริงไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่บีอ้างไปแบบนี้ เพื่อที่จะได้กลับไปอยู่กับตัวเองก่อน คราวนี้เขาจึงมองว่าเราเปลี่ยนไป เช่น เราไม่กลับบ้านกับเขาเหมือนเดิม จริง ๆ แล้วบีกับเขายังไม่ได้แต่งงานกัน แต่ว่าไปอยู่บ้านเขาก่อนหน้านี้ช่วงระยะเวลา 3 เดือน เพราะว่าประจวบเหมาะกับแม่เขาป่วยพักฟื้นที่บ้านพอดี บีจึงได้ไปช่วยทางบ้านเขาในช่วงนั้น ทั้งงานบ้าน และอื่น ๆ ในบ้านเขาเลย กระทั่งเดินทางมาถึงจุดพีคคือ บีกับมาอยู่กับตัวเองประมาณหนึ่งอาทิตย์ แล้วดันมีคน ๆ หนึ่งเข้ามาในชีวิต ซึ่งคนนี้เขาก็รู้ว่าบีเริ่มมีปัญหากับแฟน เพราะเขาเป็นเพื่อนในแอป ๆ หนึ่งของบี และเขาก็รู้เรื่องที่บีกับแฟนไม่ได้แต่งงานกัน เหมือนเขาแอบดูเราอยู่ห่าง ๆ ตลอด จากนั้นเขาคนนี้เหมือนมาจีบบี มาหาบีที่ที่ทำงาน เขามาทำให้บีรู้สึกดี มาเป็นที่ปรึกษาได้ทุกอย่าง ทำให้บีรู้สึกดีกับเขา แต่ตอนนี้ติดตรงที่บีกับแฟนยังไม่ได้เลิกกัน พอเขาเข้ามา บีเหมือนอยู่ตรงกลาง บีจึงเริ่มถอยห่างกับเขา ตอนนี้บีสับสนว่าเราจะเอายังไงกับชีวิตตัวเองดี จริง ๆ ตอนนี้บีกับแฟนยังคงคุยกันตามปกติผ่านช่องทางออนไลน์ อีกทั้งถ้ามีไปออกงานแต่ง งานบวช หรืองานเลี้ยงที่ทำงานเขา บียังคงมีไปด้วยกันบ้าง แต่ทำเพราะหน้าที่เฉย ๆ ซึ่งถ้าถามว่าคนเก่าผิดตรงไหน บีคิดว่า ถ้าในวันหนึ่งต้องให้เขาเลือก บีคิดไว้เลยว่า ยังไงเขาคงต้องเลือกครอบครัวเขาก่อนอยู่แล้ว ไม่ได้เลือกบี ส่วนคนใหม่บีก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะเลือกเราไหมเพราะ อย่างแรกคือบีกับเขาพึ่งคุยกัน แล้วมันรู้สึกดีแค่นั้นเลย และตอนนี้บางทีบีก็อยากไปกับคนใหม่ แต่บางทีก็คิดว่าคนเก่าก็ไม่ได้มีนอกใจหรืออะไร บีเลยสงสัยว่าถ้าบีทำแบบนี้ บีจะผิดกับเขาไหม และคำถามของบีคือ ถ้าบีไม่เลือกใครสักคนแล้วกลับมาอยู่กับตัวเอง บีจะเห็นแก่ตัวไหม’ โดยดีเจทั้งสามคน (ดีเจเผือก - ดีเจก็อตจิ - ดีเจต้นหอม) ให้คำปรึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘บีอยากเลิกกับคนเก่า แต่คนใหม่เข้ามาในจังหวะที่พอดีที่เรากำลังรู้สึกว่าเบื่อหน่าย แต่ที่เข้ามาใหม่ก็ยังไม่ถูกใจหรอก เพียงแค่ว่าไม่อยากอยู่คนเดียว อยากให้ทำเป็นสเต็ปก่อน เคลียร์ไปทีละคน ถ้ารู้ว่าคนเก่าเราไม่เอาแล้ว เราควรหาเหตุผลเคลียร์คนเก่าก่อน ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องนอกใจ แค่มีความรู้สึกว่าวันนี้เราไม่อยากอยู่ในฐานะนี้ ก็แค่แยกกัน ใครที่ไม่ใช่แน่ ๆ ก่อนแค่เคลียร์ออกไป และสุดท้ายคำถามที่ว่า “มันจะเห็นแก่ตัวไหม” คนเรามันก็ต้องรักตัวเองไหม ใครจะอยากทนอยู่ในบ้านที่เขาไม่ได้ต้อนรับเรา และในจังหวะที่เรายังศึกษา ยังคุย ยังเลือกหากันอยู่ ก็คงไม่แปลกที่เราจะทำเพื่อตัวเอง แต่ว่าการเห็นแก่ตัวแบบนี้ ถ้าจะทำให้มันแฟร์คือ อย่าไปเลี้ยงไข้ใครไว้ ถ้าคนใหม่ยังไม่ใช่ก็ไม่ควรไปให้ความหวังกับเขาว่า “เดี๋ยวฉันจะมาเป็นแฟนเธอ” ไม่งั้นจะกลับกลายเป็นว่าเราจะทำไม่ดีกับทั้งผู้ชายถึงสองคน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1