พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

สาวเครียด! พ่อกับป้าทะเลาะกัน จนป้าออกจากบ้าน ไปอยู่บ้านพี่สาว แต่ก็อยู่ไม่ได้ ย้ายไปอยู่ห้องเช่าคนเดียว ก็เป็นซึมเศร้า ย้ายไปอยู่โฮมแคร์ ก็อยู่ไม่ได้เพราะทะเลาะกับคนในนั้น! ตอนนี้สุขภาพจิตแย่ เพราะทุกครั้งที่คุยกับป้า เขาจะด่าพ่อกับแม่ให้ฟังแทบจะตลอดเวลา

27 พ.ย. 2023

สาวเครียด! พ่อกับป้าทะเลาะกัน จนป้าออกจากบ้าน

ไปอยู่บ้านพี่สาว แต่ก็อยู่ไม่ได้ ย้ายไปอยู่ห้องเช่าคนเดียว ก็เป็นซึมเศร้า

ย้ายไปอยู่โฮมแคร์ ก็อยู่ไม่ได้เพราะทะเลาะกับคนในนั้น!

ตอนนี้สุขภาพจิตแย่ เพราะทุกครั้งที่คุยกับป้า เขาจะด่าพ่อกับแม่ให้ฟังแทบจะตลอดเวลา

เขาเหลือเราแค่คนเดียว ถ้าไม่อยากคุยกับป้าจะดูแย่รึป่าว...

            “คุณหนู (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (22 พ.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม กับปัญหาครอบครัวที่พ่อกับป้าระหองระแหงกัน จนทำให้รู้สึกลำบากใจ

            โดย “คุณหนู (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตอนแรกบ้านหนูอยู่กัน 5 คน คือ หนู , พ่อ , แม่ , คุณป้า (พี่สาวพ่อ)  และน้องชาย ทีนี้เหมือนความสัมพันธ์ของป้ากับพ่อแม่ไม่ค่อยดีมานานแล้ว มีเหตุการณ์ที่พ่อว่าป้าแรง ๆ ทำให้วันนั้นป้าขอออกจากบ้านไป ซึ่งหนูเป็นคนกลาง ประกอบกับหนูก็สนิทกับป้าที่สุดในบ้าน ป้าเขาก็เลยจะคอยมาเล่าเวลาพ่อกับแม่ทำอะไรไม่โอเค หรือบางทีพ่อกับแม่ทำอะไรที่ไม่โอเคกับเขา เขาก็จะเอามาเล่าให้หนูฟัง หลังจากที่เขาออกจากบ้านหนูไป ป้าเขาก็ย้ายออกไปอยู่กับพี่สาวแท้ ๆ ด้วยกันอีกคนนึง แต่เหมือนอยู่ไม่ได้  เขาอยากกลับมาอยู่ที่บ้านมากกว่า เขารอพ่อมาง้อแต่พ่อหนูเขาก็ไม่ไปง้อ เพราะพ่อบอกว่า “ป้าเขาออกไปเอง ไม่ได้ไล่”

            ต่อจากนั้นป้าเขาก็ย้ายไปอยู่ห้องเช่าคนเดียว เป็นเหมือนหอพัก ก็ตามสไตล์คนแก่เขาไม่เคยอยู่คนเดียวมาก่อนตลอด 60 ปี พอไปอยู่ก็เหมือนเป็นโรคซึมเศร้า ก็เลยไปอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชมาเดือนนึง ทีนี้พอออกมา เขาก็พูดว่า “ถ้าเขาอยู่ไม่ได้อีก จะยอมไปอยู่โฮมแคร์ (บ้านพักคนชรา) แล้ว” เพราะว่าตอนแรกหนูอยากให้เขาไปอยู่โฮมแคร์มากกว่า อย่างน้อยมันก็มีคนดูแล แล้วสุดท้ายพอออกมาประมาณ 1 เดือนก็อยู่ข้างนอกไม่ได้ เลยยอมไปอยู่โฮมแคร์

            ช่วงระยะเวลาก่อนหน้านี้ ตอนที่เขาพึ่งออกไปจากบ้าน และก็ก่อนที่จะไปเข้าโรงพยาบาลจิตเวช ป้าเขาจะโทรหาหนู มาว่า มาด่าพ่อกับแม่ให้หนูฟังทุกวัน แทบจะตลอดเวลาเลย ทำให้หนูรู้สึกเครียดและไม่อยากจะรับสายเขา แต่พอเขาย้ายเข้าไปอยู่โฮมแคร์ เหมือนเขาก็บอกว่ามันก็โอเคนะ แต่พออยู่มาได้ซักพักนึงป้าเขาก็บ่นว่าอยากออกแล้ว เพราะเหมือนเค้ามีปัญหากับคนในนั้น ตอนนี้เขาบอกว่าอยากจะออกมาอยู่หอข้างนอกเหมือนเดิม

            แม่ก็เคยถามว่าอยากจะให้เขากลับมาอยู่มั้ย? ซึ่งก่อนหน้านี้หนูก็ไม่ค่อยรู้ตัวเองเท่าไหร่ มันจะมีช่วงที่หนูไม่ค่อยอยากอยู่บ้าน แล้วพอมาช่วงหลัง ๆ หนูมานั่งทบทวนดู คือทุกครั้งที่ป้าเขาเจอหน้าหนูจะต้องว่าพ่อกับแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ด่าให้หนูฟัง มันทำให้หนูรู้สึกไม่อยากคุยกับเขา แต่หนูก็รู้ว่าเขามีแค่เรา มันเลยเหมือน “คุยก็เครียด ไม่คุยก็เครียด”

            หนูอยากจะถามว่า “หนูควรที่จะเปลี่ยนความคิดตัวเองมั้ย คือเขาก็แก่แล้ว และหนูก็พยายามคิดว่าเขามีเราแค่คนเดียว” แต่ที่หนูไปหาจิตแพทย์ เขาก็บอกว่าให้เราเอาตัวเองเป็นหลักถ้าเรารู้สึกไม่ดี หนูเลยคิดว่า หรือว่าเขาควรจะอยู่ในโฮมแคร์ต่อมั้ย คือหนูอยากรู้ความคิดเห็นพี่ ๆเฉยๆ ว่าคิดยังไงกัน...

            ซึ่ง “คุณหนู (นามสมมติ)” ได้เล่าเพิ่มเติมว่า ‘นิสัยอื่น ๆ ของคุณป้าก็นิสัยดี แต่แค่รู้ว่าเขาเป็นช่วงวัยทองเฉย ๆ ส่วนเรื่องที่มีปัญหากับที่โฮมแคร์ เหมือนว่ามีคนในนั้นเป็นผู้ป่วยติดเตียงชอบเปลี่ยนผ้าอ้อมตอนที่คนอื่นเขากำลังกินข้าวกัน แล้วเหมือนกับว่าป้าหนูเขาก็ไม่พอใจเพราะมันเหม็น เจ้าหน้าที่ก็เคยพูดกับคนที่ติดเตียงคนนี้ไปแล้วว่า “ไว้ค่อยเปลี่ยนได้มั้ย” คนนั้นเขาก็ไม่ยอม ซึ่งคนที่ติดเตียงเขาอยู่มาก่อนเลยมีพรรคพวกในนั้นเยอะ ป้าหนูเขาเลยเหมือนทะเลาะและโดนรุม คือเขาบอกว่าเขาจะไม่ไปอยู่โฮมแคร์ที่ไหน ๆ อีกแล้ว เขาบอกว่าที่ไหน ๆ ก็เหมือนกัน

            แต่ว่าหนูมองว่า ถ้าเป็นราคาที่มันสูงกว่านี้ขึ้นมา มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรอย่างงี้ แต่ว่าด้วยสถานะทางการเงินไม่ได้เอื้ออำนวยเราขนาดนั้น คือ คุณป้าจะมีพี่สาวของคุณป้าที่ให้เงินแต่ละเดือนทุกเดือนอยู่ ตอนแรกป้าหนูเขาจะใช้เงินที่เก็บไว้ แต่ว่าช่วงที่เขาไปอยู่กับพี่สาว แล้วพี่สาวเขาไม่โอเค ให้ออกอะไรแบบนี้ เขาก็โทรมาคุยกับพ่อหนูว่าเดี๋ยวจะให้เดือนละเท่านี้ ๆ นะ “พาป้ากลับไปได้มั้ย” เพราะพี่สาวป้าเขาก็พึ่งหายจากมะเร็ง ลูกเขาก็ไม่อยากให้เขาเครียดด้วย    

            พ่อหนูเขาก็ไม่ค่อยอยากให้ป้ากลับมาอยู่บ้านเหมือนกัน เพราะเหมือนพ่อมองว่าป้าทำให้น้องชายหนูทำอะไรเองไม่เป็น แต่จริง ๆ หนูมองว่าปัญหามันก็เกิดจากทุกคนในบ้าน ซึ่งหนูไปอยู่หอตั้งแต่อายุ 13 ก็เลยไม่ได้สนิทใกล้ชิดกับคนในบ้านขนาดนั้น แล้วเหมือนแม่กับป้าก็สปอยน้องขั้นสุด จากที่หนูคิด ป้าหนูก็ช่วยน้องเกินไปจริง ๆ น้องหนูอายุ 21 ป้ายังช่วยจัดกระเป๋าไปมหาลัยให้อยู่เลย หรือแม้แต่ตอนนี้น้องหนูยังนั่งรถเมล์เองไม่เป็นเลย แต่ทุกวันนี้ที่ป้าไม่อยู่ น้องเขาก็ทำด้วยตัวเองเพราะหนูไม่ช่วย ก็เห็นว่าน้องก็ทำได้ “กำลังคิดว่าหนูมองเขาในแง่ร้ายเกินไปมั้ย ทำกับเขาแย่รึเปล่า ที่ไม่อยากรับสายเขา ไม่อยากคุยกับเขา ทั้ง ๆ ที่เขาก็เหลือเราแค่คนเดียว”

            ด้าน “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เรื่องที่ว่าหนูมองโลกในแง่ร้ายจนรู้สึกกับเขาแบบนั้น เท่าที่พี่ฟังมา ถ้าพฤติการณ์รอบข้างเป็นแบบนี้ ถ้าเขาไปอยู่ที่ไหนแล้วคนก็จะไม่อยากอยู่กับเขา แสดงว่าเขาก็คงจริง ๆ แหละที่ทำให้หนูรู้สึกแบบนี้ จนหนูต้องไปคุยกับคุณหมอ พี่ว่ามันมีมูลแหละ หนูคงไม่ได้อยากรู้สึกไปเอง เพราะตอนนี้เหตุการณ์มันก็ชัดเจนว่าไปอยู่กับใครก็มักจะมีปัญหา พี่คิดว่าน่าจะให้เขาไปอยู่บ้านพักคนชราเพราะกลัวว่าถ้าไปอยู่คนเดียวจะซึมเศร้าอีก แล้วมันอาจจะนานไปจนสายเกินแก้พี่ว่ามันมีผลกระทบเยอะกว่าการไปอยู่บ้านพักคนชรา คือตอนนี้มันอยู่ที่ว่าเขาปรับตัวกับคนอื่นไม่ได้ แต่ถ้าเงื่อนไขในชีวิตเขา เขาไม่มีที่ไปแล้ว หนูก็ต้องคุยกับเขาให้ได้ว่าเขาจะต้องปรับตัวอยู่ให้ได้ เพราะบ้านพักก็มีเพื่อน มีอาหารต่าง ๆ ให้ ซึ่งมันก็ดีกว่าการไปอยู่หอพักคนเดียว เราอาจจะต้องคุยกับเขาให้เขาเห็นว่าเราหวังดีกับเขา บอกเขาตรง ๆ’

            ต่อมาเป็น “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ป้า ป้าต้องฟังนะป้าต้องทบทวนก่อนว่าทำไมมันเกิดอะไรขึ้นในชีวิตป้าจนป่านนี้ ทำไมป้าถึงอยู่กับใครไม่ได้ ป้าต้องมีเวลาทบทวนตัวเองหรือคุยกับตัวเอง ไม่งั้นป้าจะย้ายที่จนไม่มีที่สิ้นสุด ป้าจะย้ายไปเรื่อย วันนี้ปัญหา คือ ป้าไม่สามารถอยู่กับใครได้ ป้ากำลังเล่นบทผู้ถูกกระทำ คนรอบข้างกระทำป้าทั้งหมด วันนี้ไหน ๆ ป้าอยู่บ้านพักคนชรา อยากให้ป้าทบทวนว่าเราสามารถปรับตัวอะไรได้บ้าง ป้าเป็นคนเก่ง ใช้ความเก่งของตัวเองในการปรับตัวให้อยู่กับคนอื่น มันไม่มีใครที่ทำอะไรถูกใจเราทั้งหมดหรอก แต่เราต้องอยู่บนโลกใบนี้ให้ได้ เราต้องอยู่บนที่นี้ให้ได้

            ฉะนั้นเราลองปรับเปลี่ยนตัวเองดูมั้ย ลองปล่อยวางดูมั้ย เผื่อว่าอะไรดี ๆ มันจะดีขึ้น บอกป้าเขาอย่างงี้ บอกให้ป้าได้คิด เพราะจากเสียงหนูแล้ว หนูเป็นคนที่ยอมป้าทุกอย่าง แล้วหนูเป็นคนที่แบบเหมือนเป็นฟูกให้กับป้า “มีอะไร ก็มาล้มทางนี้” นี่คือฟูกชิ้นสุดท้ายแล้วป้า ก่อนที่ป้าจะเสียหนูไปอีกคน เพราะหนูบอกแล้วว่าหนูไม่ต้องการพลังงานลบ หนูจะรู้สึกดีใจ และภูมิใจมากที่ป้ายังอยู่ที่นี่อยู่ร่วมกับคนอื่นได้ และมันก็เป็นประโยชน์กับชีวิตป้า แล้วพอป้าจะขอพูดเรื่องนั้น ให้บอกป้า หยุดดดดด! ไม่ต้องพูด ให้ป้าคิดก่อนว่าสิ่งที่ป้าจะพูดออกมานั้นคนอื่นเสียหายหรือไม่ ถ้าเกิดว่าสิ่งที่ป้าพูด คนอื่นเสียหายป้าไม่ต้องพูดหรือลืมมันไป วันนี้ต้องการโทรแค่ “ป้ากินข้าวยัง สบายดีมั้ย” ต้องการแค่นี้ อยากได้แค่ความห่วงใยในมุมบวก เราควรมาแลกซึ่งกันและกัน และถ้าเกิดว่าป้าปรับตัวสามารถเข้ากับคนอื่นได้ วันนึงป้าอาจจะกลับมาอยู่ในบ้านเราก็ได้นะ แต่ถ้าเราไม่อยากให้เขากลับมาก็อย่าพูดประโยคนี้ออกไป’

            และสุดท้ายเป็น “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เอาตัวเองให้รอดก่อน ยุคนี้เอาตัวเองให้ตลอดรอดฝั่งโดยไม่ต้องกังวลอะไรก็ยากแล้ว ในเวลาแบบนี้เราจะแบกเขาไปได้ถึงไหน ก็คือจะดูแลไปตลอดเลยมั้ย ถ้าคุณหนูมีกำลังและสามารถดูแลได้ ก็ทำได้ตามความต้องการ แต่เท่าที่ฟังมาก็ดูเหมือนจะไม่ได้ เราก็มีคุณพ่อคุณแม่ของเราที่เราจะต้องดูแล ช่วยเหลือเท่าที่เราจะช่วยเหลือได้

            การที่ป้าไปอยู่โฮมแคร์แล้วเราก็ต้องช่วยเหลือ คือ เราก็ช่วยเหลือตรงนั้นได้ แต่หมายความว่าจะเอาเขามาอยู่ในชีวิตเราตลอดก็คงเป็นไปไม่ได้ แล้วเวลาจะช่วยเหลือใคร เราเองก็ต้องสบายใจด้วย ถ้าเราไม่สบายใจเราจะมีกำลังไปช่วยเหลือเขาได้ยังไง ถ้าการมีอยู่ของเขามันทำให้เราสภาพจิตใจไม่ดีเลย แล้วมันดีจริง ๆ เหรอกับการที่หยิบยื่นมือไปช่วยเขาแล้วเราก็เจ็บเอง

            พี่เชื่อว่าการจะช่วยเหลือใคร ตัวเราต้องสบายใจก่อน สบายใจปุ๊บ จิตมันก็ดี เราก็มีกำลังที่จะช่วยเหลือกัน แต่เท่าที่ฟังดูเรื่องที่เปลี่ยนผ้าอ้อมตอนกินข้าวมันก็พอมีเหตุมีผลอยู่ แต่ว่าพอพิจารณาจากทั้งชีวิตเขาแล้ว มันก็น่าแปลกที่เขาจะมีปัญหาตลอดทางจริง ๆ แล้วก็เชื่อว่าต่อให้ด่าไปก็ไม่น่าเปลี่ยน คิดว่าด่าไป เขาก็จะงอนแล้วก็จะหาย สิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้มา 60 ปีแล้ว มันกลายเป็นตัวเขาไปแล้ว มันคงยากที่เขาจะเปลี่ยนแล้ว เขาไม่ได้เกิดมาพร้อมทัศนคติที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เข้ากับคนอื่น ๆ ด้วย ซึ่งถ้าเขาไม่เปลี่ยนและเราไม่ไหว ก็เอาเท่าที่เราไหว’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบแฟนได้ 6 เดือน แฟนบอกว่ามี FWB กับผู้หญิงอีกคน ตอนแรกคิดว่าพูดเล่น หลังๆเริ่มชวนไปกินข้าวกัน 3 คน แฟนหนูสั่งน้ำโปรดให้เขา ตักข้าวให้เขา จนหนูรู้สึกว่า "เรายังเป็นแฟนอยู่ไหม" พีคสุด เจอแชทเขาคุยเสียวกัน

10 พ.ค. 2024

คบแฟนได้ 6 เดือน แฟนบอกว่ามี FWB กับผู้หญิงอีกคน ตอนแรกคิดว่าพูดเล่น หลังๆเริ่มชวนไปกินข้าวกัน 3 คน แฟนหนูสั่งน้ำโปรดให้เขา ตักข้าวให้เขา จนหนูรู้สึกว่า "เรายังเป็นแฟนอยู่ไหม" พีคสุด เจอแชทเขาคุยเสียวกัน

คบแฟนได้ 6 เดือน แฟนบอกว่ามี FWB กับผู้หญิงอีกคน ตอนแรกคิดว่าพูดเล่นหลังๆเริ่มชวนไปกินข้าวกัน 3 คน แฟนหนูสั่งน้ำโปรดให้เขา ตักข้าวให้เขาจนหนูรู้สึกว่า "เรายังเป็นแฟนอยู่ไหม" พีคสุด เจอแชทเขาคุยเสียวกันตอนนี้เขาบอกไม่ได้ยุ่งกันแล้ว หนูควรเชื่อและคบแฟนต่อดีไหม? “คุณมน (นามสมมติ)” อายุ 32 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [8 พ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหารักของเราสามคน เพราะแฟนของคุณมนแอบมี FWB ลับหลัง โดย ​“คุณมน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘มนมีแฟนอยู่คนหนึ่ง ซึ่งก่อนที่จะคบกัน คู่ของเราก็มีการพูดคุยดูใจกัน เหมือนคู่อื่น ๆ แต่ช่วงที่เรายังคุยกันอยู่ ทางฝ่ายชายก็ชอบเอ่ยปากว่า เขาอยากมีภรรยาสองคน แต่มนก็คิดว่าที่เขา พูดมันเป็นเรื่องขำ ๆ เพราะมนก็ถามเขาเกือบทุกครั้งว่า มันมีทางเป็นไปได้จริง ๆ หรอ ? เขาก็ตอบว่า ไม่มีอะไร เขาแค่ถามเล่น ๆ แค่ลองถามดู ซึ่งมนก็เป็นคนที่ไม่ได้คิดอะไรก็ลองคุยต่อไป ระยะเวลาก็ผ่านไป เราใช้เวลาคุยกัน 6 เดือน หลังจากนั้นก็เลยตัดสินใจคบกันดู ซึ่งตลอดระยะเวลาประมาณ 1 ปีที่คบกันมา มันเป็นความสัมพันธ์ที่ดีมาก เทคแคร์ ดูแล ใส่ใจกันมาตลอดทั้งเขาทั้งเรา แต่อยู่มาวันหนึ่ง เขาก็อยากพามนไปทานข้าวกับ “บี (นามสมมติ)” มนก็ถามเขาว่า บีเป็นใคร ? เขาก็เล่าให้ฟังว่า บีเป็น FWB กับเขามาก่อน เป็นแบบนี้มานานแล้ว และปัจจุบันนี้ ก็ยังเป็นอยู่ ซึ่งมนคิดว่า เขาคงอยากให้ความคิดของเขามันเป็นจริงมั้งคะ ความคิดที่ว่า… เขาอยากมีภรรยาสองคน ความพีคก็ คือ มนก็ตอบ ตกลง ยอมที่จะไปทานข้าวกับพวกเขา ซึ่งเป็นตัวของมนเองที่ปล่อยเลยตามเลย เพราะตอนนั้นมนแค่รู้สึกว่า ยังเลิกกับเขาไม่ได้ และ ยังรักเขาอยู่ และมนก็คิดว่า บนโลกใบนี้ ยังมีความสัมพันธ์อีกมากมายที่เรายังไม่รู้จัก ก็เลยอยากจะลองเปิดใจดูว่า มันอาจจะดีหรือว่ามันอาจจะเป็นไปได้หรือไม่ได้ อยากลองดูสักตั้งให้มันรู้ ดีกว่าปฏิเสธตั้งแต่ต้น หลังจากตกลงไปทานข้าวด้วยกัน มนก็ถามแฟนว่า ให้เราไปรับไหม ? เพื่อที่เราจะได้ไปร้านด้วยกัน เขาก็บอกว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวเขาไปเอง แต่พอมนไปถึงที่ร้าน มนกลับเจอเขามากับบีก่อนแล้ว พอถึงเวลาทานอาหาร มนก็นั่งข้างแฟน ส่วนบีก็นั่งฝั่งตรงข้าม ต้องขอเกริ่นก่อนว่า มนเป็นคนที่ชอบดื่มโคล่า ซึ่งมนก็คิดว่า บีก็ชอบดื่มเหมือนกัน แต่พอเริ่มสั่งอาหาร แฟนของมนกลับสั่งน้ำเปล่าให้มน แต่สั่งโคล่าให้บี มนก็เริ่มมีอารมณ์นิดหน่อยที่แฟนจำของเราไม่ได้ แต่กลับจำของบีได้ แต่มนก็ยังเดินอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์อยู่ คิดว่า เขาคงรู้จักกันมานาน ระหว่างที่ทานข้าวแฟนของมนก็ตักข้าวให้ทั้งตัวเราและบี สลับวนอยู่แบบนี้ตลอด ส่วนบทสนทนาบนโต๊ะอาหาร ส่วนใหญ่จะพูดถึงการทำธุรกิจ เพราะมนกับแฟนวางแผนกันว่า จะเปิดบริษัทร่วมกัน โดยตามหลักของการเปิดบริษัทจะต้องมีผู้ถือหุ้นทั้งหมด 3 คน ซึ่งมนก็คิดว่า ฝ่ายชายน่าจะวางแผนไว้แล้ว ว่าอยากจะให้เป็นตัวเขาเอง มน และบี เรื่องผู้ถือหุ้นในความรู้สึกของมน มนเฉยมาก ไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่ามนก็มีเรื่องที่รู้สึกน้อยใจ เพราะหลายอย่างที่แฟนมาขอความคิดเห็น เช่น รูปแบบโลโก้ หรือเรื่องภายในบริษัท แฟนกลับเลือกความคิดเห็นของบีมากกว่าของมน หลังจากนี้ เราก็เริ่มที่จะทะเลาะกัน เขาก็มีคำพูดที่ว่า จริง ๆ เราเลือกคนอื่นมาเป็นผู้ถือหุ้นก็ได้นะ ไม่จำเป็นที่ต้องเป็นเธอ และเธออย่าคิดว่า เรามาหลอกเธอ เพราะเธอจะไม่ถือหุ้นก็ได้ แต่เราต้องไม่เลิกกันนะ เรายังอยากมีเธออยู่ข้าง ๆ เรา ซึ่งการทำธุรกิจร่วมกันนี้ มนไม่มีการลงทุนลงเงิน เพราะมนรับผิดชอบด้านบัญชี ต้องลงแรง จึงไม่จำเป็นต้องลงเงิน ซึ่งมนไม่รู้ว่า เขาเข้าหามน เพราะทำบัญชีได้ เลยมาหลอกเอาผลประโยชน์ จากมนหรือเปล่า ? หลังจากที่กลับมาจากการรับประทานอาหารกัน มนก็มานั่งตกตะกอนความคิด ก่อนที่จะตัดสินใจคุยกับเขา อย่างเปิดใจว่า เรารู้สึกไม่โอเคกับความสัมพันธ์แบบนี้ เราไม่สามารถรับมือและไปต่อได้ เธอต้องเป็นคนเลือกแล้วว่า เธอจะอยู่กับเขา หรือเธอจะอยู่กับเรา ซึ่งถ้าเธอจะอยู่กับเรา เธอก็ไปเลิกกับเขามาให้ชัดเจน ไปหาหลักฐานหรืออะไรก็ตามมายืนยันให้ได้ว่า เธอได้เลิกกับเขาแล้วจริง ๆ หลังจากนั้น เขาก็ไปเคลียร์กันมา เขากลับมาบอกเราว่า เขาเลือกเรานะ แต่สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราพลาด คือ เขาแคปแชทมาให้ดูว่า เขาได้บอกเลิกกับทางฝั่งนั้นแล้ว และเราก็เลือกที่จะไม่ทักถามฝ่ายหญิง เพราะโดยปกติเราก็ไม่เคยเช็คโทรศัพท์ของกันและกัน จากนั้นมนก็กลับมาเชื่อใจและให้โอกาสเขาอีกครั้ง จนกระทั่งเข้าปีที่ 2 แฟนของเราก็เริ่มพูดถึงชื่อของบีเยอะขึ้น อย่างเช่น นั่งดูหนังกันอยู่ เขาก็จะพูดแล้วว่า เรื่องนี้บีบอกว่าสนุกนะ หรือว่า ข้าวร้านนี้บีบอกว่าอร่อยนะ ซึ่งเราเป็นสายนิ่งเงียบอยู่แล้ว เวลาได้ยินชื่อก็ทำนิ่งไว้ แล้วก็ตามน้ำเขาไปว่า อ๋อ เหรอคะ พอเขาหลับเราก็แอบเช็คมือถือ เราได้แต่ภาวนาคิดว่า เขาคงคุยกันเรื่องงานที่บริษัท แต่ภายในแชทกลับกลายเป็นว่า เขาคุยไปในทาง 18+ มีการส่งรูปลับหากัน ไม่ได้มีเรื่องงานปนอยู่เลย ณ วันที่เราเห็น เราก็รู้สึกช็อคมาก เหมือนกลับว่าจะเป็นลม ในคืนนั้นมนก็เก็บเสื้อผ้าออกไปนอนอยู่ที่โรงแรม 2-3 วัน และใช้เวลาอยู่กับตัวเอง แต่ก็ยังต้องไปทำงานอยู่ ความรู้สึกคือตีกันหนักหน่วงมาก พอได้สติเราเลยเลือกที่จะกลับไปคุย และถามเขาว่า มันเกิดอะไรขึ้น ? ซึ่งเหตุการณ์ตอนนั้นมันกลายเป็นสงครามแล้ว มนทะเลาะกับเขา และบีด้วย ฝ่ายชายก็บอกว่า มันไม่มีอะไร มันเป็นเพียงข้อความที่คุยกันเท่านั้น เขาไม่ได้ไปมีสัมพันธ์อะไรกันเลยตั้งแต่ตอนนั้น มันจบกันนานแล้ว เธอก็เห็นว่า เราก็อยู่ด้วยกันทุกวัน คุยจบมนก็เลือกที่จะทักหาบีต่อว่า ทำไมถึงคุยกันแบบนี้ คือถ้าผู้หญิงบอกว่าผู้ชายมาหลอกเขา เราจะได้ด่าผู้ชายคนเดียวให้จบ แต่ผลสรุปแล้ว บีก็รู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว บอกมนว่า ขอโทษที่พิมพ์ไปแบบนั้น ก็คนมันเคยคุยกันแบบนี้ แต่จะไม่คุยกันแบบนั้นอีกแล้ว แล้วก็ขอโทษเรา ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ มนก็ยังคบกับแฟนมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนเหตุผลที่มนไม่เลิก แม้ว่าจะเจอเหตุการณ์อะไรสารพัด เป็นเพราะฝ่ายชายเคยพูดว่า เราอยู่ด้วยกันมา เขาเทคแคร์ ดูแลเราดีมากเลยในสถานะของแฟน ซึ่งตรงนี้มนก็ไม่เถียง เขาก็เลยถามเราว่า เขาทำผิดแค่นี้เอง ทำไมมนถึงไม่มองข้อดีของเขาบ้าง ? แต่มนกลับรู้สึกว่า ที่เราอยู่ด้วยกันตอนนี้ มันเป็นเพราะความผูกพัน ซึ่งมนไม่รู้ว่าจะเดินออกมาจากเขายังไง หรือจริง ๆ แล้ว มนยังรักเขาอยู่ ? ซึ่งมนอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่า มนควรไปต่อหรือพอแค่นี้แบบ… เลิกกันไปเลย โดย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้ามนรู้สึกไม่โอเคกับการที่เขายังมีบีอยู่ มนก็ได้คำตอบแล้วว่า มนต้องเดินออกมา แล้วถ้ามนคิดว่าปัญหานอกใจเป็นเรื่องใหญ่ มนก็ไม่ต้องคิดแล้ว เดินออกมาเลย ซึ่งถ้ามนคิดว่า ความผิดมันสามารถหักล้างกับความดีของเขาได้ มนแน่ใจใช่ไหมว่า มนจะทนไหวกับสถานการณ์ แบบนี้ได้ไปตลอดชีวิต สรุปแล้วพี่ว่า มนกำลังสับสนในตัวเอง คือมนไม่ได้อยากเลิก แต่สิ่งที่เกิดขึ้น มนก็ไม่สามารถรับได้ มนก็แค่รอวันที่มนทนไม่ไหว จนมนต้องเลิก สมมติว่าวันนี้มนจะซื้อบ้านหนึ่งหลัง เหนื่อยมากอยากจ่ายก้อนไปเลย แต่วันนี้มนเลือกที่จะจ่ายดอกเบี้ยไปก่อนเรื่อย ๆ จนกว่ามนจะหมดแรง แต่บ้านมันยังดีที่มันเป็นของเรา แต่นี่คือมนจ่ายโดยไม่รู้เลยว่า สุดท้ายแล้วจะเป็นของเราหรือเปล่า ? เพราะเขาเองก็พยายามสื่อและบอกมนมาตลอดว่า เขาต้องการมี 2 คน เขาพยายามบอกมนแล้วตั้งแต่วันแรก เราแค่ไม่ได้ฟังเสียงเขาเอง คือเอาจริงก็ฟัง แต่ไม่เอามาคิด ไม่ยอมรับว่า เขาเป็นคนแบบนี้ ซึ่งคนนี้เขาไม่ใช่คนซื่อสัตย์ เพราะถ้าเขาซื่อสัตย์ เขาจะไม่เอา FWB มารู้จักกัน เขาจะตัดตั้งแต่ตอนนั้น ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง คือตอนนั้นเขาเผื่อฟลุ๊ค เผื่อว่า มนจะยอม แต่สรุปมนไม่ยอม แทนที่เขาจะตัด แต่เขาก็เลือกทำต่อแปลว่า เขาไม่ใช่คนซื่อสัตย์ ลองเทียบว่า อยู่คนเดียวกับการที่มีเขาอยู่อันไหนสบายใจกว่ากัน’ ต่อด้วย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ถึงถามไงว่า ถ้าพี่บอกให้เลิก คนทั้งอินเตอร์เน็ตก็บอกให้เลิก มนทำได้หรือเปล่า ? เพราะวันนี้มนเองก็ไม่ได้มีน้ำเสียงที่พี่รู้สึกว่า มนสามารถตัดสินใจเลิกได้ คือการที่เจอแบบนี้ 2 รอบ เป็นคนอื่นอาจจะไปแล้ว แต่ความอดทนนมนอาจจะสูงกว่า มนก็แค่ต้องอยู่ไปเรื่อย ๆ แบบที่พี่หอมบอก จนกว่ามนจะทนไม่ได้ เดี๋ยวมนก็เดินออกมาเอง เพราะความอดทนนของคนเราไม่เท่ากัน ของมนพี่ว่า น่าจะมีความทนทานสูงอยู่ แล้วก็ไม่ต้องไปคิดว่ายังรักหรือว่าผูกพัน มันไม่สำคัญ เพราะสุดท้ายแล้วมนก็ยังเลิกกับเขาไม่ได้ มนยังไม่ใจแข็งพอที่จะเลิกกับเขา ไม่ต้องถามหาสาเหตุ’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่มองว่า ช่วงระยะเวลา 2 ปีนี้มันยากก็จริง แต่ถ้าเทียบว่า ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้ แล้ววันหนึ่งเขาเป็นคนบอกเลิก อันนี้พี่ว่า ไปไม่รอดกว่า เพราะเราเป็นฝ่ายตาย คือตอนนี้มนมีสิทธิเลือก เลิกออกมาก็เจ็บพี่เข้าใจ แต่ถ้ามนจะรอวันนั้น วันที่เขาบอกว่า ออกไปได้แล้ว ซึ่งถ้าวันนั้นมาถึง มนจะไปไม่รอดมากกว่านี้อีก จะยิ่งซ้ำตายกว่านี้อีก เพราะตอนนั้นมนจะรู้สึกว่า ยอมมาขนาดนี้แล้ว แล้วยังมาโดนบอกเลิกอีก พี่ว่ามันเจ็บคนละแบบ แล้วถ้ามนอยากจะมีอนาคตกับผู้ชายคนนี้ คิดภาพแต่งงาน มีลูก แต่มนก็ยังต้องทนกับผู้หญิงคนนี้ตลอดเวลา หรือจะมีผู้หญิงคนอื่นอีก แล้วเราจะยังแข่งอดทนกับบีอยู่เหรอ ?’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

การที่หนู ทักคนคุยเก่าไปอวยพรวันเกิด สวัสดีปีใหม่ แล้วแฟนมาเห็น โกรธทะเลาะกันบ้านแทบแตก หนูผิดหรอคะ? แค่ทักไปไม่ได้คิดอะไร เพราะมองเขาเป็นเพื่อนคนนึง ถึงแม้จะไม่ได้คุยกันไปแล้ว

31 ม.ค. 2025

การที่หนู ทักคนคุยเก่าไปอวยพรวันเกิด สวัสดีปีใหม่ แล้วแฟนมาเห็น โกรธทะเลาะกันบ้านแทบแตก หนูผิดหรอคะ? แค่ทักไปไม่ได้คิดอะไร เพราะมองเขาเป็นเพื่อนคนนึง ถึงแม้จะไม่ได้คุยกันไปแล้ว

“คุณฟาง (นามสมมติ)” อายุ 32 ปี เป็นสายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [29 ม.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล’ เกี่ยวกับปัญหาทักไปอวยพรวันเกิดแฟนเก่าหรือคนคุยเก่า โดย “คุณฟาง (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ปัจจุบันเรามีเเฟนอยู่เเล้ว แต่เราก็เล่นโซเชียล เเล้วเราไปเห็นแฟนเก่าหรือคนคุยเก่าลงวันเกิดเขาเอง เราก็เลยตอบกลับสตอรี่เขาไปว่า Happy Birthday เเค่นั้นเลย เเต่ปกติเราก็ไม่ได้คุยกับเขาในเเชทเป็นการส่วนตัวอยุู่เเล้ว สิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาคือตอนนั้นเเฟนปัจจุบันของเรา เข้าไปดูในเเชทพอดี อาจจะเพราะเหมือนเขาตะหงิดใจเลยกดเข้าไปดู เเล้วเขาก็เห็นเเชทว่าเราไป เเฮปปี้เบิร์ดเดย์ คนคุยเก่า เลยมีปัญหากันแบบบ้านเเตกเลย ส่วนที่เราทักไปเเฮปปี้เบิร์ดเดย์เขาเพราะว่าเราเห็นถึงความเป็นมิตรภาพที่จบกันไปเเล้ว เพราะคนที่เรายังติดตามกันอยู่ ส่วนมากก็จบกันด้วยดี เลยเป็นเเบบพี่น้องกัน สำหรับเรา เราก็ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ หลังจากเราทักไปอวยพรวันเกิด ก็ไม่ได้มีประโยคสนทนาอะไรกันต่อ ก็เลยอยากถามพี่ๆดีเจว่า เราควรทักไป Happy new year หรือ Happy birthday กับเเฟนเก่าหรือคนคุยเก่าไหม แล้วถ้าทำผิดไหม? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้ความคิดเห็นว่า ‘สำหรับมุมผมเลยนะ มันก็มีความสุ่มเสี่ยงกับการทัก เเต่เคสของเเฟนเก่าเนี่ยถ้าเเบบยังรู้สึกว่าโอเค สายสัมพันธ์ยังมีอยู่ กับการ Happy birthday หรือเหตุการณ์วันสำคัญของปีอันนี้โอเค เเต่กับคนคุยอันนี้รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน เพราะว่ามันมีความสำคัญขนาดที่เราจะต้องเเฮปปี้เบิร์ดเดย์หรอ? ซึ่งในมุมของพี่ ในเรื่องของคนคุยเก่า พี่ก็ไม่โอเค เเต่ถ้าเป็นเเฟนเก่าที่จบกันไปแล้วจริงๆ อันนี้ก็ยังพอสามารถเข้าใจได้อยู่’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้ความคิดเห็นว่า ‘อันนี้คือฟางหาเรื่องให้ตัวเองเพราะฝั่งนั้น เขาก็ไม่ได้ต้องการอะไรจากฟางเลย เเละมันก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรเลยนอกจากคำว่าหาเรื่องให้ตัวเอง ซึ่งการที่เเฟนของฟางจะโกรธก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เเละหนูก็ควรรู้ไว้ว่าไม่ต้องทำ มันไม่มีประโยชน์อะไรกับทุกฝ่ายเลย เพราะฉะนั้นถ้าอยากอยู่อย่างสงบๆก็เลิกทำ’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้ความคิดเห็นว่า ‘สำหรับหอมเองไม่ใช่เเค่คนคุยเก่าอย่างเดียว เเฟนเก่าก็ไม่ได้ ถ้าเป็นเเฟนเก่าต้องเป็นคนที่รู้ว่าเราคือเเฟนใหม่ของคนปัจจุบัน เเละเราก็ต้องเคยเจอ ตอนนี้ฟางเหมือนอยู่ในภาวะบุคคลสุ่มเสี่ยง ซึ่งถ้ารู้ว่ามันสุ่มเสี่ยงก็ไม่ควรไปหาเรื่อง ลองชั่งน้ำหนักดูว่าทำเเล้ว มันได้ประโยชน์อะไร เพราะความสุ่มเสี่ยงมันสูงกว่าเยอะ เพราะบางเรื่องมันทำไม่ได้ก็ไม่ควรทำ ชีวิตอยู่กับเเฟนดีๆอยู่เเล้ว ไปหาเรื่องให้ตัวเองทำไม ถ้าบอกว่าเราเเค่เเฮปปี้เบิร์ดเดย์ มันก็จะมีคำถามในหัวว่าทำไปทำไม เพราะฉะนั้นอย่าทำเรื่องเเบบนี้ให้มันกระทบกับความสัมพันธ์ของฟางอีก’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูเล่นฟิตเนส จะมีคุณลุงคนนึง มองหนูตลอด ไม่ว่าหนูจะเล่นเครื่องเล่นอะไร เค้าจะตามมาเล่นต่อทุกเครื่อง เคยนอนเสื่อโยคะ หันหน้าไปอีกที เจอลุงนอนหันหน้าเข้าหาเรา เราตกใจกลัวมาก รู้สึกไม่ปลอดภัยเลย โดนแบบนี้มาเกือบปีแล้ว

17 ม.ค. 2025

หนูเล่นฟิตเนส จะมีคุณลุงคนนึง มองหนูตลอด ไม่ว่าหนูจะเล่นเครื่องเล่นอะไร เค้าจะตามมาเล่นต่อทุกเครื่อง เคยนอนเสื่อโยคะ หันหน้าไปอีกที เจอลุงนอนหันหน้าเข้าหาเรา เราตกใจกลัวมาก รู้สึกไม่ปลอดภัยเลย โดนแบบนี้มาเกือบปีแล้ว

หนูเล่นฟิตเนส จะมีคุณลุงคนนึง มองหนูตลอด ไม่ว่าหนูจะเล่นเครื่องเล่นอะไรเค้าจะตามมาเล่นต่อทุกเครื่อง เคยนอนเสื่อโยคะ หันหน้าไปอีกที เจอลุงนอนหันหน้าเข้าหาเราเราตกใจกลัวมาก รู้สึกไม่ปลอดภัยเลย โดนแบบนี้มาเกือบปีแล้ว ฟิตเนสที่นี่ดันดีที่สุด และ ใกล้บ้านเราด้วย “คุณเตย (นามสมมติ)” อายุ 29 ปี สายที่ 4 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (15 ม.ค. 68) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหา Sexual Harassment โดย “คุณเตย (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเป็นคนเล่นฟิตเนสเล่นมา 8 - 9 ปีแล้ว ส่วนใหญ่ฟิตเนสก็จะมีผู้ชายเยอะ คือก็จะชินอยู่แล้วเวลาเล่นเหนื่อย ๆ มานั่งพักก็จะมากันไปมองกันมา ดูคนนู้นคนนี้เล่นหรือเวลาเขามองหนูมันก็เฉย ๆ จนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาหนูย้ายบ้าน หนูก็ต้องย้ายที่ฟิตเนส มาเล่นที่ปัจจุบัน แต่หนูเจอคุณลุงคนนึงเขาชอบมอง จ้องหนูตลอดเวลาทุกครั้งที่หนูเงยหน้าขึ้นมาหนูจะเห็นสายตาเขามองอยู่ แล้วก็จะหลบตาหันหน้าหนี คือถ้าแค่มองหนูพอจะอดทนได้เพราะว่าก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว แต่ว่าสไตล์ของเขาในการมองมันลามไปถึงเวลาที่หนูเปลี่ยนเครื่องมาเล่นเครื่องตรงนี้ เขาจะเดินมาใกล้ ๆ เครื่องขข้าง ๆ ทำเป็นยืดเส้นยืดสาย ทำเป็นยกเสื้อขึ้นเช็คหน้า หรือเดินผ่านไปผ่านมาก็จะเหลือบมองหนู ซึ่งเวลาที่หนูไปเล่นหนูจะเล่น 1 - 2 ชั่วโมงตลอดเวลานั้นคือเขาทำแบบนี้ตลอดเวลาเลย สมมุติว่า 100% ที่หนูเล่นใน 2 ชั่วโมง คือ เกิน 60% ที่เขาทำ คือคนเล่นเวทเขาจะแบ่งวัน วันนี้เล่นขา วันนี้เล่นหลังแต่ว่าคุณลุงคนนี้ หนูคิดว่าเขาอาจจะเล่นรวมหลาย ๆ ส่วนหนึ่งวัน เดี๋ยวไป Sit up ขึ้นมาเวทเล่นแขนเดินไปเล่นหลังกลับมา Sit up อีกเดินไปทั่วฟิตเนสเลย คือมันมาหนัก ๆ ตอนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมากเพราะแรก ๆ ก็มาเล่นคาบเกี่ยวกันบ้างแต่ตอนนี้เจอกันทุกวัน มันทำให้หนูไม่อยากไปเล่นฟิตเนสเลย แล้วหนูเป็นคนไปฟิตเนสทุกวัน เวลาไปเล่นหนูก็จะไปคนเดียว หนูหาวิธีแก้กับสถานการณ์นี้แล้ว ถ้าเขามาหนูก็ลุกหนี สมมุติเดินมาเครื่องนี้ปุ๊บหนูลุกเปลี่ยนเครื่อง หนูแสดงออกชัดเจนมาก เบะปากแบบกิ๊ก สุวัจนี ทำหน้าเหม็น ทำหน้าเบื่อหน่าย ให้เขารู้ไปเลย แต่เขาก็ทำเป็นแบบว่าผ่าน ๆ ไป ฉันไม่ได้มองเธอนิอะไรแบบนี้ เขารู้ตัวนะคะแต่เขายังทำเหมือนเดิมมันไม่ได้ดูเป็นมิตรเลย หนูรู้สึกกลัว ๆ หนูอยากจะปรึกษาว่าหนูจะทำยังไงได้บ้าง’ เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘สุดท้ายปลายทางสุดถ้าไม่มีใครช่วยอะไรได้ เราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนฟิตเนสหรือเปลี่ยนเวลาเล่นได้ ถ้าอย่างงั้นการปรึกษาสตาฟน่าจะทำได้ หนูก็ทนมา 2 – 3 เดือนแล้วนะถ้าเขามีพฤติกรรมแบบนี้แล้วถ้าหนูมั่นใจว่าไม่ใช่หนูคนเดียวที่โดนมันทำให้บรรยากาศโดยรวมของฟิตเนสมันเสียเมื่อเขาอยู่ สตาฟความจะบอกได้ เพราะงั้นผมสนับสนุนให้คุยกับสตาฟก่อนถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ค่อยคิดเรื่องย้ายอีกทีนึง’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ยืนยันว่าต้องคุยกับสตาฟให้เขาช่วยดู แล้วถ้าหนูบอกว่าเขาทำกับคนอื่นด้วยยังไงเขาต้องจัดการเรื่องนี้ แจ้งเลย ถึงเขาจะบอกว่ามันไม่มีอะไร เราก็บอกไปเลยว่าหนูไม่สบายใจ แล้วสมาชิกที่เป็นเมมเบอร์มา 8-9 ปีอย่างหนูจะออกเพราะเรื่องนี้เขาต้องจัดการแน่นอน มันเป็นสิทธิของเราเราแจ้งได้เลย ไม่ต้องเก็บความไม่สบายใจไว้หนูบอกเขาไปเลยพี่ว่าเขาจะจัดการเอง’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาเสริมอีกว่า ‘มองอีกมุมหนึ่งก็คือว่าลุงคนเนี้ยเป็นเจ้าของฟิตเนสแล้วต้องการให้จ้างเทรนเนอร์ ถ้าลุงมองก็พูดไปว่า มีไรเปล่าคะ จะเล่นเครื่องนี้เหรอคะเห็นมองหลายที ให้รู้สึกว่ากูรู้นะว่ามึงมองหลายรอบ ถ้ามันยังแก้ปัญหาไม่ได้อีก เดินไปบอกเทรนเนอร์ว่าเรารู้สึกถูกจ้องมองจากคนนี้ ฝากให้เขาดูหน่อยว่าเราคิดไปเองไหม’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผมมีปมเรื่องความรัก เพราะเคยโดนเทคืนข้ามปี และ คืนฮาโลวีน พอถึงเทศกาลฮาโลวีน และ เทศกาลปีใหม่แต่ละปี ผมจะรู้สึกนอยด์ๆ ไม่ครื้นเครงแบบคนอื่น จะทำยังไงให้ก้ามข้ามความรู้สึกนี้ไปได้ดีครับ ?

01 พ.ย. 2024

ผมมีปมเรื่องความรัก เพราะเคยโดนเทคืนข้ามปี และ คืนฮาโลวีน พอถึงเทศกาลฮาโลวีน และ เทศกาลปีใหม่แต่ละปี ผมจะรู้สึกนอยด์ๆ ไม่ครื้นเครงแบบคนอื่น จะทำยังไงให้ก้ามข้ามความรู้สึกนี้ไปได้ดีครับ ?

“คุณเต้ (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [30 ต.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับการโดนเทช่วงเทศกาล แล้วกลายเป็นปมในชีวิตตัวเอง “คุณเต้ (นามสมมุติ)” โทรมาเล่าสั้นๆว่า ‘จริงๆไม่มีอะไรมาก แต่เห็นว่าพรุ่งนี้เป็นคืนวันฮาโลวีน ก็เลยอยากจะโทรมาเล่าปมเล็กๆในใจว่าตัวเองเคยโดนเท ตอนคืนวันเทศกาล ทั้งฮาโลวีน และปีใหม่ พรุ่งนี้เพื่อนๆก็นัดผมไปเที่ยวฮาโลวีน แต่ผมกลับยกเลิกนัดเพื่อน เพราะว่าไม่อยากไปแล้ว นอยด์ ตอนนั้นที่โดนเทวันฮาโลวีนคือเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ที่โดนคืนข้ามปีนั้นสมัยเด็กๆ ก็ไม่รู้จะก้าวข้ามไปยังไงดี?’ งานนี้ “ดีเจต้นหอม” ให้ความคิดเห็นว่า ‘ดีแล้วที่เขาเทเราคืนวันฮาโลวีน คิดซะว่าเป็นคืนปล่อยผี แล้วไปหาคนใหม่ซะ!!’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็แชร์ประสบการตัวเองสั้นๆว่า ‘เคยโดนคนคนนึงเทมาคืนข้ามปีเหมือนกัน แต่ขอเขาว่า อย่า ไม่ให้เลิกคืนนี้ หลังจากนั้น 2-3 วันก็เลิกกัน’ ส่วน “ดีเจเผือก” ก็แนะนำว่า ‘ให้ไปหาคนใหม่ คุยกันแต่แรกเลยว่าถ้าวันใดวันนึงจะเลิกกัน อย่ามาเลิกกันช่วงเทศกาล ตกลงกันตั้งแต่แรกเลย สุดท้ายยังไงเราก็ต้องมีคนใหม่’ และทั้งสามดีเจก็แซวๆว่า ‘ตอนนี้ในไลฟ์สด แชทจากแฟนๆ ชมว่าเต้เสียงหล่อ พร้อมดามใจเต้เลยทันที’ หลังจากนั้น “คุณเต้ (นามสมมุติ)” บอกว่าพอฟังพี่ๆแล้วมีกำลังใจเลย พรุ่งนี้ผมจะไปเที่ยวที่ข้าวสารกับเพื่อนเหมือนเดิม ไทป์ของผม ได้หมดเลย ใครก็ได้ เพศไหนก็ได้ครับ เรื่องอายุผมก็ไม่ติด วิธีสังเกตผมก็เป็นผู้ชาย สูง 170 กว่าๆ น้ำหนัก 60 ใส่แว่นกลม แล้วก็สวมแหวนนิ้วที่นิ้วโป้งข้างขวานะครับงานนี้ทำเอาชาวพุธโทรเรี่ยนที่โสดอยู่ ถึงกับแซวๆมาในคอมเม้นต์ไลฟ์สดว่า ‘จะออกไปตามล่าหาคุณเต้กันที่ข้าวสารเลยจ้า’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1
Contact usGreenwave02-665-8377EFM02-665-8373
Advertise with usมัลลิกา ปราบอริพ่าย (กบ)(Atime Showbiz, Online Content)063-282-6915จุฑา วนศานติ (บี) (EFM)02-669-9512, 081-923-9823
อังคณา พองาม (นุก) (Greenwave)02-669-9444-7
ดาวน์โหลด Application ได้แล้ววันนี้ที่atime online application download from app storeatime online application download from play storeติดต่อสอบถาม / แจ้งปัญหาการใช้งานatimeplatform@atimemedia.com
บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน)เลขที่ 50 อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนสุขุมวิท21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพ 10110