กลายเป็นมือที่สามของคู่รักที่คบกันมา 10 กว่าปี พอรู้เรื่องก็ถอยออกมา แต่ผู้ชายกลับบอกว่าเลือกเรา ตลอดเวลา 1 ปีที่คบกับผู้ชายคนนี้ เขาเพอร์เฟคแทบทุกอย่าง แต่เรารู้สึกกลัวและหวาดระแวงตลอดเวลาว่าเขาจะทำกับเราเหมือนที่เคยทำกับคนนั้น

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

กลายเป็นมือที่สามของคู่รักที่คบกันมา 10 กว่าปี พอรู้เรื่องก็ถอยออกมา แต่ผู้ชายกลับบอกว่าเลือกเรา ตลอดเวลา 1 ปีที่คบกับผู้ชายคนนี้ เขาเพอร์เฟคแทบทุกอย่าง แต่เรารู้สึกกลัวและหวาดระแวงตลอดเวลาว่าเขาจะทำกับเราเหมือนที่เคยทำกับคนนั้น

24 พ.ย. 2023

กลายเป็นมือที่สามของคู่รักที่คบกันมา 10 กว่าปี

พอรู้เรื่องก็ถอยออกมา แต่ผู้ชายกลับบอกว่าเลือกเรา

ตลอดเวลา 1 ปีที่คบกับผู้ชายคนนี้ เขาเพอร์เฟคแทบทุกอย่าง

แต่เรารู้สึกกลัวและหวาดระแวงตลอดเวลาว่าเขาจะทำกับเราเหมือนที่เคยทำกับคนนั้น

ควรไปต่อหรือพอแค่นี้ แล้วถ้าบอกเลิกตอนนี้จะดูงี่เง่าไปไหม... 

            “คุณเอฟ (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (22 พ.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” กับปัญหาที่ไม่รู้ตัวว่าเป็นมือที่ 3 จนคบกันมาถึงตอนนี้ ก็รู้สึกกลัวและระแวงว่าเขาจะนอกใจเหมือนที่เขาเคยทำ

            โดย “คุณเอฟ (นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า ‘ประมาณปีที่แล้ว ผู้ชายซึ่งเป็นแฟนในปัจจุบัน เขาเข้ามาจีบ โดยเราไม่รู้ว่าเขามีแฟนที่คบกันมากว่า 10 ปีแล้ว เรามาจับได้หลังจากคบกันมาสักพัก พอเรารู้เรื่อง เราก็ถอยออกมา ให้เขากลับไปจัดการเคลียร์กับทางนั้น เราไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราเข้าไปเป็นมือที่ 3 หลังจากที่เขากลับไปเคลียร์ เขาก็กลับมาบอกว่า “เลือกเรานะ เขารักเราจริงๆ เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับทางนั้นแล้ว เขาขอโอกาสได้ไหม” เราก็เลยลองให้โอกาสเขาดู

            ตอนนี้มันก็ผ่านมา 1 ปีแล้ว แต่เราต้องใช้ชีวิตแบบหวาดระแวง กลัวว่าเขาจะทำกับเราเหมือนที่ทำกับคนที่เขาคบมานาน กลัวว่าเราจะต้องไปตกอยู่ในสภาพแบบนั้น กลัวว่าคนรอบข้างเขาจะสมน้ำหน้าเรา เพราะว่าคนที่เขาไม่ได้รู้เรื่องราว เขาก็มองว่าเราไปแย่งผู้ชายมา แล้วสิ้นปีนี้ผู้ชายเขาต้องเปลี่ยนงาน ซึ่งตอนที่เขามาจีบหนู ตอนนั้นเขาก็เปลี่ยนงานมาได้ไม่นาน มาเจอสังคมใหม่ หนูก็เลยกลัวมากว่าถ้าเขาเปลี่ยนสังคมไปแล้ว เขาจะทำแบบเดิมหรือเปล่า

            หนูไม่รู้จะทำอย่างไรกับความสัมพันธ์นี้ ควรไปต่อหรือควรหยุด เพราะตลอดเวลาที่คบกันมาปีกว่า หนูกังวลเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ที่ผ่านมาเขาก็ดูแลดีทุกอย่าง เป็นผู้ชายที่ดีคนนึง เพอร์เฟคในหลายๆ อย่าง มีไม่เพอร์เฟคแค่เรื่องนี้ ถ้าจะไปต่อในความสัมพันธ์นี้จะไปต่ออย่างไร หรือถ้าจะเลิกมันจะดูงี่เง่าไปไหม’

            ทาง “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าทุกความสัมพันธ์ มันตอบไม่ได้หรอก ว่าใครนอกใจหรือไม่นอกใจ เพียงแต่ว่าแค่คนนี้มันมีเชื้อ มันเหมือนเริ่มต้นผิด เริ่มต้นกับคนผิด แต่…มันก็มีเยอะเหมือนกันที่อยู่ด้วยกันกับคนปัจจุบัน ไปจนแก่เฒ่า สิ่งที่วัดคือ วัดจากปัจจุบันว่าผู้ชายคนนี้รักเรามากแค่ไหน ถ้าเขารักเรามาก เขาจะทำอะไรก็ได้ให้เรารู้สึกมั่นใจ ถ้าวันนึงที่เขามีคนอื่น ผู้ชายมันจะเปลี่ยนไปเอง จะเจอเรายากขึ้น เราจะรู้โดยธรรมชาติของเราเองว่าเปลี่ยนไป พอถึงวันนั้นไม่ต้องรอเจอคนใหม่ ให้เราถามตัวเองเลยว่า เราอยู่แล้วเรามีความสุขไหม ถ้าไม่มีความสุขเราก็แค่เดินออกมา ถ้าวันนี้เราจะไปขอเลิกเขา มันดูงี่เง่าไหม สำหรับพี่ถือว่างี่เง่า ถ้าไม่เอาก็ไม่ต้องเอาตั้งแต่วันแรกสิ

            ที่หนูบอกว่า เขาดีทุกอย่างเลย เขาแค่นอกใจ เขาไม่ได้แค่นอกใจ นอกใจไม่ใช่แค่ เพราะถ้ามันแค่ มันจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของหนูในวันนี้ ถ้าเขาจะนอกใจ เขาก็นอกใจได้ แล้วก็ดีเสียอีก เพราะหนูจะได้ไม่เสียเวลา แต่ถ้าเลิกกันตอนนี้โดยที่เขาไม่มีความผิด มันก็งี่เง่าแหละ แต่เอาเป็นว่าถ้าอยู่กับปัจจุบันแล้วมันไม่มีความสุข ก็ให้เดินออกมา หรือเราต้องคุยกับเขาว่าเรากลัวอะไร อยากให้เขาแสดงความมั่นใจ ถ้าเขารักเราเขาจะทำให้เราได้ เขาอาจจะเลือกเราก็ได้ อาจจะรู้สึกว่าเราใช่แล้ว ไม่อยากเสียเราไป ถ้าถามเขาจะนอกใจไหม มันไม่มีใครตอบได้แม้กระทั่งตัวเขาเอง เขาก็ไม่รู้ว่าวันนึงเขาไปเจอใครแล้วเขาจะหวั่นไหวไหม เขามีความมั่นคงหรือหนักแน่นแค่ไหน ตัวเขาก็ยังไม่รู้ แต่เขารู้แค่ว่าตอนนี้เขามีเรา เขาจะแสดงความมั่นใจให้กับเรา ให้เราอยู่กับปัจจุบันว่าเรามีความสุขไหม’

            ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘อยากจะบอกเอฟอย่างนี้ว่า เวลาเราตัดสินใจคบกับใครสักคน มันก็คือความเสี่ยงทั้งนั้น เพียงแต่ว่าเสี่ยงมากหรือเสี่ยงน้อย ดูจากประวัติในอดีตหรืออะไร แต่ทุกอย่างมันไม่ได้การันตีว่าคนที่เคยบอกเลิกกับแฟนคนนึงเพื่อมาคบกับอีกคนนึง นั่นแปลว่าเขาจะทำอีกแน่ๆ 100% หรือถ้าบอกว่า เขาจะไม่ทำแล้ว เขาเห็นเอฟเป็นรักแท้ มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ หลายๆ เคสมันก็เป็นแบบนี้ เอฟลองคิดว่าเรารับความเสี่ยงกับการคบกันครั้งนี้ได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าตื่นมาทุกวันแล้วต้องระแวงในทุกการกระทำที่เขาทำ นั่นแปลว่าธรรมชาติของคุณ ไม่ใช่คนที่สามารถรับความเสี่ยงอะไรแบบนี้ได้ ก็ไม่จำเป็นที่จะเสียเวลา เสียสุขภาพจิตไปกับตรงนี้

            อยากให้คอมเม้นต์อีกด้านนึงว่า ถ้าเราเลิกตอนนี้ คนอื่นจะมองเรางี่เง่าแน่นอน แต่สุดท้ายถ้าเอฟรู้ตัวว่าฉันอยู่ไม่ไหว มันหวาดระแวง ไม่มีความสุข จะตัดสินใจยังไงมันก็เป็นเรื่องของเรา เราเคยให้โอกาสเค้า แล้วแต่พอมาคบกันจริงๆ แล้วมันไปไม่รอดอย่างที่เราหวัง จะจบความสัมพันธ์มันก็ได้นะ คนเรามีสิทธิ์ที่จะลอง ถ้าลองแล้วมันไม่ใช่ ก็มีสิทธิ์ที่จะแยกย้ายเหมือนกัน คนอื่นจะมองว่าเรางี่เง่า แต่มันก็ไม่ผิดอะไรที่เราจะทำให้ตัวเองมีความสุข’

            สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เห็นด้วยกับทั้งพี่เผือกและพี่ต้นหอม เราไม่รู้จริงๆ ว่าคนที่เราอยู่ด้วยวันนึงเขาจะเปลี่ยนไปอย่างไร มันวัดไม่ได้จริงๆ ว่าเวลามันจะเปลี่ยนใคร เพราะฉะนั้นเคสนี้เขาเคยทิ้งผู้หญิงคนนั้นแล้ว แต่วันเวลามันอาจจะทำให้เขาตระหนักได้ว่าเขาไม่ควรทำอย่างนั้นอีกก็เป็นได้ หรือเขาอาจจะทำอีก ก็เป็นได้ ไม่มีใครรู้เลย ถ้าคิดจะให้โอกาส ต้องไม่นอยด์ไปจนถึงเอาเรื่องเก่ามาพูดอีกเลย ถ้าตัดสินใจแล้วว่าจะให้โอกาสไม่ควรที่จะไปคอยระแวง พี่คิดว่ามันไม่แฟร์กับเขาเพราะเราให้โอกาสเขาแล้ว และมันไม่แฟร์กับความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ด้วย

            พี่คิดว่า ถ้านอยด์แล้วเรื่องมันเกิดก็คือเลิก แต่ถ้านอยด์แล้วเรื่องมันไม่เกิด ก็มีผลว่าจะเลิกกันเหมือนกัน เพราะอีกคนก็ไม่มีความสุข ตัวเราก็ไม่มีความสุข แต่ในขณะที่เราไม่นอยด์แล้วเรื่องเกิดก็เลิกกัน แต่ถ้าเขาไม่เจ้าชู้เราก็มีสิทธิ์ที่จะรักกันไปตลอด ผลมันต่างกัน ถ้าคนเรารักกันแล้วคนนึงมาระแวงตลอด พี่ว่ามันไม่มีความสุข แล้วมันจะเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่น่าจะอยู่ระยะยาว แต่สุดท้ายทั้งหมดมันอยู่ที่ตัวหนู ใครจะมองว่าหนูงี่เง่า มันก็คือชีวิตหนู หนูก็ต้องไปหาที่ที่ทำให้หนูสบายใจ มันไม่มีใครที่จะมามีผลกับชีวิตหนูเลย นอกจากตัวหนูเอง’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

อ้าว ป้าคะ! หนูทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟคนเดียวของร้านป้า เวลาลูกค้าให้ทิปกับมือหนู ป้าจะบอกว่า “เอาไปหยอดกระปุก” เดี๋ยวจะแบ่งสิ้นเดือน แต่พอสิ้นเดือนมา ป้าไม่เคยแบ่ง เอาไปใช้คนเดียว

04 ก.ค. 2025

อ้าว ป้าคะ! หนูทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟคนเดียวของร้านป้า เวลาลูกค้าให้ทิปกับมือหนู ป้าจะบอกว่า “เอาไปหยอดกระปุก” เดี๋ยวจะแบ่งสิ้นเดือน แต่พอสิ้นเดือนมา ป้าไม่เคยแบ่ง เอาไปใช้คนเดียว

อ้าว ป้าคะ! หนูทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟคนเดียวของร้านป้า เวลาลูกค้าให้ทิปกับมือหนู ป้าจะบอกว่า “เอาไปหยอดกระปุก”เดี๋ยวจะแบ่งสิ้นเดือน แต่พอสิ้นเดือนมา ป้าไม่เคยแบ่ง เอาไปใช้คนเดียว พอถามก็ตีมึน จนหลังๆถ้าลูกค้าให้ทิปกับมือหนูจะแอบเก็บไว้คนเดียว บางทีผัวป้าที่เป็นกุ๊ก ก็ยืนมองจากครัว หนูแอบเก็บไม่ได้ ต้องเดินมาหยอด หยอดไปก็ไม่ได้อยู่ดีหนูจะทำยังไงดีคะ ? แล้วการที่หนูเอาทิปมาเก็บไว้กับตัว เป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวไหมคะเพราะถ้าหยอดกระปุกไป ป้าก็ไม่แบ่งอยู่ดี... “คุณดา (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [2 ก.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจก็อตจิ - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาของการเป็นพนักงานเสิร์ฟ ที่พอลูกค้าให้ทิปก็ถูกเจ้าของร้านบังคับให้หยอดกระปุกรวม โดยอ้างว่าจะนำมาแบ่ง แต่ไม่เคยได้ส่วนแบ่ง โดย “คุณดา (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูทำงานร้านอาหารร้านหนึ่ง เป็นร้านอาหารสไตล์ฝรั่งอยู่ในตัวเมืองลำปาง ภายในร้านมีพนักงานรวมหนูแล้วมีแค่ 5 คนเองค่ะ ส่วนมากเขาจะอยู่ในครัวกัน แล้วหนูเป็นพนักงานเสิร์ฟคนเดียวแล้วก็จะมีป้าเจ้าของร้านอยู่ด้วย หน้าที่ของหนูก็คือ ล้างแก้ว กวาดถู เก็บจาน หนูเริ่มทำงานร้านนี้ตั้งแต่เดือนกุมภา ปัญหาของหนูก็คือเวลาลูกค้าให้ทิป วันแรกที่หนูเข้าไปทำงานลูกค้าฝรั่งยื่นเงินให้หนู 60 บาท แล้วก็มีคนไทยที่เขาบอกว่าเขาให้ หนูก็ดีใจเลยไปบอกป้าเจ้าของร้าน ป้าแกก็บอกว่าเอาหยอดกระปุกร้านเลย หนูก็สตั้นไป ทำไมเราต้องหยอดตามที่ป้าแกบอก เขาบอกว่าสิ้นเดือนจะเอามาแบ่งกัน แล้วมันก็เกิดคำถามมากมายในหัวหนู หนูก็ทำงานมาเรื่อย ๆ ลูกค้าก็ให้ทิป พอป้าแกเห็นหนูก็ต้องเอาหยอดกระปุกทุกครั้ง แต่พอสิ้นเดือนก็ไม่เห็นว่าแกจะเอาไปแบ่ง เหมือนแกจะเอาไปใช้คนเดียว หนูเคยจับกระปุกมันมีช่วงที่มันหนัก ๆ แล้วพอมาจับอีกรอบเบาเลย ไม่มีสักบาท ในร้านจะมีตำแหน่งแม่บ้าน ผู้ช่วยเชฟ เชฟ และเจ้าของร้านแค่นี้เลย แต่ไม่เคยได้ส่วนแบ่งเลยสักเดือนตั้งแต่ทำมา เวลาที่ป้าไม่เห็นหนูก็จะรีบยัดใส่เข้ากระเป๋า แล้วหลังวันที่ 27 มิถุนาที่ผ่านมา มีลูกค้าโต๊ะหนึ่งเช็คบิล พอได้บิลมาก็เอาไปให้ลูกค้า พอลูกค้าจ่ายเงินเสร็จก็ยื่นเงินให้หนูแล้วบอกว่า 40 บาท พี่ให้หนูนะ หนูก็ขอบคุณแล้วป้าแกก็เห็น แต่หนูอ้อมมาหลังเคาน์เตอร์แล้วรีบยัดเข้าใส่กระเป๋า แต่พอหนูหันไปหนูเห็นเชฟเขายืนมองอยู่ แต่เชฟเขาคือสามีป้าเขาเป็นคนฮอลแลนด์ แกก็ยืนมอง หนูก็ลนไปหมด สุดท้ายหนูก็เลยต้องหยอดใส่กระปุก หนูอยากรู้ว่าหนูผิดไหมที่หนูทำแบบนี้ มันดูเป็นเด็กไม่ดีไหม?’ ซึ่ง “ดีเจก็อตจิ” ได้คำคำปรึกษาว่า ‘หนูอาจจะต้องไปสมัครงานที่อื่น เพราะร้านนี้ระบบมันไม่แน่ชัด มันเหมือนเป็นร้านอาหารครอบครัว เขาจะสั่งให้เราทำอะไรก็ได้ แล้วยิ่งเราเป็นเด็กเสิร์ฟคนเดียวด้วย มันค่อนข้างจะยากที่หนูจะไปต่อรอง ถ้าวันหนึ่งเขาไล่หนูออกขึ้นมา หนูจบเลยนะ พี่ว่ายังไงถ้าเป็นไปได้ หนูหาทางเลือกอื่นและไม่ต้องไปหวังกับเงินก้อนนั้นเลย’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘จริง ๆ หลาย ๆ ร้านใช้ระบบทิปรวม แต่พอสิ้นเดือนเขาต้องหาร ถ้าหนูจะสู้เพื่อความถูกต้อง ก็กลั้นใจถามป้าไปเลยว่าสรุปมันคือทิปรวมหรือส่วนตัว แต่ถ้าไม่อยากปะทะในเมื่อเขาก็เรา เราก็ไม่จำเป็นต้องซื่อสัตย์กับเขา มันก็แล้วแต่ว่าดาจะเลือกทางไหน’ และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้คำคำปรึกษาว่า ‘ถ้าเขาบอกว่าให้ทิปเรามันคือของเรา แต่ถ้าเขาใส่ไว้ในถาดหรือวางบนโต๊ะอันนั้นก็จะเป็นทิปรวม ไปตกลงกับป้าว่าบางทีที่เขาให้ทิปไม่ใช่เพราะอาหาร เขาเห็นว่าหนูเป็นเด็ก ถ้าป้าปฏิเสธทุกอย่างก็เทไปเลยวันที่ลูกค้าเยอะ ๆ ลาออกวันนั้นเลย ถ้าหนูบริการดีไปอยู่ร้านไหนก็มีคนให้ทิปแน่นอน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เสียความมั่นใจไปเลย... สาวโทรแชร์ประสบการณ์กับ 3 ดีเจ เพิ่งไปนัด One Night Stand ครั้งแรกกับหนุ่มในแอปหาคู่ ตอนเจอกัน เขินมาก ทำตัวไม่ถูกเลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยๆ จนเขาพูดว่า "เธออย่าล่กดิ" โยนเสื้อใส่อกเรา แล้วออกจากห้องไปเลย

16 ส.ค. 2023

เสียความมั่นใจไปเลย... สาวโทรแชร์ประสบการณ์กับ 3 ดีเจ เพิ่งไปนัด One Night Stand ครั้งแรกกับหนุ่มในแอปหาคู่ ตอนเจอกัน เขินมาก ทำตัวไม่ถูกเลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยๆ จนเขาพูดว่า "เธออย่าล่กดิ" โยนเสื้อใส่อกเรา แล้วออกจากห้องไปเลย

เสียความมั่นใจไปเลย... สาวโทรแชร์ประสบการณ์กับ 3 ดีเจเพิ่งไปนัด One Night Stand ครั้งแรกกับหนุ่มในแอปหาคู่ตอนเจอกัน เขินมาก ทำตัวไม่ถูกเลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยๆจนเขาพูดว่า "เธออย่าล่กดิ" โยนเสื้อใส่อกเรา แล้วออกจากห้องไปเลยตอนนี้ไม่มั่นใจในตัวเองเลย ทำยังไงให้เอาความรู้สึกพวกนี้หมดไปสักที “คุณอิง (นามสมมุติ)” อายุ 21 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (9 ส.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก -ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอมเกี่ยวกับปัญหานัด One Night Stand ครั้งแรก ยังไม่ทันเริ่ม ก็โดนเขาบอกว่าอย่าล่ก แล้วก็ออกจากห้องไปเลย โดย “คุณอิง (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘เหตุการณ์ที่หนูเจอ ทำให้หนูเสียความมั่นใจจากการนัด ONS (One Night Stand) หนูขอเกริ่นก่อนว่า... ครั้งนี้คือการนัด ONS ครั้งแรกของหนู คิดว่าเรียนมหาลัยมา 4ปีแล้ว หนูก็อยากลองสักครั้งนึง เราเจอกันทางแอปหาคู่ ส่วนรูปที่ใช้ในโปรไฟล์กับตัวจริงก็ใกล้เคียงกัน ใส่ฟิลเตอร์นิดหน่อย ซึ่งเขาอายุพอๆกับหนู เราคุยกันและตกลงนัดกันคืนนั้นเลย เพราะอยู่ใกล้กันมาก หลังจากนั้นเขาก็มาที่ห้องหนู คือตอนนั้น ยอมรับเลยว่าเขินมากไม่รู้จะเริ่มยังไง หนูก็เลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยนู่น นั่น นี่ ช่วงแรกๆเขาก็ตอบหนูปกติ ดูจอยกับเรามาก สักพักนึงเขาก็เริ่มตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง นั่งเล่นโทรศัพท์บ้าง เริ่มไม่จอยแล้ว ซึ่งในระหว่างที่หนูชวนเขาคุย เขาจะพูดขึ้นมาตลอดเลยว่า เธออย่าล่กดิว่ะ อย่าล่กได้ปะ พอเห็นเขาพูดบ่อย ๆ หนูก็เลยเลิกถามเขา มันก็เลยกลายเป็นการเงียบใส่กัน แต่หนูว่า หนูก็ไม่ได้มีแสดงอาการตัวสั่น ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น หนูคิดว่าอาจจะชวนเขาคุยเยอะเกินไปกว่าที่หนูคิด ตอนคุยกันก็ถามประมาณ เธอเคยนัดหรือป่าว นัดมากี่คนแล้ว เรียนที่ไหน คณะอะไร คำถามประมาณนี้... หลังจากนั้นเขาก็พูดย้ำอีกรอบ เธอดูล่กจัง ถ้าไม่อยากทำ เดี๋ยวกลับก็ได้นะ หนูก็เลยถามเขาไปตรงๆว่า จะเริ่มเลยไหมหละ? เขาก็พยักหน้า แล้วเหมือนแบบสถานการณ์ตอนนั้นเขาดูแฮปปี้ขึ้นมาเลย ต่างจากก่อนหน้านี้ที่เขาตึงใส่หนู แล้วทีนี้ก็ตามสเต็ปเลย เล้าโลมกันปกติ แล้วหนูก็เหมือนอยากจูบเขา ก็เลยถามเขาว่า ไม่ Kiss กันหน่อยหรอ เขาก็นิ่งใส่หนูไปแป๊ปนึง แล้วก็ตอบกลับมาว่า เราไม่ค่อยชอบจูบอะ หลังจากนั้นเขาก็หยุดทำทุกอย่าง แล้วก็พูดต่ออีกว่า เธอดูล่กว่ะ ไม่ธรรมชาติเลย แล้วเขาก็โยนเสื้อมาปิดหน้าอกหนูไว้ แล้วก็ลุกขึ้น บอกกับหนูอีกรอบว่า เธอดูล่กอะ ไม่ธรรมชาติ แล้วก็ออกจากห้องหนูไปเลย ตอนนั้นคือหนูนั่งเอ๋อเลย หนูตั้งตัวไม่ทันว่าหนูผิดอะไร ที่หนูโทรเข้ามาวันนี้ก็เพราะ มันเสียความมั่นใจไปแล้ว คืนนั้นหนูนอนไม่หลับ รู้สึกดาวน์มาก ไม่มั่นใจในตัวเอง หนูอยากรู้วิธีเอาความรู้สึกนี้ออกไป แล้วก็อยากรู้ว่าที่หนูทำออกไปคืนนั้นมันดูล่กจริงๆหรอ? หนูค้างคาใจมากที่อยู่ดีๆเขาก็ไปเลย ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” เริ่มให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับคนบางคนที่เขาจะนัดมาเพื่อมีเพศสัมพันธ์ เขาไม่ต้องการการพูดคุยนะ เขามาเพื่อต้องการทำสิ่งนั้นแล้วจบ แล้วก็กลับ มันไม่ใช่การมาเดท เขาไม่ได้ต้องการมาอารัมภบท ไม่ต้องการจะรู้จัก บางคนไม่สนใจชื่อด้วยซ้ำว่าชื่ออะไร มันคือการนัดมาเพื่อทำกิจกรรมนั้นอย่างเดียว เรารู้สึกการที่น้องพยายามพูดคุย พยายามไปถามอย่าง “อยากจูบ” คือถ้าธรรมชาติคนที่เขาทำอะไรแบบนี้ เขาจะไม่ถาม ถ้าอยากทำเขาทำเลย พี่เลยรู้สึกว่าเนี่ยคือสาเหตุที่เขาทำแบบนั้นกับอิง แต่เอาจริง ๆ มันมีสาเหตุอีกมากมาย ที่พี่พูดคือพี่เดาจากสถานการณ์ที่อิงเล่ามานะ ต่อมาที่ “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ไม่รู้ธรรมชาติของการนัดมีอะไรกันผ่านแอป เพราะเท่าที่พี่ฟัง พี่ไม่ได้รู้สึกมันล่ก หรืออะไรนะ พี่ก็รู้สึกมันคือการทำความรู้จักกันก่อน แบบเปิดประตูมาจะให้จุดระเบิด ปั้ง โป้ง เป้ง แล้วแยกย้าย มันก็ตลกนะ หรือเอาแบบนี้ คิดในมุมพี่ อิงดันไปเจอคนที่เขาโผงผาง คนละสไตล์กับเรา ทั้งสองคนอาจต้องการเซ็กส์เหมือนกัน แต่คนนึงไม่อยากคุย อีกคนอาจจะเออเราคุยกันก่อนสิ แล้วดันไปเจอคนที่ไม่รักษาน้ำใจ ขี้รำคาญ มันก็หงุดหงิดอะไรมาด้วยหรือเปล่า แต่พอพี่ฟังจบ พี่กลับรู้สึกโชคดีจังเลย เหมือนเป็นโชคดีของอิงที่ไม่ได้อะไรมากกว่านี้กับคนนี้ เพราะไม่รู้ว่าถ้ามีอะไรกันจริงๆ แล้วพอแยกย้าย บรรยากาศตอนนั้นอาจจะทำให้อิงรู้สึกยิ่งด้อยค่าตัวเองลงไปอีกหรือเปล่า เราอาจจะมาลงในสนามที่เราไม่เคย แล้วเราก็ไม่รู้ธรรมชาติของคนในแอปนี้ ว่าเขาต้องแนะนำตัวไหม คุยกันแค่ไหน หลายครั้งที่คนโทรเข้าพุธทอล์ค พุธโทร แล้วเล่าว่าไปเล่นผิดสนาม มือใหม่ เข้าไปเขาอาจจะมีทำเนียมของเขาที่เราอาจไม่รู้ เพราะฉะนั้นพี่ว่าเรื่องนี้ไม่อยากให้เอาไปผูกกับความมั่นใจ หรือคุณค่าในตัวเอง พยายามคิดไว้ว่าในโลกที่เขานัดเจอกันผ่านแอป มันก็ไม่ต้องมานั่งประดิดประดอยกันมาก ถ้าเราอยากประดิดประดอย อยากคุยก็ต้องลองช่องทางอื่น เอาเป็นว่า รสนิยม สไตล์มันดันไม่ตรงกัน แล้วดันไปเจอคนไม่แคร์อะไรด้วย จะไปก็ไปเลย มันเลยทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าเราอยู่ถูกที่ ถูกเวลา แล้วก็ถูกคน มันก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทั้งหลายทั้งมวลถ้าต้องการอะไรที่สวยงามก็หาช่องทางที่เหมาะสมกับเรา และกลับไปถามกับตัวเองว่า “ฉันเหมาะกับ One Night Stand หรือเปล่า” ปิดจบกันที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า “ไม่ต้องไปเสียความมั่นใจ คนนั้นก็อ่อนด้อยเหมือนกันแหละ ทำไมไม่เริ่มก่อนหละ มาว่าอิงล่ก ก็เปิดมาก่อนสิ ถ้าเปิดเราก็พร้อมตามอยู่แล้ว เป็นผู้ชายก็ลุกมากก่อนสิ งี้ก็มือใหม่เหมือนกันนั้นแหละ เข้าไม่ถูกไง” ‘เอาแบบนี้ถ้าอยากได้คนที่มีชั้นเชิง เป็นงานก็อาจจะต้องหาคนที่อายุมากกว่านี้ แล้วอิงเป็นคนชอบแบบมีเรื่องราวก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ ถ้าแบบนี้เวลาหนูเข้าในแอป มันจะมีให้เลือกหลายประเภท มันมีโอกาสที่หนูจะเจอคนแบบจู่โจม หนูลองเปลี่ยนสนามไปร้านเหล้า มีคนแนะนำ เราดีลกันหน้างาน หนูยังเลือกคนได้ ยังสนทนากันได้นิดนึง ยังพอได้จีบกันหน่อย…..’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

สิบปีที่แล้ว ผมคบกับแฟน แฟนบอกผมว่าแฟนท้อง ผมยืดอกรับแบบแมนๆ เลี้ยงลูกจนโต ไม่นานมานี้ สังเกตว่า แฟนผมเขาชอบแอบไปคุยกับผู้ชายอีกคน จนรู้ความจริงว่า ที่แท้ลูกที่ผมเลี้ยงมาเป็นลูกผู้ชายอีกคน ตอนนี้ผมเลิกกับแม่ของลูกแล้ว

20 มิ.ย. 2025

สิบปีที่แล้ว ผมคบกับแฟน แฟนบอกผมว่าแฟนท้อง ผมยืดอกรับแบบแมนๆ เลี้ยงลูกจนโต ไม่นานมานี้ สังเกตว่า แฟนผมเขาชอบแอบไปคุยกับผู้ชายอีกคน จนรู้ความจริงว่า ที่แท้ลูกที่ผมเลี้ยงมาเป็นลูกผู้ชายอีกคน ตอนนี้ผมเลิกกับแม่ของลูกแล้ว

สิบปีที่แล้ว ผมคบกับแฟน แฟนบอกผมว่าแฟนท้อง ผมยืดอกรับแบบแมนๆ เลี้ยงลูกจนโต ไม่นานมานี้สังเกตว่า แฟนผมเขาชอบแอบไปคุยกับผู้ชายอีกคน จนรู้ความจริงว่า ที่แท้ลูกที่ผมเลี้ยงมาเป็นลูกผู้ชายอีกคนตอนนี้ผมเลิกกับแม่ของลูกแล้ว แต่ลูกก็ยังอยู่กับผม ผมเลี้ยงเขามาขนาดนี้แล้ว รักเหมือนลูกของตัวเองและเลี้ยงต่ออย่างดี จนตอนนี้เปิดใจคุยกับผู้หญิงคนใหม่ เขารู้ทุกเรื่องที่เกิดกับผม แต่ทุกครั้งเวลาเรามีปัญหากันเขาจะเอาปมเรื่องนี้มาด่าผม “พี่โง่ปะวะ ไปรับลูกใครมาเลี้ยงก็ไม่รู้” ผมควรจะไปต่อกับเขา หรือ พอแค่นี้ดี “คุณโจ๋ (นามสมมติ)” อายุ 37 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [18 มิ.ย.68] โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเลี้ยงลูกมานาน แต่เพิ่งรู้ว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง มีคนคุยใหม่เขาก็ไม่ยอมรับ โดย “คุณโจ๋ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมอายุเท่านี้เคยผ่านการแต่งงานมีครอบครัวมาแล้ว ผมคบกับคนนี้มาสิบปีก็ปกติดีทุกอย่าง จนวันหนึ่งผมจับได้ว่าเขาคุยกับผู้ชายคนอื่น ซึ่งข้อความนั้นเป็นการอัปเดตเรื่องลูกซะส่วนใหญ่ ผมสงสัยก็เลยเก็บข้อมูลมาเรื่อย ๆ จนเพิ่งได้รู้ว่าลูกที่ผมเลี้ยงมาตั้งนานไม่ใช่ลูกของผม เรื่องมันเกิดจากตอนนั้นอายุ 24 ปี เขาท้องผมก็คิดว่าเป็นของผม ก็แมน ๆ เลยรับเป็นลูก ผมก็เลี้ยงมาอย่างดี อนาคตดีเลย พอผมมาเห็นแชทก็ใจสลาย ไปถามเขาเขาก็ไม่ยอมรับจนต้องเปิดแชทให้ดู เขาก็ยอม หลังจากนั้นเราก็เลิกกันด้วยดี ตอนนี้ลูกยังอยู่กับผมเพราะผมผูกพันธ์ไปแล้ว และที่บ้านของผมก็รัก ทางด้านแฟนเก่าผม หลังจากเลิกรากันไปก็มีครอบครัวใหม่ของเขาแล้ว ไม่ค่อยได้มาหาลูกเท่าไหร่ หลังจากแยกกันได้ 3 ปี ตัวผมก็แอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นปีแล้ว วันหนึ่งมีโอกาสได้คุยกัน ผมเปิดใจไม่มีอะไรปิดบัง เริ่มตั้งแต่เล่าโปรไฟล์ว่าผมมีลูกมาแล้ว เล่าเรื่องทุกอย่างเพราะไม่อยากให้มีปัญหาในภายหลัง เขาก็โอเค คุยกันไป 6-7 เดือน ปมอันนี้ก็ทำให้ผมไม่สามารถก้าวข้ามผ่านไปคบกับเขาได้ เพราะเขามาว่าผมว่า “พี่โง่ปะวะ ไปรับลูกใครมาเลี้ยงก็ไม่รู้” ทั้ง ๆ ที่เขารู้โปรไฟล์ผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาก็ตึงใส่ผม ตอนแรกก็คุยกันมาดีโทรคุยกันบ้าง แต่พอพูดถึงลูก เขาก็อารมณ์ขึ้นทันที เขาบอกว่ามันเป็นปมของเขา เขาบอกอีกว่าถ้าเขาเจอผู้ชายที่ฐานะเท่ากันกับผมแล้วไม่มีลูก เขาพร้อมเขี่ยผมทิ้งได้ตลอด แต่ที่เขายังคุยอยู่ถึงทุกวันนี้เพราะผมมีประโยชน์ ผมช่วยเหลือเขาได้ตลอด อยากได้อะไรผมหาให้ พาไปไหนผมก็พาไป อยากลงทุนผมก็ช่วยเสนอแนวคิดให้ ผมแบ่งเวลาให้กับเขาและลูกได้ ผมก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่า เวลามองมาเห็นผมมีโปรไฟล์แบบนี้ ผู้หญิงเขาจะมองแบบไหน? แบบเขาหรอ? และการตัดสินใจรับลูกคนอื่นมาเลี้ยง ผมตรรกะเพี้ยนมั้ย? ชอบมีคนพูดกับผมแบบนี้… ซึ่ง “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องเริ่มที่ตัวคุณโจ๋ก่อน ถ้ามีความตั้งใจที่จะไม่บอกความจริงกับลูกแล้วจะเลี้ยงเขาเหมือนลูกแท้ ๆ ต้องเลิกคิดว่าลูกเป็นลูกของคนอื่นก่อน เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนมาว่าเราโง่ที่ไปเลี้ยงลูกคนอื่น ให้ตอบกลับไปว่า “อย่ามายุ่งกับลูกกู” ที่บอกว่าตายแทนลูกคนนี้ได้ จงประพฤติแบบนั้น แล้วเขาจะไม่มีคุณค่าพอที่จะอยู่ในชีวิตของเราอีกต่อไป ต่อไปประเด็นผู้หญิงคนอื่นจะคิดแบบนี้มั๊ย บอกเลยว่า ไม่ อาจจะมีคนที่คิดแบบนี้และไม่ได้คิดแบบนี้ เพราะยิ่งสมัยนี้มีอีกมากมาย การหย่าร้างกัน มีลูก มีความรักครั้งใหม่ เขาก็ดูแลในแบบที่เข้าใจกันได้ อย่าให้ความคิดแย่ ๆ ของผู้หญิงคนนึงมาทำให้เราผิด ซึ่งมันจะย้อนกลับไปที่ข้อแรกว่าคุณจะตั้งคำถามกับการมีลูกคนนี้ว่าเป็นปัญหาในชีวิตคุณหรือเปล่า ซึ่งมั่นไม่ควร โจ๋ไม่ควรลังเลว่าตัดสินใจถูกหรือผิด ตอนนี้มันขัดกันเองอยู่ ณ วันนั้นที่รับมาเขาคือลูกของเรา ณ วันนี้ไม่ว่าเราจะเจอความจริงอะไรก็ตาม เขาก็คือลูกของเรา ถ้าทำให้ตัวเองเชื่อว่าเขาคือลูกของเราได้ มันจะไม่มีคำถามอื่นแล้ว’ ต่อไป “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผู้หญิงไม่ได้คิดแบบนี้ทุกคน พี่มองว่าผู้หญิงที่หยาบคายแบบนั้นคือส่วนน้อยแค่โจ๋เลือกผิดคน เพราะคำพูดแต่ละคำไม่ให้เกียรติเราเลยสักนิด โง่ที่สุดของโจ๋ไม่ใช่การเก็บลูกคนนี้มาเลี้ยง แต่เป็นการเลือกผู้หญิงคนนี้เข้ามาอยู่ในชีวิต ถึงเขาจะมองเรามีประโยชน์ แต่พี่ไม่เห็นประโยชน์ในตัวเขาเลย ถ้าเอาเข้ามา Toxic แน่นอน ถ้าลูกเราเป็นที่หนึ่งแล้วคนที่เข้ามาใหม่ต้องเดินไปพร้อมกับครอบครัวเราได้ ไม่ใช่มาเห็นแก่ตัว ผู้หญิงคนนี้ยังต่ำกว่ามาตรฐาน’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผู้หญิงดี ๆ ถ้าได้ฟังเรื่องราวนี้แล้วเค้าจะพูดว่า "โจ๋เป็นสุภาพบุรุษมากเลย, โจ๋มีความเป็นพ่อที่ดีเลย, พอรู้ความจริงแล้วยังเลี้ยงต่อนี่คือหัวหน้าครอบครัวที่พึ่งพาได้สุด ๆ" ผู้หญิงดี ๆ จะคิดแบบนี้ ส่วนผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงไปคิดเอาเอง ซึ่งที่โจ๋บอกว่าคบผู้หญิงคนนี้บอกกันทุกอย่างแบบไม่ปิดบังแม้กระทั่งเรื่องลูก สำหรับพี่ พี่มองว่าไม่จำเป็นต้องบอกใครเลยเพราะเขาคือลูกโจ๋ ผู้หญิงที่เข้ามาต้องเป็นอีกคนที่ทำให้โจ๋นั้นสมบูรณ์ ไม่ใช่เข้ามาให้ตั้งคำถามกับลูก ใครที่เข้ามาทำให้ลังเลสามารถตัดออกจากชีวิตได้เลย’ ทั้งนี้ “ดีเจต้นหอม” ได้ฝากไว้ว่า ‘ลูกต้องไม่ใช่ปมของเรา ลูกคือความสุข อย่าทำให้ความสุขนี้หายไป’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผู้ชายออกตัวแรง จีบเก่ง ดูแลดี แค่ช่วงแรกๆ พอเราเริ่มจริงจัง คุยมาเดือนกว่าๆ เขาก็เทแรง ซ่อนสตอรี่IG บล็อกเบอร์ ติดต่อไม่ได้ หายไปเลย ครั้งหน้าถ้าเจอผู้ชายทรงนี้อีก จะทำยังไงดีคะ?

27 พ.ค. 2024

ผู้ชายออกตัวแรง จีบเก่ง ดูแลดี แค่ช่วงแรกๆ พอเราเริ่มจริงจัง คุยมาเดือนกว่าๆ เขาก็เทแรง ซ่อนสตอรี่IG บล็อกเบอร์ ติดต่อไม่ได้ หายไปเลย ครั้งหน้าถ้าเจอผู้ชายทรงนี้อีก จะทำยังไงดีคะ?

“คุณสอง (นามสมมติ)” อายุ 20 ปีกว่าๆ สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [22 พ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาไม่เข้าใจผู้ชายที่เข้ามาจีบ ตอนจีบก็จีบแรง แต่พอจะเทก็เทแรงเหมือนกัน… โดย “คุณสอง (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคุยกับผู้ชายคนหนึ่งมาได้ประมาณเดือนกว่าๆ ผู้ชายคนนี้เขาแก่กว่าหนู ประมาณ 3 ปี บุคลิกของเขาจะเป็นคนที่ขี้เล่น ขี้หยอด จีบแรง เหมือนเพลย์บอยคนนึง แต่เขาก็จะมีมุมที่จริงจังเหมือนกัน เขาบอกกับหนูว่า เขาอยากจะมองหาความสัมพันธ์ที่ระยะยาว คนที่จะสร้างอนาคตไปด้วยกันได้ แล้ว ณ ตอนนั้น เขาก็บอกกับหนูอีกว่า หนูตรงกับคนที่เขาวางเอาไว้มากๆ เป็นคนที่ใช่เลย แล้วเขาก็เคยเล่าให้ฟังว่า ถ้าเกิดว่าเขาเจอคนที่ไม่ตรงกับภาพในหัวของเขา เขาก็จะเทเลย ในช่วงที่คุยกันเหมือนเขาจะรู้สึกอินกับหนูมากๆ ทั้งเสมอต้นเสมอปลาย ทั้งดูแล้วเขาก็ดูแคร์หนูมากๆ เลยด้วย มีอยู่วันนึง หนูมีนัดกับเพื่อนตอนค่ำๆ แล้วสรุปเพื่อนเทหนู หนูก็เลยทักแชทไปหาเขาว่า ว่างมั้ย แล้วเขาก็ตอบกลับมาว่า เขามีนัดกินข้าวกับที่บ้านแล้ว หนูก็เลยบอกว่า ไม่เป็นไร งั้นไว้นัดกันวันหน้าก็ได้ แล้วหลังจากนั้นเขาก็ปกติดีทุกอย่าง จนกระทั่งช่วงเวลาดึกๆ ของวันนั้นหนูส่งข้อความไปเขา เขาก็ไม่ตอบ หนูก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ เพราะปกติเวลาแบบนี้เขาจะตอบแชทหนู วันถัดไปหนูก็เลยส่งข้อความไปหาเขาอีก สลับกับโทรหา พยายามติดต่อเขาทุกช่องทาง แต่เขาก็ไม่ตอบข้อความแล้วก็ไม่รับสายโทรศัพท์ด้วย แล้วทีนี้เหมือนใน IG เขาจะ Hide ไม่ให้หนูเห็น Story เขาด้วย ที่หนูรู้ว่าเขา Hide เพราะโปรไฟล์เขาเป็นสาธารณะ มันก็จะมีเว็บไซต์ที่เอาไว้ส่องโปรไฟล์สาธารณะได้ แล้วดูว่าเขาลง Story อะไร เราก็แค่พิมพ์ชื่อแอคเคาท์ไปก็สามารถรู้ได้เลย แล้ววันนั้นที่เขาไม่ตอบแชท ไม่รับสายหนู แต่ใน IG เขาลง Story เยอะมาก คือหลังจากนั้นหนูก็มีทักไปหาเขาประมาณว่า เราขอ Unfollow แล้วกัน จนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้พยายามทักอะไรเขากลับไป ส่วนเขาก็ไม่ได้มีทักอะไรหนูกลับมาเหมือนกัน มันเป็นความคาใจมากๆ เพราะก่อนหน้านี้หนูก็เคยเล่าให้เขาฟังว่า เคยเจอคนที่นิสัยเหมือนเขามากๆ แล้วเราก็โดนเทแรง ซึ่งตอนนั้นเขาก็รับฟัง แล้วก็ให้คำแนะนำดีมากๆ ดูเข้าอกเข้าใจ แต่มันกลับกลายมาเป็นว่าเขาเป็นคนทำซะเอง หนูก็เลยไม่เข้าใจคนแบบนี้มากๆ หรือมันมีอะไรในตัวหนูที่ไปทำให้เขาตัดสินใจหายออกไปจากชีวิตได้ไวขนาดนี้ วันนี้หนูมี 3 คำถามที่อยากจะปรึกษาพี่ๆ ดีเจ คำถามที่ 1. อยากรู้ว่าคนแบบอะไรที่มันทำให้เขาเปลี่ยนไปได้ไวขนาดนี้ ? คำถามที่ 2. เขาไม่ละอายคำพูดตัวเองบ้างหรอ เพราะสิ่งที่เขาทำกับสิ่งที่เขาพูดมันคนละเรื่องกันเลย? คำถามที่ 3. ถ้าเราเจอคนที่นิสัยประมาณนี้อีก เราจะรู้ได้ยังไงว่าเขามาหลอกเรา? งานนี้ “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘อะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนพี่ไม่รู้หรอก มันสารพัดเหตุผลถ้าแค่รู้ว่าเรา ไม่ใช่สำหรับเขาอีกต่อไปแล้ว ส่วนคำถามกล้าพูดได้ยังไง คนบุคลิกแบบนี้ไม่ละอายคำพูดตัวเองหรอ ช่วงการทำความรู้จักกันกับใครสักคนในช่วงแรกๆ เราก็จะพยายามทำให้อีกฝ่ายประทับใจกับสิ่งที่เราพูดอยู่แล้ว เพราะงั้นคำพูดที่อยู่ในช่วงนี้ก็อย่าไปนับ อย่าไปเชื่อมันมาก ให้ดูยาวๆ แล้วถ้าเจอคนประมาณนี้อีกทำยังไง ก็อยู่ที่ตัวเราว่า พร้อมจะเจ็บมั้ย ความรักคือการเสี่ยงอยู่แล้ว เราไม่มีวันรู้หรอกว่า คนทรงเดิม หน้าตาแบบเดิม เขาจะทำกับเราแบบเดิมมั้ย มนุษย์ถูกออกแบบมาไม่เหมือนกัน คนเรามีวิธีชิ่งจากใครสักคนหนึ่งในแบบที่แตกต่างกัน จงคิดในแง่ดีว่า อย่างน้อยเขาเด็ดขาดพอที่จะชัดเจน ไม่ก็คือไม่ หายก็คือหาย เพราะฉะนั้นจงคิดว่าเขาแฟร์กับเราแล้วนะ อาจจะไม่ได้บอกลากันดีๆ ก็เถอะ แล้วพี่ว่า 3 คำถามที่สองถามมา ขีดฆ่าไปได้เลย มันเป็นแค่ความสัมพันธ์ครั้งหนึ่งที่คนเราทำความรู้จักกัน แล้วมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่อยากจะไปต่อแล้ว แต่มันดันซวยมาเกิดขึ้นกับสอง คล้ายๆ กันถึง 2 ครั้งแล้ว ทำให้สองเสียความมั่นใจในตัวเอง เราทำอะไรผิดมั้ย หรือในทางกลับกันไปโทษอีกฝั่งหนึ่งว่า ทำไมฉันต้องเจอคนอย่างเธอ แต่ทั้งหลายทั้งมวลแค่ ถ้าสองตั้งสติแล้วบอกกับตัวเองว่า คน 2 คนที่คุยกันแล้วมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตัดสินใจไม่เดินต่อ ก็คือจบ เราก็แค่เริ่มมองหาความสัมพันธ์ใหม่ แล้วก็เสี่ยงวัดดวงกันใหม่ ชีวิตมีเท่านี้เอง แค่ยอมรับความจริงว่า “เออเทก็เท” มันโชคร้ายที่คน 2 คนรู้สึกไม่เท่ากันแค่นั้นเอง เราเลยพยายามที่จะหาคำตอบแวดล้อมเพื่อให้การโดนเทครั้งนี้มันชอบธรรมสำหรับเรามากขึ้น สุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีประโยชน์ ต่อให้มีความรักครั้งที่ 15 16 มันก็ยังต้องเสี่ยง ปัญหาบางอย่างอาจจะไปเกิดตอนคบกันก็ได้ สุดท้ายมันคือการเดิมพัน มันอีกเยอะอ่ะ เราอยู่แค่สเตจแรกแล้วมันไม่สมหวังแค่นั้นเอง มันยังเหลืออีกหลายสเตจเลยสอง ต่อให้ไม่ทิ้งไม่เทกันก็เถอะ อยู่กันไป แล้วเกิดการด่าทอ ตบสองทุกวัน อย่างงี้เอามั้ยล่ะ เทียบกับคนนี้ที่เขาชัดเจนว่า ไม่ใช่ก็ไป แยกย้ายจบ อย่าไปคิดว่าเราโชคร้าย อย่าไปคิดว่าฉันไม่ดี มีคนที่โชคร้ายในความรักหนักกว่าเราอีกเยอะเลยสอง ถ้าโชคดีแล้วล่ะที่ทุกอย่างมันจบภายในเดือนหนึ่งอ่ะ ให้เธอได้มีเวลา ให้เธอยังไม่ได้ผูกพันมาก แล้วก็ให้เธอได้ตั้งหลักพอที่จะหาใหม่’ ต่อด้วย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เท่าที่ฟังพี่ว่าสองเป็นคนที่อินกับคนง่ายมากเลยนะ ยิ่งถ้าหนูเจอในออนไลน์อีกก็คือไม่ต้องสงสัยเลย อะไรทำให้เขาเปลี่ยนไป อันนี้พี่ไม่รู้เลย คือเขาไม่ชอบหนู หนูไม่ใช่ไทป์เขาแล้ว เขามีอีกคนที่ดูไว้อยู่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าเขาคิดจะทิ้งหนู แต่พี่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันเป็นไปได้หมดทุกอย่าง คนที่บุคลิกแบบนี้ทำไมไม่ละอายคำพูดตัวเอง พี่ก็ไม่รู้อีก คนปกติก็มีแบบนี้ ยิ่งคนในออนไลน์เรื่องแบบนี้ยิ่งปกติสุดๆ มันอยู่ที่กมลสันดานของแต่ละคนด้วย บางคนก็อาจจะพูดไปเพราะเขาอยากได้เรา ให้เราชอบเขา เขาก็พูดไปก่อน สักพักไม่ชอบแล้วเขาก็เทเลย หรือบางคนอาจจะมีปมอะไรก็ได้หมดเลย เช่นเดียวกันพี่ก็ตอบไม่ได้ ถ้าเจอคนประมาณนี้อีกทำไง อย่างแรกที่พี่อยากจะแนะนำถ้าจะคุยผ่านออนไลน์ อย่าอินคนง่าย ต้องดูเขานานๆ มันมีคนดีแน่นอน แต่มันมีคนไม่ดีเยอะมาก อย่างแรกที่พี่ขอก็คือ 1.อย่าอินเกิน 2.ทำใจ เพราะว่าเจอแบบนี้ปกติสุดๆ 3.ถ้าอยากจะมีความรักก็ต้องยอมรับว่าเราต้องเจอคนแบบนี้เต็มไปหมดเลย ไม่ว่าจะออนไลน์หรือว่าจะในชีวิตจริง แต่ว่าถ้าวันหนึ่งมันมีคนดีจริง เดี๋ยวมันก็มีคนเข้ามาหาเราต้องรีบ อย่าไปลดคุณค่าตัวเอง อย่างที่พี่เผือกบอก ก็แค่หนึ่งคนที่คุยแล้ว มันไม่คลิกก็ไป ไม่ต้องไปตั้งคำถามมันเสียเวลา ยิ่งกับคนออนไลน์ เราหาใหม่ได้เลย’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ตอบคำถามแรกอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป เขาอาจจะไม่ได้เปลี่ยนไปก็ได้ เขาอาจจะเป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว แล้วก็เขาก็ออกตัวแล้วนะว่า ถ้าไม่ใช่เขาก็เท แปลว่า ความสัมพันธ์ยังอยู่ในช่วงของการดูใจ แล้วก็สองแค่ไม่ใช่สำหรับเขาอีกต่อไป พอไม่ใช่เขาก็ไป คือเดือนหนึ่งโดนเทโดยที่ตัดขาดเลยอ่ะ ไม่น่าเกลียดนะเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าคุยกันมานานๆ แบบ 5 - 6 เดือนเกิดความผูกพันกัน แล้วเขาจะเทถ้าเป็นผู้ชายดีๆ เขาก็จะบอกเลยว่า ขอลดระดับความสัมพันธ์ ก็จะมีคำพูดดีๆ แบบนี้ แต่ถ้าแค่เดือนเดียวมันไม่ใช่แค่ผู้ชาย ถ้าเป็นพี่ พี่ก็เทเพราะมันไม่ใช่ มันเป็นช่วงเวลาที่ไม่จำเป็นต้องแคร์กัน ส่วนทำไมไม่ละอายคำตัวเอง ก็อย่างที่พี่เผือกบอกเลย มันเป็นช่วงเวลาของการทำคะแนน ช่วงนี้อะไรมันก็ดีไปหมดแหล่ะ มันอยากได้อ่ะเนอะ บางคนก็มาเพื่อแบบหลอกฟันก็มี พอได้แล้วก็เลิก หรือช่วงนั้นเขาอาจะรู้สึกแบบ แฮปปี้ฉันอยู่กับเธอแล้วมีความสุข เพราะมันเป็นช่วงของการหลงใหลอยู่ไง แล้วพออยู่ไปนานๆ แล้วมันไม่ใช่ พอไม่ใช่เขาก็ไม่จำเป็นต้องแคร์ ทำยังไงถ้าเจอคนประมาณนี้อีก เป็นสิ่งที่เราก็ต้องใช้เวลาในการเลือกเยอะๆ ไม่ให้ใจใครง่ายๆ วิธีการเช็คก็เข้าไปตรงแพลตฟอร์มเขา อย่างเช่นใน IG ผู้ชายคนนี้สนใจเรื่องอะไร ถ้าใน Followers มีแต่ผู้หญิงเซ็กซี่ๆ ก็มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นผู้ชายเจ้าชู้ หรือผู้ชายที่ชอบเซลฟี่หน้าตัวเองแล้วทำหน้าเซ็กซี่ๆ อันนี้ต้องการเรตติ้ง หรือถ่ายบอดี้ตัวเองที่แบบหุ่นดีๆ พยายามพรีเซ้นท์ความเซ็กซี่ของตัวเอง คนเหล่านี้มีความสุ่มเสี่ยง ไม่ได้บอกว่าเขาไม่ดี หรือไม่ได้บอกว่าเขาไม่ใช่ แต่ผู้ชายเหล่านี้สุ่มเสี่ยงที่จะบริหารเสน่ห์มีความเป็นไปได้ ฉะนั้นถ้าเราเจอคนประเภทนี้ เราอาจจะค่อยๆ ที่จะเรียนรู้กันไป ยังไม่ต้องรีบเท่านั้นเอง โดยสรุปเลยก็คือว่า สิ่งที่โดนเทมาไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วตัวสองเองก็สามารถที่จะเลือกคนใหม่ได้ แล้วถ้ามันไม่ใช่ก็สามารถเทแบบนี้ได้เหมือนกัน ไม่น่าเกลียด ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่าไปย้อนดูว่า ตอนนั้นทำไมเขาพูดดีกับเราจัง อันนั้นเป็นช่วงเวลาที่อยากได้ คือมันต้องเจอคนเยอะๆ เจอคนบ่อยๆ ถึงจะประเมินได้โดยเบื้องต้นว่า คนนี้ไม่ธรรมดา คนนี้เจ้าชู้ มันจะมีการกระทำอะไรบางอย่าง ให้วัดที่การกระทำ ไม่ใช่วัดที่คำพูด’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1