ผมรำคาญ! มีพี่ที่ทำงานคนนึง อายุ 52 เป็นรุ่นพ่อแล้ว แต่ยังแกล้งผม แกล้งรุ่นน้องผู้ชายในที่ทำงานเหมือนเด็ก เอาน้ำแข็งหยอดใส่หลัง ดึงกางเกงให้หลุด เดินเตะขาให้สะดุด กินข้าวก็เอามือมาปัดตะเกียบ หลังๆเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผมรำคาญ! มีพี่ที่ทำงานคนนึง อายุ 52 เป็นรุ่นพ่อแล้ว แต่ยังแกล้งผม แกล้งรุ่นน้องผู้ชายในที่ทำงานเหมือนเด็ก เอาน้ำแข็งหยอดใส่หลัง ดึงกางเกงให้หลุด เดินเตะขาให้สะดุด กินข้าวก็เอามือมาปัดตะเกียบ หลังๆเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ

04 มี.ค. 2024

ผมรำคาญ! มีพี่ที่ทำงานคนนึง อายุ 52 เป็นรุ่นพ่อแล้ว

แต่ยังแกล้งผม แกล้งรุ่นน้องผู้ชายในที่ทำงานเหมือนเด็ก

เอาน้ำแข็งหยอดใส่หลัง ดึงกางเกงให้หลุด เดินเตะขาให้สะดุด

กินข้าวก็เอามือมาปัดตะเกียบ หลังๆเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ เคยด่าอ้อมๆไปว่า

“ถ้าผมด่าพี่ได้ ผมคงด่าไปแล้วครับว่า เป็น *** อะไร?”

          “คุณนัท (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี เป็นสายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [28 ก.พ 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาเรื่องพี่ที่ทำงานชอบแกล้ง

            โดย “คุณนัท (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘พี่ที่ทำงานอายุ 50 ปี ชอบแกล้งเหมือนเด็ก ๆ เช่น ดึงกางเกง ดึงผม ดีดหนังยาง ดึงหู บางที่ผมกำลังกินข้าวก็เอามือมาปัดแขนผม เพื่อให้ข้าวหล่น เอาน้ำแข็งใส่เสื้อ สกัดขาผมให้ล้ม เอานิ้วแหย่ก้น เอาปากกาเมจิกมาขีดแขน ผมก็รำคาญ ซึ่งผมเป็นคนหุ่นหมี พี่เขาตัวเล็กและอายุเยอะกว่า ผมจึงแกล้งเอาคืนพี่เขาไม่ลง วันไหนที่ผมต้องทำงานกับพี่เขาจะโดนแกล้งประมาณ 20 ครั้งต่อวัน

            ซึ่งคนอื่นก็โดนแกล้ง แต่ก็จะตะคอกและด่าพี่เขากลับ ด้วยความที่พี่เขาอายุเยอะกว่าผม เลยมีความเกรงใจ ผมจึงไม่ค่อยด่า แต่ผมก็เคยบอกกับพี่เขาไปว่า “ผมรำคาญ” พี่เขาก็หัวเราะ เห็นว่าผมอารมณ์ไม่ดีก็จะหายไปซักพัก พอเห็นว่าผมอารมณ์ดีแล้วก็จะกลับมาแกล้งผมอีก ผมก็เคยด่าเขาแต่ด่าแบบอ้อม ๆ พี่เขาก็เหมือนไม่รู้ตัว บางทีผมก็มีแกล้งเล่นกันกับเพื่อนที่ทำงาน แกล้งกันไปแกล้งกันมา ผมก็ไม่ได้โกรธอะไรเพื่อน แต่ถ้าพี่เขาแกล้งผมแล้วผมแกล้งพี่เขาคืน พี่เขาก็จะโกรธและงอนเหมือนเด็ก ทำฟึดฟัด ไม่พอใจ ผมก็ไม่ขอโทษเวลาที่พี่เขางอน เขาก็จะหายเอง แล้วก็จะกลับมาแกล้งผมอีก

            ตอนที่พี่เขาอยู่กับคนที่อายุใกล้ ๆ กันก็ปกติ แต่จะชอบแกล้งแค่คนที่อายุน้อยกว่า ผมไม่ได้โกรธพี่เขาแต่แค่รำคาญ บางทีก็โมโหเพราะดึงหัวครั้งแรก ครั้งที่สอง ผมก็ไม่ได้อะไร แต่พี่เขาดึงย้ำ ๆ บ่อยจนผมโมโห แล้วเขาก็จะหายไป พอผมอารมณ์ดีก็จะกลับมาอีก ผมก็สงสารพี่เขาเพราะพึ่งเข้ามาทำงาน ไม่ค่อยมีเพื่อน แต่บางทีก็ทำเกินไปจนผมโมโห

            มีครั้งหนึ่งผมอยากแกล้งพี่เขาคืน ก็มีการคุยกันประมาณว่า ผมให้พี่ดีดหนังยางใส่ผม 3 ครั้ง แล้วผมขอดีดพี่ครั้งเดียว แล้วพี่ห้ามโกรธ พี่เขาก็ตกลงแต่จะขอเป็นคนเริ่มก่อน พอพี่เขาดีดหนังยางใส่ผม 1 ครั้ง ก็บ่ายเบี่ยงว่ายังดีดไม่ครบ 3 ครั้งยังไม่ให้ผมดีดคืน ก็เลยอยากปรึกษาดีเจทั้ง 3 คนว่าผมควรทำยังไงให้พี่เขาหยุดแกล้งหรือจะเอาคืนพี่เขายังไงดี?

            ซึ่ง ดีเจทั้ง 3 คน ก็ให้คำปรึกษาว่าพวกพี่ก็จะรีแอคให้เขารู้ไปเลยว่าที่โดนแกล้งอยู่มันไม่สนุก ซึ่งการกระทำของคุณนัทที่ทำทุกวันก็เหมือนเล่นกับพี่เขาไปด้วย แต่บางทีก็เกินไป ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเราก็สนุกกับการเล่นกับพี่เขาในบางวัน เวลาแกล้งกันก็แบบนี้ อาจมีเลยเถิดไปบ้าง แต่เท่าที่ดูคุณนัทก็มีความปราณีกับพี่เขาอยู่ อยากให้เล่นกับพี่เขาต่อไป ไม่ต้องไปโกรธพี่เขา วันที่สนุกก็สนุกด้วยกัน แต่ถ้าไม่เล่นก็ต้องไม่เล่นเลยตั้งแต่แรก และต้องพูดกับพี่เขาแบบจริงจังหรือพูดตรง ๆ ไปเลยว่า “ผมรำคาญและทำงานอยู่ ผมไม่ได้มีอารมณ์เล่นกับพี่ได้ทุกครั้งนะ แต่ถ้าพี่ยังแกล้งผม ต่อไปนี้ผมจะแกล้งคืนแล้วนะ พี่จะได้รู้ว่ามันรู้สึกยังไง” เตือนพี่เขาก่อน แต่ถ้าเขายังแกล้งอีกก็แกล้งเขาให้หนักกว่าที่พี่เขาแกล้งเรา ให้พี่เขารู้ว่าเขาต้องหยุด ถ้าเราแกล้งคืนแล้วพี่เขางอน ก็ให้คุณนัทแจ้งกับฝ่ายบุคคล...’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบกับแฟนมา ไม่เคยเจอคุณแม่ แต่คุณแม่แฟนเอา วัน เดือน ปีเกิดเราไปเช็คดวง แล้วบอกกับลูกสาวว่า ดวงไม่สมพงษ์กัน แล้วหมอดูก็ยังบอกมาอีกว่า ผู้ชายคนนี้ มีครอบครัวแล้วให้ระวัง ซึ่งผมไม่มี

31 พ.ค. 2024

คบกับแฟนมา ไม่เคยเจอคุณแม่ แต่คุณแม่แฟนเอา วัน เดือน ปีเกิดเราไปเช็คดวง แล้วบอกกับลูกสาวว่า ดวงไม่สมพงษ์กัน แล้วหมอดูก็ยังบอกมาอีกว่า ผู้ชายคนนี้ มีครอบครัวแล้วให้ระวัง ซึ่งผมไม่มี

คบกับแฟนมา ไม่เคยเจอคุณแม่ แต่คุณแม่แฟนเอา วัน เดือน ปีเกิดเราไปเช็คดวงแล้วบอกกับลูกสาวว่า ดวงไม่สมพงษ์กัน แล้วหมอดูก็ยังบอกมาอีกว่า ผู้ชายคนนี้ มีครอบครัวแล้วให้ระวังซึ่งผมไม่มี ตอนนี้ทุกคนในบ้านฟังแม่เขาหมด แล้วแฟนก็ขอห่างกับผม เหมือนผมโดนตัดสินโดยใครก็ไม่รู้... “คุณเอ็กซ์ (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [29 พ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแม่แฟนเอาวันเดือนปีเกิดไปดูดวงจนทำให้ต้องเลิกกับแฟน โดย “คุณเอ็กซ์ (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมทำงานอยู่ที่บริษัทซอฟแวร์แห่งหนึ่ง ที่บริษัทจะมีรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง คือว่าเราสองคนได้รับหน้าที่ให้ทำโปรเจ็คด้วยกัน ทำให้เราสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้น ได้อยู่ด้วยกันตลอดทุกวัน เราก็เริ่มชอบกัน เพราะเราคุยกันถูกคอมากๆ ระบายกันทุกเรื่อง แล้วทีนี้เราก็ได้มีการนัดไปทำงานกันที่ห้างแห่งหนึ่ง เราก็มานั่งทำงานกันพอทำงานเสร็จ เราก็ไปกินข้าวด้วยกัน แล้วพอกินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ แต่บ้านผมอยู่ไกลมาก ผมก็ต้องนั่งรถไฟฟ้ากลับ แต่ว่าผมเข้าใจผิดคิดว่าขบวนรถไฟสุดท้ายคือเที่ยงคืน แต่จริงๆ ขบวนสุดท้ายของสายนั้นคือ 5 ทุ่ม ทีนี้ผมก็ไม่มีรถกลับ ผมก็เลยโทรบอกเขา เออเนี่ย…เดี๋ยวจะไปเปิดห้องนอนก่อน แล้วเช้าค่อยกลับ แต่เขาก็บอกว่า ไม่เอาๆ เดี๋ยวเขาวนรถกลับมารับ แล้วก็ไปนอนบ้านเขา ผมก็ตกลง วันนั้นผมก็ได้ไปนอนบ้านเขาและวันนั้นเราสองคนก็ได้ตกลงเป็นแฟนกัน เราก็คบกันมาได้เกือบอาทิตย์ ต้องขอบอกเลยว่าพี่เขาเป็นคนที่เชื่อแม่ และรักแม่มากๆ สำหรับเขาแม่มีอิทธิพลมากพอสมควร ผมก็มองว่าไม่ผิดคนเราต้องรักแม่ถูกแล้ว แล้วทีนี้แม่เขาก็เอาวันเดือนปีเกิดของผมไปดูดวง ว่าดวงผมกับพี่เขาเป็นยังไง แล้วหมอดูทำนายว่า ดวงผมไม่สมพงศ์กับพี่เขา และมีอีกคำนายหนึ่งที่ไม่เป็นความจริงเลยคือ หมอดูทำนายว่า ผมมีครอบครัวแล้ว โดยที่ไม่ถามไถ่ผมเลย ซึ่งแฟนผมก็น่าจะยังไม่ได้บอกแม่เขาว่าผมยังไม่มีครอบครัว เพราะเขาน่าจะดูเชื่อไปด้วย แต่ผมไม่รู้ว่าเชื่อกี่เปอร์เซ็นต์ แต่หลักๆ เลยก็คือแม่เขาก็ไม่อยากให้ไปต่อกับผมนั่นแหล่ะ พี่เขาก็เลยขอลดสถานะความสัมพันธ์กับผม และไม่ขอพัฒนาต่อไปมากกว่านี้แล้ว การขอลดสถานะความสัมพันธ์ครั้งนี้ ผมไม่ติดอยู่แล้ว ผมเคารพการตัดสินใจของเขา เพราะเราเปลี่ยนความคิดใครไม่ได้ แต่ที่ผมนอยมากๆ เลยก็คือ ผมถูกตัดสินจากใครก็ไม่รู้ ที่รู้แค่ วันเดือนปีเกิดของผมแค่นั้น ซึ่งหลังจากที่เราเลิกกัน ผมก็ลาออก แต่พี่เขาก็ยังมีทักมาหาผมบ้าง มาระบายเรื่องงาน ถามเรื่องโปรเจคที่ผมกับพี่เขาเคยทำร่วมกัน ตอนนี้พี่เขารับหน้าที่ดูแลต่อ แล้วก็มีคุยเรื่องส่วนตัวบ้าง ผมก็มีถามเขาบ้างว่า สบายดีมั้ย เหนื่อยรึเปล่า ผมก็ถามไปปกติ ผมอยากถามพี่ๆดีเจว่า ควรปล่อยเขาไปใช่มั้ย หรือว่าควรจะสู้กับดวงที่หมอดูทำนายมาดี?’ โดย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับหอม ชีวิตเราเป็นคนเลือกเอง หมอดูเป็นแค่สิ่งที่นำทางให้เราเฉยๆ ถ้าหมอดูพูดอะไรแล้วมันซัพพอร์ตกับสิ่งที่อยู่ในใจเรา เราจะมีความมั่นใจในการลุยกับสิ่งนั้นมากขึ้นเท่านั้นเอง แล้วก็ที่ถามว่าเราจะยังไปรอผู้หญิงคนนี้อีกมั้ย หอมบอกเลยว่า ตัดไปเลย ทิ้งไปเลย ให้รู้ซะบ้าง ไม่ใช่ว่าแบบ เธอเลิกกับฉันง่ายๆ เพียงแค่ฟังคำหมอดู ซึ่งมัน Non sense ถ้าเกิดเราคบกันแล้วเธอเจอปัญหาที่ใหญ่กว่านี้ แล้วแม่เธอพูดอะไรสักอย่างหนึ่ง เราก็เลิกกันได้อยู่ดี เรื่องเล็กๆ เธอยังเลิกกับเราได้ง่ายขนาดนี้เลย ฉะนั้นถ้ามีปัญหาใหญ่เข้ามาในชีวิต เธอจะไม่ปล่อยมือกันง่ายๆ หรอ แล้วก็ไม่ต้องถามเขาว่า สบายดีมั้ย เขาเทเรา ด้วยเหตุผลที่งี่เง่ามาก เขาต้องได้รับบทเรียน เธอกำลังเสียผู้ชายที่ดีที่สุดไป แล้วไปหาคนใหม่เลย หาคนที่เขาเห็นคุณค่าในตัวเราไม่ใช่แค่รู้สึกว่า เราไม่มีคุณค่าอะไรเลยหรอ ถึงได้ตัดสินเรากับเรื่องงี่เง่าแค่นี้ อันนี้คือไร้เหตุผลมากๆ และครอบครัวนี้ไม่เหมาะกับเรา ครอบครัวที่ใช้พ่อแม่บงการทุกอย่างในชีวิต จนไม่เป็นตัวของตัวเอง ก็ให้เขาอยู่กับแม่ไปหรือไม่ก็ให้เขามีแฟนกับคนที่แม่เขาหาให้ แล้วไม่ต้องรอให้มันเสียเวลา เชิ่ด !!!!’ ต่อด้วย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มันมี 2 ประเด็นสำหรับพี่นะ เวลาที่พี่เห็นใครที่เขาเชื่อเรื่องอะไรทำนองนี้ เรื่องหมอดู ดวงชะตา โชคชะตา และถ้าเขายึดมันเป็นแกนหลักในการใช้ชีวิตแล้ว พี่รู้สึกว่า อะไรก็เอาเขาไม่อยู่ เพราะเขาเลือกที่จะเชื่อแบบนี้แล้ว ถ้าเขาใช้สิ่งนี้เป็นที่ตั้ง แสดงว่าเขามีแนวคิดที่คิดมาแล้ว หรือว่าประสบการณ์ชีวิตของเขา สิ่งนี้มันพิสูจน์ได้ว่า มันจริงสำหรับเขา พี่ว่าการจะไปสู้กับอะไรแบบนี้ เหมือนเราแพ้ตั้งแต่หน้าประตูแล้ว ซึ่งมันเหนื่อยมากเลยกับการแพ้ ให้กับสิ่งที่เรามองไม่เห็น แล้วเราไม่รู้ว่าจะไปพิสูจน์มันยังไง นอกจากเราต้องใช้เวลา เข้าใจมั้ย ซึ่งบางอย่างเขาไม่มารอเรา แล้วเขาตัดสินเราไปแล้ว อันนี้สำหรับเรื่องแรกพี่ว่ามันยาก สำหรับอันที่ 2 พี่เห็นด้วยกับพี่หอมว่า ถ้าคนๆ หนึ่งเลือกเรา ในการคบหาจากการดวงล้วนๆ หรือจากสิ่งที่หมอดูบอก โดยที่ไม่ได้ดูสิ่งที่เราทำ ไม่ดูว่าเรามีพฤติกรรมที่ปฎิบัติกับเขายังไงในฐานะคนรัก พี่ว่าคนแบบนี้ พี่ไม่เลือกเอามาเป็นแฟนนะ ถ้าเขาไม่เอา เราก็ไปหาคนอื่น มันไม่ได้มีคนเดียวบนโลกใบนี้ที่เราจะต้องรักพุ สำหรับพี่มันง่ายแค่นี้’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผมมีความเชื่อว่าถ้าเห็นลู่ทางไม่ดี เราอย่าชิงแพ้ให้เละเทะ เราไปแบบเชิ่ดๆ หล่อๆ ก่อนดีกว่า แล้วไปแบบให้เขาเสียดาย ไปแล้วไปลับไม่กลับมา ให้เขาเสียดายว่า ไอความไร้สาระของเขามันเคยทำให้เขาพลาดอะไรไป คือถ้าเรื่องแค่นี้เขามาขอลดความสัมพันธ์กับเรา หมอดูคนนี้จะดูชีวิตคู่ของคุณเอ็กซ์กับเขาเนี่ยไปตลอดเลย จะมีลูกปีไหน จะเกิดเดือนไหน จะให้เรียนโรงเรียนอะไร มันจะวุ่นวายไปหมด แล้วก็นอกจากหมอดูแล้วเนี่ย คิดว่าครอบครัวเขาก็จะมามีอิทธิพลกับชีวิตคู่คุณเอ็กซ์กับเขาไปตลอด ซึ่งถ้าคุณเอ็กซ์ได้ฟังพุธทอล์คพุธโทรมา ปัญหาที่ครอบครัวเข้ามาวุ่นวายในชีวิตคู่เนี่ยโครตปวดหัวเลย เพราะฉะนั้นไปแบบผู้ชนะถึงแม้ว่าใจลึกๆ เราจะรู้สึกว่าโดนเทก็ตาม แต่จงรักษาทรง แล้วเดินออกไปอย่างผู้ที่เหมือนว่าชนะ แบบโดนเทแต่ยังเท่อยู่ ให้เขาเสียดายเราในภายหลัง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คุยกับผู้ชาย 2 คนพร้อมกันมา 6-7 เดือน ทั้งสองเริ่มต้องการความชัดเจน แต่เราไม่รู้จะเลือกใคร 1.รุ่นน้องแสนดี เพอร์เฟคตามที่เราอยากได้ อนาคตดี แต่ไม่รู้สึกรัก 2.รุ่นพี่ นิสัยเจ้าชู้ ไม่อยากแต่งงานมีลูก

26 ม.ค. 2024

คุยกับผู้ชาย 2 คนพร้อมกันมา 6-7 เดือน ทั้งสองเริ่มต้องการความชัดเจน แต่เราไม่รู้จะเลือกใคร 1.รุ่นน้องแสนดี เพอร์เฟคตามที่เราอยากได้ อนาคตดี แต่ไม่รู้สึกรัก 2.รุ่นพี่ นิสัยเจ้าชู้ ไม่อยากแต่งงานมีลูก

คุยกับผู้ชาย 2 คนพร้อมกันมา 6-7 เดือนทั้งสองเริ่มต้องการความชัดเจน แต่เราไม่รู้จะเลือกใคร1.รุ่นน้องแสนดี เพอร์เฟคตามที่เราอยากได้ อนาคตดี แต่ไม่รู้สึกรัก2.รุ่นพี่ นิสัยเจ้าชู้ ไม่อยากแต่งงานมีลูกส่วนเราอยากแต่งอยากมีลูกแต่คนนี้รู้สีกรัก ถ้าเป็นทุกคนจะเลือกใครดีคะ? “คุณซัน (นามสมมติ)” อายุ 32 ปี สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [ 24 ม.ค. 67 ] ได้โทรมาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล และดีเจต้นหอม เกี่ยวกับการตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ระหว่างคนดีหรือคนที่ชอบ โดย “คุณซัน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูได้รู้จักกับคน 2 คนในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นรุ่นพี่คนนึงอายุ 38 ปี และรุ่นน้องอีกคนนึงอายุ 28 ปี เจอกันในแอปพลิเคชัน เราตกลงกันกับทั้ง 2 คนเลยว่าจะเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องที่คุยกันไปเรื่อย ๆ เรายังไม่เคยเจอกันเลย แต่พอเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์เราก็เริ่มพัฒนาขึ้น มีนัดเจอกันบ้าง ทำทุกอย่างที่เหมือนแฟน แต่ยังไม่ได้อยู่ในสถานะแฟน มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทั้ง 2 คน แต่สำหรับหนูเรื่อง SEX ไม่ใช่ปัจจัยหลัก จนตอนนี้ระยะเวลาผ่านมาครึ่งปีแล้ว ทั้ง 2 คนก็เริ่มอยากได้คำตอบสถานะที่ชัดเจน ซึ่งรุ่นพี่รู้ว่าหนูมีอีกคนอยู่ แต่รุ่นน้องไม่รู้เลย หนูไม่รู้ว่าจะเลือกทางไหนดีเพราะว่าคนที่เป็นรุ่นน้อง ค่อนข้างที่จะดูแลเทคแคร์ดีทุกอย่าง มีอนาคตเป็นแบบที่เราต้องการเลย แต่ยังมีความคิดที่ดูเป็นเด็กอยู่ ด้วยความที่เขาอายุน้อยกว่าเรา แต่ไม่ถึงขั้นทำให้เรา Toxic และหนูไม่ได้รู้สึกรัก ส่วนอีกคนนึงเป็นรุ่นพี่ เขาก็ดูแลเทคแคร์ดีเหมือนกัน แต่ไม่เท่ากับรุ่นน้อง และค่อนข้างที่จะเจ้าชู้นิดนึง แต่สำหรับหนู หนูรับได้และคิดว่าเอาอยู่ แล้วหนูก็รู้สึกว่ารักคนนี้มากกว่า แต่เรามองอนาคตไม่เหมือนกัน เพราะเป้าหมายหลักของหนู คือ อยากแต่งงาน หนูอยากฟังความคิดเห็นพี่ๆ ว่าหนูควรเลือกทางไหนดีคะ? ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ให้คำแนะนำว่า ‘ถ้าเราคุยกันด้วยเหตุผล แนะนำให้เลือกรุ่นน้อง เพราะว่าข้อเสียมันไม่ได้ทำลายชีวิตคู่เท่ากับคนที่ 2 แต่ถ้าเป็นเรื่องของหัวใจ ก็ต้องเลือกคนที่ 2 เพราะว่าทุกอย่างที่คุณซันไม่แน่ใจหรือกังวล ถ้าสุดท้ายเป็นแฟนกันจริง ๆ มันอาจจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่คุณซันกังวลก็ได้ สุดท้ายแล้วรู้สึกว่าการที่เราจะรักใครก็ต้องฟังหัวใจตัวเอง ส่วนคนแรกคุณซันก็มีความรู้สึกแหละ แต่แค่ไม่เท่ากับคนที่ 2 เพราะไม่อย่างนั้นคุณซันไม่คุยมาจนถึงตอนนี้หรอก แต่ถ้าพี่เป็นเพื่อน พี่ก็จะบอกว่า เลือกคนที่ชอบไป ถ้าอนาคตเป็นยังไงก็ต้องยอมรับผลที่ตัวเองเลือก’ ต่อมา “ดีเจเผือก” แนะนำว่า ‘ให้เลือกรุ่นพี่ เพราะคุณซันเลือกมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มาลองให้รู้ว่าจะรับนิสัยความเจ้าชู้ได้จริงไหม? ส่วนเรื่องแต่งงานเขาอาจจะเปลี่ยนใจในอนาคตก็ได้ แต่ถ้ารู้สึกว่าเริ่มเสียเวลา ทนไม่ไหวแล้ว เราค่อยไปตามหาคนที่มีนิสัยเหมือนรุ่นน้อง แต่อาจจะไม่ใช่คนเดิมก็ได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเจอหรือป่าว เพราะเวลาที่ผ่านไปเรื่อย ๆ คนดี ๆ ก็เริ่มไปมีครอบครัวกันหมด ตัวเลือกก็จะน้อยลง ผมขอให้เป็นการตัดสินใจที่ดี’ และ “ดีเจต้นหอม” แนะนำว่า ‘เพชรอยู่ตรงหน้าไม่เลือก เพราะหินก่อนนั้นมันใหญ่กว่า ฉันอยากจะท้าทายโดยการเจียระไน เผื่อว่ามีเพชรอยู่ข้างใน แต่ถ้าวันนึงเธอรู้ว่าหินก้อนนี้ไม่ใช่เพชรขึ้นมา แต่เพชรเม็ดนั้นมีคนอื่นเอาไปแล้ว เธอจะตามหาสิ่งเหล่านั้นไม่ได้แล้วนะ ซึ่งรุ่นน้อง คุณซันบอกเองว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีข้อเสียอะไรเลย ในขณะที่รุ่นพี่มีข้อเสียใหญ่มากคือเป้าหมายไม่ตรงกัน เรายังอยากจะเอาเวลาของเราไปเล่น คนที่เขารักเรา เขาทะนุถนอมและเทคแคร์เราเพราะเราคือคนสำคัญสำหรับเขา แล้วความสุขมันเกิดด้วย เพราะเราเลือกเหตุผลมากกว่าหัวใจ อันนี้คือสำหรับหอมนะ เมื่อกี้หอมถามว่าซันมีเวลาเล่นกับตัวเองกี่ปีที่อยากแต่งงาน ซันบอก 3 ปี ฉะนั้น 3 ปี มันน้อยมากเลย ที่จะไปลองกับคนนี้ ที่จะเสี่ยงทิ้งเพชรอันนี้ไป แต่ถ้าอยากเสี่ยงก็ต้องยอมรับความผิดหวังให้ได้ สิ่งที่ต้องรับให้ได้เลยคือเพชรก้อนนี้ต้องตกไปอยู่ในมือคนอื่น’ สุดท้ายนี้พี่ ๆ ดีเจทั้ง 3 คน ขอให้สิ่งที่คุณซัน ตัดสินใจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เรากับแฟน เป็นผู้หญิงแกร่งเหมือนกันทั้งคู่ แต่บางทีเราก็มีโมเมนต์อยากอ้อนแฟน โทรหาให้ขับรถมารับเราหลังเลิกงาน แต่แฟนตอบกลับมาว่า "ปกติก็ทำเองได้นิ ทำไมต้องให้ไปรับด้วย"

05 ก.ค. 2024

เรากับแฟน เป็นผู้หญิงแกร่งเหมือนกันทั้งคู่ แต่บางทีเราก็มีโมเมนต์อยากอ้อนแฟน โทรหาให้ขับรถมารับเราหลังเลิกงาน แต่แฟนตอบกลับมาว่า "ปกติก็ทำเองได้นิ ทำไมต้องให้ไปรับด้วย"

เรากับแฟน เป็นผู้หญิงแกร่งเหมือนกันทั้งคู่ แต่บางทีเราก็มีโมเมนต์อยากอ้อนแฟนโทรหาให้ขับรถมารับเราหลังเลิกงาน แต่แฟนตอบกลับมาว่า "ปกติก็ทำเองได้นิ ทำไมต้องให้ไปรับด้วย"อาจจะด้วยความที่แฟนเป็นคนที่วางตารางชีวิตตัวเองทุกวัน หรือ ไปทำให้แฟนเสียแพลนรึเปล่าคะ? “คุณเจน (นามสมมติ)” อายุ 38 ปี สายที่ 4 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (3 ก.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาอยากให้แฟนมารับมาส่งบ้าง แต่เขาบอกว่าเราบอกกะทันหันไป เขามีแพลนของตัวเองแล้ว โดย “คุณเจน (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘หนูมีแฟนเป็นผู้หญิง เจอกันผ่านแอปพลิเคชัน ตอนแรกก็คุยกันแบบเป็นเพื่อน แต่พอคุยไปคุยมาแล้วมันคลิ๊ก ก็เลื่อนความสัมพันธ์มาเป็นแฟนกันได้ 1 ปี แต่ลักษณะของหนูกับแฟนจะเป็นประเภทที่ดูแลตัวเองกันได้ทั้งคู่ ตอนนี้เลยมีปัญหาอยู่เรื่องหนึ่ง คือบางทีหนูทำงานเหนื่อย แล้วหนูอยากให้เขามารับไปส่งบางครั้ง เขาเลยถามหนูว่า “ทำไมอยู่ดีๆ ให้ทำแบบนี้” เพราะปกติหนูก็ไปทำงานเอง กลับเองได้ แล้วเขาบอกว่า การที่หนูไปขอเขาแบบนี้เลย มันเหมือนเขาต้องทำให้เลย ไม่มีตัวเลือกให้เลือก ซึ่งการที่หนูขอแบบนี้มันคือการบอกว่าให้เขาต้องทำ ไม่งั้นหนูจะงอน แต่จริงๆแล้วหนูแค่อยากมีโมเมนต์หวานๆบ้าง เพราะว่าพวกเราไม่ค่อยมีเวลาว่างตรงกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์คล้ายๆกัน คือวันนั้นหนูเลิกงานดึก แต่เขาเลิกงานแล้ว เขาว่างแล้ว หนูบอกเขาว่า “เธอขับรถมารับเราได้มั้ย” เขาก็บอกว่า “อ้าว แต่เราเพิ่งเลิกนะ เรากำลังจะดูหนัง พักผ่อน” คือเหมือนเขาเป็นคนที่ติดการวางแพลนในหัวตลอดเวลา ว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง แล้วเขาบอกว่า อยู่ดีๆหนูไปทำลายแพลนเขา เขาก็บอกว่า “แล้วฉันต้องทำงยังไงละ” เหมือนมันรวนเพราะเขาวางตารางไว้แล้ว เราหนูก็จะงอนถ้าเขาไม่ทำให้ คือหนูดูแลตัวเองได้มาตลอด แค่นานๆเขาที ส่วนเขาไม่เคยทำตัวอ่อนแอเลย เพราะเขาเคยบอกว่า เขาไม่ชอบเป็นภาระให้คนอื่น หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่าหนูกับแฟนควรจะหาตรงกลางร่วมกันยังไงดี? หนูควรจัดการยังไงให้ไม่รู้สึกนอยถ้าเขาปฏิเสธ’ โดย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘เวลาเราเลือกแฟน เราต้องรู้ไลฟ์สไตล์กับ เนเจอร์ของเขาก่อน อยากได้คนขี้อ้อน ก็เลือกคนขี้อ้อน แต่นี่เราเลือกแฟนที่ดูแลตัวเองได้ แปลว่าสิ่งที่เจออยู่นี้มันอยู่ในแพ็คเกจนี้ อยากได้แฟนแบบไหนก็เลือกแฟนแบบนั้นตั้งแต่แรก ทีนี้แฟนเรามาด้วยแพ็คเกจนี้ เราก็ต้องยอมรับสิ่งนั้น แต่ถ้าแบบว่าอยากมีโมเมนต์นั้น อยากให้มารับบ้าง ก็นัดล่วงหน้า ในเมื่อรู้ว่าเขาเป็นคนชอบแพลน ปรับที่เราเพราะเราเลือกแล้ว หรือเรียกเขามาถูดคุย พี่ว่าพี่เขาใจเขา แต่ถ้าเกิดว่ามีเหตุการ์ฝนตกหนักมากกลับไม่ได้ ขอให้เขามารับแต่ไม่มา อันนี้ไม่ใช่แล้ว อันนี้คือเขาขาดตกบกพร่องในหน้าที่แฟนแล้ว ถ้ารู้สึกว่าเขาไม่มีน้ำใจ ไม่หยิบยื่นอะไรให้เรา หรือเราเจอสถานการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือจากเขาแล้วเขาไม่ช่วย คงต้องเปลี่ยนแฟน ไม่ได้บอกให้เลิกหรือให้คบ ลองประเมินดูว่าเขาเป็นแบบไหน ตรงกลางสำหร้บหอมคือ คุยกันล่วงหน้า’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าคนเราเป็นแฟนกัน มันก็ต้องมีมุมที่อยากให้แฟนดูแลบ้าง สมมุติ “ถ้าฉันยกกระเป๋าให้เธอ มันก็มีบางวันที่ฉันเหนื่อย ฉันก็คาดหวังว่าเธอจะยกกระเป๋าให้ฉันบ้างเพราะเป็นแฟนกัน” เพราะที่เจนเล่าคือไม่ได้ขอทุกวัน ไม่ใช่อาทติิตย์ละครั้ง แต่นานๆทีถึงจะขอ เข้าใจนะว่าเขาวางแพลนทุกอย่างมาแล้ว แต่ในสถานะที่เป็นแฟนกัน ถ้าเขาต้องการสิ่งนี้ วันนั้นเขาเหนื่อย เขาอ่อนแอจริงๆ เขาไม่ได้ขอทุกวัน พี่คิดว่าเป็นแฟนกันควรทำให้กันได้ แต่ก็เข้าใจที่พี่หอมพูด ว่าเขาเป็นแบบนั้นตั้งแต่แรก เจนก็ดูแลตัวเองได้ตั้วแต่แรก แต่ถ้าวันนี้เจนไม่ได้แข็งแรงเท่าเดิม แล้วต้องการให้เขาเติมเต็มความต้องการของเจน พี่ว่าก็ต้องคุยกัน ซึ่งถ้าคุยกันแล้ว เขาบอกว่า ไม่ เขาไม่ใช่คนแบบนั้น งั้นเจนก็ต้องถามตัวเองว่า วันนั้นเจอลนยังโอเคอยู่มั้ย มันไม่ผิดเลยนะ เจนก็มีสิทธิ์ที่อยากจะเปลี่ยนไปอยากอ่อนเเอบ้าง และเขาก็มีสิทธิ์ที่เจนเปลี่ยนแต่เขาไม่พร้อมเปลี่ยนไปด้วย เพราะเขาก็ชัดเจอของเขาตั้งแต่แรก พี่ว่าคนเราเปลี่ยนกันได้’ และสุดท้าย “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘เราต้องถามใจตัวเอง ว่าวันนั้นที่เราเรียกร้อง เป็นเพราะว่าเราต้องการจริงๆ หรือแต่เรียกร้องความสนใจ ก็มองดีๆนะ ว่าเขามีชีวิตของตัวเอฝ หรือไม่มีน้ำใจเลย แต่พี่ว่าเขาเป็นคนที่แน่นอน มีตารางวางไว้ว่าจะทำอะไร พี่รู้จักคนแบบนี้เยอะ การที่เราจะบอกแบบนั้นว่า “เธอเราเลิกงานแล้วมารับหน่อยสิ” คือทมันกนะทันหันมาก แล้วถ้าเขาไม่ได้เตรียมใจจะมา มันก็จะสร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้เขา หมายถึงว่า อยู่ดีๆจะมาเอาแต่ใจอะไรตอนนี้ เพราะปกติก็ดูแลตัวเองมาตลอด พี่ว่ามันกระทันหัน แล้วก็มัดมือชกเขาไปหน่อย ถ้าลองเปลี่ยนวันคืนก่อนเราคุยกับเขา นัดกับเขาไม่ต้องนัดล่วงหน้านานหรอก แบบให้เขาได้รู้ว่า เจนอยากให่ไปรับหรอ อยากไปกินข้าวหรอ ลองวางแพลนมั้ย ถ้าเขาไม่เอาอีก ค่อยเริ่มมาคุยว่าเวลาที่ใช้ชีวิตด้วยกันมันอยู่ตรงไหน บอกเลย แล้วจะเอาเลย บางคนเขาก็ไม่ชอบนะ ยิ่งเขาเป็นคนวางตารางไว้ชัดเจน ยิ่งยากเลย เจนเองที่ต้องสังเกตุว่ามันเกิดจากสิ่งที่เกิดขึ้น เกิดจากตัวเขา แล้วตอบตัวเองให้ได้ว่า เราเรียกร้องโดยไม่มีเหตุผล หรือเขาแล้งน้ำใจ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย... สาวออฟฟิศอึดอัดใจ เพื่อนร่วมงานนับสิบ ทำตัวแปลกๆ ชอบ ‘จับจิ้น’ ให้คนนี้คู่กับคนนู้น คนนู้นคู่กับคนนี้ โดยไม่สนเลยว่า ‘ทั้งคู่ก็ต่างคนต่างมีครอบครัวแล้ว’ ชงไปมา สุดท้ายลงเอยด้วยการนอกใจ แอบคบกัน

11 ก.ย. 2023

ไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย... สาวออฟฟิศอึดอัดใจ เพื่อนร่วมงานนับสิบ ทำตัวแปลกๆ ชอบ ‘จับจิ้น’ ให้คนนี้คู่กับคนนู้น คนนู้นคู่กับคนนี้ โดยไม่สนเลยว่า ‘ทั้งคู่ก็ต่างคนต่างมีครอบครัวแล้ว’ ชงไปมา สุดท้ายลงเอยด้วยการนอกใจ แอบคบกัน

ไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย... สาวออฟฟิศอึดอัดใจ เพื่อนร่วมงานนับสิบทำตัวแปลกๆ ชอบ ‘จับจิ้น’ ให้คนนี้คู่กับคนนู้น คนนู้นคู่กับคนนี้โดยไม่สนเลยว่า ‘ทั้งคู่ก็ต่างคนต่างมีครอบครัวแล้ว’ ชงไปมาสุดท้ายลงเอยด้วยการนอกใจ แอบคบกัน พอเราเห็นแบบนี้แล้วอึดอัดรู้ว่าเป็นคนนอก แต่จะมองข้ามเรื่องนี้ยังไงดี? เพราะต้องทำงานร่วมกัน “คุณเตย (นามสมมุติ)” อายุ 30 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (6 ก.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก -ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอมกับปัญหาที่ทำงานชอบจับคู่จิ้นให้คนอื่น โดย “คุณเตย (นามสมมุติ)” เริ่มเล่าว่า ‘ตอนนี้เป็นพนักงานบริษัท แล้วต้องย้ายสาขาไปอยู่อีกที่สาขานึง พอเราย้ายเข้าไปก็เจอวัฒนธรรมการจับคู่จิ้น แซว ชง โดยที่คนแซวก็ไม่ได้สนว่าคนที่จับคู่ เค้าจะแต่งงานแล้ว มีครอบครัว หรือแบบว่ามีแฟนอยู่แล้ว อย่างล่าสุด มีน้องผู้ชายคนนึงเพิ่งเข้ามาใหม่ คนในบริษัทก็ถามน้องผู้ชายว่า ‘น้องผู้หญิงคนนี้น่ารักไหม? ถ้าน่ารักก็จีบสิ’ แต่คนในบริษัทก็รู้ว่าน้องทั้ง 2 คนต่างก็มีแฟนกันอยู่แล้ว และไม่ได้เป็นคนเดียวที่ชอบชง ชอบแซว แต่เป็นกันทั้งแผนก ส่วนน้องที่ถูกชงตอนแรก ๆ ก็ปฏิเสธ ‘พี่ก็อย่าแซวสิ’ สุดท้ายไม่รู้ว่าไปชงกันถูกมุมหรืออะไรยังไง จนน้องทั้งคู่ลงเอยด้วยการนอกใจแฟนของตัวเอง มามีความสัมพันธ์กันจริง แต่เราเองก็ไม่รู้ว่าคนที่ชงรู้สึกยังไงกัน รู้แต่ว่าตอนนี้สถานการณ์พวกเค้าก็เฮฮา ยังชง ยังแซวกันอยู่เรื่อย ๆ เราก็ไม่ได้ไปสุงสิงอะไรกับพวกเค้า แต่เวลาทำงานมันต้องอยู่ในห้องเดียวกัน ก็จะมีพวกคำทะลึ่ง คำส่อเสียดที่แบบว่า พูดกันไปไม่คิดถึงจิตใจแฟนของคนที่โดนแซว โดนจิ้นบ้างเลย คือในสถานการณ์นี้เรารู้ว่าเราเป็นคนนอก แต่เราก็มีความรู้สึกที่ควรจะให้เกียรติถึงแม้จะเป็นคนไม่รู้จักกันก็ตาม อยากจะได้คำแนะนำว่าเราจะมองข้ามเรื่องนี้ยังไง คือเราต้องทำงานในห้องเดียวกับพวกเค้า ทุกวันนี้พยายามแล้วที่จะช่างมัน คิดว่าเรามาทำงานหาเงิน แต่มันก็อึดอัดที่ต้องอยู่ท่ามกลางคนพวกนี้…. งานนี้ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มันอยู่ที่ความอึดอัดนั้นมันทำให้เรายังมีแรงลุกไปทำงานหรือเปล่า? คือเรื่องพวกนี้มันส่งผลกระทบต่อจิตใจแต่ละคนไม่เท่ากันนะ บางทีคนนึงฟังอาจจะรู้สึกก็ช่างมันดิ ใครมันจะบิ้ว จะปีนต้นงิ้วก็ไปเถอะ เราก็ก้มหน้าก้มตาทำงาน หาหูฟังสักอัน ฟังเพลงไป บางคนอาจจะรู้สึกแค่นั้นก็พอแล้ว แต่กับเตยอาจจะรู้สึกว่า คำพูดคำจาที่บิ้วกันมา ไม่ได้แคร์ศีลธรรมเลย มันทำให้เตยอึดอัดถึงขนาดที่ว่าไม่มีสมาธิทำงานเลยหรือเปล่า หรือกระทบอะไรขนาดไหน อันนี้เตยก็ต้องตอบตัวเองก่อน ถ้าถึงขั้นทำให้อึดอัดแล้วก็ไม่มีความสุขเลย กับการที่ต้องไปนั่งในแผนกนั้นก็หางานใหม่ สุดท้ายแล้วเราไม่ได้ศีลเสมอหรือมีภูมิต้านทานเรื่องตรงนี้ไม่พอ หรือถ้าเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับชีวิตเรา ก็รู้สึกว่าช่างเค้า ใครจะดีจะชั่วก็ดูไว้ แล้วเราก็อย่าไปเป็นแบบคนพวกนั้น หน้าที่ของการไปทำงาน พื้นฐานก็คือ การไปทำงาน หารายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง อันดับที่สองก็คือการเข้าสังคม ซึ่งถ้าสังคมนั้นมันไม่ใช่สังคมที่เราอยากจะไปเข้า เราก็จงหาแต่เงินแล้วก็กลับบ้าน’ ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับพี่ หนึ่งอดทน สองหางานใหม่ อะไรง่ายกว่ากันก็เลือกอันนั้นเลย ถ้ารู้สึกหางานใหม่ยาก แล้วหางานใหม่มีโอกาสที่จะเจอคนไม่ชอบด้วยนะ พี่ยังรู้สึกว่าเคสนี้ยังเบานะ เคสอื่นๆ คือกระทบเข้ามาสู่ตัวเองเลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้กระทบเตย เค้าแค่เป็นคนอีกประเภทที่เตยไม่ชอบ วิธีการยังพอใส่หูฟังได้ แล้วก็คนเราเจอคนร้อยพ่อพันแม่ตลอด ที่เข้ามาแล้วทำอะไรไม่ถูกใจเรา มันคือความแตกต่าง ซึ่งการที่เราไม่ชอบ เราสามารถละได้โดยการช่างมัน สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ชีวิตใครชีวิตมัน ส่วนคู่นั้นที่นอกใจแฟน เดี๋ยวชีวิตมันพังเอง ชีวิตรักที่มันไม่ซื่อสัตย์โอกาสที่จะได้รักที่ดีมันยากอยู่แล้ว มันคือชีวิตเขา แค่เขาไม่มายุ่งกับเราคือพอแล้ว ต่อให้ลาออกไป ก็ตอบไม่ได้ว่าเราจะเจอใครที่ไม่ชอบอีก ฉะนั้นสิ่งที่ฝึกเราได้ก็คือ พวกนี้ยังเบา ช่างมัน ปล่อยวาง อยู่ห่างๆ ไม่ชอบก็คือไม่คบ คุยได้แต่ไม่คบ ไม่ต้องถึงขั้นไม่คุย โกรธเขา เพราะจะทำให้เราเครียดแทน’ ปิดจบกันที่ “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เพิ่งไปอ่านหลักที่จะทำให้ชีวิตมีความสุขแบบง่าย ๆ เค้าบอกถ้าเจอเหตุการณ์ที่ไม่ถูกใจ หนึ่งเปลี่ยนเค้า เปลี่ยนสิ่งที่เราไม่ถูกใจ ซึ่งในกรณีนี้เตยเปลี่ยนเค้าได้ไหม? ก็ไม่ได้เพราะเราไม่สามารถไปบอกเค้าได้ว่า “พี่คะรณรงค์อย่าพูดเรื่องที่ทำให้ทุกคนผิดศีลธรรม น้องเค้ามีแฟนอยู่แล้วทำแบบนี้ไม่ดี” เราพูดไม่ได้ แต่กรณีนี้เราทำได้คือ ปรับตัวเอง เตยต้องช่างมัน แต่พี่เข้าใจนะแง่ศีลธรรม แต่ถ้ามันยังไม่ได้มาลุกลามพื้นที่สิทธิของเรา ลองพิจารณาพวกเค้าเป็นบัว 4 เหล่าไปเลย มันต้องมีคนที่ไม่รู้อยู่แล้ว ลองพิจารณาว่าคนเรามันก็แค่นี้ เราก็อย่าไปทำเหมือนเค้า เราดูเป็นเยี่ยงอย่าง ถ้าเป็นเราจะไม่ทำแบบนี้ แต่ถ้าสุดท้ายยังทนไม่ไหว มันก็ยังมีข้อสุดท้ายคือ เดินออกมา แค่นี้ชีวิตจะมีความสุขได้ง่ายขึ้นเมื่อเจอปัญหา….’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1