คบกับแฟนมา บ้านเขามีฐานะ แต่พอเลิกกันแล้ว หนูเอาของขวัญ 3 ชิ้นที่เขาเคยให้หนูไปขาย ปรากฏว่าเป็นแบรนด์เนมปลอมทั้งหมด ตอนคบกัน หนูซื้อทั้งทอง เสื้อลิขสิทธิ์แท้ให้เขา เจอแบบนี้เจ็บใจ ควรทำให้เขารู้ตัวไหมคะ ว่าอย่าสนับสนุนของปลอมและอย่าทำแบบนี้กับใครอีก!

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบกับแฟนมา บ้านเขามีฐานะ แต่พอเลิกกันแล้ว หนูเอาของขวัญ 3 ชิ้นที่เขาเคยให้หนูไปขาย ปรากฏว่าเป็นแบรนด์เนมปลอมทั้งหมด ตอนคบกัน หนูซื้อทั้งทอง เสื้อลิขสิทธิ์แท้ให้เขา เจอแบบนี้เจ็บใจ ควรทำให้เขารู้ตัวไหมคะ ว่าอย่าสนับสนุนของปลอมและอย่าทำแบบนี้กับใครอีก!

10 ม.ค. 2025

            “คุณนา (นามสมมติ)” อายุ 21 ปี สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (8 ม.ค. 68) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแฟนเก่าซื้อของแบรนด์เนมปลอมให้

            โดย “คุณนา (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘แฟนเก่าซื้อของแบรนด์เนมให้ แต่หนูพึ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นของปลอม ของที่เขาซื้อให้ก็มี นาฬิกา สร้อย และกำไล ที่หนูรู้เพราะหนูเอากำไลกับสร้อยไปเช็ค แล้วเขาบอกว่ามันไม่ใช่ของแท้ คือแฟนเก่าหนูเขาอายุ 24 เริ่มจากที่เราทั้งคู่คุยกันประมาณ 4 เดือนเราเคยนัดเจอกันหลายครั้ง เราได้ตกลงคบกันในวันศริสต์มาส เขาซื้อของขวัญชิ้นแรกให้ ในวันที่เราตกลงคบกัน ซึ่งเป็นของขวัญวันคริสต์มาสไปด้วย ตอนนั้นเขาซื้อนาฬิกาชิ้นแรกให้หนู คือจริง ๆ ตอนนั้นหนูดูออกนิดนึงมันจะมีความเอ๊ะอยู่ แพคเกจ วัสดุมันดูแปลก ๆ แต่ไม่อยากมีปัญหา

            ด้วยความที่เขาให้เพราะว่าหนูกลัวเราทะเลาะกัน หนูก็เลยปล่อยผ่านไป หลังจากนั้นหนูก็ถ่ายลงสตอรี่ไอจีปกติ ผ่านไปสักพักนึงเพื่อนหนูก็ไปรับสารมาจากเพื่อนอีกคนนึงมีคนบอกว่า ‘นาฬิกาเนี่ยเป็นของปลอมนะ ไม่เคยเห็นผู้ชายพาเข้าช็อปแบรนด์เนมเลย ผู้ชายรวยเหรอ นารวยเหรอ’ ได้รับสารมาประมาณนี้ ก็เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยพอใจที่โดนคำพูดแบบนี้ หนูเลยไปเล่าให้เขาฟัง เขาก็ไม่พอใจ แต่เขาก็มีความมั่นใจว่ามันคือของแท้

            วันต่อมาหนูก็เลยทักไปหาร้านที่รับซื้อแบรนด์เนมให้เขาเช็คนาฬิกา ซึ่งเขาก็บอกว่ามันไม่ใช่ของแท้ หนูก็เลยไปบอกเขา จนเป็นเรื่องขึ้นเราทั้งคู่ทะเลาะกัน เขาไม่พอใจที่หนูเอาไปเช็ค เขาบอกให้หนูปล่อยไป ไม่ต้องสนใจว่ามันเป็นของแท้หรือว่าของปลอม สุดท้ายเขาก็ทำเหมือนว่าความรู้สึกแย่ ๆ ทั้งหมดตกมาที่เขาทั้งหมด เพราะเขาเสียเงินไปแล้ว เขาซื้อมาจากร้านคนรู้จักพ่อ เขาเลยไม่อยากมีปัญหากระทบไปถึงผู้ใหญ่ แต่คือสิ่งที่หนูจะสื่อคือไม่อยากให้เขาไปซื้อซ้ำหรือโดนหลอกจากร้านนั้นอีก พอมาชิ้นที่ 2 ตอนนั้นหนูได้กำไลมาแล้ว แต่อันนี้ดูไม่ออก ก็มีเพื่อนมาบอกว่าแฟนหนูให้ของปลอม หนูก็เลยส่งใบเซอร์ของแบรนด์ไปให้ หนูเอาไปเช็คในเน็ตใบเซอร์มันก็เหมือนของจริง หนูก็เลยไม่ได้เอะใจ

            พอเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เราเลิกกันแล้ว หนูก็ไปรู้ว่าเขามีแฟนคนใหม่เป็นสาวสอง หนูก็เลยจะกำไลทิ้ง ก็เลยทักไปหาร้านที่รับซื้อแบรนด์เนม เขาก็บอกว่ามันเป็นของปลอม อีกร้านนึงเขาก็บอกว่าไม่รับซื้อ คือของทุกอย่างที่เขาให้หนู หนูเอาไปเช็คคือของปลอมหมดเลย ตอนแรก ๆ หนูก็โกรธ เพราะหนูให้เสื้อเขาไปตัวละ 4 – 5 พัน พอเขาให้นาฬิกาหนูมา หนูก็เลยรู้สึกต้องอัพราคาของที่จะให้ ก็เลยให้ทอง 1 สลึงให้เขาไป เขายังบอกกับหนูเลยว่าทองหนูเนี่ยแพงไม่เท่ากำไลที่เขาให้หรอก หนูอยากจะปรึกษาพี่ ๆ ดีเจว่า ถ้าเจอแบบนี้หนูควรจะปล่อยวาง หรือว่าทำให้เขารับรู้ว่าสิ่งที่เขาซื้อมามันเป็นของปลอมนะ แล้วเขาก็ใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้’

            เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าอยู่ที่อารมณ์ปัจจุบันว่ามันยังแค้นไหม มันเลิกกันด้วยดีไหม ถ้าเลิกกันด้วยดีแล้วอยากจะทำให้เขารู้ว่ากูไม่ได้โง่นะก็ส่งไปบอกได้ว่าฉันเช็คหมดแล้วนะว่ามันปลอม แต่ก็ไม่ได้จะมาอะไรหรอกแค่ให้รู้ไว้ แค่บอกให้เขารู้ว่ากูไม่ได้โง่ แต่ถ้ารู้สึกว่ามันแยกย้ายกันไปแล้วไม่ได้อยากจะก่อเวรก่อกรรมกันไปอีก ไม่อยากจะยุ่งไม่อยากจะเสียจิตเสียอะไรก็ถ้าจะไม่บอกมันก็เป็นสิทธิ์ของนาเหมือนกัน มันอยู่ที่ว่า ณ เวลานี้อารมณ์มันเป็นแบบไหนซึ่งจะทำยังไงก็ได้แล้วแต่ แต่ถ้าเป็นพี่พี่แค้นพี่ก็คงจะทักไปบอกแหละแต่ก็จะเลือกคำบอกแบบที่ว่าเราลอยตัวอยู่เหนือปัญหา บอกแบบมีฟอร์ม แต่เราคงพูดลำบากว่าเขารู้จริง ๆ หรือว่าเขาโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำอีกมันก็คงฟันธงลำบากถึงแม้ว่าฟังดูเหมือนเขาจะรู้ก็ตาม เขาจะตั้งใจห็ตามเพราะฉะนั้นถึงบอกว่าถ้านาอยากจะแค่บอกว่า ฉันไม่ได้โง่ก็บอกเขาได้’

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าอยากให้ตัวเองสบายใจพี่ว่าก็บอกได้ ในมุมที่ให้รู้ว่าเธอซื้อของปลอม ไม่ว่าเธอจะจงใจไม่จงใจแต่ว่าความจริงที่ฉันจะบอก 3 ชิ้นที่ฉันได้รับมันปลอมหมดเลยก็แจ้งให้ทราบแล้วฉันก็สบายใจว่า ฉันไม่ได้ถูกเธอหลอกนะ แค่นี้ก็แยกย้ายได้แต่ถ้าหวังว่าเขาจะเลิกซื้อของปลอมหวังว่าเขาไม่ทำแบบนี้กับคนอื่นพี่ว่าไม่จำเป็น เราไปเปลี่ยนทางเดินเขาไม่ได้หรอกเขาเลือกทางเดินแบบนั้น’

            สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาเสริมอีกว่า ‘เท่าที่ฟังรู้สึกว่านางตั้งใจ เพราถ้ารู้ว่ามันปลอมเขาต้องรู้สึกกับร้านมากกว่าจะมารู้สึกกับนา เขาต้องรู้สึกว่าโดนหลอกมากว่านี้ อันนี้มันเหมือนเขารู้ทั้งรู้ อีกอย่างที่พี่อยากให้มองอีกมุมนึงคือเขาไม่ได้มองว่าการใส่ของปลอมเป็นสิ่งผิดเพราะเขาใส่อยู่ แต่ถ้าสมมุติเขาทำอะไรบางอย่างให้เราแค้นนะ โพสต์ไอจี แต่มันต้องแค้นจริง ๆ นะ’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่ นิสัยส่วนตัว ชอบผูกมิตร เลยซื้อของกินไปฝากพี่ๆรปภ. แต่เอาให้คนนึง อีกคนก็แซวว่า มีสาวเอาข้าวมาให้ด้วย ทั้งๆที่เราบอกว่า "แบ่งๆกันกินได้เลยนะคะ" หลังจากนั้นโดนแซวทุกครั้งที่เข้าออกคอนโด จนรู้สึกอึดอัด

15 ก.ค. 2024

ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่ นิสัยส่วนตัว ชอบผูกมิตร เลยซื้อของกินไปฝากพี่ๆรปภ. แต่เอาให้คนนึง อีกคนก็แซวว่า มีสาวเอาข้าวมาให้ด้วย ทั้งๆที่เราบอกว่า "แบ่งๆกันกินได้เลยนะคะ" หลังจากนั้นโดนแซวทุกครั้งที่เข้าออกคอนโด จนรู้สึกอึดอัด

ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่ นิสัยส่วนตัว ชอบผูกมิตร เลยซื้อของกินไปฝากพี่ๆรปภ.แต่เอาให้คนนึง อีกคนก็แซวว่า มีสาวเอาข้าวมาให้ด้วย ทั้งๆที่เราบอกว่า"แบ่งๆกันกินได้เลยนะคะ" หลังจากนั้นโดนแซวทุกครั้งที่เข้าออกคอนโดจนรู้สึกอึดอัด ถ้าแจ้งนิติ จะมีผลอะไรกับเราในอนาคตไหมคะ หนูกลัว “คุณต.น. (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [10 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับที่มีปัญหากับรปภ.ที่คอนโด เพราะเขาชอบแซว โดย “คุณต.น. (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูพึ่งย้ายมาอยู่คอนโดใหม่นี้ได้ 2 เดือน ซึ่งนิสัยส่วนตัวหนูเป็นคนชอบผูกมิตร หนูเลยชอบซื้อของไปฝากพี่รปภ.อยู่บ่อย ๆ เพราะพี่ ๆ เค้าดูแลเรา หนูก็อยากทำดีด้วย ตอนที่เอาของไปฝากก็จะมีพี่รปภ.ประมาณ 2 คน หลัก ๆ จะเป็นพี่รปภ.ตัวเล็ก แต่พักหลัง ๆ จะมีพี่รปภ.ตัวใหญ่ เขาชอบเดินไปแซวพี่รปภ.ตัวเล็กประมาณว่า “มีสาวซื้อของมาฝาก” ซึ่งหนูเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบโดนแซว จนหลัง ๆ มันเริ่มหนักขึ้น คือ หนูแค่เดินผ่านทักทายพี่รปภ.ตัวเล็ก เค้าก็จะเริ่มแซวแล้ว มีครั้งหนึ่งแปลกมาก หนูเอารถไปจอดที่ข้างตึก พี่รปภ.ตัวใหญ่ก็มาโบกรถให้ พอหนูลงจากรถเค้าก็ถามหนูว่าหนูเป็นลูกบ้านรึเปล่า มีสติ๊กเกอร์คอนโดมั้ย ทั้ง ๆ ที่เค้าก็เคยแซวหนู หนักสุดคือตอนหนูลงไปเอาข้าว พี่รปภ.ตัวใหญ่ที่เปิดประตูกระจกให้ลูกบ้านคนอื่นอยู่ พอเห็นหนูเขาก็ปิดใส่ หนูเลย หนูอยากถามพวกพี่ๆดีเจว่า หนูควรจัดปัญหายังไง? ถ้าหนูไปแจ้งนิติมันจะมีผลต่ออนาคตรึเปล่า? หรือหนูควรจัดการความคิดยังไงดี?’ โดย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘นี่ยังหาเหตุผลไม่เจอเลยว่ารปภ.ตัวใหญ่เขาจะมาวุ่นวายอะไร และไม่ชอบอะไร หรือว่าหนูให้ของฝากไม่ทั่วถึงหรอ แต่พี่ว่ามันต้องมีสาเหตุที่คน ๆ หนึ่งจะไม่ชอบเรา ถ้าสมมติการซื้อของไปฝากให้รปภ.แล้วมีปัญหาขนาดนี้พี่ว่าไม่ต้องให้ และถ้าปัญหานี้มันทำให้หนูหงุดหงิดใจ และไม่ชอบกับการที่ต้องไปแล้ว แล้วไปเผชิญกับคนเหล่านี้ไม่ต้องซื้ออะไรไปฝาก และวางตัวห่าง ถ้าเราทักละมีปัญหาก็ไม่ต้องทัก’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘รายงานไปเลยว่าเขาพูดแบบนี้ บอกนิติไปเลย เค้าจะจัดการเอง หนูต้องยุติเรื่องซื้อของฝาก เพราะถ้าเอาจริง ๆ เค้าก็ไม่ทักกันด้วยซ้ำ นอกจากจะมีเรื่องให้ช่วยเหลือ’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘บอกนิติว่าให้ดูแลพฤติกรรม เราอยู่เหนือกว่าเค้าเราเป็นลูกบ้าน เค้าต้องดูแลเทคแคร์เรา และหนูต้องวางตัวใหม่’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เดินทางรถทัวร์ช่วงเทศกาล!! หนูนั่งท้ายรถ ตอนเที่ยงคืน เบาะข้างหลังหนู เค้ากำลังทำอะไรกัน หันไปเห็นอีกที ผู้หญิงรวบผมพร้อมลุย ตอนแรกไม่คลุมผ้า พอเห็นว่าหนูกับคนข้างๆตื่น เขาก็เอาผ้ามาคลุม

09 เม.ย. 2024

เดินทางรถทัวร์ช่วงเทศกาล!! หนูนั่งท้ายรถ ตอนเที่ยงคืน เบาะข้างหลังหนู เค้ากำลังทำอะไรกัน หันไปเห็นอีกที ผู้หญิงรวบผมพร้อมลุย ตอนแรกไม่คลุมผ้า พอเห็นว่าหนูกับคนข้างๆตื่น เขาก็เอาผ้ามาคลุม

เดินทางรถทัวร์ช่วงเทศกาล!! หนูนั่งท้ายรถ ตอนเที่ยงคืนเบาะข้างหลังหนู เค้ากำลังทำอะไรกัน หันไปเห็นอีกที ผู้หญิงรวบผมพร้อมลุยตอนแรกไม่คลุมผ้า พอเห็นว่าหนูกับคนข้างๆตื่น เขาก็เอาผ้ามาคลุม เก้าอี้สั่นจนตีสามพอทุกอย่างเสร็จผู้หญิงลงก่อนถึงปลายทาง หนูคิดว่าคงเป็น "รักทางไกล" “คุณสุ (นามสมมติ)” อายุ 20 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (3 เม.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับการแชร์ประสบการณ์เสียวระหว่างทางบนรถทัวร์! วอนสังคมอย่าหาทำ โดย ​“คุณสุ(นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า ‘ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา หนูลงไปฉลองที่กรุงเทพกับครอบครัว แล้ววันที่ 2 หนูต้องกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยทางภาคเหนือ ซึ่งระยะเวลาในการนั่งรถค่อนข้างนาน 8-9 ชั่วโมง หนูก็เลยจองช่วงกลางคืนไว้ แล้วที่นั่งของหนูอยู่ฝั่งซ้ายข้างกระจกเกือบหลังสุด และมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งข้างหนู อีกฝั่งจะเป็นผู้หญิงกับผู้ชายนั่งข้างกระจกอยู่โซนฝั่งขวา ตอนที่หนูขึ้นรถไปครั้งแรก หนูก็พยายามมองว่าเขามีผ้าห่มให้ไหม แล้วพอหนูเห็นว่า ข้าง ๆ ผ้าห่มของเขาผืนหนามาก หนูก็คิดในใจว่าแอร์น่าจะเย็น หนูก็เตรียมของตัวเองมาซึ่งอยู่ในกระเป๋าข้างล่างเท้า ตอนแรกหนูก็ยังไม่ได้เอาผ้าห่มขึ้นมา เพราะนั่งเม้าท์กับพี่ข้าง ๆ ฉ่ำอยู่ พอมันเริ่มดึกเราก็เลยหยุดคุย แล้วก็นอนกัน แล้วเหมือนหนูเริ่มสะดุ้งตื่นเพราะแอร์เย็นเลยจะก้มลงไปหยิบผ้าห่มใต้เท้า แต่ว่าหนูได้ยินเสียงจ๊วบจ๊าบมาจากฝั่งขวา หนูก็หาที่มาของเสียงว่ามันมาจากไหน หนูหันไปเห็นคู่รักตรงนั้น จังหวะที่ไฟถนนสาดเข้ามา มันชัดมาก คล้องคอนัวฉ่ำ ตอนแรกนอกผ้าห่ม พอเขารู้สึกว่าเริ่มจะเสียงดังกันแล้วก็เลยคลุมผ้าห่ม พอเขาหยุดทำ เขาก็เปลี่ยนจากที่คลุมแค่ตัวมาเป็นคลุมโปง และครั้งนี้เขาทำมากกว่าเดิม ก็คือเขาช่วยผู้หญิง หนูก็ไม่มองและเล่นโทรศัพท์ต่อ พอหนูหันไปอีกทีก็เห็นว่าเขาหยุดทำแล้ว แต่ว่าผู้หญิงกำลังมัดผมอยู่ พอหันไปใหม่เขาก็คลุมโปงทำให้ผู้ชาย หนูก็พิมพ์หาเพื่อนเลยว่าเจอแบบนี้อยู่ เพื่อนก็ไม่เชื่อหนู แล้วหนูก็พิมพ์แชทบอกเพื่อนอีก อันนี้หนูอาจจะเสียมารยาท อาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับเขา หนูก็ถ่ายรูปให้เพื่อนดู แล้วเพื่อนก็บอกว่า เขาอาจจะอยากเปลี่ยนฟีลหรือเปล่า? แต่ ณ ตอนนั้น หนูรู้สึกอึดอัดมาก คือตอนที่เขามัดผม หนูก็พยายามหันไปดูหน้าเขา เพื่อจะดูว่าเป็นคนที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับหนูไหม เพราะว่าส่วนใหญ่ในรถคันนี้จะเป็นนักศึกษาประมาณ 90% เลย จากนั้นหนูก็เริ่มไม่สนใจ แล้วหลับต่อ พอช่วงตี 1 พี่ข้าง ๆ สะกิดแล้วก็ถามหนูว่า เนี่ย เขาทำอะไรกันไม่รู้ หนูก็บอกว่า หนูเห็นมาสักพักแล้ว พี่เขาตกใจมาก ไม่นอนต่อ แต่หันไปมองฉ่ำเลย แล้วก็เล่นโทรศัพท์ แวะเข้าห้องน้ำบ้าง เปิดแฟลชหาของบ้าง คือตื่นมาหันไปเมื่อไหร่ก็เจอเขาทำกันทั้งคืน จนช่วงตี 3 ที่หนูตื่นขึ้นมาอีกรอบนึง หนูก็หันไปดูเขายังนัวเนียกันอยู่ เหมือนหนูหันไปได้ยินเสียง ชู่วววว... เขาก็บอกกันเองว่าให้เงียบ หนูก็หันกลับอย่างไวแล้วไม่สนใจ นอนต่อเพราะเริ่มจะเช้า ตื่นมาอีกทีพี่พนักงานก็มาปลุกว่า คุณลูกค้า ใกล้จะลงตรงนี้แล้วนะคะ จังหวะที่พี่พนักงานจะหยิบอาหารจัดเบรคไปให้ฝั่งนู้น หนูก็เห็นว่าผ้าห่มมันคลุมโปงอยู่ พี่พนักงานก็เรียก 2-3 ครั้งไม่ตื่นสักที พี่ข้าง ๆ ก็ช่วยเรียกจนเขาตื่น พอตื่นเขาก็ลนกัน ตอนลงรถหนูก็หันไปมีผู้หญิงลงมากับหนูแค่คนเดียว นั่นแสดงว่ารักทางไกลละ แล้วหนูก็รอจังหวะที่ลงไปเอากระเป๋าข้างล่าง พยายามเล็งดูว่าเป็นคนที่หนูรู้จักหรือเปล่า แต่ดูแล้วก็ไม่รู้จัก หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า เสาร์นี้หนูจะต้องเดินทางกลับไปอีก ถ้าหนูเจอต้องทำตัวยังไงดี? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็หลับ พี่ไม่เคยขึ้นรถทัวร์บ่อย ก็เลยไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยไหม แต่ก็ไม่น่า ถ้าตามสามัญสำนึก ซึ่งต่อให้เขาอะไร เราก็หันซ้ายออกกระจกไป คราวหน้านะสุตะแคงซ้ายแล้วข่มตาหลับไป’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘คงไม่เจอหรอก ถ้าเจอสุต้องไปวัดแล้วแหละพี่ว่า ถ้าอยากจะเตือนเขาก็อาจจะแจ้งพนักงาน’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘เวลาไปถ้าเดินทางคนเดียว พี่ว่าสิ่งตรงนี้ไม่ควรระวัง แต่สิ่งที่น่าระวังคืออย่างที่พี่เจอ ผู้ชายนั่งข้าง ๆ แล้วลวนลาม อันนั้นน่ากลัวกว่า เพราะมันเดินทางยาว’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบผู้ชายโปรไฟล์ดี หน้าตาดี ได้เกือบปี จับได้เขานอนกับหญิงอื่น ตอนนี้เลิกกันแล้ว แต่ห้ามใจตัวเอง ตามรังควานเขาไม่ได้ ตอนนี้ทั้งรัก ทั้งแค้น อยากมูฟออนทำไงดีคะ?

18 ธ.ค. 2023

คบผู้ชายโปรไฟล์ดี หน้าตาดี ได้เกือบปี จับได้เขานอนกับหญิงอื่น ตอนนี้เลิกกันแล้ว แต่ห้ามใจตัวเอง ตามรังควานเขาไม่ได้ ตอนนี้ทั้งรัก ทั้งแค้น อยากมูฟออนทำไงดีคะ?

“คุณกระต่าย(นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (13 ธ.ค 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจต้นหอม – ดีเจเติ้ล – ดีเจอั๋น กับปัญหาเลิกกับแฟน แต่ยังรู้สึกรักเขา ถึงขั้นเคยไปตามรังควานผู้หญิงเขาทุกคน แต่ก็เลิกทำไปแล้ว โดย “คุณกระต่าย(นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า หนูไม่สามารถมูฟออนจากแฟนเก่าได้ ก่อนหน้านี้หนูรักเขามาก แต่ตอนนี้ทั้งรักทั้งเกลียด และไม่สามารถมูฟออนได้ เขาเป็นคนที่ดีมาก และอบอุ่นมากคนนึง ด้วยความที่เขาเป็นคนหน้าตาดี ทำให้หนูคิดว่าเขาคงไม่จริงจังกับหนู แต่พอคุยกันไปมาก็ตกลงที่จะอยู่ด้วยกัน ซึ่งระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันนั้นไม่นานแต่ก็รักเขามาก อยู่มาวันนึงเขาขอไปกินเหล้า ต้องเท้าความก่อนว่าก่อนหน้านี้หนูเป็นคนที่ชอบโทรจิกโทรตามตลอด แต่รอบนี้หนูตัดสินใจที่จะปล่อยเพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร แต่พอเขากลับมาบ้านตัวเขากลับไม่มีกลิ่นเหล้า มีแต่กลิ่นน้ำหอม อีกทั้งเนื้อตัวก็สะอาดผิดปกติ หนูเองก็สงสัยอยู่ในใจแต่คิดว่าคงไม่มีอะไร ด้วยความที่คนเราจะมีเซนส์ถ้าเกิดว่ามีอะไรผิดปกติจะรับรู้ได้ จนวันถัดมาเขาทำตัวน่ารักซึ่งผิดปกติมาก ๆ จากที่ปกติชอบมีอะไรกับเราแล้วไม่ใส่ถุงยาง แต่วันนั้นเขากลับยอมใส่ถุงให้ ตอนที่เขาหลับ หนูจึงแอบเช็คโทรศัพท์เขา ลองเปิด Google Maps ดูไทมไลน์ ก็เห็นหมดเลยว่าเขาไปไหน ไปกี่โมง ไปที่ไหน ซึ่งตอนที่รู้ หนูไม่ได้โวยวายอะไรทำตัวตามปกติ แต่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ไม่กี่วัน เพราะหนูรับไม่ได้ หนูจึงตัดสินใจที่จะคุยกับเขา สรุปความได้ว่าเขาไปมีอะไรกับคนอื่น หาสาวจากแอพลิเคชันนึงแล้วจึงนัดไปมีอะไรกัน เขาให้เหตุผลว่าเขาเบื่อหนู แต่ยังไม่อยากเริ่มต้นใหม่จึงยังไม่บอกเลิก เขาอยากลองไปมีอะไรกับคนอื่นดูก่อน เขายังบอกหนูอีกว่าการที่เขาไปมีอะไรกับคนอื่นมันทำให้เขามีความสุขมาก ๆ ทำให้เขาหายเครียดได้ ซึ่งหนูทำไม่ได้ สุดท้ายหนูกับเขาก็จบกันไม่ดี เพราะหนูตามราวีรังควานผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเขาไม่จบไม่สิ้น เพราะหนูทั้งแค้น ทั้งรัก ทั้งเป็นห่วงเขา เขาเป็นคนที่ทำให้หนูรู้จักคำว่า ทั้งรัก ทั้งเกลียด ว่ามันเป็นแบบไหน หนูจึงอยากขอคำปรึกษาว่า “หนูควรมูฟออนยังไง แล้วควรรักษาใจตัวเองยังไง ณ ตอนนี้หนูไม่สามารถเริ่มความสัมพันธ์กับใครได้เลย เพราะยังกลัวและเข็ดจากเหตุการณ์ครั้งนั้น” คุณกระต่ายยังเสริมอีกว่า ตอนนี้หนูเลิกตามรังควานเขาประมาณ 1 เดือนแล้ว แต่หนูแค่ต้องการที่จะมาจัดการความรู้สึกตัวเองว่าจะต้องทำยังไงถึงจะลืมเขา หรือจะทำยังไงให้ความรู้สึกที่มีกับเขาน้อยลง ตอนนี้แค่เหมือนหนูยังปล่อยวางไม่ได้ รอบล่าสุดที่คุยกันเขายังบอกหนูอีกว่าตอนแรกเขารู้สึกผิดแต่ก็รู้สึกเกลียดหนูด้วย ก็เลยกลายเป็นว่าตอนนี้เราสองคนเกลียดกัน ไม่ได้ต้องการที่จะกลับมาหากัน เพราะตัวหนูก็ไม่รู้ว่าจะยังมีความเชื่อใจให้เขาได้มั้ย ถ้าเขากลับมา ก่อนหน้านี้หนูมีแฟนมีครอบครัวมาแล้วสองครั้งแต่ก็จบไม่ดีเหมือนกัน ส่วนตัวหนูก็มีลูกแล้ว 2 คน คนโตอยู่กับหนู ส่วนคนเล็กอยู่กับพ่อเขา หนูมีลูกคนแรกตอนอายุ 16 ปี ซึ่งตอนนี้คนโตก็อายุ 7 ขวบได้แล้ว โดย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘วิธีการที่จะตัดใครออกจากชีวิตมันง่ายมาก คือให้นึกถึงความเลวของเขา แต่พี่จะไม่แค้น ไม่ไปราวีผู้หญิง เพราะพี่รู้สึกว่ามันทำให้เราไร้คุณค่า พี่จะมองว่าเขาไม่ได้คู่ควรกับเรา แล้วก็ไม่ได้คู่ควรขนาดที่ต้องไปราวีเพื่อเอาเขาคืนมา ฉะนั้นการที่เขาจะไปอยู่กับใคร ถ้าภูมิคุ้มกันเราแข็งพอ เราไม่ต้องเลิกติดตามเขา แต่ถ้าภูมิคุ้มกันเราต่ำมากถึงขนาดไปราวีเขา พี่แนะนำให้เราเลิกติดตามเขาทุกช่องทาง แล้วก็บล็อค ลบรูปคู่ ที่มันทำให้เราดูแล้วรู้สึกเจ็บปวด หรืออะไรที่ทำให้รู้สึกว่ายังแค้นให้ตัดออกไปเลย ทีนี้วิธีมูฟออนคือ ถ้ามีลูกให้มองหน้าลูกเยอะ ๆ เราคือโลกทั้งใบของลูก ลูกจะรู้สึกแย่มากถ้ารู้ว่าแม่ตัวเองกำลังทุกข์หรือเสียใจ โลกของเขาถ้าแม่เขามีความสุขมันทำให้โลกเขามีความสุขไปด้วย ทำให้โลกของลูกและเรามีความสุขไปด้วยกัน ตัดคนที่ไม่ใช่ออกจากชีวิต พี่ก็หวังว่ากระต่ายจะมีความสุขในเร็ววัน เพราะว่าความสุขของกระต่ายจะส่งผลถึงลูกของกระต่ายด้วย มองหน้าลูกเยอะ ๆ แล้วคิดว่าลูกเราไม่ควรต้องมาเห็นเรานั่งทุกข์เพราะคนเลว ๆ ลูกไม่ควรต้องรับสิ่งเหล่านั้น เพราะเขารักเรามาก’ ต่อมาเป็น “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าอันนี้เป็นห้วงเวลานึงที่คุณกระต่ายต้องใช้เวลาในการทำใจเหมือนเดิม คุณกระต่ายต้องเข้าใจว่าเราเป็นคนที่ใช้เวลามูฟออนนานกว่าคนอื่น อย่างแรกเลยพี่อยากให้คุณกระต่ายเข้าใจตัวเอง ไม่ต้องพยายามบีบคั้นให้ตัวเองทำใจให้ได้ เพราะโดยธรรมชาติของคุณกระตายเป็นคนแบบนี้ บางคนแผลเจ็บแล้วหายเร็ว บางคนใช้เวลานานเพราะเรื้อรัง พี่เห็นด้วยกับพี่หอม ถ้าคุณกระต่ายมีลูกแล้ว ความสำคัญที่สุดในชีวิตคุณกระต่ายก็คงเป็นเรื่องของลูก ไม่ว่าเราจะผิดหวังขนาดไหนกับเรื่องความรักที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเรา พี่ไม่อยากให้คุณกระต่ายเอาสิ่งนั้นมากระทบตัวคุณกระตาย จนลามไปกระทบลูก ถ้าเรายิ่งเสียเวลาให้เรื่องนั้นมากเท่าไหร่ เวลาที่เราควรมีให้กับลูกเรามันจะถูกลดทอนไปด้วยเท่านั้น เอาเวลามาใช้ประโยชน์กับลูก และตัวเราเองดีกว่าที่จะไปเฝ้ารออะไรที่จะไม่กลับมาอีก ซ้ำแล้วเขายังเกลียดเราอีก ทำสิ่งไม่ดีกับเราด้วย’ สุดท้ายเป็น “ดีเจอั๋น” ให้คำปรึกษาว่า ‘ในที่สุดแล้วเราอยากเห็นตัวเราเองเติบโตไปเป็นกระต่ายแบบไหนในอนาคต เราอยากเห็นตัวเราเองเป็นคุณแม่แบบไหน ไม่จำเป็นเป็นต้องเป็นภรรยาก็ได้ เป็นแค่คนหนึ่งคน เราอยากพาตัวเองไปจุดไหน ซึ่งมันจะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ เราอาจจะบังเอิญไปเจอคนเจ้าชู้ เข้าใจว่ามันคงต้องเจ็บบ้าง ถ้าหากว่าเรารู้สึกว่าเขาทรยศเรา แต่พี่คิดว่าถ้าเราอยู่กับความปรารถนาร้ายในทุกรูปแบบ ในที่สุดแล้วมันคือไฟที่เผาตัวเราเอง ตอนนี้เขาอาจจะมีความสุขอยู่ก็ได้ ในขณะที่เรายังรู้สึกร้อนรน เช่นกันถ้าตอนนี้ยังรู้สึก เจ็บ ปวด แค้น ยังปล่อยวางไม่ได้ ก็ยังไม่ต้องพยายาม ถ้ายังอยากจะถือไว้ ก็ถือไว้สักพักเดี๋ยวก็เมื่อยเอง แล้วมันจะหยุดเอง เหมือนถ้าเสียใจ แล้วยังรู้สึกว่ายังอยากร้องไห้ก็ร้องออกมา ก็ค่อย ๆ คุยกับตัวเองว่าเมื่อไหร่ที่เรายังปรารถนาร้ายกับคนอื่น ไม่มีทางเลยที่จะมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นกับชีวิตเรา เอาพลังงานทำชีวิตเราให้ดี คือวิธีการแก้แค้นที่ดีที่สุดในทุกรูปแบบ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ชอบเจอคนบังคับให้ดื่ม แล้วพูดว่า "ดื่มหน่อยน้อง บรรยากาศจะได้สนุก" แต่เราโดนบังคับแบบนี้ไม่สนุกเลย บางทีไม่เมาก็จอยได้ ทำไงดีไม่ชอบคนแบบนี้เลย

10 พ.ย. 2023

ชอบเจอคนบังคับให้ดื่ม แล้วพูดว่า "ดื่มหน่อยน้อง บรรยากาศจะได้สนุก" แต่เราโดนบังคับแบบนี้ไม่สนุกเลย บางทีไม่เมาก็จอยได้ ทำไงดีไม่ชอบคนแบบนี้เลย

“คุณมิน (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (8 พ.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับเรื่องของเพื่อนที่ชอบชวนให้ออกไปดื่ม แต่ด้วยส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ดื่มเลย กลายเป็นว่าอึดอัดเวลามีคนชวนไปสังสรรค์ โดย “คุณมิน (นามสมมติ)” ได้เริ่มเล่าว่า ‘ส่วนตัวเราเป็นคนที่ไม่ชอบสังสรรค์ และไม่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ด้วยหน้าที่การงานที่เราทำ ก็มักจะมีรุ่นพี่ในบริษัทชวนออกไปสังสรรค์อยู่บ่อยครั้ง หรือมีบางโอกาสที่ต้องไปร่วมเพราะบริษัทมีจัดเลี้ยงสังสรรค์ ด้วยความที่เราเป็นคนที่มีอายุน้อยที่สุดในงาน จึงมักจะเป็นจุดสนใจของทุกคน เพราะทุกครั้งที่เราปฎิเสธก็จะเป็นการไม่รักษาน้ำใจ เพราะเขาก็ชงมาให้เราแล้ว ถ้าไม่ดื่มแล้วใครจะดื่ม หลังจากที่เราทำงานอยู่ที่เก่าได้ประมาณปีกว่า ๆ ก็ย้ายบริษัทออกมาทำงานอีกที่หนึ่งแทน แต่ปัจจุบันก็ยังเจอเพื่อนหรือรุ่นพี่ที่รู้จัก เวลาชวนออกไปสังสรรค์ก็รู้ว่าไม่ชอบดื่ม แต่ทุกครั้งที่ไปก็มักจะบังคับให้ดื่มทุกครั้ง มันทำให้เรารู้สึกอึดอัดมาก และไม่อยากทำให้บรรยากาศเสีย เราจึงต้องยอมดื่ม ปัญหานี้มันเกิดขึ้นกับเรามาเรื่อย ๆ มันไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานที่ชอบชวนดื่มอย่างเดียว สังคมรอบข้างที่สนิทก็มักจะบังคับให้ดื่มอยู่บ่อยเหมือนกัน วันนี้เลยอยากปรึกษาว่า ดีเจทั้งสามคน มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับคนประเภทนี้ ที่ชอบมักจะชวนดื่มอยู่ตลอด พวกเขาต้องการอะไร? เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่กับแค่คนในริษัทอย่างเดียว แต่สังคมรอบข้างที่รู้จักก็มักจะบังคับให้ดื่มเหมือนกัน “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ส่วนตัวพี่เอง ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่ไม่สามารถปฎิเสธได้ เพราะก็มักจะปฎิเสธตลอด ตัวเองมีอาการแพ้เหล้า ดื่มไม่ได้ ร่างกายมันต่อต้าน และก็จะบอกไปเลยว่าไม่ชอบดื่ม และตั้งแต่ทำงานเป็นดีเจหรืองานในบริษัท ก็ไม่เห็นมีใครมาบังคับให้ดื่ม แต่ถ้ามีโอกาสไปร่วมงานสังสรรค์ เราก็สามารถเมาดิบได้ สามารถสนุกได้โดยที่ไม่ต้องดื่ม เพราะส่วนตัวพี่ไม่ได้เป็นคนที่ชอบสังสรรค์ เวลาที่ไปก็จะกลับเร็ว จึงแนะนำว่าถ้าจะให้อ้างเหตุผล ก็ควรจะอ้างเรื่องของสุภาพว่า แพ้แอลกอฮอล์ โรคตับ หมอบอกห้ามดื่ม วันก่อนที่ไปค่าตับขึ้น เดี๋ยวเต้นให้แล้วกัน อะไรก็ได้อ้างไป หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือไม่ต้องไปเลย ถ้าจะตกงานเพียงเพราะไม่ได้ดื่มก็หางานใหม่ เพราะในว่ารูปแบบงานบางงาน มันก็มีวัฒนธรรม หรือต้องไปดื่มจริง ๆ คนหมู่มากที่เขาทำงานก็ชอบสังสรรค์เป็นเรื่องปกติ ถามว่าคนหมู่น้อยอยู่ได้มั๊ย มันก็อยู่ได้แหละ แค่เรากล้าปฎิเสธหรือเปล่า หลักแน่นมากพอหรือเปล่า แต่ถ้าอยู่ไม่ได้ก็หางานใหม่ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็อย่าไปยุ่งชีวิตเขา เขาจะเอาอะไรเข้าร่างของเขามันเป็นสิทธิ์ของเขา เพราะส่วนตัวพี่เองก็ไม่ได้เป็นคนที่ชอบดื่มเหมือนกัน ถึงแม้ในวงการบันเทิงมักจะมีการสังสรรค์อยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งก็จะปฎิเสธตลอด จึงแนะนำว่าให้กล้าปฎิเสธอย่างหนักแน่นว่าไม่ดื่ม สัญญากับแม่ว่าจะไม่ดื่ม พี่ชายเคยเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำตาย เราไปอยู่ในงานนั้นก็พอแล้ว เราสนุกกับงานได้โดยไม่ต้องกินเหล้า หรือว่าเลี่ยงการไปงานสังสรรค์ไปเลย ปิดจบกันที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เสนอไปเลย 3 ทางเลือกคือ 1. บอกไปว่าเป็นโรคตับ วันนั้นไปตรวจมา ปรากฏว่าตับอักเสบ ดื่มไม่ได้จริง ๆ ให้ยืนยันเสียงแข็งว่าดื่มไม่ได้ สักวันหนึ่งเขาคงรู้แหละว่าเราไม่ดื่ม 2. ถ้าไม่อยากอยากให้มันเสียบรรยากาศเราก็จิบ ๆ ได้ นั่งสักพักพอทุกคนเริ่มได้ที่แล้ว เราก็แอบหนีกลับบ้านไปเลย 3. ถ้าเราอยากอยู่ทั้งคืน ก็เนียน ๆ ไป เราก็ผสมโคล่าเพิ่มเข้าไป แก้วแรกอาจจะเป็นเหล้าปกติ แก้วต่อไปก็เป็นโคล่าไปอย่างเดียว จะได้ไม่เสียบรรยากาศ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1