คุยกับผู้ชาย 2 คนพร้อมกันมา 6-7 เดือน ทั้งสองเริ่มต้องการความชัดเจน แต่เราไม่รู้จะเลือกใคร 1.รุ่นน้องแสนดี เพอร์เฟคตามที่เราอยากได้ อนาคตดี แต่ไม่รู้สึกรัก 2.รุ่นพี่ นิสัยเจ้าชู้ ไม่อยากแต่งงานมีลูก

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คุยกับผู้ชาย 2 คนพร้อมกันมา 6-7 เดือน ทั้งสองเริ่มต้องการความชัดเจน แต่เราไม่รู้จะเลือกใคร 1.รุ่นน้องแสนดี เพอร์เฟคตามที่เราอยากได้ อนาคตดี แต่ไม่รู้สึกรัก 2.รุ่นพี่ นิสัยเจ้าชู้ ไม่อยากแต่งงานมีลูก

26 ม.ค. 2024

คุยกับผู้ชาย 2 คนพร้อมกันมา 6-7 เดือน

ทั้งสองเริ่มต้องการความชัดเจน แต่เราไม่รู้จะเลือกใคร

1.รุ่นน้องแสนดี เพอร์เฟคตามที่เราอยากได้ อนาคตดี แต่ไม่รู้สึกรัก

2.รุ่นพี่ นิสัยเจ้าชู้ ไม่อยากแต่งงานมีลูก

ส่วนเราอยากแต่งอยากมีลูกแต่คนนี้รู้สีกรัก ถ้าเป็นทุกคนจะเลือกใครดีคะ?

          “คุณซัน (นามสมมติ)” อายุ 32 ปี สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [ 24 ม.ค. 67 ] ได้โทรมาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล และดีเจต้นหอม เกี่ยวกับการตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ระหว่างคนดีหรือคนที่ชอบ

            โดย “คุณซัน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูได้รู้จักกับคน 2 คนในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นรุ่นพี่คนนึงอายุ 38 ปี และรุ่นน้องอีกคนนึงอายุ 28 ปี เจอกันในแอปพลิเคชัน เราตกลงกันกับทั้ง 2 คนเลยว่าจะเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องที่คุยกันไปเรื่อย ๆ เรายังไม่เคยเจอกันเลย แต่พอเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์เราก็เริ่มพัฒนาขึ้น มีนัดเจอกันบ้าง ทำทุกอย่างที่เหมือนแฟน แต่ยังไม่ได้อยู่ในสถานะแฟน มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทั้ง 2 คน แต่สำหรับหนูเรื่อง SEX ไม่ใช่ปัจจัยหลัก

            จนตอนนี้ระยะเวลาผ่านมาครึ่งปีแล้ว ทั้ง 2 คนก็เริ่มอยากได้คำตอบสถานะที่ชัดเจน ซึ่งรุ่นพี่รู้ว่าหนูมีอีกคนอยู่ แต่รุ่นน้องไม่รู้เลย หนูไม่รู้ว่าจะเลือกทางไหนดีเพราะว่าคนที่เป็นรุ่นน้อง ค่อนข้างที่จะดูแลเทคแคร์ดีทุกอย่าง มีอนาคตเป็นแบบที่เราต้องการเลย แต่ยังมีความคิดที่ดูเป็นเด็กอยู่ ด้วยความที่เขาอายุน้อยกว่าเรา แต่ไม่ถึงขั้นทำให้เรา Toxic และหนูไม่ได้รู้สึกรัก

            ส่วนอีกคนนึงเป็นรุ่นพี่ เขาก็ดูแลเทคแคร์ดีเหมือนกัน แต่ไม่เท่ากับรุ่นน้อง และค่อนข้างที่จะเจ้าชู้นิดนึง แต่สำหรับหนู หนูรับได้และคิดว่าเอาอยู่ แล้วหนูก็รู้สึกว่ารักคนนี้มากกว่า แต่เรามองอนาคตไม่เหมือนกัน เพราะเป้าหมายหลักของหนู คือ อยากแต่งงาน หนูอยากฟังความคิดเห็นพี่ๆ ว่าหนูควรเลือกทางไหนดีคะ?

            ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ให้คำแนะนำว่า ‘ถ้าเราคุยกันด้วยเหตุผล แนะนำให้เลือกรุ่นน้อง เพราะว่าข้อเสียมันไม่ได้ทำลายชีวิตคู่เท่ากับคนที่ 2  แต่ถ้าเป็นเรื่องของหัวใจ ก็ต้องเลือกคนที่ 2 เพราะว่าทุกอย่างที่คุณซันไม่แน่ใจหรือกังวล ถ้าสุดท้ายเป็นแฟนกันจริง ๆ มันอาจจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่คุณซันกังวลก็ได้

            สุดท้ายแล้วรู้สึกว่าการที่เราจะรักใครก็ต้องฟังหัวใจตัวเอง ส่วนคนแรกคุณซันก็มีความรู้สึกแหละ แต่แค่ไม่เท่ากับคนที่ 2 เพราะไม่อย่างนั้นคุณซันไม่คุยมาจนถึงตอนนี้หรอก แต่ถ้าพี่เป็นเพื่อน พี่ก็จะบอกว่า เลือกคนที่ชอบไป ถ้าอนาคตเป็นยังไงก็ต้องยอมรับผลที่ตัวเองเลือก’

            ต่อมา “ดีเจเผือก” แนะนำว่า ‘ให้เลือกรุ่นพี่ เพราะคุณซันเลือกมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มาลองให้รู้ว่าจะรับนิสัยความเจ้าชู้ได้จริงไหม? ส่วนเรื่องแต่งงานเขาอาจจะเปลี่ยนใจในอนาคตก็ได้ แต่ถ้ารู้สึกว่าเริ่มเสียเวลา ทนไม่ไหวแล้ว เราค่อยไปตามหาคนที่มีนิสัยเหมือนรุ่นน้อง แต่อาจจะไม่ใช่คนเดิมก็ได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเจอหรือป่าว เพราะเวลาที่ผ่านไปเรื่อย ๆ คนดี ๆ  ก็เริ่มไปมีครอบครัวกันหมด ตัวเลือกก็จะน้อยลง ผมขอให้เป็นการตัดสินใจที่ดี’

            และ “ดีเจต้นหอม” แนะนำว่า ‘เพชรอยู่ตรงหน้าไม่เลือก เพราะหินก่อนนั้นมันใหญ่กว่า ฉันอยากจะท้าทายโดยการเจียระไน เผื่อว่ามีเพชรอยู่ข้างใน แต่ถ้าวันนึงเธอรู้ว่าหินก้อนนี้ไม่ใช่เพชรขึ้นมา แต่เพชรเม็ดนั้นมีคนอื่นเอาไปแล้ว เธอจะตามหาสิ่งเหล่านั้นไม่ได้แล้วนะ

            ซึ่งรุ่นน้อง คุณซันบอกเองว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีข้อเสียอะไรเลย ในขณะที่รุ่นพี่มีข้อเสียใหญ่มากคือเป้าหมายไม่ตรงกัน เรายังอยากจะเอาเวลาของเราไปเล่น  คนที่เขารักเรา เขาทะนุถนอมและเทคแคร์เราเพราะเราคือคนสำคัญสำหรับเขา แล้วความสุขมันเกิดด้วย เพราะเราเลือกเหตุผลมากกว่าหัวใจ อันนี้คือสำหรับหอมนะ

            เมื่อกี้หอมถามว่าซันมีเวลาเล่นกับตัวเองกี่ปีที่อยากแต่งงาน ซันบอก 3 ปี ฉะนั้น 3 ปี มันน้อยมากเลย ที่จะไปลองกับคนนี้ ที่จะเสี่ยงทิ้งเพชรอันนี้ไป แต่ถ้าอยากเสี่ยงก็ต้องยอมรับความผิดหวังให้ได้ สิ่งที่ต้องรับให้ได้เลยคือเพชรก้อนนี้ต้องตกไปอยู่ในมือคนอื่น’

            สุดท้ายนี้พี่ ๆ ดีเจทั้ง 3 คน ขอให้สิ่งที่คุณซัน ตัดสินใจเป็นสิ่งที่ดีที่สุด 

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

สามีของเพื่อนเรา ทักมาตื๊อ ขอมีอะไรด้วย เพราะภรรยาเขากำลังท้องอยู่ เราปฏิเสธไปแล้วหลายรอบ เค้าก็ทักมาไม่หยุด ตอนนี้กำลังลังเลว่าควรเอาแชทไปให้เพื่อนดู หรือ บอกเพื่อนดีไหม? แต่เขาก็กำลังท้องแก่อยู่ แล้วเราก็ไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนคนนี้ด้วย

12 ก.ค. 2024

สามีของเพื่อนเรา ทักมาตื๊อ ขอมีอะไรด้วย เพราะภรรยาเขากำลังท้องอยู่ เราปฏิเสธไปแล้วหลายรอบ เค้าก็ทักมาไม่หยุด ตอนนี้กำลังลังเลว่าควรเอาแชทไปให้เพื่อนดู หรือ บอกเพื่อนดีไหม? แต่เขาก็กำลังท้องแก่อยู่ แล้วเราก็ไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนคนนี้ด้วย

“คุณหนู (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (10 ก.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแฟนเพื่อนทักมาขอมีอะไรด้วย ทั้งๆที่เพื่อนเราท้องอยู่! โดย “คุณหนู (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘หนูรู้จักรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ เอ (นามสมมุติ) ตั้งแต่มัธยม จนมหาลัยได้เรียนคณะเดียวกัน แต่คนละสาขา ซึ่งพี่เอเป็นรุ่นพี่ที่คอยรับน้อง หนูได้มีโอกาสเป็นคนคุยกับพี่เอตั้งแต่รับน้องจนถึงปี 2 ก็เลิกคุยกัน แล้วพี่เอก็ได้ไปคบกับเพื่อนร่วมรุ่นของหนู ชื่อว่า บี (นามสมมุติ) หนูไม่ได้สนิทกับบีมาก แต่ก็ได้ร่วมกิจกรรมกันหลายอย่าง จนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน หลังจากเรียนจบ พี่เอ กับบี ก็แต่งงานกัน ทำธุรกิจร่วมกัน แล้วบีก็ได้ตั้งท้อง ซึ่งใครหลายๆคนอิจฉาคู่รักพี่เอและบีมาก เพราะพี่เอดูแลบีดีมากๆ พ่อแม่ของทั้ง 2 ฝ่ายก็ดีมากๆเหมือนกัน จนเมื่อต้นปีหนูมีโอกาสได้เจอพี่เออีกครั้ง เพราะเปิดธุรกิจใกล้ๆกัน หนูไปร้านพี่เอค่อนข้างบ่อยเพราะว่าเขาขายของกิน ทำให้ได้เจอทั้งพี่เอ บี และครอบครัวเขา จนพี่เอน่าจะเห็นหนูบ่อยๆก็เริ่มทักมาว่าเป็นยังไงว่าง ธุรกิจไปได้ดีไหม? จนเข้าสู่ช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา เขาก็อยากปรึกษากับเรา ทักมาทางเฟซบุ๊ก แล้วก็ขอไลน์เราไป เขาบอกว่า “อยากปรึกษาเรื่องนี้กับเรา แต่คุยในเฟสไม่ได้ เดี๋ยวบีจะหึง” หนูไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าเขาคงไม่อยากให้แฟนเข้าใจผิด วันนั้นที่เขาทักมาคุย คือ วันที่หนูนัดกับเพื่อนไปเที่ยวร้านเหล้า แล้วหนูก็ถ่ายลงสตอรี่ เขาก็ทักมาว่า “เมามั้ย กลับยังไง?” หนูตอบว่า “ไม่เมา ถึงเมาก็มีเพื่อนกลับ” เขาก็ดึงดันว่าอยากจะพากลับให้ได้ ก็เลยรู้สึกว่าดูแปลกๆ แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนดีมากๆเลยไม่ได้คิดอะไร คงจะเเค่เป็นห่วง จนไม่กี่วันต่อมาเขาก็ทักมาคุยเรื่องธุรกิจอีก แล้วก็เริ่มลากเข้าเรื่อง 18+ ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะมานัดกับเรา เขาถามแบบกว้างๆ หนูก็ตอบทั่วๆไป ไม่ได้พิเศษอะไรแบบนั้น แต่พอเริ่มรู้สึกว่ามันเยอะ หนูก็บ่ายเบี่ยงไม่ตอบ พอเวลาผ่านไป เขาก็ขอนัดเพื่อจะมีอะไรกับเรา แต่เราปฏิเสธเพราะเขาก็มีภรรยาแล้ว แถมตั้งท้องใกล้คลอดแล้วด้วย แล้วก็เป็นเพื่อนเราอีก หลังจากนั้นก็ทักมาเดือนละ 1-2 ครั้ง ทั้งๆที่ลงโซเชียลรักแฟน เตรียมตัวเจอลูกที่กำลังจะคลอด ก็ยังทักมาหาหนูเรื่อยๆ แต่หนูไม่ตอบเขาเลย ก็จะมีเจอกันบ้างนานๆที ส่วนในโซเชียลเขาก็มาส่อง เข้ามาอะไรกับเราตลอด แต่กับแฟนเขาหนูไม่ค่อยได้คุยกัน แค่เป็นเพื่อนที่รู้จัก ไม่ได้สนิทมาก จริงๆแล้วหนูเป็นคนที่มีความสัมพันธ์ One night stand (ONS) หรือ Friend with benefits (FWB) บ่อยอยู่แล้ว ผ่านแอปพลิเคชั่นแต่ไม่ได้เปิดรูปตัวเอง หนูเลยสงสัยว่าเขารู้ได้ไง? เพราะเราไม่เคยคุยกับเขาหรือคนทั่วไปเลย หนูอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า หนูควรบอกบีดีไหมว่าแฟนเขาเป็นแบบนี้? มันจะไปกระทบลูกในท้องมั้ย? บอกไปจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า? เพราะเขาแต่งงานกันแล้ว ผู้หญิงไม่ควรมาเจออะไรแบบนี้’ โดย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าไม่สนิท พี่ไม่บอก เพราะเราไม่รู้ว่าฝันเขามีปัญหาอะไรหรือเปล่า เขาอาจจะทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้วโดยที่ภรรยาของเขาอาจจะรู้หรือไม่รู้ อาจจะเป็นกรณีที่ภรรยาท้องไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ด้วยได้ ก็เลยออกไปแรดช่วงนี้ พี่ว่าไม่สนิทกัน พี่ว่าอยู่แยๆดีกว่า ถ้าเขาไปบอกด้วยความคาดเดาไม่ได้อย่างเช่นบอกแล้วจะยังไง เขาจะเครียดจนมีผลต่อลูกมั้ย แต่ถ้าตอนนี้ไม่ยุ่งกับผู้ชายแล้วอยู่ของเราเองมันก็จะควบคุมปัญหาที่หนูกังวลได้ แต่ถ้าอยากช่วยด้วยวิธีนี้ แล้วยอมรับผลที่ตามมาก็สิทธ์ของหนู แต่ถ้าไม่บอก แล้วสามียังคงเป็นแบบนี้ สักวันภรรยาก็ต้องรู้อยู่ดีแหล่ะ’ “ดีเจเผือก” ให้คำแนะนำในมุมมองของผู้ชายว่า ‘ยื่นคำขาดกับผู้ขายคนนี้ว่า “พอแล้ว ไม่ต้องส่งอะไรมาแล้ว ถ้ามีอีกเรื่องนี้ถึงหูภรรยาเธอเเน่” เราเตือนไปก่อน’ และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘เห็นด้วยกับพี่เผือก ถ้าไม่หยุดก็บอกเขาว่า “พี่หยุดพูดอะไรแบบนี้นะ หนูว่ามันไม่สมควร และมันอึดอัด คิดซะว่าที่ผ่านมาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้ เดี๋ยวเราต้องเจอกันอีก ถ้าเป็นอย่างนี้อีกก็คงต้องบอกแฟนพี่จริงๆ” และเห็นด้วยกับพี่เติ้ลว่าถ้าไม่สนิทก็คงไม่บอก พอผู้หญิงท้องแล้ว จะยิ่งคิดมากเพราะฮอร์โมนด้วย มันก็เป็นที่ความซวยของเขาที่ได้ผัวแบบนี้ไป ผู้ชายมันไม่ได้ระบายอะเนอะ มันอยู่ที่สันดานคนแล้วแหล่ะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูมีแฟนแล้ว แต่ก็คบพี่ผู้ชายอีกคน แฟนคนแรกหนูเขาไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่ แต่พี่ผู้ชายอีกคนดูแล จ่ายเงินให้เราตลอด ติดที่เค้ามีลูกเมียแล้ว เขาขอให้หนูไปเคลียร์กับคนแรก แต่หนูอยากได้วิธีที่จะ "คบกับเขาทั้งสองคนต่อ และ อยากให้แฟนคนแรกสนใจหนูมากกว่านี้"

14 มิ.ย. 2024

หนูมีแฟนแล้ว แต่ก็คบพี่ผู้ชายอีกคน แฟนคนแรกหนูเขาไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่ แต่พี่ผู้ชายอีกคนดูแล จ่ายเงินให้เราตลอด ติดที่เค้ามีลูกเมียแล้ว เขาขอให้หนูไปเคลียร์กับคนแรก แต่หนูอยากได้วิธีที่จะ "คบกับเขาทั้งสองคนต่อ และ อยากให้แฟนคนแรกสนใจหนูมากกว่านี้"

“คุณแอม (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [12 มิ.ย. 67] ได้โทรเข้ามาขอคำปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแฟน 2 คนที่อยากจะเก็บไว้ทั้งคู่ โดย “คุณแอม (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘หนูเคยทำงานร้านเหล้า และตอนนี้หนูมีแฟน 2 คน ซึ่งคนหนึ่งที่มีครอบครัวแล้ว อายุประมาณ 40 ปี คนนี้ดูแลหนูดีมาก ดีกว่าอีกคน และแฟนอีกคน คือ คนที่หนูเปิดตัวกับทางบ้างและกำลังหมั้นกัน คนนี้อายุ 28 ปี ซึ่งหนูเจอแฟนทั้งคู่ของหนูในร้านเหล้าที่หนูทำงาน ซึ่งต่างฝ่ายต่างไม่มีใครรู้ว่าหนูมีแฟนอีกคน คนที่อายุ 28 เค้าทำงานข้าราชการ จะไปกินเหล้ากับเพื่อนและปาร์ตี้บ่อย จนไม่ค่อยสนใจหนู และจะเป็นคนที่อยากทำอะไรก็ทำโดยที่ไม่แคร์หนู ต่างจากคนที่อายุ 40 เค้าดูแลหนูทุกอย่าง ใส่ใจหนู หนูไปเที่ยวเค้าก็จะคอยถาม คอยเป็นห่วง และหนูจะเจอเค้าอาทิตย์ละ 2 ครั้ง แต่จะเป็นการมามีอะไรกันแล้วก็กลับ แต่ก่อนที่หนูจะไปเจอกับคนอายุ 40 หนูจะไปเจอคนอายุ 28 แล้วมีอะไรกันก่อนเพราะเจอกันตลอด ซึ่งปัญหาในตอนนี้ คือ หนูกำลังจะเลิกกับคนที่อายุ 28 และรู้สึกผิดที่ไปคบกับคนที่เค้ามีครอบครัวแล้ว แต่คือหนูไม่ได้อยากเสียเค้าไปทั้ง 2 คน เพราะคนที่อายุ 40 เคยจับได้ว่าหนูมีแฟน แต่หนูบอกเค้าไปว่าแค่คุย ๆ กัน ซึ่งเค้าก็เชื่อหนู เลยให้อภัยและเลี้ยงดูหนูต่อ ซึ่งคำถามของหนูคือ หนูอยากเก็บเค้าไว้ทั้งคู่ แต่แค่อยากให้คนที่อายุ 28 สนใจหนูเพิ่มหนูต้องทำยังไงคะ? โดย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘การที่เค้าสนใจหรือไม่สนใจมันก็เป็นนิสัยของเค้า และมันก็แปลได้ตรงตัวว่าเค้าจะเป็นที่ดีรึเปล่า ผู้ชายบางคนก็ดูแลเอาใจใส่แฟน บางคนก็ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ บางคนก็ติดแฟนบางคนก็ติดเพื่อน คำว่ารักใครก็พูดได้ แต่สิ่งที่แตกต่างคือการกระทำ ทีนี้หนูพยายามตามหาความรักให้กับตัวเอง แล้วหนูเคยมองตัวเองมั้ย ว่าทำอะไรอยู่ เพราะตอนนี้หนูกำลังทำผิดกับครอบครัวชาวบ้านเค้า หนูกำลังทำให้ครอบครัวหนึ่งมีปัญหา แล้วสิ่งที่หนูต้องการในวันนี้คือเก็บไว้ทั้งสองคน และอยากให้คนที่อายุ 28 รักหนูมากกว่าเดิม พี่ว่าหนูเห็นแก่ตัวไปหน่อยนะ มันไม่ใช่การที่เราอยากจะได้ทุกอย่าง แล้วเราจะครอบครองมันได้ทั้งหมด หรือถ้าเราอยากจะมีทุก ๆ อย่างในมือเราก็จะได้ของแบบนี้ คนดี ๆ เค้าไม่มาอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้หรอก เราต้องแยกเรื่องนะว่าเค้าเหมาะกับการเป็นแฟนที่ดีของเรารึเปล่า กับอีกเรื่องหนึ่งคือเราควรทำตัวแบบนี้รึเปล่า พี่ห่วงความคิดของหนูมากกว่าห่วงว่าผู้ชายมันจะดีพอสำหรับหนูรึเปล่า ทำไมหนูถึงพร้อมที่จะอยู่กับคนที่มีครอบครัวแล้วโดยที่เราไม่ได้รู้สึกรู้สาว่ามันสมควรรึเปล่า แล้วยิ่งอยากเก็บไว้ทั้งสองคนอีก สำหรับพี่พี่คิดว่าตรรกะที่หนูใช้ในตอนนี้มันไม่ถูกต้อง พี่ไม่รู้จะให้คำแนะนำยังไงที่จะให้อีกฝ่ายรักหนูมากขึ้น แต่อยากให้หนูคิดว่าถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคนรอบตัวหรือว่าเพื่อน แล้วเค้ามาปรึกษา ลองจินตนาการถึงเหตุการณ์นี้แล้วคิดดูสิว่ามันปกติที่ไม่ผิดมั้ย เราจะยังแนะนำเพื่อนคนนั้นให้เห็นแก่ตัวแล้วเก็บไว้ทั้งสองคนโดนไม่คิดที่จะแก้ไขอะไรแบบที่เราตั้งใจรึเปล่า’ ต่อด้วย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ผู้ชายที่เค้าไม่สนใจหนู ขนาดเค้าไม่รู้ว่าหนูนอกใจเค้ายังไม่สนใจหนูเลย แล้วถ้าเค้ารู้ว่าหนูนอกใจหนูน่าจะโดนเทไปเลย 1. เค้าอาจจะไม่สนใจเป็นนิสัย หรือ 2.หนูอาจจะไม่ได้มีค่าพอที่เค้าจะสนใจ การคบกัน 1 ปีสำหรับพี่มันน้อยไปที่จะวัดว่าคนนี้เป็นยังไง แล้วที่ไปหมั้นกันแล้วก็ไม่ต้องแคร์ แล้วทุก ๆ การกระทำ การใช้ชีวิตทุกอย่างในวันนี้มันผิดไปหมดเลย สุดท้ายการเก็บไว้ทั้งสองคนมันจะเก็บไปได้ระยะหนึ่ง แต่อยู่ที่ว่าใครจะเริ่มทิ้งหนูก่อน ระหว่างเบอร์ 1 กับเบอร์ 2 แล้วคนที่อายุ 40 หนูจะใช้คำว่าแฟนไม่ได้นะลูก นี่คือเด็กเลี้ยง การที่ผู้ชายคนหนึ่งให้เงินเรา แล้วมามีอะไรกับเราแล้วกลับ อันนี้คือ “เด็กเลี้ยง” ที่นี้ผู้ชายที่เที่ยวกลางคืนแล้วเจอเด็กอายุ 19 มันก็อารมณ์เหมือน “โคแก่กินหญ้าอ่อน” อยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติที่เค้าจะหึงหวงเพราะหนู 19 แต่ถ้าเค้าต้องจ่ายเงินแล้วเด็กของเค้ายังไปมีอะไรกับแฟนอีกคนอยู่ เดี๋ยวเค้าก็ไม่เอา อย่างผู้ชายอายุ 28 ที่ไม่สนใจแล้วหนูอยากรู้ว่าต้องทำยังไงให้สนใจ หนูไม่ต้องทำ หนูแค่เปลี่ยนคน มีแค่นี้ ส่วนคนอายุ 40 มันไม่ใช่ความรักมันอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง คือเค้าจะเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะเอาเราต่อหรือไม่เอาเราต่อ ฉะนั้นวันนี้พี่รู้สึกว่าผู้ชายทั้งสองคนไม่ใช่เซฟโซนสำหรับหนูเลย แต่ถ้าหนูมีปัญหาเรื่องการเงิน หนูจะเก็บคนที่อายุ 40 ไว้ก็ได้ถ้าเมียจับได้ก็เลิก แล้วการเจอการที่สถานที่กลางคืน เราก็รักเงินเค้า เค้าก็รักในตัวเรา แต่การที่ตอนนี้หนูไม่สามาไปจากเค้าได้เพราะเค้าซัพพอร์ตเรื่องเงิน พี่จะบอกว่าเรื่องแบบนี้มันไม่สามารถการันตีได้ว่าหนูจะมั่นคงตลอดไป ถ้าวันไหนที่เมียเค้ารู้แล้วเค้าไม่ยอมคือหนูก็ต้องเลิกกันแน่นอน หนูก็ต้องหาแพลนบีว่าถ้าเค้าเลิกกับหนูหนูจะเอาเงินที่ไหนใช้ เป็นป้หญิงก็ต้องรู้จักดูแลตัวเองให้ได้ ไม่ใช่ใช้ชีวิตโดยการแบมือขอเงินเค้าไปตลอด เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าจะอยู่กับเราไปอีกนานแค่ไหน เพราะถ้าหนูมองเรื่องเงินก็มองถึงความผันผวนเอาไว้ด้วย เผื่อใจไว้อน่าไปรัก เราไม่หลงรักแขกลูกสาว’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หนูต้องปรับวิธีคิดใหม่ เพราะตอนแรกที่หนูเอามาเปรียบเทียบกัน 2 คน มันเทียบกันไม่ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะอย่างที่บอกคนแรกเค้าคือแฟนหนู แต่คนที่สองไม่ใช่ เราต่างตอบแทนด้วยผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน เพราะหนูต้องการเงินเค้า เค้าต้องการความสาวของหนู แต่พี่อยากจะบอกหนูว่า ตอนนี้หนูสร้างเงื่อนไขของชีวิตบนตรรกะที่ประหลาดมาก ซึ่งพี่ไม่รู้ว่าหนูคิดตรงนี้ได้รึเปล่า การที่หนูบอกว่าคนที่อายุ 28 ไม่ดีกับหนู มันเลยเป็นเหตุผลทำให้หนูมีคนที่อายุ 40 และเค้าดันมีครอบครัวอยู่แล้ว ถ้าคนปกติเค้ามีปัญหากับแฟนเค้าจะเคลียร์กับแฟน และถ้ามันไม่ลงตัวคือเลิก ไม่ใช่ไปเป็นเมียน้อยบ้านอื่น แต่ทีนี้พอหนูพูดมาล่าสุดว่าหนูต้องการเงินจากคนที่อายุ 40 มันก็ชัดเจนแล้วว่าตอนนี้หนูต้องการอะไร เพราะตอนนี้เหมือนกับว่าถ้าหนูขาดคนที่อายุ 28 หนูขาดได้ เพราะสิ่งที่หนูนะไม่ได้รับคือความรักความห่วงใยในฐานะแฟน ซึ่งจริง ๆ หนูสามารถมีให้ตัวเองได้ หนูไม่ได้เกิดมาแล้วจูงมือเค้าออกมาจากท้องแม่ แต่ตอนนี้หนูต้องการเงินจากคนอายุ 40 หนูก็รู้ว่าสถานะของตัวเองคืออะไร ถ้าหนูจะอยู่บนกติกานี้ หนูก็อย่าพร่ำเพ้อคิดฝันว่าเค้าจะรักหนูจริง ๆ ต้องยอมรับให้ได้ว่าเราคือเครื่องมือที่จะมาตักตวงอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งหนูก็รู้ เพราะฉะนั้นต้องจัดระบบความคิดตัวเองดี ๆ ตอนนี้การที่หนูอยากมีสองคนพร้อมกันพี่ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ แล้วการคาดหวังให้คนอายุ 28 มารักเค้าจะรักได้ยังไงเพราะหนูมีคนอื่น ถ้าหนูอยากได้ความรักดี ๆ หนูต้องทำตัวดี ๆ เพื่อให้คนที่เค้าเห็นคุณค่ามารัก แต่ถ้าหนูทำตัวแบบนี้พี่ว่าหนูไม่สามารถเจอความรักที่ดีได้ พี่ไม่ได้แช่งแต่อยากบอกให้เข้าใจว่าสิ่งที่หนูทำตอนนี้มันทำให้หนูไม่สมควรที่จะได้รับความรักที่ดีจากใครเลย ถ้าวันหนึ่งคนที่อายุ 28 รู้เค้าไปนากหนูแน่นอน คนที่อายุ 40 ถ้าวันหนึ่งเค้าเบื่อ วันหนึ่งเมียเค้าจับได้ เมียเค้าเอาเรื่อง หนูคิดแล้วกันว่าชีวิตหนูจะเป็นยังไง อย่าเห็นแค่ว่าวันนี้มันผ่านไปได้สบาย ๆ แล้วไม่นึกถึงอนาคตตัวเองเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

นับถือน้าเป็นแม่ เลี้ยงหนูมาจนโต ตลอดเวลาที่อยู่บ้านเดียวกัน น้าเขย พยายามขอกำลังใจจากหนู ขอให้หนูกอด ขอให้หนูบอกรัก บางวันดึงหนูไปกอด หนูกลัวจนตัวสั่น ล่าสุดส่งรูปลามกให้หนูอีก ตอนนี้ไม่กล้าบอกใครเลย แม่เคยบอกไว้ว่าให้ทำดีกับเขาไว้เพราะเรื่องธุรกิจ

29 ม.ค. 2024

นับถือน้าเป็นแม่ เลี้ยงหนูมาจนโต ตลอดเวลาที่อยู่บ้านเดียวกัน น้าเขย พยายามขอกำลังใจจากหนู ขอให้หนูกอด ขอให้หนูบอกรัก บางวันดึงหนูไปกอด หนูกลัวจนตัวสั่น ล่าสุดส่งรูปลามกให้หนูอีก ตอนนี้ไม่กล้าบอกใครเลย แม่เคยบอกไว้ว่าให้ทำดีกับเขาไว้เพราะเรื่องธุรกิจ

“คุณมี่ (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (24 ม.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม กับปัญหาเกี่ยวกับครอบครัว ที่น้าเขยมาลวนลาม น้าสาวที่นับถือเป็นแม่อีกคนก็รู้เรื่อง แต่ไม่คิดจะช่วยอะไร โดย “คุณมี่ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ปัจจุบันครอบครัวหนูมีอยู่กัน 4 คน คือ หนู แม่(น้าที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ๆ ) ยาย และน้าเขย เมื่อก่อนแม่หนูเป็นแม่ค้าขายของที่ตลาด รายได้บางทีก็พอใช้ แต่บางครั้งก็ต้องประหยัด อยู่มาแบบนี้ได้สักพักนึงตั้งแต่เด็ก ๆ จนวันหนึ่งแม่ไปเจอแฟนในโลกออนไลน์ที่อายุอ่อนกว่าแม่ 10 ปี ซึ่งก็คือน้าเขยคนปัจจุบัน เขากับแม่ก็ตกลงกันว่าจะมาทำมาหากินใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เข้ามาทำงานด้วยกันได้ประมาณ 2 ปี น้าเขยคนนี้ทะเลาะกับญาติทั้งตระกูล อยู่กันแบบเคืองใจกันมาตลอด จนเข้าปีที่ 5 ที่เขาอยู่ด้วยกัน ตอนนั้นหนูอายุ 15 ย่าง 16 ปี น้าเขยก็บอกว่า “จะซื้อของขวัญให้แต่ต้องแลกกัน” ของขวัญที่หนูคิดไว้ว่าจะเอาไปแลกกับน้าเขยก็คงจะเป็นสิ่งของหรือการ์ดขอบคุณ แต่เขาบอกว่าเขาไม่เอา เขาไม่อยากได้ เขาอยากได้กำลังใจจากหนู หนูก็เลยปฏิเสธไปว่า “ไม่เป็นไร...หนูไม่เอา” เขาบอกว่าอยากให้หนูกอด ให้หนูหอมเหมือนลูก หนูก็ปฏิเสธไป แต่พอถึงวันเกิดเขาก็ซื้อมาให้อยู่ดี หลังจากนั้นเขาก็เหมือนถาม เหมือนทวงว่า “ไหนอะของขวัญ ไม่เห็นได้อะไรเลย” หนูก็เลยพยายามเลี่ยงไม่ตอบโต้ และเขียนการ์ดขอบคุณไปให้ แต่ว่าเขาบอกว่า “ไม่เอา” มีวันนึงเป็นวันที่แม่ออกไปขายของข้างนอกกับน้าเขย ส่วนคุณยายก็ไปวัด วันนั้นเป็นวันที่หนูอยู่บ้านคนเดียว น้าเขยเขาก็เปิดประตูบ้านเข้ามา เดินมาเปิดประตูตู้เย็นดื่มน้ำ หนูก็เลยรีบหารีโมทเพื่อที่จะปิดทีวีและรีบออกจากตรงนั้น จังหวะที่หนูกำลังจะลุกไป เขาก็เดินมาคุกเข่าลง เอามือมากอดหนูไว้แล้วก็บอกว่า “ขอของขวัญหน่อยสิ” แล้วเขาก็หอมแก้มหนูทั้งสองข้าง ด้วยความที่เป็นเด็ก ไม่กล้าและกลัวจึงไม่ได้ขัดขืนหรือทำอะไร พอเขาปล่อยออก หนูก็รีบลุกและวิ่งออกเลย วันนั้นหนูจำได้ว่าหนูนอนร้องไห้จนหลับ ซึ่งอันนี้ก็คือวีรกรรมแรกของน้าเขยคนนี้ พอเวลาผ่านไปได้ไม่นาน เขาทะเลาะกับแม่เรื่องผู้หญิง เก็บกระเป๋าออกจากบ้านไป หนูก็เลยตัดสินใจบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับญาติ ๆ แต่ญาติเขาก็คุยกันบอกว่า “ยังไม่อยากบอกแม่ อยากให้เวลาแม่ทำใจก่อน” สุดท้ายเขาก็ไปได้ไม่นาน หลังจากผ่านไป 2 อาทิตย์ เขาก็กลับมาง้อแม่ แล้วก็กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ทำให้พฤติกรรมที่เขาเคยทำกับหนูกลับมาอีก เวลาที่อยู่บ้านหนูจะเลี่ยงการอยู่กับเขาสองต่อสอง บางทีเวลาเดินไปหน้าบ้านแล้วเห็นเขาอยู่ หนูก็จะอ้อมไปเข้าด้านหลัง เวลาที่หนูเข้าห้องนอน เขาก็จะชอบทักมาประมาณว่า “ขอหน่อยสิ...ขอหน่อย รู้ว่าอยากได้ ก็ให้หน่อย” หนูก็ได้บอกญาติว่าเขาทำแบบนี้อีก แต่ญาติก็พูดอะไรมากไม่ได้ มากสุดก็แค่รับรู้ไว้ เขาก็บอกว่า “ให้หนูดูแลตัวเอง” ญาติก็มาเยี่ยมหนูบ้างอะไรแบบนี้ ส่วนยายที่อยู่บ้านเดียวกัน หนูก็ยังไม่ได้บอก เพราะคุณยายเป็นคนเซนซิทีฟ เท่ากับว่าตอนนี้คนในบ้านที่อยู่ด้วยกันยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย ยิ่งไปกว่านั้นบางทีน้าเขยเขายังส่งรูปลามกมาให้หนูในแชทอีกด้วย หนูยังไม่เคยโชว์ข้อความหรือรูปลามกที่เขาส่งมาในแชทให้แม่ดู ด้วยงานก็เลยยังไม่อยากพังชีวิตแม่ตอนนี้ เพราะว่ามันมีหลายอย่างที่เขาทำร่วมกัน แต่เหมือนแม่ก็รู้อยู่ว่าเขาเป็นคนยังไง หนูเคยคุยกับแม่ว่า “เขามาขอกอด” แม่ก็บอกแค่ว่า “อยากให้ทนไปก่อน เพราะอยากให้ชื่อกิจการมันเป็นของเราหมดก่อน” ส่วนแม่แท้ ๆ อยู่ข้างนอก อยู่ใกล้กัน แต่ฐานะการเงินของแม่เขาเลี้ยงดูหนูไม่ได้ หนูเคยบอกเรื่องนี้กับแม่แท้ ๆ แม่ก็บอกว่า “ถ้าวันไหนรู้สึกไม่ปลอดภัย ก็มานอนกับแม่ก็ได้” โดยปกติแล้วที่บ้านหนูเขาก็จะอยู่ห้องใครห้องมัน แต่บางทีเวลาเขาอยู่โถงบ้าน เขาชอบใส่กางเกงบ๊อกเซอร์มานั่งแหกขาดูทีวี ซึ่งจะทำแบบนี้แค่ตอนแม่ไม่อยู่บ้าน ล่าสุดที่ทำก็คือเมื่อสองวันที่แล้ว หนูเลยอยากจะถามพี่ ๆ ว่า “มันพอจะมีทางออกที่จะคิดคำพูด พูดกับแม่แบบจริงจังอะค่ะ เพราะว่าแม่หนูก็เหมือนเคยรับรู้แต่ช่วยอะไรไม่ได้มาก” แล้วเหมือนตอนนี้เขาพูดกับแม่ว่า เขาจะขายร้านทิ้งทั้งหมดไปอยู่ที่อื่นพาแม่ไปด้วย เหตุผลที่เขาจะไปมันน่ารังเกียจมาก เขาบอกกับหนูว่า “หนูไม่รักเขา ไม่กอด ไม่หอมเขา” แค่นี้เลยคือเหตุผลที่เขาจะพาแม่ไปอยู่ที่อื่น โดย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เป็นพี่พี่จะขอน้า ขอไปอยู่กับแม่แล้วให้เขาส่งเสียให้ ถ้าเขารักหนูจริง เขาจะทำ บอกไปว่าหนูไม่ไหว มันไม่มีความสุข หนูอยู่แบบนี้ไม่ได้ พี่ไม่อยากให้มี่คิดว่าเรื่องนั้นมันจะไม่เกิดขึ้น หนูเปลี่ยนเขาไม่ได้ แม่จะไม่มีวันเลิกกับเขา ตอนนี้ที่หนูทำได้คือย้ายออกจากบ้านหลังนั้น ซึ่งหนูมีทางที่จะย้ายด้วย ไม่ว่าจะเป็นแม่แท้ ๆ หรือญาติ พี่เชื่อว่าสุดท้ายจะไม่มีใครรักมี่เท่ามี่รักตัวเองนะ แล้วถ้าบอกแม่แล้วแต่แม่บอกให้ยอม ต้องอย่ายอมนะ กิจการอะไรเราทำมาหากินด้วยตัวเองได้ อย่าเอาชีวิตไปผูกกับสิ่งเหล่านี้แล้วเอาตัวเองแลก’ ต่อมาเป็น “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘เอาจริงวิธีที่จะพูดกับแม่มันไม่มีอะไรเลย เปิดไลน์ให้ดู เปิดข้อความ เปิดรูปที่เขาส่งมาให้ดูเท่านั้นแหละ แล้วก็ออกมาซะ อยู่กับใครก็ได้ที่ไม่ต้องมาเสี่ยงแบบทุกวันนี้ หนูไม่ได้ไม่มีใครนะลูก’ สุดท้ายเป็น “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘บ้านนี้หนูอยู่ไม่ได้แล้วอันตรายมาก แต่ถ้าหนูอยากลองถามแม่ก็ลองได้ ลองไปพูดกับแม่ว่าเกิดสิ่งนี้ขึ้นกับหนู แล้วหนูรู้สึกอึดอัดในการอยู่บ้านหลังนี้ หนูอยากอยู่ข้างนอก ถ้าเขารักเราจริง เขาจะเช่าบ้านให้เราอยู่ข้างนอก หรือเช่าหอ หรืออะไรก็ตาม แต่ถ้าเขายังพูดว่าร้านยังไม่เป็นของเรา บอกแม่ไปเลยว่าหนูขอออกไปอยู่ข้างนอก ถ้าอยู่แบบนี้หนูโดนข่มขืนแน่ แล้วแม่จะโอเคเหรอ หรือเราจะอยู่กับญาติได้ไหม ให้แม่มี่เป็นคนคิดเองเลยว่าจะให้อยู่บ้านไหน ตอนนี้อยู่ที่นี่ไม่ได้ แม่จะแก้ปัญหายังไงให้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

แต่งงานกับสามีมา 16 ปี สามีด่าเราด้วยคำหยาบ เสียๆหายๆ ด่าถึงพ่อแม่เรา เราเก็บกวาดบ้านแล้ว มีข้าวตก 1 เม็ดบนพื้น เขาพูดเสมอว่าไม่น่ามาคบกับคนอย่างเราเลย ที่สำคัญสิ่งที่เขาด่า เขาด่าต่อหน้าลูกทั้ง 2 คนด้วย ตอนนี้เรายังต้องเข้าบ้านเขาไปส่งลูกเข้านอนทุกคืน

25 ก.ค. 2025

แต่งงานกับสามีมา 16 ปี สามีด่าเราด้วยคำหยาบ เสียๆหายๆ ด่าถึงพ่อแม่เรา เราเก็บกวาดบ้านแล้ว มีข้าวตก 1 เม็ดบนพื้น เขาพูดเสมอว่าไม่น่ามาคบกับคนอย่างเราเลย ที่สำคัญสิ่งที่เขาด่า เขาด่าต่อหน้าลูกทั้ง 2 คนด้วย ตอนนี้เรายังต้องเข้าบ้านเขาไปส่งลูกเข้านอนทุกคืน

แต่งงานกับสามีมา 16 ปี สามีด่าเราด้วยคำหยาบ เสียๆหายๆ ด่าถึงพ่อแม่เรา เราเก็บกวาดบ้านแล้วมีข้าวตก 1 เม็ดบนพื้น เขาพูดเสมอว่าไม่น่ามาคบกับคนอย่างเราเลย ที่สำคัญสิ่งที่เขาด่าเขาด่าต่อหน้าลูกทั้ง 2 คนด้วย ตอนนี้เรายังต้องเข้าบ้านเขาไปส่งลูกเข้านอนทุกคืน พอเช้ามาเราก็กลับบ้านเราลูกยังไม่รู้ว่าเราหย่ากันแล้ว สามีจะโกหกลูกว่าแม่ออกไปทำงานตอนกลางวัน เลิกงานก็มาส่งลูกเข้านอนตามปกติเราควรจะทนต่อไปยังไง ในสถานการณ์ที่กำลังเจออยู่ตอนนี้ “คุณดาว (นามสมมติ)” อายุ 41 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [23 ก.ค 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา "ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม" เกี่ยวกับปัญหาสามีชอบด่าเราด้วยคำพูดรุนแรงต่อหน้าลูก โดย “คุณดาว (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เราแต่งงานมา 16 ปีแล้ว ตลอดเวลาที่คบกัน 13 ปีเขาอยู่บ้านเรา แต่เขาทะเลาะกับแม่เราตลอด จน 3 ปีหลังเราย้ายไปอยู่บ้านเขา เราก็โดนเขาไล่ออกจากบ้านถึง 7 ครั้ง และยังโดนสามีด่าด้วยคำหยาบคายมาโดยตลอด ด่าถึงพ่อถึงแม่ด้วย แทบจะทุก ๆ สามชั่วโมง ซึ่งสาเหตุที่สามีมักจะด่า มักจะมาจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดในบ้าน เช่น เราเช็ดพื้นแล้วมีข้าวตกอยู่ 1 เม็ด เขาก็จะด่า หรือถ้าเราตียุงในห้องนอนแล้วมันมียุงเหลืออยู่ 1 ตัว เราก็จะโดนด่าอีก ด่าเป็นคำหยาบแบบสัตว์ทุกชนิด ด่าว่าเรารั้นเหมือนแม่ ชั่วเหมือนพ่อ มันจะเป็นเรื่องภายในบ้านที่เป็นกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ หรืออย่างเช่น เขากำลังยืนอยู่แล้วเราเป็นคนเช็ดพื้น เขาจะเป็นคนมองเห็นคราบมัน แต่ตัวเราเองจะไม่เห็นเพราะว่ามันอยู่ข้างล่าง อย่างนี้เราก็จะโดน ซึ่งเรามีลูกด้วยกัน 2 คน คนหนึ่งเป็นผู้หญิงอยู่ ป.4 อีกคนผู้ชายอยู่ ป.3 เขามักจะด่าเราต่อหน้าลูกเลย และลูกก็เห็นเหตุการณ์มาตลอด ตอนนี้เรากับเขาเลิกและหย่ากันแล้วเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพราะเขาเคยพูดมาหนึ่งประโยคว่า “ชีวิตกู ไม่น่ามาเจอคนอย่างมึง” เขาพูดบ่อยมาก ๆ เราจึงคืนชีวิตให้เขาโดยการไปหย่าและโพสต์แจ้งทุกคนรอบตัวว่าเขาโสดแล้ว ถ้าเขาจะคบกับใครก็คบได้เลย แต่เขาก็บอกเราอีกว่าเราเห็นแก่ตัวที่ทิ้งลูกไป ตอนหย่าศาลก็ตัดสินว่าลูกสาวจะอยู่กับเรา ส่วนลูกชายจะอยู่กับเขา เราเคยทำแบบนี้แล้ว แต่เราไม่อยากจะแยกพี่แยกน้อง ตอนนั้นคือทำมาทุกวิถีทางแล้ว เขาเคยพูดกับเราว่า “พี่น้องไม่ควรต้องแยกกัน” พอย้ายบ้านครั้งที่สอง เราก็พาทั้งลูกสาวลูกชายมาอยู่กับเรา แต่เขาก็มายืนเกาะประตูอยู่ที่หน้าบ้านมาขอว่า“ขอมาอยู่กับลูกหน่อย คิดถึง” แต่ปัญหามันดันมาอยู่ตรงที่เขาไม่ได้อยากให้ลูกมาอยู่กับเรา เพราะเขาบอกว่าบริเวณบ้านเรามันมีคนติดยา เขากลัวสิ่งแวดล้อมจะไม่ดี ซึ่งตอนนี้ยังคงต้องเจอกับเขาเพื่อที่เราจะต้องไปกล่อมลูกนอนทุก ๆ วัน เพราะลูกจะนอนไม่หลับ ถ้าเราไม่ได้กล่อม บ้านเรากับบ้านเขาไม่ได้ห่างกันมาก แต่ตอนนี้หลังจากที่เลิกกัน เขาก็พยายามที่จะปรับปรุงตัวเอง ไม่พูดคำหยาบ แต่ว่าเนื้อหาที่เขาพูดกับเรามันยังคงเป็นการเหยียดและดูถูกเราอยู่เหมือนเดิม เขาพูดมาประมาณว่า “สมองเธอคิดได้แค่นี้หรอ” เรื่องความรู้สึกพอกลับมาอยู่บ้านตัวเองมันก็รู้สึกดี แต่เมื่อพอต้องไปเจอกับเขามันจะเป็นอารมณ์ประมาณว่า ห้ามใจนะ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรต้องห้ามใจ แต่บางทีมันห้ามไม่ได้ มันโมโห เหมือนกับความต้องการของเขามันมากเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเช่น ถ้าเราไปกล่อมลูกนอนหลับและเรากลับมาอยู่บ้านเรา เขาก็จะบอกกลับมาว่าเราไม่มีสัญชาตญาณความเป็นแม่ แทนที่จะไปนอนกล่อมลูกให้อยู่ทั้งคืน เวลาเราโดนว่าเสร็จ เราจะหนีกลับบ้านเลย แล้วเราทำแบบนี้ไปหลายรอบ มันทำให้เราไม่ได้เจอหน้าลูก จึงจำใจต้องทนฟังเขาพูด เพราะเราไม่อยากจะตอบโต้ มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ คือจริง ๆ เราเคยสวนกลับเขาไปครั้งนึง แล้วมันกลายเป็นอารมณ์บ้านระเบิด ถึงขั้นทำลายข้าวของแต่เขาไม่เคยลงไม้ลงมือกับเรานะ แต่ครั้งนี้มันทำให้ลูกไปนั่งสั่นอยู่มุมห้อง เราเคยตกลงกันตอนที่แยกบ้านกันแล้ว ให้ผู้ใหญ่มารับฟังแล้วว่าศุกร์กับเสาร์ลูกจะมาอยู่กับเรา แต่สุดท้ายแล้วเขาก็บอกว่า ไม่อยากให้ลูกเร่ร่อน ไปนอนบ้านนี้ที บ้านนั้นที ปัญหาของเราวันนี้ที่อยากจะปรึกษาดีเจทั้งสามคนคือ เราจะทำใจอย่างไรให้สงบ? ในสถานการณ์ที่มีคนมาต่อว่าเราต่อหน้า ซึ่งเราไม่สามารถที่จะตอบโต้หรือหนีออกจากสถานที่นั้น ๆ ได้เลย เพราะเราไม่อยากให้มันเกิดสงครามกันภายในบ้าน เพราะถ้าเราเถียงไป ความรุนแรงมันจะทวีคูณขึ้น’ โดยดีเจทั้งสามคน (ดีเจต้นหอม – ดีเจเติ้ล – ดีเจเผือก) ได้ให้คำปรึกษาไปในทางเดียวกันว่า ‘อย่าไปเอาผิดเอาถูกกับสิ่งที่เขาพูด มันไม่ใช่ตรรกะอยู่แล้ว ตอนนี้จากที่ฟังมา เขาเอาทุกอย่างเลย เจรจาไม่ได้เลย เขาไม่ได้มีอะไรให้คุณดาวเป็นทางเลือกเลย เอาทุกอย่างไม่พอ ยังเอาทุกอย่างไปอีกด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นผัวเมียกันแล้ว จริง ๆ เหมือนตอบได้ง่ายว่าก็ให้คิดถึงลูก แต่ไม่อยากตอบไปแบบนี้เพราะเป็นห่วงความรู้สึกของคุณดาว แต่ถ้าให้ตอบจริง ๆ จะตอบว่าไม่ได้ เพราะมันไม่มีใครทนได้หรอก คนที่โดนขนาดนี้มันไม่สามารถทนไปได้ตลอดแน่นอน ความอดทนของคนเรามันมีจำกัด ถามว่าจะทนอย่างไร คือมันพูดง่าย แต่เวลาทำจริง ๆ แล้วมันโดนด่าทุก ๆ สามชั่วโมง มันคงจะดีแหละที่ลูกจะได้ไม่แตกหักกัน แต่ก็ไม่เห็นว่ามันจะดีกับลูกจริง ๆ เลย ถ้าแม่ไปแล้วพ่อด่าต่อหน้าลูกอยู่ทุกครั้ง ชีวิตตอนนี้จะไม่มีอะไรดี ถ้ายังจะยอมเป็นแบบนี้อยู่ เราต้องลุกขึ้นมาแก้ปัญหา ไม่ใช่ว่าจะทำใจอย่างไร เพราะมันทำไม่ได้ มันไม่มีอะไรที่คุณดาวขอแล้วจะได้ไปเลย เพราะถ้าบอกว่า “อ่ะ เดี๋ยวฉันไปกล่อมลูกให้เธอก็ได้ แต่เธอต้องพูดจาดี ๆ กับฉัน ไม่งั้นจะไม่มาอีก” มันก็ไม่ได้อยู่ดี ที่คุณดาวเคยหนีกลับบ้านไปนั่นถูกต้องแล้ว ถ้าจะให้แนะนำคือถ้าเขาด่าปุ๊บ กลับเลย แต่คุณดาวก็ดันรู้สึกว่าไม่ได้เจอลูกอีก แต่วิธีมันไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แล้ว ส่วนเรื่องที่กฎหมายบอกว่าให้ผู้หญิงอยู่กับแม่ ผู้ชายอยู่กับพ่อ ถ้าเขาบอกกับเราว่าไม่อยากให้พี่น้องแยกกัน งั้นก็มีอีกทางเลือกคือ เสาร์อาทิตย์มาอยู่นี่ ที่เหลืออยู่นู้น มีแค่นี้เลย ถ้ากฎหมายเซ็นต์ไว้ก็ต้องยืนหยัดใบนั้นว่าฉันจะเอาตามกฎ ถ้าไม่ได้ ไม่ลงตัวก็ต้องให้ตำรวจหรือทนายมาช่วย คุณดาวต้องทำให้เขาเห็นว่าตัวเองไม่ยอมและเอาจริงกับเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาพอเขาแข็งใส่เรา คุณดาวก็ยอมหมด’ โดย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาเพิ่มเติมว่า ‘ไม่งั้นให้เราไปเอาลูกมา แล้วถ้าเขาบอกว่าสภาพแวดล้อมบ้านเราไม่ดี ก็ให้เราตอบไปเลยว่า “สภาพแวดล้อมบ้านกูมันยังน่ากลัวน้อยกว่าที่มึงอยู่บ้านนั้นอีก” เพราะถ้าเขาแค่มาเกาะประตูรั้วหน้าบ้านแล้วพูดว่า กลับมาเถอะ คิดถึงลูก ก็ให้ตอบว่าไม่ จนกว่าเขาจะปรับปรุงตัว เพราะถ้าเขาปรับตัวแล้ว คุณดาวจะไม่มาปรึกษาพวกพี่แล้ว คุณดาวต้องไม่ปล่อยให้คนเฮงซวยมาทำให้ชีวิตคุณดาวไม่ดี เราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ถ้าคุณดาวไม่สู้ไม่งัดมันก็ต้องเป็นเช่นนี้ไปตลอด ต้องเป็นเหมือนเดิมคือนึกถึงลูก ก้มหน้าก้มตาฟัง หากรู้สึกว่าทำคนเดียวไม่ไหวหรือเข้มแข็งไม่พอ ให้ลองไปปรึกษาเพื่อน คนรู้จักหรือครอบครัวให้เขามาช่วยเรา ไม่งั้นปัญหานี้มันจะไม่ถูกแก้ไข อย่าเคยชินอะไรแบบเดิม ๆ ไม่งั้นมันก็จะได้แต่อะไรเดิม ๆ กลับมา ต้องเข้มแข็งนะ’ ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาเพิ่มเติมอีกว่า ‘ผู้หญิงอยู่กับเรา ผู้ชายอยู่กับเขา ถ้าพ่อเขาบอกว่าอยากให้พี่น้องอยู่ด้วยกัน เสาร์อาทิตย์เด็กผู้ชายจะได้มานอนบ้านเรา ฉะนั้นน้องชายจะได้มาเจอพี่สาวได้แค่วันเสาร์อาทิตย์ คือเราจะไม่ให้ลูกเราไปบ้านนู้นแล้ว เราต้องบอกให้เขาทำความเข้าใจว่าเราจะมาทางนี้ ถ้าคุณไม่อยากให้ลูกชายมาที่นี่ โอเคคุณก็ดูแลลูกชายไปทั้ง 7 วัน แต่ลูกสาวจะต้องอยู่ที่นี่ แล้วไม่ว่าเขาจะให้เหตุผลอะไร ไม่อยากจะนู้นนี่ ก็ให้เป็นเรื่องของเขา คุณดาวแค่ตอบไปว่า “ไม่” ตามที่ตกลงกันไว้ ที่สำคัญคือลูกสามารถรู้ได้ว่าพ่อกับแม่เลิกกัน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ใช้วิธีการบอกลูกว่า “ตอนนี้เรามีสถานการณ์นึงที่ลูกอาจจะต้องปรับตัว คือพ่อกับแม่แยกกันอยู่และลูกจะอยู่กับแม่ ส่วนน้องจะอยู่กับพ่อ” บอกให้เขาได้รับรู้ เด็กฉลาดกว่าที่เราคิด และก็ทำบุญเยอะ ๆ สวดมนต์ให้คนนั้นขิตเร็ว ๆ เราจะได้ลูกทั้งสองคน เพราะจริง ๆ ลูกไม่ควรต้องอยู่กับคนเฮงซวยแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ สงสารลูก’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1