เรื่องนี้ต้องถึงสื่อ!! ลูกสาวโทรปรึกษา พ่อหย่ากับแม่มา 5-6 ปีแล้ว แต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน พ่อไม่ยอมไปไหนและไม่ทำงาน ทำร้ายแม่กับลูกๆ พ่อเคยใช้มีดดาบซามูไร แทงทะลุประตูเข้ามาในห้อง ซึ่งหนูก็มีหลักฐาน คลิปเหตุการณ์ ผลตรวจร่างกายครบ

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เรื่องนี้ต้องถึงสื่อ!! ลูกสาวโทรปรึกษา พ่อหย่ากับแม่มา 5-6 ปีแล้ว แต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน พ่อไม่ยอมไปไหนและไม่ทำงาน ทำร้ายแม่กับลูกๆ พ่อเคยใช้มีดดาบซามูไร แทงทะลุประตูเข้ามาในห้อง ซึ่งหนูก็มีหลักฐาน คลิปเหตุการณ์ ผลตรวจร่างกายครบ

12 พ.ค. 2023

          เรื่องนี้ต้องถึงสื่อ!! ลูกสาวโทรปรึกษา พ่อหย่ากับแม่มา 5-6 ปีแล้ว แต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน พ่อไม่ยอมไปไหนและไม่ทำงาน ทำร้ายแม่กับลูกๆ พ่อเคยใช้มีดดาบซามูไร แทงทะลุประตูเข้ามาในห้อง ซึ่งหนูก็มีหลักฐาน คลิปเหตุการณ์ ผลตรวจร่างกายครบ พอไปแจ้งความ ตำรวจบอกแค่... ‘เป็นปัญหาในครอบครัว’ หนูสงสัย หรือต้องรอให้มีคนตายก่อนหรอคะ?

          “คุณหลิน (นามสมมติ)” สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (10 พ.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาครอบครัว

          โดย “คุณหลิน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘พ่อของหนู เขาไม่ใช่พ่อและสามีที่ดีเลย เพราะเขาทำร้ายร่างกายแม่โดยตลอด หนูเห็นมาตั้งแต่เกิด เขาไม่เคยให้ความรักกับลูกๆเลย และเป็นคนเจ้าชู้ มีเล็ก มีน้อย มาตลอด ทั้งพาเข้าบ้าน เป็นเพื่อนของแม่ ลูกค้าในร้าน แม้กระทั่งแม่บ้านก็มี ส่วนแม่ก็ไม่โอเค เพราะตั้งแต่หนูเด็กๆต้องนั่งรถกับแม่ตอนกลางคืน เพื่อไปขับรถตามหาพ่อทั่วเมือง และเวลาที่พ่อทำร้ายร่างกายหรือเอาผู้หญิงเข้าบ้าน แม่ก็เคยพาหนูหนีออกจากบ้านด้วย และเวลาที่พ่อทำร้ายร่างกายแม่ หนูก็เข้าไปห้ามแต่ก็จะโดนด้วยตลอด

          หนูมีพี่น้อง 4 คน หนูเป็นคนที่ 2 น้องเล็กสุดอายุ 16-17 ปี ซึ่งแม่ก็ต้องพึ่งเรื่องเงินจากพ่อ และพ่อก็ไม่สามารถดูแลลูกได้ เพราะส่วนใหญ่แม่จะเป็นคนที่คอยรับ-ส่งโรงเรียน แม่จะเป็นคนที่รู้รายละเอียดของลูกทุกอย่าง พ่อไม่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเลี้ยงเลย ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกไม่เคยมีการพูดคุยกันเลย จะต่างคนต่างอยู่ ตั้งแต่เด็กๆเลย หนูเลิกเรียนกลับบ้านมาก็จะเห็นพ่อนั่งกินเหล้าอยู่ทุกวัน ถ้าวันหยุดพ่อก็จะบังคับให้ช่วยทำงาน เพราะเขาทำงานแบบต่อเติมบ้าน หนูกับพี่ๆก็ต้องช่วยเขาแบกของทาสีตลอด

          ณ ปัจจุบัน แม่หย่ากับพ่อมา 5-6 ปีแล้ว แต่หลังจากที่หย่ากัน พ่อก็ไม่ไปไหน ยังอยู่บ้านเดียวกับพวกหนู เขาไม่ยอมออกไป ทางคุณย่าและญาติเขาก็ไม่มีใครรับด้วย และที่สำคัญคือเขาก็เลิกทำงานไปเลย หนูคิดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะนิสัยของเขาด้วย เวลาเขาไปทำงานให้ใคร เขาก็จะแอบไปมีอะไรกับภรรยาของลูกค้า หรือด้วยหลายๆอย่างที่ทำให้ลูกค้าไม่กลับมาร่วมงานกับเขา ลูกค้าใหม่ก็ไม่มีเลย ทำให้พ่อไม่มีงาน และไม่มีใครอยากจะยุ่ง

          ตอนนี้คุณแม่เป็นเสาหลักของบ้านแทนแล้ว แม่ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง ทั้งค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้าน ลูกอีก 4 คน และพ่อที่หย่ากันไปนานแล้ว ตอนนี้พี่สาวกับหนูก็ทำงานแล้ว จะดูแลตัวเองกันและมีช่วยในเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งบ้านของหนูที่อยู่ตอนนี้เป็นอาคารพาณิชย์ เป็นบ้านที่ซื้อแล้ว ชื่อเจ้าของบ้านเป็นชื่อของลูก 3 คน ซึ่งทางครอบครัวก็ได้ประกาศขายบ้านไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครสนใจเลย พวกหนูแยกสัดส่วนพื้นที่กัน แม่จะอยู่ชั้น 2 ส่วนพ่อจะอยู่ชั้น 3 เวลากินข้าวก็จะไม่กินร่วมกัน ทุกอย่างแยกกันอยู่หมด แต่เขาจะคอยมาขอเงินตลอด ถ้าไม่ให้เขาก็จะขู่ว่าแบบอย่ากดดันเขามาก เขาไม่อยากฆ่าคนตอนแก่

          การที่แบ่งชั้นให้พ่อกับแม่ ก็มีการคุยกันแล้วว่าจะไม่มีการมายุ่งกัน ไม่ให้มาเกี่ยวข้องกันอีก ถ้ามีอะไรต้องคุยผ่านลูกอย่างเดียว แต่พ่อก็ยังเข้าไปทำร้ายแม่ในห้อง ในพื้นที่ของแม่อีก เข้าไปตบตี ซึ่งหนูมีคลิปวิดีโอ มีกล้องวงจรปิดทุกอย่าง หนูเอาไปแจ้งความก็แล้ว ตรวจร่างกายก็แล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะตำรวจบอกว่าเป็นปัญหาของครอบครัว

          นอกจากเขาทำร้ายแม่แล้ว เขาก็ยังทำร้ายลูกๆอีกด้วย เหมือนเขาพยายามจะเปิดห้องเข้ามา แต่ลูกๆไม่ให้เข้า เขาใช้มีดเหมือนดาบซามูไรแทงสวนมาตรงซอกประตู แล้วเขาบอกให้ออกมาคุย ทุกครั้งที่เกิดเรื่องก็มีการโทรแจ้งตำรวจตลอด พอตำรวจมา พ่อก็จะบอกไม่มีอะไรครับ เขาดูเป็นคนปกติ แบบคุยรู้เรื่องขึ้นมาทันที หนูมีคลิปทุกอย่าง แต่ตำรวจบอกว่าทำอะไรไม่ได้ เหตุสงบแล้ว ไม่ได้เป็นเหตุซึ่งหน้า พวกหนูทำทุกทางแล้ว แจ้งตำรวจหลายรอบมาก แจ้งหน่วยงานความรุนแรงในครอบครัว เขาก็มาทำข้อตกลง ทำสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น หน่วยงานก็บอกว่าเขาทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้

          ตอนนี้หนูห่วงแม่ที่สุด เพราะแม่ก็เพิ่งตรวจพบว่าป่วยเป็นมะเร็ง ร่างกายเขาก็แย่แล้ว จิตใจต้องมาเจอเรื่องอะไรพวกนี้อีก หนูก็เลยติด Digital door lock เพื่อความปลอดภัยของแม่มากขึ้น แต่ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เขาก็พยายามใส่รหัส แล้วก็จะพังประตู พวกหนูก็เลยแจ้งตำรวจอีก เขามาและก็กลับไปเหมือนเดิม...

          โดยเรื่องนี้ ทั้ง 3 ดีเจได้ให้ความคิดเห็นตรงกันว่า 'ควรที่จะออกมาจากบ้านหลังนี้ก่อน เพราะสถานการณ์ค่อนข้างอันตราย เรื่องที่พ่อใช้ความรุนแรงก็เพิ่งเกิดเมื่อสัปดาห์ก่อนนี่เอง อยากจะให้ถอยออกมาตั้งหลัก คิดหาทางออกในที่ที่ปลอดภัยก่อน การขายตึก หรือ ประกาศขาย อาจจะไม่ใช่ทางออกทั้งหมดของเรื่องนี้ แนะนำให้ ประกาศขายออนไลน์ หาคนมาซื้อตึกอีกที แล้วถ้าคุณแม่มีญาติ ลองขอย้ายไปอยู่บ้านญาติก่อนดีไหม? มันเป็นกรณีฉุกเฉิน คุยกับญาติเลย เพราะการอยู่ต่อไปในบ้านหลังนี้ อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้

          ลองติดต่อหา มูลนิธิ เพจ หรือ  สื่อต่างๆ ที่รับเรื่องนี้ พอเรื่องมันดัง มีคนให้ความสนใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะหันมาสนใจเรื่องนี้มากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้ น่าแปลกใจที่สังคมเป็นแบบนี้ไปแล้ว คนหันไปหาช่องทางช่วยเหลืออื่นๆแทนที่จะไปแจ้งความเพียงอย่างเดียว

          สุดท้ายทั้ง 3 ดีเจขอส่งกำลังใจไปถึงน้องหลิน ครอบครัว และ ทุกคนในครอบครัวด้วยนะ มีอะไรสามารถอัปเดตเพิ่มเติม ติดต่อทางทีมงานเรามาได้ตลอดเลย'

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เจอเพื่อนร่วมงานแบบนี้ จะทำยังไงกันคะ? โกหกเพื่อนร่วมงานว่า ‘พ่อตาย’ สุดท้ายสืบรู้ว่า… วันนั้นเค้าแอบไปกดบัตรคอนเสิร์ต แล้วลาออกจากงานไปเลย ไม่ส่งต่องานใดๆ พีคสุด เค้าวางแผนมาตั้งนานแล้วว่าจะออก!!

10 มี.ค. 2023

เจอเพื่อนร่วมงานแบบนี้ จะทำยังไงกันคะ? โกหกเพื่อนร่วมงานว่า ‘พ่อตาย’ สุดท้ายสืบรู้ว่า… วันนั้นเค้าแอบไปกดบัตรคอนเสิร์ต แล้วลาออกจากงานไปเลย ไม่ส่งต่องานใดๆ พีคสุด เค้าวางแผนมาตั้งนานแล้วว่าจะออก!!

“คุณไข่หวาน (นามสมมุติ)” สายสุดท้ายในรายการพุธทอล์ค พุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (08/03/2023) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาเพื่อนร่วมงานมาโกหกใส่โดย “คุณไข่หวาน (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘พอดีว่าช่วงกลางเดือนที่แล้ว เพื่อนที่ทำงานเขาแจ้งว่าพ่อเขาเสีย แล้วเขาก็ลางานไป พอถึงสิ้นเดือน วันที่เงินเดือนออก เขาก็ออกจากกรุ๊ปไลน์ไปเลย แบบเขาออกจากงานไปเลย จนเราไปเจอในทวิตเตอร์ของเขาว่าพ่อเขาไม่ได้เสีย เพราะวันที่เขาบอกว่าพ่อเขาเสีย คือเขากดบัตรคอนเสิร์ตอยู่ ใช้ชีวิตปกติ เขามีแพลนจะลาออกอยู่แล้วด้วย แบบสิ้นเดือนนี้จะลาออกแล้ว แต่เขาก็ไปแบบไม่ได้ลา ไม่ได้บอกหัวหน้าอะไรเลยลักษณะงานที่เราทำมันเป็นโปรเจกต์ ต้องมีการพูดคุยกับลูกค้า แล้วเขาก็เป็นคนประสานงานกับลูกค้า ซึ่งเขาออกไปแบบไม่ได้ส่งต่องาน ไม่ได้รับผิดชอบตรงนี้เลย ไม่มีใครรู้ หัวหน้าก็ไม่รู้ ตอนแรกที่เขามาบอกว่าพ่อเขาเสีย เราก็เห็นใจเขาว่าแบบสูญเสีย แต่พอเรามารู้ทีหลัง คือเรา พี่ๆทุกคนในทีมและหัวหน้าก็พูดกันว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้หัวหน้าอยากให้เรื่องนี้จบแล้ว แต่หนูเห็นทวิตเตอร์เขาหนูอยากจะไปบอกกับเขาว่าแบบทำไมคุณถึงทำแบบนี้ หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า การที่หนูจะไปทำแบบนี้มันจะเกินไปมั้ย? แล้วถ้าพี่ๆเจอเหตุการณ์แบบนี้จะรับมือกันยังไง?ทั้ง 3 ดีเจ ให้ความคิดเห็นว่า ‘มันเป็นนิสัย และความรับผิดชอบแต่ละบุคคล ถ้าเค้าทำแบบนี้ แสดงว่าเป็นคนที่ไม่ได้เรื่อง ซึ่งถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับดีเจทั้ง 3 คน ก็จะไม่เสียเวลาไปทวงถามความถูกต้อง มันไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไป แต่ถ้าเป็นการทักไปถามเรื่องงานที่ค้างอยู่ก็ถามได้ เพราะเป็นเรื่องงานและถ้าส่วนตัวไม่ได้สนิทกับคนนี้ ก็ยิ่งต้องปล่อยไปเลย เพราะขนาดคนที่เป็นพ่อเค้ายังไม่แคร์เลยถึงขั้น โกหกว่าตายแล้วเค้าจะแคร์เราไหม? เค้าทำแบบไหน ก็จะได้แบบนั้น เราควรมองอีกมุม ดีด้วยซ้ำที่องค์กรเรา คนแบบนี้ได้ออกไปแล้ว ส่วนถ้าต้องสื่อสารกับลูกค้าก็แค่บอกว่า มีการเปลี่ยนตัวพนักงาน หรือคนรับผิดชอบ แล้วก็หาคนทำงานต่อท้ายที่สุดถ้าเค้าเป็นคนแบบนี้ ลักษณะแบบนี้ ไปทำงานที่ไหนก็จะไม่รอดหรอก ท่องไว้เลยว่า เค้าออกไปดีแล้วกับเราไม่ต้องไปตามด่า หรือต่อว่าอะไรเค้า มันไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย...’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผู้หญิงไร้ศีลธรรม กับ ผู้ชายที่ไม่รู้จักพอ... หนูคบแฟนมา 20 ปี ผู้หญิงคนนี้เข้ามาในรูปแบบเพื่อนของแฟน สนับสนุนทุกเรื่อง ให้คำปรึกษาทุกอย่าง จนเรารู้สึกว่าทำไมเพื่อนเขาคนนี้ดีจัง... สุดท้าย ผู้หญิงโทรมาสารภาพ ‘ขออยู่ในสถานะเมียน้อย’ ได้ไหม?

18 เม.ย. 2023

ผู้หญิงไร้ศีลธรรม กับ ผู้ชายที่ไม่รู้จักพอ... หนูคบแฟนมา 20 ปี ผู้หญิงคนนี้เข้ามาในรูปแบบเพื่อนของแฟน สนับสนุนทุกเรื่อง ให้คำปรึกษาทุกอย่าง จนเรารู้สึกว่าทำไมเพื่อนเขาคนนี้ดีจัง... สุดท้าย ผู้หญิงโทรมาสารภาพ ‘ขออยู่ในสถานะเมียน้อย’ ได้ไหม?

“คุณหนู (นามสมมุติ)” อายุ 39 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (12 เม.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหามือที่สามของแฟน โดย “คุณหนู (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘เราคบกับแฟนมา 20 ปีแล้ว และมีลูกด้วยกัน จนเรามาจับได้ว่าแฟนเรามีคนอื่น ซึ่งก่อนหน้านี้แฟนเป็นคนเจ้าชู้มาตลอด แต่ด้วยความที่มีลูกแล้ว เราก็ไม่ได้ตาม ไม่อะไรแล้ว ลูกก็เริ่มโตแล้ว สนใจลูกมากกว่า เพราะเราคิดว่าเขาจะปรับตัวให้ดีขึ้นได้ จนวันหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาหาเรา เขาเป็นเพื่อนเก่าสมัยเรียนของแฟน เขาเข้ามาหาแฟนในรูปแบบเพื่อน คอยให้คำปรึกษา ให้ความช่วยเหลือทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน หรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ จนเราคิดว่าเขาเป็นคนดี เป็นเพื่อนที่ดี แล้วเขาก็ร้องไห้ สารภาพกับเราว่า เขาขอเป็นแบบนี้ได้ไหม ขออยู่ในสถานะเมียน้อยได้ไหม? เขาบอกว่าเขาช่วยแฟนเราทุกอย่าง เขาไม่ต้องการอะไรจากเราเลย ไม่ต้องการจะแย่ง แต่ขออยู่ในสถานะนี้ได้มั้ย ขอแค่ให้มาหาบ้าง โทรหาบ้าง ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน เราก็เลยถามเขาว่า ทำไมเกินเลยกันถึงขั้นนี้เลย เขาบอกไม่รู้เหมือนกัน เขารักไปแล้ว ไม่สามารถออกห่างหรือเลิกได้แล้ว ต้องท้าวความก่อนว่าผู้หญิงคนนี้เขาเคยผ่านการมีสามีมาแล้ว มีลูกติด 1 คน แล้วเขาก็มีหน้าที่การงานที่ดี หน้าตาดี มีฐานะที่ดี เราก็เลยถามเขาไปว่าเขาก็มีทุกอย่างแล้ว แต่ทำไมถึงยอมมาอยู่ในสถานะเมียน้อย ทำไมถึงไม่ยอมไปหาผู้ชายที่ดีกว่านี้ ผู้ชายที่ยังไม่มีครอบครัว เขาบอกก็รักไปแล้ว เราก็เลยถามว่านานแค่ไหนแล้ว เขาพูดกลับมาแบบกวนๆใส่เราว่า ก็น่าจะรู้นะว่านานแค่ไหนแล้ว เราก็เลยเอะใจว่าเขามาขอร้องอ้อนวอนเป็นเมียน้อย หรือเขามาเยาะเย้ยเรา แบบอยากให้เรารู้ว่าเขามีตัวตน หลังจากวางสายผู้หญิงคนนี้เราก็ไปเคลียร์กับแฟนเลย ตอนแรกแฟนเราก็ยังไม่ยอมรับ จนเราต้องจี้จุด พูดชื่อผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา เขาก็ร้องไห้แล้วสารภาพกับเราว่าเขามีปัญหาเรื่องธุรกิจ การงานของเขา เขาบอกเขาโพสต์เฟซบุ๊ก แล้วผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามาทักถาม ให้คำปรึกษา เขาก็ไปคุยกันส่วนตัวเพราะเราไม่รู้ เราไม่เคยเช็คโทรศัพย์ของแฟนเลย เพราะเราเชื่อใจและไว้ใจเขา แฟนเราบอกว่าพยายามจะเลิกกับผู้หญิงคนนี้หลายรอบแล้ว แต่ผู้หญิงไม่ยอมเลิก บอกจะฆ่าตัวตายบ้าง แล้วแฟนเราก็พูดกับเราขึ้นมาคำนึงว่าแล้วลูกเขาล่ะ? แฟนบอกผู้หญิงคนนี้กำลังท้องอยู่ ซึ่งเขาบอกว่าท้องกับสามีเราจริง แต่ตอนนี้เขาแท้งไปแล้ว หลังจากเขายอมรับสารภาพ เราก็โทรไปเคลียร์กับผู้หญิงคนนี้เลย เราด่าด้วยความโมโหว่ามายุ่งกับแฟนเราทำไม เขาก็พูดใส่เราขึ้นมาว่า แล้วเวลาเขาไล่ทำไมไม่ไปอ่ะ อยู่ทำไม? เหมือนกับว่าแฟนเราไปเล่าให้เขาฟังหลายครั้งแล้ว แต่เราไม่ไปเอง เราก็เลยโทรประชุมสายหาแฟนเราเลย ถามว่าเขาพูดแบบนี้จริงไหม แฟนบอกพูดจริง แต่คือจริงๆเขาไม่เคยไล่เราเลย ต่อให้ทะเลาะกันยังไงก็ไม่เคยไล่ สรุปคือแฟนเราไปเล่าเรื่องทุกอย่างในส่วนของเราให้ผู้หญิงคนนี้ฟังหมด ให้เขามาดูถูกเรา ไม่ว่าจะเรื่องไล่เราออกจากบ้าน ทุบตีเรา หรือแม้กระทั่งเราไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน เพราะทุกวันนี้เราเป็นแม่บ้าน มีงานแต่ไม่ได้มีเงินเยอะ หลักๆคือใช้เงินของแฟน และเขาก็ต้องมาคอยดูแลเรา ดูแลลูกเรา เขาบอกเขาเหนื่อย เขาไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น ผู้หญิงคนนี้ก็เลยโอบอุ้มเขาไป’ ตอนนี้เราเลิกกันมาได้ 3 – 4 เดือนแล้ว คำถามวันนี้คือ ‘อยากถามพี่ๆว่า ผู้ชายสมัยนี้เขารักความสบาย ไปกับผู้หญิงที่มีเงินได้โดยทิ้งผู้หญิงที่ลำบากมาด้วยกัน 20 ปี มันง่ายขนาดนี้เลยหรอ?’ 3 ดีเจจึงให้คำแนะนำ “คุณหนู (นามสมมุติ)” ว่า เท่าที่ดูไม่น่าจะเกี่ยวแค่เรื่องเงิน ไม่งั้นถ้ามีอะไรกันน่าจะป้องกันไปแล้ว แฟนเราน่าจะมีเรื่องของความรักมาแล้ว และระยะเวลา 20 ปีที่คบกัน มันอาจจะเป็นคู่ชีวิต อาจจะไม่หวือหวาเท่าคนใหม่ที่เข้ามา แต่สิ่งสำคัญคือมองผู้ชายของเราดีกว่า ทำไมไม่ปกป้องความรู้สึก ปกป้องครอบครัวเราเลย ถือว่าความรับผิดชอบเขาต่ำมาก หยุดถามคำถามได้แล้วว่า 20 ปี ทำไปเขาถึงไม่นึกถึงเลย ต่อให้ 20 ปี 30 ปี เขาก็ไป ถ้าเขาจะไปกับอีกคน ได้คำตอบมามันก็เท่านั้น จงใช้ชีวิตที่เหลือโดยการเอาลูกเป็นที่ตั้ง เป็นกำลังใจในการก้าวเดินต่อไป บอกตัวเองว่า เขาเลือกทิ้งเราไปจากชีวิตแล้ว แล้วถ้าวันนึง ถ้าเขาจะกลับมา เราควรค่าที่จะเอาเขากลับมาไหม อย่าเสียดายกับคำว่า พ่อ หรือ ผัว นับจากนี้ ปล่อยให้เขาไปใช้ชีวิตของเรา แล้วเรามีความสุขกับลูกต่อไป ไม่ต้องหาเหตุผลอะไรในอดีตอีกแล้ว... จริงๆ ไม่ใช่แค่ผู้ชาย ไม่ว่าใคร คนเราถ้ามันจะเลิกกัน คนมันจะไป ยังไงก็ไป ต่อให้ทำดีแค่ไหน นานแค่ไหนเขาก็ทำได้ ถ้ามองจริงๆ มันแทบไม่มีอะไรซับซ้อน ถ้าคนมันไม่รักกันแล้ว เขาก็จะทิ้งเราไป ซึ่งถ้าคนมันจะอยู่ยังไงเขาก็จะอยู่ แต่สิ่งที่ยากคือ การทำความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว หลายครั้งที่เรามักจะไม่เรียนรู้ความเจ็บปวด แต่เรามักจะไปอาลัยอาวรณ์เขามากกว่า แล้วเรื่องที่เค้าเอาเราไปพูดเสียๆหายๆ ปกติคนเราเวลาพูดอะไรออกไปก็จะไม่พูดให้ตัวเองดูเสียๆหายๆอยู่แล้ว ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็คือ ง่าย ในหลายๆคู่ทำยิ่งกว่านี้อีก บางคนที่เห็นในข่าวฆ่าเมียเพื่อไปหาอีกคนก็ยังมี มันมีผู้ชายแบบนี้อยู่แล้ว ซึ่งผู้ชายคนนี้ก็กำลังทำอยู่เขาจะทำอะไรก็ได้เลยที่เขาอยากทำ เพื่อที่จะไปอยู่กับอีกคน ถ้าเรามองจากมุมข้างนอกเข้าไป เขาจะพูดถึงหนูยังไง เขาจะทำอะไร หนูก็โอเคกับเขา หนูเราเขา แต่ในขณะที่เขาไม่ได้รู้สึกเท่ากับหนู วันนี้ที่หนูออกมาแล้ว นับเป็นความโชคดีแล้ว แล้วเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว หนูจะพบเจอกับความสุข เราก็ทำหน้าที่แม่ที่ดีของเราต่อไป แล้วก็มูฟออนให้ได้ และถ้านับจากการวางหูที่โทรเข้ามาในรายการ เลิกถามคำถามนี้ได้แล้วว่า ทำไมทำไม โฟกัสไปที่ปัจจุบันแล้วเดินไปข้างหน้าต่อเลย...เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เจ็บปวดจนพูดไม่ออก... หนูแต่งงานกับสามีมา 12 ปี มีลูก 1 คน เพิ่งจับได้ว่า ‘สามีที่รัก’ แอบมีอะไรกับ ‘พี่สาวแท้ๆ’ ของหนู สุดท้าย พี่สาว ขอตัดพี่ตัดน้อง แล้วเลือกที่จะอยู่กับสามีเรา ส่วนสามีก็บอกว่า ขอรักพี่สาวของเธอเพิ่มอีกคนนึงได้ไหม?

05 พ.ค. 2023

เจ็บปวดจนพูดไม่ออก... หนูแต่งงานกับสามีมา 12 ปี มีลูก 1 คน เพิ่งจับได้ว่า ‘สามีที่รัก’ แอบมีอะไรกับ ‘พี่สาวแท้ๆ’ ของหนู สุดท้าย พี่สาว ขอตัดพี่ตัดน้อง แล้วเลือกที่จะอยู่กับสามีเรา ส่วนสามีก็บอกว่า ขอรักพี่สาวของเธอเพิ่มอีกคนนึงได้ไหม?

“คุณเก๋ (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (3 พ.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาพี่สาวแท้ๆ กับสามีสุดที่รัก โดย “คุณเก๋ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูแต่งงานกับสามีมา 12 ปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 1 คน แต่หนูมีลูกติดอีก 1 คน เรื่องมันเกิดจากพี่สาวของหนูทะเลาะกับพ่อ หนูก็เลยพาพี่สาวเข้ามาอยู่ในบ้านตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ประมาณ 6-7 เดือน ซึ่งพี่สาวก็ช่วยเลี้ยงลูกติดของหนูด้วย เพราะพี่สาวไม่มีครอบครัว ซึ่งพี่สาวแท้ๆ พ่อกับแม่เดียวกัน หนูมีแค่เขา เพราะเขาเลี้ยงหนูมาเหมือนแม่เลย เลี้ยงหนูมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เพราะพ่อกับแม่ของพวกหนูเขาเลิกกัน และมันเริ่มแปลกๆ คือ พี่สาวของหนูกับสามีของหนูเขาเริ่มคุยกันแปลกๆ แล้วมีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้หนูสงสัย แต่ก็ไม่ได้ไปสนใจอะไรขนาดนั้น พอมาเริ่มสังเกต สามีหนูมีการลบแชททุกอย่างออก แต่ในแชทไลน์เขาก็มีการส่ง Good Morning กันทุกวัน ส่งสติ๊กเกอร์จุ๊บทุกวัน มีการแลกดูกับข้าวกันด้วย วันละ 3 มื้อ ซึ่งกับหนูเขาไม่เคยทำแบบนี้เลย พอหนูจับได้ หนูก็ถามเขาว่า มันคืออะไร? ยังไง? แล้ววันนั้นเรา 3 คนอยู่ข้างนอกด้วยกัน แต่แฟนบอกว่ามีอะไรให้กลับไปคุยกันที่บ้าน พอมาถึงบ้านเราก็มีการคุยกัน แต่สามีของหนูโวยวายขึ้นมา แล้วเขาก็หนีออกจากบ้านไปเลย กลับบ้านอีกทีตอนเช้าอีกวัน แต่ตอนนั้นเหลือหนูกับพี่สาว หนูก็เลยถามพี่สาวว่ามันเกิดอะไรขึ้น พี่สาวก็ไม่ได้ยอมรับ หนูก็พูดไปประมาณว่า ถ้าแฟนหนูรู้สึก หนูอยากให้เขาหยุด แต่ตอนนั้นหนูไม่ได้โทษพี่สาวเลยว่าเขาจะรู้สึกอะไรกับแฟนหนู ทางฝั่งพ่อกับแม่ของสามีก็มาด่าหนูว่า หนูหึงสามีไม่เข้าเรื่อง พอใช้ประโยชน์พี่สาวหมดก็จะไล่เลยหรอ? หนูก็เลยยอมขอโทษที่หนูโวยวาย จนเหตุการณ์มันเกิดไปได้ประมาณอาทิตย์นึง หนูก็กลับไปเห็นแชทไลน์ในโทรศัพท์ของพี่สาว ประมาณว่า สามีของหนูไปหึงผู้ชายที่ทักมาคุยกับพี่สาวหนู หนูก็เลยแคปแชทนี้ส่งไปให้สามีดู แล้วถามเขาว่า มันคืออะไร? เขาก็ไม่ตอบหนูเลยทั้งวัน จนกลับมาตอนเย็น เขาก็มายอมรับกับหนูว่าเขารักพี่สาวหนู แต่ยังไม่ได้มีอะไรกัน แล้วพี่สาวก็มายอมรับว่ารู้สึกดีกับสามีหนู หลังจากนั้นทุกอย่างมันเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ใช้ชีวิตระแวงกันมาตลอด และสามีก็มาพูดกับหนูว่า ขออยู่แบบ 3 คนผัวเมียได้ไหม? หนูก็เลยย้อนถามกลับไปว่ามีอะไรกันแล้วหรอ? ทำไมถึงมาขอแบบนี้ เขาบอกยังไม่ได้มีอะไรกัน แต่เขาอยากได้ เขาจะเอา หนูก็บอกว่าไม่ได้หรอก แล้วลูกจะอยู่ยังไง เพราะลูกทั้ง 2 คนก็อยู่ในบ้านด้วย เขาก็บอกว่า ขอรักพี่สาวหนูเพิ่มอีกคนนึงได้ไหม? หนูไม่รู้จะพูดยังไงเลย พอเขาพูดจบปุ๊บ พี่สาวหนูก็พูดขึ้นมาว่า ลองให้มันไปอยู่กับพี่ไหม แบบไปเช่าหออยู่ด้วยกัน หนูก็เลยถามว่า อยากลองหรอ ตอนนั้นหนูรู้สึกอยากดึงใครสักคนไว้กับหนู หนูขอร้องให้พี่สาวกลับมาเป็นพี่สาวของหนู ส่วนผู้ชายอยากออกไปไหนก็ไปเลย... แต่พี่สาวพูดกับหนูว่า เขาไม่สามารถกลับมาเป็นพี่สาวหนูได้แล้ว เขาให้เหตุผลว่าหนูคิดไปไกลเกินที่จะกลับมาอยู่ด้วยกันได้แล้ว หนูไม่รู้เลยว่าเขาไปถึงขั้นไหนกัน ตลอดระยะเวลาหนูก็ถามสามีตลอดว่าเอาความรู้สึกกลับมาได้ไหม ถึงแม้เธอจะบอกว่าไม่มีอะไรกัน หนูเชื่อนะ ขอร้องได้ไหม อยู่กับหนูกับลูกได้ไหม? หลังจากวันนั้น พี่สาวก็ขอออกจากบ้าน เขาบอกเขาอึดอัด อยู่ไม่ได้ แต่พอพี่สาวย้ายออกไป เหตุการณ์มันเริ่มแย่ลงทุกวัน สามีหนูไม่กลับบ้านเลย เขาบอกขอออกไปขับรถเล่น ค่ำไหนก็นอนนั่น เขาบอกอยู่กับหนูแล้วอึดอัด เพราะหนูจับผิดเขาตลอดเวลา หลังจากนั้นผู้ชายก็มาขอกลับไปอยู่บ้านกับพ่อ-แม่ หนูก็บอกโอเค ถ้าเธออยากกลับไป ก็ไปจัดการความรู้สึกตัวเองให้ได้ก่อน แล้วเธออยากเลือกทางซ้าย ทางขวา เธอไปได้เลย หนูก็พูดและกอดเขาทั้งน้ำตา แล้วเขาก็ออกจากบ้านไป ซึ่งหนูก็อยากรู้ว่าเขาโกหกไหม เพราะตลอดระยะเวลาที่พี่สาวหนูออกไปอยู่ข้างนอก หนูไม่เคยตาม ไม่เคยรู้เลยว่าพี่สาวอยู่ที่ไหน แต่วันนั้นหนูตามไปดู ไปถึงพักพี่สาวประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง หนูเจอเขาอยู่ด้วยกัน หนูก็ไปคุยกับสามีว่ามาอยู่ทำไมที่นี่ เขาบอกว่า พี่สาวขอให้มาหา มาคุยกันเรื่องหนู เพราะพี่สาวอยากให้สามีกลับไปอยู่กับหนู หนูไม่มีอะไรจะต้องเชื่อแล้ว ทุกอย่างที่หนูเห็น หนูให้โอกาสเขาทั้งคู่มาตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็ม แล้วคืนนั้นเขาก็หายไปพร้อมกันเลย แต่หนูไม่ได้โทษว่าเขาไปด้วยกัน พี่สาวหนูกลับมาอีกทีวัน 10 ประมาณอาทิตย์กว่าๆ แต่แฟนหนูกลับมาอีกทีวันสงกรานต์ เขาก็ไม่เข้าบ้านอีกเลยจนถึงวันนี้ และเขาก็ไม่สนใจลูกด้วย หนูอยากจัดการความรู้สึกตัวเอง ตอนนี้หนูทรมานมากๆ หนูควรจะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง? หนูกลัวตัวเองดิ่งไปมากกว่านี้ ซึ่ง “ดีเจอั๋น” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘อย่างแรกเลยคือยอมรับกับตัวเองว่ามันหนัก แล้วก็เผชิญกับความจริงก่อนในตอนนี้ว่ามันเกิดขึ้นแล้ว พี่คิดว่าการที่เรายอมรับว่าเจ็บคือเจ็บ เสียใจคือเสียใจ ผิดหวังคือผิดหวัง อยู่กับความจริงให้ได้มากที่สุดก่อน เป็นใครเจอก็คงไม่ สามารถที่จะรับมือมันได้แบบยิ้มสู้ ไม่มีทาง แต่สักวันคงทำได้ แต่เร็วช้าพี่ยังไม่กล้าพูดเลยจริงๆ เพราะมันก็เป็นเรื่องหนักและเรื่องใหญ่ แล้วเป็นพี่สาวที่เป็นคนสำคัญและกำลังสำคัญในชีวิต แต่ในตอนนี้เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเราต้องแยกเรื่องของอารมณ์ กับ การใช้ชีวิตของเราต่อไปให้ได้ถ้าเป็นพี่นะ ในส่วนเสียใจพี่เข้าใจ แต่เราต้องเริ่มคิดละว่า ฉันจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรก่อน เพราะฉันไม่ได้ตัวคนเดียว ถ้าเราตัวคนเดียว โอเค เราปล่อยตัวเองให้จมลงสักพักนึง เพราะรู้สึกเหมือนว่ามันใกล้จะขาดใจ เราค่อยตะเกียกตะกายขึ้นมาหายใจแล้วอาจจะยังพอไปต่อได้ แต่ตอนนี้มีคนที่อยู่บนบ่า มีคนที่อยู่บนไหล่ ของเราอยู่ด้วยนั่นก็คือลูกถ้าเป็นพี่ พี่จะรวบรวมสติเอามาตั้งไว้อยู่ตรงนี้ก่อน ย้ายโฟกัส ย้ายที่วางหัวใจ คือมันย้ายไม่ได้แบบสมบูรณ์แบบหรอก หยิบตรงโน้นมาวางตรงนี้มันไม่ได้ขนาดนั้น แต่อย่างน้อยแค่พยายาม เมื่อไหร่ที่เผลอไปคิด ไม่ถึงกับขนาดที่ว่าต้องบีบคั้นตัวเอง จนเกินไปแต่ลองค่อยๆ พยายาม นึกถึงเรื่องนี้ให้น้อยลงแล้วมาโฟกัสก่อนว่า ฉันจะดูแลลูกยังไงฉันจะเดินหน้าต่อไปยังไง แปลว่าถ้าตอนนี้ไม่มีเขาเราอยู่ได้เพราะเรามีบ้านเป็นของตัวเองและที่ผ่านมาเราไม่ได้พึ่งเงินหรือรายได้จากของผู้ชายขนาดนั้น เราเลี้ยงดูลูกได้ เราเลี้ยงดูตัวเองได้ ไม่ต้องหยิบยืม ไม่ต้องเป็นหนี้นอกระบบ อย่างน้อยก็โฟกัสตรงนี้ก่อน ณ ตอนนี้ปัญหาเดียวคือเรื่องใจแล้วมาที่เรื่องใจ เราจะเริ่มคิดวนอยู่ในหัวว่านี่พี่สาวเรา นี่คือคนสำคัญในชีวิตเรานะ นี่คือสามีเรานะ ซึ่งความคิดเหล่านี้ไม่ผิดหรอก พี่เข้าใจ แต่การคิดมันเหมือนกับเอามีดเล่มเดิมมาแทงตัวเองซ้ำๆ ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วก็คือเกิดขึ้นแล้ว ยอมรับมันซะ ถ้าการคิดประโยคเหล่านั้นไม่ได้ช่วยอะไรแล้วก็ไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้ว โกรธได้ ผิดหวังได้ แต่อย่าปล่อยให้มันกลายเป็นความรู้สึกเคียดแค้นหรือพยาบาท หรืออย่าพาตัวเองไปถึงจุดที่อยากทำให้คนเหล่านี้รู้สึกเจ็บปวดอย่างสาสมบ้าง จะพาทุกคนให้ดิ่งลงไปหมดในท้ายที่สุดถึงแม้ว่ามันจะยังทำไม่ได้แต่ให้ปักธงปักหมุดตั้งเป้าหมายไว้ว่า เราจะใช้พละกำลังทั้งหมด สติทั้งหมดที่มี เท่าที่จะกอบกู้ได้ ในการทำชีวิตจากวันนี้ให้ดียิ่งขึ้น โดยโฟกัสที่ชีวิตของเรา และครอบครัวของเรา คือเราและลูกก่อน เป็นการลำดับความสำคัญแรก ที่เหลือช่างเขา เพราะเราทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต่อให้เขากลับมา ซึ่งในใจเราอาจจะยังอยากจะให้เขากลับมาในวันนี้ พี่เข้าใจในส่วนนี้ แต่มันบังคับไม่ได้สรุป : ความเสียดายความผิดหวังทั้งหมดที่หนูพูดให้พี่ฟัง พี่โคตรเข้าใจเลยจริงๆ ถ้ามันเกิดขึ้นกับพี่ พี่คงไม่ได้พูด ถึงเรื่องนี้ได้แบบชัดเจนและเข้มแข็งขนาดนี้เหมือนกัน อนุญาตให้ตัวเองอ่อนแอได้นะ แต่หลังจากที่อ่อนแอเสร็จแล้ว ตอนที่เข้มแข็งแล้ว ต้องลุกขึ้นมาแล้วกอบกู้ทุกอย่าง แล้วปักธงว่าฉันจะเอาพละกำลังในชีวิตนี้ที่มันยังดีอยู่ทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นไปให้ได้ และดีต่อไปให้ได้ อย่ายอมให้ส่วนอื่นๆมันพังไปด้วยโดยไม่จำเป็น “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เก๋อยากได้พี่สาวคืนแต่เก๋ต้องดูด้วยว่าพี่สาวของเรา อยากได้ความสัมพันธ์กับเราในแบบเดิมคืนหรือเปล่า เรื่องครอบครัวเราเลือกไม่ได้ คำถามที่ว่าทำไมต้องเกิดขึ้นกับฉัน ทำไมพี่สาวถึงต้องเป็นแบบนี้ ให้สามีฉันเป็นแบบนี้ ซึ่งคำถามเหล่านี้เป็นคำถามบั่นทอนทั้งหมดเลย แต่โหมดเสียใจ เราก็จะฟูมฟายไป แต่โหมดแห่งสติก็ต้องวางแผนแล้วเหมือนกัน ถ้าเวลาที่ลูกถามบางอย่าง ซึ่งมันเป็นคำถามที่ช่างบั่นทอนเราเหลือเกิน แต่อย่าลืมว่าเด็กเค้าก็มีคำถามแบบเด็กๆของเค้าเหมือนกัน แต่อย่าลืมว่าความเจ็บปวดตรงนั้นเราต้องมีสติก่อน เมื่อไหร่ที่ลูกถามคำถามนี้ปุ้ป แล้วเก๋พังพินาศลงไป ลูกยิ่งใจเสียใหญ่เลย เมื่อลูกมีพ่อที่กอดเขาไม่แน่นพอ เราก็ต้องเป็นแม่ที่กอดเค้าให้แน่นขึ้นเป็นสองสามเท่า เหตุการณ์ใดใดที่เกิดขึ้น ตอนนี้คนที่ควรอายไม่ใช่ฉัน เพราะฉะนั้นต้องใช้ชีวิตแบบที่ให้เกียรติตัวเอง ฉันไม่ได้ผิด ฉันเป็นภรรยาที่ดีที่สุด ฉันซื่อตรงต่อสามีที่สุด ฉันเป็นน้องที่กตัญญูต่อพี่สาวที่สุด แต่วันหนึ่งมนุษย์คือมนุษย์ มีความเลวร้ายมีความดี แล้วอยู่ที่ว่าจะหันมุมไหนออกมาให้เราเห็นได้มากกว่า และวันนี้ต่อให้เป็นพี่สาว พี่ก็จะใช้คำว่า “พี่สาวแล้วไง? เมื่อสำนึกความเป็นพี่สาวของเค้ายังไม่มีเลย!” แล้วการที่เรียกร้องความเป็นพี่สาวให้กับเราในวันนี้พี่เชื่อเลยว่ามันเรียกร้องไม่ได้หรอก วันนี้เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นก็ยอมรับให้ได้ก่อน น้องต้องทำให้เห็นให้ได้ว่าความถูกต้อง และฉันทำในสิ่งที่ถูกต้องมาตลอด และฉันทำในสิ่งที่ถูกต้องกับคนที่ฉันไว้ใจ แต่คนที่ฉันไว้ใจเลวร้ายที่สุดเลย เราเลยจำเป็นต้องพยายามยืนให้อยู่ ซึ่งพี่ไม่ได้หมายความว่าต้องเข้มแข็งภายในวันนี้นะ ไม่มีทางหรอก อ่อนแอคืออ่อนแอ ร้องไห้คือร้องไห้ สู้ไหวก็เดินหน้า สู้ไม่ไหวปุ๊บ ลงไปนั่งพักแป๊บนึง และไม่จำเป็นจะต้องมานั่งกระหน่ำซ้ำเติมตัวเองว่า ให้ฉันต้องมาเจอแต่เรื่องอะไรแบบนี้ เมื่อเจอแล้วก็ต้องลุยแล้วต้องเดินหน้า ให้คนศีลเสมอกันไปอยู่รวมกันเลย วันนี้ฉันจะใช้ชีวิตอย่างถูกต้องที่สุด ฉันแค่คนโชคร้ายที่คนหันมุมร้ายๆมาใส่ฉันพอดี จะร้องไห้อีกกี่วันก็ได้นะ พี่ไม่ได้บอกว่าต้องเข้มแข็งนะคนเรามันก็มีมุมอ่อนแอได้ ขอให้ร้องไห้ปั๊บ อยากให้รู้ตัวเองว่า ถึงเวลาแล้วนะ ลูกมองอยู่ “ไม่ต้องเข้มแข็งในวันที่อ่อนแอเพราะแผลจะใหญ่กว่าเดิม” บางเรื่องแก้ได้ที่เราก็แก้เลย แต่บางเรื่องที่คนสองคนไปทำเลวร้ายกัน เราแก้ไม่ได้ก็ปล่อยให้มันเป็นกรรมของเค้าสองคนไป เห็นไหม? หนูไม่มีเขาหนูก็ยังอยู่ได้ และบอกกับตัวเองเสมอว่า ฉันเป็นแม่ที่แข็งแรงมาก เพราะในวันที่ควรจะอ่อนแอเหลือเกินฉันก็ยังไหวอยู่เลย’ “ดีเจอั๋น” ได้ให้คำปรึกษว่า ‘เรื่องนี้ ที่เกิดขึ้น ในมุมดีมันจะทำให้เก๋หลุดพ้น จากเรื่องนี้ได้ง่ายมาก ก็เหตุการณ์ทั้งหมดนี้มันคือสถานการณ์วัดคนได้เลยว่า ไม่มีศีลธรรม ไม่มีมโนสำนึก ไม่มีสิ่งดีๆ ที่คนในฐานะสามีและพี่สาวควรจะทำ ฉะนั้นพี่เลยรู้สึกว่า สองคนนี้ ไม่ได้มีค่าอะไรที่เราจะเอาไว้ในชีวิต เมื่อเขาตัดสินใจทำสิ่งเหล่านี้กับเรา พี่สาวตัดสินใจจะแย่งสามีเรา ส่วนสามีก็ไปเป็นชู้กับพี่สาวเรา แล้วเขาทั้งสองคนก็แสดงความเหี้ยม ที่จะชัดเจนมากว่าต้องการอะไรในชีวิต แล้วเขาก็ทำเลย โดยที่มันโหดร้ายกับเก๋ แต่ไม่ได้เลี้ยงเก๋ไว้จนแบบทรมาน สิ่งเหล่านี้ถ้าพยายามบอกและเข้าใจมัน และยอมรับมันว่า ทั้งสองคนคือสามีเราและพี่สาวเรา ซึ่งเค้าเปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่ใช่คนที่เราเคยรู้สึกกับเขาในอดีต ว่าเรารักเขา เขารักเราและเราต้องดีต่อกัน 2 คนนี้เค้าไม่ใช่คนเดิมแล้ว จะยิ่งทำให้เก๋เดินออกจากชีวิตของพวกเขาได้เร็วขึ้น เพื่อตัวหนูและเพื่อลูกของหนู เพราะยิ่งหนูเศร้านานเท่าไหร่ ชีวิตหนูก็จะยิ่งอยู่ในความทุกข์เท่านั้น ลูกของหนูที่ได้มองแม่ร้องไห้อยู่นานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งไม่มีความสุขกับชีวิตเขาเท่านั้น เพราะฉะนั้นต้องรีบลุกขึ้นเพื่อตัวเอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนุ่มโทรปรึกษา แฟนนัดเพื่อนผู้ชายไปเที่ยวต่างจังหวัด 3 วัน มารู้ทีหลังว่าเพื่อนผู้ชายคนนี้ เป็นรักแรก สมัยเรียนมัธยม เราทะเลาะกันจนถึงขั้นจะเลิกกันเลย และผมก็ไม่ค่อยสบายใจ แต่ตอนนี้อยากกลับไปรู้สึกดีๆกับแฟนเหมือนเดิม... ทำไงดี?

27 มี.ค. 2023

หนุ่มโทรปรึกษา แฟนนัดเพื่อนผู้ชายไปเที่ยวต่างจังหวัด 3 วัน มารู้ทีหลังว่าเพื่อนผู้ชายคนนี้ เป็นรักแรก สมัยเรียนมัธยม เราทะเลาะกันจนถึงขั้นจะเลิกกันเลย และผมก็ไม่ค่อยสบายใจ แต่ตอนนี้อยากกลับไปรู้สึกดีๆกับแฟนเหมือนเดิม... ทำไงดี?

“คุณภู (นามสมมุติ)” สายที่สองในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (15 มีนาคม 2566) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาความรู้สึกไม่สบายใจที่แฟนไปเที่ยวกับ Puppy Love โดย “คุณภู (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า 'ตอนนี้คบกับแฟนมาได้ 3 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้แฟนผมเขาเคยบอกว่าจะมีเพื่อนผู้ชายกลับมาจากต่างประเทศ มาเที่ยวที่ประเทศไทย แล้วจะไปต่างจังหวัดด้วยกัน 3 วัน เพื่อไปหาเพื่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และจะนอนค้างที่บ้านของเพื่อนผู้หญิงคนนี้แหละ ผมก็โอเค ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย เพราะแฟนบอกเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าเพื่อนผู้ชายคนนี้เคยเป็นรักครั้งแรกของแฟนมาก่อน แต่พอแฟนผมจองตั๋วเครื่องบินเสร็จเรียบร้อย ผมก็เอะใจ เลยเข้าไปดูข้อความในเฟซบุ๊กของแฟนว่าคุยอะไรกันบ้าง เพราะผมรู้รหัสปลดล็อกโทรศัพท์ของแฟนอยู่แล้ว ผมก็ย้อนแชทไปดู จนเจอว่าข้อความบางส่วนถูกลบไปเมื่อปีที่แล้ว ข้อความที่เหลืออยู่ แฟนผมก็คุยกับเพื่อนผู้ชายคนนี้ประมาณว่า คิดถึงแกนะ เพราะเขาอยู่ต่างประเทศ และผมก็เอะใจกับประโยคหนึ่งที่เพื่อนผู้ชายคนนี้ถามว่า แฟนแกจะไม่ว่าอะไรหรอ เพราะเราเคยเป็นรักในวัยเด็ก มันก็ทำให้ผมไม่สบายใจว่าแบบได้ด้วยหรอ เพราะเขาทั้งสองคนกำลังจะไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ซึ่งแฟนผมก็ตอบกลับไปว่า มันนานมาก 10 กว่าปีตั้งแต่ตอนเด็กๆแล้ว ไม่ได้คิดอะไรแล้ว เขาไม่เคยเล่าความรักครั้งนี้ให้ผมฟังเลย แล้วหลังจากที่ผมเห็นแชท ผมก็ถามเขาว่า เคยเป็นอะไรกันหรอ แฟนก็บอกว่าคนนั้นเคยมาชอบสมัยวัยเด็ก ปกติผมไว้ใจแฟนมากๆ รวมถึงนิสัยของแฟนก็ไม่เคยมีเรื่องเจ้าชู้เลยสักครั้ง เวลาไปเที่ยวก็ไปด้วยกันตลอด ผมก็บอกเขาไปแล้วว่า ผมไม่สบายใจนะ ถึงขั้นทะเลาะกันรุนแรงจนจะเลิกกันเลย แต่สักพักเขาก็มาคุยดีใส่ ผมก็บอกว่า งั้นแล้วแต่คุณ ถ้าอยากไปคุณก็ไป เขาก็ไม่เชิงว่าชวนผมไปด้วย เพราะมารู้ทีหลังก็จองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว แต่ผมก็ไปกับเขาด้วยไม่ได้ เพราะผมติดงาน ปกติเราสองคนจะ Face Time หากันตลอด และระหว่างทริปที่ไปแฟนผมจะถ่ายรูปส่งให้ดูว่าอยู่ที่ไหน พักที่ไหน มีโทร และ Face Time หากันบ้างเวลาเขาอยู่คนเดียว จนผ่านมาถึงวันนี้ แฟนผมกำลังเดินทางกลับ ผมก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้จะพูดกับเขายังไงดี กลัวกลับมาเจอกันแล้วความรู้สึกมันจะไม่เหมือนเดิม แต่เขาก็ยังคุยกับเราเหมือนเดิม ก็เลยจะมาขอคำปรึกษาให้ตัวผมเองมองไปในทางที่ดีขึ้น หรือ กลับไปรู้สึกดีๆกับแฟนแบบเดิมได้' งานนี้ดีเจทั้ง 3 คนก็ได้ให้คำปรึกษาว่า 'จากที่ฟังมาทั้งหมดเรามองว่ามันคือการกลับไปเจอเพื่อนเก่าแค่นั้นเลย แต่เรามีสิทธิ์ที่จะไม่สบายใจได้นะ เพราะเขาอาจจะแสดงความมั่นใจให้เราน้อยไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้มากพอที่จะทำให้เราฟันธง 100 % ว่าเขานอกใจ แต่ถ้านำความรู้สึกที่ไม่ดีตรงนี้ไปขยายต่อ มันอาจจะทำลายความสัมพันธ์ให้แย่ลง เราต้องรู้จักแฟนเรามากกว่าคนอื่น แต่ให้ภูรู้ไว้ว่า...ถ้าใครสักคนนอกใจ ภูแทบไม่ต้องทำอะไรเลย ภูจะได้รู้โดยที่ไม่ต้องไปสืบค้นเลย เพราะถ้านอกใจมันจะมีอะไรที่เปลี่ยนไปแน่นอน แต่ถ้าปกติเหมือนเดิมแปลว่าไม่มี คนอยู่ด้วยกันมันจะรู้ ควรปรับจูนเข้าหากันทั้งคู่ ทั้งนี้ทั้งนั้นมาจากการคุยกัน อาจจะเริ่มจากการขอโทษ และปรับความเข้าใจที่ว่า ถ้ามีอะไรให้บอกก่อน ดีกว่าการที่ให้รู้เองทีหลัง บางทีเรื่องนี้มันไม่มีอะไรเลยตั้งแต่แรก ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลยเลือกที่จะไม่พูด เพราะถ้าพูดมันจะมีเรื่องอะไรขึ้นมาทันที ซึ่งมันก็อยู่ที่ว่าใครสักคนหนึ่งเป็นคนรับฟังมากขนาดไหน เราต้องรู้จักกันและกันให้มากกว่านี้จริงๆ ซึ่งถ้า ณ วันนี้ เขายังเป็นแฟนที่น่ารักกับเรา ยังคงทำให้เรามั่นใจอยู่ ต้องมองข้ามเรื่องนี้ไปเลย...'เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1