ผมอายุ 28 ปี ไม่เคยจีบใคร และ ไม่เคยมีใครมาจีบเลย จนตอนนี้ ผมไปเจอกับผู้หญิงคนนึง เขาตั้งปณิธานกับตัวเองว่าจะทำอะไร ไปไหนคนเดียว ชีวิตนี้จะไม่รักใครแล้ว ผมได้ยินแบบนี้ เลยกังวลว่า เราจะคุยกับผู้หญิงที่ ตั้งกำแพงตัวเองไว้สูงแบบนี้ยังไงดีครับ??

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผมอายุ 28 ปี ไม่เคยจีบใคร และ ไม่เคยมีใครมาจีบเลย จนตอนนี้ ผมไปเจอกับผู้หญิงคนนึง เขาตั้งปณิธานกับตัวเองว่าจะทำอะไร ไปไหนคนเดียว ชีวิตนี้จะไม่รักใครแล้ว ผมได้ยินแบบนี้ เลยกังวลว่า เราจะคุยกับผู้หญิงที่ ตั้งกำแพงตัวเองไว้สูงแบบนี้ยังไงดีครับ??

06 ธ.ค. 2025

ผมอายุ 28 ปี ชีวิตนี้ที่ผ่านมา ตั้งใจเรียน ทำงาน หาเงินมาตลอด
ไม่เคยจีบใคร และ ไม่เคยมีใครมาจีบเลย 
จนตอนนี้ ผมไปเจอกับผู้หญิงคนนึงใน TIKTOK 
เขาตรงสเปคผมมาก จนเราได้ ADD FACEBOOK คุยกัน
ผมเขิน เราได้วิดีโอคอลคุยกันแล้ว 
แต่เป็นผมเองที่ทำตัวไม่ถูกว่าจะชวนคุยอะไรยังไง 
แต่เขาก็เปิดใจเล่าให้เราฟังว่า รักที่ผ่านมา 3 ครั้งของเขา
เสียใจมาตลอด เขาเลยตั้งปณิธานกับตัวเองว่าจะทำอะไร
ไปไหนคนเดียว ชีวิตนี้จะไม่รักใครแล้ว
ผมได้ยินแบบนี้ เลยกังวลว่า เราจะคุยกับผู้หญิงที่
ตั้งกำแพงตัวเองไว้สูงแบบนี้ยังไงดีครับ??

        “คุณดิน (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (3 ธันวาคม 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เคยมีแฟนหรือความรักมาก่อน และอยากจะจีบผู้หญิง แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร?

        โดย “คุณดิน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมอายุ 28 ปี ยังไม่เคยมีแฟนเลย เล่น TikTok แล้วได้ไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง เขาอายุใกล้ ๆ กัน แล้วก็ยังไม่มีแฟน เขาค่อนข้างดังมาก ผมก็เลยรู้สึกว่าคนนี้ตรงสเปคหมดเลย น่ารักดีทุกอย่างโอเคมากเลย ดูเป็นคนดี แต่เหมือนเขาบอกไว้ว่าเขาอกหักมาโดยตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไร เพราะผมไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว

        ผ่านไป 6 - 7 เดือน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ Facebook แนะนำ Mutual Friend ขึ้นมาเป็นเขา ผมเลยกดแอดไป ปรากฏว่าเขารับ ผมเลยลองทักไปแล้วเขาก็ตอบ เราคุยกันมาได้เกือบ 2 อาทิตย์ แต่ด้วยความที่ผมไม่เคยมีความรัก ผมจีบใครไม่เป็นเลย ผมไม่มั่นใจในตัวเองด้วย เพราะไม่เคยมีใครเข้ามาจีบ หรือผมไปจีบใครเลย เขาก็ถามผมว่าจีบเขาหรอ ผมก็บอกเขาไปตามตรงว่าจีบ แต่เขาก็บอกว่าแน่ใจหรือเปล่า เขาเคยเฮิร์ทมา แล้วตั้งปฏิญาณกับตัวเองว่า เขาไม่อยากมีใครแล้ว จะอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต เขารับปากอะไรไม่ได้

        แต่สุดท้ายก็คุยกันมาเรื่อย ๆ ได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ผมก็ไม่ได้เร่งรีบ แต่ลึก ๆ ก็กลัวเสียใจเหมือนกัน ผมมองว่าอย่างน้อยเสียใจกับคนดี ก็คงจะมีความเสี่ยงน้อยกว่า อย่างน้อยเขาก็ไม่เจ้าชู้ คือเขาเป็นหมอโปรไฟล์ค่อนข้างดี แต่เขาอยู่ต่างจังหวัด ผมก็กังวลเพราะผมอยู่กรุงเทพ ก็มีวิดีโอคอลคุยกันบ้าง เขากดโทรมาตอนดึก เพราะเขาไม่เชื่อว่าผมโสด

        ล่าสุดจะมีนัดเจอกัน เขาเที่ยวคนเดียวตลอด รอบนี้เขาจะบินไปต่างประเทศ เลยได้นัดกินข้าวกันก่อนเฉย ๆ ปัญหาของดินวันนี้ที่อยากปรึกษาดีเจทั้ง 3 คนคือ “ผมไม่รู้ดีลกับมันยังไง? ถ้าสุดท้ายแล้วผมกับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ไปกันต่อ” และอยากได้ความมั่นใจ’

        เริ่มด้วย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าผู้หญิงบอกว่าเขาไม่คิดจะมีใครไปตลอดชีวิต เขาพูดเพื่อดูเรา เขายังอยู่ในช่วงเลือก ฉะนั้นดินต้องไม่เข้าไปแบบสุดตัว หรือว่าเทหมดหน้าตัก เขาอาจจะรู้สึกอึดอัด ลองทำความรู้จักกันไปก่อน ผู้หญิงอยู่กับใครแล้วหัวเราะได้มากที่สุด นั่นคือความสบายใจ ถ้าอกหักก็แค่เจ็บ ยังไงต้องลุยไปก่อน รู้ไว้เลยว่าทุกครั้งที่อกหัก ครั้งแรกเจ็บเสมอ

        เผื่อใจไว้ด้วยเพราะ 2 อาทิตย์ แต่เรามีหน้าที่ทำให้เต็มที่ เป็นธรรมชาติของตัวก็พอ ถ้าไม่เวิร์คก็แค่เลิก ดินอย่าไปกลัวการเลิกกัน เราไปให้เขาดูตัว เราก็มีสิทธิ์ดูตัวเขาเหมือนกัน จำไว้นะชีวิตยังต้องเจ็บอีกเยอะ’

        ต่อด้วย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ดินจะเจ็บสำหรับครั้งนี้ ถ้าดินไม่มีคนนี้เป็นคนแรกให้ดินได้เจ็บ แล้วจะมีคนต่อ ๆ ไปได้ยังไง มันเป็นเรื่องปกติมาก มันมีแค่ 2 ทางเลือกคือ ‘เจ็บ’ กับ ‘สมหวัง’ จากโปรไฟล์ดิน ถ้าลองไปใช้บริการหาคู่ที่เป็นเรื่องเป็นราว ยังไงก็มีคนเข้ามาหาดินแน่นอน

        แต่ดินไปคิดว่าตัวเองดีไม่พอ แล้วไปเปิดทุกอย่างให้เขาได้รับรู้ ซึ่งถ้าเขาเป็นคนดีก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าเขาเป็นคนไม่ดี รอได้เลยเขาจะเล่นกับหัวใจดิน เพราะสิ่งที่เขาทำมาถึงตอนนี้ บอกว่าตัวเองไม่อยากมีแฟน ไม่อยากมีใคร แต่เขารับแอดดิน วิดีโอคอลมาเพื่อเช็คว่าอยู่คนเดียวหรือเปล่า เขากำลังบริหารเสน่ห์

        ดินอย่าไปด้อยค่าตัวเอง เพียงเพราะแค่อยากให้คน ๆ หนึ่งหันมามอง เรื่องของความรักบางทีมันต้องมีจังหวะ อันไหนต้องเร่ง ต้องผ่อน บางทีเดินหน้าอย่างเดียว มันไม่เวิร์คสำหรับความรัก ประสบการณ์มันจะสอนดินเอง เราต้องตอบตัวเองว่าเราดีพอไหม ไม่ต้องให้ใครมาบอกเรา เราต้องรู้ตัวเอง ต้องบอกตัวเองได้แล้วว่าดินดีพอ ต้องปรับตรงนี้ให้ได้ก่อนที่จะไปหาความรัก ถ้าดินยังเติมตัวเองไม่เต็ม ดินอย่าหวังว่าใครจะมาเติมให้ดินได้’

        ต่อด้วย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘จงสบายใจ คงทุกอย่างนี้ไว้ ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย และปล่อยให้มันไหลไป Glow with the flow นี่คือสถานการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับการจีบใครสักคน การที่เราเจอคนที่บอกว่าเขาอกหักมา 3 - 4 ครั้ง แล้วชีวิตนี้จะไม่รักใครอีกแล้ว มันแปลว่าเขาอยากเจอคนที่รักเขาจริง ๆ ถ้าเรารู้สึกว่าเราบริสุทธิ์ใจ และเราต้องการเวลา ที่จะพิสูจน์ตัวเองเหมือนกัน โคตรลงตัวเลย ไม่แปลกเลยที่ดินจะเบรคแตก

        แล้วเรื่องไม่มั่นใจในตัวเอง นี่คือ Position ที่ดีที่สุด เพราะเราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ถ้าเราคิดว่าเราต่ำต้อย แต่เรามองขึ้นสูงถึงใครสักคนโคตรดีเลย เราจะได้ไม่ต้องคาดหวัง เราอยู่ข้างล่างนี่แหละ มองขึ้นไปแล้วก็ดูว่าเราจะหยิบดาวดวงนั้นได้ไหม ถ้าหยิบลงมาเราจะดูแลเขาได้ไหม ผลจะเป็นยังไงไม่รู้แต่อยากทำ ดีเลยแบบนี้ไม่ต้องไปคิดว่า เราจะจีบผู้หญิงคนนี้ติดไหม เอาตรงนี้ในการบอกตัวเองว่าพร้อมพิสูจน์ตัวเอง ถ้าสำเร็จเราได้เป็นแฟนกับเขา’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 –23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูเรียนจิตวิทยา แต่รู้สึกว่าสังคม และ การเรียนยังไม่ใช่ อยากย้ายคณะไปเรียนรัฐประศาสนศาสตร์ แต่ก็ต้องหาเงินส่งตัวเอง จ่ายค่าเทอมเอง ปรึกษาคนรอบข้าง บางคนบอกให้ย้าย บางคนบอกให้เรียนต่อจะได้ไม่เสียเวลา หนูควรทำยังไงดีคะ?

24 ม.ค. 2025

หนูเรียนจิตวิทยา แต่รู้สึกว่าสังคม และ การเรียนยังไม่ใช่ อยากย้ายคณะไปเรียนรัฐประศาสนศาสตร์ แต่ก็ต้องหาเงินส่งตัวเอง จ่ายค่าเทอมเอง ปรึกษาคนรอบข้าง บางคนบอกให้ย้าย บางคนบอกให้เรียนต่อจะได้ไม่เสียเวลา หนูควรทำยังไงดีคะ?

“คุณโตเกียว (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี เป็นสายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [22 ม.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษากับ ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อย’ เกี่ยวกับปัญหาเรื่องการเรียน ที่ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ว่าควรไปต่อหรือย้ายหนีดี โดย “คุณโตเกียว (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ปัจจุบันเรียนอยู่ปี 1 สาขาจิตวิทยา หนูมีเรื่องอยากปรึกษา ตอนมัธยมหนูเรียน สายศิลป์ – ภาษา มา ซึ่งมันค่อนข้างต่างจากสาขาที่หนูเรียนอยู่ในตอนนี้ ทำให้พอเข้ามหาวิทยาลัยมาช่วงเทอมแรก หนูเรียนไม่ค่อยดี ทำให้เกรดไม่ค่อยดี และก็มีปัญหาเรื่องการปรับตัวกับเพื่อนใหม่ ทำให้ช่วงนั้นไม่อยากไปเรียนเลย พอมาเทอมที่ 2 หนูก็เริ่มมีกลุ่มเพื่อนใหม่ แต่ก็ยังไม่สนิทกัน แล้ววิชาเรียนมันก็ยากขึ้น โดยเฉพาะวิชาเรียน สายวิทย์ หนูก็เลยคิดว่าถ้าหนูฝืนเรียนต่อไป หนูจะไหวไหม? แล้วก็กลัวว่าถ้าเกรดหนูน้อยแล้วจบไป จะหางานยากรึป่าว หนูก็เลยคิดอยากจะย้ายคณะ ซึ่งคณะที่หนูจะย้ายไปเป็นคณะที่เกี่ยวกับสายงานราชการ หนูคิดว่ามันน่าจะเหมาะกับหนูมากกว่า แล้วสาขานี้ก็ยังมีสวัสดิการที่ครอบคลุมทั้งตัวหนูและครอบครัวด้วย ที่สำคัญคณะใหม่ที่หนูจะย้ายไปมันสามารถที่จะเลือกเวลาเรียนเองได้ ทำให้หนูทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยได้ เพราะครอบครัวหนูไม่ได้มีฐานะดีเท่าไหร่ และก็ยังมีน้องชายอีก คุณพ่อ - คุณแม่ก็ซัพพอร์ตหนูแค่ค่าที่พัก กับค่าใช้จ่ายบางส่วนในแต่ละเดือนเท่านั้น แต่ในสาขาจิตวิทยาของหนูตอนนี้ มันมีคนน้อย ไม่สามารถเลือกเวลาเรียนเองได้ อาจารย์เป็นคนเลือกเวลาเรียนให้ หนูก็เลยหางานทำยาก เพราะมีเลิกเรียนค่ำเป็นบางวัน แต่การย้ายคณะของหนูก็มีข้อจำกัด เพราะว่าถ้าหนูจะย้ายช่วงซัมเมอร์นี้ หนูก็ต้องไปทำงานหาเงินค่าเทอมเพื่อสำรองจ่ายเองก่อน เพราะต้องรอช่วงเปิดเทอม ถึงจะทำเรื่องกู้เงินจากกองทุนเพื่อการศึกษาได้ หนูปรึกษามาหลายคนแล้ว มันก็จะมีเสียงแตกออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งนึงก็บอก อย่าย้ายเลยเสียเวลา อีกฝั่งบอกว่า ถ้ามันเหมาะกับตัวเองมากกว่าก็ย้ายเลย หนูก็เลยรู้สึกสับสน ใจนึงก็อยากย้ายเพราะตอบโจทย์กับชีวิตมากกว่า แต่อีกใจนึงก็กลัวตัดสินใจพลาด หนูเลยอยากจะถามพี่ๆดีเจว่า หนูควรเลือกแบบไหน ควรย้ายคณะดีไหมคะ? ซึ่ง “ดีเจอ้อย” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าพี่ย้อนเวลากลับไปได้ พี่จะเรียนจิตวิทยา แต่อันนี้แค่ให้เป็นสิ่งประกอบการตัดสินใจของหนูนะ เพราะชีวิตเราต้องมองแบบยาวๆ ในอนาคตตลาดงานต้องการนักจิตวิทยาอีกเยอะมาก แต่ถ้าหนูอยากทำงานราชการ ในบางสายก็ไม่จำเป็นต้องเรียนสายตรงก็สามารถทำงานราชการได้อยู่ดี ยิ่งปัจจุบันอาชีพและความรู้สามารถหาประกอบได้ทั้งนั้นเลย ไม่จำเป็นต้องเรียนสิ่งนี้เพื่อที่จะได้เป็นสิ่งนี้ ปัจจุบันแม้จะเรียนอะไรก็ตาม ถ้ามีโอกาสมาก็คว้าไว้เลย’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่อยากให้โตเกียวลองไปดูหลักสูตรการเรียนการสอนของคณะนี้ก่อนว่าพวกวิชาสายวิทย์ที่โตเกียวกลัว ในตอนปี 3 ปื 4 วิชามันเพิ่มขึ้นหรือน้อยลงยังไง ไม่แน่ว่าพื้นฐานของสายวิทย์อาจจะมีแค่ในปี 1 อย่างเดียวก็ได้ ถ้ายังอยากเรียนอยู่ก็ลองชั่งน้ำหนักดู หรือถ้าเกิดไม่ไหวจริงๆ ก็ลองเปลี่ยนดู’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ พี่แค่อยากให้โตเกียวมีความสุขกับสิ่งที่เรียน ต้องถามตัวเองว่าที่เรียน เรามีความชอบ และมีความสุขกับมันไหม แต่ถ้าโตเกียวอยากย้ายไปอีกคณะ โตเกียวก็ต้องลองดูวิชาที่ต้องเรียน มันมีวิชาที่โตเกียวสนใจไหม สนใจจริงๆรึป่าว ไม่ใช่แค่เรียนเพราะว่างานราชการจะมีที่ว่างรอรับเราอยู่ พี่ว่าแค่นั้นมันไม่พอ สุดท้ายพี่อยากให้โตเกียวเลือกเรียนสิ่งที่โตเกียวสามารถเต็มที่กับมันได้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ที่ทำงานหนู เวลากินมื้อเที่ยง แต่ละคนจะเอากับของตัวเองมา กับข้าวส่วนตัว แต่มีพี่คนนึง หน้าที่การงานก็ดี มีเงิน แต่ทุกเที่ยงจะถือแค่จานเปล่า มาขอข้าว ขอแกง ขอกับจากทุกคนอย่างละนิดๆ พอถามทำไมไม่ซื้อเอง เค้าบอกไม่หิวพี่อิ่มแล้ว

05 ส.ค. 2024

ที่ทำงานหนู เวลากินมื้อเที่ยง แต่ละคนจะเอากับของตัวเองมา กับข้าวส่วนตัว แต่มีพี่คนนึง หน้าที่การงานก็ดี มีเงิน แต่ทุกเที่ยงจะถือแค่จานเปล่า มาขอข้าว ขอแกง ขอกับจากทุกคนอย่างละนิดๆ พอถามทำไมไม่ซื้อเอง เค้าบอกไม่หิวพี่อิ่มแล้ว

ที่ทำงานหนู เวลากินมื้อเที่ยง แต่ละคนจะเอากับของตัวเองมา กับข้าวส่วนตัวแต่มีพี่คนนึง หน้าที่การงานก็ดี มีเงิน แต่ทุกเที่ยงจะถือแค่จานเปล่า มาขอข้าว ขอแกงขอกับจากทุกคนอย่างละนิดๆ พอถามทำไมไม่ซื้อเอง เค้าบอกไม่หิวพี่อิ่มแล้ว เนียนแบบนี้มา 3 เดือนกว่าแล้วค่ะ “คุณหนู (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [31 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจก็อตจิ - ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาพี่ที่ทำงานชอบมาขอข้าวกินทุกวัน โดย “คุณหนู (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘หนูอยากปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องที่ออฟฟิศหนู คือเรื่องกินข้าว หนูกินข้าวไม่มีความสุขเลย แล้วหนูคิดว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับหนูคนเดียว แต่พอไปปรึกษาพี่ที่ทำงานคือพี่เค้าก็มีปัญหาเดียวกัน เพราะมันจะมีพี่อยู่คนหนึ่ง เค้าชอบมาแบ่งข้าวของพวกหนูไปกิน ตอนแรกเวลาที่พวกหนูเอาข้าวมาแชร์กินกันตอนเที่ยง เค้าก็จะตักไปทีละคำสองคำ แต่พอหลัง ๆ มา เค้าไม่เอาข้าวมาเลย หรือถ้าเอามาก็เหมือนเป็นวิญญาณข้าว แล้วก็ค่อยมาเอากับข้าวของพวกหนูกิน ในตอนแรกเค้าไม่ได้เป็นเยอะขนาดนี้ แต่ 3 - 4 เดือนให้หลังนี้เค้าไม่เอาข้าวมาเลยสักวัน แล้วกลายเป็นว่าพอเค้ามาเอาข้าวหนูไปกินจากที่หนูอิ่มพอดี มันกลายเป็นกินไม่อิ่ม อย่างเช่นมีหมู 5 ชิ้นก็จะมีหมู 3 ชิ้น พอทุกคนที่โดนพี่คนนี้แย่งแล้วกินไม่อิ่มก็เลยวางแผนกันว่าจะทำยังไงให้เค้าไม่เอาข้าวคนอื่นไป ก็เลยคิดว่าจะเปลี่ยนเวลากินข้าวจากตอนเที่ยง เปลี่ยนเป็น 11:45 เพื่อจะไม่ให้เค้ามาแย่งข้าว แล้วพอเค้าขึ้นมาแล้วไม่มีคนให้แย่งข้าว เค้าก็เลยมาแอบขโมยของกินที่เป็นของส่วนกลาง หนูเคยถามเค้าว่าทำไมไม่เอาข้าวมากินหรอคะ? เค้าก็จะบอกว่าพี่ไม่หิว พี่อิ่มแล้ว แต่ผ่านไปสักพักเค้าจะไปหยิบจานข้าวมาขอแบ่งจากทุกคนอย่างละนิด แล้วมันก็จะพอดีจานนึง หนูก็เลยงงว่าเมื่อกี้บอกว่าไม่หิว แล้วทำไมมาเอาข้าวคนอื่น ซึ่งจริง ๆ แล้วเค้าก็เป็นคนที่มีฐานะ แล้วตอนที่เค้ามาขโมยขนม พวกหนูก็เลยเอาไปซ่อน ซึ่งมันทำให้การกินข้าวตอนเที่ยงของหนูไม่มีความสุขเลย แล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้เค้าไม่ต้องมาขโมยของกิน หนูต้องแก้ปัญหายังไงดี? โดย ดีเจทั้ง 3 คน ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘อย่างแรกหนูควรพูดว่า “จากนี้เราจะลงเงินกองกลางนะคะ” กินมาก กินน้อยไม่รู้จ่ายหมด พี่ไม่ได้คิดว่าเรารำคาญเรื่องเงินนะ แล้วของในตู้เย็นติดป้ายเลย เพราะบางทีอาจจะจำผิดจำถูก แล้วเราก็ติดป้ายข้างนอกว่า “คนที่ไม่ใช่เจ้าของห้ามหยิบ” ถ้าหยิบไปต้องมาขอก่อน และต้องซื้อคืน ทำเป็นกฎข้อปฏิบัติติดไว้ ส่วนของที่ไม่ใช่ของกองกลางห้ามหยิบไปโดยพลการ หรือเวลาหนูซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งหนูโทรหาพี่เค้าเลยว่ากำลังจะซื้อ พี่จะฝากหนูไหม? เพราะถ้าพี่ไม่ได้ฝาก หนูไม่ได้ซื้อเผื่อนะ หรือทุกวันต่อจากนี้บอกพี่เค้าว่าหนูจะเป็นคนดูแลเรื่องอาหารกลางวันให้พี่เอง หนูจะสั่งให้พี่ ไม่ว่าพี่จะกินหรือไม่กิน เพราะพี่กินทุกครั้ง งั้นหนูเบิกล่วงหน้าเลยนะ เบื้องต้นพรุ่งนี้นัดกันล่วงหน้าในกลุ่มเลยว่าถ้าพี่เค้ามาขอให้บอกว่าหนูไม่อิ่มค่ะ ให้พูดทุก ๆ วันต่อไปเลย หรือไม่ก็ในกลุ่มจะมี 1 คนไม่ต้องเอาอาหารมาแต่จะมีสิทธิ์แชร์ของคนอื่น วนสลับกันไป’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

มีพี่ที่ทำงานของแฟนคนนึง ชอบทำตัวสนิทสนม ไปรับไปส่งแฟนหนูตลอด เคยไปกินข้าวด้วยกัน พี่เขาก็เล่าว่า พี่เขาเคยนอกใจมาแล้วด้วย แล้วเค้าก็เคยพูดกับหนู “อะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอนนะน้อง ระวังด้วยอยู่ที่ทำงาน แฟนน้องมีสาวๆเข้าหาเยอะ”

26 ก.ค. 2024

มีพี่ที่ทำงานของแฟนคนนึง ชอบทำตัวสนิทสนม ไปรับไปส่งแฟนหนูตลอด เคยไปกินข้าวด้วยกัน พี่เขาก็เล่าว่า พี่เขาเคยนอกใจมาแล้วด้วย แล้วเค้าก็เคยพูดกับหนู “อะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอนนะน้อง ระวังด้วยอยู่ที่ทำงาน แฟนน้องมีสาวๆเข้าหาเยอะ”

“คุณเกรท (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [24 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาพี่ที่ทำงานชอบมาเกาะแกะแฟน โดย “คุณเกรท (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘พี่ที่ทำงานของแฟนชอบมายุ่งกันหนูและแฟนหนู คือหนูกับแฟนไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันแต่แฟนก็จะมาเล่าเรื่องราวแต่ละวันให้ฟัง หนูก็จะได้ยินถึงพี่คนนี้ตลอดชื่อ พี่พลอย (นามสมมติ) แต่เค้าอยู่คนละแผนกกัน คือเค้ากับแฟนหนูจะอยู่แก้งที่ไปกินเหล้ากัน แต่ตัวหนูอะไม่กิน หนูก็ไม่เคยไปยุ่งเลยเพราะมันก็คือความสุขของแฟน และตัวแฟนก็ไม่ได้ทำอะไรนอกลู่นอกทาง มีอะไรก็โทรหากันตลอด และแฟนหนูก็จะบอกว่าวันนี้พี่พลอยจะไปส่งที่บ้านนะ ทั้ง ๆ ที่บ้านอยู่ไกลกันมาก แต่แฟนเค้าก็บอกจะได้ประหยัด แต่มาหลัง ๆ เริ่มบ่อยขึ้น และในระหว่างที่อยู่บนรถแฟนหนูก็จะโทรคุยกับหนูตลอดทาง แล้วก็จะส่งสายให้พี่คนนี้คุยด้วย และอีกเหตุการณ์นึงคือ มีวันหนึ่งที่เค้ามาทำงานใกล้บ้านหนูกับแฟน แฟนก็เลยชวนหนูทานข้าวด้วยกัน ซึ่งตอนนั้นหนูก็ไม่ได้ระแคะระคายอะไร เพราะว่าแฟนชอบชวนหนูไปทำความรู้จักกับพี่ที่ทำงาน ซึ่งวันนั้นพี่พลอยมาคนเดียว หนูก็ชวนเค้าคุยไปเรื่อย ๆ อยู่ดี ๆ พี่เขาเริ่มมีอาการอวดรวยและใช้เงินนุ้นนี่นั่น ต้องบอกก่อนว่าแฟนหนูเหมือนเป็นที่จับจ้องของคนในบริษัท เพราะแฟนหนูจบนอกมา แต่ว่าเกรสกับแฟนรู้จักกันมาเป็น 10 ปีแล้ว เพราะเป็นเพื่อนกันมาก่อน ตัดกลับมาตอนที่กินข้าว จู่ ๆ พี่พลอยก็พูดกับหนูว่าตัวพี่เค้าเคยนอกใจแฟนเค้า แต่แฟนพี่พลอยรักพี่พลอยมากไม่ยอมเลิกขอร้องให้พี่พลอยอยู่ต่อ หนูก็เลยไม่รู้จะพูดอะไรต่อ และพอทานข้าวไปสักพักพี่พลอยก็บอกว่าจะแต่งงาน หนูก็บอกว่า “ยินดีด้วยค่ะ กับคนนี้รึป่าวคะที่นอกใจ” พี่เค้าก็บอกใช่แต่ว่าแฟนพี่เค้ารักพี่พลอยมาก หนูก็เลยพูดว่าเป็นหนูหนูไม่เอาแล้วนะ ถ้าแฟนหนูนอกใจ แล้วพี่พลอยเค้าคิดว่าหนูจะพูดว่า พี่ยอดเยี่ยมมาก เริสมาก แต่รีแอคชั่นหนูไปคนละทางเลย เพราะหนูเป็นคนตรง ๆ แล้วเหมือนพี่เค้าก็หน้าเสีย แต่หนูไม่ได้ตั้งใจหักหน้าเค้า จู่ ๆ เค้าก็พูดขึ้นมาว่า “เกรทต้องเผื่อใจไว้บ้างนะ อะไร ๆ มันไม่ได้เป็นเหมือนที่เราคิด” แล้วแฟนหนูก็หันมามองหน้าประมาณว่าอะไรวะเนี่ย จนตอนกลับบ้านด้วยความที่แฟนหนูเป็นคนไม่ขับรถและหนูจะเป็นคนขับ หนูเลยบอกเดี๋ยวให้แฟนกลับกับหนูเพราะบ้านเราใกล้กัน พี่คนนั้นก็หันมาหน้าเหวี่ยง ๆ และพูดว่า “ไม่กลับกับพี่หรอ” แฟนหนูก็แบบ “บ้าหรอ เกรทมาก็กลับกับเกรทสิ” และจากที่ก่อนหน้านี้ที่แฟนหนูเล่าคือพี่พลอยเค้าทำไมถึงคิดว่าแฟนหนูชอบเค้าตลอดเวลา มันมีเหตุการณ์ที่แฟนหนูไม่สามารถไปคุยกับเพื่อนผู้หญิงได้เลย หรือไปถามงานพูดคุยกับผู้หญิง พี่พลอยเค้าจะมีอารมณ์หึงหวง หนูไม่เคยบอกแฟนเลยว่าพี่คนนี้แปลก จนมีเหตุการณ์ที่ไปกินข้าวกันรอบ 2 คือหนูไปเข้าห้องน้ำแล้วเจอพี่เค้า พี่เค้ามองหนูผ่านกระจก แล้วพูดว่า “แฟนเราเนี่ยอยู่ที่ทำงานสาวเยอะนะ ระวังตัวไว้” หนูก็เลยมองกลับไปหน้ากระจกแต่ไม่พูดอะไรแค่ยิ้มไป แล้วหนูก็เดินออกไปเลย หนูเลยพูดกับแฟนว่าพี่คนนี้แปลก หลังจากที่หนูพูดแฟนหนูก็ไม่กลับกับพี่เค้าอีกเลย และไม่ไปกินข้าวกับพี่เค้าเลย ยกเว้นมีพี่คนอื่นที่สนิท หนูเลยอยากถามว่าหนูควรทำตัวกับเหตุการณ์นี้ยังไง เพราะการเกาะแกะของพี่เค้ามันน่ารำคาญ ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หนูไม่ต้องทำไรเลย หนูต้องให้แฟนหนูทำ เพราะว่าเค้ามาเป็นแมงวันแมงหวี่ได้เพราะแฟนหนูเป็นคนพาเค้ามาทั้งนั้นเลยนะ หนูรู้เรื่องเค้าเพราะแฟนมาเล่า หนูเจอเค้าเพราะแฟนพามา ถ้าพี่เป็นหนูพี่จะไม่ทำอะไร จะไม่ไปยืนด่าเค้าหน้าออฟฟิศ พี่จะให้แฟนหนูใจแข็ง ตัดบทเค้าออกไป พยายามเอาเค้าออกจากวงจรชีวิต เลิกไปส่ง เลิกไปกินข้าวด้วยกันบ่อย ๆ ต้องวางตัวว่าเราไม่โอเค และจะบอกให้แฟนเราไปบอกพี่เค้าว่าแฟนผมไม่ชอบ แฟนผมไม่โอเค พี่ต้องเลิกส่งข้อความส่วนตัวมาได้แล้ว’ ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เราต้องทำตัวให้สวยแพง และให้เค้ารู้ว่าเธอยังห่างฉันอีกไกล ไม่ใช่ลดตัวลงไปกับเค้า มารยาทบนโต๊ะอาหารสำคัญ เราไม่สามารถโพล่งออกไปตัดบทของเค้าในครั้งแรกที่เจอกัน พี่ไม่ได้รู้สึกว่ามันตรง แต่บางอย่างไม่ควรพูดออกไป ซึ่งเรื่องการนอกใจเค้าอาจจะอยากเปิดใจคุยกับเรา เราไม่จำเป็นต้องเลวร้ายใส่เค้า แต่เค้าก็มีส่วนผิดที่พูดเรื่องให้ระวังแฟน แต่พี่ไม่ต้องการให้หนูโต้กลับในระดับเดียวกับเค้า ต้องทำน่ารักให้รู้สึกว่าเธอเทียบฉันไม่ได้ อยู่สวย ๆ และให้แฟนจัดการ จากที่หนูเล่าว่าแฟนก็ส่งแชทมาให้ดู คือพี่คนนี้น่าจะประสาท เราก็ไม่ควรประสาทกลับ เราควรออกห่าง’ และสุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เห็นด้วยกับเติ้ล ว่าต้องดูพฤติกรรมของแฟน ไม่ต้องเอาตัวเข้าไปแลก มันอยู่ที่แฟนจะวางตัวยังไงมากกว่า ซึ่งก็ได้เห็นการพยายามวางตัวของแฟนนะ แต่ส่วนตัวพี่พี่ว่าทำได้เด็ดขาดกว่านั้น เช่นการปฏิเสธการตอบแชท แต่ตอนนี้แฟนหนูยังมีการรักษาน้ำใจอยู่ ถ้าเราไม่สบายใจก็สามารถคุยกับแฟนได้ ในเรื่องของการยกระดับการวางตัว หรือถ้าแค่นี้หนูสบายใจแล้วก็เป็นเรื่องของคู่หนู’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หย่าตอนนี้เร็วไปไหม? เพิ่งเป็นเจ้าสาวเมื่อเดือนที่แล้ว แต่มาจับได้ว่าแฟนแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงอีกคน เขาบอกจะไม่ทำอีกแล้ว แต่ล่าสุดเพิ่งเห็นเขายังคุยแชทกันอยู่ ความไว้ใจที่มีตอนนี้ไม่เหลือแล้ว ควรทำยังไงดี...? จะให้โอกาส สามีอีกดีไหม? หรือ เดินหน้าหย่าไปเลย

14 ก.ค. 2023

หย่าตอนนี้เร็วไปไหม? เพิ่งเป็นเจ้าสาวเมื่อเดือนที่แล้ว แต่มาจับได้ว่าแฟนแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงอีกคน เขาบอกจะไม่ทำอีกแล้ว แต่ล่าสุดเพิ่งเห็นเขายังคุยแชทกันอยู่ ความไว้ใจที่มีตอนนี้ไม่เหลือแล้ว ควรทำยังไงดี...? จะให้โอกาส สามีอีกดีไหม? หรือ เดินหน้าหย่าไปเลย

“คุณแพรว (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [12 ก.ค. 66] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจอั๋น ภูวนาท เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์กับสามี โดย “คุณแพรว (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูแต่งงานได้ประมาณ 1 เดือนก็จับได้ว่าสามีไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นแล้ว ก่อนหน้านี้หนูไม่แน่ใจว่าเขาเคยทำมั้ย เขาอาจจะเคยทำ แต่หนูจับไม่ได้เองหรือเปล่า หรือเขาไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้เลย แฟนอายุเท่ากันเลย ก่อนแต่งงานคบกันมาเกือบจะ 5 ปีแล้ว หนูเพิ่งแต่งงานกัน ค่อยๆย้ายของไปอยู่ที่บ้านแฟน ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเราทั้งสองคนไม่เคยอยู่ด้วยกัน เมื่อประมาณวันเสาร์ 2 อาทิตย์ที่แล้วได้ไปเจอรหัส Internet WiFi โรงแรมที่ห้องเขา หนูก็เลยถามเขาว่าโรงแรมนี้ที่ไหน เขาก็บอกว่าเหมือนไปประชุมที่นึงมา เขาให้มาแหละ หนูก็สงสัย เพราะจริงๆคือเขาไปประชุมที่จังหวัดนึง แต่โรงแรมนี้อยู่อีกจังหวัดนึง หนูก็เลยขอดูโทรศัพท์ เท่านั้นแหละ! พิรุธมาเต็ม เขาไม่ให้ ล็อคแขนหนู แล้วบอกว่ายังไงก็ไม่ให้ แล้วเหมือนเขาเอาโทรศัพท์ไปลบแชทผู้หญิงคนนั้นทิ้ง หนูก็ไปค้นมาจนเจอ เห็นเขาบล็อกผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ แต่หนูไม่เห็นแชทที่เขาคุยกัน หนูก็เลยถามเขาว่าคนนี้คือใคร เขาก็บอกว่าเคยคุยกันนานแล้ว ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมันก็คือก่อนแต่งงาน หนูก็รู้สึกเสียใจ และเขาบอกว่าผู้หญิงคนนี้เพิ่งทักกลับมา หนูก็ไม่เชื่อ หนูก็ค้นต่อ ซึ่งในแชทไลน์เขามีติดประกาศเบอร์บัญชีของผู้หญิงคนนั้นอยู่ หนูก็เอาไปเสิร์จทุกธนาคารเลย จนไปเจอชื่อจริงผู้หญิงคนนั้น หนูก็เอาไปเสิร์จเฟซบุ๊กและไอจี แล้วก็ทักไปถามผู้หญิงคนนั้น เขาก็บอกว่าเพิ่งเจอกันวันอังคารที่ผ่านมา เหมือนไปเจอกันที่ร้านเหล้า แล้วสามีหนูไปเลี้ยงเหล้าเขา ดื่มเสร็จสามีหนูก็ไปส่งที่หอพัก แต่เหมือนผู้หญิงลืมกุญแจหอพักก็เลยไปเปิดโรงแรมนอนด้วยกัน แล้วก็มีอะไรกัน หนูก็ถามผู้หญิงว่า เธอจะพัฒนาความสัมพันธ์มั้ยหรือคุยกันมานานหรือยัง? เขาก็บอกว่า เอ้ย เพิ่งเจอ ไม่ได้จะพัฒนาความสัมพันธ์ สุดท้ายสามีก็มาสารภาพว่าไปเจอกันที่ร้านเหล้า แล้วไปมีอะไรกัน และเขาก็บอกว่าคุยกับผู้หญิงคนนี้สนุกดี สำหรับหนู เขามาทำแบบนี้หลังจากแต่งงานได้เดือนเดียว มันเร็วมากเลย เพราะก่อนแต่งงานเราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน หนูอยู่หอ เขามาหาเสร็จ เขาก็กลับบ้านเขาไป หนูก็อยากให้อภัยนะ แต่อีกใจก็ไม่อยากให้อภัย แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สิ่งที่หนูเจออีกครั้ง คือ หนูไปเจอแชทที่เขาคุยกันอีก เห็นแค่ประมาณว่า กินข้าวหรือยัง ที่นี่ฝนตกนะ ที่นั่นฝนตกมั้ย? ต้องบอกก่อนว่า...สามีเขาเริ่มเปลี่ยนไปตอนก่อนที่เราจะจัดงานแต่งกัน แล้วประเด็นคือวันนั้นเขาก็มาหงุดหงิดใส่หนู หนูก็โทรไปเคลียร์กับสามี ซึ่งตอนนั้นเขาก็คุยกับผู้หญิงคนนั้นไปด้วย และคุยโทรศัพท์กับหนูไปด้วย หนูรู้ เพราะตอนที่ทะเลาะกันครั้งก่อน หนูขอรหัสเฟซบุ๊กกับไลน์เขา แต่หนูคิดว่าเขาคงจะคิดว่าหนูไม่ได้ค้นจริงๆ เพราะหนูไม่ค่อยได้เช็คโทรศัพท์เขาสักเท่าไร ซึ่งนานๆทีหนูมีเซ้นส์ถึงจะไปเปิดดู ก่อนแต่งงานมันจะมีแค่เขาทักไปหาผู้หญิงขายบริการ แต่แค่ทักเฉยๆ ไม่ได้มีแชทต่อเนื่องว่าเขาไปหา หนูก็รู้สึกไม่ดีแล้ว แต่พอรู้ว่าเขาเลือกแต่งงานกับหนู หนูก็ไม่ค้น ไม่อะไรแล้ว แต่พอหลังแต่งงานมา มันเป็นแบบนี้ หนูรู้สึกระแวงมาก คือทุกคืนที่นอนกับเขา หนูต้องสะดุ้งตื่นมา เพื่อไปค้นดูโทรศัพท์เขา ซึ่งเขาลบแชททุกอย่าง บล็อกทุกอย่าง แต่พออีกวันเขาก็ยังไปคุยกันได้ สำหรับการแต่งงาน หนูเป็นคนต่างจังหวัด ส่วนเขาเป็นคนกรุงเทพ แล้ววัฒนธรรมคนต่างจังหวัด พวกเขาก็คิดว่าคบกันมานานแล้ว เมื่อไรจะแต่ง แล้วก็ไปถามเขาบ่อยๆ แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยวางแผนร่วมกัน หนูก็เคยถามเขาไปว่า เธออยากแต่งงานกับเรามั้ย? แล้วจะแต่งกันประมาณไหน? แล้วเขาก็เพิ่งมาสารภาพเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วว่าจริงๆเขาไม่พร้อมจะแต่งงานนะ เขาก็พรั่งพรูหมดเลยว่าหนูไปดุเขา หนูไปกดดันเขา ซึ่งหนูก็บอกว่าถ้ามันขนาดนี้ เธอบอกเลิกเราไปก่อนที่จะแต่งงานกันก่อนก็ได้นะ หรือบอกว่าเราไม่พร้อมก็ได้ แต่เขาไม่พูด เขาแบบก็แต่งๆไป แต่เรามีการเก็บเงินมาแต่งงานด้วยกัน ถึงเขาจะเก็บเยอะกว่า แต่เราก็มีการวางแผนร่วมกัน... หนูก็เคยบอกเขาไปว่า ครั้งแรกเราก็อยากให้โอกาส เพราะสิ่งที่เขาบอกเราก็ดูผิดเหมือนกันนะ เราผิดที่ทำให้เขาเครียด ต้องไปกินเหล้าที่ร้านเหล้าบ่อยๆก่อนแต่งงาน เขาบอกเขาแอบไป โดยที่เราไม่รู้ หนูก็อยากปรับตัวนะ ซึ่งหนูพยายามปรับตัวแล้ว เหมือนมันมีอะไรบางอย่างที่เขาบอกเราไม่หมด เหมือนมันยังตึงๆ ร่วมกับการที่หนูยังระแวงเขา หลังจากที่หนูจับได้ ตอนนี้เขาก็ดูเหมือนรู้สึกผิด เขาก็บอกว่าเขาไม่คุยแล้ว แต่พอเรามาจับได้ครั้งที่ 2 เขาก็พูดเหมือนเดิมว่าเขาไม่ทำแล้ว รอบนี้ไม่มีจริงๆ หนูไม่อยากให้มีครั้งที่ 3 ให้หนูรู้สึกไม่ดีอีกแล้ว แต่พอหนูถามว่าเขาจะหย่ามั้ย? จริงๆเรื่องหย่า หนูไปเห็นในประวัติการค้นหาใน Google ของเขา เขาก็ค้นหาคำว่า หย่า ไม่รักแล้ว แล้วพอวันจันทร์ที่ผ่านมาหนูก็เห็นเขาแชทคุยกับแฟนเก่า เขาถามแฟนเก่าว่าถ้าคิดเรื่องหย่านี่ถือว่าเป็นเรื่องเล็กมั้ย แต่แฟนเก่าเขาก็ไม่ได้อะไร เหมือนให้คำปรึกษามากกว่า ซึ่งหนูก็ถามเขาว่าแล้วจะไปปรึกษาแฟนเก่าทำไม เขาบอกว่าคิดว่าจะได้คำปรึกษาที่ดีจากแฟนเก่า แต่พอหนูถามเขาว่าหย่ามั้ย เขาก็บอกว่าไม่หย่า ขอโทษทุกอย่าง จะไม่ทำอีกแล้ว ขอโอกาสให้เขานะ ตอนที่จับได้ครั้งแรก เขาก็ง้อเราด้วยกันพาหนูไปเที่ยว จองโรงแรมดีๆเลย ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยจองโรงแรมดีขนาดนี้ แต่หนูขอเขาว่าให้หนูดูแลเรื่องเงินได้มั้ย เขาก็ถามว่าแล้วทำไมเขาจะต้องให้ หรือแม้แต่การเปลี่ยนรูปโปรไลน์ที่ใส่รูปแต่งงานหนูคู่กับเขา เขาก็ยังไม่ยอมเลย เขาไม่ได้แสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจอะไรเลย เวลาเล่นโทรศัพท์เสร็จเขาก็จะเก็บใส่กระเป๋าเลย ไม่ได้ให้เราดูได้เต็มร้อย และเวลาอาบน้ำก็จะเอาโทรศัพท์ไปด้วย ช่วงนี้ชีวิตหนูก็ค่อนข้างเครียดเพราะมีปัญหาที่บ้าน แล้วเขากลับเอาความเครียดของหนูมาทำให้เขาเครียดไปด้วย หนูก็เลยคิดว่าเราเป็นสามี-ภรรยากันแล้ว เราแชร์ความทุกข์ ความสุขกันไม่ได้หรอ กลายเป็นทุกอย่างตอนนี้หนูทำอะไรก็ไม่ดี ผิดไปหมด แล้วยังต้องมาเจอที่เขาทำกับหนูอีก หรือเขาโทษหนูเพื่อบ่ายเบี่ยงประเด็นหรือเปล่า... หนูอยากปรึกษาพี่ๆว่า ถ้าเราหย่าเลยตอนนี้มันจะเร็วไปมั้ยสำหรับคนที่เพิ่งแต่งงานกัน หรือจริงๆเราควรจะให้โอกาสเขามั้ย? “ดีเจอั๋น” ให้คำแนะนำว่า ‘คุณแพรวต้องถามตัวเองก่อนว่า คุณแพรวอยู่ในภาวะที่ต้องพึ่งพิงเขามากแค่ไหน เราจะขาดเขาได้ไหม ในวันนี้เราแข็งแรงพอไหมที่จะไม่มีเขา ปัญหาที่คุณแพรวเล่ามาเป็นสิ่งที่คุณแพรวไม่ได้คุยกับเขาตั้งแต่ก่อนตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งเรื่องการเงินและทัศนคติต่างๆ เรื่องที่คุณแพรวขอเป็นคนดูแลเรื่องเงิน เขาไม่ควรบอกคุณแพรวว่า “ทำไมผมต้องให้” มันเป็นคำพูดที่ไม่ดีและมันแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใส่ใจคุณแพรวเลย มันไม่มีคำว่าช้าหรือเร็ว ตอนนี้คุณแพรวควรคุยกับเขาดีๆว่ายังอยากมีกันและกันในชีวิตหรือเปล่า ถ้าเขายังอยากมีกัน ก็บอกเขาว่าช่วยทำให้คุณแพรวรู้สึกสำคัญ มีค่าและไม่สามารถเสียไปจากชีวิตได้ แต่ก่อนจะถามเขาคุณแพรวต้องรู้ก่อนว่าตัวเองมีค่า และถามตัวเองว่ายังอยากมีผู้ชายแบบนี้อยู่ในชีวิตหรือเปล่า’ ส่วน “ดีเจเติ้ล” แนะนำว่า ‘ที่สามีคุณแพรวนอกใจน่าจะไม่ใช่แค่ครั้งแรก ถ้าเขาทำผิดครั้งแรกการที่เขาขอโทษน่าจะเป็นเรื่องใหญ่กว่านี้ คนที่รู้ตัวว่าทำผิดอย่างน้อยเขาจะต้องมีการเว้นระยะที่จะไม่ทำผิดอีก แต่สามีของคุณแพรวยังทำผิดติดต่อกันลับหลังคุณแพรว ตอนนี้คุณแพรวกับเขามองค่าน้ำหนักความผิดไม่เท่ากัน เรื่องเล็กของเขาแต่มันคือเรื่องใหญ่ของคุณแพรว ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะมันเก็บสะสมมาเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้มีการทำความเข้าใจและแก้ปัญหา จนทำให้สามีคุณแพรวแสดงออกมาว่าเขาไม่มีความสุขกับความรักครั้งนี้ ซึ่งจริงๆแล้วนี่อาจจะเป็นช่วงปลายของการคบหากันตลอด 4-5 ปีก็ได้ ส่วนเรื่องการหย่า จะเร็วจะช้ามันขึ้นอยู่กับตัวของคุณแพรว หนึ่งเดือนของบางคนอาจจะนานสำรับการทนเจ็บ ถ้าคุณแพรวไม่มีความสุขก็กลับมารักตัวเองดีกว่า’ ดีเจ “ต้นหอม” เสริมว่า ‘การกระทำของสามีคุณแพรวคือผู้ชายเจ้าชู้ เขาไม่สำนึกเลยว่าเขาทำผิด เขาไม่เห็นความสำคัญของคุณแพรว และเขาไม่สามารถสร้างความมั่นใจในความสัมพันธ์นี้ได้เลย คุณแพรวต้องถามตัวเองแล้วว่าอยากอยู่กับผู้ชายแบบนี้ไหม ถ้าคุณแพรวรับไม่ได้แสดงว่านี่ไม่ใช่ที่ของคุณแพรว ไม่ต้องสนใจกับงานแต่งที่มันเกิดขึ้นไปแล้ว ถ้าแต่งงานมาอยู่ด้วยกันแล้วมีแต่เรื่อง Toxic ก็ทิ้งอดีตไป นับจากนี้ชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณแพรวจะต้องมีแต่ความสุข การที่เขาไม่หย่าไม่ได้แปลว่าเขารักเรา เพราะการกระทำเขามันไม่แสดงออกถึงความรักเลย ถ้าอยู่ไม่ไหวก็ออกมา แต่ถ้าอยู่ไหวก็อดทนแล้วเปลี่ยนตัวเองให้เขาเมตตาและมอบความรักให้เราบ้าง ถ้าเลือกที่จะอยู่ด้วยกันต่อก็ต้องบอกสามีให้ปรับไปด้วยกัน แต่สุดท้ายชีวิตใครชีวิตมัน คุณแพรวต้องถามตัวเอง เพราะคนที่เจ็บและสุขก็คือคุณแพรวคนเดียว’ สุดท้ายนี้พี่ๆดีเจเป็นกำลังใจและบอกให้คุณแพรวทบทวนตัวเองดีๆ ให้ตัดสินใจเรื่องนี้ได้เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1