เราเป็นแม่ลูกติด มีลูก 3 คน แต่แฟนคนนี้อายุเยอะกว่าเรา เขายังแอบแม่คุยกับเราอยู่เลย ไม่ได้เปิดตัวเรากับครอบครัว แล้วแฟนดูไม่ค่อยโอเคกับลูกๆของเราสักเท่าไหร่

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เราเป็นแม่ลูกติด มีลูก 3 คน แต่แฟนคนนี้อายุเยอะกว่าเรา เขายังแอบแม่คุยกับเราอยู่เลย ไม่ได้เปิดตัวเรากับครอบครัว แล้วแฟนดูไม่ค่อยโอเคกับลูกๆของเราสักเท่าไหร่

05 ธ.ค. 2025

เราเป็นแม่ลูกติด มีลูก 3 คน แต่แฟนคนนี้อายุเยอะกว่าเรา

เขายังแอบแม่คุยกับเราอยู่เลย ไม่ได้เปิดตัวเรากับครอบครัว

แล้วแฟนดูไม่ค่อยโอเคกับลูกๆของเราสักเท่าไหร่

ตอนนี้เราทำงาน หาเงินเอง เงินเดือนหมื่นนิดๆ ดูแลลูกทั้ง 3 คน

บางวันเราหมุนไม่ทัน ขอยืมแฟน 100 -200 แฟนก็บ่น

บอกว่าให้เราประหยัดหน่อย ใช้เงินกับลูกอย่าฟุ่มเฟือย

แค่นี้ก็บ่นเรา แล้วตอนนี้เขาจะมาขอเราแต่งงานอีก

แต่เงื่อนไขของเขาคือห้ามให้เราเอาลูกมาด้วย

เราเลยลังเลว่าควรจะทำยังไงดี เพราะเราเลือกลูกมากกว่า

          “คุณน้ำทิพย์ (นามสมมติ)” อายุ 36 ปี เป็นสายแรก ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (3 ธันวาคม 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแฟนบอกว่าถ้าแต่งงานกันต้องแยกเรากับลูก เพราะเรามีลูกติดถึง 3 คน เราจะคบแฟนคนนี้ต่อดีหรือไม่

          “คุณน้ำทิพย์ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมาได้ 1 ปี 10 เดือน แฟนหนูอายุ 43 ปี เราเจอกันในแอปหาคู่ ตอนที่คุยกันหนูบอกเขาแล้วว่าเราเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เขาก็บอกยอมรับได้ แต่พอมาคบกันจนถึงตอนนี้หนูเริ่มมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายลูก ซึ่งหนูเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เพราะคิดว่าเรายังไม่ได้แต่งงานกับเขา เลยไม่อยากรบกวนเงินเขา หนูส่งลูกไปเรียนโรงเรียนประจำแล้ว 2 คน เหลือคนเล็กที่อยู่กับหนู แต่หนูก็ไม่แน่ใจว่าครอบครัวเขารู้ไหมว่าเขามีแฟน เพราะเวลาคุยกันก็จะคุยแค่ในห้องเขา ถ้าแม่เขาเข้ามาก็จะปิดเสียงไม่ให้รู้ว่าโทรคุยกับเราอยู่ หรือเวลาที่เราอยู่ด้วยกันแม่เขาโทรมาก็จะไปคุยข้างนอกและเขาก็ไม่เคยพาเราไปบ้านเขาเลย รวมถึงเขาก็ยังไม่เคยเจอลูกของหนูด้วย…

          ปัญหาคือเขาไม่โอเคกับการที่หนูใช้เงินไปหาลูก หรือส่งเงินให้ลูก เขามองว่าหนูใช้เงินฟุ่มเฟือย ไม่รู้จักเก็บออม แต่หนูก็อธิบายให้เขาฟังว่า ถึงลูกจะอยู่โรงเรียนประจำ ก็ต้องส่งเงินบ้าง แต่เขาก็ยังพูดในเหตุผลของเขาว่า อยากให้ใช้เงินให้จำกัด และบอกว่าเวลามีปัญหาอะไรก็จะได้มีเงินเก็บ เขาไม่อยากให้ลูกกลับมาบ่อย ๆ เพราะค่าใช้จ่ายมันเยอะ บางครั้งถ้าเกิดเรามีปัญหาเรื่องเงินแล้วต้องขอยืมเขา เขาก็จะบ่นตลอดแล้วก็จะบอกว่าตัวเขาก็มีหนี้สินเหมือนกัน เลยทะเลาะกันเรื่องนี้ตลอด

          แต่เขาก็มีข้อดีเหมือนกัน เขาเป็นคนไม่ชอบเที่ยว ไม่เจ้าชู้ แต่เขาก็จะมีนิสัยอย่างนึงคือ เขารักเรามาก แล้วก็หวงมาก แต่จะมีอารมณ์ร้อน แล้วก็บ่นเหมือนฟีลพ่อบ่นลูก ซึ่งหนูก็มองว่ามันเป็นเรื่องดี

          หนูมีแผนจะแต่งงานกับเขาภายในปีนี้หรือปีหน้า ถ้าพร้อม เลยถามเขาว่า ถ้าแต่งงานกันแล้วหนูไม่ได้ทำงานต้องไปอยู่กับเขา เขาจะช่วยค่าใช้จ่ายให้ลูกหนูไหม หรือจะเลี้ยงดูเขาเหมือนลูกหลานไหม เขาก็ตอบว่าเขาต้องการอยู่กับหนูแค่คนเดียว เพราะเขาอาศัยอยู่กับแม่และน้า เขาไม่โอเคที่จะมีลูกติดไปด้วย เขาบอกว่าเขาไม่จำเป็นต้องเลี้ยงลูกของหนู เพราะเขาไม่ใช่พ่อของเด็ก

          ตอนนี้หนูเริ่มลังเลที่จะคบกับเขาต่อ เพราะรู้สึกว่าหนูต้องเลือกลูกก่อน เลยอยากรู้ว่าผู้ชายแบบนี้ควรจะไปต่อไหม?’

          เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘นี่แหละคือเหตุผลที่เรายังไม่มีแฟน เพราะมองว่าคนที่จะมาเป็นครอบครัวเราต้องเข้ากับลูกได้ ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงดูหรอก แต่ตำแหน่งของความเป็นแม่มันไม่สามารถลาออกได้ ถ้าจะรักทิพย์ก็ต้องรักที่ทิพย์มีลูก นั่นแปลว่าเขาไม่ได้เข้ากับครอบครัวเรา การที่คบกันมาปีกว่าแล้วคุยเรื่องแต่งงานเลยมันแปลกมาก เพราะยังไม่เคยเจอครอบครัวเขาเลย ถ้าให้พูดเลยคือหนึ่ง เขาไม่เปิดตัวเรากับที่บ้าน สอง ผู้ชายอายุ 43 แล้ว แต่ยังไม่กล้าตัดสินใจเรื่องครอบครัว ยังกลัวแม่อยู่เลย สาม การแต่งงานกับเราเพื่อให้เราไปเป็นแม่บ้านแล้วตัดลูกออกไปเลย ผู้ชายคนนี้เหมือนเขาไม่ได้รักลูกเราเลย และสุดท้ายทิพย์ไม่ต้องบังคับผู้ชายคนนี้ให้เอาลูกเรา เพราะจิตใจเขาไม่ได้ต้องการตั้งแต่แรก’

          ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาเสริมว่า  ‘คุณทิพย์ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงนี้ได้ เพราะคุณทิพย์รักลูก และยอมให้เงินกับลูก คุณทิพย์จะไปอยู่กับผู้ชายที่ไม่รับลูกของคุณทิพย์ได้ยังไง ถ้าคุณทิพย์ยังลังเลอยู่ พี่ขอให้มั่นใจเลยว่าเลิกกับเขาเถอะ เสียเวลา ไปหาคนใหม่ที่เขาอยากมีทั้งคุณและลูกดีกว่า การที่เรามีลูกติด 3 คนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเจอผู้ชายที่พร้อมจะแต่งงานกับเรา อันนี้ทางบ้านก็ยังไม่เคยเจอ พี่ว่ามันแปลก อีกอย่าง การเจอกันในแอพหาคู่ก็สามารถเจอมิจฉาชีพได้เลยนะ’

          และสุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาปิดท้ายว่า  ‘ก็เหมือนกัน ข้อดีที่บอกยังไม่โน้มน้าวใจพอที่จะทำให้ต้องไปต่อ การที่ไม่เจ้าชู้มันเป็นพื้นฐานที่ควรจะมีอยู่แล้ว อย่าเรียกว่าเป็นข้อดีเลย ตอนนี้ปัญหาคือเด็กคนเล็กที่ไม่ได้เข้าโรงเรียนประจำ แต่การที่ต้องส่งลูกคนเล็กไปเรียนไม่ได้หมายความว่าปัญหามันจะจบ เด็กก็ยังต้องเรียนต่อไปอีกเยอะ เรื่องค่าใช้จ่ายก็ต้องเยอะขึ้นอยู่แล้ว คุณทิพย์ต้องเจอกับคนที่ยินดีรับทั้งครอบครัวไปพร้อมกัน’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 –23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ยังไงดีนะ? ลูกสาวของป้า ที่อยู่ข้างบ้านเรา มีนิสัย ‘ขี้ขโมย’ ของเล็กใหญ่ขโมยหมด ทั้งเครื่องปรุง ถ้วย ชาม เสื้อผ้า กางเกงในแม่ กระเป๋า แหวนทอง ก่อนหน้านี้เคยหลอกให้พ่อแม่เราเข้าไปนอนในห้อง แล้วโบ้ยความผิดให้ว่าเป็นคนขโมยเงิน 2 หมื่นไป...

10 เม.ย. 2023

ยังไงดีนะ? ลูกสาวของป้า ที่อยู่ข้างบ้านเรา มีนิสัย ‘ขี้ขโมย’ ของเล็กใหญ่ขโมยหมด ทั้งเครื่องปรุง ถ้วย ชาม เสื้อผ้า กางเกงในแม่ กระเป๋า แหวนทอง ก่อนหน้านี้เคยหลอกให้พ่อแม่เราเข้าไปนอนในห้อง แล้วโบ้ยความผิดให้ว่าเป็นคนขโมยเงิน 2 หมื่นไป...

“คุณบี (นามสมมุติ)” สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (5 เม.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหากับคนข้างบ้านโดย “คุณบี (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘ครอบครัวหนูเป็นครอบครัวใหญ่ ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน แต่อยู่ในระแวกเดียวกัน ในซอยนั้นมีบ้าน 4 หลัง คือ บ้านหนู บ้านย่า บ้านป้า และบ้านลูกสาวของป้าอีกคน ซึ่งเขาอายุ 29 ปี แต่เขาเป็นคนชอบขโมยของ ที่บ้านหนูก็ไม่มีกล้องวงจรปิด ตอนแรกที่เขาขโมย คือ เริ่มจากสิ่งเล็กๆก่อน พวกเครื่องปรุงในครัว , ถ้วย , ช้อน แล้วก็ขยับมาเป็น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า แล้วก็เริ่มเป็นของใหญ่ๆ คือ ทอง เขาขโมยไปเลย ไม่ได้ขอ เอาไปโดยที่ไม่มีใครรู้ แล้วทุกคนก็มารู้ทีหลังว่าเป็นเขา แหวนทองที่เขาเอาไปคือแหวนทองของน้อง เป็นแหวนที่ไม่มีลาย ตอนนั้นน้องจะเข้าไปอาบน้ำ แล้วก็ถอดวางไว้ กลับมาน้องก็ไม่รู้ว่าแหวนโดนเปลี่ยนไปแล้ว ก็คือเขาซื้อแหวนปลอมมาเปลี่ยนให้น้อง แล้วแหวนจริงเขาเอาไปขาย น้องใส่แหวนปลอมมาจนแหวนมันลอก มันก็เลยโป๊ะ วันนั้นป้าอีกคนของหนูกลับมาจากต่างประเทศ ป้ามานอนอยู่ในห้องนอนย่า สักพักเขามาคุยกับแม่ของหนูว่า น้าเข้าไปในห้องย่าสิ เปิดแอร์เย็นๆเลย เขาเล้าหลือให้แม่หนูเข้าไปตลอดเลย แม่ของหนูก็เลยรำคาญ ทั้งพ่อ ทั้งแม่ก็เลยเข้าไปนอนเล่นในห้องย่า สรุปป้าหนูรู้ว่าเงินหาย 2 หมื่น ป้าก็เลยนึกว่าพ่อกับแม่ของหนูเป็นคนเอาเงินไป แต่จริงๆคือเขาเข้าไปขโมยเงินออกมาแล้วแต่ไม่มีใครเห็น แม่ของเขาก็เพิ่งโดนมาสดๆร้อนๆเลย แม่เขาให้เงินไปจ่ายค่าไฟเดือนละ 3 พันบาท แต่เขาไม่จ่ายมา 3 เดือนแล้ว เขาเอาเงินแม่ของเขาไปแล้ว 9 พันบาท จนการไฟฟ้าจะมาตัดมิเตอร์ แม่เขาก็รู้ว่าลูกของเขาเป็นหัวขโมย เพราะเขาก็เคยขโมยกางเกงในของแม่ตัวเองไปใส่ด้วย มันเกิดเรื่องแบบนี้มาเรื่อยๆ เป็นตั้งแต่แรกๆ ย่าเอาเขามาเลี้ยง เพราะพ่อกับแม่เขาแยกทางกัน ตอนนั้นแม่ของเขาก็อยู่ต่างประเทศ เขาก็แอบเอาบัตร ATM ของย่าไปกดตังออกมาหมดเลย จำนวนเงินหลายหมื่นเลย ย่าจับได้ก็เลยส่งเขาไปอยู่กับพ่อเขา สักพักพ่อเขาก็ส่งกลับมาเพราะเขาไปขโมยของทางฝั่งนั้นอีก หนูอยากรู้ว่าหนูจะแก้ปัญหาตรงนี้ยังไงดี?เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ทุกความประสาทแดx อยู่ที่หัวหน้าคนนี้หมดแล้ว หนูทำงานที่นี่มา 3 ปี มีเรื่องให้ปวดหัวทุกวัน หัวหน้าคนนี้เป็นผู้หญิง อายุประมาณ 40+ แล้ว เดี๋ยวจะเล่าสิ่งที่เขาเคยทำกับหนูให้ฟัง

25 ส.ค. 2025

ทุกความประสาทแดx อยู่ที่หัวหน้าคนนี้หมดแล้ว หนูทำงานที่นี่มา 3 ปี มีเรื่องให้ปวดหัวทุกวัน หัวหน้าคนนี้เป็นผู้หญิง อายุประมาณ 40+ แล้ว เดี๋ยวจะเล่าสิ่งที่เขาเคยทำกับหนูให้ฟัง

ทุกความประสาทแดx อยู่ที่หัวหน้าคนนี้หมดแล้ว หนูทำงานที่นี่มา 3 ปี มีเรื่องให้ปวดหัวทุกวันหัวหน้าคนนี้เป็นผู้หญิง อายุประมาณ 40+ แล้ว เดี๋ยวจะเล่าสิ่งที่เขาเคยทำกับหนูให้ฟัง1.เราทำงาน back office ใส่กระโปรงเลยหัวเข่ามาเกือบจะถึงตาตุ่มแล้ว เขายังบอกว่าเราแต่งตัวโป๊2.เขาตามโซเชียลเรา แล้วจะคอยตอบสตอรี่เรา บอกว่าทำไมเราไปพาน้องที่ทำงานเที่ยว เสียคนหมด3.ไปเข้าห้องน้ำ เขาจับเวลาว่าไปเกิน 10 นาที ทำไมถึงไปนาน 4.เขาสั่งห้ามไม่ให้หนูคุยอะไรกับใครถ้าจะคุยกับเพื่อนร่วมงาน ให้แชทพิมพ์กันเท่านั้น เขาบอกว่าหนูไปชวนคนอื่นคุยอยู่นั่นแหละจริงๆยังมีอีกหลายอย่างที่เจอ แต่ก็ยังอดทนทำอยู่ เงินดี สังคมดี เพื่อนร่วมงานดีทุกคน ติดที่หัวหน้าคนนี้คนเดียว “คุณแนท (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี เป็นสายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [20 ส.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาที่หัวหน้าชอบแซะและจับผิดเรื่องส่วนตัวและพฤติกรรมต่าง ๆ ทำให้รู้สึกอึดอัดและไม่มั่นใจในตัวเอง โดย “คุณแนท (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูทำงานอยู่ที่บริษัทหนึ่ง เป็นพนักงานออฟฟิศทั่วไป ตอนเข้าทำงานใหม่ ๆ หัวหน้าก็ขอเพิ่มเพื่อนทางโซเชียลมีเดีย หนูก็รับไว้ตามปกติ แต่หลังจากนั้นพี่เขามักจะตอบกลับสตอรี่ของหนูในลักษณะประชดประชันหรือแซะ เช่น เวลาหนูลงสตอรี่ตอนออกไปเที่ยวกลางคืน เขาจะตอบกลับมาว่า "ดื่มแอลกอฮอล์ด้วยเหรอ ไม่บาปเหรอ" หนูไม่รู้จะตอบยังไง เลยกดอีโมจิขำไป นอกจากนั้น เวลาเลิกงาน เขาก็มักจะชวนไปร้องคาราโอเกะหรือทานข้าวกัน วันหนึ่งหนูลงสตอรี่ตามปกติ ซึ่งในภาพมีเพื่อนที่แต่งตัวค่อนข้างเซ็กซี่ติดมาด้วย พี่เขาก็ตอบกลับมาว่า "นี่เธอพาเพื่อนใจแตกเหรอ พาไปที่อโคจรแบบนั้น" หนูรู้สึกไม่โอเคเลย เลยเอาข้อความให้เพื่อนดู ทุกคนก็บอกว่ามันเกินไปแล้ว พี่เขาเป็นคนที่พูดจาแรง ชอบแซะและติคนอื่นอยู่ตลอด โดยเฉพาะกับหนูที่เป็นลูกน้อง เหมือนจะโดนมากกว่าคนอื่น หนูเองก็ชอบเที่ยวบ้างในวันหยุด ซึ่งหนูมองว่าไม่ใช่เรื่องผิด และไม่เกี่ยวกับการทำงาน เรื่องไม่จบแค่นั้น ที่ออฟฟิศเขาก็มักจะพูดย้ำถึงเรื่องที่หนูไปเที่ยว เช่น "เห็นวันก่อนพาเพื่อนไปเที่ยวมา ใส่เสื้อโป๊มากเลย พาเพื่อนใจแตก" เขาติหนูทุกเรื่อง ทั้งที่การทำงานของหนูไม่ได้พบเจอลูกค้าเลย แต่เขากลับตำหนิการแต่งตัวของหนู มีอยู่วันหนึ่งหนูใส่เสื้อครอปสีดำ กับกางเกงยีนส์ขาสามส่วน ซึ่งพอหนูเป็นคนตัวเตี้ย กางเกงมันก็เกือบจะยาวถึงตาตุ่ม หนูก็มั่นใจเพราะคนอื่นในออฟฟิศก็แต่งแบบนี้ บางคนใส่กระโปรงสั้นกว่าหนูอีก แต่พอหนูมาถึงออฟฟิศ เขาเรียกหนูแล้วพูดว่า "แต่งตัวอะไรเนี่ย นี่กระโปรงหรือกางเกง?" แล้วก็สั่งให้หนูหมุนตัว หนูคิดว่าเขาจะชม เลยยอมหมุน แต่เขากลับพูดว่า "แต่งตัวตลกมาก" หนูหน้าเสียเลยกลับไปนั่งที่โต๊ะ พอเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็งงว่า "มันตลกตรงไหน?" แต่หัวหน้ากลับเดินมาหาอีกแล้วบอกว่า "เดี๋ยวน้องถ่ายรูปให้ manager ดูด้วยนะว่าใส่กางเกงขาสั้นมาทำงาน" หนูก็บอกว่า “มันไม่สั้นนะ มันเกือบถึงตาตุ่มแล้ว” เพื่อนก็ช่วยปกป้องว่ามันไม่ใช่กางเกงขาสั้นจริง ๆ เขาก็ยังจะให้ถ่าย หนูเลยปฏิเสธว่า “ไม่สะดวก” เขาก็เดินกลับโต๊ะตัวเองไป ทั้งที่บริษัทไม่มีนโยบายเรื่องการแต่งตัว ทุกคนแต่งตัวตามสบาย บางคนใส่สายเดี่ยวมาทำงานด้วยซ้ำ หลังจากนั้นมีการปรับระบบให้นั่งตามทีม หนูก็ต้องย้ายมานั่งกับหัวหน้า เขาไม่ยอมให้เพื่อนคุยกับหนูเลย ต่อให้คุยเรื่องงาน ก็ต้องพิมพ์คุยอย่างเดียว วันหนึ่งหนูไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งรู้ว่าเขาเป็นคนชอบจับผิด หนูก็เลยจับเวลาไว้เอง หนูใช้เวลาประมาณ 17 นาที เขาก็ทักแชตมาทันทีว่า "หายไปนานมาก ถ้าหัวหน้าถาม พี่ไม่รู้จะตอบยังไง" หนูก็ถามกลับว่า “ถ้าหนูจะเข้าห้องน้ำ ต้องขออนุญาตเหรอ?” เขาก็บอกว่า “ไม่ต้องหรอก แค่บอกพี่ไว้หน่อย” เขายังชอบจับผิดหนูว่าเล่นโทรศัพท์ในเวลางาน ทั้งที่ทั้งวันเขาก็นั่งไถโทรศัพท์ คลิกเมาส์ และคุยกับเพื่อน อีกวันหนึ่ง หนูเป็นกรดไหลย้อน ต้องยืนทำงาน แต่เพื่อนแถวนั้นหัวเราะเสียงดัง แล้วพี่เขาหันมามองหนู เข้าใจผิดว่าเป็นหนูหัวเราะ เลยทักมาว่าให้กลับไปนั่งที่ หนูก็บอกว่าหนูไม่ได้คุยแต่เขาก็บอกว่า "ไม่ต้องลุกไปไหนอีก" หนูเคยมีคนจากแผนกอื่นมาทาบทามให้ย้ายงาน ซึ่งพูดต่อหน้าหัวหน้าคนนี้เลย แต่หนูยังไม่กล้ารับปาก เพราะแผนกนั้นดูเป็นงานใหญ่ หนูกลัวจะรับไม่ไหว หนูทำงานที่นี่มา 3-4 ปีแล้ว หนูยังโอเคกับเงินเดือน การทำงาน และสังคมรอบตัว โดยรวมหนูแฮปปี้ ยกเว้นแต่กับหัวหน้าคนนี้ที่ทำให้หนูรู้สึกอึดอัดและเสียความมั่นใจ หนูเลยอยากขอคำแนะนำว่า หนูควรจัดการตัวเองยังไง เวลาหัวหน้าคนนี้ปล่อยพลังลบใส่หนู?’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ทำอะไรไม่ได้นอกจากตีมึนแล้วใส่หูฟังตลอดเวลา เขาพูดอะไรก็แกล้งไม่ได้ยิน ทำให้เขารู้ว่าเราไม่อยากยุ่งกับเขา ถ้าเขามายุ่งกับเราอีกก็บอกว่าหนูไม่ได้ฟังเพลง หนูแค่ไม่อยากฟังเสียงอย่างอื่น ให้เขารู้ว่างานเราก็เดิน ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดเราต้องเถียงกลับไปบ้าง’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าหนูทนไม่ไหวหนูก็พูดได้เลยว่าทนไม่ไหว คิดว่ามันเป็นเกมแล้วกัน ว่าแต่ละวันเราจะเจออะไรบ้าง เพื่อให้เรามีพลังทำงานต่อก่อนที่เราจะย้ายงาน เพื่อให้เราอยู่ให้ได้ มีผู้ฟังแนะนำมาว่าให้บล็อกโซเชียลเขาไปเลย ให้หวัหน้ารู้ว่าเขาจะคุกคามเราได้แค่ในออฟฟิศ ในเมื่อเราอยู่กับเขามาได้ 3 ปีแล้ว เราลองทำตัวดี แต่งตัวเรียบร้อย แล้วลองดูว่าเขาจะหาเรื่องอะไรมาด่าเราได้อีก ถ้าหนูคิดว่าไหวก็ทำไป แต่ถ้าไม่ไหวก็ย้ายแผนก ก่อนที่แนทจะไม่ไหวแล้วถึงขั้นต้องพบจิตแพทย์’ และสุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘อย่าพยายามพูดว่าตัวเองโอเคทั้ง ๆ ที่จริง ๆ เราไม่โอเค บอกได้แค่ให้แนทหายใจลึก ๆ ตั้งสติ เพราะแนทก็ลองทำมาหมดทุกวิธีแล้ว เมื่อไหร่ที่เราพูดถึงเรื่องไหนแล้วเรามันทำให้เราร้องไห้ออกมา มันไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว ไม่รู้ที่ผ่านมาเจออะไรมาบ้าง แต่อยากให้ลองพบจิตแพทย์ดู อย่าให้ตัวเองต้องจมอยู่กับสถานการณ์แบบนี้เลย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เจ็บแล้วเจ็บอีก… สาวโทรปรึกษาในรายการ แฟนคนนี้เป็นรักแรก คบกันมา 15 นิสัยดีทุกอย่าง ยกเว้นข้อเดียว แฟนเจ้าชู้มาก นอกใจแล้ว 16 ครั้ง ล่าสุดหนูยอมให้เขาติดต่อกับผู้หญิงอีกคน แต่เขา ก็มาโทษหนูว่าที่เป็นคนแบบนี้ เพราะนิสัยหนูเองทั้งนั้น

30 ต.ค. 2023

เจ็บแล้วเจ็บอีก… สาวโทรปรึกษาในรายการ แฟนคนนี้เป็นรักแรก คบกันมา 15 นิสัยดีทุกอย่าง ยกเว้นข้อเดียว แฟนเจ้าชู้มาก นอกใจแล้ว 16 ครั้ง ล่าสุดหนูยอมให้เขาติดต่อกับผู้หญิงอีกคน แต่เขา ก็มาโทษหนูว่าที่เป็นคนแบบนี้ เพราะนิสัยหนูเองทั้งนั้น

“คุณจิ๊บ(นามสมมุติ)” อายุ 29 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (18 ต.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจพี่อ้อย’ เกี่ยวกับปัญหาคบกับแฟนมา 15 ปี ตอนนี้จับได้ว่ากำลังนอกใจครั้งที่ 16 แล้วมาโทษเราว่าคือสาเหตุ โดย “คุณจิ๊บ(นามสมมุติ)” ได้เริ่มเล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนคนแรกมาทั้งหมด 15 ปี แต่งงานจดทะเบียนกันแล้ว 4 ปี แต่ยังไม่มีลูกด้วยกัน ช่วงเวลาที่ผ่านมาเค้าดีทุกอย่าง ดูแลหนูดีมาก แต่เสียอยู่อย่างเดียว ตลอดเวลาที่คบกันมาเค้าเป็นคนที่ค่อนข้างเจ้าชู้มาก ด้วยความที่เค้าเป็นคนเฟรนลี่ ชอบคุยกับคนอื่นไปเรื่อย ทำให้เรามีปัญหาเรื่องมือที่สาม แล้วตลอดเวลาที่คบกันมา ก็จับได้ว่าเค้ามีมือที่สามมาแล้ว 15 ครั้ง แล้วทุกครั้งที่จับได้ เค้าจะขอให้อภัยเค้าอยู่เสมอ แล้วหนูก็ให้อภัยเค้าตลอด แต่ว่าการที่หนูให้อภัยอยู่แบบนี้ มันเลยทำให้หนูกลายเป็นคนขี้ระแวง โมโหใส่ทุกอย่างที่เค้าทำผิดไปจากเดิมที่เคยพูดไว้ เช่น เวลาจะไปทำงาน แล้วบอกว่าจะกลับหกโมงเย็น พอถึงเวลาเลยหกโมงเย็นไปหน่อยสักครึ่งชั่วโมง หรือชั่วโมงนึง เค้ายังไม่กลับ หนูก็จะเริ่มมีอารมณ์โมโห อาละวาดออกมาแบบ ‘ทำไมถึงกลับมาไม่ตรงเวลา’ ยิ่งให้อภัยเค้า หนูก็ยิ่งระแวงมากถึงขั้นติด GPS ในโทรศัพท์เค้า คอยควบคุมทุกอย่างในชีวิตเค้า ต้องโทรรายงานตลอดเวลา แล้วกลายเป็นว่ามันต้องอยู่แบบนี้กันไปเรื่อย ๆ จนครั้งที่ 16 ที่เพิ่งจับได้ล่าสุดเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เค้ามาบอกกับหนูว่าเพราะสิ่งที่หนูทำ คอยเจ้ากี้เจ้าการเค้ามากจนเกินไป ทำให้เค้าพูดกับหนูไม่ได้ เลยต้องไปหาพื้นที่สบายใจที่อื่น เค้าแบบหมดใจกับหนู ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเค้าโทษหนู เพราะว่าหนูเป็นแบบนี้ จากที่ผ่านมาทั้งหมดมันเลยทำให้รู้สึกผิดมาก ที่หนูเอาแต่ใจ ระแวงเค้ามากขนาดนี้ และคิดว่านี่หนูกลายเป็นคนผิดใช่ไหม เหตุการณ์ล่าสุดทำให้หนูบอกกับเค้าไปว่า ‘ให้เค้าคุยได้ แต่หนูแค่อยากรักษาครอบครัวเราเอาไว้’ ตอนนี้กลายเป็นว่าเค้าทำเย็นชาใส่ ไม่สนใจหนูอีกแล้ว ตอนนี้ก็ยังอยู่ด้วยกัน ดูแลเหมือนเดิมอย่างพาไปกินข้าว แต่ไม่ค่อยคุยกัน ไม่เล่นกันเหมือนก่อน และแสดงอาการให้รู้ว่ากำลังคุยกับมือที่สามขณะที่อยู่ด้วยกัน วันนี้หนูอยากมาปรึกษาพี่ ๆ ว่าหนูผิดใช่ไหมที่หนูเป็นแบบนี้ เค้าถึงได้มีมือที่สาม หนูแค่อยากรักษาครอบครัวไว้ มันพอจะมีวิธีไหมแล้วถ้าหนูขอโทษเค้า หนูควรจะขอโทษเค้าแบบไหน’ “ดีเจพี่อ้อย” เริ่มให้คำปรึกษาว่า ‘คือจิ๊บ 15 ปีที่ผ่านมาหนูบอกว่าเค้าดูแลหนูดีมาโดยตลอด แต่พอหนูบอกว่าเค้านอกใจ 15 ครั้ง 16 ครั้งเนี่ย อย่างที่บอกข้อดีทั้งหลายเค้าถูกเปลี่ยนไปหมดเลย แล้วการที่หนูกลายเป็นคนระแวงก็ไม่ได้แปลว่าว่าง ๆแล้วหนูระแวงแต่บังเอิญว่าหนูถูกทำลายความไว้วางใจมาก่อนไง มันถึงเกิดความระแวง ก่อนหน้านี้ถ้าเค้าไม่ทำตัวให้คิดมาก เราจะคิดมากได้ยังไง และอันนึงพี่ไม่มั่นใจจริง ๆว่าเราให้อภัยเค้าตั้งแต่เค้ายังไม่รู้สึกผิดหรือเปล่า เพราะหนูดูให้อภัยเค้าบ่อยมาก จนเค้ารู้สึกเลยว่าเหมือนมันเป็นทรง เวียน ว่าย ตาย เกิด ประมาณว่าเมื่อไหร่ก็ตามจับได้ว่านอกใจ ‘เอ้า! ขอโทษ ขอโทษ เราจะไม่ทำอีกนะ’ ‘ให้โอกาส ให้โอกาส ให้โอกาส’ แล้วก็กลับมานอกใจซ้ำ ๆ เค้านอกใจหนูมา 15 ครั้งแล้ว พี่ถามหน่อยว่าเค้าจำเป็นต้องมาซื่อสัตย์ต่อน้องครั้งที่ 16 17 18 หรอ คนเรารักเค้า เราก็ไม่อยากทำให้เค้าเสียใจ เพราะรักเค้าเราไม่เห็นมีใคร เค้ารักเราน้อยไปถึงได้นอกใจบ่อยขนาดนี้ ต่อให้น้องบอกว่าเราจะต้องมารักษาครอบครัว พี่กำลังรู้สึกว่าตั้งแต่เค้ามีคนอื่น คนแรก เราเสียคนในครอบครัวไปแล้ว คนเราเวลารักกัน ความซื่อสัตย์ให้กันยากตรงไหน แล้วพี่รู้สึกว่าหนูอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ หนูมีความสุขหรอ อยู่ในบ้านเป็นแฟนเรา ก้าวเท้าออกจากบ้านเรา เป็นแฟนคนอื่นเต็มไปหมดเลย ต่อให้น้องติด GPS ขนาดไหนก็ตามแล้วยังไง เพราะเมื่อจับได้ว่าเค้ามีคนอื่น ก็ให้อภัยอยู่ดี แล้วจะจับทำไม เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ถ้าถามว่าผิดไหม พี่แค่งงว่า ทำไมหนูถึงรู้สึกว่าหนูต้องผิด เข้าใจว่าเราหันมามองตัวเองได้ว่าฉันทำอะไรให้เค้าไม่โอเคหรือเปล่า เค้าถึงต้องไปมีความสุขนอกบ้านตลอดเวลา แต่ถ้าหนูรู้สึกว่าหนูผิดต้องไปขอโทษ พี่แค่ถามว่าหนูไปขอโทษในฐานะอะไร ขอโทษเธอนะที่ต้องทำให้เธอนอกใจขนาดนี้ ใช่หรือ? ลองค่อย ๆคิดดู แต่อันนึงพี่ยังอยากให้เรารักตัวเองเยอะ ๆบางที่เราก็ให้อภัย ให้ความอดทนกับคนไม่ควรค่าเท่าไหร่ การจะรักษาครอบครัว ต้องช่วยกันทั้งสองฝ่าย พยายามแต่เพียงผู้เดียวไม่รอดหรอก แล้วถ้าจะถามว่าหนูผิดไหม พี่ไม่ได้รู้สึกว่าหนูผิดอะไร ถ้าจะผิดคือ ให้อภัยง่ายไป และหนูให้อภัยแต่เค้า จนปิดโอกาสตัวเราที่จะมีความสุข พี่ขอพูดอีกครั้งนึง คนไม่ใช่กระเบื้อง อย่าให้เค้าเลือกเพราะเราอดทน’ ต่อมาที่ “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘15 ครั้ง ทำไมถึงยังให้อภัยคนคนนึงถึง 15 ครั้ง ย้อนไปที่ประโยคแรก ‘เค้าเป็นคนที่ดีกับหนูทุกอย่างเสียอย่างเดียว เจ้าชู้’ แล้วหลังจากนั้น 15 เคสมาเป็นพรวน เวลาที่คนเราคบกัน หนูตั้งโจทย์ใหม่นะลูก การผัวเดียวเมียเดียว การซื่อสัตย์ต่อกันและกัน คือพื้นฐานทั้งหมดเลยของการคบกัน ไม่ใช่ว่าพี่ชอบปลูกต้นไม้ ทำอาหารให้หนู พี่เก็บที่นอน พี่อาบน้ำทุกวัน พี่ตัดเล็บให้ แล้วพี่จะสามารถ ไปมีผู้หญิงคนไหนก็ได้ 15 คนตลอด 15 ปี มันไม่ใช่อะเนาะ พี่ไม่อยากจะใช้บรรทัดฐานของพี่ไปตัดสินว่าจิ๊บไม่ควรมองแบบนี้ แต่ว่าการมองแบบนี้มันทำให้จิ๊บทนทุกข์ทรมานอยู่กับคนคนนึงที่มันไม่เคยซื่อสัตย์ต่อเราเลย 15 ปีโดยที่คิดว่ามันเป็นคนดี แล้ว 1-15 คนที่ผ่านมาเนี่ย จิ๊บคือสาเหตุหรอ แล้วไปคิดนะว่าทำไม 15 ปีที่ผ่านมาฉันถึงไม่ได้มีความรักดีดีเหมือนคนอื่นเค้า แฟนคนแรกไม่ใช่แฟนที่ดีที่สุดเนอะ คำว่าแฟนคนแรก ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับคำว่าความรักที่แท้จริง หรือคู่ชีวิตและการที่เคยมีแฟนมาคนเดียว บางครั้งอยู่คนเดียวไม่มีใครยังดีกว่า อย่าไปคิดว่าฉันมีแฟนคนนี้คนแรกฉันต้องรักษาทุกอย่างมันไว้ บางครั้งไม่มี ชีวิตเราอาจจะดีกว่าเยอะเลยนะ เพราะฉะนั้นนี่คือคำตอบของพี่แล้วมั้งว่า มันใช่ความผิดของจิ๊บมั๊ย ต่อให้จิ๊บถามครึ่งชั่วโมงโวย หนึ่งชั่วโมงโวย คือถ้าเค้าทำตัวแบบเนี่ยเค้าสายแค่ 3 นาทีจิ๊บก็มีสิทธิ์โวย ความไว้ใจที่มันเสียไป ไม่มีทางแล้วที่จะกลับมาได้เพราะฉะนั้นเราต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างให้มันชดเชยกับความไว้ใจที่มันแตกร้าวไปแล้ว นี่คือปกติมนุษย์ที่ควรทำ’ ปิดจบกันที่ “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ตอนนี้เหมือนสมองส่วนเหตุผลของจิ๊บ พี่ว่าฟังก์ชันมันกำลังผิดพลาดอยู่ ไม่รู้ว่าเพราะว่าหนูโดนมาแบบนี้จนมันชินชา ร่างกายมันสร้างข้อมูลอะไรมาหลอกตัวเองหรืออะไรอยู่หรือเปล่า หรือว่าจิ๊บยังคิดไม่ได้จริง ๆแต่วันนี้พวกพี่สามคนพยายามจะทำให้จิ๊บคิดให้ได้ว่า ตอนนี้สิ่งที่จิ๊บคิดอยู่มันผิด อย่างอันแรกที่จิ๊บถามตัวเองว่าจิ๊บทำผิดกับเค้าหรือเปล่า พี่ก็จะบอกว่าจิ๊บไม่ได้ทำผิดอะไรเลย และถึงแม้ว่าจิ๊บจะระแวงเค้า มันก็สมเหตุสมผลมากที่จิ๊บจะทำแบบนั้น พี่ยกตัวอย่างง่าย ๆเหมือนพี่โดนหมาตัวนึงกัดมา 16 ครั้ง พี่จะไปอยู่ข้าง ๆมันโดยที่แบบสบายใจกับมัน ว่ามันจะไม่กัดพี่อีกแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ ว่ามึงกัดกูมา 16 ทีอะ พี่ก็ต้องอยู่แบบเมื่อไหร่มึงจะมากัดกูอีก ซึ่งจิ๊บก็เป็นแบบนั้น เพราะว่าจิ๊บเจอสิ่งเหล่านั้นมาเรื่อย ๆตลอด 16 ปี มันหนักหนามากนะสำหรับผู้หญิงคนนึง ซึ่งจิ๊บไม่ผิดที่รู้สึกแบบนั้น แล้วตอนนี้พี่รู้สึกว่าเค้ากำลังปั่นหัว ใช้ความไม่รู้ของจิ๊บในการจะโยงทุกอย่างมาให้จิ๊บเป็นคนผิด เพราะเค้าเป็นคนเห็นแก่ตัว เค้าเป็นคนไม่ดี เค้าเป็นคนรักที่เลวอะ ซึ่งถ้าจิ๊บไปคิดแบบนั้นอีก ยิ่งลงล็อกไปอีก คือจิ๊บไม่มีค่าอยู่แล้วในสายตาเค้าตอนนี้ที่พี่รู้สึกนะ ถ้าจิ๊บเป็นแบบนี้อีกจิ๊บจะยิ่งไม่มีค่า เพราะว่าจิ๊บยอมให้เค้ามาขนาดนี้แล้ว คือตอนนี้พี่อยากให้จิ๊บแบบมองเห็นว่าสิ่งที่จิ๊บทำผิดอยู่เรื่องเดียวที่พี่จะมองออกตอนนี้นะคือ จิ๊บให้อภัยคนผิด ให้อภัยคนที่ไม่สมควรได้รับ แล้วจิ๊บไม่ได้รักตัวเองเลย จิ๊บไปให้อภัยเค้า แต่จิ๊บกำลังทอดทิ้งตัวเอง ยอมให้เห็นตัวเองแบบโดนผู้ชายนอกใจมาแบบทุกปี ๆ บางปีมากกว่าหนึ่งครั้ง อันนี้มันคือนรกเลยนะ และมันมากพอแล้วที่ผู้หญิงคนนึงจะเจอ จิ๊บควรจะเดิoออกมาจากนรกขุมนั้นได้แล้ว และไม่มีอะไรที่ควรขอโทษ เค้าต่างหากที่ควรขอโทษจิ๊บ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบกับแฟนมา เขาหวงหนู มีข้อห้ามต่างๆ ไปผับห้ามเต้นกับเพื่อน ห้ามใส่เสื้อโป๊ ใส่ได้แค่เสื้อยืดหลวมๆ บางทีให้หนูใส่กางเกงบอล ล่าสุดสงกรานต์ห้ามหนูออกจากบ้าน ด้วยเหตุผล "เปอเซ็นต์ผู้หญิงโดนปะแป้งเยอะกว่าผู้ชาย" หนูไม่โอเคเค้าก็บอกเลิกหนูเลย จะง้อยังไงดีคะ?

12 เม.ย. 2024

คบกับแฟนมา เขาหวงหนู มีข้อห้ามต่างๆ ไปผับห้ามเต้นกับเพื่อน ห้ามใส่เสื้อโป๊ ใส่ได้แค่เสื้อยืดหลวมๆ บางทีให้หนูใส่กางเกงบอล ล่าสุดสงกรานต์ห้ามหนูออกจากบ้าน ด้วยเหตุผล "เปอเซ็นต์ผู้หญิงโดนปะแป้งเยอะกว่าผู้ชาย" หนูไม่โอเคเค้าก็บอกเลิกหนูเลย จะง้อยังไงดีคะ?

“คุณน้ำ (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (10 เม.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อย นภาพร’ เกี่ยวกับปัญหาโดนแฟนหวงห้ามเล่นสงกรานต์ โดย ​“คุณน้ำ(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘แฟนไม่ให้หนูไปเล่นน้ำสงกรานต์ เขาให้เหตุผลว่า ผู้หญิงมีเปอร์เซ็นต์ที่จะโดนปะแป้ง โดนลวนลามมากกว่าผู้ชาย เขาเป็นแฟนหนูเขาจะไม่ยุ่งเรื่องนั้นอยู่แล้ว แต่ว่าตัวหนูเป็นผู้หญิงมีโอกาสเสี่ยงเขาเลยไม่ให้หนูไป แต่เขาออกไปเล่นได้ เขาไม่พาหนูไปด้วยเพราะว่าอยู่ไกลกันก็เลยไม่ได้เล่นน้ำด้วยกัน เขาเป็นคนหวงหนูมาก ชอบห้ามหนูในสิ่งที่เป็นตัวหนู เช่น เรื่องการแต่งตัว เรื่องไปเที่ยวกับเพื่อน เขาก็จะห้ามนู่นห้ามนี่ หนูก็รู้ว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ Toxic แต่หนูก็รักเขาเลยยังอยู่ หนูกับเขาอายุ 22 ปีเท่ากัน คบกันมาประมาณปีกว่า ๆ ถ้ารวมคุยด้วย สิ่งที่เขาห้ามมีเรื่องแต่งตัว แล้วก็ถ้าไปร้านเหล้าก็ห้ามเต้นกับเพื่อน ให้นั่งเฉย ๆ ต้องใส่เสื้อยืดเท่านั้น กางเกงขาสั้น บางทีก็ให้ใส่กางเกงบอล ชุดนักศึกษาหนูใส่ได้แค่ทรงพลีท ไม่สามารถใส่ทรงเอได้เลย แต่เรื่องที่กำลังเป็นปัญหาในตอนนี้คือ เรื่องเล่นน้ำสงกรานต์ หนูแค่ไม่เข้าใจว่าเขาไปเล่นได้ ทำไมหนูถึงไปเล่นไม่ได้ หรือว่าถ้าเขาไม่ให้หนูเล่น เขาก็ไม่ควรออก เพราะคนที่นอนอยู่บ้านรู้สึกกังวล เป็นห่วงเขา หนูอยากออกไปสักแค่วันนึง แต่หนูไม่ได้อยากไปสาดน้ำ แค่อยากออกไปเจอเพื่อนเฉย ๆ เวลาหนูโดนเขาห้ามเยอะ หนูก็เลยพูดกับเขาว่า เนี่ย ถ้าเกิดเธอมาห้ามในสิ่งที่เราชอบ งั้นเราก็ห้ามเธอไปร้านเหล้าเหมือนกัน เขาก็ตอบว่า ได้ แต่สุดท้ายก็มีไปอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ไปบ่อยเท่าเดิม ล่าสุดหนูพยายามไกล่เกลี่ยขอเขาว่า ขอให้เขาเล่นน้ำแค่ 2 วันได้ไหม เขาก็บอกว่า ไม่ได้เลย ทีนี้ก็ทะเลาะกันหนักมาก เพราะว่าหนูก็ขอเขา เขาไม่ยอม เถียงกันไปเถียงกันมาก็บอกเลิกหนูเลย พอเขาบอกเลิกหนูก็ง้อ หนูรู้สึกว่าไม่ควรบอกเลิกเพราะเรื่องแค่นี้ หนูก็เลยพยายามง้อเขา ตอนนี้เขาก็ไม่ค่อยจะคุยกับหนูเท่าไหร่ ค่อย ๆ เฟดตัวออกไป แต่หนูก็พยายามทำตัวดี ๆ ก็บอกเขาว่า โอเค เธอไปเล่นได้เลย เราอยู่บ้านเฉย ๆ ก็ได้ แต่สิ่งที่อยากถามพี่ๆดีเจ คือ มีวิธีไหนบ้างที่จะบอกให้เขาแฟร์ ๆ กับเรา หรือวิธีพูดให้เขาเปลี่ยนความคิดสักนิดนึงได้ไหม? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าคนลักษณะนี้ ด้วยอายุเท่านี้ พูดไปเขาก็ไม่น่าจะฟังเหตุผลหรอก น้ำก็เคยคุยกันไปแล้วเรื่องสงกรานต์จบที่เลิกกัน พี่ยังคิดไม่ออกเหมือนกันจะมีเหตุผลอะไร ที่ทำให้คนคนนึงเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกซะจากว่าวันหนึ่งเขาจะอายุมากพอ ความคิดโตพอที่จะแยกแยะได้ ระหว่างความหึงหวงใดใดก็ตามกับความไว้ใจคนของเรา แล้วก็เหมือนใจกว้างมากขึ้น ถ้าหนูพยายามที่จะหาจุดกึ่งกลางกับผู้ชายคนนี้ ณ เวลานี้พี่ว่ายังยากอยู่ ถ้ารักจริง ๆ พร้อมที่จะยอมจริง ๆ ก็อาจจะต้องทนก่อนระยะนี้ แต่พี่คิดว่าเขาไม่น่าจะเปลี่ยนเร็ว ๆ นี้ ด้วยความที่อายุ 22 ปีเท่ากันอยู่ แล้วหนูก็ไม่อยากให้เขามาเปลี่ยนตัวตนหนู แต่เอาเข้าจริงหนูก็ยอมเขา เพราะฉะนั้นถ้ายังคบกับเขา พี่ว่ายังไงก็ต้องยอมแบบนี้ ให้เอาเหตุผลอะไรไปพูด เดี๋ยวก็เลิกกันอีก เอาเป็นว่าถ้าเขามาฟัง สิ่งเดียวที่พี่พอจะช่วยได้ก็คือ ไอ้หนุ่มเอ้ย พ่อหนุ่ม เมื่อก่อนพี่ก็เป็น แต่เดี๋ยวเราโตขึ้นมันจะค่อย ๆ ใจกว้างขึ้นแหละ แล้วถ้ายิ่งโตขึ้นได้เร็วเมื่อไหร่ แฟนเราก็จะได้หายใจหายคอ แล้วความอึดอัดที่อยู่ด้วยกันก็จะยิ่งน้อยลงไปเรื่อย ๆ ชีวิตจะยิ่งมีความสุขขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเรารู้จักปล่อยวางนะไอ้หนุ่มนะ’ ต่อมา “ดีเจอ้อย” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าก่อนจะไปคุยกับเขา หนูคุยกับตัวเองก่อน ไม่รู้สิเวลาที่คนเรารักกันมันก็ต้องอยากให้เขามีความสุขในการอยู่ข้าง ๆ เรา ไม่ได้แปลว่าอยู่กับฉัน แล้วเธอต้องทำสิ่งสิ่งนั้น สิ่งนี้ นี่มีแฟนไม่ได้เข้าคุก การที่บอกว่าต้องแฟร์กับหนูหน่อย หนูก็ต้องแฟร์กับตัวเองด้วยเหมือนกันว่า เฮ้ย ชีวิตฉัน ฉันอยากมีแฟนแล้วทำให้ฉันมีความสุขในทางของฉันเช่นเดียวกัน และเมื่อไหร่ก็ตามทีที่เขาเองบังคับใด ๆ แล้วน้องก็ทำตามสิ่งที่เขาบังคับมาโดยตลอด อะไรจะเข้าฝันเขาหรอว่า เขาฝันเสร็จปั๊บ พรุ่งนี้ปล่อยให้น้ำเป็นอิสระบ้างดีกว่า สงสารน้ำจังเลย ไม่มีทาง วันนี้พี่ยังเป็นคนที่เชื่อเสมอว่า คนเราอะไรก็ได้ ไม่มีอยู่จริงหรอก ความรักของคนที่เป็นผู้ใหญ่ มันจะไม่ใช่แค่ห้ามทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ พี่ว่านิดนึงน้ำเองก็ดันมีความรู้สึกว่า พี่ แต่เขาก็หวงหนูไงคะ หนูก็เลยรู้สึกว่าการหวงถือว่าเป็นการรักมาก แต่พี่ไม่ได้อยากพูดให้น้องนอยด์นะ พี่เห็นมาเยอะมากว่า ไอ้คนที่หวงแฟนระดับเกินเบอร์ไปมาก ตัวเองทำทุกอย่างเลย แล้วยิ่งถ้าน้องทำตัวเองเป็นดาวบริวารที่โคจรรอบตัวเขา ยอมเขาอะไรก็ได้ ขนาดเรื่องนี้คนที่ควรโกรธคือเราด้วยซ้ำ น้องกลับกลายเป็นง้อ พี่ว่าคน 2 คนเวลารักกัน เราต้องแคร์ความสุขของกันและกันด้วย ไม่ใช่พยายามบังคับให้เราเป็นแบบนั้นแบบนี้ และเราเองก็ดันพยายามบังคับตัวเองให้เป็นแบบนี้ด้วย อึดอัดก็อึดอัด แต่แสดงออกก็ไม่ได้กลัวเขาไม่รัก พี่รู้สึกว่าหึงนิด ๆ น่ารักนะ แต่หึงมากไปคล้ายดูถูก หึงมากไม่ได้แปลว่ารักมาก แต่แค่อยากเป็นเจ้าของชีวิต พี่เป็นคนที่เชื่อว่าคนรักกันเป็นเจ้าของหัวใจ แต่ไม่ใช่เจ้าของชีวิต เขาควรจะรู้ว่าน้ำมีความสุขกับเรื่องนี้ และถ้าเกิดเขาหวงมากก็แค่มาเล่นน้ำกับหนู พาหนูไปด้วย เขาไม่แฟร์กับหนูไม่เท่าหนูไม่แฟร์กับตัวเอง คือรักเขาพี่เข้าใจ แต่การรักเขาไม่ได้แปลว่าต้องยอมทุกสิ่ง จนกระทั่งเบียดบังความสุขของตัวเอง’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าจะให้พี่พูดอะไรกับแฟนหนู พี่ก็จะบอกเขาว่า ต้องรู้จักที่จะให้เกียรติคนรักมากกว่านี้ สิ่งเดียวที่เขาทำตอนนี้มันมาจากเรื่องเดียวที่พี่รู้สึกคือ เขาไม่ไว้ใจ เหมือนเขาจะตัดสินว่าการที่น้องน้ำแต่งตัวแบบนี้ มันจะทำให้น้องน้ำนอกใจเขา สำหรับพี่รู้สึกว่าแฟนกันมันต้องไม่ทำให้พี่ไม่ชอบตัวเอง เราชอบแต่งตัวแบบนี้ เรามีความสุขกับการแต่งตัวแบบนี้ ซึ่งมันอยู่ในขอบข่ายที่ไม่ได้อนาจาร คนทั่วไปเขาก็แต่งกัน อยู่ ๆ ก็ไม่ให้เราแต่ง น้ำต้องตื่นมาใส่กางเกงบอล ใส่เสื้อตัวใหญ่ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี แต่ตัวเองไม่ได้ชอบ พี่รู้สึกว่ามันคือคนรักที่เราจะมีความสุขจริง ๆ หรอ คนที่อยู่ด้วยกันแต่ทำให้เราไม่ชอบตัวเองอยู่คนเดียวดีกว่าหรือเปล่า’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1