เวลาซื้อข้าวเหนียวหมูทอดที่ร้าน หมูสามชั้นจะหมดเร็วมากกกก แต่เวลาจะถึงคิวหนู คนที่มาต่อคิวข้างหลังหนู เขาจะพูดขึ้นมาว่า “โอ๊ยยย หมูสามชั้นจะหมดแล้วอะ อยากกินอ่ะๆ” พอหนูได้ยินแบบนี้ หนูกลับเกรงใจ ไม่กล้าสั่งหมูสามชั้นเลย

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เวลาซื้อข้าวเหนียวหมูทอดที่ร้าน หมูสามชั้นจะหมดเร็วมากกกก แต่เวลาจะถึงคิวหนู คนที่มาต่อคิวข้างหลังหนู เขาจะพูดขึ้นมาว่า “โอ๊ยยย หมูสามชั้นจะหมดแล้วอะ อยากกินอ่ะๆ” พอหนูได้ยินแบบนี้ หนูกลับเกรงใจ ไม่กล้าสั่งหมูสามชั้นเลย

21 พ.ย. 2025

เวลาซื้อข้าวเหนียวหมูทอดที่ร้าน หมูสามชั้นจะหมดเร็วมากกกก
แต่เวลาจะถึงคิวหนู คนที่มาต่อคิวข้างหลังหนู เขาจะพูดขึ้นมาว่า
“โอ๊ยยย หมูสามชั้นจะหมดแล้วอะ อยากกินอ่ะๆ”
พอหนูได้ยินแบบนี้ หนูกลับเกรงใจ ไม่กล้าสั่งหมูสามชั้นเลย
ทั้งๆที่เป็นเมนูที่หนูอยากกินตั้งแต่แรก 
ปัญหานี้เจอมาตั้งแต่สมัยเรียน จนทุกวันนี้ก็ยังเจออยู่ 
ถ้าเป็นทุกคนจะทำยังไงหรอคะ เวลาได้ยินคนข้างหลังพูด
ว่าอยากกินเมนูเดียวกับเรา จะสั่งเลย หรือ จะเก็บไว้ให้เขากินแทน

       “คุณนุ่น (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี เป็นสายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์คพุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (19 พฤศจิกายน 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาการอดกินเมนูที่ชอบเพราะคนข้างหลัง

       “คุณนุ่น (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เรื่องเกิดขึ้นช่วงที่อยู่ในมหาวิทยาลัยค่ะ จะมีร้านอาหารที่ขายเมนูข้าวเหนียวหมูห่อ ซึ่งเป็นร้านเดียวที่ขายดีที่สุดในมหาวิทยาลัย พวกเราจะกินเป็นอาหารเช้า ซึ่งข้าวเหนียวหมูห่อมีหลายเมนู ทั้งหมูสามชั้น หมูทอด หมูฝอย และหมูแดดเดียว

       แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือ ทุกครั้งที่หนูไปซื้อ ข้าวเหนียวหมูสามชั้นก็จะเหลือห่อสุดท้าย พอถึงคิวของหนู คนที่อยู่ข้างหลังมักจะพูดว่า ‘หมูสามชั้นจะหมดแล้วอ่า…’ เหมือนจงใจให้หนูได้ยิน ทำให้หนูไม่กล้าสั่งเมนูที่ชอบ สุดท้ายก็อดกินหมูสามชั้นทุกทีค่ะ ถ้าเจอสถานการณ์นี้อีก หนูควรจะสั่งไปเลย หรือจะยอมอดดีคะ?”

       เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ดีแล้วนะที่นุ่นใจดีขนาดนี้ แต่ถ้าเป็นพี่นะ พี่จะสั่งไปเลย จะทำหน้าตาเฉย ๆ ไม่สนใจ พี่จะไม่หันไปมองคนที่พูด ทำเป็นเนียน ๆ ไปแบบไม่ให้เขารู้ตัวเลยว่าเรากำลังได้ยิน’

       ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาเสริมว่า ‘จริง ๆ นะ นุ่น มันเป็นสิทธิของหนู ถ้าหนูเป็นคนใจดี ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้าเป็นพี่ พี่จะหันไปบอกเลยว่า ‘ขอโทษนะคะ’ แล้วสั่งหมูสามชั้นไปเลย ถ้าเขาพูดว่า ‘จะหมดแล้วอ่า’ พี่ก็คงจะพูดว่า ‘ใช่ค่ะ หมดแล้วค่ะ เพราะจะสั่งนี่แหละ (หัวเราะ)’

       และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาปิดท้ายว่า ‘พี่เข้าใจเลยนะนุ่น ถ้าพี่เป็นคนข้างหลัง พี่จะรู้สึกดีใจมากที่เจอคนแบบนุ่น แต่ถ้าเป็นพี่นะ หมูทั้งหมดนี้สแกนจ่าย ซื้อหมดเลยค่ะ! (หัวเราะ) ถ้าหมูสามชั้นอยู่ในมือพี่แล้วก็จะใช้สิทธิเต็มที่ มันเป็นสิ่งที่เราจะได้รับ ไม่ได้แปลว่าเราใจร้าย แต่ควรที่จะเลือกคำปรึกษาของพี่เผือก คือถูกต้องที่สุด เราควรสั่งในสิ่งที่เราอยากจะกิน’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 –23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูไปกินหมูทอดป้าตือมา ระหว่างรอคิวก็แอ๊วผู้ชาย ขาว ตี๋ หุ่นดี สเป็กหนู แล้วเราก็ดีลกัน ขึ้นรถเขาไป เอะใจตั้งแต่บนรถมีแก้วนมเหม็นเปรี้ยว 5 ใบ พอถึงห้อง โอ้โห เหมือนห้องในข่าว ห้องน้ำมีแต่ขน สุดท้ายรับบทแม่บ้าน

02 ส.ค. 2024

หนูไปกินหมูทอดป้าตือมา ระหว่างรอคิวก็แอ๊วผู้ชาย ขาว ตี๋ หุ่นดี สเป็กหนู แล้วเราก็ดีลกัน ขึ้นรถเขาไป เอะใจตั้งแต่บนรถมีแก้วนมเหม็นเปรี้ยว 5 ใบ พอถึงห้อง โอ้โห เหมือนห้องในข่าว ห้องน้ำมีแต่ขน สุดท้ายรับบทแม่บ้าน

หนูไปกินหมูทอดป้าตือมา ระหว่างรอคิวก็แอ๊วผู้ชาย ขาว ตี๋ หุ่นดี สเป็กหนูแล้วเราก็ดีลกัน ขึ้นรถเขาไป เอะใจตั้งแต่บนรถมีแก้วนมเหม็นเปรี้ยว 5 ใบพอถึงห้อง โอ้โห เหมือนห้องในข่าว ห้องน้ำมีแต่ขน สุดท้ายรับบทแม่บ้านนั่งพับผ้า ล้างห้องน้ำ ซักผ้าให้เขาถึงตีหนึ่งครึ่งแล้วกลับบ้าน “คุณซาน (นามสมมติ)” อายุ ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [31 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจก็อตจิ – ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาไปห้องผู้ชายครั้งแรกต้องไปทำความสะอาดห้องให้เขา โดย “คุณซาน (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘หนูได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งแล้วหนูได้เข้าไปห้องเค้าครั้งแรก แทนที่หนูจะได้กินเค้า หนูต้องไปเป็นแม่บ้านทำความสะอาดห้องให้เค้าแทน หนูขอเกริ่นก่อนว่าหนูไปเจอเค้าตอนหนูกินจิ๊นทอดป้าตือ แล้วทีนี้หนูมันเป็นวันที่ร้านป้าตือไฟดับ แล้วรถหนูกับเขาจอดข้างกัน แล้วเขาเปิดประตูรถมาตีรถหนู หนูกับเค้าเลยแลกคอนแทคกันเพื่อที่จะทำเรื่องประกัน ทีนี้เค้าเห็นหนูอัพสตอรี่ว่าหนูเล่นเกม ๆ หนึ่ง ซึ่งเค้าเป็นสตรีมมิ่งเกมนี้อยู่แล้ว ก็เลยคุยกัน แล้วเค้าก็พูดประมาณว่าอยากหาเพื่อนไปเล่นด้วย แต่หนูก็รู้แหละว่าเค้าจะหลอกไปกินที่ห้อง แต่หนูก็พร้อมไป First Impression แรกที่หนูตัดสินใจไปคือ เค้าสูงพอ ๆกับหนู ขาวตี๋ สเปคหนู เค้าก็ถามหนูว่าไปรถเค้ามั้ย หนูก็แบบได้ พอขึ้นรถเค้าสิ่งแรกที่หนูเห็นคือ แก้วกาแฟที่กินแล้ว 4 - 5 แก้วทิ้งไว้ในรถ และกลิ่นมันเปรี้ยว ๆ แล้วก็มีอาหารที่เค้ากินแล้วทิ้งไว้บนรถบางส่วน พอไปถึงห้องเค้าที่เป็นคอนโดอยู่เอกมัย หนูเปิดเข้าไปก็มีตะกร้าที่เต็มไปด้วยถุงเท้าที่ใส่แล้วประมาณ 2 ตะกร้าครึ่ง และค่อนข้างมีกลิ่น เดินเข้าไปหนูก็สะพรึงตรงที่ของกินในห้องเค้า ทั้งแก้วกาแฟ ไก่ทอด กล่องข้าวที่เป็นขยะ แบบเยอะมาก ๆ ซึ่งมันคอนทราสกับหน้าเค้าหุ่นเค้า หนูก็เริ่มเอะใจกลัวว่าจะเจออะไรแปลก ๆ อีก ละหนูเป็นคนตัวอ้วนตัวเหม็น ก่อนจะกินกันหนูขอไปล้างตัวก่อน พอหนูเปิดเข้าไปในห้องน้ำ สิ่งที่เห็นคือเหมือนห้องน้ำที่ไม่ได้ล้างมานานมาก และรวมสารพัดขนไว้ มีทั้งกลิ่น ทั้งคราบเหลือง แล้วด้วยหนูเป็นฝ่ายรับก็ต้องทำแท้ง (คือการเตรียมความพร้อมก่อนมีเพศสัมพันธ์) บ้าง หนูก็ไม่กล้าทำ สรุปวันนั้นหนูเลยเก็บห้องให้เค้า ล้างห้องน้ำ พาเค้าเอาเสื้อผ้าไปซัก หนูก็เลยถามเค้าว่าปกติเค้าจ้างแม่บ้านไหม? เขาก็บอกว่าเขาจ้างเดือนละสองครั้งแต่ที่ถุงเท้ามันเยอะเพราะว่าตอนเช้าเค้าเข้าฟิตเนส แล้วตอนเย็นหลังจากกลับมาจากทำงานก็ไปเล่นฟิตเนสอีกรอบนึง แล้วหนูก็บอกเค้าว่าถ้ามาครั้งหน้าเดี๋ยวซื้อถังขยะมาให้ เวลาเค้ากินก็ให้ใส่ไว้จะได้เอาไปทิ้งทีเดียว วันนั้นหนูก็ไม่ได้กินเค้า เพราะทำความสะอาดเสร็จ 5 ทุ่มกว่า พาไปปั่นผ้าเสร็จตี 1 หลังจากนั้นหนูเลยแก้ปัญหาด้วยการนัดเค้าออกมาเจอข้างนอกแล้วเช่าโรงแรม ไม่ก็มาที่ห้องหนู แต่ปัญหาตอนนี้ที่หนูอยากถามคือเค้าบอกว่าหนูเป็นคนพูดตรง แล้วเวลาพูดหนูเหวี่ยง ซึ่งเค้าเป็นคน Introvert เลยทำให้เวลาบางทีที่หนูพูดเค้ารู้สึกว่ามันแรง หนูก็เลยกลัวว่าถ้าหนูพูดกับเขาไปตรง ๆ หนูก็กลัวว่าความสัมพันธ์มันจะเปลี่ยน เพราะตอนนี้จาก FWB มันเริ่มพัฒนาขึ้น เพราะเราสองคนก็มีอะไรเหมือนกัน เราชอบกินอะไรคล้ายกัน เล่นเกมเหมือนกัน ขับรถรุ่นเดียวกัน หนูก็เลยไม่รู้ว่าหนูควรพูดกับเค้าตรง ๆ ดีมั้ย? เพราะหนูเป็นคนพูดตรง เช่น เวลาไปกินข้าวด้วยกัน แล้วมันมีอะไรที่หนูไม่ได้สั่ง หนูก็จะพูดว่าหนูไม่ได้สั่ง หรือบางทีเวลาหนูเจอคนแซงคิว หนูก็จะดึงคนนั้นออกมา และบอกว่าแซงไม่ได้นะคะ เค้าก็เลยบอกว่าหนูเป็นคนตรงเกิน แรงจัง หนูก็เลยอยากถามพี่ ๆ ว่าหนูควรพูดไปตรง ๆ เลยดีมั้ยว่าถ้าเกิดเราจะคุยกันยาว ๆ หนูควรบอกเรื่องนี้ดีไหม แต่หนูก็กลัวว่าความตรงของหนูจะเสียผู้ชายคนนี้ไป’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าหล่อนคิดว่าเค้าคือเทส หล่อนมีหน้าที่เก็บให้เค้าค่ะ เราเหนื่อยได้แต่ผู้ชายต้องสบาย ผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงวีน หล่อนวีนไม่ได้ แรงนี่ใช้ตอนอยู่กับเพื่อนสนิท แต่ต่อหน้าผู้ชาย หล่อนฝึกไว้เลยหล่อนท่องไว้เลยว่ากับผู้ชายอย่าเป็นตัวของตัวเองแบบ 100% ละกว่าเทสนี้จะเข้าถึงปากถึงท้องเรา ฉะนั้นแปลว่าเค้าเป็นอาหารสวรรค์ มันเป็นจานมิชลิน เพราะฉะนั้นหล่อนต้องดูแลเค้า ค่อย ๆ ฝึกเค้าว่าต้องทำยังไงบ้าง สรรหาให้เค้า รองรับคุณเค้า’ ต่อมา “ดีเจอั๋น” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่แค่คิดว่าถ้าหนูทนหนูก็ต้องทนให้ได้ตลอด เพราะ ณ ตอนนี้พี่ว่าหนูทนได้เพราะหนูยังรู้สึกอร่อยกับอาหารจานนี้อยู่ แต่โดยปกติดถ้าเราได้กินซ้ำ ๆ แล้วสักพักจะมีคำถามกลับมาว่าทำไม่ฉันต้องมานั่งเช็ดส้วมให้แก คือพี่มองว่าเราไม่ได้ต้องมาหาเจ้าชายที่มันเพอร์เฟคไปหมด ที่กินเสร็จแล้วต้องล้างจาน มันอาจจะไม่จำเป็น แต่มันน่าจะอยู่ในขอบเขตที่เราโอเค เช่นการทำเล็ก ๆ น้อย ๆ พี่ว่ายังทนได้และเป็นเรื่องปกติแต่ถ้าเค้าเป็นคนสกปรกในเชิงล้ำลึกเช่นกินบนรถเสร็จแล้วไม่ทิ้งแล้วปล่อยให้บูด ถ้าให้พี่แนะนำคือปล่อยไปก่อน ถ้าเรายังมีความสุขก็ลองไปก่อน ถ้าไม่งั้นก็เข้าไปบริหารชีวิตเค้าว่าฉันจะจ้างแม่บ้านให้ หรือเรื่องที่เราทนไม่ได้ที่สุดก็พูดเพราะ ๆ กับเค้า อาจจะจัดอันดับว่า แค่ 3 เรื่องเองนะที่ขอ แบบนี้ก็ได้ ถ้าไม่ได้เราก็คิดแค่ว่าตอนนี้คุ้มทำไปก่อน’ สุดท้าย “ดีเจก็อตจิ” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หนูบอกว่าหนูเป็นคนพูดตรง ๆ แต่หนูต้องแยกให้ออกระหว่างพูดตรงหรือพูดแรง คนเค้าจะไม่โกรธเท่าไหร่ถ้าเราพูดตรง แต่ถ้าเราพูดแรง มันเหมือนเป็นการหักหาญน้ำใจ หนูลองปรับวิธีพูดดู พี่ก็สนับสนุนให้เราอย่าทิ้งเค้าไป เค้าก็ยังชอบที่จะกินอยู่ ลองคุยตรง ๆ เลย แต่อย่าไปแรงกับเค้า ทำตัวอ่อนหวานกับเค้า’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คุณพ่อ ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่สุดท้ายปฏิเสธการรักษาเพราะ … ไปใช้สิทธิประกันสังคม ครั้งแรกได้ยินพยาบาลบ่นใส่ “เบื่อตาแก่คนนี้จัง” ครั้งที่สอง ขอให้พาไปห้องน้ำหน่อยได้ไหม? พยาบาลบอก “ตายในห้องน้ำมาหลายคนแล้ว” จนครั้งนี้ เศร้าที่สุดคือ พ่อบอก...

21 ส.ค. 2023

คุณพ่อ ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่สุดท้ายปฏิเสธการรักษาเพราะ … ไปใช้สิทธิประกันสังคม ครั้งแรกได้ยินพยาบาลบ่นใส่ “เบื่อตาแก่คนนี้จัง” ครั้งที่สอง ขอให้พาไปห้องน้ำหน่อยได้ไหม? พยาบาลบอก “ตายในห้องน้ำมาหลายคนแล้ว” จนครั้งนี้ เศร้าที่สุดคือ พ่อบอก...

คุณพ่อ ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่สุดท้ายปฏิเสธการรักษาเพราะ…ไปใช้สิทธิประกันสังคม ครั้งแรกได้ยินพยาบาลบ่นใส่ “เบื่อตาแก่คนนี้จัง”ครั้งที่สอง ขอให้พาไปห้องน้ำหน่อยได้ไหม? พยาบาลบอก “ตายในห้องน้ำมาหลายคนแล้ว”จนครั้งนี้ เศร้าที่สุดคือ พ่อบอก เปลี่ยนผ้าอ้อมให้หน่อยนะครับ เจ้าหน้าที่บอก...“คนนี้ก็จะตาย คนนั้นก็จะเปลี่ยนผ้าอ้อม มาดูกันว่าใครจะตายก่อนกัน” “คุณปีใหม่ (นามสมมติ)” อายุ 25 ปี สายแรกในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา(16ส.ค. 66)ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก -ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอมเกี่ยวกับปัญหาคุณพ่อเจอคำพูดที่ทำร้ายจิตใจจากบุคลากรทางการแพทย์จนไม่มีใจอยากรักษา โดย “คุณปีใหม่ (นามสมมติ)” เล่าว่า `พ่อป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐในตัวจังหวัดแห่งหนึ่ง หลังจากที่เข้าคีโมครบหกครั้งแล้ว พ่อมีสภาวะแทรกซ้อน ก็คือเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พ่อมีอาการปวดขาข้างขวาขึ้นมา แล้วทีนี้คุณหมอจะนัดพบทุกๆ 3 เดือน เพื่อตรวจเลือด แต่แกมีอาการปวดขาแล้วไม่ยอมไปหาหมอเลย ด้วยทางบ้านหนูก็ไม่ได้มีรถยนต์ ไม่ได้มีรถส่วนตัว เวลาที่จะไปหาหมอแต่ละทีจะลำบาก ก็ต้องไปรถโดยสารแทน แกเลยรอให้ถึงกำหนดนัดก่อน ถึงจะไปโรงพยาบาล แล้วกำหนดนัดอีกครั้งก็คือ กันยายนเลย แต่ด้วยอาการของแก มันปวดมาก จนนอนไม่ได้ ทานข้าวไม่ได้เป็นระยะเกือบเดือนเลย จนถึงสัปดาห์ที่แล้ว ก็เลยตัดสินใจจะเรียกรถฉุกเฉิน คือจะต้องไปหาหมอแล้วแกรอไม่ไหวแล้ว พอไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอตรวจอาการเบื้องต้นและด้วยพ่อมีโรคประจำตัว คุณหมอบอกว่า “จะต้องให้คุณหมอที่เป็นเจ้าของไข้มาดูอาการ และค่อยทำเรื่องส่งไปรักษากระดูก” คือต้องรอก่อน พอคุณหมอเจ้าของไข้มาถึงก็ให้พ่อนอนรอดูอาการที่ห้องรวมคนไข้ เบื้องต้นหนูได้แจ้งหมอไว้แล้วว่า พ่อไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้นะ เพราะคุณพ่อเดินไม่ได้จากอาการปวดขา เวลาที่แกปวดขาก็จะปวดตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาจนถึงเอว รวมไปถึงอวัยวะเพศและมีอาการร้อนมาจากข้างใน และด้วยตำแหน่งเตียงของพ่อจะอยู่ห่างจากห้องน้ำประมาณ 10 เมตร คืออยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้อง หนูก็เลยขอคุณหมออยู่เฝ้าพ่อได้ไหม คุณหมอแจ้งกลับมาว่า ตามปกติแล้วจะไม่ให้ญาติอยู่เฝ้า หนูกับแม่คุยกันว่าไม่เป็นไรถ้าหมอไม่ให้เฝ้า จะให้พ่อใส่แพมเพิสแทน ซึ่งแกไม่เคยใส่แพมเพิสมาก่อน คืนแรกที่ใส่แพมเพิสแกหนูคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร จนวันต่อมาหนูเลิกงานรีบไปหาพ่อเลย สิ่งที่หนูเจอคือ คุณพ่อมีอาการหน้าซีด ตัวสั่นเหมือนตกใจอยู่ตลอดเวลา หนูคิดว่าเป็นอาการจากที่แกไม่ได้กินข้าว หรือปวดขามากจนไม่ได้นอนหรือเปล่า ก็เลยถาม “พ่อวันนี้ปวดขาไหม” แกตอบไม่ค่อยปวดเท่าไหร่ แล้วก็เงียบไป ซึ่งปกติพ่อจะเป็นคนชอบชวนคุย เวลาถามกลายเป็นคนถามคำตอบคำ ซึ่งตามปกติเวลาเยี่ยมของโรงพยาบาลรัฐ เขาจะแบ่งเป็น 3 ช่วง เริ่มจาก 6 โมงเช้า - 8 โมง และช่วงเที่ยง – บ่ายโมง ช่วงสุดท้าย 5 โมง – 1 ทุ่ม พอใกล้หมดเวลาเยี่ยม พ่อก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าแชทไลน์กลุ่ม แล้วพิมพ์เล่าถึงเหตุการณ์แรกที่แกเจอว่า เมื่อคืนพ่อโดนพยาบาลดุ เพราะแกจะให้พยาบาลช่วยเปลี่ยนแพมเพิสให้ ด้วยความที่แกไม่เคยใส่แพมเพิสมาก่อน อาจจะมีอาการร้อนหรือปัสสาวะเต็มแล้ว แกเรียกพยาบาล 2-3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งก็เว้นระยะประมาณ 30 นาที พยาบาลก็รับรู้ ฟังที่พ่อพูดแล้วก็เดินหนีไป จนประมาณตี 3 - 4 คุณพ่อก็ถามอีกครั้งว่า “เปลี่ยนแพมเพิสให้หน่อยได้ไหมครับ มันเต็ม” พยาบาลก็ตอบกลับด้วยภาษาอีสาน แปลออกมาก็ความหมายประมาณ ฉันเบื่อตาแก่คนนี้จัง... เหตุการณ์ที่สอง ต่อเนื่องจากที่พยาบาลไม่ยอมเปลี่ยนแพมเพิสให้ แกก็พยายามที่จะลุกไปเข้าห้องน้ำเอง แต่ด้วยความที่แกไม่มีไม้เท้า ทำให้ขณะที่พยายามลุกก็เกิดเสียงดังที่เตียงขึ้น ทำให้พยาบาลหันมาเห็น แล้วถามว่า “ทำอะไร” พ่อก็บอกว่า“จะไปเข้าห้องน้ำครับ พาไปเข้าห้องน้ำได้ไหม” พยาบาลพูดประมาณว่า “ตายมาหลายคนแล้วนะอยู่ในห้องน้ำ” หนูคิดว่าเหมือนพยาบาลจะสื่อว่าเดี๋ยวลื่นอะไรประมาณนี้ จนเหตุการณ์ที่สามที่พ่อเจอคือ เตียงข้างๆเป็นผู้สูงอายุใกล้จะเสียชีวิตแล้ว พยาบาลก็มารุมดูกันที่เตียงแล้วมีคนยืนข้าง ๆเตียงของพ่อ พ่อก็เลยกระซิบบอก “คุณหมอครับ ผมรบกวนเปลี่ยนแพมเพิสให้หน่อยได้ไหม” ซึ่งคนที่ยืนอยู่เป็นบุรุษพยาบาล ตอบกลับพ่อว่า “เอ้า! คนนึงก็จะตาย อีกคนก็จะเปลี่ยนแพมเพิส มาดูกันว่าใครจะตายก่อนกัน” หลังจากนั้นพ่อโทรหาหนู แกขอกลับบ้าน หนูก็ถามแกเป็นอะไรหรือเปล่า เป็นเพราะเหตุการณ์ที่พิมพ์มาใช่ไหม หนูก็บอกแกไม่เป็นไรนะหนูจะคุยกับคุณหมอให้ว่าขอย้ายได้ไหม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เจอคุณหมอ พ่อเซ็นปฏิเสธ การรักษาเองทั้งหมด พอกลับบ้านมา พ่อเปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน แกจะพูดเรื่องที่แกเจอย้ำๆ ซ้ำๆ ประมาณว่า พ่อจู้จี้เกินไปหรอ พ่อไปเป็นภาระให้เขาหรือเปล่า หรือเขาคิดว่าพ่อเป็นโรคจิตหรือเปล่า? หลังจากนั้นหนูก็โทรไปร้องเรียนกับทางโรงพยาบาล เขาก็แจ้งมาว่าตอนนี้พ่อมีอาการน่าเป็นห่วงนะ ยังไม่ได้ทำการรักษาอะไรเลย พ่อเซ็นยกเลิกทั้งหมดก่อน หนูบอกเหตุผลที่พ่อยกเลิกการรักษาว่าพ่อเจออะไรบ้าง ทางโรงพยาบาลก็บอก ถ้างั้นจะย้ายตึกให้ ญาติต้องดูแลคนไข้เอง แต่ตอนนี้พ่อไม่อยากรักษาแล้ว แกบอกว่า “ถ้าเกิดพ่อจะตาย ก็อย่าเอาพ่อไปที่นี่อีก” หนูอยากขอคำแนะนำวิธีหรือคำพูดยังไงดี ไม่ให้พ่อโทษแต่ตัวเอง... ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘พูดไปเลยว่าพยาบาลคนนั้นคงเครียด อาจจะมีเรื่องเยอะแยะมากมาย คนอื่นๆก็โดนแบบนี้เหมือนกัน พ่อไม่ต้องไปสนใจ พูดให้พ่อรับรู้ว่าสิ่งนี้มันไม่ได้เกิดจากพ่อ แต่มันเป็นเพราะตัวของพยาบาลคนนั้น เป็นเรื่องที่เราบังเอิญไปเจอคนแบบนี้ ทางด้าน “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘เอาชื่อไป complain กับทางโรงพยาบาล ให้เขาได้รับรู้ว่าบุคคลนี้เป็นปัญหาของแผนกนั้นอยู่ แล้วพยายามบอกคุณพ่อว่า มันไม่ได้เป็นปัญหาที่พ่อ แต่มันเป็นปัญหาที่คน ลองยกตัวอย่างคนที่เขาดีๆ สุดท้ายไม่ใช่ความผิดของพ่อเลย อาการ ร่างกายที่จะดีขึ้นก็คือ จิตใจต้องดีขึ้นก่อน ถ้าจิตใจเราแข็งแรงเดี๋ยวอย่างอื่นก็จะตามมาครับ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘หนูอยากให้คุณพ่อรักษาตัวเอง ไม่ใช่เพื่อใครเลย แต่เพื่อครอบครัวของเรา เพื่อคนที่เรารัก กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าเกิดพ่อห่อเหี่ยว คนในบ้านก็จะห่อเหี่ยวตามนะ ขอให้พ่อกลับไปรักษาเราจะได้อยู่กับลูกหลานไปนาน ๆ ส่วนเรื่องพยาบาล พ่อไม่ผิดเลย ยายนั่นมันร้ายเอง คนอย่างยายนั่นต้องเจอคนแบบหนู...’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หรือเราต้องเป็นฝ่ายยอม? สาวโทรปรึกษา 3 ดีเจในรายการ คบกับแฟนชาวอินเดียได้ 6 เดือน แฟนมาบอกว่า “ต้องกลับบ้านไปแต่งงาน” เป็นวัฒนธรรม ประเพณีที่บ้านเขาทำมานานแล้ว ขอกลับไปอยู่ 3 เดือน จะต่อวีซ่าแล้วกลับมาอยู่ด้วยกันอีก 4 ปี ตอนนี้สับสนไปหมด ควรรอไหม?

01 ก.ย. 2023

หรือเราต้องเป็นฝ่ายยอม? สาวโทรปรึกษา 3 ดีเจในรายการ คบกับแฟนชาวอินเดียได้ 6 เดือน แฟนมาบอกว่า “ต้องกลับบ้านไปแต่งงาน” เป็นวัฒนธรรม ประเพณีที่บ้านเขาทำมานานแล้ว ขอกลับไปอยู่ 3 เดือน จะต่อวีซ่าแล้วกลับมาอยู่ด้วยกันอีก 4 ปี ตอนนี้สับสนไปหมด ควรรอไหม?

หรือเราต้องเป็นฝ่ายยอม? สาวโทรปรึกษา 3 ดีเจในรายการคบกับแฟนชาวอินเดียได้ 6 เดือน แฟนมาบอกว่า “ต้องกลับบ้านไปแต่งงาน”เป็นวัฒนธรรม ประเพณีที่บ้านเขาทำมานานแล้ว ขอกลับไปอยู่ 3 เดือนจะต่อวีซ่าแล้วกลับมาอยู่ด้วยกันอีก 4 ปี ตอนนี้สับสนไปหมด ควรรอไหม?ใจจริงไม่อยากเลิก แต่ก็ทนเห็นเขาอยู่กินกับผู้หญิงอีกคนไม่ไหว... “คุณบี (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [30 ส.ค. 66] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจไตเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาคบกับแฟนต่างชาติแต่แฟนต้องกลับไปแต่งงานกับคนที่พ่อแม่เลือกให้ โดย “คุณบี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับผู้ชายอินเดียมาได้ 6 เดือน ตั้งแต่คบกันมาราบรื่นดี ไม่เคยมีเรื่องอะไรกันเลย จนล่าสุดเมื่อ 3 วันที่แล้วเขามาบอกกับหนูว่า เขามีความจำเป็น ต้องกลับบ้านที่ประเทศอินเดีย เพื่อไปแต่งงานกับคนที่พ่อ-แม่เขาหาไว้ให้ หนูก็ช็อกและถามเขาว่า ทำไมต้องกลับไปแต่ง หรือ คุณมีภรรยาอยู่ที่นู้นใช่มั้ย? ทำไมคุณไม่บอกฉัน เขาบอกว่า เขามาไทย เขาไม่มีใครเลย เขาโสด 100% แต่ที่เขาต้องกลับไป มันเป็นเพราะประเพณีทางบ้านเขา มันยังมีการคุมถุงชนอยู่ เขาบอกว่าเขามีความจำเป็นต้องกลับไปแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ เขาบอกว่า เขาไม่ทำไม่ได้ เพราะมันเป็นหน้าที่ที่ลูกต้องตอบแทนพระคุณพ่อแม่ ตอนนี้เขาทำงานอยู่ที่ประเทศไทย เขาบอกว่าเขาจะต้องกลับไปแต่งงานอีก 3 เดือนข้างหน้า และก็อยู่ที่นั่นอีก 3 เดือน แล้วเขาก็จะต่อวีซ่ากลับมาอยู่ที่ประเทศไทยอีก 4 ปี หนูก็ถามเขาว่า แล้วฉันล่ะ? เขาบอกว่าคนที่พ่อกับแม่เลือกให้ เขาไม่ได้รักเลย คนที่เขาเลือกก็คือหนู แต่เขาต้องทำเพราะมันเป็นหน้าที่ หนูไม่โอเคเลย การที่เห็นแฟนไปแต่งงานกับคนอื่นมันไม่โอเคอยู่แล้ว หนูไม่ยอมหรือเรียกร้อง ทำอะไรไม่ได้เลย แล้วหนูก็ไปเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมบ้านเขาไม่ได้เลย ก่อนที่หนูจะตกลงคบ หนูก็ไม่ได้เช็คหรือถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่บ้านเขาเลย และเขาก็ไม่เคยเล่าให้ฟังเลยว่าบ้านเขามีวัฒนธรรมแบบนี้ เขาบอกว่าถ้าเกิดเขามาเล่าให้หนูฟัง เขาก็กลัวหนูรับไม่ได้และกลัวเสียหนูไป หนูก็มีคิดอยากแต่งงานกับเขาแล้ว แต่เขาเคยบอกว่า วัฒนธรรมทางบ้านเขา ผู้ชายอินเดียถ้าเกิดจะมีภรรยาแรกที่แต่งงานกันต้องมีเชื้อสายอินเดียเท่านั้น! ตอนแรกหนูก็ไม่ยอมและตัดบทเขาไปว่า ฉันจะเลิกกับคุณ ทีนี้เขาก็ไม่ยอมเลิกกับหนู หนูดูออกเลยว่าเขารักหนูมากๆจริงๆ เขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้นเลย เขาไม่ได้เลือกคนนั้น เขาไม่ได้ไปเจอ ไปคุย เขามาเจอหนูก่อน เขารักหนูก่อน แต่เขาต้องทำเพราะมันเป็นหน้าที่ หนูรู้สึกเสียใจมากที่อีก 3 เดือนข้างหน้าต้องเห็นเขาแต่งงานกัน หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า หนูต้องทำยังไงดี? ต้องอยู่แบบนี้ไป ต้องยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น ยอมรับทางบ้านเขา เอาจริงๆ หนูไม่ได้อยากเลิกเลย... งานนี้ทั้ง 3 ดีเจให้คำปรึกษา “คุณบี (นามสมมติ)” ว่า ‘เขามีหน้าที่ต้องไปแต่งงาน แต่หน้าที่ของเขามันดันกระทบเรา ให้เรากลายเป็นเมียน้อยไปปริยาย ต้องถามบีว่าสมัครใจอยู่ในตำแหน่งนี้หรือเปล่า... ความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคน พวกพี่คงไปตัดสินใจอะไรแทนไม่ได้ ถ้าบีแฮปปี้กับตำแหน่งนี้ก็สามารถอยู่ได้ แต่ถ้ารับสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้ พี่มองว่าบีกับแฟนอยู่กันแค่ 6 เดือนเอง ช่วง 6 เดือนมันยังเป็นความหวือหวา เป็นช่วงที่อินเลิฟกันอยู่ เราอาจจะยังไม่เห็นข้อเสียของกันและกันเลย มันเป็นช่วงที่เราต่างเอาใจกัน ความเป็นตัวเองยังไม่ออกมาหมดเลย ถ้ารับประเพณีบ้านเขาไม่ได้ แนะนำให้บีเปลี่ยนบ้าน เปลี่ยนไปประเทศอื่นเลย แต่ถ้าจะรักคนนี้จริงๆ ก็ต้องเข้าใจเขาว่าประเพณีมันเป็นแบบนั้น ถ้าบ้านเขาต้องการให้เขาแต่งงาน บีก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว มันไม่มีทางที่เขาจะมาอยู่กับเราได้ตลอดไป บีต้องยอมรับความจริงให้ได้ และถึงตอนนั้นบีจะเห็นว่ามันไปรอดกันยาก ไม่มีใครอยากไปเป็นเมียน้อยใคร เมื่อเราเห็นอยู่แล้วว่าเรื่องนี้ไม่จบแน่ แต่มันต้องใช้เวลา ยิ่งเราตัดใจได้เร็ว มูฟออนได้เร็ว ปัญหานี้ก็จะจบเร็ว พี่ไม่อยากให้เคสของบีมันเรื้อรัง ต่อให้เคลียร์กันได้ในรูปแบบการใช้ชีวิต มันก็ยังไม่ใช่ชีวิตที่บีต้องการหรอก บางทีเราเจอคนที่ถูกใจ แต่มันผิดเวลา จังหวะการเจอกันมันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้นถ้ามูฟออนได้ก็จะดีมาก...เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูเป็นคนเสียงเล็กมากตั้งแต่เด็กๆ จะโดนเพื่อนล้อมาตลอด มัธยมก็โดนล้อ มหาลัยก็โดนเลียนแบบเสียง คิดว่าจบมาน่าจะไม่มีแล้ว ตอนนี้ทำงานแล้วก็ยังโดนคนล้ออยู่ รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเลย จะเปลี่ยนเสียงตัวเองก็ไม่ได้ ควรจะปรับความคิดและรับมือกับคนแบบนี้ยังไงดี?

17 ต.ค. 2025

หนูเป็นคนเสียงเล็กมากตั้งแต่เด็กๆ จะโดนเพื่อนล้อมาตลอด มัธยมก็โดนล้อ มหาลัยก็โดนเลียนแบบเสียง คิดว่าจบมาน่าจะไม่มีแล้ว ตอนนี้ทำงานแล้วก็ยังโดนคนล้ออยู่ รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเลย จะเปลี่ยนเสียงตัวเองก็ไม่ได้ ควรจะปรับความคิดและรับมือกับคนแบบนี้ยังไงดี?

หนูเป็นคนเสียงเล็กมากตั้งแต่เด็กๆ จะโดนเพื่อนล้อมาตลอด มัธยมก็โดนล้อ มหาลัยก็โดนเลียนแบบเสียงคิดว่าจบมาน่าจะไม่มีแล้ว ตอนนี้ทำงานแล้วก็ยังโดนคนล้ออยู่ รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเลยจะเปลี่ยนเสียงตัวเองก็ไม่ได้ ควรจะปรับความคิดและรับมือกับคนแบบนี้ยังไงดี? “คุณแพรว (นามสมมติ)” อายุ 32 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [8 ต.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อย” เกี่ยวกับปัญหาชอบมีคนมาพูดกับเราว่าไม่ชอบเสียงเรา เสียงมันเล็ก น่ารำคาญ เหมือนยุง โดย “คุณแพรว (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเป็นคนเสียงเล็กแล้วพูดเบาเลยรู้สึกมันเป็นปม เพราะชอบโดนล้อโดนบูลลี่ ปัญหามันเริ่มตอนมัธยม มันจะมีเพื่อนบางคนฝากเพื่อนมาบอกว่า ไม่อยากคุยกับเราเพราะว่ารำคาญเสียงเรา เราเลยไปถามเขาว่าทำไมถึงรำคาญเสียงเรา เขาพูดมาเลยว่า เสียงน่ารำคาญเหมือน ยุง แมลงหวี่ เราก็รู้สึกว่ามันไม่เป็นไรหรอกเพราะมันแค่บางคนที่ไม่ชอบเรา พอขึ้นมหาลัยมา ก็มีเพื่อนที่สนิทกับเราคุยด้วยกันทุกวัน แต่เขากลับพูดว่าทำไมถึงต้องแอ๊บเสียง เราก็เริ่มรู้สึกแปลก ๆ ว่าตอนนี้ยังมีคนคิดแบบนี้อีกหรอ เราก็ไม่อะไร พอมาถึงตอนทำงาน ตอนที่เราเข้าไปทำงานใหม่ ๆ ก็ยังมีคนมาพูดว่า เสียงเธอทำไมมันแง๊ว ๆ บางทีใช้ไมค์เราจะพูดเสียงปกติได้มากขึ้น เพราะมีเครื่องขยายเสียง มันไม่ต้องใช้พลังเยอะ ก็จะมีคนมาพูดว่า วันนี้เสียงเธอเป็นอะไรอะ ปกติเสียงมันแหลม ๆ เรารู้สึกว่ามีคนคิดหลายคนมันไม่น่าปกติแล้ว เราเคยลองอัดเสียงแล้วเอามาฟัง เสียงที่เราได้ยินมันก็ไม่ค่อยเหมือนกันจริง ๆ แต่ก็ไม่รู้สึกแปลกอะไร เราก็พูดระบายให้แฟนฟัง แล้วเราก็ร้องไห้น้ำตาซึม คนอื่นจะมองว่ามันเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เรารู้สึกว่ามันแก้ไขไม่ได้ เพราะว่าเราไม่ได้แอ๊บ เราพูดแบบนี้จริง ๆ เราเคยดูคลิปยูทูปที่เขามีเสียงเล็กกว่าเราอีก เขาก็ไม่เห็นจะมีปัญหาเรื่องนี้เลย แต่ทำไมเราถึงเป็นคนที่มีปัญหา หนูอยากรู้ว่าเสียงหนูปกติมั้ย หนูควรจะปรับแบบไหน? หรือควรปรับความคิดของตัวเองแบบไหน? ให้รู้สึกไม่แย่ในเวลาที่คนอื่นพูดขึ้นมาเรื่องเสียง’ เริ่มด้วย “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เสียงเป็นสิ่งหนึ่งที่แก้ไม่ได้ พี่ไม่ได้รู้สึกว่าเสียงหนูไม่ปกติ บางทีคนอื่นเขามีปัญหากับเสียงเรา ปัญหาอยู่ที่เขานะ ไม่ใช่กับหนู แต่ว่ามันมีอยู่วิธีการหนึ่ง ถ้าหนูเป็นคนเสียงแหลมเล็ก เสียงแบบนี้มันเป็นคนแก้วเสียงใส ข้อดีคือมันจะฟังสดชื่น แต่ถ้าหนูพูดเร็วใช้พละกำลังออกเกินจริง เสียงมันจะบี้ คือแต่ละคนจะมีวิธีการใช้เสียงที่แตกต่างกัน แค่ปรับวิธีของการออกเสียง แต่ไม่จำเป็นจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้คนทั้งโลกถูกใจ’ ต่อด้วย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ไม่ได้รู้สึกว่าเสียงหนูมีปัญหา ปัญหามันอาจจะอยู่ที่เขา ตราบใดก็ตามที่หนูไม่ได้แอ๊บทำเสียง มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเรา คนมันจะอคติ บางทีมันอาจจะมีปัจจัยอื่นมาร่วมด้วย เขาอาจจะไม่ชอบคนหน้าแบบนี้ พอมีเสียงที่เล็กแบบนี้ เขาก็อคติ แต่ถ้าหนูยังสลัดความรู้สึกนี้ออกไปไม่ได้ ทุกวันนี้ก็มีคุณครูสอนเรื่องการใช้เสียง หรือคลาสต่าง ๆ มันช่วยเราออกเสียงได้ ถ้าหนูคิดว่ามันมีปัญหากับการทำงาน ก็ไปเรียนอะไรแบบนี้ก็ได้ เพราะเขาสามารถสอนให้ออกเสียง ให้ขึ้นกับกาลเทศะ เหมาะกับสถานการณ์ที่เราใช้ในแต่ละวัน แต่เสียงมันไม่สำคัญเท่าความหมายที่เราจะสื่อออกไป’ ต่อด้วย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เห็นด้วยกับการไปฝึกไปเรียน วิเคราะห์กันที่เนื้อเสียง ถ้าเรารู้ว่าเสียงของเราสูง มันอาจจะทำให้เขารู้สึกไม่ดีได้ แล้วเราอยากปรับ มันมีวิธีปรับแน่นอน ด้วยย่านเสียงสูงอย่างเดียว มันอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำให้หนู เจอปัญหามา อาจจะเป็น Message ที่เราพูดออกไปเยอะไปหรือเปล่า หนูต้องกลับมาดูตัวเองว่า เลือกพูดสื่อสาร ถูกจังหวะ ถูกกาลเทศะ ถูกเวลา หรือเปล่า เราอายุมากขึ้น วิธีการมองโลกจะเปลี่ยนไป มันเป็นเรื่องของวุฆิภาวะ กาลเทศะ และการเลือกที่จะพูดหรือไม่พูด ที่มันมีมามากขึ้นตามประสบการณ์ชีวิต ฉะนั้นไม่ต้องกลัวถ้าเราจะพูดน้อยลง เพื่อที่จะทำให้บรรยากาศ หรือตัวของเราเองรู้สึกดีขึ้น ลองปรับจังหวะต่าง ๆ การพูดให้ช้าลง ทั้งหมดนี้มันฝึกได้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการInboxฝากเรื่องมาที่FacebookFanpageEFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา20.00 – 23.00น. ทางรายการวิทยุEFM94และAppAtimeFung Fin

album

0
0.8
1