เวลาเข้าห้องน้ำสาธารณะ หนูจะได้กลิ่นเหม็นมากๆจากห้องข้างๆ พอหนูสังเกตุ กลิ่นเหล่านั้นจะมาจาก คนที่ขับถ่ายแล้วกดน้ำทีเดียวตอนจบ จะแช่ไว้จนกว่าจะทำธุระเสร็จ ส่วนหนูจะขับถ่ายไปด้วย แล้วก็กดน้ำไปด้วย กลบเสียงด้วยเพราะเกรงใจห้องข้างๆ

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เวลาเข้าห้องน้ำสาธารณะ หนูจะได้กลิ่นเหม็นมากๆจากห้องข้างๆ พอหนูสังเกตุ กลิ่นเหล่านั้นจะมาจาก คนที่ขับถ่ายแล้วกดน้ำทีเดียวตอนจบ จะแช่ไว้จนกว่าจะทำธุระเสร็จ ส่วนหนูจะขับถ่ายไปด้วย แล้วก็กดน้ำไปด้วย กลบเสียงด้วยเพราะเกรงใจห้องข้างๆ

30 ก.ย. 2025

เวลาเข้าห้องน้ำสาธารณะ หนูจะได้กลิ่นเหม็นมากๆจากห้องข้างๆ พอหนูสังเกตุ กลิ่นเหล่านั้นจะมาจาก

คนที่ขับถ่ายแล้วกดน้ำทีเดียวตอนจบ จะแช่ไว้จนกว่าจะทำธุระเสร็จ ส่วนหนูจะขับถ่ายไปด้วย

แล้วก็กดน้ำไปด้วย กลบเสียงด้วยเพราะเกรงใจห้องข้างๆ เลยอยากรู้ว่าเป็นเรื่องปกติไหม

ทุกคนทำยังไงกันคะ? กดน้ำทีเดียวตอนเสร็จ หรือ กดน้ำระหว่างขับถ่ายไปเรื่อยๆ

          “คุณนุ่น (นามสมมติ)” อายุ 20 สายที่ 3  ในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [24 ก.ย. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาการขับถ่ายในที่สาธารณะ

            โดย “คุณนุ่น (นามสมมติ) ได้เล่าว่า หนูไปเข้าห้องน้ำ  ซึ่งที่หนูเข้ามันเป็นห้องน้ำสาธารณะของออฟฟิศ บางครั้งเราจะเจอปัญหา เหมือนห้องข้างๆ เขากำลังถ่ายอยู่  แล้วกลิ่นมันแรงมากจนโชยตีขึ้นจมูก หนูไม่ได้ตั้งใจทำกริยา พะอืดพะอม แต่มันอั้นไว้ไม่ไหวเลย เพราะมันเหม็นมากจนอาการของเรา มันมาทันทีที่ได้กลิ่น เขาจะรู้ตัวมั้ยว่าการทำธุระของเขามันส่งกลิ่นแบบแรงมาก หนูเลยตัดสินใจไปค้นหาดูในกูเกิ้ล แล้วก็เจอว่าเวลาที่ขับถ่ายออกมา แล้วระเบิดก้อนนั้นลงน้ำแล้ว บางคนเขาก็จะกดน้ำทันที จะถ่ายกี่ครั้งก็จะกดน้ำตามเลย เพื่อที่จะไม่ให้กลิ่นมันฟุ้งออกมา แต่หลายๆคนก็จะรอปล่อยให้หมดไส้ หมดพุง แล้วค่อยกดน้ำทีเดียว หนูอยากถามว่า... คนส่วนใหญ่ เขาเป็นแบบที่กดทันทีเลย หรือ ปล่อยให้หมดแล้วกดทีเดียว และอีกคำถามคือ หนูชอบรู้สึกว่า เวลาทำธุระ จะไม่ทำให้มีเสียงดังเพราะเกรงใจคนอื่น อันนี้ปกติมั้ยคะ

            เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ส่วนใหญ่ผมทยอยกดหมด เพราะไม่อยากให้เหม็นบ้าน แต่จริงๆที่ไหนก็กดหมดเลย หลักๆเพราะไม่อยากให้เหม็น

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า นี่ว่าสถานที่มีผล ถ้าเข้าข้างนอกก็อาจจะต้องทยอยกด แต่ถ้าโดยส่วนตัวก็รอทำธุระให้หมดทีเดียว ค่อยปิดฝา แล้วกด ส่วนที่ทำธุระเบาๆ ก็เป็นปกติมาก เพราะเราเกรงใจถูกแล้ว

            สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ไม่ควรกด ทำธุระเสร็จแล้วค่อยกดทีเดียว เพราะเชื้อโรคจะขึ้นมา แล้วอวัยวะผู้หญิงมันซับซ้อนมาก เชื้อโรคจากการกดมันพุ่งได้เป็นเมตร ยิ่งถ้าช่องคลอดคุณแห้ง เชื้อก่อโรคก็จะเกาะติดกับเชื้อโรคคุณง่ายขึ้น มันจะทำให้คุณติดเชื้อ ส่วนมากต่างประเทศ เขาจะทำธุระให้เสร็จ แล้วค่อยกด เราเป็นกุลสตรี ไม่แปลกที่เราจะขับถ่ายเสียงเบา เป็นเรื่องที่ดี อีกวิธีที่อยากแนะนำ คือให้พกน้ำหอมกันไป หลังทำธุระเสร็จก็ดับกลิ่นหน่อย

เรื่องราวทั้งหมดนี้จะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App AtimeFung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เพื่อนสนิทเรา ดูดีขึ้น หุ่นดีขึ้น เลยทักไปถาม ปรากฏเพื่อนบอกเดี๋ยวเล่าให้ฟัง ไว้นัด Zoom กัน หลังจากนั้นก็เริ่มขายของ ขายผลิตภัณฑ์ ชวนเข้าเครือข่าย บทสนทนาที่เคยคุยกันเริ่มหายไป กลายเป็น "ว่างวันไหน? ว่างเมื่อไหร่? พร้อมรึยัง?" เข้ามาแทน จะทำไงดีคะ?

08 มี.ค. 2024

เพื่อนสนิทเรา ดูดีขึ้น หุ่นดีขึ้น เลยทักไปถาม ปรากฏเพื่อนบอกเดี๋ยวเล่าให้ฟัง ไว้นัด Zoom กัน หลังจากนั้นก็เริ่มขายของ ขายผลิตภัณฑ์ ชวนเข้าเครือข่าย บทสนทนาที่เคยคุยกันเริ่มหายไป กลายเป็น "ว่างวันไหน? ว่างเมื่อไหร่? พร้อมรึยัง?" เข้ามาแทน จะทำไงดีคะ?

“คุณไอ (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [6 มี.ค. 67] ได้โทรมาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาที่ทักไปหาเพื่อนสนิทปรึกษาเรื่องลดน้ำหนัก แต่ดันเจอเพื่อนขายคอร์ส โดย “คุณไอ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีเพื่อนสนิทคนนึง สนิทกันมา 4 - 5 ปีแล้ว หนูคุยกับเพื่อนทุกเรื่อง เวลาคุยกันบางทีก็พิมพ์แชท หรือ voice คุยกัน ส่วนน้อยมากที่จะโทรคุยกัน ซึ่งเพื่อนหนูเป็นคนที่ค่อนข้างอ้วน แต่วันนึงเขาเริ่มลงสตอรี่ IG ว่าออกกำลังกาย ตัวหนูเองไม่ได้อ้วนแต่แค่ไม่ค่อยเฟิร์ม หนูก็เลย reply สตอรี่ไปว่า ทำไมอยู่ดี ๆ ออกกำลังกาย เพื่อนหนูก็ตอบกลับมาว่า มีเวลาว่างไหม? เดี๋ยวโทรหา หนูก็คิดแค่ว่าเขาคงอยากบอกเรื่องราวในชีวิตเขาว่า ทำไมถึงอยากทำ พอหนูได้คุยกับเพื่อน เขาก็เริ่มพูดว่า อยากให้หนูเข้า Zoom ไปคุยกับอินฟลูคนนึง เขาจะมาช่วยดูแลการออกกำลังกาย การคุมอาหาร หนูก็เลยเข้าไป แต่มันเหมือนการขายตรงมากกว่า หลังจากที่หนูเข้าไปใน Zoom หนูก็มาถามเพื่อนว่า สรุปแกต้องการอะไร? แล้วพี่คนที่เป็นอินฟลูเขาต้องการอะไร? เพื่อนก็พูดกลับมาประมาณว่า ถามทำไม แล้วแกว่างไหม เดี๋ยวโทรไปนะ หนูก็เลยบอกกับเพื่อนไปว่า ตอนนี้ไม่ว่างเลย แต่จริง ๆ ตอนนั้นหนูว่าง หนูอยากให้เขาพิมพ์มา หนูไม่อยากโทรคุยเพราะหนูกลัวเสียความรู้สึก เขาก็พยายามคะยั้นคะยอว่า โทรแป๊บเดียว เดี๋ยวเล่าให้ฟัง หนูก็เลยโกหกไปว่า ไม่สะดวก ตอนนี้กูอยู่งานศพ แล้วเพื่อนก็อัดเสียงส่งมา 10 กว่าอัน หนูกดฟังที่เขาส่งมาประมาณว่า มึงกลัวพี่เขาหลอกหรอ พี่เขาไม่หลอกหรอก เขารวยกว่ามึงตั้งเยอะนะ กูอยากให้มึงลองเปิดใจนะ อยากให้ลองเข้า Zoom อีกวันนึงที่พี่เขานัด หนูก็เลยบอกไปว่า หนูไม่โอเคมาก ทำไมต้องให้หนูมาเข้าอะไรแบบนี้ หนูแค่อยากรู้เฉย ๆ ว่าแบ่งเวลาออกกำลังกายยังไง? ไม่ได้อยากรู้เรื่องธุรกิจหรือเรื่องอาหารเสริม แล้วเพื่อนก็เหมือนหงุดหงิดและบอกมาประมาณว่า งั้นถ้ามึงไม่คุยก็ไม่ต้องคุยกันเลยแล้วกัน แต่อย่างที่บอกว่า พวกหนูสนิทกันมากและไม่อยากเสียเพื่อนคนนี้ไป หนูเลยตัดสินใจเข้าก็ได้ พอเข้าไปเขาก็พูดแต่เรื่องธุรกิจไม่เกี่ยวกับการออกกำลังกายเลย หนูก็เลยทักไปบอกเพื่อนอีกว่า กูไม่โอเคนะ ไม่เอาได้ไหม เพื่อนก็บอกว่า เออ ก็แล้วแต่แล้วกัน แต่หลังจากนั้นมันหนักกว่าอีก หนูก็ reply สตอรี่เพื่อนคนนี้ไปอีกแต่เป็นเรื่องอื่น ๆ เพื่อนก็ยังโยงไปเรื่องนั้นอีก ประมาณว่า มึงว่างแล้วหรอ ลองไปฟังพี่เขาอีกรอบไหมละ? ปัญหาก็คือหนูอึดอัด หนูรู้สึกว่ามันไม่เป็นส่วนตัวมาก ตรงที่เขาทักมาประมาณ 3 นาทีแล้วหนูไม่ตอบ เขาก็จะโทรมาเลย หนูก็บอกเพื่อนไปตรง ๆ เลยว่า เราไม่อยากคุยเรื่องนี้ แต่พอทุกครั้งหนูมีเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตที่อยากระบายเขาก็จะบอกว่า ถ้าโอเคแล้วก็ลองเปิดใจเรื่องนั้นดูก็ได้นะ หนูก็ลองถามเพื่อนคนอื่น ๆ เขาก็บอกว่า มึงก็บล็อกไปเลย ไม่ต้องแคร์หรอก แต่ด้วยที่หนูสนิทกับมันมานาน คุยกันมาทุกเรื่อง ไม่เคยคาดหวังประโยชน์อะไรจากกันเลยทั้งคู่ จนมาถึงเรื่องนี้จากเรื่องการออกกำลังกาย เพื่อนก็ลากไปถึงเรื่องการทำธุรกิจเรื่องอาหารเสริม หนูอยากปรึกษาพี่ ๆ ว่า จะแก้ไขตรงนี้ยังไง ไม่ให้เราเสียเพื่อน แล้วก็ไม่ทำให้เรารู้สึกแย่ไปด้วย’ โดยเริ่มให้คำปรึกษาจาก “ดีเจต้นหอม” ว่า ‘ไม่เอา ไม่กิน ฉันจะเป็นหมูที่แข็งแรง ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มก็เสิร์ชในอินเทอร์เน็ต TikTok มีหมดเลย เรื่องของทริคในการลดน้ำหนักพี่ก็ได้จากตรงนั้นเยอะมาก อาหารเสริมเป็นตัวช่วย ไม่ใช่หลัก คือ อาหารเสริมช่วยให้เราไม่กินจุกจิก แต่พี่รู้สึกว่าอายุ 19 ก็ยังไม่ควรจะต้องใช้อาหารเสริมอะไรพวกนั้นอยู่แล้วนะ เพราะว่ายังเป็นวัยที่หนูมีเอนเนอร์จี้ มีพลังงาน แล้วหนูก็ใช้ร่างกายได้เยอะมาก พี่คิดว่าอาหารเสริมประเภทนั้นไม่เหมาะ แต่พี่ว่าถ้าเราเป็นเพื่อนสนิทก็น่าจะพูดกันตรง ๆ ก็ได้นะ ประมาณว่า ชวนทำอะไร ไปฟังพี่เขา ไม่ฟังๆ เสียเวลา คือ ถ้าเขาบอกว่า เขาเห็นผลก็เขาเห็นผลกับสิ่งนี้ไง เราต้องไม่อยากรู้เรื่องของเขาเลย ไม่ได้อยากรู้การลดน้ำหนักของมึงเลย เราก็ต้องเริ่มจากที่ตัวเราก่อนในการบอกว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราไม่ได้สนใจ แล้วเรารู้สึกว่าการที่เราไปทำมันเสียเวลา เพราะกูไม่ได้สนใจมึง ถ้าเพื่อนสนิทพูดตรงๆ เลยแต่ว่าเราอย่าเปิดช่องให้เขาแค่นั้นเลย แล้วก็พูดตัดบทไปว่า มึงเสียเวลา ถ้ายังตื้อกูอยู่’ ต่อไป ดีเจเผือก ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ตอนนี้หนูอายุ 19 สนิทกันมา 3-4 ปี มันก็คือ 1 ใน 5 ประมาณนั้นของชีวิตหนู แต่ถ้าหนูใช้ชีวิตต่อไปอีก 5-10 ปี เขาก็จะไม่ใช่ 1 ใน 5 ในชีวิตหนูละ เขาอาจจะเป็น 1 ใน 7 หรือ 1 ใน 8 เพราะฉะนั้นก็อย่าไปยึดติดกับใครคนนึงที่เรารู้สึกว่าคนนี้คือเพื่อนสนิท แล้วเราจะไม่มีวันเลิกคบกับเขาได้ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรไม่ดีก็ตาม อันนี้มันก็ไม่ใช่ โตไปหนูก็อาจจะต้องเลิกคบกับเพื่อนสนิทบ้างถ้ามันเป็นคนไม่ดี หนูจะได้เจอกับเหตุการณ์วัดใจแบบนี้แหละ บางครั้งหนูอาจจะไม่ต้องโทรถามพี่เลยก็ได้ หนูอาจจะได้เจอเหตุการณ์ที่ต้องเลิกคบกับเพื่อนสนิทโดยที่ไม่ต้องปรึกษาใครเลย คนที่เราเคยสนิทมันก็คือคนที่เราเคยสนิทหรือคนที่เราสนิทอยู่ก็คือคนที่เราสนิทอยู่ แต่มันก็ไม่ได้บอกว่าเราจะต้องสนิทกับเขาไปจนวันตาย ถ้าถามว่าเพื่อนเขาเลวร้ายไหมก็คงไม่เขาก็แค่คงทำมาหากิน แต่เขาแค่ไม่มีศิลปะในการขาย ทุกอย่างมันมีทั้งคนขายที่ดีและคนที่ขายไม่เป็น คนที่เอาแต่ขายจนเสียเพื่อนรอบตัวมันก็ไม่ใช่ คนที่เขาขายอย่างมีจรรยาบรรณมันก็มี แค่เพื่อนเราเพิ่งเข้ามาในวงการนี้แล้วขายไม่เป็นแต่อยากมียอด เพราะฉะนั้นก็ถ้าเรื่องนี้ไอเข้าใจได้ก็ไม่ต้องเลิกคบกับเขา แล้วดูว่าเขาจะขายอีกยาวไหม? ไม่รู้ว่าโปรดักส์ออกกำลังกายจะอยู่ได้นานหรือเปล่า อาจจะเป็นช่วงแรก ๆ ที่เขากำลังทำยอดอยู่แหละ ก็อย่างที่บอก คุยกันไปตรง ๆ เป็นเพื่อนสนิทก็น่าจะคุยกันได้ ก็คุยกันไปเลยว่า มึงไม่ต้องมาวุ่นวายกับกูแล้วแหละ กูไม่มีวันซื้อแน่ ๆ ทุกวันนี้เงินจะกินข้าวยังไม่มีเลย คือถ้าเขาเป็นคนขายที่เก่งจริง ๆ เขาต้องรู้ว่ารายนี้ตื้อให้ตายก็ไม่ซื้อ เสียเวลาไปหาคนอื่นดีกว่า ถ้าอยากออกกำลังกายจริง ๆ เสิร์ชเอาใน Google , TikTok เยอะแยะ ถ้าเพื่อนคนนี้ตัดเรื่องขายออกไปแล้ว เขาจะกลับมาเป็นคนเดิมก็ลองดู แล้วก็แสดงออกให้ชัดเจนว่าเราจะไม่ร่วมธุรกิจกัน แล้วหลังจากนั้นดูว่าเขายังจะเป็นเพื่อนสนิทกับเราอยู่หรือเปล่า? ยังเม้าท์เรื่องอื่น ๆ กันอยู่หรือเปล่า? ซึ่งถ้าเขาเปลี่ยนไปเพียงแค่เราไม่ซื้อของของเขา ไอควรคิดดี ๆ ว่าคนนี้ควรจะเป็นเพื่อนสนิทเราจริงหรือเปล่า เขาเหมาะกับจะเป็นเพื่อนรักเราจริงไหม ถ้าขายของให้ฉันไม่ได้แล้วเลิกคบเราไป เขาควรจะเป็นเพื่อนแท้เราหรือเปล่า ไอลองไปคิดดูนะ’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก่อนอื่นหนูต้องปิดประตูตายก่อน เรื่องออกกำลังกายหรือเรื่องหุ่น อย่าไปเปิดประตูให้เขาเข้าหาเราได้จากเรื่องนี้ เพื่อให้เขาชัดเจนไปเลยว่าเราไม่ได้สนใจเรื่องนี้จริง ๆ ต้องทำให้เขารับรู้ก่อน ตอนนี้ไปอยู่กับคนที่สนิทคนอื่น ๆ ก่อน พี่รู้สึกว่าน้องไอกำลังคาดหวังให้เขามาสนิทเหมือนเดิม แต่ตอนนี้มันไม่ได้แล้วไง เพราะว่าสิ่งที่เขาโฟกัสมันไม่ใช่ไอแล้ว เขาโฟกัสกับสิ่งที่เขากำลังทำตอนนี้ คือการทำกิจการให้มันดีขึ้น เขาอาจจะไปร่วมมือกับโค้ชคนนั้นหรืออะไรก็ตาม แต่ตอนนี้เขาไม่ได้โฟกัสหนู หนูอย่าไปสำคัญตัวผิด เพราะถ้าหนูสำคัญตัวผิด หนูจะผิดหวัง เราต้องเลิกคาดหวังกับเขาก่อนให้เขาไปอยู่ในที่ที่เขาอยากทำ ไม่ต้องไปขัดเขา แล้วถ้าเขาทำสำเร็จก็ยินดีกับเขาไป แต่ถ้าเขาทำไม่สำเร็จ แล้ววันไหนเขากลับมาหาเรา เราก็ยังเป็นเพื่อนเขาอยู่ได้เหมือนเดิม ซึ่งถ้าถึงวันนั้นไออาจจะไม่อยากเป็นเพื่อนเขาแล้วก็ได้ หรือถ้าเขากลับมาแล้ว ถ้ามันเป็นเพื่อนกันจริง ๆ มันต่อกันติดเราก็ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้ แต่ตอนนี้หยุดคาดหวังก่อนเพราะตอนนี้เขาไม่เหมือนเดิมแล้ว’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

นี่หนูต้องมาเจออะไรเนี่ย?? บริษัทจ้างวิทยากรมาบรรยาย ให้ความรู้พนักงาน บรรยายไปบรรยายมา เข้าเรื่อง "เอเลี่ยน - มนุษย์ต่างดาว" ตลอด เคยให้คะแนนแล้วก็ยังไม่เป็นผล ยังต้องเจอคนนี้เดือนละ 2 ครั้งไปอีกยาวๆ ไม่รู้จะทำยังไงดีวิทยากรคนนี้สนิทกับ CEO ด้วย

13 พ.ค. 2024

นี่หนูต้องมาเจออะไรเนี่ย?? บริษัทจ้างวิทยากรมาบรรยาย ให้ความรู้พนักงาน บรรยายไปบรรยายมา เข้าเรื่อง "เอเลี่ยน - มนุษย์ต่างดาว" ตลอด เคยให้คะแนนแล้วก็ยังไม่เป็นผล ยังต้องเจอคนนี้เดือนละ 2 ครั้งไปอีกยาวๆ ไม่รู้จะทำยังไงดีวิทยากรคนนี้สนิทกับ CEO ด้วย

“คุณเจ (นามสมมติ)” 26 ปี สายที่ห้าในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (8 พ.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเข้าไปอบรมสัมมนา แต่เจอผู้บรรยายพูดออกนอกเรื่องจนไม่ได้ความรู้! โดย “คุณเจ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘บริษัทจะมีการจัดอบรมสัมนาใหญ่ที่มีผลต่อ KPI ของเราทุกเดือน เดือนละ 2 ครั้ง ในห้องประชุมใหญ่ และในปีนึงส่วนมากจะเจอกับคนที่มาบรรยาย ซึ่งคนนี้เขามาบ่อยที่สุด และเขาจะชอบพูดไปเรื่อย พูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง สมมติว่าเรื่อง Innovation หรือการพัฒนา เขาก็จะพูดไปถึงว่า รู้ไหมว่าเทคโนโลยีพวกนี้มันมาจากเอเลี่ยน มันมีทฤษฎีอย่างนู้นอย่างนี้ พูดเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งเขาก็จะให้พิมพ์ส่งมาว่ามีอะไรให้แนะนำเพิ่มมั้ย เจพิมพ์ไปทุกครั้งที่ประเมิน และก็มีหลายคนที่เขาไม่ชอบ เพราะหลังอบรมสัมมนาหลายๆแผนกก็พูดกันว่า อะไรวะ ไม่เห็นมีประโยชน์เลย แต่ก็ไม่รู้ว่าคนอื่นพิมพ์ไหม ตามจริงเขาไม่น่าจะผ่านการประเมินมาอบรมสัมมนาอีก ถ้าคนอื่นพร้อมใจกันรีวิวว่ามันไม่มีประโยชน์ แต่สาเหตุที่เจ้านายยังเอาเขามาอบรมสัมมนาบ่อยๆ เพราะเขาสนิทกับ CEO และ CEO ก็เคยเกริ่นเรื่องนี้มาแล้วว่า มีอะไรก็คุยกันได้นะครับ ผมชิล แต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่มีใครกล้าพูด เพราะ CEO ก็ค่อยข้างอีโก้นิดนึง พยายามทำเหมือนว่า คุยกับผมได้นะ ซึ่งจริงๆแล้วคุยไม่ได้เลย อยากถามพี่ๆดีเจว่า ทำอะไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง? มันมีโอกาสมั้ยที่หนูจะสามารถปลุกระดม รายงาน HR ? จริงๆควรจะมีคนอื่นมาสัมมนาอบรมบ้าง แต่เขามาบ่อยมาก เจไม่รู้ว่าถ้ารวมตัว ล่ารายชื่อ หาคนที่เบื่อกับคนนี้แล้วมาประเมิน จะมีใครไปประเมินด้วยกันบ้าง จริงๆก็มีหลายคนที่นั่งงีบบ้าง นั่งเล่นโทรศัพท์บ้าง ประเด็นคือมีคนมา Discuss กับเขาด้วย เหมือนเริ่มกลายเป็นลัทธิ แล้วเริ่มมีคนสนใจ เพราะมาบ่อยขึ้น และตอนนี้แอบใช้น้องฝึกงาน เพราะอยู่แปปเดียวก็ต้องไปแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เจอแบบนี้รู้สึกเฟลไปเลย แฟนหนูเป็นคนขี้เบื่อ เขาเซฟรูปผู้หญิงไว้เพียบ เซฟหนัง AV ไว้ดู พอถาม แฟนตอบมาว่า "แล้วเธอเสือกเข้าไปดูทำไม?" พีคสุด ตอนเขามีอะไรกับหนู มืออีกข้างเปิดคลิปผู้หญิงคนอื่นที่เซฟด้วย เป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว

03 พ.ค. 2024

เจอแบบนี้รู้สึกเฟลไปเลย แฟนหนูเป็นคนขี้เบื่อ เขาเซฟรูปผู้หญิงไว้เพียบ เซฟหนัง AV ไว้ดู พอถาม แฟนตอบมาว่า "แล้วเธอเสือกเข้าไปดูทำไม?" พีคสุด ตอนเขามีอะไรกับหนู มืออีกข้างเปิดคลิปผู้หญิงคนอื่นที่เซฟด้วย เป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว

เจอแบบนี้รู้สึกเฟลไปเลย แฟนหนูเป็นคนขี้เบื่อ เขาเซฟรูปผู้หญิงไว้เพียบเซฟหนัง AV ไว้ดู พอถาม แฟนตอบมาว่า "แล้วเธอเสือกเข้าไปดูทำไม?"พีคสุด ตอนเขามีอะไรกับหนู มืออีกข้างเปิดคลิปผู้หญิงคนอื่นที่เซฟด้วย เป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้วจนหนูเสียความมั่นใจไปเลย ทำยังไงดีคะ? “คุณแทน (นามสมมุติ)” อายุ 22 ปี สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [1 พ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแฟนเซฟรูปผู้หญิงเซ็กซี่ไว้ พอมีอะไรกัน เขาก็ขอเปิดคลิปแล้วทำไปด้วย โดย “คุณแทน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมา 3 ปี เราสองคนอายุเท่ากัน คือ 22 ปี แฟนหนูเป็นคนขี้เบื่อ ตลอดเวลาที่คบกันมา เรื่องกิจกรรมบนเตียง โดยปกติแล้วเราจะมีกิจกรรมแบบนี้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง แต่พอคบกันมาเข้าปีที่ 3 เรื่องบนเตียงจากอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ก็ลดลงเหลือเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งรู้เลยว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ พอเขาไม่ค่อยทำกิจกรรมหนูก็เลย เกิดความสงสัยว่าเขามีอะไรในโทรศัพท์หรือป่าว หนูก็เลยเข้าไปเช็คในโทรศัพท์เขาดู แล้วกดเข้าไปดูที่แกลลอรี่ หมวดรูปภาพที่ซ่อนไว้ ซึ่งหนูก็ไปเจอว่าเขาบันทึกหน้าจอผู้หญิงที่เขาติดตามในไอจี เป็นรูปผู้หญิงเซ็กซี่ หรือรูปวาบหวิว เก็บไว้ดูเต็มไปหมด และตอนที่เราสองคนมีกิจกรรมด้วยกัน เขาขอดูคลิปหนังเอวีพวกนี้ไปด้วยระหว่างที่เรามีอะไรกัน หนูก็ไม่อยากให้เขาทำแบบนั้น ซึ่งเป็นบ่อยมากๆเลยช่วงหลัง หนูเลยคิดว่ามันแปลกมาก มันเริ่มไม่ใช่แล้ว และพฤติกรรมของแฟนก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่ค่อยใส่ใจ ละเลยในการทำหน้าที่แฟน พูดจาหยาบคายใส่อารมณ์กับเรา และช่วงหลังมานี้ก็ทะเลาะกันบ่อยมากๆ พอหนูลองเปิดใจคุยกับเขา เขาก็บอกว่า เขาก็รักแหล่ะ แต่แบบว่าเขาแค่แบบเป็นคนขี้เบื่อ แต่เขาก็พยายามเปลี่ยนตัวเอง แต่หนูไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเขาเลย หนูรู้สึกว่าเขาแค่พูดเฉยๆ และก่อนหน้านี้หนูเคยถามเขาว่า “ทำแบบนี้ทำไม เรื่องที่บันทึกสตอรี่ผู้หญิงคนอื่นไว้ในโทรศัพท์” เขาก็พูดกลับมาว่า “แล้วเธอเสือกเข้าไปดูเองทำไม” หนูอยากถามว่า การที่แฟนทำแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ชายมั้ย? และ การที่หนูเข้าไปดูแกลลอรี่ที่แฟนซ่อนไว้มันเหมือนเป็นการลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของแฟนมั้ย?’ โดย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับคำถามแรก พี่ว่าที่เขาทำแบบนี้คือไม่ปกตินะ คืออายุ 22 แล้ว ส่วนที่บันทึกคลิปหนังเอวีไว้เป็นเรื่องปกติของผู้ชายส่วนใหญ่ แต่ถ้าเอามาดูตอนที่มีกิจกรรมบนเตียงกับแฟนอันนี้ไม่ปกติ ส่วนเซฟรูปผู้หญิงที่อยู่ในไอจีสตอรี่อันนี้ผมไม่ค่อยเห็น หมายถึงว่า แคปหน้าจอเก็บไว้ แต่ถ้าเป็นดาราพอเข้าใจว่าอาจจะมีได้เป็นเรื่องปกติ แต่มันก็จะมีคู่ที่เปิดคลิปหนังเอวีตอนมีอะไรกันกับแฟนแล้วโอเคทั้งคู่ก็มีนะ เหมือนเปิดบิ้วอารมณ์ พี่รู้สึกว่าตราบใดที่ไม่ได้เปิดคลิปของคนอื่นที่เป็นคลิปแอบถ่ายอันนั้นอ่ะไม่ได้ แต่ถ้าเป็นคลิปหนังเอวีที่ีการสร้างสตอรี่อันนี้อ่ะเคยได้ยิน การเปิดคลิปแบบที่แฟนคุณแทนทำ มันเหมือนเป็นการหักหารน้ำใจอีกฝั่งมากเลยนะอยากให้มองอย่างอื่นนอกจากเรื่องบนเตียงด้วย เขาไม่ได้รักษาน้ำใจเราเลย คือเอาจริงถ้าวัดถึงเรื่องความห่างหายในเรื่องบนเตียง อายุ 22 เป็นช่วงที่ฮอร์โมนเพศกำลังพุ่งพล่านอมันไม่น่าหายกันแบบนี้ แล้วเรื่องนอกเตียงเขาก็ไม่ได้ดีกับเราเลย ด่าท่อ พูดจากหยาบคาย ใช้อารมณ์รุนแรง เรื่องพวกนี้ก็หนักไม่แพ้กับเรื่องกิจกรรมบนเตียงนะ อย่าคิดแค่เรื่องที่เขาขี้เบื่อบนเตียงอะไรอย่างเดียว อันนั้นมันเป็นแค่ หนึ่งในซับเซตย่อย มันยังมีทั้งเรื่องการดูแลกัน การทะเลาะกัน แล้วเป็นยังไงมันดีเท่ากับวันที่เข้ามาจีบใหม่ๆมั้ย อะไรพวกนี้อ่ะ ที่น่าจะกังวลเหมือนกันนอกจากเรื่องกิจกรรมบนเตียง ซึ่งเขาผิดปกติไปหมดเลย มันไม่ใช่อาการของคนที่หวังดีต่อกันเหมือนเดิม มันต้องแยกว่า หนึ่งเรามีอะไรแอบซ่อนอยู่จริงมั้ย ถ้าไม่มีบางคนก็พร้อมที่จะเปิดเต็มที่ แต่บางคนเขาไม่ชอบที่จะให้มายุ่งในพื้นที่ส่วนตัวของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะมีความผิดซ่อนอยู่รึป่าวก็ตาม อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่เขาก็ไม่ชอบอ่ะ มันพูดยากนะ พอเราเข้าไปเจอแล้ว ถึงหนูจะมีความผิดกับการที่ไปดูของเขา แต่เขาก็มีอะไรบางอย่าง ปิดบังหนูอยู่ คือมันก็ต่างกรรมต่างวาระ เพราะแฟนก็ซ่อน ความผิดก็ต้องแยกกันสิ่ ฉันเข้าไปฉันก็ผิด แต่เธอก็ซ่อนรูป ซ่อนคลิป มันก็ผิดกันคนละคดี มันก็ต้องเคลียร์กันคนละอย่างไป ไม่ใช่ว่าการที่ฉันเข้าไปดูมันจะลบล้างทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เธอซ่อนหมดเลยไม่ใช่ ฉันเข้าไปดูของของเธอฉันก็ผิด แต่ฉันก็มีสาเหตุที่ฉันทำผิด เพราะว่าเธอมีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปถูกมั้ย ทำให้ฉันไม่สบายใจ ฉันถึงเข้าไปดู ไม่ใช่ว่าฉันเข้าไปดูทุกๆ 2 อาทิตย์ มันก็ไม่ใช่ขนาดนั้น เราก็ยังมีเหตุผลรับรอง ก็ต้องมาเคลียร์กับฝั่งของเขา ความผิดของเขาว่า แล้วเธอซ่อนรูปพวกนี้ทำไม แล้วเอามาเปิดต่อหน้าฉันอีก ทั้งหลายทั้งมวลอยากให้กังวลเรื่อง นอกเตียงด้วย พวกเรื่องพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเขา พี่ว่าอันนั้นมันก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องกังวลมากๆ แทนลองไปช่างน้ำหนักดูเอาเอง’ ต่อด้วย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็เป็นปกติของคนหมดรัก เมื่อไม่มีใจบวกกับหมดรัก สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ 1.ไม่แคร์ 2.เวลาที่เราทะเลาะกันสามารถพูดแรงได้โดยไม่รักษาน้ำใจก็ไม่ได้รักแล้ว เรื่องบนเตียงก็อย่างที่บอก เป็นซับเซต เป็นเรื่องย่อย เมนหลักคือ เมื่อไม่ได้รัก เมื่อหมดใจ เรื่องบนเตียงมันก็ไม่อยากจะทำ มันไปหมดเลยมันไปหมดแล้ว ส่วนเรื่องที่บอกว่าลุกล้ำที่บอกว่าผิดมั้ย ก็อยู่ที่แต่ละคู่ว่าคุยกันยังไง แล้วสามารถลุกล้ำได้แค่ไหน แต่ถ้าลุกล้ำแล้วเจอหนูจะไม่มีความผิดเรื่องลุกล้ำปัดตกไปเลย แล้วก็เรื่องที่เขาเปิดหนังเอวี ก็ตัดไปเลย เพราะคนมันไม่รักเราอ่ะ มันจะกระทำสิ่งนั้นมันก็เลยใช้ตัวช่วย เมื่อหมดรักแล้วทำไมสิ่งที่อยู่ ถึงอยู่ก็อยู่เพราะผูกพันไม่รู้จะไปไหน หมดรักบวกผูกพันเท่ากับ รอวันโดนเท มันเป็นสมการที่ส่วนใหญ่จะเจอ คือจังหวะที่เราเจ็บแล้วเนี่ย ถ้าคนมีสติหรือประสบการณ์เยอะๆอ่ะ เขาก็จะเลิก เขาจะไม่มานั่งย้อนหาอดีต เขาจะอยู่กับปัจจุบัน ว่าปัจจุบันเป็นยังไง เมื่อปัจจุบันไม่มีอะไรเลยที่บ่งบอกถึงคำว่ารัก นอกจากลมปาก ซึ่งลมปากเราให้น้ำหนักเบามาก เมื่อเทียบกับการกระทำ คือถ้าช่างน้ำหนักแล้ว จะเอียงไปข้างนึงเลย คือไม่ได้รักแล้ว ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับแทนแล้ว เมื่อเขาไม่รักแล้ว ณ วันนี้เราเจ็บแล้ว เลิกหรือไม่เลิกอยู่ที่เราเป็นคนเลือก แต่ถ้าสุดท้ายเรายังไม่เลือก วันนึงเขาจะเป็นคนเลือกเอง แทนเคยเรียกเขามาพูดแล้ว แล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรพัฒนาแปลว่า คำตอบนี้สมการมันชัดเจนแล้ว ขึ้นอยู่กับแทนแล้วว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ ลองสงสารตัวเองดูแล้วเดี๋ยวจะเดินออกมาเอง เราต้องมีสิทธิ์เลือก’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เผือกพี่หอมพูดไปหมดแล้ว แต่พี่ขอตอบแทนแบบตรงๆแบบขวานผ่าซาก เรื่องว่า ถ้าแฟนทำแบบนี้กับพี่ จริงๆ การที่แฟนมีอะไรกับพี่เดือนละครั้ง ตอนอายุ 22 พี่ก็จะไปแล้วนะ เพราะ 22 มันเป็นวัยที่น่าหลงไหล เป็นแฟนกันมีกิจกรรมจากอาทิตย์ละ 2 ครั้งลดเหลือเดือนละครั้ง แถมดูหนังเอวีตอนมีไรกับเราอีก พี่รู้สึกว่าถ้าคนรักกัน ถ้าไม่เสร็จนะ จะดูหนังเรื่องนี้จากทำให้เราเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหมือนมันจะต้องแคร์กันอ่ะ แต่ไม่ใช่มาทำโดยที่แล้วเราเป็นอะไร เป็นร่างทรงหรอ เป็นเครื่องมือสื่อสารให้เขาสำเร็จหรอ พี่ว่าสิ่งที่เขาทำ มันบอกแล้วว่า เขาไม่ได้รักหนู เขาไม่ได้ห่วงใยความรู้สึกของหนู แล้วพอประกอบกับเรื่องอื่นๆ ที่แทนเล่าอีก พี่ก็รู้สึกว่า อายุ 22 เอง แล้วคบกันมา 3 ปี ถ้าเป็นแบบนี้ปรับปรุงตัวแค่ลมปาก ไม่ได้ทำอะไรให้ฉันรู้สึกว่า เขาปรับปรุงจริงๆ เพราะแทนพูดเอง ว่าเขาไม่เห็นทำไรเลย แล้วถ้าหนูจะต้องรู้สึกว่าเขาไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ ไม่ดูแล พี่ว่า แยกย้ายกันไปเติบโต น่าจะมีความสุขมากกว่ารึป่าว แล้วหนูเป็นคนดูแลตัวเองอีกอ่ะ มันยิ่งแบบ อ่าวว ฉันดูแลตัวเองเพื่ออะไรอ่ะ แล้วพี่ไม่อยากให้แทนคิดทุกอย่างเพื่อจะมาบอกว่าตัวเองผิดนะ เพราะตอนนี้คำถามของแทน เป็นอย่างงั้นอยู่ตอนนี้ พยายามจะถามเพื่อที่จะบอกว่า หนูเป็นคนผิดเองที่ทำแบบนี้ หนูเป็นคนผิดที่ไปเปิดดูโทรศัพท์ของเขา เหมือนหนูไม่ได้มองตัวเองเลยอ่ะ หนูมองแต่เขา ซึ่งพี่ว่าแทนอาจจะต้องปรับวิธีคิดใหม่ พี่ฝากไว้แค่นี้ละกัน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

แม่หนูเปลี่ยนคู่นอนบ่อยมาก จนหนูเริ่มสังเกตว่าผิดปกติ ไปเจอว่าแม่ขายบริการทาง X มีลูกค้าติดต่อมา รับงานเรื่อยๆ หลังๆมาแม่เพิ่งทราบว่ามีเชื้อ HIV แต่แม่ก็ยังไม่หยุดทำงานนี้ ค่าตัวที่แม่รับ ทำหนูตกใจกว่าเดิม 200 – 300 บาท จะทำยังไงดีคะให้แม่เลิก

26 ก.ค. 2024

แม่หนูเปลี่ยนคู่นอนบ่อยมาก จนหนูเริ่มสังเกตว่าผิดปกติ ไปเจอว่าแม่ขายบริการทาง X มีลูกค้าติดต่อมา รับงานเรื่อยๆ หลังๆมาแม่เพิ่งทราบว่ามีเชื้อ HIV แต่แม่ก็ยังไม่หยุดทำงานนี้ ค่าตัวที่แม่รับ ทำหนูตกใจกว่าเดิม 200 – 300 บาท จะทำยังไงดีคะให้แม่เลิก

“คุณมิ้นต์ (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายที่แรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [24 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแม่ติดเชื้อ HIV แต่ยังขายบริการอยู่ โดย “คุณมิ้นต์ (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘เรื่องนี้เป็นเรื่องของแม่หนู พ่อกับแม่หนูแยกทางกันตั้งแต่เด็ก หนูอยู่กับพ่อ ส่วนน้องสาวอยู่กับแม่ แม่หนูอายุ 45 ปี จะเป็นคนที่มีนิสัยเปลี่ยนแฟนบ่อยแทบทุกเดือน ช่วงที่หนูเด็กๆ เวลาแม่มาเยี่ยมเค้าก็จะเปลี่ยนแฟนทุกครั้ง จนหนูไม่อยากให้แม่มาหาเพราะคนแถวบ้านเค้าก็จะนินทาเรื่องที่แม่มาหาแล้วเปลี่ยนแฟน มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แม่มาหาแล้วเหมือนจะคืนดีกับพ่อ พอผ่านไปอยู่ดี ๆ เค้าก็กลับบ้านไปพร้อมกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นแม่หนูไม่มีโทรศัพท์แต่เจอผู้ชายคนนั้นที่ขนส่งเลยพาเค้ากลับบ้าน แล้วเหมือนแฟนเก่าแม่ก็ไปเจอทวิตเตอร์แม่ที่ขายบริการด้วย หนูก็เลยถามน้องสาว ซึ่งน้องสาวก็ไม่รู้ จนเวลาผ่านไป 3 ปี แม่ก็กลับมาบอกว่าเค้าป่วยและอยากให้หนูไปหา หนูเลยถามเค้าว่าเค้าป่วยเป็นอะไร? เค้าก็บอกว่าเค้าเป็นโรคที่คนรังเกียจ หนูก็เลยพาเค้าไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาล ผลปรากฎว่าแม่หนูเค้าติดเชื้อ HIV แล้วหนูก็ให้เงินไปรักษา เพราะเค้าบอกว่าเค้าไม่สามารถทำงาน หาเงินได้แล้ว หนูก็เชื่อใจเค้า เพราะเค้าบอกเค้าจะหยุดเรื่องผู้ชายก็เลยช่วยเหลือเค้าไป จนผ่านมาประมาณเดือนกว่า หนูก็เห็นเค้าโพสต์ในเฟซบุ๊กว่าเหงา อยากหาคนมาอยู่ด้วยหรือใครสักคนที่รักเค้าไปเลี้ยง หนูก็เริ่มเอะใจว่าเค้าไม่ได้เลิกทำเหมือนที่เค้าบอก เลยไปเสิร์ชในทวิตเตอร์ก็เจออีกว่าเค้ายังขายบริการอยู่ แต่ที่หนูตกใจคือเค้ารับแบบไม่ป้องกันด้วย หนูก็เลยไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นบอกเค้ายังไง หนูเคยพูดเรื่องนี้ไปแล้วเพราะว่าน้องสาวที่อยู่กับเค้าก็มีนิสัยเหมือนเค้าเลย คือมีพฤติกรรมเปลี่ยนแฟนทุกเดือน และหนูก็เคยเตือนเค้าไปแล้ว เค้าก็บอกว่าเค้าเลิกแล้ว ที่หนูกลัวคือแม่หนูเค้าขายถูกมาก 200 - 300 หนูก็กลัวว่าคนที่มาซื้อแม่จะมารับเชื้อไปแพร่ต่อในครอบครัว หนูไม่รู้จะเริ่มต้นบอกเค้ายังไงให้เค้าหยุดเพราะหนูรู้สึกว่ามันเป็นตราบาป ปกติแม่หนูจะฟังรายการพุธทอล์คพุธโทร เค้าจะแชร์หน้าเฟสอยู่บ่อย ๆ เลยอยากให้พี่ ๆ พูดถึงแม่ว่าสิ่งที่เค้าทำมันเป็นยังไง? โดย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ทุก ๆ การกระทำของคนที่เป็นแม่ มันส่งผลถึงลูกอยู่แล้ว ทีนี้ลูกโทรเข้ามาแม่ก็ต้องคิดแล้วว่าที่ผ่านมาเราทำหน้าที่แม่ดีพอแล้วรึเปล่า ทำไมเราถึงทำให้ลูกเราทุกข์ขนาดนี้ แล้วสิ่งที่ลูกเรากำลังเป็นห่วงอยู่ มันเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นรึเปล่า คุณแม่ควรคุยกับลูก บางทีลูกก็ไม่กล้าที่จะเปิดใจหรือพูดคุยกับคุณแม่ แม่ลองเป็นฝ่ายเข้าหาลูกดู ลูกโทรเข้ามาวันนี้ก็ไม่มีอะไรมากนอกจากห่วง ฉะนั้นแม่ลูกควรพูดคุยกัน และสิ่งที่ลูกบอกคือไม่อยากให้แม่แพร่เชื้อ แม่ก็ลองหาวิธีดูว่าแม่จะไม่แพร่เชื้อได้อย่างไร ส่วนลูกค้าที่มาใช้บริการหอมว่าชั่งหัวมัน เพราะการไม่ใส่ถุง โอกาสของการติดเชื้อมันมีอยู่แล้ว ชั่งหัวลูกค้ามัน เอาเรื่องความสัมพันธ์ของแม่ลูกดีกว่า ว่าวันนี้เราจะดูแลสภาพจิตใจลูกเรายังไง เรามีคำตอบอะไรให้ลูกเรา ยังไงหน้าที่แม่ก็ลาออกไม่ได้ ฝากคุณแม่เรื่องนี้ละกัน’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผมไม่แน่ใจย่าคุณแม่จะติดขัดเรื่องเงินมากน้อยแค่ไหน แต่รู้สึกว่าสุดท้ายแล้วเราก็ต้องคิดถึงคนอื่นบ้าง เข้าใจว่าชีวิตที่ลำบากมันทำให้ต้องคิดถึงตัวเราก่อน แต่ว่าในขณะที่เราต้องการพาตัวเราให้รอด ไม่ว่าจะปัญหาอะไรก็ตาม เราก็ไม่ควรพาเอาชีวิตคนอื่นเค้าแย่ไปด้วย ผมไม่รู้ว่าแม่ถือหรือเชื่อเรื่องอะไร แต่จริง ๆ บาปกรรมเราคงไม่ได้เห็นเป็นรูปธรรม แต่ว่าถ้าพูดถึงกรรม กรรมก็คือผลของการกระทำ ทุกอย่างที่เราทำมันมีผลเสมอ มันอาจจะไม่ได้ตกถึงแม่ แต่วันนี้ความทุกข์มันตกถึงลูกอย่างมหาศาล ถึงแม้จะไม่ใช่ความรับผิดชอบอะไรของเค้าเลยก็ตาม มิ้นเองก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจก็ได้ ชีวิตใครชีวิตมัน แม้กระทั่งลูกสาวังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมากกว่าเรา ผมว่ามันมีอะไรที่ผิดไปแล้ว อย่างน้อยที่สุดที่จะพอนึกถึงคนอื่นได้บ้างก็ป้องกัน แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็คิดถึงชีวิตคนอื่นได้บ้าง’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘จริง ๆ ก็เคารพในการตัดสินใจที่จะทำอะไร เพราะมันก็ชีวิตใครชีวิตมัน มันก็อาจจะเป็นหนทางเดียวที่คุณแม่มีอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้ ซึ่งเติ้ลก็ไม่สามรถไปตัดสินได้ ว่าอย่าทำแบบนั้น อย่าทำแบบนี้ แต่อย่างน้อย ๆ การกระทำของคนทำอะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้ตัวเองและคนอื่นเดือดร้อน แต่สิ่งที่คุณแม่ตัดสินใจทำอยู่ตอนนี้มันมีส่วนที่จะทำให้คนอื่นเดือดร้อนแล้วตัวเองด้วย ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณแม่ป่วยขนาดไหน แต่การที่คุณแม่ขายบริการโดยใช้เรื่องการสดเป็นการดึงดูดมันเหมือนเป็นการทำร้ายคนอื่นทางอ้อม เพราะว่าการเป็นโรคนี้ไม่ใช่แค่คนที่มาใช้บริการจะติดได้ แต่ถ้าคนนั้นเค้าไปมีอะไรกับภรรยาหรือคนอื่น ๆ มันก็มีสิทธิ์ที่จะแพร่ไปได้อีก และมันจะควบคุมความเสียหายไม่ได้ อยากให้คิดดี ๆ การที่แค่จะให้ตัวเองรอดโดยที่ไม่สนว่าคนอื่นจะเป็นยังไง มันสมควรแล้วมั้ยกับทางรอดของตัวเองในแบบนั้น เท่าที่น้องมิ้นเล่าให้ฟังมีน้องสาวที่เห็นคุณแม่เป็นตัวอย่าง อยากให้รู้ว่าบางอย่างไม่ใช่เราตัดสินใจแล้วจะทำได้เลย คิดหน้าคิดหลังว่าจะมีใครได้ผลกระทบจากสิ่งที่เราทำไหม’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1