คุณพ่อหนูอยากให้หนูสานต่อธุรกิจโรงงานครอบครัว แต่หนูรู้สึกว่าที่นี่ยังไม่มีระบบการทำงานที่ดี ยังเป็นโรงงานเล็กๆ ความตั้งใจของหนูอยากจะไปทำงานที่โรงงานใหญ่ๆ ไปเปิดโลก เรียนรู้ก่อน สัก 1-2 ปี กลับมาพัฒนาธุรกิจครอบครัวของหนู แต่จะพูดยังไงให้พ่อเข้าใจดี

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คุณพ่อหนูอยากให้หนูสานต่อธุรกิจโรงงานครอบครัว แต่หนูรู้สึกว่าที่นี่ยังไม่มีระบบการทำงานที่ดี ยังเป็นโรงงานเล็กๆ ความตั้งใจของหนูอยากจะไปทำงานที่โรงงานใหญ่ๆ ไปเปิดโลก เรียนรู้ก่อน สัก 1-2 ปี กลับมาพัฒนาธุรกิจครอบครัวของหนู แต่จะพูดยังไงให้พ่อเข้าใจดี

08 ส.ค. 2025

คุณพ่อหนูอยากให้หนูสานต่อธุรกิจโรงงานครอบครัว แต่หนูรู้สึกว่าที่นี่ยังไม่มีระบบการทำงานที่ดี

ยังเป็นโรงงานเล็กๆ ความตั้งใจของหนูอยากจะไปทำงานที่โรงงานใหญ่ๆ ไปเปิดโลก เรียนรู้ก่อน

สัก 1-2 ปี กลับมาพัฒนาธุรกิจครอบครัวของหนู แต่จะพูดยังไงให้พ่อเข้าใจดี เพราะถ้าหนูทำตามที่พ่อบอก

พ่อหนูก็อายุมากแล้ว สอนอะไรก็หลงๆลืมๆ สอนไม่เป็น ทุกคนคิดว่าควรจะเริ่มพูดกับคุณพ่อยังไงดีคะ?

                “คุณพี (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร ในคืนวันพุธที่ผ่านมา [6 ส.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจพี่อ้อม’ เกี่ยวกับปัญหาอยากไปทำงานหาประสบการณ์ข้างนอก ก่อนที่จะมาบริหารกิจการที่บ้าน แต่คุณพ่อไม่เห็นด้วย

                โดย “คุณพี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตัวหนูเองเป็นนักศึกษาจบใหม่ และที่บ้านก็เป็นครอบครัวคนจีน คุณพ่อมีบริษัทที่อยากจะให้มารับช่วงต่อ ในช่วงเวลาที่ได้เรียนจบใหม่ๆ หนูก็เริ่มทำงานกับที่บ้านเลย แต่ความกดดันหลายๆอย่างทำให้รู้สึกว่า ยังทำได้ไม่ดี รวมกับว่าที่คุณพ่ออายุมากแล้ว มีหลายครั้งที่ท่านเกิดอาการหลงๆลืมๆทำให้สอนงานได้ไม่ต่อเนื่อง หนูเลยตัดสินใจว่า จะไปทำงานที่อื่นก่อน แล้วค่อยเก็บประสบการณ์กลับมาทำงานที่บ้าน พอปรึกษาคุณแม่ ท่านก็เห็นด้วยกับสิ่งที่หนูจะทำ แต่คุณพ่อไม่เห็นด้วย ท่านอยากให้เราทำที่บ้านเลย เขาบอกว่าสามารถสอนเราได้ แต่ระยะเวลามันก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว หนูก็เห็นแล้วว่า หนูควรจะได้ประสบการณ์จากที่อื่นมากกว่า

                ท่านรู้ตัวถึงอาการหลงๆลืมๆของตัวเอง บางทีที่จะอยากจะสอนงาน ท่านก็ลืมว่าจะสอนอะไร คนในบริษัทคนอื่นก็ไม่สามารถสอนแทนได้ในส่วนของท่าน ประเภทงานที่บ้านของหนูทำ เป็นโรงงาน นำเข้าส่งออก ด้วยความที่หนูเรียนไม่ตรงสาย บางครั้งก็ไม่รู้ว่าควรจะถามอะไรท่าน แล้วหนูก็ได้งานแล้ว ที่ยื่นสมัครไปเป็นโรงงานนิคม ทำหน้าที่ล่าม เอกสารเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก โรงงานของคุณพ่อเป็นกิจการเล็ก ยังไม่ค่อยมีระบบ หนูไม่ชอบ เพราะจับต้นชนปลายไม่ถูก เลยอยากที่จะมีประสบการณ์ก่อน เพื่อมาพัฒนา ระบบตรงนี้ หนูอยากจะปรึกษาพวกพี่ว่า หนูตัดสินใจแล้วว่าจะไป ควรอธิบายให้คุณพ่อเข้าใจยังไงดี ว่าหนูไม่ได้ทิ้งกิจการที่บ้าน แค่อยากมีประสบการณ์มากพอ ที่จะกลับมาช่วยที่บ้าน’

                โดยทั้ง ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจพี่อ้อม’ ได้ให้คำปรึกษาไปในทางเดียวกันว่า ‘การที่จะออกไปทำข้างนอก ต้องรีบทำให้ไว ครูพักลักจำให้มาก อาจจะเหนื่อยกว่าคนอื่นหน่อย ด้วยความที่เรียนไม่ตรงสาย หวังว่าทางที่พีเลือกไป จะสามารถนำมาปรับใช้กับกิจการที่บ้านได้จริงๆ มีโอกาสเรียนรู้ ควรเรียนรู้ให้มาก แต่เส้นทางที่เลือก เป็นเส้นทางที่ดี ควรตั้งเวลาให้กับคุณพ่อ ทำให้คุณพ่อสบายใจ ว่าเราจะไม่ทิ้งกิจการ’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

แม่หนู ชอบเอาเรื่องของหนู ชีวิตของหนู ไปเล่าให้กับทุกคน รอบๆตัวแม่ ทั้งญาติ เพื่อนบ้าน คนรู้จัก บางทีมันเป็นเรื่องที่หนูยังทำไม่สำเร็จเลย แม่ก็เอาไปเล่าแล้ว หนูรู้สึกอึดอัด พอบอกแม่ แม่ก็บอกว่าที่แม่เอาไปเล่าเพราะว่าแม่ภูมิใจในตัวลูก

02 ก.ย. 2025

แม่หนู ชอบเอาเรื่องของหนู ชีวิตของหนู ไปเล่าให้กับทุกคน รอบๆตัวแม่ ทั้งญาติ เพื่อนบ้าน คนรู้จัก บางทีมันเป็นเรื่องที่หนูยังทำไม่สำเร็จเลย แม่ก็เอาไปเล่าแล้ว หนูรู้สึกอึดอัด พอบอกแม่ แม่ก็บอกว่าที่แม่เอาไปเล่าเพราะว่าแม่ภูมิใจในตัวลูก

แม่หนู ชอบเอาเรื่องของหนู ชีวิตของหนู ไปเล่าให้กับทุกคน รอบๆตัวแม่ ทั้งญาติ เพื่อนบ้านคนรู้จัก บางทีมันเป็นเรื่องที่หนูยังทำไม่สำเร็จเลย แม่ก็เอาไปเล่าแล้ว หนูรู้สึกอึดอัด พอบอกแม่แม่ก็บอกว่าที่แม่เอาไปเล่าเพราะว่าแม่ภูมิใจในตัวลูก แต่หนูกลับรู้สึกว่าไม่โอเคเลยที่แม่ทำแบบนี้ถ้าเป็นทุกคนจะทำยังไงดีกับเรื่องนี้คะ?? “คุณหลง (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [27 ส.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อม” เกี่ยวกับปัญหาแม่ชอบเอาเรื่องเราไปพูดให้คนอื่นรอบตัวฟัง จนเรากดดัน กลัวจะทำไม่ได้ โดย “คุณหลง (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า “แม่ชอบเอาเรื่องหนูไปเล่าให้คนอื่นฟัง คือหนูมีแพลนที่จะไปทำงานที่ต่างประเทศแต่ยังไม่ได้ไป ยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมตัว อย่างเดือนหน้าหนูต้องไปฝึกงานก่อนแล้วค่อยไปสัมภาษณ์กับบริษัทต่างประเทศอีกที ซึ่งตามแพลนคือจะได้ไปประมาณกลางปีหน้า แต่แม่ก็ไปพูดให้เพื่อนที่ทำงานแล้วก็เพื่อนบ้านฟัง วันนั้นหนูไปหาแม่ที่บริษัท แม่ออกมากับเพื่อน แล้วแม่ก็บอกให้หนูเล่าให้เพื่อนของแม่ฟังว่า หนูจะไปทำอะไร ที่ไหน และไฟลท์บินเป็นอย่างไร ซึ่งด้วยความที่หนูรู้สึกว่าถ้าไม่บอกจะเสียมารยาทก็เลยต้องจำใจเล่าไป ทั้ง ๆ ที่ตัวหนูไม่โอเคมาก ๆ เลยที่จะต้องไปบอกแผนชีวิตของหนูให้คนอื่นฟัง มันเลยทำให้หนูกดดันขึ้นมาก ๆ เพราะหนูเป็นคนที่คิดเยอะและคิดมากตลอดเวลา หนูกลัวว่าถ้าหนูทำแพลนนี้ไม่สำเร็จแล้วสิ่งที่แม่ไปพูดเม้าท์ โอ้อวดไว้จะทำให้คนมองหนูยังไง ถึงมันจะมีโอกาสสูงถึง 80% ที่ได้ไปก็ตาม แต่มันก็ทำให้หนูกดดันในตัวเองมาก ๆ เหมือนกัน หนูเข้าใจแม่แต่แค่อยากให้มันประสบความสำเร็จก่อน คือถ้าจะเอาหนูไปเม้าท์ไปพูดหนูไม่ว่าเลย แต่หนูอยากเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว แม่เพิ่งมาเป็นแบบนี้ตอนหนูเข้ามหาลัยเพราะตอนปี 2023 หนูมีโอกาสได้ไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ แล้วเหมือนเป็นหน้าเป็นตาให้ครอบครัวได้เพราะคนแถวบ้านไม่ได้ไป หนูรู้ว่าก็เป็นความภูมิใจของเขานั่นแหละ หนูดีใจมากแต่ทำไปทำมาแม่ก็เอาเรื่องนี้มาพูดเยอะเกินไปจนอึดอัด หนูไม่สบายใจ หนูเคยคุยกับแม่หลายครั้งแล้วว่าไม่โอเค ให้หนูทำให้เสร็จเป็นชิ้นเป็นอันก่อนได้มั๊ยแล้วค่อยพูด แม่ก็รับปากทุกครั้งเลยแต่เขาทำไม่ได้ ล่าสุดเรื่องเกิดก็ขึ้นเมื่อวานเลย ขนาดหนูเป็นลูก พูดตรง ๆ แล้วเขายังไม่ฟังเลย ไม่ยอมปรับมายเซ็ทด้วย หนูก็เลยคิดว่าคงต้องปรับที่ตัวหนูเองแล้วแหละ แถมตอนนี้มีการสร้างรายได้ใหม่ที่เป็นการทำคลิปรีลลงแอปฟ้า ซึ่งแม่ก็เอาเรื่องหนูไปเล่าในนั้นด้วยว่าหนูทำอะไร ที่ไหน อย่างไรอยู่ หนูก็เคยพูดกับแม่เรื่องความปลอดภัยไปแล้วแต่แม่ก็บอกว่าให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนได้มั๊ย ให้แม่ได้สร้างรายได้ก่อน หนูก็เลยไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว หนูก็เลยอยากรู้ว่าหนูควรจัดการกับความคิดตัวเองยังไง?” เริ่มต้นที่ “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าพื้นฐานนิสัยหลงกับแม่อาจจะไม่เหมือนกัน หลงเป็นคนที่ต้องทำทุกอย่างให้สำเร็จก่อนแล้วค่อยภูมิใจ ไม่อยากพูดออกไปก่อน กลัวฝันเก้อเพราะมีหน้า ที่ต้องรักษา แต่แม่ก็มีหน้า ที่ต้องรักษาเหมือนกัน การที่เขาพูดเขาก็ได้หน้าแต่ไม่อยากให้ใช้คำว่าเม้าท์เพราะเป็นความหมายลบ พี่มองว่าแม่พูดด้วยความภาคภูมิใจไม่ใช่เรื่องไม่ดี แล้วมันเป็นความฝันของแม่อีก ยังไงมันก็คือความภูมิใจ ถ้าปิดหมู่บ้านได้แม่คงทำไปแล้ว ในเมื่อเราเปลี่ยนความคิดแม่ไม่ได้และเหมือนยากที่จะเปลี่ยนด้วย เราจำกัดข้อมูลที่แม่ต้องรู้ได้มั๊ย หรือใช้ศิลปะในการพูดกับแม่ หลงใช้เงินแม่ก็จริงแต่บางแผนที่มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินก็เล่าคร่าว ๆ ได้’ ต่อไป “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่กลัวหลงกดดันมากเกินจนมีผลต่อสิ่งที่หลงกำลังทำอยู่ว่ามันต้องสำเร็จเท่านั้น หลงก็ต้องพยายามคิดให้ได้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่หลงตั้งใจกับมัน แล้วท้ายที่สุดถ้า 80% นั้น ดันไม่สำเร็จขึ้นมา ก็เป็นความผิดพลาดในชีวิตซึ่งมันคือเรื่องปกติ ไม่อยากให้ความคิดของแม่หรือคนรอบตัวมากดดันเรา ต้องตัดออกไปให้ได้อย่าเอาปัจจัยอื่นที่ไร้สาระมาคิด และคงหาวิธีรับมือแบบประนีประนอม ถ้าเพื่อนแม่มาถามก็จะตอบแค่ความจริงแต่ไม่ลงรายละเอียด แล้วก็พูดไปเลยว่าหนูก็ไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จหรือเปล่า ป้าก็อย่าไปเชื่อแม่มาก ป้าเขารู้แหละแต่อย่างน้อยเราก็ได้ออกตัวแล้ว ลองนำประเด็นความกดดันและความคาดหวังไปคุยกับแม่อีกรอบ แม่อย่ามาคาดหวังในตัวเราเพราะมันอาจจะเป็น 20% ที่ไม่สำเร็จก็ได้’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่จะพูดกับแม่ว่า โอ๊ยย แม่ก็ช่างเล่าเนอะ จะได้ไปหรือเปล่าก็ไม่รู้เลย แค่นี้ แล้วไม่ต้องเล่าอะไรเลยด้วยซ้ำ เป็นบทสนทนาที่คลายความกดดัน และมันมีวิธีที่จะรับมือกับความกดดันต่อหน้าคนอื่นอีกมากมายเลย ต้องทำให้ทั้งหมดไม่กดดัน พี่เชื่อว่าคนเรามีหลายโอกาสซึ่งนี่เป็นเพียงโอกาสแรกที่เข้ามาก็เท่านั้น ถ้าพลาดมันก็ยังมีโอกาสที่สอง สาม สี่ อีก ซึ่งหลงได้ไปต่างประเทศมาแล้ว ในแง่ของการสมัครงานถือว่าเป็นพอร์ตที่ดี ซึ่งเป็นอาวุธติดตัวถ้าพลาดขึ้นมาโอกาสก็ยังมีอีกมากมายที่ให้หลงได้เดินตามไป อย่ากดดันตัวเอง ส่วนแม่คือเปลี่ยนยากแล้วเพราะแม่ก็คาดหวัง เราก็ต้องจับเข่าคุยกันว่าให้แม่เผื่อใจไว้ด้วย เผื่อใจไว้อายบ้าง แต่หนูไม่อาย แม่ก็ต้องแฟร์ด้วย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูอายุ 17 คบกับแฟนรุ่นน้อง เป็นนักบอล อายุ 15 เราคบกันแต่พ่อผู้ชายไม่อยากให้คบ เพราะเขาอยากให้ลูกเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ลูกเขาเตะบอลมาตั้งแต่ 10 ขวบ กลัวว่าฝีมือจะตกเพราะมาคบหนู ตอนนี้เลิกกันแล้วแต่กลับมาคบกัน พ่อยื่นคำขาด

20 พ.ค. 2025

หนูอายุ 17 คบกับแฟนรุ่นน้อง เป็นนักบอล อายุ 15 เราคบกันแต่พ่อผู้ชายไม่อยากให้คบ เพราะเขาอยากให้ลูกเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ลูกเขาเตะบอลมาตั้งแต่ 10 ขวบ กลัวว่าฝีมือจะตกเพราะมาคบหนู ตอนนี้เลิกกันแล้วแต่กลับมาคบกัน พ่อยื่นคำขาด

หนูอายุ 17 คบกับแฟนรุ่นน้อง เป็นนักบอล อายุ 15 เราคบกันแต่พ่อผู้ชายไม่อยากให้คบเพราะเขาอยากให้ลูกเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ลูกเขาเตะบอลมาตั้งแต่ 10 ขวบ กลัวว่าฝีมือจะตกเพราะมาคบหนูตอนนี้เลิกกันแล้วแต่กลับมาคบกัน พ่อยื่นคำขาด คบได้แต่ฝีมือฟุตบอลห้ามตก แฟนหนูกดดันมาก “คุณซี” (นามสมมติ)” อายุ 17 ปี เป็นสายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [14 พ.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม” เกี่ยวกับปัญหาการมีแฟนเป็นนักฟุตบอล แต่ถูกคุณพ่อของแฟนกีดกัน เนื่องจากกลัวว่าจะทำให้ลูกชายเสียสมาธิในการเดินตามเส้นทางสู่นักฟุตบอลอาชีพ โดย “คุณซี” (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีแฟนอายุ 15 ปี เขาเป็นนักกีฬา นักบอล แล้วเขาอาศัยอยู่กับคุณพ่อ เพราะพ่อแม่เขาแยกทางกัน บ้านเขาค่อนข้างมีฐานะ แต่เหมือนคุณพ่อเขาไม่ค่อยโอเคที่เขามีแฟน และพ่อเขาค่อนข้างเป็นคนหัวโบราณ เพราะด้วยความที่เขาคาดหวังกับลูกเขาว่าต้องเป็นนักบอลมืออาชีพ คบกันช่วงแรกๆยังไม่มีอะไร แค่พ่อเขาไม่ชอบ แต่ก็ไม่ได้พูดถึง แต่พอช่วงหลังๆเขากับพ่อทะเลาะกันทุกวันเพราะพ่ออยากให้เลิกกับหนู ช่วงนี้แฟนหนูเขาขึ้นมอสาม แต่มอปลายเขาวางแผนไว้แล้วว่าจะไปสายฟุตบอลเลย ก็เลยกลายเป็นว่าเขาต้องเข้มงวดและแข่งเยอะมากขึ้น พ่อเขาก็พูดว่าอยากให้แฟนหนูห่วงอนาคตตัวเอง หนูไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน เพราะแฟนไม่ได้พูดให้ฟัง จนมีวันนึงหนูทะเลาะกับแฟน เขาก็ได้บอกเลิกหนู ที่ผ่านมาเขาไม่เคยบอกเลิกหนูเลย มากสุดคือการประชดกันเฉยๆ ตอนแรกหนูคิดว่าเขาก็คงเหนื่อยกับหนูแล้วก็คงไม่อยากไปต่อ แต่หนูก็ยังคาใจ ก็เลยทักไปถามว่าเหตุผลคืออะไร ขอชัดๆเลย เขาเลยบอกว่าก่อนที่เขากับหนูจะทะเลาะกันประมาณ 2 – 3 วัน พ่อเขามาพูดกับเขาจริงๆจังๆ ว่าให้เขาห่วงอนาคตตัวเองก่อน เรื่องนี้ยังไม่ต้องมีก็ได้ เขาเลยไม่มีทางเลือก ที่ผ่านมาหนูเข้าใจเขาว่าเขาต้องยอมพ่อตลอด เพราะพ่อเขาค่อนข้างเข้มงวดและกดดันมากๆ ตอนแรกหนูก็ต้องยอมรับสภาพ แต่หลังจากที่เลิกกัน 2 – 3 วันเราก็ยังคุยกัน เลยให้เขาลองไปเปิดใจคุยกับพ่อ แต่พ่อเขาก็ยังยืนคำเดิม จนเขาโทรไปปรึกษาแม่ เขาขอร้องแม่ให้ไปคุยกับพ่อให้หน่อย เพราะตัวหนูกับตัวเขาเองไม่ได้อยากเลิกกัน และค่อนข้างยอมรับได้ยาก เพราะการเลิกกันครั้งนี้มันไม่ใช่การตัดสินใจของเราสองคน เมื่อวานที่ผ่านมาพ่อเขาก็บอกว่า ให้มีได้ แต่ถ้าไม่รู้หน้าที่ตัวเองก็ให้เลิก ซึ่งก่อนหน้านั้นหนูพยายามที่จะให้เขาพิสูจน์ตัวเอง เพราะหนูไม่ทำให้เขาเสียอนาคตแน่นอน เวลาเขาไปซ้อม ไปแข่งหนูก็ไม่เคยไปขัดเขาเลย และหนูก็บอกฝั่งทางบ้านหนูด้วยว่าหนูคบอยู่กับน้องคนนี้ๆ หนูก็มีการชวนให้น้องมากินข้าวกับที่บ้านหนู แต่พ่อเขาก็ยังไม่ยอม ถึงจะมีแม่หนูด้วย เขาก็ไม่ไว้ใจ ทุกวันนี้พ่อเขายังยอมรับไม่ได้ว่าแฟนหนูมีหนู เหมือนแค่ยอมจำนน เพราะแม่ของแฟนไปพูดให้ หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า หนูพอจะแก้อะไรได้บ้าง หรือ พอจะช่วยอะไรแฟนได้บ้าง? เพราะเขาไม่พูดเรื่องนี้กับหนูเลย เขาบอกว่าเขากลัวหนูไม่สบายใจเวลาพูดเรื่องพ่อเขา และอยากช่วยเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับพ่อเขาให้ดีขึ้น โดยที่ไม่ต้องเลิกกับหนู’ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็ต้องทำตามพันธะสัญญาที่หนูให้ไว้กับพ่อเขาว่าหนูจะทำให้แฟนหนูไปเป็นนักบอลตามที่พ่อเขาฝัน จะไม่หือ ไม่อือ ไม่ขัด หรือทำทุกอย่างเพื่อรั้งอนาคตเขาเลย เพราะพ่อเขาคิดว่าหนูคืออุปสรรคในการเป็นนักบอลของลูกเขา เพราะฉะนั้นที่เขายังยอมให้มีหนูได้ เป็นแฟนได้ หนูต้องทำทุกอย่างให้เขาเห็นว่าหนูไม่ทำให้เขาเสียอนาคต’ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ซีต้องเข้าใจเส้นทางนักกีฬาอาชีพ ชีวิตมันต้องสูญเสียอะไรไปเยอะเหมือนกัน ทั้งชีวิตส่วนตัว เวลาว่าง หรือแม้กระทั่งชีวิตวัยเด็ก จะไม่ค่อยได้ไปมีแฟน หรือไปดูหนัง และไม่ใช่แค่พ่อเขาที่กดดัน แต่เป็นตัวเขาด้วยที่กดดันตัวเอง ส่วนเรื่องการจะทำยังไงให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกเขาดี ระหว่างมีเราอยู่ ซีก็ต้องทำให้เขาเห็นว่าเพื่อนต่างเพศที่สนิทที่สุด การมีซี ดีกว่าไม่มี เช่น เราต้องไม่ทำตัวมีปัญหา’ “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ในวันที่เขายังอายุ 15 เขาอยู่ใต้หลังคาบ้านของพ่อเขา เขาต้องทำตามกฎของพ่อ อันนี้คือเรื่องธรรมชาติที่สุด พ่อเขาเลี้ยงลูก ถึงเราจะไม่ชอบ แต่นั่นก็คือกฎของบ้านเขา เพราะฉะนั้นหนูสามารถเป็นเชียร์หลีดเดอร์ให้เขาได้ คือ หนูจะต้องไม่ทำให้คนกลางอึดอัด ไม่บั่นทอนให้จิตใจเขาระส่ำ พร้อมจะเผชิญกับทุกสถานการณ์’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูคบแฟนมา 1 ปีที่ผ่านมา เหมือนหนูไร้ตัวตนในพื้นที่ของเขา ล่าสุดหนูขอให้เค้าลงโพสวันเกิดหนู ถ่ายรูปด้วยกัน พอไปเช็ค เค้าตั้งค่า Story IG ซ่อนคน 200 กว่าคน ในนั้นมีทั้งคนรอบตัว ครอบครัว เพื่อน และ แฟนเก่าของเขาทั้งนั้น หนูรู้สึกเศร้าไปเลย

06 ก.ย. 2024

หนูคบแฟนมา 1 ปีที่ผ่านมา เหมือนหนูไร้ตัวตนในพื้นที่ของเขา ล่าสุดหนูขอให้เค้าลงโพสวันเกิดหนู ถ่ายรูปด้วยกัน พอไปเช็ค เค้าตั้งค่า Story IG ซ่อนคน 200 กว่าคน ในนั้นมีทั้งคนรอบตัว ครอบครัว เพื่อน และ แฟนเก่าของเขาทั้งนั้น หนูรู้สึกเศร้าไปเลย

“คุณเก๋ (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [4 ก.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อม’ เกี่ยวกับปัญหาแฟนทำให้รู้สึกไร้ตัวตน โดย “คุณเก๋ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูไม่มีตัวตนในพื้นที่ส่วนตัวของแฟน คือช่วงวันเกิดของหนูที่ผ่านมาเค้าลงสตอรี่ แต่หนูมารู้ทีหลังช่วงหลังวันเกิดหนูว่าเค้าซ่อนสตอรี่ 200 กว่าคน และเค้าก็ไม่เคยโพสต์รูปหนูในไอจีเลย หนูไม่เคยไปเจอเพื่อนเค้า มีแต่เค้ามาเจอเพื่อนหนูครอบครัวหนู ซึ่งหนูรู้ว่าการคบกันมันคือเรื่องของคน 2 คน แต่เรื่องตอนนี้มัน 2 คนจริง ๆ หรอ? เราไม่ได้มองอนาคตเหมือนกันหรอ? เค้าเองก็ตอบหนูทุกครั้งว่าเค้าอยากมีอนาคตไปกับหนู แต่สถานการณ์มันดันเป็นแบบนี้ และหนูก็เคยคิดว่าหนูเป็นน้อยเค้า ด้วยความที่เค้าซ่อนสตอรี่จำนวนมากประมาณ 200 กว่าคน ในนั้นก็จะมีเพื่อนเค้า แฟนเก่าเค้า คนรอบข้างแฟนเก่าเค้า ครอบครัวเค้า หนูก็เคยขอดูโทรศัพท์เค้าแต่ก็ไม่เจออะไรเลย หนูเลยอยากถามพี่ๆดีเจว่า ถ้าในมุมของคนอื่น ๆ ถ้าเจอความสัมพันธ์แบบนี้จะทำยังไง?’ ซึ่งทางด้าน “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่เค้าไม่ปล่อยอย่างเดียว หนูเองก็ไปไม่ไหวเหมือนกัน เพราะฉะนั้นตอนนี้หนูเป็นมนุษย์ที่อดทนอยู่ ถ้าหนูไม่ไหวก็ออกมาพี่พูดได้เท่านี้ ถ้าไหวก็สู้ แต่อย่าให้ถึงขึ้นเป็นซึมเศร้า ป่วย เกิดอะไรในใจแล้วท้อ ถ้าหนูว่างที่จะทนหนูทนเลย’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเป็นพี่พี่เจอแบบนี้พี่ไปแน่นอน สมัยหนุ่ม ๆ พี่ก็เคยเจออะไรแบบนี้ ถ้าเป็นพี่ที่เห็นว่าความสัมพันธ์นี้มันแปลก ๆ พี่จะไปเลย อย่าให้เราต้องไปเสียทรงกับเค้า เพราะถ้าความสัมพันธ์มันใช่มันจะไม่ยาก แต่สุดท้ายชีวิตมันก็เท่านั้น มันรู้ทั้งรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแต่มันออกมาไม่ได้ก็ทน พอมันเป็นเรื่องคนอื่นพี่พูดได้แหละ แต่ถ้าเราเจอเองเราอาจจะทนกว่าเก๋ก็ได้ เพราะงั้นถ้าไหวก็เช็คตัวเองบ่อย ๆ ดูใจตัวเองบ่อย ๆ จนวันที่เราไม่เอาแล้วเดี๋ยวมันจะมีทางไปของมันเอง แต่ 26 แล้วก็อย่าไปเสียเวลากับอะไรตรงนั้นมาก’ และสุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้ามีคนมาทำให้เรารู้สึกไม่มีค่า พี่จะไม่ไหว เหมือนมันจะทุเรศตัวเอง แล้วมันจะหยุดเอง ตอนพี่อายุเท่าเก๋มีก็เคยเป็น แต่แพทเทิร์นแบบนี้มันก็จะจบเหมือนกันหมดแหละ พวกพี่เคยเป็นมาแล้ว อย่าหวังเพราะคิดว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น เพราะตอนนั้นที่พี่ทนเพราะพี่คิดว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น และส่วนใหย่ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นกับคนต่อไป’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูมั่นใจในตัวเองว่าหนูสวย จนหนูสามารถใช้ความสวยของตัวเองหาประโยชน์จากผู้ชายคนอื่นได้ ตอนนี้หนูมีคนคุย 4 คนพร้อมกัน แต่ละคนก็รู้ว่าหนูคุยกับคนอื่นอยู่ หนูชัดเจนตั้งแต่แรก บอกทุกคนก่อนคุย แต่ทุกคนก็จะซื้อของแบรนด์เนมแพงๆ

09 ก.ย. 2024

หนูมั่นใจในตัวเองว่าหนูสวย จนหนูสามารถใช้ความสวยของตัวเองหาประโยชน์จากผู้ชายคนอื่นได้ ตอนนี้หนูมีคนคุย 4 คนพร้อมกัน แต่ละคนก็รู้ว่าหนูคุยกับคนอื่นอยู่ หนูชัดเจนตั้งแต่แรก บอกทุกคนก่อนคุย แต่ทุกคนก็จะซื้อของแบรนด์เนมแพงๆ

หนูมั่นใจในตัวเองว่าหนูสวย จนหนูสามารถใช้ความสวยของตัวเองหาประโยชน์จากผู้ชายคนอื่นได้ตอนนี้หนูมีคนคุย 4 คนพร้อมกัน แต่ละคนก็รู้ว่าหนูคุยกับคนอื่นอยู่ หนูชัดเจนตั้งแต่แรก บอกทุกคนก่อนคุยแต่ทุกคนก็จะซื้อของแบรนด์เนมแพงๆ แล้วคาดหวังความรักจากหนู หนูรับมาตลอด มันผิดไหมคะ?“คุณแม็ก (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (4 ก.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก- ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อม’ เกี่ยวกับปัญหาว่าเราสวยมาก เลยคุยกับผู้ชายหลายคน แต่ก็ไม่ได้จะจริงจังกับใคร แล้วเขาก็เปย์ให้ เราผิดมั้ยที่รับของเขา?โดย “คุณแม็ก (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘เรามองว่าเราสวย มีเสน่ห์ แล้วความสวยของเราสามารถหาประโยชน์ หรือทำอะไรให้กับเราได้ ผลที่เกิดขึ้นคือ มีผู้ชายมาติด เราพยายามบอกเขาตั้งแต่แรกว่าเรายังไม่ได้หาความสัมพันธ์ที่จริงจัง ไม่ได้อยากให้ใครมาคาดหวังในตัวเรามาก แต่ผู้ชายก็มักจะหาวิธีชนะใจเรา โดยการซื้อของให้ พาไปกินอาหารหรู แล้วเวลาผ่านไปผู้ชายจะคาดหวังกับของที่ซื้อให้เรามากขึ้น จนบางทีก็รู้สึกว่า “นี่เราผิดหรือป่าวที่รับของเขามา” แต่โดยส่วนตัวก็คิดว่า “เขาเต็มใจที่จะอยู่ในความสัมพันธ์แบบนั้นเอง”ซึ่งความสัมพันธ์คนคุยนี้ เราไม่ได้มีแค่คนเดียว ถ้าคนที่คุยมานานมากก็จะได้รับของมาจากเขาประมาณหนึ่ง บางทีเขาก็จะแสดงความเป็นเจ้าของกับเราว่า เราไปไหน ไปกับใคร เราก็จะบอกตลอดว่า “เราไปกับคนคุยคนอื่น” เขาก็จะมีท่าทีไม่พอใจ มันทำให้เรารู้สึกว่าเขาคาดหวังในความสัมพันธ์ของเรา เราบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าเรายังไม่ได้อยากจริงๆ แต่ถ้าคุยไปเรื่อยๆ เราก็ยอมเปิดใจคุยด้วยได้ ซึ่งเป็นแบบนี้กับหลายๆคนที่คุยกับเราตอนนี้เราคุยอยู่ 4 คน แต่ละคนก็จะรู้ว่าเราไม่ได้คุยกับเขาคนเดียว และแต่ละคนก็ซื้อของให้ หรือดูแลเรา จะมากน้อยแล้วแต่คน ถ้าเป็นปกติ เราเจอคนที่หึงหวงเรา หรือมีท่าทีไม่พอใจ เราก็จะเลิกคุยกับเขาไปเลย แต่พอมันเป็นหลายๆคนเข้า ก็ทำให้รู้สึกว่า “หรือจริงๆเราผิดเอง ในแง่ที่เราไปอยู่ในความสัมพันธ์พวกนี้ จนทำให้เขาคาดหวังกับเรามากขึ้น และสุดท้ายเราก็ไปทำให้เขาเสียใจอยู่ดี” และเราคิดว่าใน 4 คนนี้ ยังไม่มีคนที่ใช่เลย แม็กเลยอยากถามพี่ๆดีเจว่าในความคิดของคนอื่นมองว่ามันผิดไหม? กับการที่เราไปรับของคนอื่น แต่เราก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าเราให้ความสัมพันธ์ได้แค่คนคุย’ซึ่งทางด้าน “ดีเจอ้อม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเราเห็นว่าปลายทางมันนำไปสู่สิ่งที่ไม่ชอบและผิด ต่อให้สิ่งนั้นบริสุทธิ์ ก็อาจจะต้องป้องกัน การออกตัวในบางครั้งมันเป็น Agenda ที่เราซ่อน เพื่อหลบเลี่ยงความผิดของเรา เพื่อปกป้องตัวเองว่า ”ฉันบอกเธอแล้วนะ“ แต่เรายังร่วมมือทำสิ่งนี้กับเขาอยู่ เราก็มีส่วน ถ้าเกิดว่าอีกฝ่ายเขาจะโกรธ เสียใจ และพยายามทำอะไรให้ได้มาเพราะไม่ได้ดั่งใจ โทษเขาอย่างเดียวไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าแม็กผิดไหม แม็กไม่ได้ผิดจากการออกตัว แต่ Agenda ที่ซ่อนอยู่ในใจ แม็กรู้อยู่กับตัว คำตอบมันอยู่ในใจแต่มันมีข้ออ้างให้เราว่าฉันบอกตั้งแต่แรกแล้ว เพราะฉะนั้นมาบอกว่าฉันผิดทั้งหมดก็ไม่ใช่ แต่แม็กก็รู้ว่าการทำแบบนี้ มันทำให้แม็กไม่สบายใจ เพราะถ้าแม็กสบายใจ และไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดตั้งแต่แรก แม็กจะไม่โทรหาพวกพี่เลย สำหรับพี่ พี่มองว่า แม็กรู้ตัวแล้ว แต่พี่เป็นห่วงว่า ถ้าเกิด 1 ใน 4 คนนี้ เกิดคิดทำอะไรแม็กขึ้นมา การมั่นใจเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องระวัง เราคาดเดาอะไรใครไม่ได้เลย พี่ห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะการบงทุนทุกอย่างมันหวังผลเสมอ ขนาดไปวัดทำบุญบางคนยังหวังขอเลย แล้วอย่าคิดว่า เวลาเลิกกับใคร บางทีมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด ฉันจบเธอต้องจบ มันไม่ได้เสมอไป แล้วถ้าทั้ง 4 คน ไม่พร้อมจบพร้อมกัน แม็กจะปวดหัวคูณ 4 บางทีอาจจะถึงชีวิต’ต่อมา “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาต่อว่า ‘ผิดหรือป่าวที่ทำอยู่ มันอยู่ที่ว่าใช้ไม้บรรทัดใครวัด ถ้าเป็นไม้บรรทัดของคนอายุเท่าพี่ๆ ซึ่งเป็นไม้บรรทัดที่โบราณ แต่พยายามจะปรับเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ แต่ยังไม่ชิน เลยมองว่ามันไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่คุ้นเลย เอาเป็นว่ามันทำร้ายคนอื่นแล้วกัน แต่ถ้าเปลี่ยนไม้บรรทัดของคนยุคสมัยนี้ที่วัยพอๆกับแม็ก ก็อาจจะมองว่าเรื่องนี้มันแฟร์แล้ว เพราะฉันเคลียร์แล้ว ไม่ได้บังคับให้ซื้อให้ ใครอยากจะให้ก็ให้ เธอเต็มใจวื้อเอง เพราะฉนั้นผิดไม่ผิดอยู่ที่ไม้บรรทัดที่มองจริงๆมแต่ถ้า 1 ใน 4 คนนี้ไม่ได้สนใจไม้บรรทัดขึ้นมา อาจจะเกิดอันตรายกับแม็ก เพราะยุคนี้มันแรงกันเหลือเกิน และเราไม่รู้ว่าคนเราจะขาดสติเมื่อไหร่ ต่อให้เขาไม่รู้บ้าน แต่เราก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ บางครั้งที่เห็นข่าว เรื่องเล็กน้อยกันมากๆก็ทำให้ฆ่ากันตายได้ ยิ่งเรื่องที่เกี่ยวกับความรัก มันยิ่งทวีความ หึง หวง โกรธ แค้น เยอะแยะไปหมดเพราะฉะนั้นคำว่า “แฟร์เกม” ตั้งแต่แรก เรามั่นใจหรือยัง ว่าเคลียร์ 100% คือคำว่า ”คนคุย“ ถ้าเป็นไม้บรรทัดในยุสมัยพี่ คนคุยคือการที่คุยกัน ศึกษากัน เพื่อที่จะเป็นแฟนในอนาคต หรือเพื่อตัดสินว่าเธอจะเป็นคนที่เป็นแฟนฉันไหมนะ ฉันขอคุยก่อน ถ้าใช่ค่อยคบหากัน ถ้าไม่ใช่ก็คือจบ พี่เลยไม่รู้ว่ายุคนี้มันมีคำบัญญัติสำหรับ เสตตัสที่แม็กมีไว้ให้ 4 คนนี้เป็นคำเฉพาะขึ้นมาหรือป่าว เพราะพี่รู้สึกว่า ถ้าคนคุยมีไว้เพื่อศึกษา และคัดออก-เข้า ใครเข้า ก็มาคบหากัน นี่คือคนคุย แต่จะว่าเป็น FWB ก็ไม่ใช่ เพราะอันนั้นมันมีแค่เรื่อง Sex จะมีสเตตัสตรงนี้หรือป่าวพี่ไม่รู้ แต่แม็กต้องเคลียร์ให้ชัดกว่านี้ ถ้า 1 ใน 4 ถ้าเขารู้สเตตัสดีพอก็คนไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ หรือถึงเขารู้สเตตัสดีพอ ในวันที่ความหึงหวงเกิดขึ้น เหตุผลก็ไม่สำคัญอีกต่อไป มันหน้ามืด มันเสียไปเท่าไหร่แล้ว เพราะฉนั้น เป็นห่วงความปลอดภัยตัวเองด้วยละกัน และถ้าเรายิ่งชัดเจน เราต้องตอกย้ำให้ชัดเจนว่าทุกคนไม่มีสิทธิ์ บอกให้รู้ว่า “พี่ยังไม่ใช่นะ ถึงจะพยายามก็ไม่ใช่ แต่ถ้าพี่จะยังอยู่ ก็แล้วแต่พี่” ทำให้เขาไม่มีความคาดหวัง ให้เขาไม่ต้องมีความผิดหวัง แล้วนำไปสู่ความแค้น ก็พอไปต่อกันได้’และสุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่ากติกาที่แม็กบอก มันเหมือนมีช่องโหว่อยู่ จริงๆมันก็แอบไม่แฟร์ เพราะแม็กใช้คำสุดท้ายว่า “หนูเปิดใจ ถ้าว่านึงหนูรู้สึกยังไง ก็อาจจะเกิดขึ้นได้” ซึ่งอันนี้มันทำให้มีความหวัง แต่ตัวแม็กเองคือ “ป่าว หนูไม่ได้อยากจะมีความสัมพันธ์กับใครทั้งนั้น” คือถ้าแม็กพูดกับเขาว่า “หนูชอบไปกินข้าวร้านอร่อยๆ หนูชอบไปที่สวยๆ หนูชอบให้คนซื้อของให้ แต่หนูจะไม่คบกับใครสักคนเป็นแฟนนะ” แบบนี้ถึงจะแฟร์ แล้วถ้าแบบนี้คนไหนยังอยู่กับเรา แล้ววันนึงแม็กเปิดใจ มันจะเหมือนเป็นการพิสูจน์ตัวเขามากเลย แต่ตอนนี้มันเหมือนแฟร์ แต่จริงๆมันไม่แฟร์เพราะมันมีรูโหว่ของมันอยู่ว่า เขามีความหวัง ซึ่งพี่ว่าแม็กก็รู้ว่าเขามีความหวังจากกติกาที่แม็กสร้างขึ้น ถ้าจะให้ตัดสินว่าผิดหรือไม่ผิด จริงๆแล้วกติกาเหมือนจะแฟร์ แต่ตัวแม็กเล็งเห็นผลว่าอะไรจะเกิดขึ้น แล้วแม็กก็โอเคที่จะเห็นมัน เพราะเราเห็นคนซื้อของแพงๆให้เรา คนพาเราไปนู่นไปนี่ เพราะเขามีความหวังว่า สักวันหนึ่ง แม็กจะถูกใจเขา แต่แม็กรู้ทั้งรู้ว่าป่าว เราไม่ได้อยากได้ใครสักคน เราแค่มีความสุขที่มีคนมาดูแล มีคนมาพาเราเที่ยวแบบนี้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1