คุณพ่อหนูอยากให้หนูสานต่อธุรกิจโรงงานครอบครัว แต่หนูรู้สึกว่าที่นี่ยังไม่มีระบบการทำงานที่ดี ยังเป็นโรงงานเล็กๆ ความตั้งใจของหนูอยากจะไปทำงานที่โรงงานใหญ่ๆ ไปเปิดโลก เรียนรู้ก่อน สัก 1-2 ปี กลับมาพัฒนาธุรกิจครอบครัวของหนู แต่จะพูดยังไงให้พ่อเข้าใจดี

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คุณพ่อหนูอยากให้หนูสานต่อธุรกิจโรงงานครอบครัว แต่หนูรู้สึกว่าที่นี่ยังไม่มีระบบการทำงานที่ดี ยังเป็นโรงงานเล็กๆ ความตั้งใจของหนูอยากจะไปทำงานที่โรงงานใหญ่ๆ ไปเปิดโลก เรียนรู้ก่อน สัก 1-2 ปี กลับมาพัฒนาธุรกิจครอบครัวของหนู แต่จะพูดยังไงให้พ่อเข้าใจดี

08 ส.ค. 2025

คุณพ่อหนูอยากให้หนูสานต่อธุรกิจโรงงานครอบครัว แต่หนูรู้สึกว่าที่นี่ยังไม่มีระบบการทำงานที่ดี

ยังเป็นโรงงานเล็กๆ ความตั้งใจของหนูอยากจะไปทำงานที่โรงงานใหญ่ๆ ไปเปิดโลก เรียนรู้ก่อน

สัก 1-2 ปี กลับมาพัฒนาธุรกิจครอบครัวของหนู แต่จะพูดยังไงให้พ่อเข้าใจดี เพราะถ้าหนูทำตามที่พ่อบอก

พ่อหนูก็อายุมากแล้ว สอนอะไรก็หลงๆลืมๆ สอนไม่เป็น ทุกคนคิดว่าควรจะเริ่มพูดกับคุณพ่อยังไงดีคะ?

                “คุณพี (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร ในคืนวันพุธที่ผ่านมา [6 ส.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจพี่อ้อม’ เกี่ยวกับปัญหาอยากไปทำงานหาประสบการณ์ข้างนอก ก่อนที่จะมาบริหารกิจการที่บ้าน แต่คุณพ่อไม่เห็นด้วย

                โดย “คุณพี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตัวหนูเองเป็นนักศึกษาจบใหม่ และที่บ้านก็เป็นครอบครัวคนจีน คุณพ่อมีบริษัทที่อยากจะให้มารับช่วงต่อ ในช่วงเวลาที่ได้เรียนจบใหม่ๆ หนูก็เริ่มทำงานกับที่บ้านเลย แต่ความกดดันหลายๆอย่างทำให้รู้สึกว่า ยังทำได้ไม่ดี รวมกับว่าที่คุณพ่ออายุมากแล้ว มีหลายครั้งที่ท่านเกิดอาการหลงๆลืมๆทำให้สอนงานได้ไม่ต่อเนื่อง หนูเลยตัดสินใจว่า จะไปทำงานที่อื่นก่อน แล้วค่อยเก็บประสบการณ์กลับมาทำงานที่บ้าน พอปรึกษาคุณแม่ ท่านก็เห็นด้วยกับสิ่งที่หนูจะทำ แต่คุณพ่อไม่เห็นด้วย ท่านอยากให้เราทำที่บ้านเลย เขาบอกว่าสามารถสอนเราได้ แต่ระยะเวลามันก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว หนูก็เห็นแล้วว่า หนูควรจะได้ประสบการณ์จากที่อื่นมากกว่า

                ท่านรู้ตัวถึงอาการหลงๆลืมๆของตัวเอง บางทีที่จะอยากจะสอนงาน ท่านก็ลืมว่าจะสอนอะไร คนในบริษัทคนอื่นก็ไม่สามารถสอนแทนได้ในส่วนของท่าน ประเภทงานที่บ้านของหนูทำ เป็นโรงงาน นำเข้าส่งออก ด้วยความที่หนูเรียนไม่ตรงสาย บางครั้งก็ไม่รู้ว่าควรจะถามอะไรท่าน แล้วหนูก็ได้งานแล้ว ที่ยื่นสมัครไปเป็นโรงงานนิคม ทำหน้าที่ล่าม เอกสารเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก โรงงานของคุณพ่อเป็นกิจการเล็ก ยังไม่ค่อยมีระบบ หนูไม่ชอบ เพราะจับต้นชนปลายไม่ถูก เลยอยากที่จะมีประสบการณ์ก่อน เพื่อมาพัฒนา ระบบตรงนี้ หนูอยากจะปรึกษาพวกพี่ว่า หนูตัดสินใจแล้วว่าจะไป ควรอธิบายให้คุณพ่อเข้าใจยังไงดี ว่าหนูไม่ได้ทิ้งกิจการที่บ้าน แค่อยากมีประสบการณ์มากพอ ที่จะกลับมาช่วยที่บ้าน’

                โดยทั้ง ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจพี่อ้อม’ ได้ให้คำปรึกษาไปในทางเดียวกันว่า ‘การที่จะออกไปทำข้างนอก ต้องรีบทำให้ไว ครูพักลักจำให้มาก อาจจะเหนื่อยกว่าคนอื่นหน่อย ด้วยความที่เรียนไม่ตรงสาย หวังว่าทางที่พีเลือกไป จะสามารถนำมาปรับใช้กับกิจการที่บ้านได้จริงๆ มีโอกาสเรียนรู้ ควรเรียนรู้ให้มาก แต่เส้นทางที่เลือก เป็นเส้นทางที่ดี ควรตั้งเวลาให้กับคุณพ่อ ทำให้คุณพ่อสบายใจ ว่าเราจะไม่ทิ้งกิจการ’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูมั่นใจในตัวเองว่าหนูสวย จนหนูสามารถใช้ความสวยของตัวเองหาประโยชน์จากผู้ชายคนอื่นได้ ตอนนี้หนูมีคนคุย 4 คนพร้อมกัน แต่ละคนก็รู้ว่าหนูคุยกับคนอื่นอยู่ หนูชัดเจนตั้งแต่แรก บอกทุกคนก่อนคุย แต่ทุกคนก็จะซื้อของแบรนด์เนมแพงๆ

09 ก.ย. 2024

หนูมั่นใจในตัวเองว่าหนูสวย จนหนูสามารถใช้ความสวยของตัวเองหาประโยชน์จากผู้ชายคนอื่นได้ ตอนนี้หนูมีคนคุย 4 คนพร้อมกัน แต่ละคนก็รู้ว่าหนูคุยกับคนอื่นอยู่ หนูชัดเจนตั้งแต่แรก บอกทุกคนก่อนคุย แต่ทุกคนก็จะซื้อของแบรนด์เนมแพงๆ

หนูมั่นใจในตัวเองว่าหนูสวย จนหนูสามารถใช้ความสวยของตัวเองหาประโยชน์จากผู้ชายคนอื่นได้ตอนนี้หนูมีคนคุย 4 คนพร้อมกัน แต่ละคนก็รู้ว่าหนูคุยกับคนอื่นอยู่ หนูชัดเจนตั้งแต่แรก บอกทุกคนก่อนคุยแต่ทุกคนก็จะซื้อของแบรนด์เนมแพงๆ แล้วคาดหวังความรักจากหนู หนูรับมาตลอด มันผิดไหมคะ?“คุณแม็ก (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (4 ก.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก- ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อม’ เกี่ยวกับปัญหาว่าเราสวยมาก เลยคุยกับผู้ชายหลายคน แต่ก็ไม่ได้จะจริงจังกับใคร แล้วเขาก็เปย์ให้ เราผิดมั้ยที่รับของเขา?โดย “คุณแม็ก (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘เรามองว่าเราสวย มีเสน่ห์ แล้วความสวยของเราสามารถหาประโยชน์ หรือทำอะไรให้กับเราได้ ผลที่เกิดขึ้นคือ มีผู้ชายมาติด เราพยายามบอกเขาตั้งแต่แรกว่าเรายังไม่ได้หาความสัมพันธ์ที่จริงจัง ไม่ได้อยากให้ใครมาคาดหวังในตัวเรามาก แต่ผู้ชายก็มักจะหาวิธีชนะใจเรา โดยการซื้อของให้ พาไปกินอาหารหรู แล้วเวลาผ่านไปผู้ชายจะคาดหวังกับของที่ซื้อให้เรามากขึ้น จนบางทีก็รู้สึกว่า “นี่เราผิดหรือป่าวที่รับของเขามา” แต่โดยส่วนตัวก็คิดว่า “เขาเต็มใจที่จะอยู่ในความสัมพันธ์แบบนั้นเอง”ซึ่งความสัมพันธ์คนคุยนี้ เราไม่ได้มีแค่คนเดียว ถ้าคนที่คุยมานานมากก็จะได้รับของมาจากเขาประมาณหนึ่ง บางทีเขาก็จะแสดงความเป็นเจ้าของกับเราว่า เราไปไหน ไปกับใคร เราก็จะบอกตลอดว่า “เราไปกับคนคุยคนอื่น” เขาก็จะมีท่าทีไม่พอใจ มันทำให้เรารู้สึกว่าเขาคาดหวังในความสัมพันธ์ของเรา เราบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าเรายังไม่ได้อยากจริงๆ แต่ถ้าคุยไปเรื่อยๆ เราก็ยอมเปิดใจคุยด้วยได้ ซึ่งเป็นแบบนี้กับหลายๆคนที่คุยกับเราตอนนี้เราคุยอยู่ 4 คน แต่ละคนก็จะรู้ว่าเราไม่ได้คุยกับเขาคนเดียว และแต่ละคนก็ซื้อของให้ หรือดูแลเรา จะมากน้อยแล้วแต่คน ถ้าเป็นปกติ เราเจอคนที่หึงหวงเรา หรือมีท่าทีไม่พอใจ เราก็จะเลิกคุยกับเขาไปเลย แต่พอมันเป็นหลายๆคนเข้า ก็ทำให้รู้สึกว่า “หรือจริงๆเราผิดเอง ในแง่ที่เราไปอยู่ในความสัมพันธ์พวกนี้ จนทำให้เขาคาดหวังกับเรามากขึ้น และสุดท้ายเราก็ไปทำให้เขาเสียใจอยู่ดี” และเราคิดว่าใน 4 คนนี้ ยังไม่มีคนที่ใช่เลย แม็กเลยอยากถามพี่ๆดีเจว่าในความคิดของคนอื่นมองว่ามันผิดไหม? กับการที่เราไปรับของคนอื่น แต่เราก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าเราให้ความสัมพันธ์ได้แค่คนคุย’ซึ่งทางด้าน “ดีเจอ้อม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเราเห็นว่าปลายทางมันนำไปสู่สิ่งที่ไม่ชอบและผิด ต่อให้สิ่งนั้นบริสุทธิ์ ก็อาจจะต้องป้องกัน การออกตัวในบางครั้งมันเป็น Agenda ที่เราซ่อน เพื่อหลบเลี่ยงความผิดของเรา เพื่อปกป้องตัวเองว่า ”ฉันบอกเธอแล้วนะ“ แต่เรายังร่วมมือทำสิ่งนี้กับเขาอยู่ เราก็มีส่วน ถ้าเกิดว่าอีกฝ่ายเขาจะโกรธ เสียใจ และพยายามทำอะไรให้ได้มาเพราะไม่ได้ดั่งใจ โทษเขาอย่างเดียวไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าแม็กผิดไหม แม็กไม่ได้ผิดจากการออกตัว แต่ Agenda ที่ซ่อนอยู่ในใจ แม็กรู้อยู่กับตัว คำตอบมันอยู่ในใจแต่มันมีข้ออ้างให้เราว่าฉันบอกตั้งแต่แรกแล้ว เพราะฉะนั้นมาบอกว่าฉันผิดทั้งหมดก็ไม่ใช่ แต่แม็กก็รู้ว่าการทำแบบนี้ มันทำให้แม็กไม่สบายใจ เพราะถ้าแม็กสบายใจ และไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดตั้งแต่แรก แม็กจะไม่โทรหาพวกพี่เลย สำหรับพี่ พี่มองว่า แม็กรู้ตัวแล้ว แต่พี่เป็นห่วงว่า ถ้าเกิด 1 ใน 4 คนนี้ เกิดคิดทำอะไรแม็กขึ้นมา การมั่นใจเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องระวัง เราคาดเดาอะไรใครไม่ได้เลย พี่ห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะการบงทุนทุกอย่างมันหวังผลเสมอ ขนาดไปวัดทำบุญบางคนยังหวังขอเลย แล้วอย่าคิดว่า เวลาเลิกกับใคร บางทีมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด ฉันจบเธอต้องจบ มันไม่ได้เสมอไป แล้วถ้าทั้ง 4 คน ไม่พร้อมจบพร้อมกัน แม็กจะปวดหัวคูณ 4 บางทีอาจจะถึงชีวิต’ต่อมา “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาต่อว่า ‘ผิดหรือป่าวที่ทำอยู่ มันอยู่ที่ว่าใช้ไม้บรรทัดใครวัด ถ้าเป็นไม้บรรทัดของคนอายุเท่าพี่ๆ ซึ่งเป็นไม้บรรทัดที่โบราณ แต่พยายามจะปรับเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ แต่ยังไม่ชิน เลยมองว่ามันไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่คุ้นเลย เอาเป็นว่ามันทำร้ายคนอื่นแล้วกัน แต่ถ้าเปลี่ยนไม้บรรทัดของคนยุคสมัยนี้ที่วัยพอๆกับแม็ก ก็อาจจะมองว่าเรื่องนี้มันแฟร์แล้ว เพราะฉันเคลียร์แล้ว ไม่ได้บังคับให้ซื้อให้ ใครอยากจะให้ก็ให้ เธอเต็มใจวื้อเอง เพราะฉนั้นผิดไม่ผิดอยู่ที่ไม้บรรทัดที่มองจริงๆมแต่ถ้า 1 ใน 4 คนนี้ไม่ได้สนใจไม้บรรทัดขึ้นมา อาจจะเกิดอันตรายกับแม็ก เพราะยุคนี้มันแรงกันเหลือเกิน และเราไม่รู้ว่าคนเราจะขาดสติเมื่อไหร่ ต่อให้เขาไม่รู้บ้าน แต่เราก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ บางครั้งที่เห็นข่าว เรื่องเล็กน้อยกันมากๆก็ทำให้ฆ่ากันตายได้ ยิ่งเรื่องที่เกี่ยวกับความรัก มันยิ่งทวีความ หึง หวง โกรธ แค้น เยอะแยะไปหมดเพราะฉะนั้นคำว่า “แฟร์เกม” ตั้งแต่แรก เรามั่นใจหรือยัง ว่าเคลียร์ 100% คือคำว่า ”คนคุย“ ถ้าเป็นไม้บรรทัดในยุสมัยพี่ คนคุยคือการที่คุยกัน ศึกษากัน เพื่อที่จะเป็นแฟนในอนาคต หรือเพื่อตัดสินว่าเธอจะเป็นคนที่เป็นแฟนฉันไหมนะ ฉันขอคุยก่อน ถ้าใช่ค่อยคบหากัน ถ้าไม่ใช่ก็คือจบ พี่เลยไม่รู้ว่ายุคนี้มันมีคำบัญญัติสำหรับ เสตตัสที่แม็กมีไว้ให้ 4 คนนี้เป็นคำเฉพาะขึ้นมาหรือป่าว เพราะพี่รู้สึกว่า ถ้าคนคุยมีไว้เพื่อศึกษา และคัดออก-เข้า ใครเข้า ก็มาคบหากัน นี่คือคนคุย แต่จะว่าเป็น FWB ก็ไม่ใช่ เพราะอันนั้นมันมีแค่เรื่อง Sex จะมีสเตตัสตรงนี้หรือป่าวพี่ไม่รู้ แต่แม็กต้องเคลียร์ให้ชัดกว่านี้ ถ้า 1 ใน 4 ถ้าเขารู้สเตตัสดีพอก็คนไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ หรือถึงเขารู้สเตตัสดีพอ ในวันที่ความหึงหวงเกิดขึ้น เหตุผลก็ไม่สำคัญอีกต่อไป มันหน้ามืด มันเสียไปเท่าไหร่แล้ว เพราะฉนั้น เป็นห่วงความปลอดภัยตัวเองด้วยละกัน และถ้าเรายิ่งชัดเจน เราต้องตอกย้ำให้ชัดเจนว่าทุกคนไม่มีสิทธิ์ บอกให้รู้ว่า “พี่ยังไม่ใช่นะ ถึงจะพยายามก็ไม่ใช่ แต่ถ้าพี่จะยังอยู่ ก็แล้วแต่พี่” ทำให้เขาไม่มีความคาดหวัง ให้เขาไม่ต้องมีความผิดหวัง แล้วนำไปสู่ความแค้น ก็พอไปต่อกันได้’และสุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่ากติกาที่แม็กบอก มันเหมือนมีช่องโหว่อยู่ จริงๆมันก็แอบไม่แฟร์ เพราะแม็กใช้คำสุดท้ายว่า “หนูเปิดใจ ถ้าว่านึงหนูรู้สึกยังไง ก็อาจจะเกิดขึ้นได้” ซึ่งอันนี้มันทำให้มีความหวัง แต่ตัวแม็กเองคือ “ป่าว หนูไม่ได้อยากจะมีความสัมพันธ์กับใครทั้งนั้น” คือถ้าแม็กพูดกับเขาว่า “หนูชอบไปกินข้าวร้านอร่อยๆ หนูชอบไปที่สวยๆ หนูชอบให้คนซื้อของให้ แต่หนูจะไม่คบกับใครสักคนเป็นแฟนนะ” แบบนี้ถึงจะแฟร์ แล้วถ้าแบบนี้คนไหนยังอยู่กับเรา แล้ววันนึงแม็กเปิดใจ มันจะเหมือนเป็นการพิสูจน์ตัวเขามากเลย แต่ตอนนี้มันเหมือนแฟร์ แต่จริงๆมันไม่แฟร์เพราะมันมีรูโหว่ของมันอยู่ว่า เขามีความหวัง ซึ่งพี่ว่าแม็กก็รู้ว่าเขามีความหวังจากกติกาที่แม็กสร้างขึ้น ถ้าจะให้ตัดสินว่าผิดหรือไม่ผิด จริงๆแล้วกติกาเหมือนจะแฟร์ แต่ตัวแม็กเล็งเห็นผลว่าอะไรจะเกิดขึ้น แล้วแม็กก็โอเคที่จะเห็นมัน เพราะเราเห็นคนซื้อของแพงๆให้เรา คนพาเราไปนู่นไปนี่ เพราะเขามีความหวังว่า สักวันหนึ่ง แม็กจะถูกใจเขา แต่แม็กรู้ทั้งรู้ว่าป่าว เราไม่ได้อยากได้ใครสักคน เราแค่มีความสุขที่มีคนมาดูแล มีคนมาพาเราเที่ยวแบบนี้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูคบกับแฟนมา 10 ปี เขาคือแฟนคนแรกของหนู ตอนนี้เขาเพิ่งบอกเลิกหนู ด้วยเหตุผลว่า “ขออยู่คนเดียวที่ผ่านมาเขาให้หนูเป็นที่ 1 ในทุกเรื่อง ตอนนี้ขอเวลาเลือกตัวเองก่อนบ้าง” รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบของหนูพังลงแล้ว แต่เขายังทักมาถามว่าเราโอเคไหม?

20 พ.ค. 2025

หนูคบกับแฟนมา 10 ปี เขาคือแฟนคนแรกของหนู ตอนนี้เขาเพิ่งบอกเลิกหนู ด้วยเหตุผลว่า “ขออยู่คนเดียวที่ผ่านมาเขาให้หนูเป็นที่ 1 ในทุกเรื่อง ตอนนี้ขอเวลาเลือกตัวเองก่อนบ้าง” รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบของหนูพังลงแล้ว แต่เขายังทักมาถามว่าเราโอเคไหม?

หนูคบกับแฟนมา 10 ปี เขาคือแฟนคนแรกของหนู ตอนนี้เขาเพิ่งบอกเลิกหนู ด้วยเหตุผลว่า“ขออยู่คนเดียวที่ผ่านมาเขาให้หนูเป็นที่ 1 ในทุกเรื่อง ตอนนี้ขอเวลาเลือกตัวเองก่อนบ้าง” รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบของหนูพังลงแล้วแต่เขายังทักมาถามว่าเราโอเคไหม? ยังเป็นห่วงเราอยู่ คนเราจะเลิกกัน ทั้งๆที่ยังรักกันอยู่ได้จริงๆหรอคะ? “คุณเจ (นามสมมติ)” อายุ 29 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อวันพุธที่ผ่านมา [14 พ.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม” เกี่ยวกับปัญหาความรัก 10 ปีที่ไปกันไม่รอด และเลิกกันทั้งๆที่ยังรัก โดย “คุณเจ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมาตั้งแต่สมัยเรียน ระยะเวลารวม 10 ปี เขาเป็นแฟนคนแรก เป็นทุกอย่างของชีวิตทั้ง แฟน เพื่อน พี่ น้อง เขาคอยซัพพอร์ตหนูทุกอย่างที่อยากทำ คอยตามใจ พาไปกิน พาไปเที่ยว รับ-ส่งถึงบ้าน คอยให้คำปรึกษาในทุกเรื่อง คบกันมาเรื่อย ๆ จนถึงทำงาน มันยังไม่ได้มีเรื่องอะไรที่รู้สึกว่าต้องเปลี่ยนไปหรือเลิกกัน ส่วนตัวหนูเป็นคนขี้หึง ขี้หงุดหงิด เหวี่ยงและวีน ช่วงทำงานปีแรกๆ หนูค่อนข้างจับผิดคนที่ทำงานของแฟน ทุกครั้งถ้าเห็นแจ้งเตือนของเพศตรงข้าม หนูก็จะชักสีหน้าหรือหงุดหงิด จนกลายเป็นความไม่พอใจของหนูเอง และเราก็ทะเลาะกัน แต่หนูก็เชื่อใจและเข้าใจว่าแฟนคงไม่มีอะไร หนูเคยเข้าไปดูแชทของเขากับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งในมุมมองคนอื่นอาจจะมองว่าเป็นคนเฟรนด์ลี่สองคนคุยกัน แต่มุมมองของหนู หนูไม่ชอบ เพราะนี่คือแฟนของหนู ทำไมต้องคุยหรือทำแบบนี้กับแฟนคนอื่น? เพื่อนร่วมงานของแฟนคนนี้เขาเป็นคนที่ช่วยเหลือเรื่องงาน อยู่แผนกเดียวกัน อายุใกล้เคียงกัน เขาเลยปรึกษาเรื่องงานกัน บ้านเป็นทางผ่านก็อาจจะมีติดรถไป-กลับด้วยกัน ปฏิกิริยาของแฟนตอนหนูแสดงอาการ แรกๆแฟนหนูเขาจะอธิบายว่าไม่มีอะไรเลย แล้วก็ง้อและโอ๋ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของเขา เพราะแฟนเขาแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่ได้คิดอะไร เวลาผ่านไปหนูแสดงอาการบ่อยขึ้น แฟนก็เริ่มหงุดหงิด อารมณ์เสียบอกว่า “อีกแล้วหรอ เรื่องคนนี้อีกแล้วหรอ เราอยู่กับแบบสงบ ๆ ไม่ได้หรอ ทำไมต้องเอามาเป็นประเด็น” พอเริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้น ซึ่งก็อาจจะเป็นความประสาทของหนูเอง เริ่มท็อกซิกใส่แฟน จากที่เขาทำงานเหนื่อย เครียดเรื่องงาน เครียดหลาย ๆ อย่างรอบตัว พองานหนักขึ้นทุกปีก็ไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไหร่ หนูก็ยิ่งท็อกซิกขึ้น งอแงใส่แฟน พอเห็นแจ้งเตือนก็จะเริ่มตึง จากที่เขาวางแพลนว่าวันนี้จะดูซีรีส์ เล่นเกม ทำกิจกรรมร่วมกัน พอหนูหงุดหงิดก็จะเริ่มเงียบ ไม่เล่น ไม่มีอารมณ์ร่วม จะเสียเวลาครึ่งวันนั้นไปเลย แฟนก็เลยตัดปัญหาโดยการปิดการแจ้งเตือนเวลาอยู่กับหนู แต่พอเขาปิด หนูก็อยากเป็นโคนันอยู่ดี พอความสัมพันธ์ผ่านไป 7 ปี หนูก็เริ่มปล่อยวาง ไม่สนใจแล้ว เวลาหนูหงุดหงิดแฟนจะคอยเตือนว่าอารมณ์เป็นปัญหาที่เราจะต้องใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน หนูก็เลยปรับตัว เงียบขึ้น ปล่อยวางเรื่องเล็กน้อย เพื่อให้มีเรื่องกระทบกันน้อยที่สุด จะได้อยู่กันแบบสงบ จนช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ หนูจะไม่ค่อยทักแฟนไปช่วงทำงานเพราะรู้ว่างานเขาหนัก และเขาไม่ว่าง หนูก็จะรอให้แฟนทักมาเอง ด้วยความคิดที่ว่าถ้าแฟนทักมาแปลว่าเค้าว่าง ถ้าเราทักไปแฟนอาจจะยังไม่สะดวก หนูจะได้ให้แฟนโฟกัสกับงานอย่างเต็มที่ หลังจากที่เจย้ายออกจากบ้านแฟนมาอยู่บ้านตัวเอง เลยทำให้เราห่างกัน แต่พอช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาบอกเลิกหนู ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาอยากโฟกัสตัวเองบ้าง อยากให้ความสำคัญกับตัวเอง เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาแฟนให้หนูเป็นอันดับ 1 เสมอ เขาอยากโฟกัสว่าจริงๆตัวเองต้องการอะไร? หนูขอโอกาสจากแฟน “ไม่ไปได้มั๊ย ไม่เลิกกันได้มั้ย” เขาบอกว่าเขาก็ไม่ได้อยากเลิก แต่ไม่อยากทำร้ายเราต่อไป เขายังรักหนูนะ ไม่อยากยื้อไว้ให้เราสองคนยิ่งเจ็บ แต่อนาคตเราก็อาจจะมาคบกันอีกก็ได้ หลังจากเลิกกันอาทิตย์นึงไป เขาก็ยังทักมาถามทุกวันเป็นระยะ หนูเริ่มไม่แน่ใจว่าที่ทักมาเพราะแฟนรู้สึกผิดที่บอกเลิก หรือรักและเป็นห่วงเรากันแน่ ตัวเขาเองบอกว่ายังรักเราอยู่ เขาเป็นห่วงเรา ถึงเขาจะไม่สามารถเทคแคร์เราได้ แต่เค้าไม่สามารถปล่อยให้เราจมอยู่คนเดียวได้ ที่ผ่านที่หนูพยายามปรับปรุงตัว เขาบอกว่าเขาเห็นว่าหนูพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองมาตลอด เห็นว่าเราน่ารักขึ้น แต่พอยิ่งเราเติมเต็มเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดที่รู้สึกกับเราแบบนั้น ส่วนนึงไม่รู้ว่ามาจากการที่หนูถามเรื่องอนาคตบ่อยเกินไปหรือเปล่า หรือเปรียบแฟนตัวเองกับแฟนคนอื่นเพียงเพราะอยากรู้ว่าในอนาคตของเขามีหนูอยู่มากน้อยแค่ไหน การที่เราอยู่ด้วยกันทุกวัน หนูเลยไม่รู้ว่าอนาคตเขาวางแพลนไว้ มีหนูอยู่ในอนาคตของเขาหรือเปล่า แล้วเวลาหนูถามเขาก็จะบอกว่า ไม่ใช่ไม่อยาก แต่ก็เห็นอยู่ว่าสภาพแวดล้อมรอบข้างเป็นยังไง ภาระทางบ้านเขาค่อนข้างเยอะ แต่หนูไม่ได้ต้องการคำตอบชัดๆ หรือเขาจะโกหกหนูก็ได้ว่าในอนาคตแฟนก็มีเจอยู่ แต่เจก็ไม่ได้เซ้าซี้ ตอนนี้หนูก็รอเขาอยู่ หนูยอมรับว่าเป็นคนเริ่มทำให้มันแย่ และความสะสมของเขาที่ผ่านมามันทำให้รู้สึกแย่กับเจ สำหรับหนู เขาเป็นคนดี เป็นคนที่หนูรัก หนูก็ยังรักอยู่จนถึงทุกวันนี้ แต่พอต้องห่างกันก็ยังตัดใจไม่ได้ เขาก็ยังทักมา ยังคงเป็นห่วงว่าทำอะไรอยู่ กินข้าวหรือยัง ทุกอย่างยังเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนสรรพนามเท่านั้น ถ้าเขาไม่ทักมาก็กระวนกระจายใจ หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า หนูรู้สึกสับสนว่าจะต้องทำยังไงดี ระหว่างรอเค้าต่อไปหรือมูฟออนออกไป? ดีเจทั้งสามคน (ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม) ได้ให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า ‘ไม่ต้องไปตามหาเหตุผลของการเลิกกัน เพราะคนที่จะเลิกกันคงหาหลายเหตุผลมาบอกเรา มันเป็นความลับที่ไม่มีทางรู้ แม้เค้าจะพูดออกมาก็ไม่มีทางรู้ในใจเค้า คิดไปก็เจ็บ เจควรยอมรับความจริงว่าวันนี้เค้าไม่ได้รักเราเหมือนเดิม’ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า ‘ตามจิตวิทยาคนที่ถูกบอกเลิกเป็นเรื่องธรรมดาที่ช่วงแรก จะไม่อยากยอมรับความจริง เป็นการปฏิเสธ เรายังรักกันอยู่ เราไม่ได้เลิกกัน อนาคตอาจจะกลับมาเจอกันอีกก็ได้ จากเหตุผลที่เขาพูดมาว่า “เดิมให้เจเป็นที่หนึ่ง แล้ว ณ วันนี้อยากดูตัวเองบ้าง” นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะเลิกกับใครสักคน แฟนสามารถดูแลเราให้เป็นที่หนึ่ง แล้วก็ดูแลตัวเองได้ด้วย ไม่เป็นปัญหา แต่จะเป็นปัญหาก็ต่อเมื่อเราไม่ได้รักเขาแล้ว มันอาจจะเป็นแค่ประโยคที่ถูกคิดมาหลายวันเพื่อให้คนที่ถูกบอกเลิกรู้สึกดีที่สุด ทุกคนดูแลตัวเองทุกวันอยู่แล้ว พอเวลาผ่านไปเจจะเริ่มยอมรับความจริงได้ เข้าใจแล้วว่าเลิกกันแล้วจริง ๆ ก็จะเข้าสู่กระบวนการเยียวยาต่อไป การโดนบอกเลิก มันก็จะหนักหนาหน่อย ยิ่งคบกันมานานสิบปี หายไปใครก็เหวอ แต่ไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่เป็นเจ้าของโลกของเรา แฟนเป็นแค่หนึ่งในสามเองแล้วอีกสองในสามที่ไม่เคยมีเขาเราโตมาได้ยังไง เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดมากว่าเราเป็นคนผิดหรือเปล่า ชีวิตเจอาจจะไม่มีวันได้รู้เหตุผลเลยก็ได้ ใช้ชีวิตให้พ้นเป็นวันต่อวัน ถ้าวันนี้เศร้าก็แค่ร้องไห้ ถ้าอึดอัดก็หาเพื่อนระบาย แล้วค่อยเข้าสู่กระบวนการเยียวยาด้วยวิธีการต่าง ๆ ต่อไปแล้วมันจะค่อย ๆ ดีขึ้น’ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า ‘ไม่ว่าจะรักกันกี่ปีคนเราหมดรักกันได้ ของเจยังโชคดีที่มีสถานการณ์แบบนี้ให้รู้สึกว่าเราเคยรักกัน ตอนนี้อาจจะโหดร้าย เจต้องเปลี่ยนความคิดที่ว่าอยู่บนโลกนี้โดยที่ไม่มีเขาไม่ได้ เพราะเจอยู่ได้ ทุกคนอยู่ได้ ยกเว้นคนคิดสั้น ถ้าทำใจได้เมื่อไหร่ ก็อยากบอกว่าอย่าให้ใครเป็นโลกทั้งใบของเรา เพราะถ้าวันใดมันถล่มก็จะเป็นเหมือนวันนี้’ “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า ‘เรื่องราวในอดีตปัญหาส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการสื่อสาร ถ้าไม่ได้พูดกันบางทีมันก็สะสม แต่พูดมากไปก็ไม่พอดี แต่เท่าที่ฟังฝั่งผู้ชายก็ต้องตัดเลยอย่ายึกยัก ไม่ต้องส่งข้อความมาแสดงความเป็นห่วง ถ้าเราตั้งใจเลิกแปลว่าเราตั้งใจเปลี่ยนสถานะ บางทีอีกฝ่ายหนึ่งยังไม่พร้อม ทำให้เจยังอาลัยอาวรณ์ สุดท้ายนี้…เจต้องชัดเจนก่อนว่าเป้าหมายของตัวเองคืออะไร จะรอก็ได้ รอแบบไม่มีความหวังใช้ชีวิตไปวัน ๆ ก็ได้ หรือตั้งใจที่จะมูฟออน ซึ่งอาจจะไม่ใช่ตัดใจแต่มูฟไปอยู่ในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น เห็นคุณค่าของตัวเอง ถ้าเป็นพี่ พี่เชียร์ให้มูฟออนเพื่อสร้างเวอร์ชั่นใหม่ของตัวเอง แฟนจะกลับมาหรือไม่ ไม่ต้องไปสน ถ้าเขากลับมาเจอเราเวอร์ชั่นใหม่ เราอาจจะเป็นคนเลือกเองว่าได้ว่าเราไม่พอดีกัน หรือเป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่มีคนเข้ามาหา หรือเอนจอยกับการอยู่คนเดียวก็ได้ ไม่ว่าจะคบกี่คนเราก็สะดุด การเริ่มต้นสดใหม่เสมอ เป็นไปไม่ได้ที่ความรักจะไม่เจ็บ มันจะเจ็บทางใดทางหนึ่งเสมอ ลองหากิจกรรมอื่นทำ หรือหาเพื่อนที่รับฟังเรามากขึ้น’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูคบแฟนมา 1 ปีที่ผ่านมา เหมือนหนูไร้ตัวตนในพื้นที่ของเขา ล่าสุดหนูขอให้เค้าลงโพสวันเกิดหนู ถ่ายรูปด้วยกัน พอไปเช็ค เค้าตั้งค่า Story IG ซ่อนคน 200 กว่าคน ในนั้นมีทั้งคนรอบตัว ครอบครัว เพื่อน และ แฟนเก่าของเขาทั้งนั้น หนูรู้สึกเศร้าไปเลย

06 ก.ย. 2024

หนูคบแฟนมา 1 ปีที่ผ่านมา เหมือนหนูไร้ตัวตนในพื้นที่ของเขา ล่าสุดหนูขอให้เค้าลงโพสวันเกิดหนู ถ่ายรูปด้วยกัน พอไปเช็ค เค้าตั้งค่า Story IG ซ่อนคน 200 กว่าคน ในนั้นมีทั้งคนรอบตัว ครอบครัว เพื่อน และ แฟนเก่าของเขาทั้งนั้น หนูรู้สึกเศร้าไปเลย

“คุณเก๋ (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [4 ก.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อม’ เกี่ยวกับปัญหาแฟนทำให้รู้สึกไร้ตัวตน โดย “คุณเก๋ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูไม่มีตัวตนในพื้นที่ส่วนตัวของแฟน คือช่วงวันเกิดของหนูที่ผ่านมาเค้าลงสตอรี่ แต่หนูมารู้ทีหลังช่วงหลังวันเกิดหนูว่าเค้าซ่อนสตอรี่ 200 กว่าคน และเค้าก็ไม่เคยโพสต์รูปหนูในไอจีเลย หนูไม่เคยไปเจอเพื่อนเค้า มีแต่เค้ามาเจอเพื่อนหนูครอบครัวหนู ซึ่งหนูรู้ว่าการคบกันมันคือเรื่องของคน 2 คน แต่เรื่องตอนนี้มัน 2 คนจริง ๆ หรอ? เราไม่ได้มองอนาคตเหมือนกันหรอ? เค้าเองก็ตอบหนูทุกครั้งว่าเค้าอยากมีอนาคตไปกับหนู แต่สถานการณ์มันดันเป็นแบบนี้ และหนูก็เคยคิดว่าหนูเป็นน้อยเค้า ด้วยความที่เค้าซ่อนสตอรี่จำนวนมากประมาณ 200 กว่าคน ในนั้นก็จะมีเพื่อนเค้า แฟนเก่าเค้า คนรอบข้างแฟนเก่าเค้า ครอบครัวเค้า หนูก็เคยขอดูโทรศัพท์เค้าแต่ก็ไม่เจออะไรเลย หนูเลยอยากถามพี่ๆดีเจว่า ถ้าในมุมของคนอื่น ๆ ถ้าเจอความสัมพันธ์แบบนี้จะทำยังไง?’ ซึ่งทางด้าน “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่เค้าไม่ปล่อยอย่างเดียว หนูเองก็ไปไม่ไหวเหมือนกัน เพราะฉะนั้นตอนนี้หนูเป็นมนุษย์ที่อดทนอยู่ ถ้าหนูไม่ไหวก็ออกมาพี่พูดได้เท่านี้ ถ้าไหวก็สู้ แต่อย่าให้ถึงขึ้นเป็นซึมเศร้า ป่วย เกิดอะไรในใจแล้วท้อ ถ้าหนูว่างที่จะทนหนูทนเลย’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเป็นพี่พี่เจอแบบนี้พี่ไปแน่นอน สมัยหนุ่ม ๆ พี่ก็เคยเจออะไรแบบนี้ ถ้าเป็นพี่ที่เห็นว่าความสัมพันธ์นี้มันแปลก ๆ พี่จะไปเลย อย่าให้เราต้องไปเสียทรงกับเค้า เพราะถ้าความสัมพันธ์มันใช่มันจะไม่ยาก แต่สุดท้ายชีวิตมันก็เท่านั้น มันรู้ทั้งรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแต่มันออกมาไม่ได้ก็ทน พอมันเป็นเรื่องคนอื่นพี่พูดได้แหละ แต่ถ้าเราเจอเองเราอาจจะทนกว่าเก๋ก็ได้ เพราะงั้นถ้าไหวก็เช็คตัวเองบ่อย ๆ ดูใจตัวเองบ่อย ๆ จนวันที่เราไม่เอาแล้วเดี๋ยวมันจะมีทางไปของมันเอง แต่ 26 แล้วก็อย่าไปเสียเวลากับอะไรตรงนั้นมาก’ และสุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้ามีคนมาทำให้เรารู้สึกไม่มีค่า พี่จะไม่ไหว เหมือนมันจะทุเรศตัวเอง แล้วมันจะหยุดเอง ตอนพี่อายุเท่าเก๋มีก็เคยเป็น แต่แพทเทิร์นแบบนี้มันก็จะจบเหมือนกันหมดแหละ พวกพี่เคยเป็นมาแล้ว อย่าหวังเพราะคิดว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น เพราะตอนนั้นที่พี่ทนเพราะพี่คิดว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น และส่วนใหย่ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นกับคนต่อไป’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบแฟนมา 5 ปี แฟนหนูเป็นทอม แต่แม่แฟนอยากให้แฟนหนูแต่งงาน มีอนาคตกับผู้ชายมากกว่า หนูพยายามเอาชนะใจแม่เขามาตลอด 5 ปี แต่ล่าสุดแม่เขาเพิ่งมาด่าแม่หนูถึงที่ทำงาน ยืนด่า 1 ชั่วโมงกว่า แม่หนูรับฟัง แม่บอกทนได้เพราะลูกรักลูกเขา

18 ต.ค. 2024

คบแฟนมา 5 ปี แฟนหนูเป็นทอม แต่แม่แฟนอยากให้แฟนหนูแต่งงาน มีอนาคตกับผู้ชายมากกว่า หนูพยายามเอาชนะใจแม่เขามาตลอด 5 ปี แต่ล่าสุดแม่เขาเพิ่งมาด่าแม่หนูถึงที่ทำงาน ยืนด่า 1 ชั่วโมงกว่า แม่หนูรับฟัง แม่บอกทนได้เพราะลูกรักลูกเขา

คบแฟนมา 5 ปี แฟนหนูเป็นทอม แต่แม่แฟนอยากให้แฟนหนูแต่งงานมีอนาคตกับผู้ชายมากกว่า หนูพยายามเอาชนะใจแม่เขามาตลอด 5 ปีแต่ล่าสุดแม่เขาเพิ่งมาด่าแม่หนูถึงที่ทำงาน ยืนด่า 1 ชั่วโมงกว่า แม่หนูรับฟังแม่บอกทนได้เพราะลูกรักลูกเขา หนูจะเอาชนะใจแม่แฟนต่อไปยังไงดีคะ? “คุณพลอย (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [16 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อม’ เกี่ยวกับปัญหาพ่อแม่เเฟนกีดกันไม่ให้เราสองคนคบกัน อยากให้ลูกของเขามีแฟนเป็นผู้ชาย เเต่งงาน มีลูก โดย “คุณพลอย (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูกับแฟนคบกันมา 5 ปี หนูเป็นผู้หญิง แต่แฟนหนูเป็นทอม เราเริ่มคบมาตั้งเเต่ปีแรกก็มีฟีดแบ็กจากแม่แฟนทักมาด่าทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของหนู เเล้วก็มาคอมเมนต์รูปคู่ของเรา 2 ว่า “ให้เลิกกันเเล้วก็ลบรูปคู่นั้นออกซะ” ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 5 ปีแม่แฟนเขาก็จะตามสืบเรื่องราวของหนูทั้งหมดเลย ว่าหนูไปคบกับแฟนคนไหนมาบ้าง สืบย้อนหลัง 5 - 6 ปีเลย ที่ผ่านมาแฟนไม่ได้มีปัญหาเลย ก่อนหน้าที่แฟนจะคบหนูเขาก็มีแฟนเป็นผู้หญิงมาก่อน พ่อเเม่เขาอาจจะคิดว่ายังเด็กเลยไม่ได้สนใจอะไร เเต่เริ่มมีปัญหาตอนที่ขึ้นมหาลัยเขาอาจจะคิดว่า ต้องตั้งใจเรียน นึกถึงอนาคตเยอะขึ้น เเล้วเป็นจังหวะที่เขาเป็นเเฟนกับหนูพอดี ตอนแรกหนูก็ยังไม่ตอบโต้อะไร ยังพยายามพิสูจน์ความรักของหนูอยู่ว่าหนูจริงใจกับลูกเขาจริง ๆ ไม่ได้มาเพื่อที่จะหลอกอะไร เเต่พอเขารู้ว่าหนูเคยคบกับผู้ชายมาก่อน เขาเลยรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่จริงใจกับลูกเขาเเน่นอน ไม่มีทางที่ความรักของเรา 2 คนจะเป็นไปได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแฟนก็จะรู้ว่าแม่ของเขามีนิสัยเป็นยังไง เขาถึงไม่กล้าที่จะให้เราเปิดเผยตัวตน เพราะว่ามันเคยมีเหตุการณ์ครั้งนึงที่เราไปทานข้าวด้วยกัน เเม่แฟนโทรมาเเล้วถามว่าไปทานข้าวกับใคร เขาก็บอกตรง ๆ ไปว่ามาทานข้าวกับเรา พอเขาได้ยินยังไม่ทันขาดคำเลย เขาก็กดวางสายใส่ลูกเขาเลย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหนูรู้แบบนี้ ก็พยายามทำตัวล่องหนตลอด เราอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง พักหอพักเดียวกัน ไปเรียนด้วยกันเเล้วก็เลิกเรียนด้วยกัน ทุกครั้งที่เเม่เขาโทรมาหนูจะต้องเงียบเสียงตลอด เเต่ว่าทั้งหมดนี้หนูทนมาได้ ไม่ค่อยซีเรียส เรื่องนี้หนูยอมรับได้เพราะว่าหนูจะใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองว่าหนูจริงใจจริง ๆ เเต่ตอนนี้เรื่องมันเริ่มหนักขึ้น เรื่องเพิ่งเกิดเมื่อ 3 วันที่เเล้ว ก็คือคุณเเม่เขาตามมาด่าคุณเเม่ของหนูอยู่ที่ทำงานเลย เขารู้ว่าเเม่ของหนูทำงานที่ไหน บ้านของหนูอยู่ที่ไหน เพราะว่าเคยมาเเล้วครั้งนึง ช่วงนี้พวกหนูเรียนจบมาเเล้ว ก็อยากที่จะมาหา มาเล่นด้วยกันเสาร์-อาทิตย์ ตอนนี้ 2 - 3 เดือนมาเล่นด้วยกันทีนึง เเต่ทีนี้เหมือนเเม่เขารู้ว่าลูกเขามาเล่นกับหนู เขาก็มารับลูกเขากลับไป เเล้วในวันนั้นช่วงเย็นประมาณบ่ายโมง เเม่เขาก็ได้ขับรถจากอีกจังหวัดนึงมาหาหนู เเต่ไม่ได้เข้ามาที่บ้านหนู ดิ่งตรงไปที่ทำงานของเเม่หนู เเล้วก็ไปนั่งร้องไห้ให้เเม่หนูออกมาเพื่อที่จะคุยเจรจากันให้รู้เรื่องพอหนูทราบเรื่องหนูก็ขี่รถไปเพื่อที่จะไปฟังเขาว่าเขาจะทำอะไรกับเเม่หนู หนูต้องไปปกป้องเเม่ของหนู เเต่หลังจากที่หนูยืนฟังเขาพูด เขาพูดไม่ได้ใจความ อาละวาดเสียงดัง พูดทุกอย่างที่อยู่ในใจเขา เอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาปนไปหมด ทั้งเรื่องที่ลูกของตัวเองเกิดมาเเล้วไม่ได้ดั่งใจ ทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ ให้สอบอะไรก็สอบไม่ได้ เขาต้องทำงานหาเงินมาเพื่อเลี้ยงลูก เเล้วก็ลามมาว่าเหมือนหนู ไม่ได้จริงใจกับลูกเขาหรอก เคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อน เขาไม่ได้จะเอาหนูหรอก สิ่งที่เขาต้องการเเละอยากได้มาตลอดคือต้องการให้เรา 2 คนเลิกกัน เเล้วก็ห่างกันไปซะ ไม่ต้องมายุ่งด้วยกันอีก เเต่ทางเเม่ของหนูก็นั่งให้เขาด่ามาตลอดเป็นชั่วโมง ไม่ได้ตอบโต้อะไร นั่งน้ำตาคลอ คนในพื้นที่เขาจะรู้จักคุณแม่หนูหมดเลย ซึ่งมันก็ส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงาน เเล้วก็ความเสียหายต่อหน้าตาของเรา ซึ่งแฟนของหนูเขาค่อนข้างที่จะรักครอบครัว เเล้วเขาก็รักเรา ไม่อยากให้เรา 2 คนห่างกันออกไปมากกว่านี้ ไม่อยากให้มันมีปัญหาใหญ่ขนาดนี้ เขาไม่คิดว่ามันจะมีวันนี้ เลยค่อนข้างที่จะค่อย ๆ คุยกับคุณเเม่ นาน ๆ ทีขออนุญาตมาหาซัก 3 เดือนทีนึง ที่ผ่านมาเขาจะไม่เล่าให้เเม่ฟังเลยว่าเราเคยอยู่ด้วยกัน ช่วยกันทำมาหากิน หาเงินเรียนด้วยกัน เเม่เขาไม่ทราบเรื่องนี้เลย แฟนเขาเลือกที่จะมาอยู่กับเราเเต่เขาไม่ได้จะทิ้งเเม่ เเต่เขาอยากจะออกมาจากพื้นที่นั้นเพื่อมาอยู่กับพื้นที่เซฟโซนอย่างเรา เพราะว่าเค้าไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัว ทุกวันเเม่เขาจะมาปลุกตี 3 - 4 เพื่อให้อ่านหนังสือ วันเสาร์ – อาทิตย์ก็ไปกับเเม่ ไปทำงานด้วยกัน เขาอยากย้ายออกมากเเต่สุดท้ายเเม่เขาก็ต้องตามกลับมาอยู่ดี เเล้วคุณพ่อเขาก็เห็นด้วยกับคุณเเม่เขา ไม่ค่อยขัดคุณเเม่เท่าไหร่ ตอนนี้เราสองคนก็ยังคบกันอยู่เเต่ต้องเงียบ ทำเหมือนเราเลิกกันไปแล้ว ไม่ให้เขาทราบว่าเรายังคุยกันอยู่หลังจากเรื่องมันเกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้าเขาหนูก็เคยมีแฟนมาเเล้ว เเต่เป็นความรักที่ไม่ดี ส่วนมากที่เจอก็จะนอกใจ หนูรับไม่ได้เลยเป็นฝ่ายบอกเลิกเอง แต่กับคนนี้หนูไม่อยากเลิกกับเขา อยากคบกับเขาไปตลอดชีวิต เขาเป็นคนที่ดีที่สุด ไม่เคยมีปัญหากันเลย ดูแลเราดีทุกอย่าง อยากจะใช้ชีวิตต่อไปกับเขาไปเรื่อย ๆ ก็เลยอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า ทำยังไงกับสถานการณ์นี้ อยากจะชนะใจเเม่เขาให้ได้อย่างไร? ซึ่งดีเจทั้ง 3 คน (ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม) ก็ได้ให้คำปรึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘ต้องทนอย่างเดียว เราไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติคนเป็นพ่อเป็นเเม่ของเขาได้ เเม่เรารักเรายังไง เเม่เขาก็ต้องรักลูกเขาแบบนั้นเหมือนกัน ต่างคนต่างรักเเต่มันคนละแบบ เรื่องชนะใจก็พอคุยกันได้ ในวัย 24 กับความรักที่มันเกิดขึ้นหลังจากรักที่ผิดหวัง เขาทำให้เรารู้จักคำว่ารักเเละการดูเเลซึ่งกันเเละกัน 5 ปีที่คบมาก็เป็นระยะเวลาที่ยาวเเต่ก็ยังไม่ได้เป็นเวลาที่จะพิสูจน์ความเป็นคู่ชีวิตกันขนาดนั้น คบกันเเต่งงานเเล้วเลิกหลังเเต่งก็มี พี่ไม่ได้เเช่งเเต่อยากให้มีสติในการคบกันครั้งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ถ้าวันนี้มั่นใจกันมากขนาดนี้เเล้วอยากชนะใจ พลอยยอมรับได้มั้ยกับความเสี่ยงที่ต้องสู้เเล้วไม่ได้เห็นปลายทาง อะไรที่ขัดใจเเม่อย่าเพิ่งทำให้เขาเห็น ก็ต้องยอมอดทน สุดท้ายเราจะเข้าไปเพื่อที่จะดูเเลลูกเขา ถ้าทำให้เเม่ของเขารู้สึกแบบนี้ได้ หนูจะสิทธิ์ชนะใจได้ เเต่ต้องมีเดดไลน์ให้ตัวเองว่าจะลองพิสูจน์อีกนานเเค่ไหน การที่หนูมีเเม่ที่ดีก็ถือว่าโชคดี เเต่เราก็ต้องทำให้แม่เขาเชื่อในความสัมพันธ์ของเรากับลูกเขา ว่าเจตนาของเรานั้นต้องการที่จะดูแลลูกเขาจริง ๆ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1