ตลกแXก ของจริง ! หนูมีญาติคนนึง เขาชอบหาวาระยินดีกับครอบครัวหนู พีคสุด หมาบ้านหนูคลอดลูก ขับรถมาหาที่บ้าน บอกว่า ยินดีด้วย วันนี้จะเลี้ยงอะไร? แรกๆมากินคนเดียว หลังๆพาลูกหลานมาด้วย หนักสุดพาเพื่อนข้างบ้านเขามากินฟรีอีก

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ตลกแXก ของจริง ! หนูมีญาติคนนึง เขาชอบหาวาระยินดีกับครอบครัวหนู พีคสุด หมาบ้านหนูคลอดลูก ขับรถมาหาที่บ้าน บอกว่า ยินดีด้วย วันนี้จะเลี้ยงอะไร? แรกๆมากินคนเดียว หลังๆพาลูกหลานมาด้วย หนักสุดพาเพื่อนข้างบ้านเขามากินฟรีอีก

07 ก.พ. 2025

ตลกแXก ของจริง ! หนูมีญาติคนนึง เขาชอบหาวาระยินดีกับครอบครัวหนู

พีคสุด หมาบ้านหนูคลอดลูก ขับรถมาหาที่บ้าน บอกว่า ยินดีด้วย วันนี้จะเลี้ยงอะไร?

แรกๆมากินคนเดียว หลังๆพาลูกหลานมาด้วย หนักสุดพาเพื่อนข้างบ้านเขามากินฟรีอีก

จนตอนนี้มีข่าวดีอะไร หนูต้องแอบไปฉลองเงียบๆกันเอง

            “คุณหนู(นามสมมุติ)” อายุ 33 ปี สายสุดท้ายของรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 ก.พ. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาญาติหาทุกโอกาส ทุกเทศกาลในการกินฟรี

            โดย “คุณหนู (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีญาติคนนึงที่เขาอยากให้หนูเลี้ยงอาหารทุกมื้อ ทุกงานเทศกาล เเละทุกโอกาสที่สามารถเลี้ยงหรือจัดปาร์ตี้ได้ เขาเป็นญาติทางฝั่งของคุณเเม่ ซึ่งเขาเป็นน้าของหนู อายุประมาณ 60 กว่าๆ มีอยู่ครั้งนึงหนูโพสต์ว่า หลานของหนูได้เกรด 3.5 เขาก็โทรมาเลยว่า อุ้ย! วันนี้กินที่ไหน เลี้ยงที่ไหนดี หรือบางโอกาสอย่าง หมาที่บ้านหนูคลอดลูก เขาก็จะขับรถมาที่บ้านเเล้วถามเลยว่า อุ้ย ฉลองที่ไหนดีวันนี้ กินอะไรดี ร้านไหนดีวันนี้ ตอนเเรกหนูก็ยังโอเค ไปกินชาบู หมูกะทะ หนูก็ชวนเขาไปด้วย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ครั้งแรกๆเขาจะไปคนเดียว แต่พอชวนบ่อยๆ เขาก็จะเอา พ่อเขา , แม่เขา , ลูกชาย , หลาน , ลูกสะใภ้มากินด้วย หนักสุดคือเขาชวนคนข้างบ้านของเขา มาด้วยโดยที่ไม่ได้บอกหนูก่อนเลย เพราะหนูก็ต้องตั้งงบไว้ด้วยว่าใช้เท่าไหร่ หัวละเท่าไหร่ และทุกครั้งเขาก็จะคิดว่าหนูเป็นเจ้ามือ เป็นเจ้าภาพทุกครั้ง ไม่ว่าหนูจะโพสต์อะไรที่เป็นการแสดงความยินดีกับคนในครอบครัว เขาก็จะโทรมา หรือไม่ก็ขับรถมาหาที่บ้านเลย เเล้วก็จะถามว่าวันนี้กินที่ไหนดี ที่เขาทำแบบนี้ได้เพราะเขาค่อนข้างสนิทกับเเม่ของหนู แต่ก็ไม่ได้มีความสนิทกับหนูขนาดนั้น ก็เป็นเเค่ญาติคนนึง แล้วพอหนูปฎิเสธเขาไป เขาก็ไปคุยกับคนอื่นว่าบ้านหนูจะไปจัดกินเลี้ยงกันยิ่งใหญ่ เเล้วคนที่ได้ฟังก็จะโทรมาหาหนู เเล้วก็ถามว่าจริงหรอ ทำให้หนูรู้สึกว่าเขาพยายามที่จะกดดันให้หนูจัดเเละก็เลี้ยงเขาด้วย

            ก่อนหน้านี้หนูจัดงานวันเกิดคุณเเม่ของหนู หนูก็ต้องขับรถไปกินร้านไกลๆ ขนาดจะถ่ายรูปโพสต์ลงFacebook หนูยังไม่กล้าเลย หนูกลัวเขาจะทักมาว่าทำไมไม่ชวนเขา กลายเป็นตอนนี้หนูเริ่มรู้สึกอึดอัดมากเลย เพราะทุกครั้งที่ไปกินข้าวกับเขา เขาไม่เคยออกเงินเลยสักบาท คนข้างบ้านที่เขาชวนมา หนูก็ต้องเป็นคนจ่ายเงินให้ เเล้วถ้าหนูไปมีปัญหากับเขา เขาจะเอาเราไปพูดกับคนอื่นทำให้ญาติคนอื่นก็จะไม่คุยกับเราด้วย แล้วหนูก็จะรู้สึกไม่สบายใจ เพราะกลัวพ่อเเม่หนูจะมีปัญหาอะไรกับเขาอีก เเละล่าสุดหนูกับเเฟน ก็พึ่งไปจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมด้วยกัน เขาก็ถามหนูตั้งแต่วันที่หนูจดว่า ครั้งนี้จะไปกินเลี้ยงอะไรดีล่ะ? แต่พอกลับกันเวลาบ้านเขามีงานปาร์ตี้หรือจัดฉลองอะไร เขาไม่เคยคิดที่จะชวนเราไปด้วยเลย ซึ่งที่หนูไม่ค่อยพูดอะไร เพราะพยายามรักษาน้ำใจเอาไว้อยู่ หนูเลยอยากถามพี่ๆดีเจว่า ‘หนูควรทำยังไงดีกับญาติคนนี้ หรือมีวิธีพูดยังไงไม่ให้เสียน้ำใจไหมคะ?’

            โดย “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘ญาติเเบบนี้เราไม่จำเป็นต้องไปเเคร์หรอก ไม่ต้องรักษาน้ำใจ ถ้าเขามาถามเราอีกรอบเรื่องที่หนูไปจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมกับแฟนมา แล้วจะเลี้ยงอะไร? ถามเขากลับไปเลยว่า รอบนี้น้าต้องใส่ซองให้หนูด้วยนะ เพราะเลี้ยงข้าวน้า ไปเยอะเเล้วเหมือนกัน หรือก็ไม่ต้องชวนเขาไปด้วย เพราะทีเขาจัดปาร์ตี้อะไร เขาก็ไม่เคยชวนเราไปด้วยเหมือนกัน ถ้าอยากปฎิเสธเเบบดีๆหน่อยก็บอกไปว่า ไม่เลี้ยง ไม่มีเงินเเล้ว เพราะงั้นอย่าไปยอม ให้พูดตรงๆกลับไปบ้าง สวนเขาไปเลยสักนึงเเมตช์’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เสียความมั่นใจไปเลย... สาวโทรแชร์ประสบการณ์กับ 3 ดีเจ เพิ่งไปนัด One Night Stand ครั้งแรกกับหนุ่มในแอปหาคู่ ตอนเจอกัน เขินมาก ทำตัวไม่ถูกเลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยๆ จนเขาพูดว่า "เธออย่าล่กดิ" โยนเสื้อใส่อกเรา แล้วออกจากห้องไปเลย

16 ส.ค. 2023

เสียความมั่นใจไปเลย... สาวโทรแชร์ประสบการณ์กับ 3 ดีเจ เพิ่งไปนัด One Night Stand ครั้งแรกกับหนุ่มในแอปหาคู่ ตอนเจอกัน เขินมาก ทำตัวไม่ถูกเลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยๆ จนเขาพูดว่า "เธออย่าล่กดิ" โยนเสื้อใส่อกเรา แล้วออกจากห้องไปเลย

เสียความมั่นใจไปเลย... สาวโทรแชร์ประสบการณ์กับ 3 ดีเจเพิ่งไปนัด One Night Stand ครั้งแรกกับหนุ่มในแอปหาคู่ตอนเจอกัน เขินมาก ทำตัวไม่ถูกเลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยๆจนเขาพูดว่า "เธออย่าล่กดิ" โยนเสื้อใส่อกเรา แล้วออกจากห้องไปเลยตอนนี้ไม่มั่นใจในตัวเองเลย ทำยังไงให้เอาความรู้สึกพวกนี้หมดไปสักที “คุณอิง (นามสมมุติ)” อายุ 21 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (9 ส.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก -ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอมเกี่ยวกับปัญหานัด One Night Stand ครั้งแรก ยังไม่ทันเริ่ม ก็โดนเขาบอกว่าอย่าล่ก แล้วก็ออกจากห้องไปเลย โดย “คุณอิง (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘เหตุการณ์ที่หนูเจอ ทำให้หนูเสียความมั่นใจจากการนัด ONS (One Night Stand) หนูขอเกริ่นก่อนว่า... ครั้งนี้คือการนัด ONS ครั้งแรกของหนู คิดว่าเรียนมหาลัยมา 4ปีแล้ว หนูก็อยากลองสักครั้งนึง เราเจอกันทางแอปหาคู่ ส่วนรูปที่ใช้ในโปรไฟล์กับตัวจริงก็ใกล้เคียงกัน ใส่ฟิลเตอร์นิดหน่อย ซึ่งเขาอายุพอๆกับหนู เราคุยกันและตกลงนัดกันคืนนั้นเลย เพราะอยู่ใกล้กันมาก หลังจากนั้นเขาก็มาที่ห้องหนู คือตอนนั้น ยอมรับเลยว่าเขินมากไม่รู้จะเริ่มยังไง หนูก็เลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยนู่น นั่น นี่ ช่วงแรกๆเขาก็ตอบหนูปกติ ดูจอยกับเรามาก สักพักนึงเขาก็เริ่มตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง นั่งเล่นโทรศัพท์บ้าง เริ่มไม่จอยแล้ว ซึ่งในระหว่างที่หนูชวนเขาคุย เขาจะพูดขึ้นมาตลอดเลยว่า เธออย่าล่กดิว่ะ อย่าล่กได้ปะ พอเห็นเขาพูดบ่อย ๆ หนูก็เลยเลิกถามเขา มันก็เลยกลายเป็นการเงียบใส่กัน แต่หนูว่า หนูก็ไม่ได้มีแสดงอาการตัวสั่น ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น หนูคิดว่าอาจจะชวนเขาคุยเยอะเกินไปกว่าที่หนูคิด ตอนคุยกันก็ถามประมาณ เธอเคยนัดหรือป่าว นัดมากี่คนแล้ว เรียนที่ไหน คณะอะไร คำถามประมาณนี้... หลังจากนั้นเขาก็พูดย้ำอีกรอบ เธอดูล่กจัง ถ้าไม่อยากทำ เดี๋ยวกลับก็ได้นะ หนูก็เลยถามเขาไปตรงๆว่า จะเริ่มเลยไหมหละ? เขาก็พยักหน้า แล้วเหมือนแบบสถานการณ์ตอนนั้นเขาดูแฮปปี้ขึ้นมาเลย ต่างจากก่อนหน้านี้ที่เขาตึงใส่หนู แล้วทีนี้ก็ตามสเต็ปเลย เล้าโลมกันปกติ แล้วหนูก็เหมือนอยากจูบเขา ก็เลยถามเขาว่า ไม่ Kiss กันหน่อยหรอ เขาก็นิ่งใส่หนูไปแป๊ปนึง แล้วก็ตอบกลับมาว่า เราไม่ค่อยชอบจูบอะ หลังจากนั้นเขาก็หยุดทำทุกอย่าง แล้วก็พูดต่ออีกว่า เธอดูล่กว่ะ ไม่ธรรมชาติเลย แล้วเขาก็โยนเสื้อมาปิดหน้าอกหนูไว้ แล้วก็ลุกขึ้น บอกกับหนูอีกรอบว่า เธอดูล่กอะ ไม่ธรรมชาติ แล้วก็ออกจากห้องหนูไปเลย ตอนนั้นคือหนูนั่งเอ๋อเลย หนูตั้งตัวไม่ทันว่าหนูผิดอะไร ที่หนูโทรเข้ามาวันนี้ก็เพราะ มันเสียความมั่นใจไปแล้ว คืนนั้นหนูนอนไม่หลับ รู้สึกดาวน์มาก ไม่มั่นใจในตัวเอง หนูอยากรู้วิธีเอาความรู้สึกนี้ออกไป แล้วก็อยากรู้ว่าที่หนูทำออกไปคืนนั้นมันดูล่กจริงๆหรอ? หนูค้างคาใจมากที่อยู่ดีๆเขาก็ไปเลย ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” เริ่มให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับคนบางคนที่เขาจะนัดมาเพื่อมีเพศสัมพันธ์ เขาไม่ต้องการการพูดคุยนะ เขามาเพื่อต้องการทำสิ่งนั้นแล้วจบ แล้วก็กลับ มันไม่ใช่การมาเดท เขาไม่ได้ต้องการมาอารัมภบท ไม่ต้องการจะรู้จัก บางคนไม่สนใจชื่อด้วยซ้ำว่าชื่ออะไร มันคือการนัดมาเพื่อทำกิจกรรมนั้นอย่างเดียว เรารู้สึกการที่น้องพยายามพูดคุย พยายามไปถามอย่าง “อยากจูบ” คือถ้าธรรมชาติคนที่เขาทำอะไรแบบนี้ เขาจะไม่ถาม ถ้าอยากทำเขาทำเลย พี่เลยรู้สึกว่าเนี่ยคือสาเหตุที่เขาทำแบบนั้นกับอิง แต่เอาจริง ๆ มันมีสาเหตุอีกมากมาย ที่พี่พูดคือพี่เดาจากสถานการณ์ที่อิงเล่ามานะ ต่อมาที่ “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ไม่รู้ธรรมชาติของการนัดมีอะไรกันผ่านแอป เพราะเท่าที่พี่ฟัง พี่ไม่ได้รู้สึกมันล่ก หรืออะไรนะ พี่ก็รู้สึกมันคือการทำความรู้จักกันก่อน แบบเปิดประตูมาจะให้จุดระเบิด ปั้ง โป้ง เป้ง แล้วแยกย้าย มันก็ตลกนะ หรือเอาแบบนี้ คิดในมุมพี่ อิงดันไปเจอคนที่เขาโผงผาง คนละสไตล์กับเรา ทั้งสองคนอาจต้องการเซ็กส์เหมือนกัน แต่คนนึงไม่อยากคุย อีกคนอาจจะเออเราคุยกันก่อนสิ แล้วดันไปเจอคนที่ไม่รักษาน้ำใจ ขี้รำคาญ มันก็หงุดหงิดอะไรมาด้วยหรือเปล่า แต่พอพี่ฟังจบ พี่กลับรู้สึกโชคดีจังเลย เหมือนเป็นโชคดีของอิงที่ไม่ได้อะไรมากกว่านี้กับคนนี้ เพราะไม่รู้ว่าถ้ามีอะไรกันจริงๆ แล้วพอแยกย้าย บรรยากาศตอนนั้นอาจจะทำให้อิงรู้สึกยิ่งด้อยค่าตัวเองลงไปอีกหรือเปล่า เราอาจจะมาลงในสนามที่เราไม่เคย แล้วเราก็ไม่รู้ธรรมชาติของคนในแอปนี้ ว่าเขาต้องแนะนำตัวไหม คุยกันแค่ไหน หลายครั้งที่คนโทรเข้าพุธทอล์ค พุธโทร แล้วเล่าว่าไปเล่นผิดสนาม มือใหม่ เข้าไปเขาอาจจะมีทำเนียมของเขาที่เราอาจไม่รู้ เพราะฉะนั้นพี่ว่าเรื่องนี้ไม่อยากให้เอาไปผูกกับความมั่นใจ หรือคุณค่าในตัวเอง พยายามคิดไว้ว่าในโลกที่เขานัดเจอกันผ่านแอป มันก็ไม่ต้องมานั่งประดิดประดอยกันมาก ถ้าเราอยากประดิดประดอย อยากคุยก็ต้องลองช่องทางอื่น เอาเป็นว่า รสนิยม สไตล์มันดันไม่ตรงกัน แล้วดันไปเจอคนไม่แคร์อะไรด้วย จะไปก็ไปเลย มันเลยทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าเราอยู่ถูกที่ ถูกเวลา แล้วก็ถูกคน มันก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทั้งหลายทั้งมวลถ้าต้องการอะไรที่สวยงามก็หาช่องทางที่เหมาะสมกับเรา และกลับไปถามกับตัวเองว่า “ฉันเหมาะกับ One Night Stand หรือเปล่า” ปิดจบกันที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า “ไม่ต้องไปเสียความมั่นใจ คนนั้นก็อ่อนด้อยเหมือนกันแหละ ทำไมไม่เริ่มก่อนหละ มาว่าอิงล่ก ก็เปิดมาก่อนสิ ถ้าเปิดเราก็พร้อมตามอยู่แล้ว เป็นผู้ชายก็ลุกมากก่อนสิ งี้ก็มือใหม่เหมือนกันนั้นแหละ เข้าไม่ถูกไง” ‘เอาแบบนี้ถ้าอยากได้คนที่มีชั้นเชิง เป็นงานก็อาจจะต้องหาคนที่อายุมากกว่านี้ แล้วอิงเป็นคนชอบแบบมีเรื่องราวก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ ถ้าแบบนี้เวลาหนูเข้าในแอป มันจะมีให้เลือกหลายประเภท มันมีโอกาสที่หนูจะเจอคนแบบจู่โจม หนูลองเปลี่ยนสนามไปร้านเหล้า มีคนแนะนำ เราดีลกันหน้างาน หนูยังเลือกคนได้ ยังสนทนากันได้นิดนึง ยังพอได้จีบกันหน่อย…..’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ทุกคนคิดว่า "งานข้าราชการ" มั่นคงกันไหมครับ? ผมเป็นครูอัตราจ้างมาหลายปี แต่โดนคนรอบข้าง และ คนในครอบครัวดูถูกมาว่า "ทำงานมาหลายปี ไม่เห็นมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน"

16 ก.พ. 2024

ทุกคนคิดว่า "งานข้าราชการ" มั่นคงกันไหมครับ? ผมเป็นครูอัตราจ้างมาหลายปี แต่โดนคนรอบข้าง และ คนในครอบครัวดูถูกมาว่า "ทำงานมาหลายปี ไม่เห็นมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน"

ทุกคนคิดว่า "งานข้าราชการ" มั่นคงกันไหมครับ? ผมเป็นครูอัตราจ้างมาหลายปีแต่โดนคนรอบข้าง และ คนในครอบครัวดูถูกมาว่า "ทำงานมาหลายปี ไม่เห็นมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน"คนอื่นมีบ้าน มีรถกันหมดแล้ว ได้ยินบ่อยๆจนตอนนี้เริ่มท้อ คิดอยากเปลี่ยนอาชีพทั้งที่ยังรักการสอนอยู่ “คุณโอ (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [14 ก.พ 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อย นภาพร เกี่ยวกับเรื่องการทำงานข้าราชการ โดย “คุณโอ(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมทำงานในสายข้าราชการมาประมาณ 5-6 ปี เมื่องช่วงปี 65 ผมตัดสินใจลาออก เพราะไม่ถูกกับผู้บริหาร เพราะผมเคยทำงานในตำแหน่งงานธุรการมาก่อน แล้วได้เลื่อนมาเป็นครูพิเศษสอน ผู้บริหารมักจะพูดกับผมประมาณว่า “เดี๋ยวให้ลงไปเป็นธุรการเหมือนเดิม” พูดแบบนี้กับผมทุกวัน และที่หนักสุดคือ เขาด่าผมว่า “โง่” ต่อหน้าเด็กนักเรียนกลางหน้าเสาธง จนทำให้ผมตัดสินใจลาออก และไปทำงานบริษัทเอกชนในกรุงเทพ 1-2 เดือนต่อมา ผมได้ข่าวว่าผู้บริหารคนนี้ลาออก คุณครูคนเก่าที่โรงเรียนนี้จึงโทรมาหาผม ถามว่า “ยังอยากกลับมาไหม” เพราะผลงานที่ผมทำให้กับโรงเรียนก็ได้มาตรฐาน คุณครูที่โรงเรียนก็เล็งเห็นเลยอยากให้ผมกลับไป ด้วยความที่ผมก็ทำงานสายข้าราชการมาโดยตลอด และรักในความเป็นครู ผมจึงตัดสินใจกลับไป ตอนที่ผมตัดสินใจลาออก จากบริษัทเอกชน ผมก็ได้ไปปรึกษากับหลายคน เริ่มจากคนในครอบครัว ครอบครัวของผมมีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 5 คน ผมเป็นคนสุดท้อง พี่ทุกคนต่างทำงานบริษัทเอกชนกันหมด ผมก็มีความคิดประมาณว่า “ต้องมีใครสักคนในครอบครัว เป็นข้าราชการ เพื่อจะได้รับสวัสดิการ” ผมก็เอาเหตุผลนี้ไปบอกกับครอบครัว แต่ครอบครัวก็ไม่เข้าใจ ผมพยายามหาหลาย ๆ เหตุผลมาอธิบาย เช่น “อยู่ไปก่อน เดี๋ยวก็ค่อยไล่สอบ ซึ่งไม่ใช่จะต้องเป็นครูอย่างเดียว งานข้าราชการไหนที่เปิดรับสมัครก็จะพยายามลงสอบให้ได้” พอผมอธิบายแบบนี้ไป ครอบครัวก็บอกว่า “ไหวหรอ เงินเดือนก็น้อย อยู่ได้ไม่นาน มีใต้โต๊ะบ้าง มีทุจริตบ้าง” ซึ่งผมก็บอกว่า “มันเป็นเรื่องปกติ ขึ้นอยู่กับเราว่าจะทำตัวแบบไหน” และด้วยความที่ว่าอัตราเงินเดือนของผมตอนนี้ มันน้อยกว่าทุกคนในบ้าน เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปม ผมเลยไปปรึกษาเพื่อนที่ทำงานข้าราชการและทำงานเอกชน ผมถามคนที่ทำงานข้าราชการ เขาก็จะบอกข้อดีของการทำงานข้าราชการ ผมไปถามคนที่ทำงานเอกชน เขาก็จะบอกข้อดีของการทำงานเอกชน ย้อนกลับไปตอนที่ผมทำงานบริษัทเอกชน ผมก็ได้มีการเรียนต่อปริญญาโทด้วย พอตอนที่คุณครูที่โรงเรียนตามกลับไปทำงาน ผมก็ลาออกจากการเรียนปริญญาโท แล้วมาเรียนต่อป.บัณฑิต(วิชาชีพครู) และช่วงเดือนธันวาคมผมเรียนจบ ผมก็เลยมีความคิดว่า อยากลาออกแล้วกลับไปทำงานที่บริษัทเอกชนอีก เพราะว่าผมก็อายุ 26 ปี แต่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ขณะที่พวกพี่ ๆ มีทุกอย่างหมดแล้ว ผมอยากจะถามพี่ ๆ ดีเจว่าผมควรจะเลือกทางไหนดี? สำหรับคนที่อายุเท่านี้ ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ที่พี่รู้คือ ตอนนี้คุณโออยากเป็นครู หรืออะไรก็ได้ที่เป็นราชการ ถ้าเรามี Passion กับเรื่องอะไร ก็อยากให้ทำอันนั้น แต่มันจะมีประโยคที่คุณโอพูดว่า “ต้องมีใครสักคนในครอบครัว เป็นข้าราชการ เพื่อจะได้รับสวัสดิการ” ถ้าเป็นเหตุผลนี้พี่ไม่เห็นด้วย เพราะพี่คิดว่ามันไม่ได้เป็นหน้าที่ใครในครอบครัวที่จะมารับผิดชอบชีวิตคนอื่น คุณโอไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปทำงานข้าราชการ ถ้าคุณโอไม่อยากทำ แต่ถ้าคุณโออยากเป็นครูจริง ๆ เพราะรักในการสอนนักเรียน เป็นครูที่ดี อันนี้พี่เชียร์ให้ทำ แต่ต้องขยัน สอบบรรจุเป็นครูประจำให้ได้ เพราะครูอัตราจ้างยังไม่มั่นคง เงินเดือนก็ค่อนข้างน้อย และไม่อยากให้คุณโอเอาชีวิตตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น คุณโออยากเห็นตัวเองเป็นอะไร และมีความสุขกับการทำอะไร อันนี้ต่างหากที่สำคัญ’ ต่อมา “ดีเจพี่อ้อย” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่มองว่าไม่ได้เกี่ยวกับข้าราชการหรือเอกชน พี่รู้สึกว่าชอบอะไร ทำสิ่งนั้น แต่ถ้ายังเป็นครูอัตราจ้างอยู่ ก็ไม่ได้สวัสดิการตามนั้น และถ้าคุณโอทำงานบริษัทเอกชน เรายังมีสวัสดิการเรื่องอื่น ๆ ที่เทียบกันแล้วก็อาจจะใกล้เคียงกับสิทธิ์ข้าราชการก็ได้ หรือแม้แต่พี่ ๆ ของคุณโอที่ทำงานบริษัทเอกชน ก็มีเงินเก็บ มีประกันชีวิต ถ้าเราคิดว่าจะต้องดูแลครอบครัว พี่น้องตั้งหลายคนก็ช่วยกัน เรื่องนี้ก็สามารถทำได้ ไม่อยากล็อกไว้แค่ว่า ตกลงเป็นข้าราชการหรือเอกชนเท่านั้น อันไหนถึงจะดี แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเราว่าเป็นงานที่ชอบ เป็นงานที่เรารัก และเป็นงานที่เราพร้อมจะพัฒนาตัวเอง ในที่สุดแล้วเราก็ต้องเลือกงานที่เราชอบก่อน ‘ และสุดท้าย “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ครอบครัวน่าจะเข้าใจผิด เพราะหลายคนที่เลือกรับข้าราชการ ก็เพราะความมั่นคง เรื่องของรายได้ อาจจะสู้เอกชนไม่ได้ แต่ในระยะยาวมั่นคงกว่า เท่าที่พี่เคยคุยกับคนที่ทำอาชีพครู เขาก็บอกว่าครูเอกชน เงินดีจริง แต่เมื่อไหร่ที่คุณมาตรฐานตก หรือมีครูที่มีชื่อเสียงกว่า คุณมีสิทธิ์โดนแทนได้ทุกเมื่อ แต่การที่จะสอบครูข้าราชการมันยาก รับคนไม่เยอะ การที่คนจะไปเป็นครูอัตราจ้างก่อน เพื่อที่จะมีสนามสอบพิเศษ คุณโอต้องประเมินตัวเองก็ว่า อยากเป็นครูจริง ๆ และทำได้ดีในอาชีพครู ช่วงแรกก็คงต้องอดทนไปก่อน จนกว่าจะสอบบรรจุได้ และอยากจะส่งกำลังใจให้ เพราะหาคนที่มีใจรัก ที่อยากเป็นครูจริง ๆ หายาก แล้วผมก็อยากให้มีครูดี ๆ เยอะ ๆ เพราะการศึกษาไทยจะได้พัฒนาขึ้นไปอีก’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูมีคนคุยคนนึง เค้าเลี่ยงที่จะตอบคำถามหนู หนูชอบถามเค้าว่า "คิดถึงเราป่าว?" เค้าก็จะเลี่ยงไม่ตอบ เปลี่ยนเรื่องคุยตลอด แต่เค้าก็เคยพูดว่า "ถ้าไม่คิดถึง คงไม่ขับรถไกลขนาดนี้มาหาหรอก" อยากรู้ว่าทำไมผู้ชายไม่ค่อยตอบมาเลยว่า "คิดถึงครับ" เหรอคะ?

08 มี.ค. 2024

หนูมีคนคุยคนนึง เค้าเลี่ยงที่จะตอบคำถามหนู หนูชอบถามเค้าว่า "คิดถึงเราป่าว?" เค้าก็จะเลี่ยงไม่ตอบ เปลี่ยนเรื่องคุยตลอด แต่เค้าก็เคยพูดว่า "ถ้าไม่คิดถึง คงไม่ขับรถไกลขนาดนี้มาหาหรอก" อยากรู้ว่าทำไมผู้ชายไม่ค่อยตอบมาเลยว่า "คิดถึงครับ" เหรอคะ?

“คุณส้ม(นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (6 มี.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาการบอกคิดถึงของผู้ชาย โดย ​“คุณส้ม(นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า ‘ตอนนี้มีคนคุยคนนึง เราเจอกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพราะทำงานกันทั้งคู่ พอเจอกันมันก็ดี เขาเทคแคร์ ตักอาหารให้ ขับรถมารับ-มาส่ง เขาอายุ 23 เท่ากันกับเรา เวลาเจอกันเขาก็ปกติแต่เขาเป็นคนไม่หวานเวลาอยู่กับเรา แต่เราจะเป็นคนบอกก่อนว่า คิดถึงนะ คิดถึงเราไหม เขาก็ไม่ตอบเลี่ยงไปคุยเรื่องอื่น เขาเคยพูดว่าถ้าไม่คิดถึง ไม่ขับรถมาหาไกลขนาดนี้ แต่ตอบเลี่ยง ๆ หนูอยากถามพี่ ๆ ว่า ทำไมเขาไม่ตอบว่าคิดถึงมาเลย’ ซึ่ง “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องรอเขาอายุซัก 30 ขึ้นไปจะเริ่มอ่อนลง สมัยวัยรุ่นพี่ก็เป็น ตอนนั้นมันมีทรง เรารู้สึกว่าคนเท่ ๆ อย่างเราอย่าไปพูดว่ารักบ่อย พูดไปก็เท่านั้น ทำไมถึงมาวัดกันที่คำพูด ให้พูดว่ารัก คิดถึง ใคร ๆ ก็พูดได้ ดูสิว่าที่เราขับรถข้ามจังหวัดมาหา อันนี้แหละคือพิสูจน์มากกว่าคำพูดเยอะ นี่คือความคิดพี่ตอนนั้น แต่เมื่อโตมาพอสมควร ถึงรู้ว่าต้องทั้งทำและทั้งพูดสิ มันจะยิ่งดีขึ้นอีก 2 เท่า ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็คิดเหมือนพี่เผือก ถ้าเราดูแล้วรู้สึกว่า การกระทำมันแสดงออกถึงความรู้สึกเขา แค่นั้นก็พอ แต่อย่าเอาสิ่งที่เขาไม่ตอบมาทำร้ายจิตใจ ความรู้สึก หรือความสัมพันธ์ของเรา ดูการกระทำ ให้การกระทำมันตัดสิน’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็ดูการกระทำอยู่แล้ว ถ้าเป็นฉันก็จะสรุปเอาเองเลยว่า คิดถึงไหม ไม่ตอบแต่มาหาก็คิดถึงแหละ หรือไม่ก็ลองถามว่า เวลาบอกคิดถึงบ่อย ๆ รำคาญป่ะ ถ้าเขาบอกว่า ไม่ ก็โอเคแล้วอย่าไปคิดมาก’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบกับแฟนมาเกือบปี ถ้าทำอะไรผิดแฟนจะปรับหนู โทษหนัก เบา ต่างวาระ แอบไปเที่ยวปรับ 3000 ทักหาแฟนเก่าปรับ 30000 ตอนนี้จ่ายไปเกือบ 50000 บางโทษผ่อนชำระได้ แต่ถ้าแฟนคุยกับหญิงอื่นหนูไม่มีสิทธิ์ปรับ

07 มี.ค. 2025

คบกับแฟนมาเกือบปี ถ้าทำอะไรผิดแฟนจะปรับหนู โทษหนัก เบา ต่างวาระ แอบไปเที่ยวปรับ 3000 ทักหาแฟนเก่าปรับ 30000 ตอนนี้จ่ายไปเกือบ 50000 บางโทษผ่อนชำระได้ แต่ถ้าแฟนคุยกับหญิงอื่นหนูไม่มีสิทธิ์ปรับ

“คุณหนู(นามสมมติ)”อายุ 27 ปี สายที่หนึ่งในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 มีนาคม 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหา โดนแฟนปรับเงินทุกครั้งที่ทำผิด โดย “คุณหนู(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘คบกับแฟนได้ประมาณ 1 ปี เวลาที่หนูทำผิด แล้วเขาไม่โอเค เขาจะมาปรับเงินเราเพื่อเป็นการชดเชย ตอนนี้หนูโดนปรับเงินรวมทั้งหมด 50,000 บาทแล้ว และแฟนก็บอกว่ามันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งความผิดหลักๆ เลย ที่โดนปรับทีละมากๆ ก็คือ บางทีหนูแอบไปเที่ยวแต่บอกเขาว่านอนแล้ว อันนี้รอบแรกโดนประมาณ 3,000 - 5,000 บาท แล้วก็มีเรื่องที่หนูทำผิดเองคือ ทักไปหาแฟนเก่า ประมาณว่าอยากกลับไปหาแฟนเก่า พอเขาจับได้ เขาจะเลิก แต่หนูก็รั้งเขาไว้ เขาเลยปรับเป็นเงินแทน อันนี้โดนปรับ 30,000 บาท และเรื่องที่หนูคุยกับเพื่อนผู้ชาย ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกัน รู้จักกันมานานแล้วตั้งแต่มัธยม หนูก็ไม่ได้คิดอะไรกับเพื่อนคนนี้ ส่วนเนื้อหาที่คุยกันก็ปกติ เวลาไปเที่ยวก็อาจจะมีถาม มีบอกบ้างว่าที่นี่สนุกนะ มาเที่ยวสิ ก็โดนปรับประมาณทีละ 10,000 - 20,000 บาท อีกรอบหนึ่ง คือเรื่องที่หนูไม่มั่นใจในตัวเขา เพราะเขามีเรื่องผู้หญิง ส่วนมากผู้หญิงที่ทักมาก็จะเป็นคนเดิมๆ เขาตอบผู้หญิงคนอื่น และก็มีบางครั้งที่เขาทักไปเอง แต่กับคนที่หนูมีปัญหา เขาก็ไม่ยอมบล็อก ไม่ยอมทำอะไรให้มันเคลียร์ แต่หนูก็ไม่เคยปรับเงินเขาเลย ซึ่งเขามีสิทธิ์ที่จะปิด บล็อก และเช็คโทรศัพท์หนูทุกอย่าง หนูให้สิทธิ์เขาหมดเลย เพราะว่าที่ผ่านมาหนูทำผิด หนูจะไม่ทำแล้ว แต่เขาบอกว่าหนูเป็นคนทำก่อน หนูไม่มีสิทธิ์ที่จะไปปรับเขา ที่หนูยอมให้เขาปรับเพราะตอนนั้นหนูก็ยังอยากไปต่อกับเขา แต่ก็เพิ่งมาเอ๊ะตอนหลังเขาเคยพูดอยู่ครั้งหนึ่งว่า จะทำผิดอะไรมา ต้องโดนทั้งจำทั้งปรับ จะเอาเงินมาอย่างเดียวไม่ได้ เพราะมันเสียความรู้สึกเขาไปแล้ว เขาเลยบอกว่าเรายังไม่มีสิทธิ์ที่จะไปดูโทรศัพท์ของเขา ตอนนี้หนูข้องใจว่ามันเป็นเรื่องปกติไหม เพราะหนูก็รู้สึกว่าจำนวนเงินมันก็เยอะ และหนูโดนปรับแล้ว แต่หนูไม่มีสิทธิ์ที่จะเช็ค จะอะไรเขาอยู่ดี ซึ่งหนูก็ไม่รู้ว่าเขาเลิกคุยกับผู้หญิงคนอื่นหรือยัง เขาบอกว่าเขาเลิกคุยแล้ว แต่บางทีหนูก็ยังเห็นมีเด้งมาอยู่ หรือว่าแฟนเก่าเขายังโทรมาหาอยู่ หนูก็สงสัยว่าเราจะต้องจ่ายขนาดนี้เลยหรอ? เพราะว่าในชีวิตประจำวันค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่หนูก็เป็นคนจ่าย หารกันบ้าง เช่น ค่าอาหาร กินข้าว ไปคาเฟ่ ไปเที่ยว แล้วรายได้เราก็ไล่เลี่ยกัน แต่เขามองว่าเรามีรายได้เสริม และถ้าหนูไม่มีเงินก้อนจ่าย เขาก็ให้ผ่อนชำระได้เป็นรายเดือน ก่อนหน้านี้ตอนที่เราก็ยังคุยกันอยู่ ไม่มีสถานะที่ชัดเจน หนูก็ไปคุยกับอีกคนหนึ่ง แล้วก็โดนปรับแบบนี้เหมือนกัน ตลอดเวลาที่คบกันมาเขาก็ดูแลหนูดีจริงๆ อบอุ่น ใส่ใจหนูตลอด มีแค่เรื่องนี้ที่หนูรู้สึกว่ามันแปลก หนูเลยอยากปรึกษาพี่ๆ ดีเจว่า แบบนี้ปกติไหม แล้วหนูควรไปต่อหรือควรพอแค่นี้ดีคะ?’ เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับพี่ มันแปลกไปหมดเลย เงื่อนไขของการคบกัน การปรับเงิน ปรับมาก ปรับน้อยแล้วแต่คดี และแว็บแรกที่เขามาในหัวพี่คือ สมกันเนอะคู่นี้ คุณหนูก็แสบ ไอแฟนก็ไถเงิน คนหนึ่งก็คุยกับแฟนเก่าว่าจะกลับไป ในขณะที่ผู้ชายก็ปรับเงินได้ แต่ตัวเองก็ทำด้วย และพอฟังแล้ว ความผิดก็มีทั้งคู่ แต่แฟนคุณหนูคนนี้ รู้สึกแปลกและไม่น่าคบหามากขึ้นไปอีก คือไม่ใช่เขาเป็นคนดีหรือพยายามทำตัวให้ดี เขาเหมือนหวังเอาเงินจากคุณหนู จากความสัมพันธ์ครั้งนี้ เพราะตัวเขาเองก็ไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นคนนี้ ไม่ให้คุณหนูทำอะไรด้วย เพราะฉะนั้นคำถามแรก ปกติไหม มันก็มีคู่ที่เขาปรับเงินกัน แต่เขาไม่ได้ปรับกันจริงจังหวังเงินแบบนี้ อันนี้คือเอาไป 50,000 ไม่มีเงินก้อนก็ผ่อนชำระได้ มันดูเป็น Business เกินไป ซึ่งมันแปลก แล้วถามว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ ก็พิจารณาเอาเอง เพราะต้องยอมรับว่าฝั่งคุณหนูก็ไม่ได้ทำตัวดี แล้ววันหนึ่งคุณหนูลองไม่จ่ายค่าปรับดูว่ามันจะเป็นยังไงต่อ’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มันแปลกไปหมดเลยคุณหนู มันตุๆ ไปหมดทุกอย่างที่คุณหนูเล่ามาเลย ยังไม่ได้เป็นแฟนกันก็ปรับเงินแล้ว ผู้ชายคนไหนหรือคู่ชีวิตคนไหน ที่รู้ว่าแฟนของเราไปคุยกับแฟนเก่าว่าอยากจะกลับไป แล้วเขาปรับเงิน คนปกติคือเขาเลิก แสดงว่าผู้ชายคนนี้อะไรก็สามารถแลกด้วยเงินได้ และเขาอาจจะอยู่กับหนูเพราะเขาไม่ได้รักหนู เขาโอเคเพราะหนูเอาเงินฟาดให้เขาอยู่ มีผู้ชายคนไหนที่ปรับเงินเราได้ แต่พอตัวเองทำผิดก็ไม่ยอมให้เราปรับ เพราะฉะนั้นทุกวันนี้เขาก็อยู่เพื่อเงินของหนู’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เหตุผลที่คนไม่ไปจากเรามีเยอะแยะมากมาย ที่อยู่ก็ไม่ใช่เพราะรัก อาจเป็นความเคยชิน หรือความสุขสบาย เป็นไปได้หมด แต่ว่าอยู่แล้วเรามีความสุขไหม ก็ต้องถามตัวเอง เพราะว่าเขาก็มีความเห็นแก่ตัวที่ค่อนข้างสูงเลย บางเรื่องเขาทำได้ เราทำไม่ได้ เหมือนมันไม่เท่ากัน คือถ้าจะตั้งกฎอะไรสักอย่าง มันควรเป็นเอกภาพ คือทุกคนใช้กฎนี้ร่วมกัน ไม่ใช่ว่ากฎนี้ถูกบังคับใช้กับฉันอย่างเดียว แต่ตอนนี้ก็เหมือนมันได้ถูกใช้กับเราแค่คนเดียว ก็รู้สึกว่าเห็นแก่ตัว ถ้าอยากได้ผู้ชายดี ต้องถามตัวเองว่า แล้วเราสมควรได้รับสิ่งนั้นไหม สำหรับวันนี้หนูก็ยังไม่พร้อม ถ้าการคบกับแฟนแล้วหนูยังคุยกับผู้ชายคนอื่นอยู่ และถ้าอยากได้ผู้ชายดีๆ จริงๆ ลองพัฒนาตัวเองก่อน ให้ดีพอที่จะได้รับผู้ชายดีๆ มาอยู่ในชีวิต แล้วแฟนคนนี้จะเอาเงินอีกก็คือเลิก เพราะผู้ชายคนนี้อยู่กับหนูก็เพราะเงิน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1