คบกับแฟนมา ไม่เคยเจอคุณแม่ แต่คุณแม่แฟนเอา วัน เดือน ปีเกิดเราไปเช็คดวง แล้วบอกกับลูกสาวว่า ดวงไม่สมพงษ์กัน แล้วหมอดูก็ยังบอกมาอีกว่า ผู้ชายคนนี้ มีครอบครัวแล้วให้ระวัง ซึ่งผมไม่มี

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบกับแฟนมา ไม่เคยเจอคุณแม่ แต่คุณแม่แฟนเอา วัน เดือน ปีเกิดเราไปเช็คดวง แล้วบอกกับลูกสาวว่า ดวงไม่สมพงษ์กัน แล้วหมอดูก็ยังบอกมาอีกว่า ผู้ชายคนนี้ มีครอบครัวแล้วให้ระวัง ซึ่งผมไม่มี

31 พ.ค. 2024

คบกับแฟนมา ไม่เคยเจอคุณแม่ แต่คุณแม่แฟนเอา วัน เดือน ปีเกิดเราไปเช็คดวง

แล้วบอกกับลูกสาวว่า ดวงไม่สมพงษ์กัน แล้วหมอดูก็ยังบอกมาอีกว่า ผู้ชายคนนี้ มีครอบครัวแล้วให้ระวัง

ซึ่งผมไม่มี ตอนนี้ทุกคนในบ้านฟังแม่เขาหมด แล้วแฟนก็ขอห่างกับผม เหมือนผมโดนตัดสินโดยใครก็ไม่รู้...

                “คุณเอ็กซ์ (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [29 พ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแม่แฟนเอาวันเดือนปีเกิดไปดูดวงจนทำให้ต้องเลิกกับแฟน

                โดย “คุณเอ็กซ์ (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมทำงานอยู่ที่บริษัทซอฟแวร์แห่งหนึ่ง ที่บริษัทจะมีรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง คือว่าเราสองคนได้รับหน้าที่ให้ทำโปรเจ็คด้วยกัน ทำให้เราสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้น  ได้อยู่ด้วยกันตลอดทุกวัน เราก็เริ่มชอบกัน เพราะเราคุยกันถูกคอมากๆ ระบายกันทุกเรื่อง แล้วทีนี้เราก็ได้มีการนัดไปทำงานกันที่ห้างแห่งหนึ่ง เราก็มานั่งทำงานกันพอทำงานเสร็จ เราก็ไปกินข้าวด้วยกัน แล้วพอกินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ แต่บ้านผมอยู่ไกลมาก ผมก็ต้องนั่งรถไฟฟ้ากลับ แต่ว่าผมเข้าใจผิดคิดว่าขบวนรถไฟสุดท้ายคือเที่ยงคืน แต่จริงๆ ขบวนสุดท้ายของสายนั้นคือ 5 ทุ่ม ทีนี้ผมก็ไม่มีรถกลับ ผมก็เลยโทรบอกเขา เออเนี่ย…เดี๋ยวจะไปเปิดห้องนอนก่อน แล้วเช้าค่อยกลับ แต่เขาก็บอกว่า ไม่เอาๆ เดี๋ยวเขาวนรถกลับมารับ แล้วก็ไปนอนบ้านเขา ผมก็ตกลง วันนั้นผมก็ได้ไปนอนบ้านเขาและวันนั้นเราสองคนก็ได้ตกลงเป็นแฟนกัน

                เราก็คบกันมาได้เกือบอาทิตย์ ต้องขอบอกเลยว่าพี่เขาเป็นคนที่เชื่อแม่ และรักแม่มากๆ สำหรับเขาแม่มีอิทธิพลมากพอสมควร ผมก็มองว่าไม่ผิดคนเราต้องรักแม่ถูกแล้ว แล้วทีนี้แม่เขาก็เอาวันเดือนปีเกิดของผมไปดูดวง ว่าดวงผมกับพี่เขาเป็นยังไง แล้วหมอดูทำนายว่า ดวงผมไม่สมพงศ์กับพี่เขา และมีอีกคำนายหนึ่งที่ไม่เป็นความจริงเลยคือ หมอดูทำนายว่า ผมมีครอบครัวแล้ว โดยที่ไม่ถามไถ่ผมเลย ซึ่งแฟนผมก็น่าจะยังไม่ได้บอกแม่เขาว่าผมยังไม่มีครอบครัว เพราะเขาน่าจะดูเชื่อไปด้วย แต่ผมไม่รู้ว่าเชื่อกี่เปอร์เซ็นต์ แต่หลักๆ เลยก็คือแม่เขาก็ไม่อยากให้ไปต่อกับผมนั่นแหล่ะ พี่เขาก็เลยขอลดสถานะความสัมพันธ์กับผม และไม่ขอพัฒนาต่อไปมากกว่านี้แล้ว

                การขอลดสถานะความสัมพันธ์ครั้งนี้ ผมไม่ติดอยู่แล้ว ผมเคารพการตัดสินใจของเขา เพราะเราเปลี่ยนความคิดใครไม่ได้ แต่ที่ผมนอยมากๆ เลยก็คือ ผมถูกตัดสินจากใครก็ไม่รู้ ที่รู้แค่ วันเดือนปีเกิดของผมแค่นั้น ซึ่งหลังจากที่เราเลิกกัน ผมก็ลาออก แต่พี่เขาก็ยังมีทักมาหาผมบ้าง มาระบายเรื่องงาน ถามเรื่องโปรเจคที่ผมกับพี่เขาเคยทำร่วมกัน ตอนนี้พี่เขารับหน้าที่ดูแลต่อ แล้วก็มีคุยเรื่องส่วนตัวบ้าง ผมก็มีถามเขาบ้างว่า สบายดีมั้ย เหนื่อยรึเปล่า ผมก็ถามไปปกติ ผมอยากถามพี่ๆดีเจว่า ควรปล่อยเขาไปใช่มั้ย หรือว่าควรจะสู้กับดวงที่หมอดูทำนายมาดี?

                โดย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับหอม ชีวิตเราเป็นคนเลือกเอง หมอดูเป็นแค่สิ่งที่นำทางให้เราเฉยๆ ถ้าหมอดูพูดอะไรแล้วมันซัพพอร์ตกับสิ่งที่อยู่ในใจเรา เราจะมีความมั่นใจในการลุยกับสิ่งนั้นมากขึ้นเท่านั้นเอง แล้วก็ที่ถามว่าเราจะยังไปรอผู้หญิงคนนี้อีกมั้ย หอมบอกเลยว่า ตัดไปเลย ทิ้งไปเลย ให้รู้ซะบ้าง ไม่ใช่ว่าแบบ เธอเลิกกับฉันง่ายๆ เพียงแค่ฟังคำหมอดู ซึ่งมัน Non sense ถ้าเกิดเราคบกันแล้วเธอเจอปัญหาที่ใหญ่กว่านี้ แล้วแม่เธอพูดอะไรสักอย่างหนึ่ง เราก็เลิกกันได้อยู่ดี เรื่องเล็กๆ เธอยังเลิกกับเราได้ง่ายขนาดนี้เลย ฉะนั้นถ้ามีปัญหาใหญ่เข้ามาในชีวิต เธอจะไม่ปล่อยมือกันง่ายๆ หรอ แล้วก็ไม่ต้องถามเขาว่า สบายดีมั้ย เขาเทเรา ด้วยเหตุผลที่งี่เง่ามาก เขาต้องได้รับบทเรียน เธอกำลังเสียผู้ชายที่ดีที่สุดไป แล้วไปหาคนใหม่เลย หาคนที่เขาเห็นคุณค่าในตัวเราไม่ใช่แค่รู้สึกว่า เราไม่มีคุณค่าอะไรเลยหรอ ถึงได้ตัดสินเรากับเรื่องงี่เง่าแค่นี้ อันนี้คือไร้เหตุผลมากๆ และครอบครัวนี้ไม่เหมาะกับเรา ครอบครัวที่ใช้พ่อแม่บงการทุกอย่างในชีวิต จนไม่เป็นตัวของตัวเอง ก็ให้เขาอยู่กับแม่ไปหรือไม่ก็ให้เขามีแฟนกับคนที่แม่เขาหาให้ แล้วไม่ต้องรอให้มันเสียเวลา เชิ่ด !!!!’

                ต่อด้วย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มันมี 2 ประเด็นสำหรับพี่นะ เวลาที่พี่เห็นใครที่เขาเชื่อเรื่องอะไรทำนองนี้ เรื่องหมอดู ดวงชะตา โชคชะตา และถ้าเขายึดมันเป็นแกนหลักในการใช้ชีวิตแล้ว พี่รู้สึกว่า อะไรก็เอาเขาไม่อยู่ เพราะเขาเลือกที่จะเชื่อแบบนี้แล้ว ถ้าเขาใช้สิ่งนี้เป็นที่ตั้ง แสดงว่าเขามีแนวคิดที่คิดมาแล้ว หรือว่าประสบการณ์ชีวิตของเขา สิ่งนี้มันพิสูจน์ได้ว่า มันจริงสำหรับเขา พี่ว่าการจะไปสู้กับอะไรแบบนี้ เหมือนเราแพ้ตั้งแต่หน้าประตูแล้ว ซึ่งมันเหนื่อยมากเลยกับการแพ้  ให้กับสิ่งที่เรามองไม่เห็น แล้วเราไม่รู้ว่าจะไปพิสูจน์มันยังไง นอกจากเราต้องใช้เวลา เข้าใจมั้ย ซึ่งบางอย่างเขาไม่มารอเรา แล้วเขาตัดสินเราไปแล้ว อันนี้สำหรับเรื่องแรกพี่ว่ามันยาก สำหรับอันที่ 2 พี่เห็นด้วยกับพี่หอมว่า ถ้าคนๆ หนึ่งเลือกเรา ในการคบหาจากการดวงล้วนๆ หรือจากสิ่งที่หมอดูบอก โดยที่ไม่ได้ดูสิ่งที่เราทำ ไม่ดูว่าเรามีพฤติกรรมที่ปฎิบัติกับเขายังไงในฐานะคนรัก พี่ว่าคนแบบนี้ พี่ไม่เลือกเอามาเป็นแฟนนะ ถ้าเขาไม่เอา เราก็ไปหาคนอื่น มันไม่ได้มีคนเดียวบนโลกใบนี้ที่เราจะต้องรักพุ สำหรับพี่มันง่ายแค่นี้’

                สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผมมีความเชื่อว่าถ้าเห็นลู่ทางไม่ดี เราอย่าชิงแพ้ให้เละเทะ เราไปแบบเชิ่ดๆ หล่อๆ ก่อนดีกว่า แล้วไปแบบให้เขาเสียดาย ไปแล้วไปลับไม่กลับมา ให้เขาเสียดายว่า ไอความไร้สาระของเขามันเคยทำให้เขาพลาดอะไรไป คือถ้าเรื่องแค่นี้เขามาขอลดความสัมพันธ์กับเรา หมอดูคนนี้จะดูชีวิตคู่ของคุณเอ็กซ์กับเขาเนี่ยไปตลอดเลย จะมีลูกปีไหน จะเกิดเดือนไหน จะให้เรียนโรงเรียนอะไร มันจะวุ่นวายไปหมด แล้วก็นอกจากหมอดูแล้วเนี่ย คิดว่าครอบครัวเขาก็จะมามีอิทธิพลกับชีวิตคู่คุณเอ็กซ์กับเขาไปตลอด ซึ่งถ้าคุณเอ็กซ์ได้ฟังพุธทอล์คพุธโทรมา ปัญหาที่ครอบครัวเข้ามาวุ่นวายในชีวิตคู่เนี่ยโครตปวดหัวเลย เพราะฉะนั้นไปแบบผู้ชนะถึงแม้ว่าใจลึกๆ เราจะรู้สึกว่าโดนเทก็ตาม แต่จงรักษาทรง แล้วเดินออกไปอย่างผู้ที่เหมือนว่าชนะ แบบโดนเทแต่ยังเท่อยู่  ให้เขาเสียดายเราในภายหลัง’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เพื่อนร่วมงาน นิสัยแปลกๆ ทุกเช้าที่เราซื้อน้ำ ชา กาแฟ มา เพื่อนจะนั่งรอแล้วถามว่า "อุ๊ย น้ำอะไรอะ" แล้วก็หยิบแก้วไปดูดหลอดของเราเลย หลังๆมาดูดไปครึ่งแก้ว จนเรายกให้เขาไปเลย จะปฏิเสธก็ขี้เกรงใจ ตอนนี้กลัวโรคด้วย จะทำยังไงดี??

13 พ.ค. 2024

เพื่อนร่วมงาน นิสัยแปลกๆ ทุกเช้าที่เราซื้อน้ำ ชา กาแฟ มา เพื่อนจะนั่งรอแล้วถามว่า "อุ๊ย น้ำอะไรอะ" แล้วก็หยิบแก้วไปดูดหลอดของเราเลย หลังๆมาดูดไปครึ่งแก้ว จนเรายกให้เขาไปเลย จะปฏิเสธก็ขี้เกรงใจ ตอนนี้กลัวโรคด้วย จะทำยังไงดี??

“คุณบี (นามสมมุติ)” อายุ 24 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [ 8 พ.ค. 2567 ] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาเพื่อนที่ทำงานนิสัยแปลก ชอบมาขอน้ำที่เราซื้อมากิน โดย “คุณบี (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีเพื่อนแปลกๆที่ทำงานอยู่คนหนึ่ง คือเค้าชอบมาขอกินน้ำหนูทุกเช้าเลย เราทำงานออฟฟิศเวลาตอนเช้าก็จะซื้อเครื่องดื่มเพื่อเอามากิน มีทั้งกาแฟ ชา แล้วแต่วัน เหตุการณ์ครั้งแรก คือ หนูถือมาแล้วมานั่งที่โต๊ะแล้ว เค้าก็ชอบแบบว่า ‘น้ำอะไรอะ ขอชิมหน่อยสิ’ หนูก็ให้เค้าชิมไปเพราะว่าแบบมันเป็นครั้งแรก เค้าก็ดูดหลอดเดียวกับเรา รู้สึกช็อคนิดนึง เพราะว่าหนูไม่รู้ว่าเค้าจะเป็นโรคแบบไวรัสตับอักเสบบีหรืออะไรรึเปล่าที่มันติดต่อกัน หนูกับเค้าสนิทกันระดับนึง แต่ถ้าไม่สนิทมาก หนูไม่กล้าไปกินหลอดเดียวกับเพื่อน หนูก็เลยรู้สึกว่ามันไม่น่าได้รึเปล่า หลังจากนั้นอีกวันนึง หนูก็ซื้อน้ำมาอีก แล้วทีนี้เค้าก็ทำแบบเดิม หนูก็เลยรู้สึกว่าถ้าวันต่อไปหนูซื้อมา หนูเลือกที่จะหยิบหลอดมา 1 อันให้เค้าเลย แล้วหนูเลือกที่จะกินน้ำจากปากแก้วเอา เพราะเดี๋ยวเค้าต้องขอหนูกินแน่นอน แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ หนูก็เลยยกหลอดนั้นให้เค้าไปเลย บางทีหนูกินได้แค่ครึ่งแก้วแล้วเค้ามาขอกิน หนูก็ยกให้เค้าไปทั้งแก้วเลย เพราะว่าหนูไม่กล้ากินต่อแล้ว มันก็เลยทำให้รู้สึกว่าหนูไม่กล้าซื้อน้ำมากินในตอนเช้าแล้ว และหนูก็เคยถามเค้าว่าเอาอะไรมั้ย เดี๋ยวซื้อไปฝาก เพราะหนูจะซื้อน้ำตอนเช้าพอดี เค้าบอกไม่เอา แต่สุดท้ายยังมาขอชิมของหนู ปกติหนูจะชอบซื้อชาพีชกับแดงโซดามากิน แล้วเค้าก็ขอกินทุกเช้าเลย เค้าจะไม่ซื้อน้ำตอนเช้า แต่เค้าจะซื้อแค่ตอนเที่ยง จะขอวิธีไม่ให้เค้ามาขอกินตอนหนูซื้อมา หรือถ้าหนูจะให้เค้ากิน จะมีวิธีไหนมั้ย? คือหนูไม่รู้จะพูดกับเค้ายังไง? แล้วเค้าจะคิดว่าเรารังเกียจเค้าหรือเปล่า ถ้าหนูไม่ให้เค้าดูดหลอดเดียวกัน?เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

งานที่หนูทำ ยืดหยุ่นเรื่องเวลา เข้างานกี่โมงก็ได้ แต่แฟนหนูไม่เข้าใจ พูดกรอกหูทุกวัน ‘อยู่บ้านเฉยๆสบายเนอะ’ ทั้งที่งานบ้านเราก็ทำ งานประจำเราก็ต้องทำ และทุกเช้าหนูก็ส่งเขาขึ้นรถไปทำงานทุกวัน หรือจริงๆเเล้วเเฟนเเค่อิจฉาเพราะเราตื่นสายได้

21 ก.พ. 2025

งานที่หนูทำ ยืดหยุ่นเรื่องเวลา เข้างานกี่โมงก็ได้ แต่แฟนหนูไม่เข้าใจ พูดกรอกหูทุกวัน ‘อยู่บ้านเฉยๆสบายเนอะ’ ทั้งที่งานบ้านเราก็ทำ งานประจำเราก็ต้องทำ และทุกเช้าหนูก็ส่งเขาขึ้นรถไปทำงานทุกวัน หรือจริงๆเเล้วเเฟนเเค่อิจฉาเพราะเราตื่นสายได้

งานที่หนูทำ ยืดหยุ่นเรื่องเวลา เข้างานกี่โมงก็ได้ แต่แฟนหนูไม่เข้าใจ พูดกรอกหูทุกวัน‘อยู่บ้านเฉยๆสบายเนอะ’ ทั้งที่งานบ้านเราก็ทำ งานประจำเราก็ต้องทำและทุกเช้าหนูก็ส่งเขาขึ้นรถไปทำงานทุกวัน หรือจริงๆเเล้วเเฟนเเค่อิจฉาเพราะเราตื่นสายได้เเต่เเฟนต้องตื่นเช้า? “คุณหมวย (นามสมมติ)” อายุ 30ปี สายสุดท้ายของ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [19 ก.พ. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันในความสัมพันธ์กับแฟน โดย “คุณหมวย (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูทำงานตำเเหน่ง Project Coordinator​​ ที่ช่วยผู้จัดการ ผู้ช่วย เลยทำให้มีความยืดหยุ่นในเรื่องของเวลาการทำงาน ไม่ได้ทำงานเป๊ะๆ เเบบเข้างาน 9 โมง เลิกงาน 6 โมงเย็น แต่คือหนูสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ เข้างานกี่โมงก็ได้ ซึ่งตรงนี้มันทำให้หนูเกิดปัญหากับเเฟนเพราะว่า เเฟนมองหนูว่าขี้เกียจรึป่าว ทำไมเขาต้องตื่นเช้าไปทำงาน เเต่หนูไปทำงานสายๆ เเล้วเขาก็ชอบพูดกับหนูเเบบติดนอยว่า เออ ทำไมงานสบายจัง หรือหนูทำงานจริงรึป่าวเนี่ย เเต่หนูกับเเฟนก็อายุห่างกันเเค่ 3 - 4 ปี เเต่สิ่งที่ทำให้เขาคิดเเบบนี้เป็นเพราะหนูก็พึ่งย้ายมาทำงานนี้ ตอนที่คบกับเขามาได้ประมาณ 2 ปี ส่วนเรื่องภายในบ้านตอนนี้ หนูก็ช่วยเขาออกค่าใช้จ่ายเป็นปกติ ไม่ได้ให้เขาออกคนเดียว หรือไปเบียดเบียนเขาเลย ก็คือหนูสามารถดูเเลตัวเองได้ เเล้วหลังๆมาปัญหานี้ก็ทำให้หนูรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง เเละคำพูดเขาด้วย ที่สำคัญหนูไม่ได้อยากทะเลาะกับเขาเรื่องนี้เพราะหนูทำงานก็เหนื่อยเเล้ว เขาทำงานฝั่งของเขาก็เหนื่อย เเล้วทุกเช้าหนูก็จะตื่นมาส่งแฟนไปทำงานก่อน แต่โดนพูดเเบบนี้ตลอด หนูอยากจะปรึกษาพี่ๆดีเจว่า หนูควรคุยกับเขาเรื่องนี้เเบบจริงจังดีไหม หรือควรปล่อยผ่านเป็นเรื่องขำๆ ไปดีคะ? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ประเด็นพี่กำลังคิดอยู่ปัญหานี้มันเกิดจากอะไร หรือเขาไม่ได้ว่าหนูด้วยเหตุเเละผล เขาอาจจะคิดว่าทำไมตัวเองต้องตื่นเช้า เเต่เเฟนสามารถไปทำงานตอนไหนก็ได้ ก็เลยรู้สึกเเบบ ฟาดงวงฟาดงาเเบบนั้นรึป่าว ก็อาจจะลองปรับเปลี่ยนดู เเต่ถ้ามันสุดทางเเล้วจริงๆพี่ว่าอาจจะต้องลองปรับเขาออกไปเเทน’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘จากที่พี่ลองฟังดู เขาดูไม่ค่อยมีความสุขกับชีวิตเท่าไหร่นะ เเละพี่ก็เชื่อว่าต่อให้หมวยลาออกจากงาน เเล้วทำงานบ้านอย่างเดียวเขาก็จะพูดเหมือนเดิมว่า เเล้วถ้าหมวยกล้าพูด หมวยก็ต้องลองพูดกับเขาดูนะ ว่าเขาไม่โอเคอะไรกับหมวย เพราะถ้าพูดตามความเป็นจริงหมวยก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย’ ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หมวยลองคุยกับเขาดูว่าเเบบ เธอโอเครึป่าว หรือเธอมีปัญหาอะไรจากงาน เเล้วถ้าเขาบอกว่าไม่มี ก็บอกให้หยุดพูดเเบบนี้กับหมวย ลองคุยกับเขาประมาณนี้ พูดในความรู้สึกเเบบเป็นห่วงเขา’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำ? สาวสุดงง... ทะเลาะกับแฟน หลังจากไปดื่มหนักด้วยกันมา กลับมาถึงห้อง นอนหลับกันปกติ ตื่นเช้ามารองเท้าแฟนหาย ไปเจออยู่หน้าห้องผู้ชายอีกคนใกล้ๆกัน สุดท้ายเปิดดูกล้องวงจรปิด เห็นตัวเองนอนละเมอเดินเข้าห้องผู้ชายคนนั้นไม่ถึงนาที

15 ส.ค. 2023

ไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำ? สาวสุดงง... ทะเลาะกับแฟน หลังจากไปดื่มหนักด้วยกันมา กลับมาถึงห้อง นอนหลับกันปกติ ตื่นเช้ามารองเท้าแฟนหาย ไปเจออยู่หน้าห้องผู้ชายอีกคนใกล้ๆกัน สุดท้ายเปิดดูกล้องวงจรปิด เห็นตัวเองนอนละเมอเดินเข้าห้องผู้ชายคนนั้นไม่ถึงนาที

ไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำ? สาวสุดงง... ทะเลาะกับแฟนหลังจากไปดื่มหนักด้วยกันมา กลับมาถึงห้อง นอนหลับกันปกติตื่นเช้ามารองเท้าแฟนหาย ไปเจออยู่หน้าห้องผู้ชายอีกคนใกล้ๆกันสุดท้ายเปิดดูกล้องวงจรปิด เห็นตัวเองนอนละเมอเดินเข้าห้องผู้ชายคนนั้นไม่ถึงนาทีแฟนไม่เชื่อ คิดว่าเราคบชู้อย่างเดียวเลย ทำไมไม่เป็นห่วงกันบ้างเลย... “คุณสุ (นามสมมุติ)” อายุ 29 ปี สายที่สามของรายการ “พุธทอล์ค พุธโทร” เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [9 ส.ค.66] ได้โทรเข้ามาปรึกษาปัญหา ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจเผือก กับปัญหาที่เมาแล้วละเมอเข้าห้องผู้ชาย จนแฟนเข้าใจผิด คิดว่าเราไปมีอะไรกับคนนั้นหรือเปล่า? โดย “คุณสุ (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘ทะเลาะกับแฟนได้ 1 อาทิตย์แล้ว วันที่เกิดเหตุ หนูไปสังสรรค์กับเเฟน พอเสร็จก็กลับมาห้อง เกือบตี 2 กลับมาถึงก็ใช้ชีวิตกันแบบปกติ หนูไม่ได้เมาจนฟิวส์ขาด แต่พอเช้ามา แฟนหนูก็หารองเท้าของเขาไม่เจอปกติจะต้องวางไว้หน้าห้อง ซึ่งเราก็ยังคุยเล่นกันปกติ ยังแซวเขาว่าลืมไว้ที่ร้านหรือเปล่า? จนสักพักแฟนหนูเขาก็บอกว่าจะออกไปหารองเท้า ให้หนูอาบน้ำเเต่งตัว ถ้าเสร็จเเล้วไปเจอกันที่ร้านข้าว เดี๋ยวไปกินข้าวกัน แล้วก่อนที่หนูจะออกไป เป็นปกติที่หนูจะมองหาแมวเพื่อให้แมวมากินข้าว แต่สายตาดันบังเอิญไปเห็นรองเท้าแฟนวางอยู่ที่ห้องผู้ชายคนอื่น ก็เลยคิดทบทวนว่าเมื่อคืนเราก็ไม่ได้ทำอะไรนะ แล้วก็ไม่ได้เมาขนาดที่ว่าจำอะไรไม่ได้เลย เราก็ไม่ได้เป็นคนที่มีเรื่องชู้สาวอะไรเลยเหมือนกัน แต่หนูเพิ่งมาจำได้ว่าเมื่อคืนหนูฝัน โดยในฝัน หนูเดินออกไปบ้านใครก็ไม่รู้ มีเสียงผู้ชายมาเรียก แล้วในฝันเสียงผู้ชายที่เรียกคุ้นหูมาก หนูก็เดินออกไปแต่หนูไม่รู้ว่าเดินไปบ้านใคร ในฝันหนูเปิดประตูบ้านเขาเข้าไป แล้วเจอผู้ชายคนหนึ่งเเต่หนูไม่เห็นหน้า เห็นแต่รูปร่างเขาเป็นคนตัวเล็ก ดำ แล้วเขาก็ตะโกนใส่หูเหมือนประมาณตกใจว่าหนูไปบ้านเขาทำไม ซึ่งในฝันหนูตกใจมากแล้วหนูก็ออกจากบ้านเขามา หลังจากนั้นหนูก็จำอะไรไม่ได้เลยในฝัน แบบจำไม่ได้ว่าฝันว่าอะไรต่อ พอเช้าวันนั้นหนูเห็นแล้วว่ารองเท้าอยู่หน้าห้องผู้ชายคนนี้ หนูก็ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะหนูไม่กล้าไปยืนดูรองเท้าว่ามันใช่ของเเฟนหนูจริงๆไหม หนูเลยทำได้เเค่เดินผ่านไป ซึ่งปกติเวลาอยู่ห้องหรือไปไหนใกล้ๆ หนูก็จะชอบใส่รองเท้าแฟนอยู่แล้ว ระหว่างที่ขับรถไปร้านข้าว หนูก็ทบทวนความฝันของตัวเองว่า เมื่อคืนฝันแบบนี้เเล้วมันจะเป็นจริงๆหรอ แล้วถ้าเกิดเดินไปจริงๆในฝันเจอผู้ชายคนหนึ่งตะโกนใส่ ถ้าหนูเดินเข้าห้องเขาจริงๆ ทำไมเช้ามาเขาถึงไม่มาถามว่าเดินเข้าห้องเขาทำไม เพราะเช้ามาก็ตื่นมาที่ห้องตัวเองเหมือนเดิม พอถึงร้านข้าวก็ถามแฟนว่าเมื่อคืนหนูได้เดินออกจากห้องไหม? แฟนก็บอกไม่รู้ เดินออกไปหรอ เพราะกลับมาถึงอาบน้ำเสร็จก็นอนหลับไปเลย แล้วหนูก็บอกแฟนว่า ตอนจะออกมาหนูเห็นเหมือนรองเท้าแฟนอยู่ห้องผู้ชายคนนี้ หนูก็เล่าความฝันของหนูให้เขาฟัง แล้วแฟนหนูก็บอกว่าเมื่อคืนห้องนี้เขาเปิดไฟอยู่นะ สักพักแฟนหนูสีหน้าเปลี่ยนทันทีเพราะความคิดเขาคือคิดว่าหนูไปมีชู้กับห้องข้างๆ หนูก็พยายามอธิบาย เเฟนหนูเขาเริ่มอารมณ์ร้อน แล้วข้อเสียเขาเป็นคนที่งี่เง่าเป็นคนเจ้าอารมณ์ หนูก็บอกว่ามันไม่ใช่แบบนั้นนะ หนูไม่ได้ตั้งใจหนูไม่รู้จริงๆ เพราะเราก็ไม่เคยนอนละเมอเเล้วออกไปไหนมีแค่ละเมอเเล้วพูด ซึ่งหนูก็ได้ไปขอดูกล้องวงจรปิดที่หน้าห้อง ภาพที่เห็นจากกล้องคือหนูเดินไปจริงๆค่ะ ตอนตี 3:24 แล้วหนูก็เดินกลับมาตอน ตี 3:24 เหมือนกัน หนูเปิดเข้าไปแล้วหนูก็เปิดออกมา แต่แฟนหนูเขาปักใจคิดว่าหนูไปมีอะไรจริงๆ เพราะเขาไม่ฟังอะไรเลย ทีนี้ผู้ชายคนนั้นเขาเป็นหลานชายของพี่ที่ทำงานกับหนู สนิทกัน พอทะเลาะกับแฟน หนูก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง เขาก็ตกใจ พี่เขาก็เลยโทรไปถามหลานเขาว่าเมื่อคืนนี้เห็นหนูเดินเข้าห้องไหม เขาก็บอกว่า ไม่รู้เลยครับ ผมไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ไม่ได้ยินเลย ภาพจากกล้องวงจรปิดคือหนูกับมาจากร้านที่ไปสังสรรค์แต่ผู้ชายคนนี้เขาไม่ได้อยู่ในห้อง เขานั่งเล่นอยู่โต๊ะม้าหินหน้าห้อง ณ ตอนนี้หนูกับแฟนทะเลาะกันแรงมาก หนูไปปรึกษาพี่ๆเพื่อนๆที่หนูสามารถคุยกับเขาได้เขาก็บอกว่าหนูไม่ปกติที่ละเมอแล้วเดิน จนหนูปรึกษาหมอ หมอบอกว่าจริงๆเคสแบบนี้จะไม่ค่อยเกิดกับคนอายุแบบเรานะ จะเกิดแต่กับเด็ก ส่วนน้อยมากที่จะเกิดกับคนรุ่นนี้ สิ่งที่หนูอยากจะปรึกษาพี่ๆดีเจ คือ ‘เขาก็ยื่นข้อเสนอมาว่ามีสองทางให้เลือก คือ หนูเก็บของออกไปกับจะให้เขาออกไป’ เรื่องนี้ 3 ดีเจ ก็ได้ให้คำปรึกษาตรงกันว่า “อย่างแรกเลยต้องเป็นห่วงในเรื่องสุขภาพ เพราะในกล้องก็ชัดเจนแล้วว่าเราเข้าไปแล้วออกมาเลย แล้วแฟนก็ควรที่จะพาคุณสุไปปรึกษาหมอดีกว่าทำไมถึงละเมอขนาดนี้ ไม่เห็นมุมที่จะต้องมาทะเลาะกันเรื่องหึงหวง ส่วนเรื่องที่ต้องย้ายออก คุณสุก็ให้เขาออกไปเอง เพราะมันดูงี่เง่ามากที่คุณสุแค่ละเมอเเล้วเดินไปห้องคนอื่น ทั้งๆที่กล้องวงจรปิดก็เห็นชัดเจน คุณสุทำได้เเค่รอเวลาได้อย่างเดียวให้เขาอภัย เพราะเขาไม่ได้มีการรับฟัง แต่ถ้าเราออกไปก็รอดูว่าเขาจะตามไหม ถ้าเกิดเขาตามก็ยื่นข้อเสนอเลยว่าต่อไปนี้ต้องฟังเหตุผล แต่ถ้าเขาไม่ตามก็คือเขาไม่ได้รัก เขาอาจจะอยากเลิก เพราะมันงี่เง่าเกินไปกับเรื่องนี้ แล้วเกิดการละเมอแบบนี้ มันจะต้องถามว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่า เพราะมันคือมาจากความรัก เขาจะต้องกลัวว่าคนในห้องนั้นก็ทำไรคุณสุหรือเปล่า หรือถ้าคุณสุเดินไปตกบรรไดล่ะ ส่วนเรื่องผู้ชาย ถ้าอยากให้มีความหวัง คุณสุต้องออกไป อย่างน้อยถ้าเขารักเรา เขาจะรู้สึกว่าคุณสุออกไปเพราะเขานะเพราะเขางี่เง่า ใดๆก็ตาม ตอนนี้คุณสุควรที่จะไปรักษาเรื่องละเมอก่อนดีกว่า มันอันตรายกับชีวิตคุณสุมากกว่านะ เพราะถ้าเกิดยังเดินละเมอแบบนี้อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้นะ…’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผมอายุ 37 คบแฟน 24 น้องเขาขี้หึงมาก ผมทำงานเป็นตากล้อง เจอนางแบบสวยๆ แต่แฟนไม่โอเค สั่งให้ลบรูปในโซเชียลทั้งหมด ผมลงเพราะเก็บพอร์ตก็ต้องลบ หลังๆมา แฟนบอกว่าให้เลิกทำอาชีพตากล้อง ผมเลิกไม่ได้เพราะคือรายได้หลัก ตอนนี้ผมห่างกับเขาแล้ว

21 มี.ค. 2025

ผมอายุ 37 คบแฟน 24 น้องเขาขี้หึงมาก ผมทำงานเป็นตากล้อง เจอนางแบบสวยๆ แต่แฟนไม่โอเค สั่งให้ลบรูปในโซเชียลทั้งหมด ผมลงเพราะเก็บพอร์ตก็ต้องลบ หลังๆมา แฟนบอกว่าให้เลิกทำอาชีพตากล้อง ผมเลิกไม่ได้เพราะคือรายได้หลัก ตอนนี้ผมห่างกับเขาแล้ว

ผมอายุ 37 คบแฟน 24 น้องเขาขี้หึงมาก ผมทำงานเป็นตากล้อง เจอนางแบบสวยๆ แต่แฟนไม่โอเคสั่งให้ลบรูปในโซเชียลทั้งหมด ผมลงเพราะเก็บพอร์ตก็ต้องลบ หลังๆมา แฟนบอกว่าให้เลิกทำอาชีพตากล้องผมเลิกไม่ได้เพราะคือรายได้หลัก ตอนนี้ผมห่างกับเขาแล้ว แต่ยังไม่ได้ถอนหมั้นกัน จะทำยังไงดี? “คุณกอล์ฟ (นามสมมติ)” อายุ 37 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [19 มี.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาแฟนขี้หึงมากจนกระทบกับงาน โดย “คุณกอล์ฟ (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘ผมหมั้นกับน้องคนนึง เขาอายุ 24 ปี เราคบกันและหมั้นมารวมทั้งหมด 2 ปี ผมทำอาชีพเป็นช่างภาพ ส่วนน้องเขาทำงานที่ร้านของบ้านผม น้องเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสังคม เอาแต่ใจ และเริ่มลามไปถึงเรื่องงานของผม ช่วงแรกๆที่คบกันน้องมีนิสัยงี่เง่านิดหน่อย แต่ยังไม่ได้ฉายแสงอะไร แต่ก็หึงหวงแรงมาก เช่น ตัดเพื่อนในโซเชียลมีเดียของผมเองเลย ช่วงที่ผมหมั้นกับเขาและทำงานไปด้วย ผมตัดเรื่องการถ่ายรูปเล่น เก็บพอร์ต ผมตัดทุกอย่างเพื่อเขา และรับแต่งานถ่ายภาพที่เป็นงานจริง ๆ เท่านั้น สาเหตุที่ผมตัดสินใจหมั้นกัน เพราะน้องเขาเป็นคนหน้าตาดี ผมก็อายุ 37 ปีแล้ว รู้สึกว่าถึงเวลาที่ควรจะมีครอบครัวได้แล้ว ถ้าช้ากว่านี้ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นชีวิตครอบครัวตอนไหน ก่อนคบกับเขา ผมค่อนข้างเจ้าชู้ เป็นคนเฟรนลี่ เล่นกับทุกคนไปหมด แต่พอคบกับเขา น้องก็มองว่าช่างภาพเจ้าชู้ทุกคน ผมเลยให้ความเชื่อใจโดยให้เขาดูทุกอย่าง รับงาน คุยกับใคร เช็คโทรศัพท์ได้ตลอด ซึ่งไม่เคยมีปัญหาเรื่องมือที่สามเลย จนกระทั่ง เวลาที่ผมจะต้องออกไปทำงาน ผมต้องคอยรายงานเขาตลอด แต่เวลาที่ผมเริ่มถ่ายงานเสร็จ ผมไม่ได้ทักบอกเขา เขาก็บอกว่า ทำไมถ่ายงานเสร็จแล้วไม่ทักบอกเลย ผมก็บอกว่า ขอนั่งพักซักแปปนึงได้ไหม เป็นแบบนี้ทุกครั้งมาตลอด เขาจะกลัวว่าผมจะไปจีบลูกค้า ไปคุยกับลูกค้าเกินกว่าที่เป็นช่างภาพกับลูกค้าคุยกัน ผมก็คอยแต่บอกเขาว่า มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ก็ให้เช็คได้ตลอดทุกครั้ง เราทะเลาะกันเรื่องนี้มาตลอด พอทะเลาะกันก็จะมีคำพูดนึงขึ้นมาว่า ไม่เคยชอบหรอกนะที่เธอถ่ายรูป และสุดท้ายเรื่องนี้ก็ลามไปถึงที่บ้านผม เพราะน้องอยากไปทำงานต่างจังหวัด ผมให้เขาไปคุยกับพ่อแม่ก่อน แต่พอคุยเสร็จก็ทะเลาะกับพ่อแม่ผม น้องยื่นคำขาดว่า ถ้าอยากให้เขาทำงานที่บ้าน ต้องให้ผมเลิกถ่ายรูป ผมถามเขาว่า แล้วจะทำอะไรกิน? เพราะแม้ว่าผมจะช่วยที่บ้านทำงาน แต่รายได้จากการถ่ายรูปก็ไม่ใช่น้อย ๆ ต่อเดือน กลายเป็นว่าเขาก็เลือกที่จะไปทำงานต่างจังหวัด ช่วงแรกเขาทดลองงาน 3 เดือน ผมซัพพอร์ตทุกอย่าง ค่าหอพัก ค่ากิน ค่าจิปาถะ ผมเคยแนะนำให้เขาทำงานที่บ้าน ถ้าไม่อยากทำงานที่บ้านก็ทำข้างนอก แต่ให้อยู่จังหวัดเดียวกัน จะได้กลับบ้านมาเจอกัน เป็นครอบครัว แต่น้องบอกว่า ไม่ ถ้าอยากให้เขาอยู่ ต้องเลิกถ่ายรูป หลังจากทดลองงานเสร็จ ผมบอกให้กลับมาขายของหน้าบ้านก็ได้ เพราะเขามีประสบการณ์ด้านร้านคาเฟ่ แต่น้องบอกหมดแพชชั่น ไม่อยากทำ ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่ คงเป็นเพราะไม่อยากมาเจอหน้าพ่อแม่ผม ที่เขาทะเลาะกับพ่อแม่ผมด้วยเรื่องที่เขาจะขอไปทำงานต่างจังหวัด เพราะพ่อแม่ไม่อยากให้ไป อยากให้ทำงานใกล้ ๆ ต่อให้ไม่ทำงานที่บ้านก็ไปทำงานในระแวกนั้นก็ได้ แล้วก็กลับบ้านมาเป็นครอบครัว แต่กลายเป็นว่า เขาเป็นคนดื้อ เขาเป็นคนเอาแต่ใจ ว่าฉันต้องทำแบบนี้ มีเส้นชัยไว้แบบนี้ ฉันต้องไปให้ได้ ซึ่งตอนนี้เขาไปทำงานไกลกว่าเดิมอีก ตอนแรกเขาฝึกงานกับอินฟลูเอนเซอร์คนนึงอยู่ในจังหวัดขอนแก่น แล้วก็ไปสมัครกับอินฟลูเอนเซอร์อีกคนที่โคราช ณ ตอนนี้ก็ทำงานอยู่ที่โคราช ยิ่งอยู่ห่างกัน น้องยิ่งหวงมากขึ้น พ่อแม่ผมถามว่า เธอไม่ไว้ใจลูกฉัน แล้วฉันไว้ใจเธอได้ไหม? น้องตอบว่า เชื่อใจได้สิ แต่ผมไม่เคยเช็คมือถือเขาเลย เพราะผมมองว่าชีวิตคู่ไม่ควรตึงหรือหย่อนเกินไป ต้องพอดี ๆ และเชื่อใจกัน ตอนแรกเราหมั้นกัน แล้วกะว่าครบปีจะจดทะเบียนสมรส แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าวันสุดท้ายที่ขาดสัมพันธ์กันเพราะความงี่เง่าของเขา วันนั้นผมออกไปถ่ายรูปรับปริญญาแต่เช้า บอกเขาแล้วว่าออกจากบ้านแล้วนะ แต่พอไปถึงที่งาน ผมไม่ได้ทักบอก น้องก็โกรธ พอตอนเย็นผมมีประชุมต่อ ก็ถ่ายรูปให้ดูว่าสถานที่ประชุมอยู่ตรงไหน แต่น้องก็งอนว่า ทำไมไม่บอกก่อนออกจากบ้าน ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ผมเป็นคนง้อ ขอโทษทุกอย่าง แต่ครั้งนี้ผมสุดจริง ๆ ผมบอกว่า ถ้าผมไม่ดี เปลี่ยนใหม่ไหม หรือห่างกันสักพัก น้องเขาก็ไม่ง้อผม เปลี่ยนสีแชท ลบทุกอย่าง หายไปหมด ผมเลยอยากถามพี่ๆดีเจว่า ผมทำถูกไหม ควรรอให้เขาคิดได้มากกว่านี้ หรือควรไปง้อเขา แล้วถ้าเขากลับมาง้อผม ผมควรพูดยังไง?’ เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คิดว่าเขายังคิดไม่ได้ แล้วก็ถ้าคุณกอล์ฟจะรอก็สุ่มเสี่ยงไป อายุ 37 แล้ว ถ้าคิดจะวางแผนอนาคต ลองมองหาคนที่เป็นผู้ใหญ่และเข้าใจเรามากกว่านี้ คือการมีแฟนต้องไม่แตะเรื่องการทำงานของเราเลย งั้นก็เลือกตัดแฟน ถูกต้องแล้ว คนนี้ไม่ได้เข้ามาอยู่ในวงจรของเรา เขาไม่สามารถเข้ามาโลกของเราได้ เขาไม่ได้เหมาะ เปลี่ยนคน เอาผู้ใหญ่ที่โตกว่านี้ เข้าใจการทำงานของเรา ไม่ได้ผิดที่เราผิดที่เขา’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘รู้สึกว่าคุณกอล์ฟดูถูกตัวเองไปหน่อย ว่าอายุ 37 แล้วยังไม่แต่งงานมันจะช้า เพราะรู้สึกว่า 37 มันควรได้อยู่ที่ส่งเสริมกันและกัน ซึ่งน้องเขาอาจจะไม่เหมาะกับแบบนี้ คุณกอล์ฟต้องถามตัวเองว่าถ้าแต่งงานแล้ว เราจะอยู่กับเขาได้จริง ๆ ใช่ไหม ถ้าเขากลับมา แล้วคุณกอล์ฟใจอ่อน ก็ต้องคุยกับเขาว่า เป็นแบบนี้ไม่ได้ เพราะอันไหนที่มันเกินไป ก็ต้องบอกว่าคุณกอล์ฟไม่โอเคกับเรื่องนี้ ก็ต้องปรับตัว ถ้าไม่ได้ก็เลิก’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ด้วยความห่างของอายุ 37 กับ 24 มันห่างกันมาก และคนละ Generation วิธีคิด การแสดงออก คนละแบบ ความตกตระกอนในชีวิตคนละเรื่อง ถ้าเราจะรอให้ผู้หญิงคนนี้ให้โต มันไม่ได้การันตีว่า อายุเยอะขึ้นแล้วจะหาย บางคนก็งี่เง่าแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ถ้างี่เง่าเรื่องอื่นโอเค แต่ถ้ามาตัดรายได้มันอยู่ด้วยกันไม่รอดแล้ว นั่นแปลว่าทัศนคติในการสร้างครอบครัวมันไม่เหมือนกันแล้ว การสร้างครอบครัวมันไม่ใช่แค่การคบแค่เป็นแฟน มันคือการหาเงิน การช่วยกันบริหารรายจ่าย รายรับ แต่เราดันไปเจอคนที่ไม่พร้อมมาก ๆ ถ้ามีแล้วปวดหัว มีแล้วการงานเสีย มีแล้วรายได้หด ก็อย่าเพิ่งมีดีกว่า’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1