แต่งงานกับสามีต่างชาติ เขาบังคับให้หนูออกจากงาน อยู่บ้านกับเขา 24 ชั่วโมง เขาเริ่มควบคุมหลายๆอย่าง ห้ามเราทาครีม ให้เรากินข้าววันละ 1 มื้อ เจอเพื่อนได้เฉพาะวันสำคัญๆ ตอนนี้เราแยกทางกันเขาให้เงินมาก้อนนึง แล้วกลับประเทศไปแล้ว ยังไม่ทันได้หย่าเลย

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

แต่งงานกับสามีต่างชาติ เขาบังคับให้หนูออกจากงาน อยู่บ้านกับเขา 24 ชั่วโมง เขาเริ่มควบคุมหลายๆอย่าง ห้ามเราทาครีม ให้เรากินข้าววันละ 1 มื้อ เจอเพื่อนได้เฉพาะวันสำคัญๆ ตอนนี้เราแยกทางกันเขาให้เงินมาก้อนนึง แล้วกลับประเทศไปแล้ว ยังไม่ทันได้หย่าเลย

10 ม.ค. 2025

          คุณมิ้น (นามสมมติ)” อายุ 33 ปี สายแรกของ ปี 2025 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [8 มกราคม 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล -ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาชีวิตคู่กับสามี แล้วพฤติกรรมสามีเริ่มเปลี่ยนไป จนแอบน่ากลัว

            โดย “คุณมิ้น” (นามสมมติ) ได้เล่าว่า ‘แต่งงานกับสามีมา 3ปี แต่มีปัญหาพึ่งจะเลิกรากันไป แต่ก็ยังไม่เลิกขาด ต้องเกริ่นก่อนว่า สามีเราไม่ใช่คนไทย ก่อนแต่งงานเขาดีมาโดยตลอด แต่พอเราแต่งงานกัน เขาก็ขอให้เราออกจากงาน ไม่ต้องทำงาน มาอยู่ดูแลเขาแทน ซึ่งตอนนั้นเราก็มองว่าก็โอเค ดูแล้วเขาน่าจะดูแลเราได้ เราก็ออกจากงาน หลังจากที่เราแต่งงานกัน จนผ่านมาสักประมาณ 2ปีเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป เขาเริ่มที่จะควบคุมชีวิตเราเยอะเกิน และพฤติกรรมของเขาก็เริ่มแปลกจนไม่ปกติ เช่น เขาจะไม่ให้เราใช้ในกลิ่นที่เขาไม่ชอบ ทั้งครีมทาผิว และครีมอาบน้ำ แล้วก็หลังๆมาก็คือจะไม่ให้ใช้โลชั่นเลย เขาบอกว่าไม่ชอบเพราะกลิ่นและมันก็เหนียวเหนอะหนะ

            จนมันก็เริ่มหนักขึ้นถึงขนาดที่ ไม่ให้เรากินข้าวเลย ให้กินข้าวแค่วันละครั้ง เขาบอกว่ามันไม่มีทฤษฎีไหนที่บอกว่ามนุษย์ต้องกินข้าววันละ 3 มื้อเลย ซึ่งตอนนั้นเราก็รักเขา เราก็เลยลองอดทนดู แต่ก็มีในช่วงแรกที่หิวมาก เราก็โกหกเขาว่าไปร้านสะดวกซื้อ แต่จริงๆ คือแอบไปยืนกินขนม เพราะเวลาปกติเขาก็ไม่กินอะไรเลย เขาจะกินแค่มื้อเย็น และก็เขาเป็นคนแบบเฮลตี้ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ อันนี้เราก็พอจะโอเค ก็ลองปรับให้เขาได้

            แต่หลังๆมามันก็เริ่มที่จะหนักขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดว่าเข้าห้องน้ำห้ามปิดประตู เพราะเขาแค่ต้องการให้เขามองเห็นว่าเราอยู่ตรงนี้ และถ้าไม่ทำตามเขาก็จะเคาะประตูให้เราเปิด ต่อให้ถ่ายหนักเขาก็จะให้เปิดให้ได้ แต่พอช่วงที่มีปัญหาจนเราเริ่มคิดว่ามันไม่ไหวแล้ว คือตอนที่เขาเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆแบบ พูดคนเดียว หรือ นั่งอยู่เฉยๆก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา และก็ยังมีตอนที่เขาเข้าไปในห้องน้ำ อาบน้ำ หรือทำอะไรเขาก็จะพูดคนเดียวเป็นเรื่องเป็นราวเลย ส่วนมากเขาจะพูดเรื่องชีวิตตัวเองอะไรแบบนั้น อีกอย่างหนูกับเขาก็อยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง เพราะเขาอยู่บ้าน เทรดพวกทองคำ เวลาที่เพื่อนหนูโทรเข้ามาถ้าคุยนานๆ เขาก็จะเริ่มหงุดหงิด เริ่มโมโห ต้องการให้ชีวิตหนูมีแค่เขาคนเดียว ไม่ว่าจะโทรคุยกับแม่ หรือไปเจอกับครอบครัวก็ไม่ยอมให้ไป แต่ก่อนแต่งงานเราก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ใช้การไป ๆ มา ๆ มากกว่า เพราะเขาก็ไม่ได้อยู่ไทยตลอด

            แต่สาเหตุที่ทำให้หนูแยกทางเพราะ เขาเริ่มมีความคิดไม่ค่อยเห็นอกเห็นใจคนอื่น และก็เริ่มมีพฤติกรรมที่น่ากลัว คือตอนนั้นเหมือนจะมีข่าวที่มีเด็กจมน้ำเสียชีวิต แล้วคุณแม่เขาร้องไห้ออกมา สามีที่นั่งดูอยู่มองดูแล้วก็หัวเราะ เขาบอกเหตุผลเพราะผู้หญิงร้องไห้เหมือนคนบ้า เขาเข้าใจข่าว เข้าใจภาษาไทย แต่หนูก็ไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไงอยู่? หนูเลยรู้สึกว่าเขาไม่ค่อยเห็นอกเห็นใจคนอื่นเลย หนูก็เลยตัดสินใจเลิกไป แต่คือที่ติดอยู่ตอนนี้คือเรายังไม่ได้หย่ากัน แล้วตอนนี้เราก็ยังมองว่าเขาก็มีส่วนดีอยู่ หนูกลัวว่าเขาจะกลับมาในช่วงที่เราทำใจไม่ได้ หนูกลัวตัวเองกลับไปหาเขาอีกรอบ หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า หนูจะทำยังไงทำให้ตัวเองเข้มแข็ง ในวันที่ต้องเจอเขาอีกครั้ง ไม่ให้ตัวเองกลับไปหาเขา

            โดย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ให้เราลองมองดูสิ่งที่เราไม่โอเคกับนิสัยของเขาแล้วจดเอาไว้ พอในวันที่เราเจอเขาอีกครั้งให้เราหยิบขึ้นมา แล้วคิดว่าถ้าเรากลับไปเราจะยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้ไหม? ถ้าเรารับไม่ได้ เราก็ต้องยอมรับความเป็นจริง’

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘แค่การที่เขาบังคับไม่ให้เราทาครีมหรือการที่เขาให้กินข้าววันละมื้อ พี่ก็ไม่กลับไปแล้ว’

            และสุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เท่าที่ฟังเหมือน เขาป่วย และ ก็เกี่ยวกับสารเคมีในสมอง สุดท้ายถ้าเรามั่นใจว่าไม่อยากกลับไป เราก็แค่หนักแน่นกับการตัดสินใจแค่นั้นเอง แล้วก็โฟกัสกับการใช้ชีวิตของเราเอง’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ทุกคนเคยเจอไหม? มีไลน์กลุ่มที่อยู่หลายสิบคน มีไว้คุยเรื่องเรียน คุยเรื่องงาน แต่จะมีอยู่ 2-3 คน ที่คุยแต่เรื่องตัวเอง เรื่องส่วนตัวในกลุ่ม ถ้าไม่มีใครตอบ ก็กด @ALL แท็กทุกคนในกลุ่ม รู้สึกรำคาญมาก ถ้าปิดแจ้งเตือนก็กลัวพลาดข่าวสารอัปเดตในกลุ่ม ทำยังไงดี?

10 ต.ค. 2023

ทุกคนเคยเจอไหม? มีไลน์กลุ่มที่อยู่หลายสิบคน มีไว้คุยเรื่องเรียน คุยเรื่องงาน แต่จะมีอยู่ 2-3 คน ที่คุยแต่เรื่องตัวเอง เรื่องส่วนตัวในกลุ่ม ถ้าไม่มีใครตอบ ก็กด @ALL แท็กทุกคนในกลุ่ม รู้สึกรำคาญมาก ถ้าปิดแจ้งเตือนก็กลัวพลาดข่าวสารอัปเดตในกลุ่ม ทำยังไงดี?

“คุณนัท (นามสมมติ)” อายุ 33 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (4 ต.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม กับปัญหาคนในกรุ๊ปเรียนกรุ๊ปทำงานชอบเข้ามาคุยเรื่องส่วนตัว ที่ไม่เกี่ยวกับกรุ๊ป โดย “คุณนัท (นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า ‘ตอนนี้ตัวคุณนัทเองจะทั้งเรียนและทำงานด้วย โดยเรื่องนี้จะเกิดทั้งใน Line กลุ่มทำงานและเรียน แต่ส่วนมากจะเจอใน Line ของกลุ่มเรียน… โดยจะมีคนคนนึงในกลุ่ม ชอบโผล่เข้ามาว่า ‘เหงา หิวข้าว กลางวันกินอะไรดี วันนี้กินเหล้า กินเหล้าร้านนี้ กินเหล้ากับเราไหม’ อะไรแบบนี้ ถ้าไม่มีใครตอบเขาก็จะแท็ก All หาทุกคน แล้วมันก็จะเด้งเตือนทุกคน ก็จะกดเข้าไปดูว่ามีอะไรหรือเปล่า พอเข้าไปดูก็ไม่มีอะไร ก็จะเป็นพฤติกรรมอย่างนี้เรื่อยๆ มี ถ่ายรูปบ้านมาว่า เสร็จแล้วเหลืออีก 2% ถ่ายรูปอันนั้นมา อันนี้มา แล้วเขาก็มีคู่ขาเขา รับส่งกันว่า ”พี่กินเหล้าไหน พี่ทำอะไร“ เขาก็จะเฮฮากันอยู่ 2 - 3 คน ในกลุ่ม เขาไม่ตั้งกลุ่มไลน์แยก แต่เขามาใช้ไลน์กลุ่มที่สำหรับคุยเรื่องเรียน บางครั้งถ้าเราไม่เปิดดูเลย บางคนก็จะแบบ ปิดแจ้งเตือนไปเลยไม่ต้องรับรู้ ปิด แต่พอเปิดมาอีกทีร้อยกว่าข้อความ แล้วบางครั้งก็มีแท็กด้วยเราก็ต้องเปิดเข้าไปดู ว่ามีอะไรเกี่ยวกับเรื่องเรียนมั้ย แต่ก็ไม่เจออะไร ในไลน์กลุ่มทำงานก็จะมีคนที่ “พี่อยู่คอนเสิร์ตนี้ ใครมาที่นี่มาแจมกับพี่หน่อย พี่กินเหล้าอยู่ตรงนี้ ใครมาแจมกับพี่หน่อย เงาะอร่อยไปกินกับพี่ไหม” มันจะเป็นบุคคลซ้ำๆในแต่ละกลุ่ม กลุ่มเรียนก็จะเป็นคนเดิมซ้ำๆ มันก็เลยรู้สึกรำคาญ พอเราเริ่มรู้สึกรำคาญ เราไปเจอหน้าเขาก็จะรู้สึกแบบเบื่อหน้าเขา… ปัญหาที่จะถามวันนี้คือ หนูเป็นคนที่ขี้หงุดหงิด จุกจิกเรื่องพวกนี้เกินไปหรือเปล่า แล้วมีวิธีจัดการ Mindset หรือจัดการตัวเองยังไง ถ้าจะให้หนูเดินไปบอกเขา เห้ยพี่…พี่เลิกพิมพ์อย่างนี้ในไลน์กลุ่ม มันก็ทำไม่ได้อยู่ดี ถ้ามีวิธีแก้หรือแนะนำเพิ่มเติมได้ งานนี้ คำแนะนำจาก “ดีเจต้นหอม” คือ ‘สำหรับหอมไม่มี ถ้าเราจะบอกว่า พี่ หยุดพูดในกลุ่มแชท มันเป็นการสร้างบรรยากาศในกรุ๊ปให้มีปัญหา หอมก็จะเลือกปล่อยผ่าน แล้วก็อาจจะ สมมุติเจอร้อยกว่าข้อความแล้วแท็ก All มา ก็จะแบบ “อุ้ย…เปิดมาเจอร้อยหว่าข้อความ ตกใจเลย เอางี้ ถ้าเกิดมีอะไรเรื่องเรียนหรือสำคัญ ยังไงแท็กนัดมาต่างหากให้หน่อยนะคะ ขอบคุณค่าา555555” แต่มันจะมีปัญหา… ก็อดทน สำหรับหอม ไม่อยากทำให้บัวช้ำน้ำขุ่น’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำแนะนำว่า ‘พี่เข้าใจน้องนัท พี่ไม่รู้สึกน้องนัทมากไป เพราะพี่ก็เป็น เราก็อยากอ่านแต่เรื่องที่มันเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ซึ่งพี่ว่ามันไม่ได้แปลก พี่ว่าคนอื่นในนั้นก็อาจจะรู้สึกเหมือนน้องนัทแหละ เพียงแต่เขาเลือกที่จะไม่เสียเวลากับเรื่องพวกนี้ ก็เหมือนกับบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นพี่ว่า เพราะเขาก็ไม่รู้ถ้าพูดไปมันจะยังไง แล้วก็ มันอาจจะดูว่าใครพูดก่อนใครเปิดก่อน คนนั้นมันก็อาจจะดูแบบไม่ค่อยดีในสายตาคนอื่นก็ได้ แต่ว่าถ้าจะให้แนะน ก็คือ… น้องนัทต้องทำใจจริงๆ แล้ว อันไหนข้ามได้ก็ข้าม แต่พี่ก็มีวิธีขำๆนะที่พี่เคยคิดว่าพี่จะทำ… ก็คือพี่จะเปลี่ยนชื่อไลน์ตัวเองแล้วพี่ก็จะไปเตะนางออก แล้วพี่ก็จะเปลี่ยนกลับ อันนี้คือกรณีที่แบบไม่ไหวแล้วโว้ยย แล้วมันจะจับไม่ได้ว่าใครเตะนางออกเผื่อนางจะรู้ว่า… ต้องมีอะไรแล้วแน่ๆเลย เผื่อนางจะได้พิจารณาตัวเอง แต่ถ้าจะให้ร้ายกว่านั้น ให้เปลี่ยนชื่อเป็นเพื่อนมันอ่ะ ให้มันด่ากันเองว่าเตะออกทำไม’ ปิดท้ายกันด้วย “ดีเจเผือก” ให้คำแนะนำว่า ‘การที่เราจะรู้สึกรำคาญไม่ผิด แต่ว่าถ้ามันรำคาญถึงขนาดที่ว่าโพสต์เลยเนี่ย… ผมว่ามันจะทำให้ชีวิตคุณนัทอ่ะ มันทุกข์ไปนิดนึง ก็คือตอนนี้ผมเนี่ย จะรู้สึกใช้หลักการดำเนินชีวิตที่อย่าไปสร้างความเครียดอะไรให้กับชีวิตมันมากมาย เก็บความเครียดนั้นไว้ปล่อยสำหรับเรื่องราวที่มันควรจะเครียด เวลาที่เราเครียดหรือเกิดรู้สึกทางลบ ทั้งสารเคมีในสมองเอย ทั้งระบบการเต้นของหัวใจ คือมันหงุดหงิดอ่ะ เมื่อไหร่ที่เราหงุดหงิดหรือรำคาญ มันก็จะทำให้วันนั้นมันเป็น Bad day แล้วโลกทุกวันนี้มันก็เลวร้ายมากพออยู่แล้ว มันมีเรื่องราวร้ายๆ อะไรมาทำให้เรารู้สึก Bad day อยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น อะไรที่มันไม่มีคุณค่าพอที่จะทำให้ผมหงุดหงิดได้ ผมก็จะไม่สนใจมัน ผมจะพยายามเก็บความหงุดหงิดไว้ใช้กับเรื่องที่มันเหมาะสม แล้วก็ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะรู้สึกว่าเรื่องราวที่คุณนัทเจอมันเบา ก็ปิด Notification ก็ได้ แล้วค่อยๆมาไล่ๆดูก็ได้ ซึ่งสำหรับคุณนัทอาจจะมองปัญหานี้รุนแรงกว่าคนอื่น ก็อยากให้ค่อยๆปรับลง ถ้าคุณนัทยังมีเรื่องอื่นๆในชีวิต ที่ยังซีเรียสกว่านี้หรือน่าจะเครียดกว่านี้ แล้วคุ้มค่ากับการที่เราจะเสียเซลล์สมองกับการรับมือมากกว่านี้ ก็เปลี่ยนไปโฟกัสกับเรื่องนั้น แล้วผมเชื่อว่าทุกคนก็จะมีกรุ๊ปไลน์ที่ปิด Notification ไว้อยู่แล้ว เราไม่เปิดของทุกกรุ๊ปอยู่แล้ว ผมก็ปิดนะ แล้วเมื่อไหร่ที่เราเปิดกรุ๊ปไลน์เราก็มาไล่ดูว่าเราพลาดอะไรไปหรือเปล่า มันก็จะทำให้เราหลีกเลี่ยงความวุ่นวายไปได้เยอะเลยครับ ก็ลองปิด Notification ลองเอาใจออกมาจากกรุ๊ปไลน์ดู’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ครอบครัวหนูไม่ได้มีฐานะมาก พ่อเกษียณแล้วแต่เงินบำนาญก็ได้ไม่เยอะ พ่อมีเงินก้อนจาก การเวนคืนที่ดินมาก้อนใหญ่ เหลือเงินประมาณ 4 ล้านบาท เก็บไว้ในบัญชีของพ่อเอง แต่คุณแม่แอบเข้ารหัสมือถือพ่อไปใช้ คุณแม่เล่นหวยประเทศเพื่อนบ้าน วันละ 20,000+ บาท

06 ต.ค. 2025

ครอบครัวหนูไม่ได้มีฐานะมาก พ่อเกษียณแล้วแต่เงินบำนาญก็ได้ไม่เยอะ พ่อมีเงินก้อนจาก การเวนคืนที่ดินมาก้อนใหญ่ เหลือเงินประมาณ 4 ล้านบาท เก็บไว้ในบัญชีของพ่อเอง แต่คุณแม่แอบเข้ารหัสมือถือพ่อไปใช้ คุณแม่เล่นหวยประเทศเพื่อนบ้าน วันละ 20,000+ บาท

ครอบครัวหนูไม่ได้มีฐานะมาก พ่อเกษียณแล้วแต่เงินบำนาญก็ได้ไม่เยอะ พ่อมีเงินก้อนจากการเวนคืนที่ดินมาก้อนใหญ่ เหลือเงินประมาณ 4 ล้านบาท เก็บไว้ในบัญชีของพ่อเองแต่คุณแม่แอบเข้ารหัสมือถือพ่อไปใช้ คุณแม่เล่นหวยประเทศเพื่อนบ้าน วันละ 20,000+ บาทเอาเงินไปเล่นจนหมดไป 4 ล้านบาทแล้ว จนไม่เหลือสักบาท และ มีหนี้เพิ่มอีก 2-3 แสนแต่หนูยังต้องกู้เรียน กยศ.เองอยู่เลย รู้สึกเสียใจ ตอนนี้ครอบครัวกำลังจะได้เงินเวนคืนอีกก้อนกำลังจะได้คืนอีกมา 4 ล้าน หนูจะรักษาเงินก้อนสุดท้ายไว้ยังไงดี? กลัวแม่ทำเหมือนเดิม “คุณฟาง (นามสมมติ) อายุ 19 สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [1 ต.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาแม่ติดพนัน จนมองข้ามชีวิตคนรอบข้าง โดย “คุณฟาง (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ที่บ้านของหนูไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมาก คุณพ่อคุณแม่ไม่มีใครทำงาน เพราะคุณแม่เป็นแม่บ้าน ส่วนคุณพ่อก็เกษียณมา มีเงินบำนาญไม่ได้เยอะ และจุดเปลี่ยนผันของที่บ้านคือ ที่ดินได้ถูกเวียนคืน เลยได้เงินมาก้อนนึง ก้อนใหญ่รวมๆแล้ว ต้องได้ทั้งหมดสิบห้าล้าน แต่ตอนนี้ได้มาก่อนหกล้าน ทีนี้ก็เลยเอาเงินไปซื้อรถ เพราะว่าที่บ้านไม่มี ตอนนี้เลยเหลือประมาณสี่ล้าน คุณพ่อของหนูท่านก็เก็บเงินไว้ในโทรศัพท์ของคุณแม่ เพราะท่านไม่ใช้โทรศัพท์เลย เวลาจะคุยโทรศัพท์ หรือทำอะไร ก็จะผ่านแม่ตลอด แต่เป็นบัญชีของคุณพ่อ ตามจริง คุณแม่เขาก็ไม่รู้รหัส แต่ว่าท่านก็แอบดู แล้วก็เอาเงินไปใช้ ตอนหนูประมาณ ม.2 ก็จับได้ว่าคุณแม่แอบเอาเงินไปใช้เล่นหวย เพราะหนูชอบเล่นโทรศัพท์ของท่าน ตอนนั้นก็ยังเป็นเด็กไม่กล้าพูดอะไร เลยได้แต่ถ่ายๆไว้ส่งให้พี่สาวตนเอง พี่ก็เลยเป็นคนจัดการคุยกับแม่ให้ ท่านก็รับปากว่า จะไม่เล่นหวยแล้ว แต่หนูก็จับได้เรื่อยๆว่า ท่านยังเล่นอยู่ ก็เลยได้พูดกับแม่ว่า ‘ถ้าแม่ยังไม่เลิกเล่น หนูจะไปบอกพ่อนะว่าแม่เอาเงินพ่อมา’ แต่ท่านก็ไม่ได้กลัวหรอก แม่เขาพูดว่า ‘ถ้าอยากให้บ้านแตกก็บอกเลย’ ตอนนั้นหนูยังมัธยมต้นอยู่เลย ก็รู้สึกจุกจนไม่กล้าพูดอะไร พอผ่านมาจนหนู ม.5 แม่ก็ดูเล่นหนักขึ้นเรื่อยๆ พี่สาวเลยตัดสินใจบอกคุณพ่อ ว่าแม่แอบเอาเงินไปนะ คุณพ่อก็บอกว่าท่านรับได้ สูงสุดคือล้านนึง แต่พอไปดูจริงๆ เงินมันไม่เหลือแล้วสักบาท ก็เลยได้รู้ความจริงว่าคุณแม่เล่นวันละสองหมื่น บวกกับหนี้ที่สร้างไว้อีกสองสามแสน คุณแม่เขาก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หนูรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบแตกสลาย เพราะอีกปีนึงหนูก็ขึ้นมหาลัยแล้ว ทำไมท่านถึงไม่คิดถึงอนาคตของลูกเลย ทุกๆครั้งที่เกิดการพูดคุยกันคุณพ่อจะบอกเสมอว่า เก็บเงินไว้ให้ลูกเรียน แต่คุณแม่ไม่เข้าใจ ท่านรู้สึกว่า แล้วฉันเป็นใคร ฉันก็เป็นเมีย ทำไมฉันไม่ได้ใช้เงินเธอบ้าง แต่ดีที่คุณพ่อท่านมีเงินกับธนาคารที่ออกมาพอดีในตอนนั้น เลยพอส่งหนูเรียนได้ แต่ตอนนี้ เงินก้อนจากการเวียนคืน กำลังจะได้มาในปีสองปีนี้ จากสิบห้าล้าน เหลือสี่ล้าน เพราะเราขึ้นศาลกัน จริงๆควรจะได้มากกว่านี้ แต่ถูกลดลงมา ซึ่งคุณแม่ท่านก็ยังไม่หยุดเล่น ยังแอบยักยอกเงินคุณตาเวลาที่ไปเก็บตลาดนัด ยักยอกเงินน้าที่จ้างให้เฝ้าร้านเครื่องซักผ้า ค่อนข้างเดือดร้อนคนหลายๆคน และถ้าเงินก้อนสุดท้ายออกมา คุณแม่คงไปสร้างหนี้ ให้คุณพ่อคอยจ่ายให้อยู่ดี หนูเลยอยากจะปรึกษาพวกพี่ว่า หนูควรจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง? ไม่อยากมองแม่เป็นคนไม่ดี’ เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ให้ลองเปลี่ยนความคิดจากการที่มองคุณแม่เป็นคนไม่ดี ให้มองว่าท่านป่วยจะดีกว่าเพราะเท่าที่พี่ทำรายการมา และคุยกับคุณหมอ มันเกิดจากสมองชัดเจน แล้วลองคุยกับคนรอบข้างให้ดีว่า เราจะจัดการสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยจากคุณแม่ยังไง เช่นไม่ตามใจ ไม่ให้เงิน แยกเก็บเงินเป็นหลายๆกองมั้ย ต้องเซ็นกี่คนถึงจะเบิกได้ คงต้องทำความเข้าใจมากๆ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เป็นคนใช้ไม้แข็ง คือเขาจะไม่ได้เงินจากพี่เลยสักบาท มันต้องเกิดการพูดคุยกัน แบ่งเงิน เหมือนโอเค คนละล้าน แล้วแม่จะเอาเงินไปถลุงจนหมดตัวก็ให้เขาเป็นไป ส่วนพ่อถ้าได้ล้านนึง แล้วจะตามเช็ดให้แม่ ก็แล้วแต่พ่อ แต่อีกสองล้าน คือเราต้องเก็บไว้ และทำให้เขาเห็นว่าเขาจะไม่ได้เงินจากเราจริงๆสักบาท’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ช่างแม่เลยนะ แล้วเรียกครอบครัวมาคุยกันว่า ปัญหาของแม่ คือแบบนี้ และมันคงไม่จบ ให้กันเงินไว้ให้เป็นค่าเทอมของเรา มันคงทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านี้แล้ว การที่เราไม่ดูแลแม่ เพราะแม่ทำสิ่งนี้ ก็ไม่ใช่ว่าบาป ถ้าเราดูแลจนสุดทาง แล้วเขายังเลือกเป็นแบบนี้อยู่ เราเลือกได้ ก็พูดให้เขาคิดว่า ถ้าแม่ยังอยากไปกับเราทำให้ครอบครัวชีวิตดีขึ้น เราจะไปด้วยกัน แต่ถ้าทำให้มันถอยหลังลง เราก็จะไม่ไปด้วย ให้แม่ดูแลชีวิตตัวเอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ซื้อลิปมากี่อัน เพื่อนคนเดิมก็ยืมใช้ทุกอัน เค้าไม่ยืมคนอื่นเลยค่ะ รอแต่จะยืมของหนู เช้าก็ทา เที่ยงก็ทา ก่อนกินข้าว หลังกินข้าวก็ทา พีคสุด ปากมันยังไม่เช็ดปากก็หยิบไปทา ตอนนี้กลิ่นลิปหนูเปลี่ยนด้วย ต้องซื้อใหม่ตลอด เจอแบบนี้ทำไงดี?

10 ม.ค. 2025

ซื้อลิปมากี่อัน เพื่อนคนเดิมก็ยืมใช้ทุกอัน เค้าไม่ยืมคนอื่นเลยค่ะ รอแต่จะยืมของหนู เช้าก็ทา เที่ยงก็ทา ก่อนกินข้าว หลังกินข้าวก็ทา พีคสุด ปากมันยังไม่เช็ดปากก็หยิบไปทา ตอนนี้กลิ่นลิปหนูเปลี่ยนด้วย ต้องซื้อใหม่ตลอด เจอแบบนี้ทำไงดี?

“คุณแพร (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร’ เมื่อคือวันพุธที่ [8 ม.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาเพื่อนยืมลิปสติกบ่อยมาก แถมใช้แล้วลิปสติกมีกลิ่นแปลกไป! โดย “คุณแพร (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูซื้อลิปสติกมาใหม่ เพื่อนขอลอง แล้วก็ทาไปที่ปากเลย ตอนแรกหนูคิดว่าจะใช้นิ้วแตะ ๆ ก่อนแล้วค่อยทา ต่อมาเพื่อนก็ถามว่าซื้อที่ไหน? กี่บาท? หนูก็บอกไป แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มยืมบ่อยขึ้นก่อนเข้าเรียน เลิกเรียน ก่อนกินข้าว หลังกินข้าว ก็มาขอหนูว่า “มึงขอยืมลิปหน่อย” ไปห้องน้ำก็ทา เดินไปไหนก็ทาทั้งวัน ทามากกว่าหนูอีก พอบอกว่าหนูขายต่อ เพื่อนก็บอกกลับมาว่า “บ้าหรอ กูก็ต้องเอาอันใหม่สิ” หนูก็เลยส่งพิกัดอันใหม่ให้เขา เขาก็ไม่ซื้อ แล้วตอบมาแบบเปลี่ยนเรื่องแทน พอวันต่อมาเขาก็ยังยืมหนูเหมือนเดิม ซึ่งเขาก็มีลิปของเขา หนูก็ถามว่าไม่ใช้ลิปตัวเองแล้วเหรอ? เขาก็บอกว่า “ก็ต้องใช้ของมึงด้วย” กลุ่มหนูมีกัน 3 คน อีกคนหนึ่งคือเพื่อนของเขา ที่มาจากประถมด้วยกัน เขาไม่เห็นเคยยืมของเพื่อนคนนั้นเลยสักครั้ง ยืมแต่ของหนูคนเดียว หนูเริ่มไม่โอเคตรงที่กลิ่นลิปของหนูมันเริ่มเปลี่ยน เหมือนมันบูดเพราะหลังกินข้าวปากมัน ๆ เขาก็ยังทา หนูไม่กล้าปฏิเสธแบบตรง ๆ เขานิสัยดีทุกอย่าง แต่ติดแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเลย หนูเคยบอกว่าไม่ให้แล้ว แต่เขาก็บอกกลับมาว่า “โห ขี้งกว่ะ” หนูเลยให้ยืมมาตลอด ไม่ใช่แค่ลิปด้วย กระเป๋า เสื้อ เสื้อกันหนาว เขาจะขอเลย พูดแบบว่าถ้าหนูไม่ใช้ ขอได้ไหมอยากได้ เพื่อนอีกคนก็โดนแบบเดียวกัน เรื่องกิ๊บติดผม เขาบอกว่าขอติดได้ไหม? พอเขาติดแล้วก็เนียน ๆ เอากลับบ้านไปเลย พอทวงเขาก็จะทำเป็นลืม หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า ถ้าเจอสถานการณ์อย่างนี้ หนูควรทำอย่างไรดี?’ ทางด้านดีเจทั้ง 3 ท่าน “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” ให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า ‘ควรบอกไปตรง ๆ เลยว่าของแบบนี้มันใช้ร่วมกันไม่ได้ หนูต้องบอกว่ามันมีเหตุผลของการไม่ให้ยืม มันเป็นสิ่งที่พูดได้ โตแล้วบอกเขาได้ หนูต้องรู้จักปฏิเสธ’ นอกจากนี้ “ดีเจเผือก” ยังพูดเสริมอีกว่า ‘ซื้อให้ไปเลย มึงกูไม่ให้ยืมแล้วนะ ใช้อันนี้ไปเลย ของแบบนี้มันไม่ใช้ร่วมกัน มันเหมือนแปรงสีฟัน ถ้าเพื่อนใหม่พึ่งเจอกันแล้วมันจะคัดกรองกันด้วยเรื่องลิป เรื่องยืมของก็โอเค ‘หาเพื่อนใหม่’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูเล่นฟิตเนส จะมีคุณลุงคนนึง มองหนูตลอด ไม่ว่าหนูจะเล่นเครื่องเล่นอะไร เค้าจะตามมาเล่นต่อทุกเครื่อง เคยนอนเสื่อโยคะ หันหน้าไปอีกที เจอลุงนอนหันหน้าเข้าหาเรา เราตกใจกลัวมาก รู้สึกไม่ปลอดภัยเลย โดนแบบนี้มาเกือบปีแล้ว

17 ม.ค. 2025

หนูเล่นฟิตเนส จะมีคุณลุงคนนึง มองหนูตลอด ไม่ว่าหนูจะเล่นเครื่องเล่นอะไร เค้าจะตามมาเล่นต่อทุกเครื่อง เคยนอนเสื่อโยคะ หันหน้าไปอีกที เจอลุงนอนหันหน้าเข้าหาเรา เราตกใจกลัวมาก รู้สึกไม่ปลอดภัยเลย โดนแบบนี้มาเกือบปีแล้ว

หนูเล่นฟิตเนส จะมีคุณลุงคนนึง มองหนูตลอด ไม่ว่าหนูจะเล่นเครื่องเล่นอะไรเค้าจะตามมาเล่นต่อทุกเครื่อง เคยนอนเสื่อโยคะ หันหน้าไปอีกที เจอลุงนอนหันหน้าเข้าหาเราเราตกใจกลัวมาก รู้สึกไม่ปลอดภัยเลย โดนแบบนี้มาเกือบปีแล้ว ฟิตเนสที่นี่ดันดีที่สุด และ ใกล้บ้านเราด้วย “คุณเตย (นามสมมติ)” อายุ 29 ปี สายที่ 4 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (15 ม.ค. 68) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหา Sexual Harassment โดย “คุณเตย (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเป็นคนเล่นฟิตเนสเล่นมา 8 - 9 ปีแล้ว ส่วนใหญ่ฟิตเนสก็จะมีผู้ชายเยอะ คือก็จะชินอยู่แล้วเวลาเล่นเหนื่อย ๆ มานั่งพักก็จะมากันไปมองกันมา ดูคนนู้นคนนี้เล่นหรือเวลาเขามองหนูมันก็เฉย ๆ จนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาหนูย้ายบ้าน หนูก็ต้องย้ายที่ฟิตเนส มาเล่นที่ปัจจุบัน แต่หนูเจอคุณลุงคนนึงเขาชอบมอง จ้องหนูตลอดเวลาทุกครั้งที่หนูเงยหน้าขึ้นมาหนูจะเห็นสายตาเขามองอยู่ แล้วก็จะหลบตาหันหน้าหนี คือถ้าแค่มองหนูพอจะอดทนได้เพราะว่าก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว แต่ว่าสไตล์ของเขาในการมองมันลามไปถึงเวลาที่หนูเปลี่ยนเครื่องมาเล่นเครื่องตรงนี้ เขาจะเดินมาใกล้ ๆ เครื่องขข้าง ๆ ทำเป็นยืดเส้นยืดสาย ทำเป็นยกเสื้อขึ้นเช็คหน้า หรือเดินผ่านไปผ่านมาก็จะเหลือบมองหนู ซึ่งเวลาที่หนูไปเล่นหนูจะเล่น 1 - 2 ชั่วโมงตลอดเวลานั้นคือเขาทำแบบนี้ตลอดเวลาเลย สมมุติว่า 100% ที่หนูเล่นใน 2 ชั่วโมง คือ เกิน 60% ที่เขาทำ คือคนเล่นเวทเขาจะแบ่งวัน วันนี้เล่นขา วันนี้เล่นหลังแต่ว่าคุณลุงคนนี้ หนูคิดว่าเขาอาจจะเล่นรวมหลาย ๆ ส่วนหนึ่งวัน เดี๋ยวไป Sit up ขึ้นมาเวทเล่นแขนเดินไปเล่นหลังกลับมา Sit up อีกเดินไปทั่วฟิตเนสเลย คือมันมาหนัก ๆ ตอนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมากเพราะแรก ๆ ก็มาเล่นคาบเกี่ยวกันบ้างแต่ตอนนี้เจอกันทุกวัน มันทำให้หนูไม่อยากไปเล่นฟิตเนสเลย แล้วหนูเป็นคนไปฟิตเนสทุกวัน เวลาไปเล่นหนูก็จะไปคนเดียว หนูหาวิธีแก้กับสถานการณ์นี้แล้ว ถ้าเขามาหนูก็ลุกหนี สมมุติเดินมาเครื่องนี้ปุ๊บหนูลุกเปลี่ยนเครื่อง หนูแสดงออกชัดเจนมาก เบะปากแบบกิ๊ก สุวัจนี ทำหน้าเหม็น ทำหน้าเบื่อหน่าย ให้เขารู้ไปเลย แต่เขาก็ทำเป็นแบบว่าผ่าน ๆ ไป ฉันไม่ได้มองเธอนิอะไรแบบนี้ เขารู้ตัวนะคะแต่เขายังทำเหมือนเดิมมันไม่ได้ดูเป็นมิตรเลย หนูรู้สึกกลัว ๆ หนูอยากจะปรึกษาว่าหนูจะทำยังไงได้บ้าง’ เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘สุดท้ายปลายทางสุดถ้าไม่มีใครช่วยอะไรได้ เราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนฟิตเนสหรือเปลี่ยนเวลาเล่นได้ ถ้าอย่างงั้นการปรึกษาสตาฟน่าจะทำได้ หนูก็ทนมา 2 – 3 เดือนแล้วนะถ้าเขามีพฤติกรรมแบบนี้แล้วถ้าหนูมั่นใจว่าไม่ใช่หนูคนเดียวที่โดนมันทำให้บรรยากาศโดยรวมของฟิตเนสมันเสียเมื่อเขาอยู่ สตาฟความจะบอกได้ เพราะงั้นผมสนับสนุนให้คุยกับสตาฟก่อนถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ค่อยคิดเรื่องย้ายอีกทีนึง’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ยืนยันว่าต้องคุยกับสตาฟให้เขาช่วยดู แล้วถ้าหนูบอกว่าเขาทำกับคนอื่นด้วยยังไงเขาต้องจัดการเรื่องนี้ แจ้งเลย ถึงเขาจะบอกว่ามันไม่มีอะไร เราก็บอกไปเลยว่าหนูไม่สบายใจ แล้วสมาชิกที่เป็นเมมเบอร์มา 8-9 ปีอย่างหนูจะออกเพราะเรื่องนี้เขาต้องจัดการแน่นอน มันเป็นสิทธิของเราเราแจ้งได้เลย ไม่ต้องเก็บความไม่สบายใจไว้หนูบอกเขาไปเลยพี่ว่าเขาจะจัดการเอง’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาเสริมอีกว่า ‘มองอีกมุมหนึ่งก็คือว่าลุงคนเนี้ยเป็นเจ้าของฟิตเนสแล้วต้องการให้จ้างเทรนเนอร์ ถ้าลุงมองก็พูดไปว่า มีไรเปล่าคะ จะเล่นเครื่องนี้เหรอคะเห็นมองหลายที ให้รู้สึกว่ากูรู้นะว่ามึงมองหลายรอบ ถ้ามันยังแก้ปัญหาไม่ได้อีก เดินไปบอกเทรนเนอร์ว่าเรารู้สึกถูกจ้องมองจากคนนี้ ฝากให้เขาดูหน่อยว่าเราคิดไปเองไหม’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1