หนุ่มโทรปรึกษา แฟนนัดเพื่อนผู้ชายไปเที่ยวต่างจังหวัด 3 วัน มารู้ทีหลังว่าเพื่อนผู้ชายคนนี้ เป็นรักแรก สมัยเรียนมัธยม เราทะเลาะกันจนถึงขั้นจะเลิกกันเลย และผมก็ไม่ค่อยสบายใจ แต่ตอนนี้อยากกลับไปรู้สึกดีๆกับแฟนเหมือนเดิม... ทำไงดี?

NEW RELEASE

หนุ่มโทรปรึกษา แฟนนัดเพื่อนผู้ชายไปเที่ยวต่างจังหวัด 3 วัน มารู้ทีหลังว่าเพื่อนผู้ชายคนนี้ เป็นรักแรก สมัยเรียนมัธยม เราทะเลาะกันจนถึงขั้นจะเลิกกันเลย และผมก็ไม่ค่อยสบายใจ แต่ตอนนี้อยากกลับไปรู้สึกดีๆกับแฟนเหมือนเดิม... ทำไงดี?

27 มี.ค. 2023

          “คุณภู (นามสมมุติ)” สายที่สองในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (15 มีนาคม 2566) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาความรู้สึกไม่สบายใจที่แฟนไปเที่ยวกับ Puppy Love

          โดย “คุณภู (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า 'ตอนนี้คบกับแฟนมาได้ 3 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้แฟนผมเขาเคยบอกว่าจะมีเพื่อนผู้ชายกลับมาจากต่างประเทศ มาเที่ยวที่ประเทศไทย แล้วจะไปต่างจังหวัดด้วยกัน 3 วัน เพื่อไปหาเพื่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และจะนอนค้างที่บ้านของเพื่อนผู้หญิงคนนี้แหละ ผมก็โอเค ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย เพราะแฟนบอกเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าเพื่อนผู้ชายคนนี้เคยเป็นรักครั้งแรกของแฟนมาก่อน แต่พอแฟนผมจองตั๋วเครื่องบินเสร็จเรียบร้อย ผมก็เอะใจ เลยเข้าไปดูข้อความในเฟซบุ๊กของแฟนว่าคุยอะไรกันบ้าง เพราะผมรู้รหัสปลดล็อกโทรศัพท์ของแฟนอยู่แล้ว

          ผมก็ย้อนแชทไปดู จนเจอว่าข้อความบางส่วนถูกลบไปเมื่อปีที่แล้ว ข้อความที่เหลืออยู่ แฟนผมก็คุยกับเพื่อนผู้ชายคนนี้ประมาณว่า คิดถึงแกนะ เพราะเขาอยู่ต่างประเทศ และผมก็เอะใจกับประโยคหนึ่งที่เพื่อนผู้ชายคนนี้ถามว่า แฟนแกจะไม่ว่าอะไรหรอ เพราะเราเคยเป็นรักในวัยเด็ก มันก็ทำให้ผมไม่สบายใจว่าแบบได้ด้วยหรอ เพราะเขาทั้งสองคนกำลังจะไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน

          ซึ่งแฟนผมก็ตอบกลับไปว่า มันนานมาก 10 กว่าปีตั้งแต่ตอนเด็กๆแล้ว ไม่ได้คิดอะไรแล้ว เขาไม่เคยเล่าความรักครั้งนี้ให้ผมฟังเลย แล้วหลังจากที่ผมเห็นแชท ผมก็ถามเขาว่า เคยเป็นอะไรกันหรอ แฟนก็บอกว่าคนนั้นเคยมาชอบสมัยวัยเด็ก ปกติผมไว้ใจแฟนมากๆ รวมถึงนิสัยของแฟนก็ไม่เคยมีเรื่องเจ้าชู้เลยสักครั้ง เวลาไปเที่ยวก็ไปด้วยกันตลอด ผมก็บอกเขาไปแล้วว่า ผมไม่สบายใจนะ ถึงขั้นทะเลาะกันรุนแรงจนจะเลิกกันเลย แต่สักพักเขาก็มาคุยดีใส่ ผมก็บอกว่า งั้นแล้วแต่คุณ ถ้าอยากไปคุณก็ไป เขาก็ไม่เชิงว่าชวนผมไปด้วย เพราะมารู้ทีหลังก็จองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว แต่ผมก็ไปกับเขาด้วยไม่ได้ เพราะผมติดงาน

          ปกติเราสองคนจะ Face Time หากันตลอด และระหว่างทริปที่ไปแฟนผมจะถ่ายรูปส่งให้ดูว่าอยู่ที่ไหน พักที่ไหน มีโทร และ Face Time หากันบ้างเวลาเขาอยู่คนเดียว จนผ่านมาถึงวันนี้ แฟนผมกำลังเดินทางกลับ ผมก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้จะพูดกับเขายังไงดี กลัวกลับมาเจอกันแล้วความรู้สึกมันจะไม่เหมือนเดิม แต่เขาก็ยังคุยกับเราเหมือนเดิม ก็เลยจะมาขอคำปรึกษาให้ตัวผมเองมองไปในทางที่ดีขึ้น หรือ กลับไปรู้สึกดีๆกับแฟนแบบเดิมได้'

          งานนี้ดีเจทั้ง 3 คนก็ได้ให้คำปรึกษาว่า 'จากที่ฟังมาทั้งหมดเรามองว่ามันคือการกลับไปเจอเพื่อนเก่าแค่นั้นเลย แต่เรามีสิทธิ์ที่จะไม่สบายใจได้นะ เพราะเขาอาจจะแสดงความมั่นใจให้เราน้อยไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้มากพอที่จะทำให้เราฟันธง 100 % ว่าเขานอกใจ แต่ถ้านำความรู้สึกที่ไม่ดีตรงนี้ไปขยายต่อ มันอาจจะทำลายความสัมพันธ์ให้แย่ลง

          เราต้องรู้จักแฟนเรามากกว่าคนอื่น แต่ให้ภูรู้ไว้ว่า...ถ้าใครสักคนนอกใจ ภูแทบไม่ต้องทำอะไรเลย ภูจะได้รู้โดยที่ไม่ต้องไปสืบค้นเลย เพราะถ้านอกใจมันจะมีอะไรที่เปลี่ยนไปแน่นอน แต่ถ้าปกติเหมือนเดิมแปลว่าไม่มี คนอยู่ด้วยกันมันจะรู้ ควรปรับจูนเข้าหากันทั้งคู่ ทั้งนี้ทั้งนั้นมาจากการคุยกัน อาจจะเริ่มจากการขอโทษ และปรับความเข้าใจที่ว่า ถ้ามีอะไรให้บอกก่อน ดีกว่าการที่ให้รู้เองทีหลัง

          บางทีเรื่องนี้มันไม่มีอะไรเลยตั้งแต่แรก ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลยเลือกที่จะไม่พูด เพราะถ้าพูดมันจะมีเรื่องอะไรขึ้นมาทันที ซึ่งมันก็อยู่ที่ว่าใครสักคนหนึ่งเป็นคนรับฟังมากขนาดไหน เราต้องรู้จักกันและกันให้มากกว่านี้จริงๆ ซึ่งถ้า ณ วันนี้ เขายังเป็นแฟนที่น่ารักกับเรา ยังคงทำให้เรามั่นใจอยู่ ต้องมองข้ามเรื่องนี้ไปเลย...'

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related NEW RELEASE

หนูใกล้เรียนจบวิศวะแล้ว... แต่ตอนนี้รู้สึก ‘กลัวโลกการทำงาน’ จะทำงานได้ไหม? จะต้องเจอกับอะไรบ้าง? พร้อมเผยความในใจ ตอนฝึกงานเคยโดนหัวหน้าแซว เรื่องขนาดหน้าอก ‘ของเอ็งใหญ่กว่าของเมียพี่อีก’ เจอแบบนี้ยิ่งกลัวไปเลย!!

28 มี.ค. 2023

หนูใกล้เรียนจบวิศวะแล้ว... แต่ตอนนี้รู้สึก ‘กลัวโลกการทำงาน’ จะทำงานได้ไหม? จะต้องเจอกับอะไรบ้าง? พร้อมเผยความในใจ ตอนฝึกงานเคยโดนหัวหน้าแซว เรื่องขนาดหน้าอก ‘ของเอ็งใหญ่กว่าของเมียพี่อีก’ เจอแบบนี้ยิ่งกลัวไปเลย!!

“คุณเอ (นามสมมุติ)” อายุ 25 ปี สายที่สามในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (22/03/2023) ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหากังวลและกลัวโลกการทำงาน โดย “คุณเอ (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูซิ่วมาเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ เพราะหนูรู้สึกชอบและอยากทำ ตอนนี้หนูฝึกงานอยู่องค์กรใหญ่องค์กรหนึ่งเกี่ยวกับวิศวกรรม อีก 2 อาทิตย์จะจบแล้ว แต่หนูมีความกังวลและกลัวโลกการทำงานมากๆ เพราะหนูเรียนมาทั้งชีวิต ยังไม่เคยทำงานมาก่อน ซึ่งถ้าเราทำงานแล้วเราต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเอง หาเงินเอง พอใกล้จะจบก็เลยกลัวว่าจะทำงานยังไง จะทำงานได้มั้ย? หนูเคยตั้งเป้าหมายไว้ว่าพอจบแล้วจะไปทำงาน หางานทำที่เราทำได้ แล้วเรารู้สึกโอเค คุณสมบัติของเราได้ ทำงานไปใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ แต่พอหนูไปลองฝึกงานมันเหมือนหนูไปเรียนเลย เพราะงานที่ทำค่อนข้างจะเป็นเนื้องานมากๆเลย และด้วยความที่เพศก็เป็นเรื่องสำคัญ หนูเป็นผู้หญิงด้วย แล้วงานทางด้านสายนี้ นอกจากจะเน้นผู้ชายแล้ว ผู้หญิงก็มีแต่อาจจะมีน้อย ในเนื้องานไม่ยากหรอก แต่มันทำให้หนูรู้สึกว่าถ้าไปทำแล้วจะต้องเจออะไรบ้าง แผนกที่หนูฝึกงานเขาจะให้ฝึกแบบวนไปเรื่อยๆ แต่ยังเกี่ยวกับช่างอยู่ ทุกๆเดือนก็จะเจอหัวหน้าไม่ซ้ำกัน ซึ่งหนูใช้ชีวิตตอนฝึกงาน 3 เดือนแรกหนูรู้สึกแฮปปี้มาก ได้ออกไปดูไซต์งานทุกวัน แต่พอเมื่อเดือนที่แล้วหนูไปเจอหัวหน้าคนนึง หนูโดนพี่หัวหน้าคนนี้แซวเรื่องขนาดหน้าอก เพราะหน้าอกของหนูค่อนข้างที่จะพลัสไซส์ไปหน่อย แล้วมันเหมือนไปสะดุดตาเขา เขาชอบพูดว่าของเอ็งใหญ่กว่าของเมียพี่อีก เขาแซวหนูตั้งแต่วันแรกที่หนูฝึกกับเขา จนวันสิ้นเดือนที่หนูฝึกกับเขาเลย เลยทำให้หนูรู้สึกไม่ดีเลย และเรื่องนี้ก็เป็นส่วนนึง แต่เรื่องกลัวการทำงานก็เป็นอีกส่วนนึงด้วย มีวิธีไหนที่ทำให้หนูไม่กลัวการทำงานบ้างหรอคะ? ซึ่งพี่ๆ 3 ดีเจก็ได้ให้คำแนะนำ “คุณเอ” ว่า ‘มันเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลง เหมือนเราย้ายโรงเรียนใหม่ ย้ายสังคมใหม่ เป็นธรรมดาที่เรามองไม่เห็นภาพสังคมใหม่ เราจะกังวลไปก่อน แนะนำว่าให้อยู่กับปัจจุบัน เรียนมันไปแต่ละวันว่าสิ่งที่เราทำอยู่ เราชอบมั้ย แฮปปี้มั้ย? ถ้าเอาเรื่องเงินเป็นหลักในยุคนี้ไม่แนะนำให้ทำงานงานเดียว แต่ถ้าจะเอาเรื่องประสบการณ์ไม่ต้องคิดมากอะไรเลย แค่เรียนถูก เรียนผิดมันไปเรื่อยๆ ตามหาสิ่งที่เราชอบ วันนี้เรายังไม่มีประสบการณ์ เราก็แค่เด็กฝึกงาน แต่ถ้าวันนึงได้ไปทำงานบริษัทจริงๆ จะได้เรียนรู้อะไรมากกว่านั้น ทุกอย่างจะเก็บประสบการณ์ไปเรื่อย เท่าที่ฟังมา เอมีสกิลที่จะไปได้ในสายงานนี้ เพราะถ้าไม่รอดมันก็น่าจะไม่รอดตั้งแต่ฝึกงานแล้ว ถ้าเราได้ไปฝึกงานแล้วทำงานอย่างกับงานจริงเลย ถึงแม้จะไม่ได้ทำที่นั่น เราก็สามารถเอา Portfolio ไปยื่นที่อื่นได้ เด็กจบใหม่ที่ฝึกงานจริงมาแล้ว มีประสบการณ์จริงมาแล้ว เงินเดือนไม่แพง ทำงานได้ ใครเขาจะไม่เอา... ส่วนเรื่องหัวหน้าที่ sexual harassment มันเป็นเรื่องที่พูดยากเลย เพราะเราเป็นเด็กฝึกงาน เราทำอะไรไม่ได้หรอก ต่อให้เราไปบอก HR เขาก็ต้องเข้าข้างหัวหน้าคนนั้นอยู่ดี ถ้าเป็นพวกพี่ ยิ่งไปเจอคนแบบนี้ เราจะคิดเลยว่าสักวันนึงเราจะเก่ง จะเป็นหัวหน้าวิศวกรหญิงที่วันนึงจะมาคุยกับเขาในฐานะที่เราเป็นหัวหน้าเขา และเขาจะมาพูดแบบนั้นกับเราไม่ได้อีกเลย เราต้องหาแรงผลักดันที่ทำให้ไปถึงจุดที่เราหวังไว้ว่ามันจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้... ไม่ใช่แค่คนในสายงานนี้ที่จะเป็นแบบนั้นทั้งหมด คนแบบนี้มีอยู่ทั่วไปแหละ ไม่จำเป็นต้องไปทำงานวิศวะ บางทีหน้าปากซอยก็มี ข้างบ้านเราก็เป็น คนแบบนี้มันอยู่รอบตัวเรา อย่าเอาคนแบบนี้มาทำให้สายงานด้านนี้มันดูลบไป ให้หาวิธีที่จะรับมือกับคนแบบนี้ดีกว่า เพราะแต่ละคนก็มีวิธีตอบสนองเวลาเจอเหตุการณ์แบบนี้แตกต่างกันเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ยังไงดีนะ? ลูกสาวของป้า ที่อยู่ข้างบ้านเรา มีนิสัย ‘ขี้ขโมย’ ของเล็กใหญ่ขโมยหมด ทั้งเครื่องปรุง ถ้วย ชาม เสื้อผ้า กางเกงในแม่ กระเป๋า แหวนทอง ก่อนหน้านี้เคยหลอกให้พ่อแม่เราเข้าไปนอนในห้อง แล้วโบ้ยความผิดให้ว่าเป็นคนขโมยเงิน 2 หมื่นไป...

10 เม.ย. 2023

ยังไงดีนะ? ลูกสาวของป้า ที่อยู่ข้างบ้านเรา มีนิสัย ‘ขี้ขโมย’ ของเล็กใหญ่ขโมยหมด ทั้งเครื่องปรุง ถ้วย ชาม เสื้อผ้า กางเกงในแม่ กระเป๋า แหวนทอง ก่อนหน้านี้เคยหลอกให้พ่อแม่เราเข้าไปนอนในห้อง แล้วโบ้ยความผิดให้ว่าเป็นคนขโมยเงิน 2 หมื่นไป...

“คุณบี (นามสมมุติ)” สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (5 เม.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหากับคนข้างบ้านโดย “คุณบี (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘ครอบครัวหนูเป็นครอบครัวใหญ่ ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน แต่อยู่ในระแวกเดียวกัน ในซอยนั้นมีบ้าน 4 หลัง คือ บ้านหนู บ้านย่า บ้านป้า และบ้านลูกสาวของป้าอีกคน ซึ่งเขาอายุ 29 ปี แต่เขาเป็นคนชอบขโมยของ ที่บ้านหนูก็ไม่มีกล้องวงจรปิด ตอนแรกที่เขาขโมย คือ เริ่มจากสิ่งเล็กๆก่อน พวกเครื่องปรุงในครัว , ถ้วย , ช้อน แล้วก็ขยับมาเป็น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า แล้วก็เริ่มเป็นของใหญ่ๆ คือ ทอง เขาขโมยไปเลย ไม่ได้ขอ เอาไปโดยที่ไม่มีใครรู้ แล้วทุกคนก็มารู้ทีหลังว่าเป็นเขา แหวนทองที่เขาเอาไปคือแหวนทองของน้อง เป็นแหวนที่ไม่มีลาย ตอนนั้นน้องจะเข้าไปอาบน้ำ แล้วก็ถอดวางไว้ กลับมาน้องก็ไม่รู้ว่าแหวนโดนเปลี่ยนไปแล้ว ก็คือเขาซื้อแหวนปลอมมาเปลี่ยนให้น้อง แล้วแหวนจริงเขาเอาไปขาย น้องใส่แหวนปลอมมาจนแหวนมันลอก มันก็เลยโป๊ะ วันนั้นป้าอีกคนของหนูกลับมาจากต่างประเทศ ป้ามานอนอยู่ในห้องนอนย่า สักพักเขามาคุยกับแม่ของหนูว่า น้าเข้าไปในห้องย่าสิ เปิดแอร์เย็นๆเลย เขาเล้าหลือให้แม่หนูเข้าไปตลอดเลย แม่ของหนูก็เลยรำคาญ ทั้งพ่อ ทั้งแม่ก็เลยเข้าไปนอนเล่นในห้องย่า สรุปป้าหนูรู้ว่าเงินหาย 2 หมื่น ป้าก็เลยนึกว่าพ่อกับแม่ของหนูเป็นคนเอาเงินไป แต่จริงๆคือเขาเข้าไปขโมยเงินออกมาแล้วแต่ไม่มีใครเห็น แม่ของเขาก็เพิ่งโดนมาสดๆร้อนๆเลย แม่เขาให้เงินไปจ่ายค่าไฟเดือนละ 3 พันบาท แต่เขาไม่จ่ายมา 3 เดือนแล้ว เขาเอาเงินแม่ของเขาไปแล้ว 9 พันบาท จนการไฟฟ้าจะมาตัดมิเตอร์ แม่เขาก็รู้ว่าลูกของเขาเป็นหัวขโมย เพราะเขาก็เคยขโมยกางเกงในของแม่ตัวเองไปใส่ด้วย มันเกิดเรื่องแบบนี้มาเรื่อยๆ เป็นตั้งแต่แรกๆ ย่าเอาเขามาเลี้ยง เพราะพ่อกับแม่เขาแยกทางกัน ตอนนั้นแม่ของเขาก็อยู่ต่างประเทศ เขาก็แอบเอาบัตร ATM ของย่าไปกดตังออกมาหมดเลย จำนวนเงินหลายหมื่นเลย ย่าจับได้ก็เลยส่งเขาไปอยู่กับพ่อเขา สักพักพ่อเขาก็ส่งกลับมาเพราะเขาไปขโมยของทางฝั่งนั้นอีก หนูอยากรู้ว่าหนูจะแก้ปัญหาตรงนี้ยังไงดี?เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หย่าตอนนี้เร็วไปไหม? เพิ่งเป็นเจ้าสาวเมื่อเดือนที่แล้ว แต่มาจับได้ว่าแฟนแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงอีกคน เขาบอกจะไม่ทำอีกแล้ว แต่ล่าสุดเพิ่งเห็นเขายังคุยแชทกันอยู่ ความไว้ใจที่มีตอนนี้ไม่เหลือแล้ว ควรทำยังไงดี...? จะให้โอกาส สามีอีกดีไหม? หรือ เดินหน้าหย่าไปเลย

14 ก.ค. 2023

หย่าตอนนี้เร็วไปไหม? เพิ่งเป็นเจ้าสาวเมื่อเดือนที่แล้ว แต่มาจับได้ว่าแฟนแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงอีกคน เขาบอกจะไม่ทำอีกแล้ว แต่ล่าสุดเพิ่งเห็นเขายังคุยแชทกันอยู่ ความไว้ใจที่มีตอนนี้ไม่เหลือแล้ว ควรทำยังไงดี...? จะให้โอกาส สามีอีกดีไหม? หรือ เดินหน้าหย่าไปเลย

“คุณแพรว (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [12 ก.ค. 66] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจอั๋น ภูวนาท เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์กับสามี โดย “คุณแพรว (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูแต่งงานได้ประมาณ 1 เดือนก็จับได้ว่าสามีไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นแล้ว ก่อนหน้านี้หนูไม่แน่ใจว่าเขาเคยทำมั้ย เขาอาจจะเคยทำ แต่หนูจับไม่ได้เองหรือเปล่า หรือเขาไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้เลย แฟนอายุเท่ากันเลย ก่อนแต่งงานคบกันมาเกือบจะ 5 ปีแล้ว หนูเพิ่งแต่งงานกัน ค่อยๆย้ายของไปอยู่ที่บ้านแฟน ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเราทั้งสองคนไม่เคยอยู่ด้วยกัน เมื่อประมาณวันเสาร์ 2 อาทิตย์ที่แล้วได้ไปเจอรหัส Internet WiFi โรงแรมที่ห้องเขา หนูก็เลยถามเขาว่าโรงแรมนี้ที่ไหน เขาก็บอกว่าเหมือนไปประชุมที่นึงมา เขาให้มาแหละ หนูก็สงสัย เพราะจริงๆคือเขาไปประชุมที่จังหวัดนึง แต่โรงแรมนี้อยู่อีกจังหวัดนึง หนูก็เลยขอดูโทรศัพท์ เท่านั้นแหละ! พิรุธมาเต็ม เขาไม่ให้ ล็อคแขนหนู แล้วบอกว่ายังไงก็ไม่ให้ แล้วเหมือนเขาเอาโทรศัพท์ไปลบแชทผู้หญิงคนนั้นทิ้ง หนูก็ไปค้นมาจนเจอ เห็นเขาบล็อกผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ แต่หนูไม่เห็นแชทที่เขาคุยกัน หนูก็เลยถามเขาว่าคนนี้คือใคร เขาก็บอกว่าเคยคุยกันนานแล้ว ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมันก็คือก่อนแต่งงาน หนูก็รู้สึกเสียใจ และเขาบอกว่าผู้หญิงคนนี้เพิ่งทักกลับมา หนูก็ไม่เชื่อ หนูก็ค้นต่อ ซึ่งในแชทไลน์เขามีติดประกาศเบอร์บัญชีของผู้หญิงคนนั้นอยู่ หนูก็เอาไปเสิร์จทุกธนาคารเลย จนไปเจอชื่อจริงผู้หญิงคนนั้น หนูก็เอาไปเสิร์จเฟซบุ๊กและไอจี แล้วก็ทักไปถามผู้หญิงคนนั้น เขาก็บอกว่าเพิ่งเจอกันวันอังคารที่ผ่านมา เหมือนไปเจอกันที่ร้านเหล้า แล้วสามีหนูไปเลี้ยงเหล้าเขา ดื่มเสร็จสามีหนูก็ไปส่งที่หอพัก แต่เหมือนผู้หญิงลืมกุญแจหอพักก็เลยไปเปิดโรงแรมนอนด้วยกัน แล้วก็มีอะไรกัน หนูก็ถามผู้หญิงว่า เธอจะพัฒนาความสัมพันธ์มั้ยหรือคุยกันมานานหรือยัง? เขาก็บอกว่า เอ้ย เพิ่งเจอ ไม่ได้จะพัฒนาความสัมพันธ์ สุดท้ายสามีก็มาสารภาพว่าไปเจอกันที่ร้านเหล้า แล้วไปมีอะไรกัน และเขาก็บอกว่าคุยกับผู้หญิงคนนี้สนุกดี สำหรับหนู เขามาทำแบบนี้หลังจากแต่งงานได้เดือนเดียว มันเร็วมากเลย เพราะก่อนแต่งงานเราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน หนูอยู่หอ เขามาหาเสร็จ เขาก็กลับบ้านเขาไป หนูก็อยากให้อภัยนะ แต่อีกใจก็ไม่อยากให้อภัย แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สิ่งที่หนูเจออีกครั้ง คือ หนูไปเจอแชทที่เขาคุยกันอีก เห็นแค่ประมาณว่า กินข้าวหรือยัง ที่นี่ฝนตกนะ ที่นั่นฝนตกมั้ย? ต้องบอกก่อนว่า...สามีเขาเริ่มเปลี่ยนไปตอนก่อนที่เราจะจัดงานแต่งกัน แล้วประเด็นคือวันนั้นเขาก็มาหงุดหงิดใส่หนู หนูก็โทรไปเคลียร์กับสามี ซึ่งตอนนั้นเขาก็คุยกับผู้หญิงคนนั้นไปด้วย และคุยโทรศัพท์กับหนูไปด้วย หนูรู้ เพราะตอนที่ทะเลาะกันครั้งก่อน หนูขอรหัสเฟซบุ๊กกับไลน์เขา แต่หนูคิดว่าเขาคงจะคิดว่าหนูไม่ได้ค้นจริงๆ เพราะหนูไม่ค่อยได้เช็คโทรศัพท์เขาสักเท่าไร ซึ่งนานๆทีหนูมีเซ้นส์ถึงจะไปเปิดดู ก่อนแต่งงานมันจะมีแค่เขาทักไปหาผู้หญิงขายบริการ แต่แค่ทักเฉยๆ ไม่ได้มีแชทต่อเนื่องว่าเขาไปหา หนูก็รู้สึกไม่ดีแล้ว แต่พอรู้ว่าเขาเลือกแต่งงานกับหนู หนูก็ไม่ค้น ไม่อะไรแล้ว แต่พอหลังแต่งงานมา มันเป็นแบบนี้ หนูรู้สึกระแวงมาก คือทุกคืนที่นอนกับเขา หนูต้องสะดุ้งตื่นมา เพื่อไปค้นดูโทรศัพท์เขา ซึ่งเขาลบแชททุกอย่าง บล็อกทุกอย่าง แต่พออีกวันเขาก็ยังไปคุยกันได้ สำหรับการแต่งงาน หนูเป็นคนต่างจังหวัด ส่วนเขาเป็นคนกรุงเทพ แล้ววัฒนธรรมคนต่างจังหวัด พวกเขาก็คิดว่าคบกันมานานแล้ว เมื่อไรจะแต่ง แล้วก็ไปถามเขาบ่อยๆ แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยวางแผนร่วมกัน หนูก็เคยถามเขาไปว่า เธออยากแต่งงานกับเรามั้ย? แล้วจะแต่งกันประมาณไหน? แล้วเขาก็เพิ่งมาสารภาพเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วว่าจริงๆเขาไม่พร้อมจะแต่งงานนะ เขาก็พรั่งพรูหมดเลยว่าหนูไปดุเขา หนูไปกดดันเขา ซึ่งหนูก็บอกว่าถ้ามันขนาดนี้ เธอบอกเลิกเราไปก่อนที่จะแต่งงานกันก่อนก็ได้นะ หรือบอกว่าเราไม่พร้อมก็ได้ แต่เขาไม่พูด เขาแบบก็แต่งๆไป แต่เรามีการเก็บเงินมาแต่งงานด้วยกัน ถึงเขาจะเก็บเยอะกว่า แต่เราก็มีการวางแผนร่วมกัน... หนูก็เคยบอกเขาไปว่า ครั้งแรกเราก็อยากให้โอกาส เพราะสิ่งที่เขาบอกเราก็ดูผิดเหมือนกันนะ เราผิดที่ทำให้เขาเครียด ต้องไปกินเหล้าที่ร้านเหล้าบ่อยๆก่อนแต่งงาน เขาบอกเขาแอบไป โดยที่เราไม่รู้ หนูก็อยากปรับตัวนะ ซึ่งหนูพยายามปรับตัวแล้ว เหมือนมันมีอะไรบางอย่างที่เขาบอกเราไม่หมด เหมือนมันยังตึงๆ ร่วมกับการที่หนูยังระแวงเขา หลังจากที่หนูจับได้ ตอนนี้เขาก็ดูเหมือนรู้สึกผิด เขาก็บอกว่าเขาไม่คุยแล้ว แต่พอเรามาจับได้ครั้งที่ 2 เขาก็พูดเหมือนเดิมว่าเขาไม่ทำแล้ว รอบนี้ไม่มีจริงๆ หนูไม่อยากให้มีครั้งที่ 3 ให้หนูรู้สึกไม่ดีอีกแล้ว แต่พอหนูถามว่าเขาจะหย่ามั้ย? จริงๆเรื่องหย่า หนูไปเห็นในประวัติการค้นหาใน Google ของเขา เขาก็ค้นหาคำว่า หย่า ไม่รักแล้ว แล้วพอวันจันทร์ที่ผ่านมาหนูก็เห็นเขาแชทคุยกับแฟนเก่า เขาถามแฟนเก่าว่าถ้าคิดเรื่องหย่านี่ถือว่าเป็นเรื่องเล็กมั้ย แต่แฟนเก่าเขาก็ไม่ได้อะไร เหมือนให้คำปรึกษามากกว่า ซึ่งหนูก็ถามเขาว่าแล้วจะไปปรึกษาแฟนเก่าทำไม เขาบอกว่าคิดว่าจะได้คำปรึกษาที่ดีจากแฟนเก่า แต่พอหนูถามเขาว่าหย่ามั้ย เขาก็บอกว่าไม่หย่า ขอโทษทุกอย่าง จะไม่ทำอีกแล้ว ขอโอกาสให้เขานะ ตอนที่จับได้ครั้งแรก เขาก็ง้อเราด้วยกันพาหนูไปเที่ยว จองโรงแรมดีๆเลย ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยจองโรงแรมดีขนาดนี้ แต่หนูขอเขาว่าให้หนูดูแลเรื่องเงินได้มั้ย เขาก็ถามว่าแล้วทำไมเขาจะต้องให้ หรือแม้แต่การเปลี่ยนรูปโปรไลน์ที่ใส่รูปแต่งงานหนูคู่กับเขา เขาก็ยังไม่ยอมเลย เขาไม่ได้แสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจอะไรเลย เวลาเล่นโทรศัพท์เสร็จเขาก็จะเก็บใส่กระเป๋าเลย ไม่ได้ให้เราดูได้เต็มร้อย และเวลาอาบน้ำก็จะเอาโทรศัพท์ไปด้วย ช่วงนี้ชีวิตหนูก็ค่อนข้างเครียดเพราะมีปัญหาที่บ้าน แล้วเขากลับเอาความเครียดของหนูมาทำให้เขาเครียดไปด้วย หนูก็เลยคิดว่าเราเป็นสามี-ภรรยากันแล้ว เราแชร์ความทุกข์ ความสุขกันไม่ได้หรอ กลายเป็นทุกอย่างตอนนี้หนูทำอะไรก็ไม่ดี ผิดไปหมด แล้วยังต้องมาเจอที่เขาทำกับหนูอีก หรือเขาโทษหนูเพื่อบ่ายเบี่ยงประเด็นหรือเปล่า... หนูอยากปรึกษาพี่ๆว่า ถ้าเราหย่าเลยตอนนี้มันจะเร็วไปมั้ยสำหรับคนที่เพิ่งแต่งงานกัน หรือจริงๆเราควรจะให้โอกาสเขามั้ย? “ดีเจอั๋น” ให้คำแนะนำว่า ‘คุณแพรวต้องถามตัวเองก่อนว่า คุณแพรวอยู่ในภาวะที่ต้องพึ่งพิงเขามากแค่ไหน เราจะขาดเขาได้ไหม ในวันนี้เราแข็งแรงพอไหมที่จะไม่มีเขา ปัญหาที่คุณแพรวเล่ามาเป็นสิ่งที่คุณแพรวไม่ได้คุยกับเขาตั้งแต่ก่อนตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งเรื่องการเงินและทัศนคติต่างๆ เรื่องที่คุณแพรวขอเป็นคนดูแลเรื่องเงิน เขาไม่ควรบอกคุณแพรวว่า “ทำไมผมต้องให้” มันเป็นคำพูดที่ไม่ดีและมันแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใส่ใจคุณแพรวเลย มันไม่มีคำว่าช้าหรือเร็ว ตอนนี้คุณแพรวควรคุยกับเขาดีๆว่ายังอยากมีกันและกันในชีวิตหรือเปล่า ถ้าเขายังอยากมีกัน ก็บอกเขาว่าช่วยทำให้คุณแพรวรู้สึกสำคัญ มีค่าและไม่สามารถเสียไปจากชีวิตได้ แต่ก่อนจะถามเขาคุณแพรวต้องรู้ก่อนว่าตัวเองมีค่า และถามตัวเองว่ายังอยากมีผู้ชายแบบนี้อยู่ในชีวิตหรือเปล่า’ ส่วน “ดีเจเติ้ล” แนะนำว่า ‘ที่สามีคุณแพรวนอกใจน่าจะไม่ใช่แค่ครั้งแรก ถ้าเขาทำผิดครั้งแรกการที่เขาขอโทษน่าจะเป็นเรื่องใหญ่กว่านี้ คนที่รู้ตัวว่าทำผิดอย่างน้อยเขาจะต้องมีการเว้นระยะที่จะไม่ทำผิดอีก แต่สามีของคุณแพรวยังทำผิดติดต่อกันลับหลังคุณแพรว ตอนนี้คุณแพรวกับเขามองค่าน้ำหนักความผิดไม่เท่ากัน เรื่องเล็กของเขาแต่มันคือเรื่องใหญ่ของคุณแพรว ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะมันเก็บสะสมมาเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้มีการทำความเข้าใจและแก้ปัญหา จนทำให้สามีคุณแพรวแสดงออกมาว่าเขาไม่มีความสุขกับความรักครั้งนี้ ซึ่งจริงๆแล้วนี่อาจจะเป็นช่วงปลายของการคบหากันตลอด 4-5 ปีก็ได้ ส่วนเรื่องการหย่า จะเร็วจะช้ามันขึ้นอยู่กับตัวของคุณแพรว หนึ่งเดือนของบางคนอาจจะนานสำรับการทนเจ็บ ถ้าคุณแพรวไม่มีความสุขก็กลับมารักตัวเองดีกว่า’ ดีเจ “ต้นหอม” เสริมว่า ‘การกระทำของสามีคุณแพรวคือผู้ชายเจ้าชู้ เขาไม่สำนึกเลยว่าเขาทำผิด เขาไม่เห็นความสำคัญของคุณแพรว และเขาไม่สามารถสร้างความมั่นใจในความสัมพันธ์นี้ได้เลย คุณแพรวต้องถามตัวเองแล้วว่าอยากอยู่กับผู้ชายแบบนี้ไหม ถ้าคุณแพรวรับไม่ได้แสดงว่านี่ไม่ใช่ที่ของคุณแพรว ไม่ต้องสนใจกับงานแต่งที่มันเกิดขึ้นไปแล้ว ถ้าแต่งงานมาอยู่ด้วยกันแล้วมีแต่เรื่อง Toxic ก็ทิ้งอดีตไป นับจากนี้ชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณแพรวจะต้องมีแต่ความสุข การที่เขาไม่หย่าไม่ได้แปลว่าเขารักเรา เพราะการกระทำเขามันไม่แสดงออกถึงความรักเลย ถ้าอยู่ไม่ไหวก็ออกมา แต่ถ้าอยู่ไหวก็อดทนแล้วเปลี่ยนตัวเองให้เขาเมตตาและมอบความรักให้เราบ้าง ถ้าเลือกที่จะอยู่ด้วยกันต่อก็ต้องบอกสามีให้ปรับไปด้วยกัน แต่สุดท้ายชีวิตใครชีวิตมัน คุณแพรวต้องถามตัวเอง เพราะคนที่เจ็บและสุขก็คือคุณแพรวคนเดียว’ สุดท้ายนี้พี่ๆดีเจเป็นกำลังใจและบอกให้คุณแพรวทบทวนตัวเองดีๆ ให้ตัดสินใจเรื่องนี้ได้เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

สาวรอแฟนมารับ กลับจากงานศพเพื่อนสนิท คืนนั้นมีเบอร์แฟนโทรมาหาตอนตี 3 แต่เป็นสายจากเพื่อนบ้าน บอกว่า ‘แฟนเราเสียชีวิตแล้ว’...

24 มี.ค. 2023

สาวรอแฟนมารับ กลับจากงานศพเพื่อนสนิท คืนนั้นมีเบอร์แฟนโทรมาหาตอนตี 3 แต่เป็นสายจากเพื่อนบ้าน บอกว่า ‘แฟนเราเสียชีวิตแล้ว’...

ช็อคเรื่องไหนก่อนดี? สาวรอแฟนมารับ กลับจากงานศพเพื่อนสนิท คืนนั้นมีเบอร์แฟนโทรมาหาตอนตี 3 แต่เป็นสายจากเพื่อนบ้านบอกว่า ‘แฟนเราเสียชีวิตแล้ว’ รู้เพราะมีเพื่อนแฟนมาปลุกให้ไปช่วยดู มารู้ทีหลังว่าเพื่อนคนนั้น เป็นผู้หญิง ทำงานที่เดียวกับแฟน...และแอบมานอนกับแฟนเรา ที่สำคัญเค้ามีสามี แต่งงานมาแล้ว 8 ปี ทำเอา 3 ดีเจอึ้งกันทั้งห้องจัด! เมื่อ “คุณอุ้ย (นามสมมุติ)” อายุ 36 ปี สายแรกในรายการพุธทอล์ค พุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (22/03/2023) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาแฟนเสียชีวิตแต่มีเรื่องที่มารู้ทีหลัง โดย “คุณอุ้ย (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘คบกับแฟนมา 3 ปี จะเข้าปีที่ 4 แล้ว ระหว่างที่คบกันก็สร้างครอบครัว ซื้อบ้านด้วยกันมา ซึ่งเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว เรามีปัญหาทะเลาะกันบ่อย หนูก็กลับไปอยู่บ้านตัวเอง แต่เราก็ยังไม่ได้เลิกกัน ยังคุยกันทุกวัน เขาก็มารับพาไปนู้นไปนี่ตลอด ไปกินข้าวด้วยทุกอาทิตย์ เจอกันเหมือนเดิม ใช้ชีวิตเหมือนแฟนกันปกติ แต่เราแค่ห่างกันเพื่อปรับ เมื่อวันที่ 18 กุมภาที่ผ่านมา เพื่อนสนิทของเราเสียชีวิต แฟนเราก็ยังขับรถพาไปเดินเรื่องที่เพื่อนเสียให้อยู่เลย ทีนี้เราจะต้องไปต่างจังหวัดเพื่อไปร่วมงานศพเพื่อนคนนี้ แฟนเราก็ไปด้วย แต่พอเสร็จพิธี เราจะกลับแล้วแต่พ่อของเพื่อนยังไม่อยากให้เรากลับ เขากลัวบ้านเหงาก็เลยขอให้เราอยู่ต่อ เราก็นัดกับแฟนว่าให้มารับเราวันเสาร์ หลังจากนั้นแฟนก็เลยขับรถกลับบ้าน แต่เราก็ยังคุยโทรศัพท์กันปกติ วันศุกร์เขาก็ยังส่งคลิปรายการพุธทอล์ค พุธโทรมาให้เราดูอยู่เลยว่าคลิปนี้ตลกนะ แต่พอวันเสาร์ เวลาประมาณตี 3.49 น. เบอร์ของแฟนก็โทรเข้ามา แต่คนที่โทรมาเป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของเรา เขาแจ้งว่าแฟนเราเสียแล้ว เราถามเขาว่ารู้ได้ไง เขาก็เลยบอกว่าเพื่อนของแฟนเราวิ่งไปปลุกเขา ไปกดออดที่บ้านเรียกเขาให้ไปดูแฟนเราหน่อย เหมือนแฟนเรานอนละเมอแล้วปลุกไม่ตื่น แต่ตอนที่เพื่อนบ้านเข้ามาในบ้านเรา ขึ้นไปบนห้องนอนก็เห็นว่าแฟนเราหยุดหายใจไปแล้ว จริงๆบ้านหลังนั้นแฟนเราอยู่คนเดียว แต่เราเข้าใจว่าเพื่อนของแฟนคงไปสังสรรค์แล้วนอนค้างที่บ้าน เพราะเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนเขามานอนค้าง พอเพื่อนบ้านโทรมา เราก็เลยขอคุยกับเพื่อนแฟน เพราะเราอยากรู้อาการว่าเป็นอะไร ยังไง กลับกลายว่าเพื่อนที่ไปอยู่กับเขาเป็นผู้หญิง แล้วก็อยู่กันสองคนในห้องนอนของเรา ตอนนั้นเราช็อค ไม่อยากถามอะไรมาก เราเป็นห่วงแฟน จนสักพักพยาบาลโทรมาหาเราบอกว่าตอนนี้เขาปั้มหัวใจไปได้ 20 นาทีแล้วนะ เหลืออีก 10 นาที ถ้ายังไม่กลับมาเขาจะทำการหยุดปั้มหัวใจ เขาก็รายงาน บอกเราตลอด เราก็รีบกลับมาที่บ้านเลย พอกลับมาถึง ศพก็ถูกเคลื่อนย้ายไปชันสูตรที่โรงพยาบาลแล้ว และทางญาติแฟนก็เอาศพกลับบ้านเกิด เราก็ข้องใจเลยโทรไปหาผู้หญิงคนนั้น แล้วก็ถามว่าเขาเป็นอะไรกัน คบกันหรือเปล่า ถ้าเป็นแฟนกันบอกพี่ได้นะ พี่จะขอไปงานศพแค่วันเผาวันเดียวเพื่อไปอโหสิกรรมให้เขา ผู้หญิงก็บอกว่าหนูไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่ได้เป็นอะไรกัน หนูเป็นเพื่อนกันค่ะ เราก็บอกว่าเป็นเพื่อนกันเอากันไม่ได้นะหนู เพราะเขาเล่าให้เราฟังว่า เขานัดเจอกัน ไปกินข้าวด้วยกันแล้วก็มีอะไรกัน เผลอหลับไป และก็เกิดเรื่อง เรามาเปิดดูกล้องวงจรปิดในบ้านย้อนหลัง เราเห็นตอนที่ผู้หญิงเข้ามาในบ้านเรา เขาก็กลัวคนอื่นจะรู้ คือนั่งเบาะหลังคนขับมา แล้วตอนเข้าบ้านก็เอารองเท้าเข้ามาซ่อนในบ้าน ปิดเงียบทุกอย่าง ไม่ให้ใครรู้ แล้วอีกคลิปก็เหมือนเขานอนดูหนังอยู่ด้วยกันบนโซฟา แฟนเรานอนดูหนังจริงๆ ไม่ได้กอด หรือหอมผู้หญิงคนนั้นเลย แต่ผู้หญิงพยายามกอด พยายามหอมแฟนเรา กลิ้งนอนทับตัวไปมา เราไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนแล้ว แต่เราเจ็บมาก ซึ่งผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนร่วมงานกับแฟนเรา เขาบอกว่าเขาก็หวังว่าแฟนเราจะเลือกเขา เขารู้มาตลอดว่าแฟนมีเรา แต่เราไม่เคยรู้เลยว่าแฟนมีเขา ตอนแรกที่เราทะเลาะกัน เราก็เคยบอกว่าถ้าจะมีใครใหม่ให้บอกกันนะ แต่แฟนเราเขาเป็นคนบอกเองว่าไม่เอา ไม่เลิก เราห่างเพื่อปรับกัน เรายังคบกันอยู่นะ เราก็เลยคิดว่ามันเป็นแบบนั้นมาตลอด และหลังจากวันที่แฟนเราเสียชีวิต โทรศัพท์ของแฟนก็อยู่ที่เรา แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ทักแชทไลน์มาหาแฟนเราว่าคิดถึงจังเลย เราก็ตอบกลับไปบอกว่าโทรศัพท์อยู่กับพี่นะ เขาบอกว่าเขาขอคลิปตอนที่ช่วยชีวิตแฟนเราหน่อยได้มั้ย เขาคิดถึง คือเพื่อนบ้านเขาถ่ายคลิปเป็นหลักฐานไว้ว่าเขามาช่วยนะ เราก็เลยบอกว่าเอาเบอร์พี่ไปนะ แอดไลน์พี่มา เดี๋ยวส่งให้ทางเครื่องของพี่ เพราะเครื่องนี้มันส่งยาก แล้วเราก็ส่งให้ปกติ และเราก็บอกกับเขาไปว่าตอนนี้พี่ยังคุยกับหนูไม่ได้ทุกเรื่องนะ เพราะพี่ยังทำใจไม่ได้ พี่ยังสับสนอยู่ ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรากำลังตัดสินใจว่าเราจะไปงานศพเขาดีมั้ย ถ้าเราไป แล้วเราไปในฐานะอะไร เราควรไปหรือไม่ไปดี พอวันที่ 2 ผู้หญิงคนนั้นเขาไลน์มาบอกอีกว่าวันนี้กินข้าวกับอะไร จนเราไม่ไหวแล้วก็เลยพิมพ์กลับไปบอกว่าถ้ามาพิมพ์อะไรแบบนี้ เขารับรู้ไม่ได้หรอก หนูไปจุดธูปบอกเขาเองนะ ยิ่งเขาทำแบบนี้ เรายิ่งทำใจไม่ได้ เรายิ่งไม่อยากไปงานศพเขาเลย แต่ทางญาติแฟนก็ตามให้เราไปงานศพสักที อยากให้ลูกเขาหมดห่วง ให้เราไปร่วมงานไปอโหสิกรรม เราก็พิมพ์ไปบอกผู้หญิงว่า อย่าทำแบบนี้นะ พี่ไม่ไหวจริงๆ มันเป็นการตอกย้ำว่าเขาหักหลัง ทำร้ายเราจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ และเราก็ไปร่วมงานศพของเขา แต่ไปวันสุดท้าย ก็มีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ คนที่เขาไม่รู้เรื่องเขาก็มองว่าแบบเป็นแฟนภาษาอะไร ทำไมเพิ่งมาร่วมงาน เราก็ตอบทุกคนว่าเขาเสียด้วยโรคประจำตัว เราก็ไม่รู้จะตอบแบบไหนที่จะไม่สะเทือนใจญาติพี่น้องของเขา ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็ไปร่วมงานศพด้วย แต่การกระทำในงานศพเขาล้ำเส้นเรามาก ล้ำเส้นจนกระทั่งวันเผา ทางญาติของเขามาตามให้เราไปทำพิธีตัดกรรมตามประเพณีของบ้านเขา ซึ่งเราจะต้องขึ้นไปบนเมรุคนเดียว ระหว่างที่เราขึ้นไป เราได้ยินเสียงลุงสัปเหร่อที่อยู่ข้างบน เขาพูดว่า อ้าว เมียเขาคนนี้หรอ? ตอนเปิดโลงเขาก็ยืนร้องไห้ เอาหน้าถูโลง อยู่ตั้งแต่คนแรกจนลงคนสุดท้าย แต่หนูขึ้นไปแปปเดียวเพราะหนูทำใจไม่ได้ ญาติเขารู้วันที่แฟนเสียว่ามันมีเรื่องแบบนี้ แล้วก็รู้ว่าเป็นผู้หญิงคนนี้ แต่ก็เข้าใจว่าเขาไปร่วมงานก็ไม่ได้อะไร แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เราก็เลยทำในสิ่งที่ไม่ดีอย่างนึง คือ ผู้หญิงคนนั้นเขามีสามีแล้ว เขาเคยผูกข้อไม้ข้อมือด้วยกัน ตอนแรกเราจะไม่ยุ่งเลย อยากให้มันจบๆไป แต่สิ่งที่เขาทำเหมือนไม่ให้เกียรติเราเลย เราเลยทักไปหาแฟนเขา ไปเล่าให้แฟนเขาฟังเรื่องที่เกืดขึ้น แฟนเขาก็บอกว่าเขาสองคนยังไม่ได้เลิกกันนะ เขายังคบกันดีอยู่ ซึ่งเขาคบกันมา 8 ปีแล้ว วันนั้นที่ผู้หญิงแอบมาหาแฟนเรา คือแฟนของผู้หญิงเขาไปทำงาน เข้ากะดึก คือเขาไม่รู้เรื่องเลย และเราก็บอกว่าถือว่าฝั่งพี่หมดกรรมแล้ว พี่จะไม่ขอยุ่งอะไรแล้ว แต่พอเสร็จจากงานศพ ผู้หญิงคนนั้นโทรมาหาเรา เขาน่าจะรู้เรื่องว่าเราโทรไปบอกแฟนเขา เขาบอกว่าสิ่งที่เขากลัว คือกลัวโดนเราประจาน เขาอาย เราก็เลยบอกว่าอย่ามายุ่งกับเราเลย เราอโหสิกรรมให้ แต่ถ้ายิ่งมายุ่งวุ่นวายกับเรา เรายิ่งทำใจไม่ได้ ตอนนี้มันไปต่อไม่ได้เลย มันคิดวนอยู่ในหัวว่ามันเกิดอะไรขึ้น แฟนเราเขาหักหลังเราอย่างนั้นจริงๆใช่มั้ย ผู้หญิงคนนั้นก็ไปบอกแฟนเขาว่าแฟนเราเป็นคนไปจีบเขาก่อน เราก็เหมือนมูฟออนไม่ได้ บางทีอยากจะอโหสิกรรมให้เขา แต่บางทีมันก็ปรี๊ดขึ้นมาว่าตกนรกแน่ๆ แต่บางทีเราก็ยังคิดถึง โหยหาเขา แบบทั้งรักทั้งแค้น มันงงไปหมด เพราะสิ่งที่เรารับรู้คือได้แค่ฝั่งผู้หญิงคนนั้นว่ามันเป็นอย่างนั้น อย่างนี้... แฟนเราเพิ่งเสียไปเมื่อวันที่ 25 กุมภาที่ผ่านมา อยากได้แนวคิดดีๆที่มันไปต่อได้ ตอนนี้คือเราสะดุ้งตื่นตอนตี 3 ทุกวัน กินยาไปแล้วก็ยังสะดุ้งตื่น มันวนเวียนอยู่ในหัว บางทีทำงานไม่ได้ มันคิดวกไปวนมา ทั้งๆที่เขาก็ตายไปแล้ว 3 ดีเจให้คำปรึกษาว่า ‘ให้คิดว่าเขาตายไปแล้ว ไม่ว่าเค้าจะนอกใจ หรืออะไรก็ตาม ณ ตอนนี้ เค้าเสียชีวิตไปแล้ว ปกติที่จะเป็นความลังเลว่าควรจะเสียใจดีไหมที่เขาจากเราไป แต่ในคณะเดียวกันการจากไปครั้งนี้ เขาก็นอกใจไปมีอะไรกับคนอื่น ณ วันนี้ ไม่จำเป็นต้องรีบบังคับตัวเองว่าจะต้องอโหสิกรรม หรือให้อภัย เพราะเรื่องมันเพิ่งเกิด คงต้องใช้เวลามากกว่านี้ มองปัจจุบันว่าคนที่อยู่คือเรา ตัวเขาไม่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องแบกเรื่องนั้นไปตลอด เพราะยังไงเขาก็มาให้คำตอบเราไม่ได้แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือโฟกัสที่ตัวเอง อย่าให้เขามาส่งผลต่อความรู้สึกของเราตอนนี้เลย ท่องไว้เลยว่า มันไม่มีเขาแล้ว จากนี้ไปเราจะเป็นคนกำหนดเองว่าชีวิตเราต่อจากนี้จะเป็นยังไง... คนที่ให้คำตอบเราได้วันนี้คือตัวเขา ซึ่งไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะไปหาคำตอบ หาเหตุผล หรือ สิ่งที่มันเกิดขึ้นจากใครทั้งนั้น เพราะมันมีแต่จะทำให้เราเสียใจเปล่าๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันยุ่งเหยิง วุ่นวายไปหมด จึงเป็นเรื่องที่จะต้องรอเวลา ใช้เวลาเยียวยาที่นานกว่าคนปกติ รอให้เวลาผ่านไปก่อน ณ วันนี้เป็นเรื่องปกติมากที่เราจะยอมรับความจริงอะไรไม่ได้ เพราะเป็นกลไกความคิดที่คนเราต้องเจอ ทำความเข้าใจกับมันว่า ช่วงนี้คือช่วงที่หนักสำหรับเรา แต่สักพักมันต้องดีขึ้น จะช้าจะเร็วก็แล้วแต่คน แต่อยากให้เชื่อว่า ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว มันต้องดีขึ้น... ‘ความคิด’ ของเราเอง คือสิ่งที่กำหนดทุกอย่าง ถ้าเรามีสติและมองให้ลึกมากพอ เราจะรู้ว่าความคิดของเราเป็นสิ่งสำคัญมากๆที่จะกำหนดว่าเราจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร อย่าเพิ่งมองถึงอนาคตว่าจะทำอะไรยังไง มองปัจจุบันก่อน ตื่นมาทำอะไร อยากกินอะไรก็กิน ร้องไห้จนไม่ไหวก็ร้องไป อยากนอนก็นอนไป อย่างน้อยการร้องไห้มันก็เป็นการเผาความเศร้าออกไปได้ รอวันที่เรายอมรับความจริงได้ เราก็รู้ว่าเขาไม่ได้ซื่อสัตย์กับเรา ณ ตอนนี้ การที่เขาเอาผู้หญิงเข้าบ้านขนาดนั้น มันคือการนอกใจแล้ว โทษสูงสุดของการนอกใจคือการเลิก แต่ขั้นกว่าคือ ตายไปเลย!! วันนี้คิดซะว่าถ้าจะลงโทษเค้าเรื่องการนอกใจ คิดซะว่า ณ ตอนนี้เขาได้รับโทษไปแล้ว เป็นโทษที่สูงสุดด้วย ควรถามตัวเองดีกว่าว่า เราเสียใจมากกว่า หรือ โกรธมากกว่า ถ้าวันนี้ตามที่คุณอุ้ยบอกมาว่า เสียใจมากกว่า ให้ตัดเรื่องการนอกใจออกไปเลย หันกลับมาทำความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ยังไงสักวันหนึ่งคนเราก็ต้องจากกันไป ไม่ว่าจากเป็นหรือจากตายอยู่แล้ว วิธีที่อยากจะแนะนำคือ หยุดเอาคำถามเรื่องที่เกิดขึ้นมาใส่ในหัว แล้วบอกตัวเองว่าเราจะอยู่ให้ได้ ช่วงนี้ก็หลีกเลี่ยงการอยู่คนเดียว อยากพูด อยากทำอะไรทำ ปลดปล่อยตัวเอง แล้วให้เวลาเยียวยาเรา ตัดเรื่องผู้หญิงคนนั้นออกไปเลย ความแค้นมันทำให้เราเป็นทุกข์ เรื่องที่คุณอุ้ยเจออยู่มันไม่ง่ายเลย แต่บอกตัวเองว่าฉันจะผ่านไปให้ได้ และเรื่องที่เกิดความสูญเสีย เจอกับเหตุการณ์ช็อคๆแบบนี้ อยากจะแนะนำให้ไปปรึกษา พูดคุยกับจิตแพทย์ดู อย่าปล่อยให้ตัวเองดิ่งนานๆ มันอาจจะเป็นสัญญาณสู่ ‘โรคซึมเศร้า’ ได้ และถ้าการไปหาจิตแพทย์แล้วไม่เวิร์ค อย่าเพิ่งถอดใจไป ให้ลองเปลี่ยนจิตแพทย์คนอื่นดูก่อน ขอร่วมส่งกำลังใจให้คุณอุ้ย ผ่านเรื่องนี้ไปได้เร็วๆ...’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1