21 พ.ย. 2024
[REVIEW] ‘Wicked’ หนังมิวสิคัลที่เต็มเปี่ยมด้วยความอัศจรรย์และพลังความสุข
การหยิบเอาละครเวทีระดับตำนานจากบรอดเวย์ มาดัดแปลงขึ้นจอใหญ่ ไม่ได้การันตีความสำเร็จเสมอไป สตูดิโอยักษ์ใหญ่อย่าง ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ได้เผชิญกับผลลัพธ์ทั้ง 2 แบบมาแล้ว ทั้งกวาดเงินและกวาดรางวัลจาก Les Miserables รวมถึงกวาดคำด่าและขาดทุนยับไปกับ Cats ดังนั้นการหยิบเอา ‘Wicked’ มาขึ้นจอใหญ่ในคราวนี้ ใช่ว่าจะการันตีความสำเร็จเสมอไป แม้ว่าเวอร์ชั่นบรอดเวย์จะเปิดการแสดงมาอย่างยาวนานถึง 20 กว่าปีแล้ว จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในละครเวทีที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล ก็ใช่ว่าหนังจะกวาดเงินบน Box Office แต่ทางยูนิเวอร์แซลดูเหมือนจะมั่นใจเป็นพิเศษ หลังมอบโปรเจกต์นี้ให้ จอน เอ็ม.ชู ผู้กำกับจาก Crazy Rich Asians และ In The Heights มาคุมโปรเจกต์ ทางสตูดิโอตัดสินใจอนุมัติสร้างทีเดียว 2 ภาครวด (องก์แรกของละครอยู่ในพาร์ทแรก องก์ที่ 2 ก็จะอยู่ในพาร์ทที่2 เช่นกัน) ซึ่งข่าวดีล็อตแรกก่อนออกฉายนั้น คือรีวิวหนังออกมาในแง่บวกมาก ทั้งคะแนนนักวิจารณ์จาก Rotten Tomatoes และคะแนนผู้ชมจาก Audience Score อยู่ในระดับที่สูงมาก‘Wicked’ เล่าเรื่องราวในโลกแฟนตาซีใบเดียวกับหนังคลาสสิกอย่าง ‘The Wizard of Oz’ ในช่วงเหตุการณ์ก่อนที่โดโรธีจะเดินทางมาสู่โลกของอ๊อซ ในโลกใบนี้มีแม่มดร้ายที่ผู้คนรู้จักในนาม ‘Wicked Witch of the West’ ซึ่งมีรูปโฉมเป็นสีเขียวน่าอัปลักษณ์ สร้างความเกลียดกลัวให้กับประชาชนชาวอ๊อซไปทั่ว แต่อันที่จริงแล้ว น้อยคนจะรู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะเป็นแม่มดชั่วร้ายแต่อย่างดี เรื่องราวใน ‘Wicked’ จึงพาย้อนกลับไป สมัยที่เธอยังเป็น เอลฟาบา เด็กสาวที่เกิดมาสุดรันทด พ่อแม่รังเกียจเพราะเธอตัวสีเขียว จนกระทั่งได้เข้าเรียนในสถาบันเวทมนตร์ ก็ยังถูกรังเกียจจากเพื่อนๆ จนได้มาเจอกับ กลินดา สาวป็อปสุดไฮโซ ที่แม้ตอนแรกทั้งสองจะต่างกันสุดขั้ว แต่เหตุการณ์ก็ทำให้ทั้งคู่สนิทกัน และนำพาให้ เอลฟาบาได้ไปเจอกับพ่อมดอ๊อซ ในขณะเดียวกัน อาณาจักรแห่งนี้ก็กำลังเผชิญเรื่องราวสุดเลวร้าย เพราะเหล่าสัตว์พูดได้ที่อาศัยอยู่ร่วมกันมนุษย์ ต่างถูกจับตัวไป ทำให้เอลฟาบาต้องทำทุกทางเพื่อตามล่าหาความจริงและช่วยเหลือพวกเขาข่าวดีสำหรับแฟนๆของ ‘Wicked’ คือ ผลลัพธ์ของหนังออกมาอย่างน่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง และน่าจะเป็นหนังมิวสิคัลที่ลงตัวที่สุดเรื่องนึงเลยก็ว่าได้ หลักๆต้องขอบคุณการกำกับอารมณ์ที่ค่อนข้างแม่นยำของผู้กำกับ จอน เอ็ม.ชู ที่ทำให้ผู้ชมสามารถอินกับตัวละครและตกหลุมรักตัวละครได้ทั้งแต่แรก ทำให้ซีนที่ต้องบีบอารมณ์ก็ขยี้อารมณ์ได้สำเร็จ ฉากไหนที่ควรทรงพลังก็ทำให้ผู้ชมหึกเหิมตามได้ ในแง่ของฉากมิวสิคัลเองก็ ยิ่งใหญ่ตื่นตา คุ้มค่าแก่การรอคอย หากเวอร์ชั่นละครเวทีทำให้ผู้ชมเพลิดเพลินได้แค่ไหน ผู้กำกับก็ใช้ศาสตร์ของภาพยนตร์เติมความอลังการเข้าไปอย่างเหมาะสม จนทำให้การเล่าของหนังค่อนข้างไหลลื่นมาก แม้ว่าภาคแรกจะมีความยาวมากถึง 2 ชั่วโมง 40 นาที แต่กลับไม่รู้สึกว่ามันยาวหรือยืดเกินไปตอนไหนเลย จังหวะกำลังดีทีเดียวแน่นอนว่า สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของหนัง คงหนีไม่พ้นสองนักแสดงนำ เริ่มจาก ซินเทีย อารีโว่ ในบทของ เอลฟาบา ที่คงไม่รู้จะติอะไรนอกจากชม เพราะเธอคือตัวแม่ของสายมิวสิคัลอยู่แล้ว การันตีจากการชนะรางวัลทั้ง Tony Awards, Emmy Awards และ Grammy Awards มาแล้ว (ขาดเพียง Oscars เธอก็จะชนะ EGOT แล้ว) ซินเทีย กลายเป็น Wicked Witch ได้อย่างกลมกลืน ทำให้เราตกหลุมรักเธอได้ เอาใจช่วยเธอได้ บวกกับน้ำเสียงอันทรงพลังอย่างไร้ข้อกังขา เธอคือแสดงนำที่ยอดเยี่ยมตัวจริง แต่ที่ชวนเซอร์ไพรสคือ อารีอาน่า กรานเด ที่ทุกคนรู้จักเธอในฐานะป็อปสตาร์ อาจไม่เคยผ่านตางานแสดงเท่าไหร่นัก อารีอาน่า เหมือนเกิดมาเพื่อรับบท กลินดาเลย ในแง่ของการสวมคาแรคเตอร์ จริตของตัวละครคือใช่แบบ 100% จริงๆตัวละครนี้ ถ้าเล่นไม่ดีคนจะเกลียดเธอได้ไม่ยาก แต่อารีอาน่าสามารถเล่นคนดูตกหลุมรัก เอ็นจอย และเข้าอกเข้าใจตัวละครได้ ส่วนในแง่เสียง ก็สามารถเอาสไตล์การร้องแบบตัวเองมาผสมในหนังได้อย่างไม่ขัดเขินเลย เชื่อว่าเธอจะสามารถตกแฟนคลับเพิ่มได้อีกจาก Wicked อีกกลุ่มใหญ่ จากฐานแฟนเดิมที่มหาศาลอยู่แล้ว‘Wicked’ คือหนังที่เพอร์เฟคมากสำหรับช่วงเทศกาลฮอดิเดย์ปลายปีแบบนี้ ช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุข ผู้คนต่างเฉลิมฉลอง นี่คือหนังที่เหมาะจะพาคนรัก พาเพื่อน พาครอบครัวไปดูพร้อมกัน ทั้งวิชวลของหนังที่สดใสสดชื่นตลอดเวลา และแม้แต่ตัว Key Message ของหนังเองที่ พยายามสื่อสารตลอดว่า เราไม่ควรมองคนแต่ที่ภายนอก หนังสอดแทรกประเด็นการเหยียดผิวอย่างกำลังพอเหมาะ จากภาพรวมของหนัง สามารถการันตีได้เลยว่า ช่วงวันหยุดใกล้จะปลายปีแบบนี้ ตัวหนังเองมีโอกาสอย่างมากที่จะกวาดรายได้อย่างงดงาม ใครที่อยากดูหนังแล้วมีความสุขมากๆ ลองพิสูจน์กับ ‘Wicked’ นอกจากระบบปกติแล้ว ดูบนจอยักษ์ระดับ IMAX ก็ยิ่งเพิ่มความตื่นตาของอาณาจักรอ๊อซ และฉากมิวสิคัลได้อย่างดีเยี่ยมเลยชมตัวอย่างเสียงไทยของ Wicked เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ภาพ : UIP Thailand