ใครที่อายุ 30 ขึ้นไป น่าจะโตมากับหนังภัยพิบัติระดับตำนานอย่าง Twister อย่างแน่นอน ย้อนกลับไปเมื่อปี 1996 นี่คือหนังทำเงินลำดับต้นๆของปี มีเพียง Independence Day หรือที่คนไทยคุ้นเคยในชื่อ ID4 เท่านั้นที่ทำเงินเหนือกว่า ยุคสมัยนั้นถือว่าแท็กทีมตัวท็อปของวงการพอสมควร ทั้ง สตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่นั่งแท่นโปรดิวเซอร์ จาน เดอ บองต์ ผู้กำกับที่กำลังฮ็อตสุดๆจาก Speed นั่งแท่นกำกับ พร้อมหยิบเอานิยายของ ไมเคิล ไครชตัน ผู้เขียนเดียวกับ Jurassic Park มาสร้าง ด้วยความตื่นตาของหนัง ความสมจริงในฉากไล่ล่าพายุ ทำให้หนังสามารถกวาดรายได้สูงถึง 495 ล้านเหรียญฯ และกลายเป็นหนังพายุที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา จนกระทั่งล่าสุด หนังถูกกลับมาปัดฝุ่น นำมาสร้างใหม่อีกครั้ง แต่ไม่ใช่การรีเมก เพราะมันคือภาคใหม่ ที่หยิบเอาคอนเซปต์การ ‘ไล่ล่าพายุ’ มาเป็นแกนหลัก พร้อมกับสวมด้วยเส้นเรื่องและคาแรกเตอร์ใหม่ที่เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น
เดซีย์ เอ็ดการ์-โจนส์ นางเอกมากฝีมือจาก Where The Crawdads Sing รับบท เคต คูเปอร์ หญิงสาวที่หมกมุ่นกับเรื่องทอร์นาโด โปรเจกต์ทดลองของเธอคือการทำให้พายุอ่อนตัวลงและช่วยผู้คนนับล้าน แต่โปรเจกต์ของเธอต้องพับไปเพราะความผิดพลาด จนกระทั่งเพื่อนสนิทอย่าง จาวี (รับบทโดย แอนโธนี่ รามอส จาก Transformers : Rise of the Beasts) ชักชวนให้เธอกลับมาไล่ล่าพายุอีกครั้ง เพราะเขากำลังพัฒนาอุปกรณ์สุดไฮเทคในการสแกน และเมื่อเธอลงสนามอีกครั้ง เธอก็ได้พบเจอกับ ไทเลอร์ โอเว่น ยูทูปเบอร์พลังเกินร้อย ที่คอนเทนต์บุกฝ่าใจกลางพายุได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม แม้คาแรกเตอร์ของ เคตกับไทเลอร์ จะแตกต่างสุดขั้ว แต่แพชชั่นที่มีต่อทอร์นาโด ก็ทำให้ทั้งคู่เริ่มแท็กทีมกันในการไล่ล่าพายุ เป้าหมายคือ เพื่อป้องกันภัย ก่อนที่มันจะพลัดพรากชีวิตผู้คน และถล่มเมืองที่ขวางหน้าเป็นราบคาบ
สำหรับใครที่เกิดทัน Twister ในฉบับ 1996 ต้องบอกว่าเวอร์ชั่นใหม่นี้ มีกลิ่นอายและเสน่ห์แบบต้นฉบับอย่างครบถ้วน ทำให้หวนนึกถึงอดีตพอสมควร แต่สำหรับผู้ชมที่อาจจะไม่เคยดูมาก่อน Twisters ในเวอร์ชั่นใหม่นี้ ได้บรรยากาศหนังหายนะแบบยุค 90s เน้นความสมจริงมากกว่าฉากทำลายล้างสุดเว่อร์วัง เน้นการขับเคลื่อนของตัวละคร มากกว่าฉากพยายามเอาตัวรอดไปเรื่อยๆ แน่นอนว่า ฉากทำลายล้างสุดตื่นเต้นยังมีอยู่ครบ ทั้งฉากไล่ล่าพายุ ฉากเอาตัวรอดต่างๆ ยังคงทำออกมาได้อย่างถึงมาตรฐาน ชวนตื่นตาพอสมควร แต่ที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน คือ การสร้างตัวละคร หนังถ่ายทอดแรงขับเคลื่อนของตัวละครต่างๆออกมาได้อย่างเด่นชัด ผู้ชมจะสัมผัสได้ทันทีถึงแพชชั่นของ พระเอก-นางเอก ว่าทำไมพวกเขาถึงต้องเสี่ยงตายเอาชีวิตเข้าไปแขวนไว้กับพายุ ตัวละครต่างๆค่อนข้างเนิร์ดพายุมากๆ ทุกอย่างมีเหตุผลรองรับ ยิ่งทำให้หนังดูน่าเชื่อถือ
โดย ‘Twisters’ ภาคใหม่นี้ สามารถเล่าพาร์ตชีวิตของตัวละครได้อย่างดี ต้องขอบคุณ ลี ไอแซค ชุง ผู้กำกับจาก Minari หนังดราม่าระดับออสการ์ ที่หยิบกลิ่นอายจากผลงานชิ้นก่อน มาใส่ไว้ในหนังได้อย่างพอเหมาะ ทำให้ Twisters ไม่ใช่หนังภัยพิบัติแบบดาดๆทั่วไป แต่สัมผัสได้ถึง ‘ชีวิต’ และ ‘ผลกระทบ’ ต่อชีวิตที่พายุมีต่อมนุษย์ และไฮไลต์สำคัญของ Twisters ฉบับนี้ ก็คือสองนักแสดงนำ จาก เฮเลน ฮันต์ และ บิล แพ็กซ์ตัน ในฉบับก่อน ส่งไม้ต่อให้กับ เกลน พาเวลล์ และ เดซีย์ เอ็ดการ์ โจนส์ ที่ผสานเคมีของสองตัวละครได้อย่างลงตัว มีความกรุ้มกริ่มแบบพอเหมาะ ทำให้ Twisters ขึ้นแท่นหนังป็อปคอร์นซัมเมอร์ที่มอบความบันเทิงอย่างลงตัว และถ้าใครอยากอินกับความยิ่งใหญ่ของพายุเป็นพิเศษ ขอแนะนำระบบ IMAX ที่เสริมความสะพรึงทั้งภาพและเสียงได้อย่างพอพึงพอใจ
ชมตัวอย่าง Twisters วันนี้ในโรงภาพยนตร์