อังคารคลุมโปง RECAP

อังคารคลุมโปง RECAP

ไปรับน้องใหม่ที่รร.ประถม เมื่อไปถึงก็ไหว้ศาล แต่ลมพัดแรงจนธูปเกิดไฟลามไปที่ศาล และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของความสยอง!

30 มี.ค. 2024

       การรับน้องใหม่ที่หลอนจนจำไม่ลืม เมื่อรุ่นพี่พาไปทำกิจกรรมแต่เกิดเหตุไฟไหม้ศาลไม้ จนทำให้มีแต่เรื่องแปลก เกิดขึ้น! เรื่องนี้ ‘คุณแรก’ ได้นำมาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (26 มีนาคม 2567) ฟังพร้อมกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘คืนสยองรับน้องใหม่’ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ไปอ่านกันได้เลย!

       เรื่องนี้เป็นเรื่องราวประสบการณ์ที่เจอกับตัวเองของ ‘คุณแรก’ ซึ่งเกิดขึ้นช่วงไปรับน้องใหม่ออกค่ายอาสา ประมาณยุค 90s ช่วงนั้นคุณแรกเข้าไปเรียนปี 1 สมัยนั้นจะมีช่วงปิดเทอมฤดูหนาว รุ่นพี่ก็จะใช้ช่วงนี้เพื่อรับน้องใหม่ไปออกค่ายอาสาพัฒนา ครั้งนี้คุณแรกได้ไปต่างอำเภอ ซึ่งเป็นโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง คุณแรกและเพื่อน ๆ ไม่เคยรู้จักมาก่อนว่าตรงนั้นคืออะไร รู้แค่ว่าทางเข้าเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่

       เมื่อทุกคนไปถึงที่นั่น ก็จะมีต้นไทรใหญ่ผูกผ้าแพร มีศาลไม้เก่ามาก และเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนมารับตรงจุดนั้น เมื่อมาถึงก็ไปไหว้ศาลก่อนเป็นอันดับแรก รุ่นพี่ก็แจกธูปให้รุ่นน้องอธิษฐานขอพรให้กิจกรรมผ่านไปได้ด้วยดี จากนั้นรุ่นพี่จะเก็บรวบรวมธูปทั้งหมดไปปักไว้ที่กระถางธูป แต่ในช่วงหน้าหนาวเช่นนี้ เมื่อลมหนาวพัดมา ธูปที่รวมกันเป็นกำใหญ่ก็เกิดไฟลุกลามไปติดที่ศาลไม้ ทุกคนต่างตกใจและพยายามช่วยกันดับไฟ เมื่อไฟดับลง ปรากฏว่าศาลไม้เสียหายไปส่วนหนึ่ง ทุกคนจึงตกลงกันว่าจะช่วยออกเงินเพื่อบูรณะซ่อมแซม แต่คุณแรกกับเพื่อนรู้สึกไม่สบายใจ คิดว่าเป็นลางไม่ดีแน่ ๆ

       เมื่อไหว้ศาลเสร็จ ทุกคนก็เข้าไปในโรงเรียน กำหนดการทำกิจกรรมที่นี่คือ 3 วัน 2 คืน เมื่อเข้าไปก็ทำกิจกรรมต่าง ๆ ทาสีห้องน้ำ ถางป่า ตัดต้นไม้ เริ่มพัฒนาพื้นที่และแบ่งหน้าที่กันทำ หลังจากทำกิจกรรมเสร็จ รุ่นพี่ก็บอกว่า

       “คืนนี้เราจะมีการเข้าสู่ฐานเพื่อวัดกำลังใจ เตรียมใจให้พร้อมนะ”

       ซึ่งที่โรงเรียนแห่งนี้จะมีท่อซีเมนต์ รุ่นพี่เห็นท่อซีเมนต์เรียงกันอยู่จึงเลือกตรงนี้เป็นฐานแรกในการทำกิจกรรม โดยจะขุดหลุมตรงทางออกและนำผ้ายางมารองทำให้มีน้ำขังเป็นแอ่ง จากนั้นรุ่นพี่ก็ไปซื้อปลาไหลจากชาวบ้าน เพื่อนำมาทำกับข้าวให้รุ่นน้องกิน แต่ก่อนจะทำอาหารนั้น ก็นำปลาไหลมาปล่อยลงในแอ่งน้ำเต็มไปหมด เพื่อให้รุ่นน้องทำกิจกรรม เวลามุดออกมาจากท่อจะต้องผ่านแอ่งปลาไหลนี้ก่อน

       พอตกกลางคืน คุณแรกก็เข้าสู่กิจกรรม รุ่นพี่ปล่อยรุ่นน้องครั้งละ 2 คน เพื่อให้คลานเข้าไปในท่อ ทุกคนจะมีไฟฉายพลาสติกอันเล็กติดตัวคนละอัน เมื่อคลานเข้าไปภายในท่อจะแคบมาก คุณแรกเป็นคนตัวโตก็ไม่อยากมุดท่อนี้ พอถึงคิว คุณแรกก็ถอยหลังไปต่อท้ายตลอด จนกระทั่งเหลือแค่คุณแรกกับเพื่อน ในที่สุดก็ต้องมุดเข้าไป รุ่นพี่บอกว่า

       “ถึง 2 คนสุดท้ายแล้ว ปิดฐานนี้เข้าไปได้เลย”

       คุณแรกก็คลานเข้าไปช้า ๆ เพราะว่าใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืด ถ้าคลานเร็วมาก ข้อศอกกับหัวเข่าอาจจะถลอกได้ คุณแรกคลานไปเรื่อย ๆ แล้วเพื่อนอีกคนก็คลานตามหลังมา เมื่อถึงช่วงกลางท่อเพื่อนก็ตีก้นคุณแรกแล้วพูดว่า

       “แรก ๆ เร็ว ๆ รีบหน่อย!”

       คุณแรกจึงหันไปมองเพื่อนแล้วพูดว่า “อะไรวะ แค่นี้ก็เจ็บหัวเข่า เจ็บข้อศอกแล้วเนี้ย”

       เพื่อนก็พยายามดันก้นคุณแรกและบอกว่า “แรก เร็ว ๆ มีคนคลานตามเรามา”

       คุณแรกก็คิดว่าจะมีคนคลานตามมาได้อย่างไร ในเมื่อตัวเขาเองและเพื่อนคือ 2 คนสุดท้าย เพื่อนของคุณแรกก็บอกว่า “มีผู้หญิง มีอายุ คลานติดเรามาเลย”

       สักพักเพื่อนของคุณแรกก็โวยวาย คุณแรกจึงรีบคลานจนพ้นท่อผ่านแอ่งปลาไหลออกมา เพื่อนก็รีบคลานตามมา แต่ยังไม่ขึ้นมาจากแอ่งปลาไหล รีบหันไปแล้วพยายามส่องไฟฉายเข้าไปในท่อ ตอนนั้นเพื่อนของคุณแรกกลัวมาก รุ่นพี่ก็พาขึ้นมาข้างบนแล้วถามว่า “เป็นอะไร?”

       เพื่อนของคุณแรกก็บอกว่า “มีผู้หญิงแก่คลานตามหลังมาติด ๆ แล้วหน้าของผู้หญิงคนนี้ก็มาดมอยู่ที่ก้น แล้วมีเสียงพูดว่า หอมน่ากินจังเลย แล้วเอาหน้ามาดมตรงก้นอีก”

       เพื่อนของคุณแรกก็เลยพยายามเอาเท้าดันข้างหลังเพื่อให้ผู้หญิงคนนั้นออกไป เขาก็ตกใจและเร่งให้คุณแรกคลานออกมาให้เร็วที่สุด แต่พอมองดูเข้าไปในท่อ ปรากฏว่าไม่มีใครตามออกมาเลย

       หลังจากนั้นรุ่นพี่ก็บอกว่า “เปื้อนกันแล้ว ไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวยังมีด่านต่อไปอีก วันนี้จะมีด่านวัดกำลังใจ 2 ด่าน จะมีด่านบ้านพักครูที่จะทำเป็นด่านเล่นผีถ้วยแก้ว แล้วรุ่นน้องทุกคนจะต้องมานั่งล้อมรอบกองไฟ ลานอเนกประสงค์ด้านหน้า แล้วเมื่อก่อไฟแล้วจะมีรุ่นพี่นำเนื้อชิ้นใหญ่ ๆ ปิ้งให้น้องกินระหว่างรอเข้าฐาน”

       จากนั้นรุ่นพี่ 4 คนก็ไปที่บ้านพักครู ซึ่งเป็นบ้านที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ เพื่อไปเตรียมฐานเล่นผีถ้วยแก้ว และทำผีหลอกน้องตรงนี้ เมื่อรุ่นพี่ขึ้นไปก็ไม่เปิดไฟ จุดเทียนสร้างบรรยากาศและวางแผนกันว่า

       รุ่นพี่ 2 คน จะพารุ่นน้องเล่นผีถ้วยแก้ว รุ่นพี่จะเป็นคนลากแก้วให้เลื่อนตามที่เขาต้องการ ซึ่งทุกอย่างถูกเซ็ทไว้หมด แล้วจะให้น้องเข้าไปหาของในห้องนอน จะมีรุ่นพี่อีกส่วนหนึ่งปลอมเป็นผีอยู่ในห้องนั้นเพื่อหลอกน้อง

       ระหว่างที่รุ่นพี่ทั้ง 4 คนกำลังเตรียมฐาน อยู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินขึ้นมาบนชั้น 2 ของบ้านพักครู เป็นผู้ชายใส่เสื้อห่านคู่ ใส่กางเกงสีกากี แล้วก็ยิ้มให้กับรุ่นพี่ที่อยู่บ้านนี้ รุ่นพี่ก็ตกใจและถามว่า

       “ไหนว่าบ้านนี้ไม่มีใคร พี่อยู่บ้านนี้หรอครับ?”

       ผู้ชายคนนั้นก็ตอบว่า “อ๋อ ครูไม่ได้อยู่บ้านนี้หรอก แต่เห็นมีเด็กมาทำกิจกรรม ครูเลยมาตรวจดูความเรียบร้อยว่าเป็นยังไงกันบ้าง เดี๋ยวขออนุญาตเข้าไปในห้องนอนหน่อยนะจะไปเอาของ แล้วเดี๋ยวครูก็ไปละ พวกเธอทำกันเต็มที่เลย”

       จากนั้นครูก็เปิดประตูเข้าไปในห้องนอน รุ่นพี่ทั้ง 4 คนก็เตรียมอุปกรณ์จนเสร็จในบริเวณด้านหน้า เหลือแค่ในห้องนอนที่รอให้คุณครูคนนี้ออกมา รุ่นพี่คนหนึ่งไปเคาะประตูเรียก

       “ครูครับ ๆ พวกผมจะต้องเซ็ทห้องต่อนะครับ”

       สักพักประตูห้องก็เปิดเอง ภาพในห้องจะเห็นพัดลมเพดาน คุณครูคนนี้มีเชือกผูกคอแล้วห้อยอยู่กับพัดลม รุ่นพี่ทั้ง 4 คนก็มองเหวอด้วยความตกใจ คุณครูก็พูดว่า “เนี่ย หลอกผีมันต้องหลอกแบบนี้!”

       แล้วทั้งหมดก็วิ่งหนีลงบันไดไปลานอเนกประสงค์ จนกระทั่งในที่สุดรุ่นพี่ก็สั่งยกเลิกด่านบ้านพักครู

       หลังจากนั้นก็ให้รุ่นน้องทำกิจกรรมรอบกองไฟ มีรุ่นพี่ที่ย่างเนื้อให้รุ่นน้องชื่อว่า ‘พี่บ๊อบ’ ซึ่งพี่บ๊อบเป็นคนผมยาว เฮฮา และชอบดื่ม เขาแอบพกเหล้ามาดื่มด้วย พี่บ๊อบปวดฉี่เลยบอกรุ่นน้องว่า

       “เดี๋ยวพี่ไปฉี่ก่อนนะ มาหมุนเนื้อแทนหน่อย”

       พี่บ๊อบก็ไปฉี่ใต้ต้นไม้ใหญ่ห่างไปไม่ไกลมาก เมื่อเสร็จพี่บ๊อบก็มานั่งย่างเนื้อต่อ แต่พฤติกรรมของพี่บ๊อบเปลี่ยนไปตรงที่ว่า เมื่อเลาะเนื้อที่สุกด้านนอกออกไป เนื้อด้านในที่ยังไม่สุก พี่บ๊อบก็เลาะเนื้อส่วนนั้นออกมาจับใส่ปากแล้วเคี้ยว ทุกคนมองและคิดว่าทำไมถึงกินเนื้อดิบแบบนั้น แต่ก็คิดว่ากินซอยจุ๊แบบอีสานเลยไม่แปลกใจ เมื่อกินไปสักพัก พี่บ๊อบก็เริ่มเอามีดที่เลาะเนื้อมาจับผมยาว ๆ หั่นผมของตัวเองออกแล้วโยนเข้ากองไฟ พร้อมกับหัวเราะและพูดว่า

       “ไหน ๆ ใครคนไหนวะตัดต้นไม้กู?” แล้วก็หัวเราะเหมือนคนเสียสติ

       รุ่นพี่ที่เป็นเพื่อนกันก็เข้ามาช่วยล็อคตัวพี่บ๊อบ แย่งมีดกันจนมีดบาดเพื่อน กว่าพี่บ๊อบจะได้สติก็พักใหญ่ เมื่อมีสติก็เล่าให้ทุกคนฟังว่า ตนไปฉี่ตรงโคนต้นไม้ใหญ่ แล้วรู้สึกว่าเหมือนมีน้ำหยดใส่หัว ก็เลยแหงนขึ้นไปดู ปรากฏว่าบนต้นไม้มีผู้ชายผูกคอห้อยอยู่ และฉี่ใส่หัวของตน หลังจากนั้นภาพก็ตัด มารู้สึกตัวอีกทีก็ในวงกองไฟ พี่บ๊อบจึงได้สติและจำเรื่องที่เกิดขึ้นได้

       เช้าวันรุ่งขึ้น รุ่นพี่ตัดสินใจกลับทันที ซึ่งนอนได้แค่คืนเดียว แล้วทิ้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ให้กับเจ้าหน้าที่ทำต่อ พร้อมกับบริจาคเงินเพื่อจะซ่อมแซมศาลที่เกิดไฟไหม้ ตอนกลับรุ่นพี่ก็พาทุกคนไปไหว้ศาลอีกครั้งเพื่อขอขมา แล้วเดินทางกลับ

(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

 

related อังคารคลุมโปง RECAP

เรื่องเล่าจากคุณเเชมพู 'พี่พยาบาล' I อังคารคลุมโปง X แจ็ค The Ghost Radio [ 19 พ.ย. 2567 ]

22 พ.ย. 2024

เรื่องเล่าจากคุณเเชมพู 'พี่พยาบาล' I อังคารคลุมโปง X แจ็ค The Ghost Radio [ 19 พ.ย. 2567 ]

ขนลุกกับเรื่องราวสุดหลอนในโรงพยาบาล โดย ‘คุณแชมพู’ ที่ได้นำเรื่อง ‘พี่พยาบาล’ มาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (19 พฤศจิกายน 2567) ทำเอา ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ ขนลุกซู่! เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ตามไปอ่านกันเลย! ‘คุณแชมพู’ ได้เล่าว่าตนเป็นพนักงานอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ ซึ่งในตึกที่คุณแชมพูทำงานอยู่มีการก่อสร้าง ทำให้ต้องใช้ทางออกทางเดียว และอาชีพนี้ก็ทำให้คุณแชมพูต้องกลับบ้านช่วงเย็น - ค่ำทุกวัน ต้องผ่านจุด ๆ นี้ตลอด โดยส่วนตัวคุณแชมพูเป็นคนที่กลัวผีมาก แต่ใจสู้ คิดว่าคงไม่มีอะไร จึงใช้ชีวิตตามปกติต่อไป อยู่มาวันหนึ่ง คุณแชมพูมีโอกาสได้เจอกับ ‘พี่พยาบาล’ คนหนึ่งที่อายุประมาณ 50 ปี ทุกครั้งที่เจอ ก็จะสวัสดีทักทายตลอด ซึ่งครั้งสองครั้งแรกที่สวัสดี พี่พยาบาลคนนั้นไม่เห็นคุณแชมพู และไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมา จนคุณแชมพูเริ่มเอะใจว่า ‘เขาจะไม่เห็นเราจริง ๆ หรอ?’ ด้วยความที่ทางเดินไม่ได้กว้างมากนัก ออกไปทางแคบด้วยซ้ำ แถมพื้นที่ตรงนั้นมีแค่พวกเขาสองคน โอกาสที่พี่พยาบาลคนนั้นจะไม่เห็นคุณแชมพูมีน้อย เพราะมันใกล้กันมาก แต่คุณแชมพูก็ไม่ได้ติดใจอะไร จนมาครั้งที่สาม - ครั้งที่สี่ คุณแชมพูก็เจออีก ในช่วงเวลาเดิมประมาณ 6 โมงครึ่ง เป็นช่วงที่ฟ้าจะมืดก็ไม่มืด จะสว่างก็ไม่สว่าง ตะวันโพล้เพล้ เมื่อเดินไปเจอพี่พยาบาล ก็หันไปสวัสดี แต่พี่พยาบาลไม่หันมอง จนคุณแชมพูคิดว่าตนนั้นไปทำผิดอะไรมาหรือเปล่า อาจทำให้เขาไม่พอใจ และไม่อยากคุยกับตน แต่สายตาของพี่พยาบาลคนนี้ที่คุณแชมพูเห็น เป็นสายตาที่ว่างเปล่า เหมือนมองไม่เห็นอะไรที่อยู่รอบตัวเลย ซึ่งในครั้งสองครั้งแรกคุณแชมพูก็ยังไม่ทันได้สังเกต แต่พอหลายครั้งเริ่มรู้สึกว่าแปลก ๆ พี่พยาบาลคนนั้น ไม่ได้มีสีหน้าตึงเครียด แต่เป็นสีหน้าที่เรียบเฉย ขาวซีด สายตาของเขามองตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว ไม่ได้มีการหันกลับมามองตัวคุณแชมพูเลย ตอนนั้นเอง คุณแชมพูเริ่มเอะใจขำ ๆ ว่า ‘ใช่คนหรือเปล่านะ’ แต่ก็คิดว่าไม่ใช่ จึงได้ไปปรึกษากับพี่ในห้องที่ทำงานมานานแล้ว คุณแชมพูเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับเรื่องที่เจอ และพูดทิ้งท้ายตลก ๆ ว่า ‘เขาจะใช่คนหรือเปล่านะ’ พี่คนนั้นก็ได้เงียบไป และให้คุณแชมพูบอกถึงรูปพรรณสัณฐานของพี่พยาบาลคนนี้แทน คุณแชมพูได้ตอบไปว่า “เป็นพี่พยาบาลผมสั้นแบบลอนประบ่า ส่วนสูงกลาง ๆ ส่วนสูงประมาณนี้ สีผิวประมาณนี้ ใส่เสื้อพยาบาลที่ค่อนข้างขาวไปทางสีขาวซีด” พี่ในห้องคนนั้นก็ถามเพิ่มเติม และก็ได้เงียบไป ตอบกลับแค่ว่า “ไม่มีอะไรหรอก คิดมากไป ลองไปทำบุญดูจะได้สบายใจ” คุณแชมพูเล่าต่อว่า มีหลายเหตุการณ์ที่พอมีคนรู้ว่าคุณแชมพูเจอแบบนี้ เขาก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘คิดมาก ไม่มีอะไรหรอก’ แต่คุณแชมพูรู้สึกว่าเหมือนพวกเขาจะรู้อะไรบางอย่าง แต่ไม่อยากบอกให้คุณแชมพูรู้ เพราะกลัวคุณแชมพูจะคิดมากและรู้สึกกลัว จนอยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนสนิทที่อยู่แถวบ้านคุณแชมพู ซึ่งแม่ของเพื่อนคนนี้เป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลเดียวกัน โดยที่เพื่อนสนิท ก็ให้คุณแชมพูได้พูดคุยสอบถามกับแม่ของเขา ด้วยความที่รูปพรรณสัณฐานไม่ได้สังเกตยากมาก แม่ของเพื่อนก็เลยหยิบรูปมาให้คุณแชมพูดูและถามว่า “ใช่คนนี้หรือเปล่า” พอคุณแชมพูเห็นรูป ‘มันใช่เลย คือมันใช่!’ นี่คือสิ่งที่คุณแชมพูคิดเป็นอย่างแรกหลังจากที่เห็นรูป และสิ่งที่รู้ต่อมาคือ ‘เขาไม่ได้มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้ว’ เพราะปัญหาเรื่องสุขภาพ พอคุณแชมพูได้ยินก็ขนลุกซู่ และคิดในใจว่า ‘คงไม่ใช่หรอก หรืออาจจะหน้าคล้าย’ นอกจากนี้ เมื่อสอบถามคนอื่น ๆ ก็ได้ความว่าบุคลากรที่เข้ามาใหม่ก็มักจะเห็นแบบเดียวกัน ส่วนคนเก่า ๆ ก็ชินแล้ว เหมือนจิตของพี่พยาบาลคนนั้นยังอยากทำงานอยู่ และยังผูกพันกับที่ที่เขาเคยอยู่ และหลังจากที่คุณแชมพูได้รู้ความจริงก็ไม่เคยเจอพี่พยาบาลคนนั้นอีกเลย...(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

ตู้ในตำนานของห้องซ้อมวงโยธวาทิต ที่ถูกปิดล็อกเอาไว้อย่างดี จู่ ๆ แม่กุญแจก็แกว่งเองเสียงดัง! หัวหน้าวงจึงนั่งสมาธิเพื่อสื่อสาร แต่แล้วเขาก็ลุกขึ้นมาบีบคอคนในวงโดยที่ไม่รู้ตัว! สุดท้ายจำได้ว่าในสมาธินั้นเจอพ่อแก่มาบอกว่าไม่พอใจที่มีคนไม่เคารพเครื่องดนตรี!

04 ก.ย. 2023

ตู้ในตำนานของห้องซ้อมวงโยธวาทิต ที่ถูกปิดล็อกเอาไว้อย่างดี จู่ ๆ แม่กุญแจก็แกว่งเองเสียงดัง! หัวหน้าวงจึงนั่งสมาธิเพื่อสื่อสาร แต่แล้วเขาก็ลุกขึ้นมาบีบคอคนในวงโดยที่ไม่รู้ตัว! สุดท้ายจำได้ว่าในสมาธินั้นเจอพ่อแก่มาบอกว่าไม่พอใจที่มีคนไม่เคารพเครื่องดนตรี!

‘อังคารคลุมโปง X’ (29 สิงหาคม 2566) ที่ผ่านมา ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ ได้เปิดไมค์ต้อนรับ ‘คุณไอซ์’ สายจากทางบ้านที่โทรมาเล่าประสบการณ์หลอนสมัยที่ยังอยู่ในวงโยธวาทิตของโรงเรียน กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘ตู้ลับในห้องวงโย’ จะชวนขนลุกขนาดไหน ตั้งสติให้ดีแล้วไปอ่านต่อกันเลย! ย้อนกลับไปช่วงมัธยม คุณไอซ์เคยเป็นเด็กวงโยธวาทิตของโรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยปกติแล้ว วงโยฯจะต้องอยู่ซ้อมตั้งแต่บ่ายสองถึงห้าโมงเย็น ในบริเวณที่ซ้อมนั้นจะเป็นลักษณะห้อง 2 ส่วน คือห้องเล็กเป็นห้องพักครู และห้องใหญ่เป็นห้องสำหรับซ้อม ซึ่งสามารถมองทะลุหากันได้ แต่จะไม่มีหน้าต่าง เป็นห้องที่บุผนังด้วยแผงไข่ และมีตู้เหล็กไว้เก็บเครื่องดนตรี ในวันนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณบ่าย 3-4 โมงเย็น มีคนที่ยังอยู่ซ้อมทั้งหมดหกคน หนึ่งในนั้นเป็นพี่ผู้ชายคนนึง ซึ่งเป็นมือกลองประจำวง กำลังนั่งตีกลองชุดอยู่ ตำแหน่งของกลองชุดนั้นตั้งอยู่หน้าตู้เก็บเครื่องดนตรี ขณะที่เขากำลังตีกลองอยู่สักพัก เขาก็วิ่งกรี๊ดออกมา! และตะโกนโวยวายหาหัวหน้าวง ซึ่งเป็นคนที่ค่อนข้างมีเซนส์ว่า “พี่ที พี่ที พี่ ผมเห็นอะไรไม่รู้ วาร์ปออกมาตรงตู้ ผมเห็นจริง ๆนะ ” แต่ทุกคนก็บอกกลับไปว่า “ คิดมาก มันเป็นห้องปิด มีแค่ไฟหลอด เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะมีอะไร” ในจังหวะที่เถียงกันอยู่นั้น สายตาคุณไอซ์ก็เหลือบไปเห็นตู้หนึ่ง มันเป็นตู้ที่เคยมีตำนานว่าเคยมีคนเจอบางสิ่งบางอย่างกันบ่อย ตรงนั้นเป็นตู้ที่ล็อกแม่กุญแจ แต่จู่ ๆ แม่กุญแจนั้นมันก็แกว่งและมีเสียงขึ้นดัง “แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก” ตีกับตู้เหล็กโดยไม่มีเหตุผล! แล้วพี่มือกลองที่วิ่งออกมา เขาก็ตะโกนออกมาอีกครั้ง “เห้ยพี่! เห้ยเนี่ย เห้ยทำไมแม่กุญแจมันแกว่งแบบนั้นอะ เห้ย! ” พอเขาพูดขึ้นมา แม่กุญแจก็แกว่งแรงขึ้นอีก แรงขึ้นเรื่อย ๆ คุณไอซ์และเพื่อนผู้หญิงก็รีบวิ่งลงมาก่อน เพื่อนผู้ชายตัดสินใจเข้าไปรอที่ห้องพักครู ส่วนพี่ทีจะเข้าไปดูเพียงคนเดียวว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ที่ห้องซ้อม จังหวะที่พี่ทีเข้าไปในห้อง เขานั่งลงทำสมาธิ เหมือนพยายามที่จะสื่อ และพูดคุยว่าเกิดอะไรขึ้น ตรงนี้มีใคร ต้องการจะทำอะไรถึงได้มีน้องเห็นเป็นแสงวาร์ปออกมา และแม่กุญแจแกว่งได้ยังไงทั้ง ๆ ที่เป็นห้องปิด และไม่มีลมเลย... สักพักพี่ทีก็เดินออกมาจากห้องซ้อมใหญ่ และเดินตรงมาบีบคอเพื่อนผู้ชาย ที่ยืนรออยู่ที่ห้องพักครู เพื่อนที่ถูกบีบคอเริ่มทนไม่ไหวจึงพูดขึ้นมาว่า “ถ้าพี่ไม่ปล่อยผม ผมจะต่อยหน้าพี่จริง ๆนะ!” แล้วเพื่อนก็ต่อยเข้าที่หน้าด้านขวาจริง ๆ พี่ทีก็ล้มลงไป จากนั้นเพื่อนคนที่ถูกบีบคอก็รีบวิ่งหนีออกและกลับบ้านทันที หลังจากนั้น พอพี่ทีรู้สึกตัว เขาก็เล่าว่าตอนที่นั่งสมาธิ เขาเห็นว่ามีพ่อแก่ที่เป็นครูมาบอกว่า “ทำไมมีคนเอาขลุ่ยเพียงออ ไปเช็ดกระโปรงแบบนั้น” เขาเลยมาแสดงให้เห็นว่าเขาไม่พอใจ ให้ไปทำพิธีขอขมาเครื่องดนตรีก่อน ใครที่อยู่สายดนตรีไทยอยู่แล้ว เขาจะถือกันว่าห้ามทำพฤติกรรมที่แสดงถึงการไม่เคารพเครื่องดนตรี เพราะของทุกชิ้นมีครูดูแล..(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

บ้านพักข้าราชการในวันที่ไม่มีคนอยู่

23 มี.ค. 2024

บ้านพักข้าราชการในวันที่ไม่มีคนอยู่

เรื่องนี้เป็นเรื่องของ ‘บอม Retrospect’ ที่ ได้นำเรื่องมาเล่าในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (19 มีนาคม 2567) ฟังพร้อมกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ เกี่ยวกับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านของตัวเอง เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ไปอ่านเลย คุณบอมเล่าว่า สมัยที่คุณพ่อเป็นข้าราชการทหารอากาศ ก็จะพักอยู่ที่บ้านพักทหารอากาศใกล้สนามบินดอนเมือง ในสมัยก่อนที่จะมาเป็นบ้านพัก ที่ตรงนี้เป็นเหมือนที่อยู่ของกลุ่มคนอินเดียเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว ซึ่งคุณบอมเล่าว่าเวลาที่ไม่มีคนอยู่บ้านเขาจะเปิดแต่ไฟโรงรถไว้ วันหนึ่งมีเพื่อนบ้านที่รู้จักกันเข้ามาถามคุณบอมว่า “บอม เมื่อวาน รถไม่อยู่แต่เหมือนใครเต้นเหมือนแขก ๆ อยู่ในบ้านอ่ะ” แต่คุณบอมก็ไม่ได้คิดอะไร ช่วงนั้นเป็นช่วงมอปลาย คุณพ่อและคุณแม่ไปธุระต่างจังหวัดคุณบอมจึงต้องอยู่บ้านคนเดียว ช่วงกลางคืนรู้สึกเหมือนจะไม่สบายเลยคิดว่าวันนี้จะเข้านอนเร็ว หลังจากนอนหลับไปสักพักก็รู้สึกว่ามีแสงจากข้างนอกเข้ามาแยงตา เพราะเขาจะเปิดไฟหน้าห้องไว้ พอลืมตาขึ้นมาดูและเห็นว่า ประตูห้องนอนที่ตรงใต้ลูกบิดมีโซ่คล้องไว้เหมือนจะแง้มออกมานิดนึงและเห็นเหมือนคนจากช่องประตูตรงนั้นเข้ามาครึ่งตัวแต่ไม่เห็นลูกตา แต่รู้ว่าเขาจ้องมาที่คุณบอม คุณบอมก็จ้องกลับไปและตัวก็ไม่สามารถขยับได้ความรู้สึกเหมือนโดนผีอำ เขาก็จ้องอยู่แบบนั้น จนรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยมากเพราะไม่สบายอยู่ด้วยจึงคิดในใจไปว่า “อย่ามายุ่งกับกูเลย กูเหนื่อยไม่ไหวแล้วจะนอน” หลังจากนั้นก็หลับไป เช้าตื่นมาก็เห็นประตูปิดสนิท โซ่ตึงปกติ คิดว่าตัวเองคงฝันหรือละเมอไปเอง จนบ่ายวันนั้น คุณบอมเผลอหลับไปตรงโซฟาตอนช่วงเวลาโพล้เพล้ และรู้สึกได้ยินเสียงเหมือนมีคนพูดแต่จับใจความไม่ได้ และรู้สึกคันที่หน้าจึงลืมตาขึ้นมาแต่มันมืดไปหมด แล้วก็ค่อย ๆ ปรับโฟกัสเห็นเป็นคนนั่งยอง ๆ ก้มหน้าลงมาจากพนักพิงของโซฟา ผมยาวลงมาที่หน้าคุณบอมแล้วก็พูดว่า “ไปอยู่กับกูๆๆๆๆๆๆ” คุณบอมก็คิดว่าตัวเองแค่ฝันไปหรือเปล่าแต่เขาก็โดนแบบนี้อีก 2-3 รอบ หลังจากนั้นคุณบอมก็พยายามลืมตาและลุกขึ้นมา เหตุการณ์ตรงนั้นก็หายไป แต่ความรู้สึกคันหน้าก็ยังคันอยู่ หลังจากวันนั้นก็ไม่เจออีก แต่บ้านหลังนั้นจะมีอะไรแปลก ๆ อยู่เรื่อย ๆ ข้างหลังบ้านก็จะมีต้นโพธิ์ปลูกอยู่ และต้นโพธิ์จะอยู่ตรงกับห้องรับแขกที่เขานั่งยอง ๆ จ้องคุณบอมตรงโซฟา ก็จะมีบางคนที่เจอเหมือนกันตรงต้นโพธิ์บางคนเห็นว่าเป็นผู้ชายและของเซ่นไหว้จะหายไปเป็นอย่าง ๆ แต่ส่วนมากจะเป็นยาเส้นที่หายไป(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

ซินแสเอ็กซ์เล่าเรื่อง 'เดือนต้องห้าม' I อังคารคลุมโปง X โนอาร์ ล่าท้าผี [ 17 ก.ย. 2567]

20 ก.ย. 2024

ซินแสเอ็กซ์เล่าเรื่อง 'เดือนต้องห้าม' I อังคารคลุมโปง X โนอาร์ ล่าท้าผี [ 17 ก.ย. 2567]

‘ซินแสเอ็กซ์’ ได้นำเรื่องราวสุดหลอนมาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (17 สิงหาคม 2567) ขนหัวลุกไปกับ ‘ดีเจแนน’, ‘ดีเจเจ็ม’ และ ‘ดีเจมดดำ’ กับเรื่องราวที่มีชื่อว่า ‘เดือนต้องห้าม’ จะหลอนขนาดไหนนั้น ไปอ่านกันได้เลย! ซินแสเอ็กซ์เล่าว่า ได้มีข้อความส่งมาหาซินแสเอ็กซ์เพื่อมาขอคำปรึกษาการเข้าบ้านใหม่ โดยเจ้าของบ้านที่ต้องการปรึกษาก็ได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการย้ายเข้าบ้านใหม่ และได้มีการเชิญคนมาตั้งศาลตี่จู้เอี๊ยะให้ในวันนั้นเพื่อความเป็นสิริมงคล พอตั้งเสร็จเจ้าของบ้านก็รู้สึกตงิดใจขึ้นมาว่าฤกษ์ตรงนี้ไม่ได้ จึงต้องโทรมาหาซินแสเอ็กซ์ เพราะหลังจากเจ้าของบ้านตั้งศาลนี้ก็รู้สึกว่ามีสิ่งแปลก ๆ ในบ้านเยอะมาก ในคืนนั้น ขณะที่เจ้าของบ้านทำงานอยู่หน้าห้องนอน ส่วนในห้องมีภรรยาและลูกเล็กนอนอยู่ ก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันที่ชั้นล่าง เจ้าของบ้านจึงตั้งใจจะลงไปดู ขณะที่จะก้าวลงไปถึงห้องนั่งเล่น เสียงนั้นก็หายไป เจ้าของบ้านจึงคิดว่าเป็นเสียงจากข้างนอกจึงเดินกลับขึ้นห้องไป แต่ในระหว่างที่เดินกลับขึ้นไปก็ได้ยินเสียงอีก เจ้าของบ้านก็เดินกลับลงไปดูอีก หันซ้ายหันขวาแต่ก็ไม่มีใคร จึงเดินไปที่ตี่จู้เอี๊ยะแล้วจุดธูปพร้อมบอกกล่าวว่า ‘ขอให้อยู่บ้านนี้แล้วเฮง’ จากนั้นก็เดินกลับขึ้นชั้นบน ในขณะที่เดินกลับขึ้นไปนั้น เจ้าของบ้านก็ได้ยินเสียงโทรทัศน์เปิด เมื่อชะโงกหน้าไปดูก็เห็นว่าโทรทัศน์ดับไปต่อหน้าต่อตา! เจ้าของบ้านตกใจและรีบขึ้นไปเพื่อเข้าห้องนอน และกลั้นใจนอนหลับไป.. เมื่อเจ้าของบ้านหลับไปก็ได้ฝันเห็นผู้ชายตัวดำ ๆ คล้ายเงาอยู่ปลายเตียง พร้อมพูดว่า “ไอที่จุดธูปไหว้ไปเมื่อกี้เนี่ย มึงจุดธูปไหว้กูนะ มึงอยากให้กูอยู่ด้วยหรอ” เจ้าของบ้านสะดุ้งตื่นและคิดว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อหยิบโทรศัพท์มาดูเวลาก็พบว่าเป็นเวลาตี 3 ยังไม่เช้า จึงพยายามข่มตานอนอีกรอบ แต่ก็ดันฝันอีกรอบ โดยฝันว่าตนนั้นกำลังนั่งในห้องรับแขก แต่ด้านนอกห้องรับแขกเห็นเป็นคนแก่ 2 คนหน้าตาใจดี แต่ดูกังวล เมื่อตนและคนแก่หันมาสบตากัน คนแก่ก็กวักมือเรียก ตนจึงเปิดประตูออกไปแล้วถามว่า “มาหาใครครับ มีอะไรครับ?” คนแก่ 2 คนจึงบอกว่า “มาหาลื้อนั่นแหละ” และยังบอกอีกว่า “ลื้อลองมองหันกลับเข้าไปในบ้านลื้อสิ ผีเต็มบ้านเลยนะ” เมื่อเจ้าของบ้านหันไปก็เห็นเป็นคนแต่งตัวมอมแมมอยู่ในบ้านเต็มไปหมด! เจ้าของบ้านกำลังจะหันกลับไปถาม แต่ทั้ง 2 ก็หายไปแล้ว เจ้าของบ้านสะดุ้งตื่นขึ้นมาแต่ก็ยังไม่เช้า และไม่อยากฝันอีกจึงเลือกที่จะไม่นอนต่อ แล้วไปนั่งในห้องน้ำเพราะกลัวภรรยากับลูกตื่น คิดว่าตอนเช้าจะพาภรรยาไปทำบุญ พอเริ่มเช้า ภรรยาตื่นและเปิดประตูออกมาก็ถามเจ้าของบ้านว่า “ไปทำบุญกันไหม?” ทั้งครอบครัวจึงออกไปทำบุญ ในระหว่างที่ขับรถไปนั้น เจ้าของบ้านอัดอั้นตันใจมาก เพราะอยากที่จะเล่าเรื่องราวให้กับภรรยาฟัง จึงตัดสินใจจะเล่า แต่เมื่อเกริ่นไปแค่คำว่า “เมื่อคืน..” ภรรยาก็บอกให้หยุดและบอกว่าขอเล่าก่อน โดยภรรยาได้เล่าว่าเมื่อคืนได้ฝันเห็นผู้ชายตัวดำ ๆ มีเงาอยู่ปลายเท้าพูดว่า “ผัวมึงไหว้กูอยู่นะ กูจะมาอยู่กับมึง” พอเจ้าของบ้านฟังจบก็เล่าเรื่องราวฝั่งตัวเองให้ฟัง ทั้ง 2 คนคิดว่าท่าทางเริ่มไม่ดีแล้ว จึงรีบไปวัด และเอาลูกไปฝากไว้กับพ่อแม่ก่อน เมื่อไปถึงที่วัดก็เล่าเรื่องราวให้พระฟัง พระท่านก็เสกน้ำมนต์และให้เครื่องรางของขลังมาเพื่อจะเอากลับไปไว้ที่บ้าน หลังจากได้ของจากพระ สามีภรรยาก็กลับไปที่บ้านและใช้ชีวิตตามปกติแต่ก็รู้สึกไม่สบายใจ ตัวสามีก็ไปนั่งทำงานอยู่ที่เดิม ภรรยาก็อยู่ในห้องนอน และจู่ ๆ ไฟก็ดับทั้งบ้าน ซึ่งมันเป็นไปได้ยากเพราะบ้านพึ่งทำใหม่และดับอยู่บ้านเดียว ทันใดนั้น สามีก็ได้ยินเสียงภรรยาร้องออกมาจากห้องนอน! สามีจึงรีบวิ่งเข้าไปที่ห้องนอน พอเปิดเข้าไปก็ได้รู้ว่าเสียงภรรยาออกมาจากห้องน้ำ สามีพยายามบิดลูกบิดเพื่อเปิดประตูแต่บิดเท่าไหร่ก็เปิดไม่ออก ตัวภรรยาเองก็บอกว่าไม่สามารถเปิดจากข้างในได้เหมือนกัน! สามีจึงรีบวิ่งไปเอาค้อนที่ชั้นล่าง และในระหว่างที่ขึ้นไปหาภรรยา สามีรู้สึกเหมือนมีคนมาขัดขาจึงล้มลงไปจนฟันหน้าหักเลือดท่วมปาก แต่ด้วยความที่เป็นห่วงภรรยาจึงรีบวิ่งขึ้นไป ในตอนที่กำลังจะเอาค้อนทุบประตูภรรยาดันเปิดประตูออกมาได้ปกติ เมื่อทั้งคู่เจอหน้ากันก็รีบเอากุญแจรถขับออกไปทันที และไปตั้งสติที่บ้านแม่ สามีถามภรรยาว่าเกิดอะไรขึ้น ตัวภรรยาจึงเล่าให้ฟังว่าในตอนที่เจ้าของบ้านนั่งทำงานอยู่ ภรรยาได้เข้าไปอาบน้ำ โดยลักษณะห้องน้ำจะมีกระจกกั้นระหว่างโซนเปียกกับโซนแห้ง ภรรยารู้สึกว่าหางตาเห็นเหมือนมีคนเอาหน้ามาอังตรงกระจก เห็นแบบนั้นก็รู้สึกตกใจจึงตั้งใจจะหันไปมอง แต่ในขณะที่หันไปมอง ไฟดันดับและภรรยาเห็นร่างคนตัวดำ ๆ ยืนอยู่ในห้องน้ำกับภรรยา! ภรรยาตกใจร้องกรี๊ดเสียงดัง หลังจากนั้นก็เล่าแม่ฟังอีกรอบ แม่บอกว่าคนส่วนใหญ่มักจะไม่ตั้งศาลกันในเดือนเจ็ดของจีน ซึ่งก็คือเดือนสิงหาคม ทางเจ้าของบ้านจึงโทรมาหาทางซินแสเอ็กซ์เพื่อขอคำปรึกษา และซินแสเอ็กซ์ก็ได้ให้คำปรึกษาไป..(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

album

0
0.8
1
Contact usGreenwave02-665-8377EFM02-665-8373
Advertise with usมัลลิกา ปราบอริพ่าย (กบ)(Atime Showbiz, Online Content)063-282-6915จุฑา วนศานติ (บี) (EFM)02-669-9512, 081-923-9823
อังคณา พองาม (นุก) (Greenwave)02-669-9444-7
ดาวน์โหลด Application ได้แล้ววันนี้ที่atime online application download from app storeatime online application download from play storeติดต่อสอบถาม / แจ้งปัญหาการใช้งานatimeplatform@atimemedia.com
บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน)เลขที่ 50 อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนสุขุมวิท21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพ 10110