“โมสต์ วิศรุต” เผยตัวตนอีกด้านในมาดศิลปิน ผ่านซิงเกิลแรก "ซะอย่างงี้ (SCNR)"

Chill Talk

“โมสต์ วิศรุต” เผยตัวตนอีกด้านในมาดศิลปิน ผ่านซิงเกิลแรก "ซะอย่างงี้ (SCNR)"

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับ "โมสต์ - วิศรุต หิมรัตน์" ในบทบาทนักแสดงมากฝีมือ ที่ฝากผลงานเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นบท “จ้อย” จาก “บุพเพสันนิวาส” หรือบท “ภูผา” จาก “น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์” วันนี้โมสต์กลับมาอีกครั้งในฐานะศิลปินอย่างเต็มตัว ภายใต้สังกัด "Yeezaa" พร้อมประเดิมซิงเกิลแรก "ซะอย่างงี้ (SCNR)" เราจึงได้ชวนโมสต์มาพูดคุยถึงตัวตนอีกด้าน ผ่านบทบาทใหม่ และเบื้องหลังการทำงานที่ใส่ความเป็นตัวเองลงไปอย่างเต็มที่

เพลง ซะอย่างงี้ (SCNR) เริ่มต้นมาจากอะไร

“มันมาจากการที่เราเขียนเพลงอกหักเยอะ เขียนคิดถึงคนนู้นคนนี้เยอะ แล้ววันนึงมันก็มีความรู้สึกที่แบบ เฮ้ย อะไรเนี่ย เราก็เลยถอยออกมา แล้วก็เขียนบ่นว่า เมื่อไหร่จะเลิกเขียนเลิกบ่นคิดถึงคนนี้สักที เป็นซะอย่างงี้ตลอดเลยนะ”

เพลงนี้ใช้เวลาทำนานมั้ย

“เพลงนี้ใช้เวลาทำประมาณ 2-3 เดือนครับ”

เขียนเพลงนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวหรือเปล่า

“ใช่ครับ ก็คือเขียนเอาไว้นานมาก ๆ แล้ว ช่วง 2-3 เดือนก็คือเริ่มเข้ากระบวนการทำเพลง นั่งคุยดนตรี ว่าอยากได้แบบไหน อยากทำแบบไหน”

ช่วยเล่าสตอรีของ MV ให้เราฟังหน่อย

“ถ้าพูดรวม ๆ ก็คือเป็นเรื่องราวของผู้ชายคนนึงที่ทำตัวเหมือนเป็นสตอล์กเกอร์ ส่วนผู้หญิงก็เป็นคนรักของเขา แล้วเขาก็ติดตาม แอบเก็บของของผู้หญิงคนนั้นเอาไว้”

แล้วสรุปเสียงเคาะประตูตอนจบ MV คือใคร

“ตำรวจลง (หัวเราะ) มีคนถามเยอะเหมือนกัน จริง ๆ แล้วตอนคุยสตอรีบอร์ดกัน มันก็คือผู้หญิงคนนั้นแหละ เขามาหาที่ห้อง แต่ว่าที่ตัดสินใจทำออกมาเป็นแบบนี้ ที่เห็นกันใน MV ก็คืออยากให้เป็นปริศนาธรรม ตีความกันเอง”

ยากมั้ยกับการที่โมสต์ต้องเขยิบบทบาทมาเป็นศิลปินเต็มตัว

“ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่เคยทำ ก็ยังมีอะไรที่แปลกหูแปลกตาเยอะมากเลยที่ผ่านมา”

คนมักจะติดภาพโมสต์ในบท จ้อย จากบุพเพสันนิวาส ยากมั้ยกับการลบภาพนั้นให้คนจำที่โมสต์เป็นโมสต์

“อันนี้เป็นสิ่งแรกที่คิดเลย ก่อนที่จะเข้าค่ายเพลงด้วยซ้ำ แต่รู้สึกว่าสุดท้ายแล้วมันเป็นสิ่งที่หนีไม่พ้น ก็เลยใช้วิธีจริงใจกับงาน เต็มที่กับงาน ให้คนดูเห็นเอง พยายามทำให้มันเป็นตัวเราที่สุด ดึงความเป็นตัวเราออกมาให้เยอะที่สุด ก็หวังว่าคนจะรู้สึกได้”

ถ้าให้นิยามความเป็นโมสต์ คิดว่าตัวเองเป็นคนยังไง

“สบาย ๆ อยู่ได้ทุกที่ คุยได้กับทุกคน ทุกเรื่อง”

รู้ตัวตอนไหนว่าตัวเองอยากเป็นศิลปิน

“จริง ๆ ก็รู้สึกว่าตอนอายุ 30 ควรจะเริ่มเข้ามามีบทบาทในด้านการเป็นศิลปินได้แล้ว ก่อนที่มันจะสายเกินไป แต่ถ้าถามว่ารู้สึกเมื่อไหร่ ก็คงนานแล้วแหละ แต่ว่าไม่ได้แอคทีฟเฉย ๆ”

ตอนเป็นหน้ากากกระติ๊บมีส่วนทำให้โมสต์ตัดสินใจมาเป็นศิลปินเต็มตัวมั้ย

“ตอนหน้ากากกระติ๊บก็ยังนะครับ คือก็ยังมองว่าการร้องเพลงเป็นงานอดิเรกอยู่ แต่ก็ไม่ได้ปิดโอกาสอะไร เพียงแต่ว่ายังไม่ได้เข็นตัวเองมาขนาดนั้น ไม่ได้แบบว่าฉันจะเป็นนักร้องแล้วนะอะไรแบบเนี้ย”

กระแสตอบรับจากแฟน ๆ เป็นยังไงบ้างกับบทบาทศิลปินของโมสต์

“ก็ดีนะครับ มันเป็นกำลังใจที่ทุกคนแบบว่า เฮ้ย สักที คือคนที่ไม่ได้รอคอยสิ่งนี้เนี่ย เขาก็จะรู้สึกเซอร์ไพรส์ ว่าเราทำชิ้นงานนี้ออกมาด้วยตัวเองเลยนะ แต่ว่าถ้าเป็นแฟนคลับที่ติดตามกันมา เขาก็ดีใจ เพราะเขาเฝ้ารออยู่แล้ว เราก็รู้สึกโล่งที่ทำให้เขาได้สักที”

โมสต์ทำงานมาเยอะมาก ไม่ว่าจะละคร ซีรีส์ ภาพยนตร์ ละครเวที เพลง มีอะไรที่อยากทำในอนาคตอีกมั้ย

“ก็คงเป็นสิ่งเดิมพวกนี้แหละครับ คือมันอาจจะดูธรรมดา แต่มันก็มีสเต็ปต่าง ๆ ที่เราอยากไป อยากให้มันเติบโตขึ้น”

มีอะไรอยากพูดถึงแฟนคลับที่ติดตามกันมาตลอดมั้ย

“สำหรับแฟนคลับที่ติดตามกันมาตลอด ก็เดี๋ยวจะมีอะไรอีกเยอะ มีผลงานให้ดูให้ฟังกันอีกเรื่อย ๆ ก็คอยติดตามกันนะครับ”

ฝากอะไรถึงคนที่ยังมูฟออนไม่ได้แล้วเป็น ซะอย่างงี้ แบบในเพลงหน่อย

“ก็ถ้ายังมูฟออนไม่ได้ ก็เปิดเพลงนี้ใน YouTube ลองเปิดฟังสักวันละ 50 รอบ แล้วคุณจะมูฟออนได้ครับ”

สุดท้ายแล้ว ฝากผลงานเพลง ซะอย่างงี้ (SCNR) หน่อย

“ก็ฝากเพลงนี้ด้วยนะครับ เป็นงานแรกในฐานะศิลปินแบบออฟฟิเชียลของผม ได้เอาตัวเองใส่เข้าไปจริง ๆ ทั้งเรื่องราวของตัวเอง เสียงร้องของตัวเอง แล้วก็รอดูกันนะว่าจะมีอะไรต่อไป”

you may also like

album

0
0.8
1