เหงื่อบอกโรค

HEALTHY LIFESTYLE

เหงื่อบอกโรค

20 ส.ค. 2024

เหงื่อมี 2 ประเภทใหญ่ๆ
 1.เหงื่อแตกทั้งตัว อาจจะมีปัจจัยมาจากหลายๆสาเหตุ ไม่ว่าจะมาจากโรคร้อนที่เข้าไปทำร้ายร่างกาย เมทาบอลิทึมที่สูงขึ้น หรืออารมณ์ตื่นเต้น ก็อาจทำให้มีเหงื่อออกได้เช่นกันค่ะ โรคบางโรคก็ทำให้เหงื่อทั้งตัวได้ เช่น น้ำตาลในเลือดต่ำ ไฮเปอร์ โรคเบาหวาน หรือแม้กระทั่งโรคที่สาวๆมักจะกลัวกัน คือ โรควัยทอง
 

2.เหงื่อออกเฉพาะที่ ตามหลักแพทย์แผนปัจจุบัน ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากอะไร อาจจะเกิดจากต่อมเหงื่อบริเวณนั้นทำงานผิดปกติ แต่ตามหลักแพทย์แผนจีนแบ่งออกเป็น

1.เหงื่อออกตอนกลางวัน อยู่ดีๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยเหงื่อก็ไหลเองค่ะ เหงื่อแบบนี้มาจากม้ามที่อยู่ในร่างกายเราพร่อง หรือ อ่อนแอ การบำรุงม้าม จะช่วยหยุดเหงื่อได้หน่อยค่ะ แล้วอาการจะดีขึ้นตามมา


2.เหงื่อออกตอนกลางคืน เป็นเหงื่อที่ออกตอนนอน ตื่นเช้ามาก็ไม่มีแล้ว ทางแพทย์แผนจีน คือ อาการของอินพร่อง หมายถึงอินน้อย ซึ่งต้องบำรุงอิน โดยทางที่ดีแนะนำให้รักษากับหมอผู้เชี่ยวชาญนะคะ


3.เหงื่อออกที่รักแร้มากเกินไป เหงื่อออกที่รักแร้เป็นปัญหาสำหรับเราอย่างมาก ถ้ามีกลิ่นด้วยจะทำให้เรายิ่งเสียความมั่นใจ เหงื่อบริเวณรักแร้มากผิดปกตินั้นอาจเกิดมาจากต่อมเหงื่อผลิตเหงื่อมากเกินไป หรือว่าเรารับประทานอาหารมากเกินไป อันนี้มีวิธีแก้ค่ะ อาจจะงดอาหารที่รสจัดเกิดไป เช่น กระเทียม เครื่องเทศต่างๆ ตามหลักแพทย์แผนจีนอาจจะมาจากหัวใจร้อน หรือหัวใจพร่อง เพราะเส้นลมปรานจุดแรกของหัวใจก็มาจากรักแร้นั้นเองค่ะ ความเครียดก็เป็นผลทำให้เหงื่อออกเยอะนะคะ เหมือนตอนเข้าห้องสอบ หรือสัมภาษณ์งานแอดมินก็เคยเป็นค่ะ ^^

4.เหงื่อออกบริเวณรอบอวัยวะเพศ หลายคนมีอาการนี้ เหงื่อออกบริเวณอวัยเพศมากเกินไปนั้น จะทำให้เกิดการหมักหมม และมีกลิ่น เกิดมาจากความร้อนชื้นอยู่ด้านล่าง ทำให้มีอาการหลายอย่างตามมา เช่น คันบริเวณอวัยวะเพศ อวัยวะเพศมีกลิ่นแรงไม่พึงประสงค์ ทางที่ดีพบแพทย์ดีกว่านะคะ เพราะการรักษาความชื้นค่อนข้างยากหน่อย บางคนอาจจะมีอาการของต่อมลูกหมากโต ต่อมลูกหมากอักเสบ หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ก็มีสิทธิ์ทำให้ทำให้เหงื่อออกที่อวัยเพศได้เช่นกันค่ะ

5.เหงื่อออกที่มือที่เท้า หลายคนถามว่าเป็นโรคหัวใจหรือป่าว แต่ไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย คุณหมอบอกว่าปกติ ตามหลักแพทย์แผนจีนนั้นมาจากหลายสาเหตุเช่น กระเพาะและม้ามร้อนชื้น หรืออาจจะเกิดจากภายในมีความร้อนชื้นสูงก็ทำให้เหงื่อโดนขับออกตามมือตามเท้าได้ และอีกอย่างคือ ม้ามพร่องก็อาจจะทำให้เหงื่อออกตามมือตามเท้าได้เช่นกัน เพราะม้ามควบคุมกล้ามเนื้อมือและเท้าค่ะ


สุดท้ายไม่ว่าเราจะมีอาการแปลกๆแบบไหน อย่านิ่งนอนใจนะคะ ควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทำการรักษาต่อไป ด้วยความห่วงใยจาก Green wave 106.5 FM ค่ะ ^^

 

ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็ม

Collector by รุ่งโนรี ’Girl Music & Travel Lover

related HEALTHY LIFESTYLE

ตดเหม็นไม่ใช่เรื่องน่าอาย อาจจะมีอันตรายกับลำไส้

13 ม.ค. 2023

ตดเหม็นไม่ใช่เรื่องน่าอาย อาจจะมีอันตรายกับลำไส้

ตดเหม็นอันตรายไหมการผายลม หรือ การตด ฟังดูแล้วเป็นเรื่องน่าอาย และน่าขบขันไม่น้อย แต่มันก็เป็นเพียงกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกาย ในการขับไล่ลมหรือแก๊สผ่านลำไส้ใหญ่เท่านั้นค่ะ ทุกครั้งที่เรากินอาหาร ดื่มเครื่องดื่ม หรือแม้กระทั่งพูดคุยทั่วไป เรากลืนอากาศเข้าไปด้วย การตดในชีวิตประจำวันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่หลายคนก็ยังคงมีข้อข้องใจว่า ตดบ่อยแค่ไหนเรียกว่าปกติ? ตดดัง และเหม็นเป็นสัญญาณอันตรายเกี่ยวกับสุขภาพหรือไม่? บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับปัญหาการผายลมเหล่านี้เองค่ะตดบ่อยแค่ไหน เรียกว่าปกติ? โดยปกติแล้ว ผู้ที่มีร่างกายอุดมสมบูรณ์และแข็งแรงดี จะตดประมาณ 14 - 23 ครั้งต่อวัน เมื่อใช้เกณฑ์นี้เป็นตัววัดแล้ว การผายลมที่มากกว่า 23 ครั้งภายในหนึ่งวันถือว่าผิดปกติค่ะ โดยความผิดปกตินี้อาจเกิดจากการรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดแก๊สในร่างกายมากเกินไป เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว ชีส กระหล่ำปลี หัวหอม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และน้ำอัดลม หรืออาจเกิดจากภาวะความผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่งภายในร่างกายการผายลมบ่อยมากเกินไปนั้น เป็นสัญญาณที่บ่งบอกสุขภาพภายในได้เป็นอย่างดี ซึ่งภาวะหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับการผายลมมีด้วยกันดังนี้ค่ะ• โรคมะเร็งลำไส้• โรคลำไส้แปรปรวน• ระบบดูดซึมอาหารทำงานผิดปกติ• การแพ้อาหารที่มีส่วนประกอบของแลคโตส (lactose) เช่น นมวัวและโยเกิร์ต• ภาวะที่เกี่ยวของกับกระเพาอาหาร เช่น การที่อาหารเป็นพิษ เราควรหมั่นนับจำนวนครั้งที่เราผายลมในแต่ละวัน เพื่อสังเกตการทำงานที่เกี่ยวข้องกับกระเพาะอาหารและลำไส้ หากมีการผายลมที่บ่อยครั้งเกินไปติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สได้ง่าย แต่หากยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง และหาทางแก้ไขอย่างเร็วที่สุดนะคะตดดังและตดเหม็น อันตรายหรือไม่?การผายลมที่มีเสียงดัง เกิดจากการที่แก๊สถูกขับออกมาด้วยแรงดันอากาศหรือแรงเบ่งที่สูงมาก หรืออาจเกิดจากการที่แก๊สต้องแทรกตัวผ่านกล้ามเนื้อหูรูดที่บีบตัวแน่น เสียงที่มาพร้อมกับการผายลมจึงไม่ได้บ่งบอกถึงความผิดปกติอะไร ส่วนกลิ่นตดนั้น ขึ้นอยู่กับอาหารที่เรารับประทานเข้าไป ส่วนใหญ่แล้วอาหารจำพวกโปรตีนจะก่อให้เกิดแก๊สที่มีกลิ่นเหม็นมาก เช่น อาหารกลุ่มเนื้อสัตว์ ไข่ ชีส และนม รวมไปถึงถั่วชนิดต่างๆด้วย อีกทั้งแก๊สเหล่านี้ต้องเดินทางผ่านลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของอาหาร และกากอาหารที่ถูกย่อยสลายแล้ว จึงมีกลิ่นเหม็นเป็นธรรมดาและไม่ถือว่าเป็นสัญญาณของความผิดปกติของสุขภาพแต่อย่างใด ในแพทย์แผนจีนการที่ตดบ่อย และมีกลิ่นเหม็นมากๆนั้น คืออาการของลำไส้ กระเพาะอาหาร ม้ามทำงานไม่ดี กลิ่นเหม็นยิ่งมาก มักจะมาจากความร้อนชื้น การที่จะลดความร้อนชื้นได้นั้น เราไม่ควรรับประทานเนื้อสัตว์เยอะ ไม่รับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เผ็ดร้อน พยายามดื่มน้ำมากๆ ก็อาจจะช่วยลดอาการตดเหม็นได้ค่ะ ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

รู้หรือไม่? น้ำเย็นทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง

21 ม.ค. 2022

รู้หรือไม่? น้ำเย็นทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง

รู้หรือไม่? น้ำเย็นทำให้ร่างกายไม่แข็งแรงอากาศร้อนๆอย่างนี้จะไม่ให้ดื่มน้ำเย็นได้อย่างไร?คนไทยชอบมากกับการดื่มน้ำเย็นไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบน้ำเปล่า น้ำอัดลมไอศกรีม ที่สำคัญชอบใส่น้ำแข็งเสริมให้เย็นเร็วขึ้นน้ำเย็นไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกายถ้าเรารู้ว่าน้ำเย็นมีผลเสียกับร่างกายอาจจะไม่อยากดื่มสังเกตุได้จากคนอายุมากจะชอบดื่มน้ำอุ่นมากกว่าน้ำเย็นเพราะอะไรเราไปหาคำตอบกันค่ะเมื่อเราดื่มน้ำเย็นจัดในเวลาอันรวดเร็วอาจทำให้เกิดอาการBrain freezeหรืออาการเย็นจี๊ดขึ้นสมองปวดศีรษะไปชั่วขณะได้(คนที่เป็นโรคไมเกรนจะมีโอกาสเกิดอาการนี้ง่ายกว่าคนปกติ)โดยเป็นกระบวนการของสมองที่สั่งการส่งเลือดมาไหลเวียนที่หลอดเลือดบริเวณที่เย็นจัดอย่างเฉียบพลันเพื่อทำให้หลอดเลือดบริเวณนั้นอุ่นขึ้นและขยายหลอดเลือดให้ใหญ่ขึ้นจนไปกระตุ้นประสาทส่วนที่รับรู้ถึงความเจ็บปวดไปด้วยจึงเกิดเป็นอาการปวดศีรษะโดยฉับพลันนั่นเอง แต่ไม่ต้องห่วงค่ะอาการนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาทีและไม่ส่งผลระยะยาวต่อร่างกายใดๆทั้งสิ้นแต่หากจะพูดถึงอันตรายต่อร่างกายในระยะยาวในแพทย์แผนจีนพบว่าการดื่มน้ำเย็นเป็นประจำทำให้ไตกระเพาะปัสสาวะม้ามกระเพาะอาหารทำงานหนักและขาดสมดุลค่ะการดื่มน้ำเย็นเป็นประจำในผู้สูงอายุอาจจะทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น เพราะแพทย์แผนจีนจะกล่าวถึงความเย็นกระทบไตหยางทำให้ปัสสาวะบ่อยและอั้นปัสสาวะไว้ได้ไม่นานปัสสาวะจะเยอะกว่าคนปกติปวดหลังปวดเอวบ่อยๆ เมื่อไตหยางอ่อนแอไตตั้งอยู่บริเวณเอวจะทำให้เมื่อยหลังเมื่อยเอวตลอดเวลาเข่าอ่อนขาไม่มีเรียวแรงปวดเมื่อยตามร่างกายโดยเฉพาะตามข้อต่างๆเช่นเข่าศอกข้อนิ้ว เพราะความเย็นในน้ำเย็นทำให้กระเพาะอาหารและม้ามอ่อนแอม้ามคุมกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายถ้าหากม้ามอ่อนแอลง จะมีอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อแนะนำให้ประคบร้อนทำให้กล้ามเนื้ออุ่นขึ้นจะช่วยลดปวดได้ค่ะท้องอืดท้องเฟ้อย่อยอาหารได้ช้าลง ไขมันในอาหารจับตัวเป็นไขกระเพาะอาหารทำงานหนักขึ้นใช้เวลาย่อยนานขึ้นในแพทย์แผนจีนจะพูดถึงเรื่องม้ามและกระเพาะอาหาร มีความอ่อนแอลงทำให้การย่อยได้ช้าเกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้ออาหารไม่ย่อยหลักแพทย์แผนจีนการดื่มน้ำเย็นจะทำให้พลังหยางในร่างกายลดลงจะทำให้หนาวง่ายปัสสาวะบ่อยมือเท้าเย็นด้วยนะคะแนะนำให้หลีกเลี่ยง ไม่ควรดื่มมากเกินไปควรดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้องแทนการดื่มน้ำเย็นจัดและควรรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำควบคุมอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย ออกกำลังกายสม่ำเสมอและพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อปรับการทำงานของอวัยวะภายในช่วยให้ไตม้ามกระเพาะแข็งแรงยิ่งขึ้น เมื่ออวัยวะในร่างกายแข็งแรงจะช่วยให้เราสู้กับโรคที่เข้ามาโจมตีเราได้ค่ะขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะFacebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’GirlMusic Travel Lover

เติมความหวาน กับ 5 ร้านโกโก้เข้มข้น

18 ก.ค. 2022

เติมความหวาน กับ 5 ร้านโกโก้เข้มข้น

“ความหวาน ในใจฉันเหมือนมันต่ำไป” ไปเติมกันหน่อยดีกว่าค่ะ วันนี้กรีนเวฟมีร้านโกโก้มาให้ทุกคนเลือกไปเติมความหวานกัน ขอบอกนะคะว่าโกโก้นอกจากเป็นเครื่องดื่มและขนมที่แสนอร่อยแล้วยังมีประโยชน์มาก ๆ เพราะมีสารที่มีประโยชน์เต็มไปหมดเลยค่ะ ช่วยให้คลายเครียด และยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูงด้วย แต่ละร้านที่กรีนเวฟเลือกมาฝากขอบอกว่าคับแก้วมากๆมาค่ะ ไปเริ่มกันที่ร้านแรกกันเลย1. Butter UP Cafeคาเฟ่ขนมหวาน กาแฟ และเครื่องดื่มในบรรยากาศแสนอบอุ่น ย่านเมืองทองธานี มีเมนูโกโก้เข้มข้น พร้อมขนมที่คนรักช็อคโกแลตจะต้องหลงรัก กับ Salted caramel chocolate tart ทาร์ตช็อคโกแลต แป้งโฮมเมด บางกรอบ สอดไส้ด้วยซอลท์คาราเมล และช็อคโกแลตกานาช ทานคู่กับโกโก้ ฟินมากค่ะที่อยู่ : ซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 29 เข้ามา 100 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ ตรงสามแยกเวลาเปิด – ปิด : 09:00 - 19:00 น. ปิดวันพุธโทรศัพท์ : 099-4247996ขอบคุณภาพจาก : https://www.facebook.com/butterupcafe/2. Under Black Coffeeคาเฟ่สไตล์เท่ๆ กับโกโก้เข้มๆ ที่ทางร้านนำมากจากจังหวัดเชียงราย จะทำให้คุณได้พบกับช็อกโกแลตไทย ที่มีคุณภาพ และพบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ กับรสชาติไปทาง ผลไม้สด ดอกไม้ ไวน์และมีถั่วเล็กน้อย ทำให้เครื่องดื่มออกมาสดชื่น ไปลองชิมกันได้นะคะมี 3 สาขาค่ะ ทาวน์อินทาวน์, ลาดพร้าว, เกษตร-เสนาที่อยู่ : ทาวน์อินทาวน์, ลาดพร้าว, เกษตร-เสนาเวลาเปิด – ปิด : 07.00-19.00 น.โทรศัพท์ : ทาวน์อินทาวน์ 093-5424655, ลาดพร้าว 101 063-5544991,เกษตร-เสนา 095-4466224ขอบคุณภาพจาก: https://www.facebook.com/UnderBlackCoffee/3. Midnight A Cocoaร้านโกโก้ขวัญใจคนนอนดึก มาพร้อม 3 ระดับให้เลือกตามความเข้มข้น กับ 3 สาขาให้ไปเลือกเติมความหวาน เจริญกรุง 86, สายไหม หทัยราษฎร์7, สี่เเยกบ้านเเขก ที่มาพร้อมสโลแกน “ความสุข คือ กำไร จ่ายแบงก์ 50 คือ จุดขาย” คุณผู้ฟังคนไหนเลิกงานดึกๆ แวะไปเติมความหวาน ให้หายเหนื่อยได้ตามสาขาใกล้บ้านเลยนะคะที่อยู่ : เจริญกรุง 86, สายไหม หทัยราษฎร์7, สี่เเยกบ้านเเขกเวลาเปิด – ปิด : 20.00-24.00 น.โทรศัพท์ : 080-0766767ขอบคุณภาพจาก: https://www.facebook.com/midnightacocoa4. Frank Cake Barร้านโกโก้ดังย่านอารีย์ ทางร้านใช้ผงโกโก้นำเข้าจากยุโรป มีให้เลือก 2 สูตร สูตรแรก ออริจินัล โกโก้มีความหวานกลาง(25%) รสชาติทานง่าย สำหรับทุกเพศทุกวัย ส่วนดาร์คโกโก้ ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยการถอดความหวานและเพิ่มปริมาณโกโก้ ทำให้มีลักษณะเหนียวหนืดกว่าและไม่มีความหวานเลย(0%) ถูกใจสายโกโก้เข้มข้นเลยค่ะที่อยู่ : 46 ซ.อารีย์ 1 สามเสนใน พญาไท กทมเวลาเปิด – ปิด : 9:30-18:00โทรศัพท์ : 088-5770502ขอบคุณภาพจาก: https://www.linktr.ee/frankcakebar5. โกโก้ร้านไอ้ต้นร้านนี้มีความเข้มข้น 3 ระดับให้เลือกค่ะ เริ่มตั้งแต่ “ละอ่อน”สำหรับคนที่ชอบทานโกโก้เข้มๆ แต่ก็ยังรักในความหวาน, “เข้ม” จะมีความขมมากกว่าระดับแรก แต่ก็ยังมีความหวาน เหมาะสำหรับสายกลาง และ “โคตรเข้ม” สำหรับท่านที่ชอบความขม เข้มของรสชาติโกโก้ ความหวานจะน้อยลงกว่าเดิม สายเข้มห้ามพลาดเมนูนี้ค่ะที่อยู่ : สายไหม, เจริญกรุง86, สี่แยกบ้านแขกเวลาเปิด – ปิด : 17.00-22.00 น. ปิดทุกวันจันทร์โทรศัพท์ : 088-3381788, 081-4560172ขอบคุณภาพจาก: https://www.facebook.com/cocoaiton/เติมความหวาน กับ 5 ร้านโกโก้เข้มข้นแล้ว อยากได้เพลงหวานๆเพิ่ม ขอได้ที่ https://atime.live/greenwave/live และ App Atime Fungfin ได้เลยนะคะ เพลงดีดี กับความรู้สึกดีดีรอคุณอยู่ที่ Green Wave 106.5 fm ค่ะ ^^Collector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

ฝันร้าย ผลเสียของร่างกาย

22 ธ.ค. 2022

ฝันร้าย ผลเสียของร่างกาย

ใครฝันร้ายบ่อยๆ แสดงถึงสุขภาพไม่ดีฝันร้ายเป็นภาวะที่เกิดขึ้นขณะนอนหลับ คนที่ฝันร้ายเรื้อรังจะทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆได้ด้วย เช่น โรคซึมเศร้า โรคหัวใจ โรคปวดหัวไมเกรน หลายคนถึงขนาดมีภาวะอ้วนดังนั้นผู้ที่ประสบภาวะวิตกกังวล หรือเป็นโรคซึมเศร้าด้วย อาจจะชอบฝันเป็นประจำ ถ้าหากผู้ที่ฝันร้ายอันเป็นผลจากการเป็นโรคไม่ได้รับการรักษา ป่วยเป็นโรคเครียดหลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ อาจจะมีปัญหาของภาวะหยุดหายใจในขณะหลับได้ มีผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ เนื่องจากภาวะดังกล่าวจะส่งผลต่อคุณภาพการใช้ชีวิตทำไมถึงชอบฝันร้ายฝันร้ายจัดเป็นภาวะของการนอนหลับที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน อาจจะมีปัจจัยดังนี้ค่ะคนที่ชอบรับประทานอาหารก่อนเข้านอนผู้ที่รับประทานอาหารหรือขนมก่อนเข้านอนอาจหลับฝันร้ายได้ เนื่องจากการรับประทานอาหารก่อนนอนส่งผลให้การทำงานของระบบเมตาบอลิซึมเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังส่งสัญญาณให้สมองตื่นตัวมากกว่าเดิม ในแพทย์แผนจีนจะพูดถึงม้ามไม่แข็งแรง ถ้าหากรับประทานอาหารจะทำให้ท้องอืด ลมตีขึ้นกระทบหัวใจ ทำให้นอนไม่หลับ และฝันร้ายเสมอๆค่ะเจ็บป่วย ผู้ที่ล้มป่วยและมีไข้ร่วมด้วยอาจฝันร้ายได้คนที่นอนบ่อยๆเป็นประจำ จะทำให้หัวใจพร่อง ก็จะทำให้ฝันร้ายได้เช่นกันนอนน้อย การนอนหลับไม่เพียงพอก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฝันร้ายได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่อาจชี้ชัดได้ว่าการนอนน้อยจะทำให้เกิดการฝันร้ายจนส่งผลต่อปัญหาสุขภาพ การนอนน้อยในแพทย์แผนจีนจะทำให้หัวใจร้อน และทำให้ฝันร้ายบ่อยๆดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินไป นับเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะฝันร้ายแพทย์แผนจีนพูดถึงการนอนหลับฝันว่าอย่างไร?ความฝันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ฝันร้ายเป็นประจำ อาจจะกลายเป็นความผิดปกติ ซึ่งอาจจะบ่งบอกถึงสภาวะการทำงานต่างๆของอวัยวะภายในร่างกาย เกี่ยวกับ หัวใจ ม้าม ไต และตับ ซึ่งในทางการแพทย์แผนจีน ให้มุมมองเกี่ยวกับการนอนหลับว่าเป็นการสร้างสมดุลให้กับร่างกายของเราให้แข็งแรง เป็นการพักผ่อนของวัน แต่ถ้าหากเราเกิดอาการนอนไม่หลับหรือฝันเป็นประจำ หรือฝันร้ายทุกคืน ก็อาจจะเป็นอาการที่สามารถบ่งบอกความผิดปกติของอวัยวะภายในเหล่านี้ได้ค่ะและถึงแม้ว่าเรื่องของการนอน และการหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ เป็นเรื่องที่สามารถสร้างสมดุลให้กับร่างกาย ช่วยให้ร่างกายเราสดชื่น มีพลังงาน สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับบางคน สิ่งนี้กลับกลายเป็นปัญหา เนื่องจากบางคนอาจจะเกิดอาการเหนื่อยล้าจากการนอนหลับพักผ่อน ซึ่งถึงแม้ว่าจะนอนหลับมาแล้ว 8 - 10 ชั่วโมง มีความฝัน และทำให้นอนไปรู้สึกไม่เพียงพอ หรือว่าบางคนอาจจะนอนมากจนเกินไปแต่สุดท้ายแล้ว ก็ยังคงรู้สึกง่วง อยากนอนอยู่ตลอดเวลา บางคนเกิดอาการนอนไม่หลับ ซึ่งอาจจะมีสาเหตุหลักมาจากเป็นปัญหาที่ตับการถูกกระตุ้นด้วยอารมณ์โกรธหรือโมโห ทำให้สภาวะสมองแปรปรวนแสดงว่าเป็นปัญหาที่ตับเป็นปัญหาที่ม้ามกระเพาะอาการอาหารไม่ย่อย ทำให้ระบบย่อยทำงานมากขึ้นในระหว่างที่เรากำลังนอน รวมไปถึงการกินดึกจนเกินไป จนทำให้ระบบย่อย ซึ่งทางการแพทย์แผนจีนจะเรียกการนอนไม่หลับจากสาเหตุที่อาหารไม่ย่อย มีการตกค้างของอาหารเป็นต้นเหตุเป็นปัญหาที่หัวใจเกิดจากความวิตกกังวลหรือจิตใจหมกมุ่นกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งจนเกินไปจนกระทบกระเทือน ต่อม้าม ซึ่งเป็นอวัยวะที่ควบคุมระบบการย่อย ทำให้พลังและเลือดจะลดลงจนไม่สามารถย่อยอาหาร หรือดูดซึมได้อย่างเต็มที่ ไม่สามารถส่งพลังไปยังหัวใจ ทำให้หัวใจอ่อนแอเป็นปัญหาที่ถุงน้ำดีและหัวใจในแพทย์แผนจีน หัวใจและถุงน้ำดี ซึ่งจะส่งผลต่อการควบคุมความฝันโดยตรง ซึ่งอาจจะทำให้เราฝันร้ายบ่อยๆ จนทำให้เกิดอาการหวาดกลัวในการหลับ เช่น ไม่กล้านอนคนเดียว หรือมีภาวะจิตประสาท เป็นสภาวะที่จะทำให้นอนไม่หลับทั้งคืน บางคืนอาจจะมีอาการป่วยทางจิต มีอาการร้องไห้สลับกับหัวเราะ ซึ่งอาจจะมีปัจจัยแวดล้อม หรือเกิดมาจากสาเหตุต่างๆจนทำให้เกิดโรคจิตประสาทได้เช่นกันแล้วเราจะป้องกันภาวะฝันร้ายแบบนี้ได้อย่างไรสร้างสุขลักษณะการนอนการสร้างสุขลักษณะที่ดีในการนอนหลับ จะช่วยให้ไม่หลับฝันร้าย ควรเริ่มเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรงีบหลับระหว่างวัน ในกรณีที่ไม่ได้ป่วยหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ทั้งนี้ไม่ควรรับประทานอาหารหรือออกกำลังกายตอนช่วงใกล้เข้านอน และเลี่ยงการอ่านหนังสือหรือดูภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาน่ากลัวออกกำลังกายผู้ที่ฝันร้ายจากอาการวิตกกังวล หรือความเครียดควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อบรรเทาภาวะฝันร้าย โดยอาจเลือกเล่นโยคะหรือทำสมาธิ เพื่อช่วยให้จิตใจสงบขึ้นจัดสภาพแวดล้อมสำหรับการนอนให้หน้านอนควรจัดห้องนอน และเตียงนอนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนเลี่ยงและจำกัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีน เนื่องจากสารกระตุ้นทั้งสองอย่างอาจตกค้างอยู่ในร่างกายมากกว่า 12 ชั่วโมง ส่งผลให้รบกวนการนอนได้ฝันดี ฝันร้าย บ่งบอกถึงสุขภาพได้อย่างไรแพทย์แผนจีนกล่าวถึงความฝันของคนเราเอาไว้ว่า ความฝันสัมพันธ์กับหัวใจ กำกับสติและความรู้สึกนึกคิด ถ้าหัวใจพร่อง เลือดไม่พอ อินพร่อง หยางพร่องก็ทำให้หัวใจ ขาดพลัง ทำให้หัวใจมีปัญหา และทำให้สติและความรู้สึกนึกคิดของเรามีปัญหาด้วย ฉะนั้นการรักษาฝันต้องพึ่งการนอนหลับให้ดี ลดความกังวล บำรุงเลือด และลดไฟในหัวใจ แต่ถ้าเรามีภาวะจิตใจว้าวุ่นแปรปรวนมาก ทำให้สติและความรู้สึกนึกคิดทำให้เกิดความฝัน ทำให้ระบบประสาทตื่นตัวจนมีความฝันเกิดขึ้น ขาดความสดชื่น ขาดพลังสติปัญญา ทำให้รู้สึกอ่อนล้า อ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา ซึ่งลักษณะของความฝันเป็นประจำ ทำให้หัวใจอ่อนล้า และอาจจะทำให้เกิดความผิดปกติของอวัยวะภายในต่างๆได้อีกด้วยค่ะใครฝันร้ายบ่อยๆ อาจจะไม่ได้น่ากลัวแค่ในฝันแล้วนะคะ เพราะแสดงถึงสุขภาพที่ไม่ดี ต้องรีบดูและเรื่องการนอนพักผ่อนให้เพียงพอนะคะ ถ้านอนไม่หลับเปิดฟัง Green Wave ฟังก่อนนอนได้นะคะ Zzzขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

album

0
0.8
1