ยีนส์ทรงนี้ ดีกับหุ่นไหมนะ

HEALTHY LIFESTYLE

ยีนส์ทรงนี้ ดีกับหุ่นไหมนะ

10 เม.ย. 2024

สวัสดีสาว ๆ วันนี้เราจะมาพูดถึงกางเกงยอดฮิตที่ทุกบ้านต้องมี นั่นก็คือ “กางเกงยีนส์”

เชื่อว่าทุกคนต้องมีกางเกงยีนส์กันอยู่แล้ว แต่บางคนคงเลือกที่จะพับเก็บเข้าตู้ไปเพราะอาจจะคิดว่าหุ่นเราไม่เหมาะกับกางเกงยีนส์ ใส่แล้วไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง หรือบางคนอยากใส่กางเกงยีนส์แต่ไม่รู้ว่ากางเกงยีนส์แบบไหนจะเหมาะกับเรานะ วันนี้เรามีคำตอบมาให้

 

เรามาเริ่มกันที่เช็ครูปร่างตัวเองกันว่าหุ่นเราเป็นทรงไหนกันนะ

ขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ : https://i.pinimg.com

 

1.หุ่นทรงแอปเปิ้ล ( Apple Shape ) ลักษณะคือมีรูปร่างเป็นทรงกว้าง หน้าอก เอว สะโพกมีขนาดเท่ากัน

2.หุ่นทรงลูกแพร์ ( Pear Shape ) ลักษณะคือช่วงบนเล็กกว่าช่วงล่าง เอวเล็ก แต่มีสะโพกและต้นขา

3.หุ่นทรงสามเหลี่ยมคว่ำ (Triangle Shape) ลักษณะคือช่วงบนใหญ่กว่าช่วงล่าง ไหล่กว้าง แต่ช่วงสะโพกจะมีขนาดเล็ก

4.หุ่นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า (Rectangle Shape) ลักษณะคือช่วงบนและล่างมีขนาดเท่ากัน

ไม่มีเอว รูปร่างตรง

5.หุ่นทรงนาฬิกาทราย (Hourglass Shape) ลักษณะคือมีความสมดุลระหว่างช่วงบนและช่วงล่าง เอวคอด ดูมีอก มีสะโพก

 

เมื่อทุกคนรู้จักรูปร่างตัวเองแล้วต่อไปเรามาเลือกกางเกงยีนส์กันดีกว่า

 

กางเกงยีนส์ที่เหมาะสำหรับหุ่นแอปเปิ้ล

ทรงขากระบอกใหญ่ , ทรงขาบาน,ทรงขาม้า

- ควรเน้นกางเกงยีนส์เอวสูงหรือกางเกงยีนส์ที่มีช่วงขอบเอวกว้าง เพราะขอบเอวกว้างๆนั้นจะช่วยในการเก็บหน้าท้องให้เข้ารูปได้ดีมากขึ้น

- ไม่ควรกางเกงยีนส์ที่บีบช่วงขามาก ๆ อย่างเช่นกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ เพราะการที่ใส่กางเกงยีนส์ที่บีบช่วงขา จะทำให้ลำตัวดูใหญ่ขึ้น

 

 

กางเกงยีนส์ที่เหมาะสำหรับหุ่นลูกแพร์

ทรงขากระบอกใหญ่ , ทรงขาบาน,ทรงขาม้า

- ควรเน้นกางเกงยีนส์สีทึบหรือสีเข้ม เพราะจะช่วยอำพรางสะโพกและเลือกกางเกงยีนส์ที่ช่วยกระชับสะโพกได้ดี อย่างกางเกงยีนส์เอวปกติหรือเอวสูง เพราะเก็บสะโพกได้ดีและเอวดูเล็กลง

- ไม่ควรเลือกกางเกงยีนส์ที่รัดต้นขาหรือรัดรูปร่าง เช่น ทรงสกินนี่ เพราะจะทำให้ต้นขาและสะโพกชัดเกินไป

 

 

กางเกงยีนส์ที่เหมาะสำหรับหุ่นสามเหลี่ยมคว่ำ

ทรงขาม้า,ทรงบอย,ทรงขาบาน,ทรงขากระดิ่ง

- ควรเลือกกางเกงยีนส์ที่มีสีอ่อนกว่าเสื้อ เพราะจะช่วยทำให้สะโพกออกมาดูเด่นมากขึ้น และสวมเสื้อที่สีเข้มเพราะว่าจะช่วยอำพรางไหล่ที่กว้างของเราได้ 

- ไม่ควรเลือกกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่เพราะจะทำให้สะโพกดูแคบกว่าเดิม

 

 

กางเกงยีนส์ที่เหมาะสำหรับหุ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า

ทรงสกินนี่, ทรงขาม้า, ทรงกระบอกเล็ก, ทรงขาบาน

- ควรเลือกกางเกงยีนส์เอวปกติหรือเอวต่ำและกางเกงยีนส์ควรมีลูกเล่นตรงช่วงสะโพกเพราะจะช่วยเพิ่ม volume ให้กับสะโพก ทำให้เราดูมีสะโพกมากขึ้น

- ไม่ควรใส่กางเกงยีนส์เอวสูง จะทำให้เอวเด่นเกิน และทำให้เราดูไม่มีส่วนเว้าโค้ง

 

 

กางเกงยีนส์ที่เหมาะสำหรับหุ่นนาฬิกาทราย

ทรงสกินนี่,ทรงขาม้า,ทรงกระบอกเล็ก,ทรงขาบาน,ทรงกระบอกใหญ่

- ควรใส่กางเกงยีนส์เอวปกติหรือเอวสูง จะช่วยทำให้ขาดูยาวสวยขึ้น และกางเกงยีนส์เอวสูงจะช่วยให้ช่วงเอวเห็นชัดขึ้น จากที่เอวคอดอยู่แล้วก็จะทำให้เอวเราชัดกว่าเดิม

- ไม่ควรสวมกางเกงยีนส์เอวต่ำ เพราะจะทำให้สะโพกดูใหญ่และทำให้ขาสั้นลงอีกด้วย

 

...............................................................................

 

ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วลิสต์กันไว้หรือยังว่ากางเกงยีนส์ทรงไหนเหมาะกับเราบ้าง นอกจากจะได้กางเกงที่เหมาะกับแล้วเรายังได้เช็ครูปร่างตัวเองอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าเราจะมีรูปร่างแบบไหน ชอบเสื้อผ้าแบบไหน ขอแค่เรามั่นใจในตัวเองมั่นใจกับสิ่งที่เสื้อผ้าที่เราใส่แค่นี้ก็พอแล้วว Have a good day นะคะ :)

related HEALTHY LIFESTYLE

5 หนังสือดีที่ทุกคนควรมีโอกาสได้อ่านสักครั้งหนึ่งในชีวิต

13 ม.ค. 2024

5 หนังสือดีที่ทุกคนควรมีโอกาสได้อ่านสักครั้งหนึ่งในชีวิต

อ่านหนังสือวันละนิด เข้าใจชีวิตวันละหน่อย เพราะหนังสือเป็นการสื่อสาร 2 ทางระหว่างผู้เขียนที่ต้องการสื่อสารผ่านตัวหนังสือ และผู้อ่านที่สามารถนำแนวคิดต่าง ๆ ไปปรับใช้ในชีวิตจริง วันนี้เราจึงอยากนำเสนอ 5 หนังสือดีที่ทุกคนควรมีโอกาสได้อ่านสักครั้งหนึ่งในชีวิต1.ไม่ว่าคุณจะคิดอะไร ให้คิดตรงข้าม (Whatever You Think, Think the Opposite)http://news.se-ed.com/?p=13034“ไม่ว่าคุณจะคิดอะไร ให้คิดตรงข้าม” ไม่ได้ความว่าสิ่งที่คุณกำลังคิดอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ผิดแต่หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณเข้าใจมากขึ้นว่า ทุก ๆ คนก็คิดเหมือนกันและสิ่งที่จะทำให้เราโดดเด่นและสามารถประสบความสำเร็จได้นั้นคือ การคิดที่แตกต่างไปจากเดิม ทำให้คุณได้ลองคิด ได้ลองทำอะไรแปลกใหม่มากขึ้นนั้นเอง2. Super Productivehttp://news.se-ed.com/?p=13034หนังสือที่ถอดความคิดของ “รวิศ หาญอุตสาหะ” ผู้บริหารและเจ้าของพอดแคสต์ Mission the moon และ Super Productive ซึ่งเป็นพอดแคสต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ที่จะพาคุณไปค้นหาแรงจูงใจในการทำงาน การรู้จักตัวเอง ภาวะหมดไฟแบบปลอม ๆ รวมถึงการรับมือกับคน Toxic ที่ผู้เขียนได้ปฏิบัติและสำเร็จมาแล้ว3. Atomic Habitshttps://www.naiin.com/product/detail/508699หนังสือที่ขายดีระดับโลกที่มียอดขายหลายล้านเล่ม ถูกตีพิมพ์ไปแล้วกว่า 40 ภาษา เป็นหนึ่งใน “New York Times Bestseller” เป็นหนังสือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนิสัย ที่มองว่าการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ที่สามรถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่โดยการนำหลักการทางวิทยาศาสตร์มาให้ในการอธิบาย หากคุณพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองแต่ยังไม่สำเร็จสักที หนังสือเล่มนี้ช่วยคุณได้อย่างแน่นอน4. Sapiens ประวัติย่อมนุษยชาติhttps://www.fathombookspace.co/product/19082-15734/sapiens-a-brief-history-of-humankindหนังสือที่รวบรวมของมวลมนุษยชาติ Homo Sapiens กว่า 70,000 ปีเอาไว้อย่างย่อ ๆ ให้เราเข้าใจถึงที่มาที่ไปของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็น วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ศาสนา ไปจนถึงการวิวัฒนาการมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เราในฐานะมนุษย์คนหนึ่งจะเข้าใจชีวิตมากขึ้นว่าเราก็แค่มนุษย์ตัวจิ๋วคนหนึ่งที่ยังมีสิ่งที่เรายังไม่รู้อีกมาก5. อย่าปล่อยให้ใคร ฆ่า วาฬ ของคุณhttps://clubsister.com/lifestyle/5-recommend-books-for-officerอีกหนึ่งหนังสือของเจ้าของพอดแคสต์ Mission to the moon และผู้บริหารที่ทำให้บริษัทศรีจันทร์เครื่องสำอางไทยสู่สากล หนังสือเล่มนี้จำทำให้ไฟฝันของคุณกลับมาลุกโชนอีกครั้ง เมื่อคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้ไปเรื่อย ๆ คุณจะเข้าใจเองว่า “วาฬ” ที่หน้าปกหนังสือนั้นคืออะไร แล้วการประสบความสำเร็จและการเอาชนะคนที่เรารู้สึกว่าเก่งนั้นจะไม่ได้เป็นเรื่องยากอีกต่อไปการอ่านหนังสือ แท้จริงเราคือการเรียนรู้ และเข้าใจในตัวตนของเราผ่านหนังสือที่เราอ่าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางที่ช่วยพัฒนาทักษะในการดำเนินชีวิตของเรา เพราะการอ่านหนังสือต้องใช้ทั้งสมาธิ และการประมวลผลที่เป็นระบบทำให้เราสามารถผ่อนคลายจากปัญหาที่เราพบเจอมาในแต่ละวันได้ อีกทั้งการอ่านหนังสือยังไปกระตุ้นการทำงานของสมอง ที่ชะลอและป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์อีกด้วยAuthor : NUTTANON.S

ทำยังไงให้ไตแข็งแรง

11 มี.ค. 2024

ทำยังไงให้ไตแข็งแรง

1.รักษาระดับอารมณ์ ให้คงที่อยู่เสมอแพทย์แผนจีนกล่าวไว้ว่า ความกลัวทำร้ายไต คนที่เป็นโรคไตไม่ควรเครียด ต้องทำจิตใจให้สงบ ทำให้สดชื่น รู้จักผ่อนคลาย คนที่มีปัญหาทางด้านไต จะเป็นคนที่หงุดหงิดง่าย อารมณ์เสียบ่อย น้อยใจง่าย2.ไม่หักโหมกับการทำงานการทำงานหามรุ่งหามค่ำ เป็นบ่อเกิดแห่งความเครียด และการพักผ่อนน้อย ทำให้สมองแล่นตลอดเวลา การที่สมองเราเแล่นตลอดเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน จะทำให้เราสูญเสียพลังชี่และพลังจิงที่บำรุงสมองไตเป็นอวัยวะที่สร้างสารจิงไปเลี้ยงสมองสมองคิดช้า เพราะไตไม่สามารถส่งสารจิงไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ คนที่มีปัญหาทางไตจะมีอาการคิดอะไรช้า คิดไม่ออก และเครียดง่ายค่ะ3.อย่าให้ระบบทางเดินอาหารขาดสมดุลคนที่มีปัญหาระบบไตพลังจากไตจะไม่ส่งผลไปที่กระเพาะอาหารและม้าม จะทำให้มีอาการท้องอืดบ่อยถ่ายไม่ออกคลื่นไส้ง่าย อาการเหล่านี้เป็นเพราะในแพทย์แผนจีนไตกำกับปัสสาวะและอุจจาระการที่ไตไม่มีพลังชี่เพียงพอกับการขับปัสสาวะจะทำให้ปัสสาวะออกช้ากระปิดกระปอยออกน้อยไม่สุดปัสสาวะกลางคืนบ่อยถ้าหากไตไม่มีพลังชี่ไปขับอุจจาระ จะท้องผูกง่ายท้องอืดบ่อยเหนื่อยง่ายการบำรุงไต ได้ด้วยวิธีง่ายๆ1.ถูเอวบำรุงไตการถูให้ความร้อนบริเวณเอวบ่อยๆจะช่วยเสริมพลังหยางให้กับไต เหมาะสำหรับปัสสาวะบ่อยเวลากลางคืน2.นวดท้องน้อยเพิ่มพลังชี่นวดบริเวณใต้สะดือ จะช่วยกระตุ้นการขับถ่ายให้ดีขึ้นค่ะ3.นวดใบหูเสริมไตให้แข็งแรงการนวดใบหูให้นวดจากบนลงล่าง จะช่วยสะท้อนจุดต่างๆของใบหู เสริมร่างกายและเสริมพลังไตได้ค่ะนอกจากดูแลใจแล้วอย่าลืมดูแลไตด้วยนะคะ เพราะไตถือเป็นอีกหนึ่งอวัยวะที่สำคัญมาก ทำหน้าที่ขับของเสียออกจากร่างกายดังนั้นการดูแลไตจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องให้ความสำคัญไม่แพ้ใจเลยค่ะ ^^ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

เช็ก Personal Color ที่ใช่กับผิวของเรา

29 มี.ค. 2023

เช็ก Personal Color ที่ใช่กับผิวของเรา

คงเป็นปัญหาสำหรับหลาย ๆ คนไม่ใช่น้อย เวลาจะเลือกสีเสื้อผ้า สีเครื่องประดับ หรือแม้แต่สีของเครื่องสำอางบางทีเราก็ไม่รู้ว่าสีไหนที่เข้ากับเรา เพราะสีบนโลกในนี้มีเยอะมากกกกกกก ก.ไก่ล้านตัวเวลาจะเลือกหยิบมาใช้ทีก็ต้องดูแล้วดูอีกว่าเข้ากับเราไหมแล้วต้องมาลุ้นมาว่ารอด หรือจะพัง TTวันนี้กรีนเวฟจะมาทุกคนไปเช็ค Personal Color หาสีที่ใช่! ค้นสีที่โดน! กับเรามากที่สุด ตามไปดูกันเลยPersonal Color คืออะไร ?Personal Color คือสีประจำตัวที่มีความเหมาะสมกับโทนผิวของเรา เชื่อกันว่าแต่ละคนมีสีที่เข้าตัวเองแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งสีที่เหมาะที่สุดของแต่ละคนจะช่วยขับผิวให้ดูเปล่งปลั่ง มีออร่ามากขึ้น และยังช่วยเสริมเสน่ห์ให้เราได้อีกด้วยเช็ก Personal Color ด้วย Undertone ของสีผิวแต่เหนือสิ่งอื่นใด เราต้องรู้ก่อนว่าผิวแบบเรา อยู่ใน Undertone สีผิวแบบไหน ซึ่งการรู้ Undertone ของสีผิวเรานั้นมีประโยชน์ต่อการเลือกสีมาก ไม่ว่าเลือกรองพื้น หรือเลือกสีเสื้อผ้า วิธีเช็กโทนสีผิวก็ง่ายมากมีอยู่ 3 วิธี1. เช็กจากสีเส้นเลือดที่ข้อมือ ถ้าเส้นเลือดที่ข้อมือเป็น สีม่วงหรือสีน้ำเงิน แสดงว่า Undertone ผิวของเราอยู่ใน Cool undertonesหรือ ผิวโทนชมพูถ้าเส้นเลือดที่ข้อมือเป็น น้ำเงินหรือสีเขียว แสดงว่า Undertone ผิวของเราอยู่ใน Neutralundertones หรือ ผิวโทนธรรมชาติ ผิวกลางและถ้าเส้นเลือดที่ข้อมือของเราเป็น สีเขียวหรือสีเขียวขี้ม้า แสดงว่า Undertone ผิวของเราอยู่ใน Warmundertones หรือผิว โทนเหลือง2. เช็กจากสีผิวหลังออกแดดโดนแดดแล้ว ผิวคล้ำ แสดงว่า Undertone ผิวของเราอยู่ใน สีผิวโทนอุ่นโดนแดดแล้ว ผิวเป็นสีแดง แสดงว่า Undertone ผิวของเราอยู่ใน สีผิวโทนเย็น3. เช็กจากเครื่องประดับสีเงิน และ เครื่องประดับสีทองใส่เครื่องประดับทองแล้วดูผ่อง แสดงว่า Undertone ผิวของเราอยู่ใน สีผิวโทนอุ่นใส่เครื่องประดับเงินแล้วดูผ่อง แสดงว่า Undertone ผิวของเราอยู่ใน สีผิวโทนเย็นPersonal Color ที่เหมาะกับเราโดยศาสตร์ของ Personal Color นี้ แต่ละโทนก็จะแบ่งออกเป็นชื่อฤดู มีทั้งหมด 4 ฤดู ได้แก่ Spring, Autumn, Summer และ Winter ซึ่งหลังจากที่เราเช็ก Undertone ของสีผิวทั้ง 3 ข้อเรียบร้อยแล้ว เราก็จะสามารถรู้ได้เลยว่าโทนผิวของเรา อยู่ในฤดูไหนบ้างสีผิวโทนอุ่น จะอยู่ในกลุ่ม Spring และ Autumnสีผิวโทนเย็น จะอยู่ในกลุ่ม Summer และ Winterโดยแต่ละฤดูก็จะมีคาแรคเตอร์ต่างกันชัดเจนSpring – สีโทนอุ่นที่มีความอ่อน สว่างสดใส ให้ลุคที่น่ารักและร่าเริงAutumn – สีโทนอุ่นที่มีความเข้ม แนวเอิร์ธโทน ให้ลุคที่เป็นธรรมชาติและดูสุขุมนุ่มลึกSummer – สีโทนเย็นที่มีความอ่อน แนวพาสเทล ให้ลุคที่ดูอ่อนโยนและน่าทะนุถนอมWinter – สีโทนเย็นที่มีความเข้ม สีค่อนข้างสด ให้ลุคที่คมเข้มและดูเท่เป็นยังไงกันบ้างกับการสอนเช็ก Personal Color ในวันนี้ เชื่อหว่าหลายคนคงเริ่มจับทางถูกกันแล้วใช่ไหม ว่าโทนผิวแบบเราเหมาะกับสีแบบไหน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่อยากให้ยึกติดสีประจำตัวมากเกินไป แต่อยากให้ลองใช้เทคนิคนี้เอาไปปรับใช้ ให้เข้ากับตัว เลือกสีที่คิดว่าใช่และโดน สำหรับตัวเองให้มากที่สุด เราจะได้สนุกทุกครั้งที่ได้แต่งตัว หรืออาจจะพบเสน่ห์ของตัวกับสีอื่น ๆ ด้วยก็ได้ เพราะอย่างที่บอก สีบนโลกนี้มีเยอะมากกกก ถ้าเราจะใส่หรือใช้อยู่แค่ไม่กี่สี ก็คงจะเสียดายน่าดูว่าแล้วก็ต้องรีบไปอัพเดทเสื้อผ้าใหม่ซะหน่อย วันหลังถ้าเรีนเวฟมีทริคหรือเคล็ดลับอะไรดี ๆ จะมาบอกเพื่อน ๆ อีกนะ ^^

LUCID DREAM ความฝันที่รู้ตัว

28 เม.ย. 2024

LUCID DREAM ความฝันที่รู้ตัว

วันนี้เราจะมาพูดถึงทฤษฎีนึงที่ที่หลายคนอาจจะรู้จักนั่นก็คือ ลูซิดดรีม (Lucid Dream)ต้องขอถามก่อนว่าทุกคนเคยจำความฝันตัวเองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม ?เราขอเดาว่ามันอาจจะมีส่วนใหญ่ก็อาจจะพอจำได้แต่คงไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือบางคนอาจจะจำไม่ได้เลย แต่ทุกคนรู้ไหมว่ามีผู้คนบางกลุ่มที่สามารถรู้ว่าตัวเองกำลังฝันหรือควบคุมตัวเองในความฝัน และเมื่อตื่นมาพวกเขาก็สามารถเล่าความฝันของตัวเองเกือบทั้งหมดและนั่นก็คือการฝันแบบ ลูซิดดรีม (Lucid Dream)ลูซิดดรีม (Lucid Dream) ความฝันที่รู้ว่าตัวเองกำลังฝันอยู่และลูซิดดรีมก็ยังสามารถช่วยเราพัฒนาความคิดสร้างด้วยเพราะสามารถ ควบคุมหรือกำหนดเรื่องราวที่เราจะฝันได้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงภาวะหลับลึกก็คือช่วง REM (Rapid eyes movement) และมักจะไม่ได้รู้ตัวตั้งแต่ต้น แต่จะมารู้ตัวในช่วงกลาง-ปลายของความฝัน โดยทฤษฎีนี้เกิดขึ้นโดยจิตแพทย์ชาวดัตช์ เฟร็ดเดอริก แวน อีเด็น (Frederik Van Eeden) ซึ่งเขาเป็นผู้ที่ศึกษาความฝันในลักษณะนี้เป็นคนแรก หลังจากนั้นก็เริ่มมีนักจิตวิทยาให้ความสนใจและเป็นที่รู้จักมากขึ้นจาดภาพยนตร์ดังอย่าง Inception ที่เอาไอเดียนี้ไปพัฒนาเป็นเรื่องราวอ้างอิงรูปภาพ : https://www.vecteezy.com/vector-art/11263251-man-counting-sheepและด้วยความที่เราสามารถควบคุมความฝันได้ออกแบบเหตุการณ์ต่างๆได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้ขณะที่เราฝัน มีการใช้ ‘สมองซีกขวา’ มากขึ้น ซึ่งเป็นสมองส่วนความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เราอาจจะได้ไอเดียใหม่ๆ จากความฝัน ไปใช้แก้ปัญหาหรือนำไปใช้กับงานของตัวเองรวมถึงยังช่วยควบคุมอารมณ์ได้อีกด้วยเพราะช่วงเวลาขณะที่หลับ ถือว่าเป็นอะไรที่ควบคุมยากที่สุด ดังนั้นการที่เราสามารถมีสติได้ในขณะที่เราฝัน เราก็จะสามารถควบคุมจิตใจได้ถึงแม้จะเป็นช่วงที่เราโกรธหรือเสียใจจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้นอกจากนี้ ลูซิดดรีมยังช่วยขจัดความกลัวในจิตใจของเราได้อีกด้วย แน่นอนว่าทุกคนต้องมีความกลัวที่ซ่อนอยู่หรือเหตุการณ์ร้ายๆ ที่ฝังใจ แต่ในความฝัน เราสามารถควบคุมความกลัวและอันตรายเหล่านั้นได้ ทำให้ชีวิตจริงเรามีแนวโน้มที่จะกลัวสิ่งนั้นน้อยลงนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญเรื่อง Lucid Dream เดนโฮล์ม แอสปาย (Denholm Aspy)เคยกล่าวไว้ว่า“บางคนอาจค้นพบพลังวิเศษหรือความสามารถพิเศษขณะที่กำลังฝัน พวกเขาสามารถต่อสู้หรือจัดการกับสิ่งที่มาทำ ร้ายได้ เช่น บินหนี หรือใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อปลุกตัวเองให้ตื่นจากฝันร้ายนั้น”ความเสี่ยงของ Lucid DreamLucid Dream อาจไม่เหมาะกับหลาย ๆ คน เช่นกลุ่มผู้มีจิตเปราะบาง มีความผิดปกติของคลื่นสมอง มีอาการเห็นภาพหลอน (Schizophrenia) หรือหลงผิด (Delusions) อาจยิ่งทำให้ยากต่อการแยกแยะโลกแห่งความจริง และโลกแห่งความฝัน หรือสำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องการนอน ที่ควรให้ความสำคัญกับการนอนหลับลึก นอนให้เต็มอิ่ม ยิ่งฝันให้น้อยยิ่งดี มุ่งเน้นการนอนระดับ N-REM (Non-rapid Eye Movement) ไม่ใช่ REM (Rapid Eye Movement)อ้างอิงรูปภาพ : https://www.freepik.com/free-vectorหากใครอยากลองทำนักวิจัยเขาก็มีวิธีมาให้ทดลองกันแต่ก็อย่าลืมเรื่องความเสี่ยงกันนะต้องดูเรื่องสุขภาพตัวเองกันด้วย1.นั่งสมาธิก่อนนอนซักประมาณ 20-30 นาที ก่อนนอน เพ่งจิตไปที่การหายใจ มีสติทุกลมหายใจ2.ลองจดบันทึกความฝัน เพื่อจดจำรายละเอียดความฝันในแต่ละครั้งของเรา3.ใช้เสียงเพลงมาขับกล่อมขณะหลับ โดยคลื่นความถี่ของเสียงเพลง มีส่วนในการทำให้คลื่นสมองเปลี่ยนไปได้ โดยเป็นเพลง เป็นจังหวะดนตรีที่เรียกว่า ‘binaural beats’ ความถี่ 4 – 8 Hz โดยควบคุมการหายใจให้สอคคล้องกับความถี่และนี่ก็คือ Lucid dream ความฝันที่รู้ตัว แต่ใดๆก็ตามถึงแม้เราจะสามารถควบคุมความฝันได้ด้วยตัวเองทุกคนอาจจะได้ประสบการณ์ที่น่าประทับใจแต่ก็อย่าลืมตระหนักว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันเป็นเพียงความฝันไม่ใช่ความจริง ทุกอย่างย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ทางเราหวังว่าบทความนี้จะสามารถช่วยให้ผู้อ่านทุกคนได้รับทฤษฎีความรู้ใหม่ๆแล้วนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่มากก็น้อยที่มา : https://thematter.co/brief/goodsmorning/goodsmorning-1590107400/112552https://rabbitcare.com/blog/lifestyle/lucid-dream-in-different-context-benefit-and-how-tohttps://www.medicalnewstoday.com/articles/323077#definitionhttps://www.facebook.com/brandthink.me

album

0
0.8
1