5 หนังสือดีที่ทุกคนควรมีโอกาสได้อ่านสักครั้งหนึ่งในชีวิต

HEALTHY LIFESTYLE

5 หนังสือดีที่ทุกคนควรมีโอกาสได้อ่านสักครั้งหนึ่งในชีวิต

13 ม.ค. 2024

อ่านหนังสือวันละนิด เข้าใจชีวิตวันละหน่อย เพราะหนังสือเป็นการสื่อสาร 2 ทางระหว่างผู้เขียนที่ต้องการสื่อสารผ่านตัวหนังสือ และผู้อ่านที่สามารถนำแนวคิดต่าง ๆ ไปปรับใช้ในชีวิตจริง วันนี้เราจึงอยากนำเสนอ 5 หนังสือดีที่ทุกคนควรมีโอกาสได้อ่านสักครั้งหนึ่งในชีวิต

 

1.ไม่ว่าคุณจะคิดอะไร ให้คิดตรงข้าม (Whatever You Think, Think the Opposite)

http://news.se-ed.com/?p=13034

“ไม่ว่าคุณจะคิดอะไร ให้คิดตรงข้าม” ไม่ได้ความว่าสิ่งที่คุณกำลังคิดอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ผิดแต่หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณเข้าใจมากขึ้นว่า ทุก ๆ คนก็คิดเหมือนกันและสิ่งที่จะทำให้เราโดดเด่นและสามารถประสบความสำเร็จได้นั้นคือ การคิดที่แตกต่างไปจากเดิม ทำให้คุณได้ลองคิด ได้ลองทำอะไรแปลกใหม่มากขึ้นนั้นเอง

 

 

2. Super Productive

http://news.se-ed.com/?p=13034

หนังสือที่ถอดความคิดของ “รวิศ หาญอุตสาหะ” ผู้บริหารและเจ้าของพอดแคสต์ Mission the  moon และ Super Productive ซึ่งเป็นพอดแคสต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ที่จะพาคุณไปค้นหาแรงจูงใจในการทำงาน การรู้จักตัวเอง ภาวะหมดไฟแบบปลอม ๆ รวมถึงการรับมือกับคน Toxic  ที่ผู้เขียนได้ปฏิบัติและสำเร็จมาแล้ว

 

 

3. Atomic Habits

https://www.naiin.com/product/detail/508699

หนังสือที่ขายดีระดับโลกที่มียอดขายหลายล้านเล่ม ถูกตีพิมพ์ไปแล้วกว่า 40 ภาษา เป็นหนึ่งใน “New York Times Bestseller” เป็นหนังสือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนิสัย ที่มองว่าการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ที่สามรถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่โดยการนำหลักการทางวิทยาศาสตร์มาให้ในการอธิบาย  หากคุณพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองแต่ยังไม่สำเร็จสักที หนังสือเล่มนี้ช่วยคุณได้อย่างแน่นอน

 

 

4. Sapiens ประวัติย่อมนุษยชาติ

https://www.fathombookspace.co/product/19082-15734/sapiens-a-brief-history-of-humankind

หนังสือที่รวบรวมของมวลมนุษยชาติ Homo Sapiens กว่า 70,000 ปีเอาไว้อย่างย่อ ๆ ให้เราเข้าใจถึงที่มาที่ไปของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็น วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ศาสนา ไปจนถึงการวิวัฒนาการมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เราในฐานะมนุษย์คนหนึ่งจะเข้าใจชีวิตมากขึ้นว่าเราก็แค่มนุษย์ตัวจิ๋วคนหนึ่งที่ยังมีสิ่งที่เรายังไม่รู้อีกมาก

 

 

5. อย่าปล่อยให้ใคร ฆ่า วาฬ ของคุณ

https://clubsister.com/lifestyle/5-recommend-books-for-officer

อีกหนึ่งหนังสือของเจ้าของพอดแคสต์ Mission to the moon และผู้บริหารที่ทำให้บริษัทศรีจันทร์เครื่องสำอางไทยสู่สากล หนังสือเล่มนี้จำทำให้ไฟฝันของคุณกลับมาลุกโชนอีกครั้ง เมื่อคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้ไปเรื่อย ๆ คุณจะเข้าใจเองว่า “วาฬ” ที่หน้าปกหนังสือนั้นคืออะไร แล้วการประสบความสำเร็จและการเอาชนะคนที่เรารู้สึกว่าเก่งนั้นจะไม่ได้เป็นเรื่องยากอีกต่อไป

 

 

การอ่านหนังสือ แท้จริงเราคือการเรียนรู้ และเข้าใจในตัวตนของเราผ่านหนังสือที่เราอ่าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางที่ช่วยพัฒนาทักษะในการดำเนินชีวิตของเรา เพราะการอ่านหนังสือต้องใช้ทั้งสมาธิ และการประมวลผลที่เป็นระบบทำให้เราสามารถผ่อนคลายจากปัญหาที่เราพบเจอมาในแต่ละวันได้ อีกทั้งการอ่านหนังสือยังไปกระตุ้นการทำงานของสมอง ที่ชะลอและป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย

 

Author : NUTTANON.S

related HEALTHY LIFESTYLE

LUCID DREAM ความฝันที่รู้ตัว

28 เม.ย. 2024

LUCID DREAM ความฝันที่รู้ตัว

วันนี้เราจะมาพูดถึงทฤษฎีนึงที่ที่หลายคนอาจจะรู้จักนั่นก็คือ ลูซิดดรีม (Lucid Dream)ต้องขอถามก่อนว่าทุกคนเคยจำความฝันตัวเองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม ?เราขอเดาว่ามันอาจจะมีส่วนใหญ่ก็อาจจะพอจำได้แต่คงไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือบางคนอาจจะจำไม่ได้เลย แต่ทุกคนรู้ไหมว่ามีผู้คนบางกลุ่มที่สามารถรู้ว่าตัวเองกำลังฝันหรือควบคุมตัวเองในความฝัน และเมื่อตื่นมาพวกเขาก็สามารถเล่าความฝันของตัวเองเกือบทั้งหมดและนั่นก็คือการฝันแบบ ลูซิดดรีม (Lucid Dream)ลูซิดดรีม (Lucid Dream) ความฝันที่รู้ว่าตัวเองกำลังฝันอยู่และลูซิดดรีมก็ยังสามารถช่วยเราพัฒนาความคิดสร้างด้วยเพราะสามารถ ควบคุมหรือกำหนดเรื่องราวที่เราจะฝันได้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงภาวะหลับลึกก็คือช่วง REM (Rapid eyes movement) และมักจะไม่ได้รู้ตัวตั้งแต่ต้น แต่จะมารู้ตัวในช่วงกลาง-ปลายของความฝัน โดยทฤษฎีนี้เกิดขึ้นโดยจิตแพทย์ชาวดัตช์ เฟร็ดเดอริก แวน อีเด็น (Frederik Van Eeden) ซึ่งเขาเป็นผู้ที่ศึกษาความฝันในลักษณะนี้เป็นคนแรก หลังจากนั้นก็เริ่มมีนักจิตวิทยาให้ความสนใจและเป็นที่รู้จักมากขึ้นจาดภาพยนตร์ดังอย่าง Inception ที่เอาไอเดียนี้ไปพัฒนาเป็นเรื่องราวอ้างอิงรูปภาพ : https://www.vecteezy.com/vector-art/11263251-man-counting-sheepและด้วยความที่เราสามารถควบคุมความฝันได้ออกแบบเหตุการณ์ต่างๆได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้ขณะที่เราฝัน มีการใช้ ‘สมองซีกขวา’ มากขึ้น ซึ่งเป็นสมองส่วนความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เราอาจจะได้ไอเดียใหม่ๆ จากความฝัน ไปใช้แก้ปัญหาหรือนำไปใช้กับงานของตัวเองรวมถึงยังช่วยควบคุมอารมณ์ได้อีกด้วยเพราะช่วงเวลาขณะที่หลับ ถือว่าเป็นอะไรที่ควบคุมยากที่สุด ดังนั้นการที่เราสามารถมีสติได้ในขณะที่เราฝัน เราก็จะสามารถควบคุมจิตใจได้ถึงแม้จะเป็นช่วงที่เราโกรธหรือเสียใจจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้นอกจากนี้ ลูซิดดรีมยังช่วยขจัดความกลัวในจิตใจของเราได้อีกด้วย แน่นอนว่าทุกคนต้องมีความกลัวที่ซ่อนอยู่หรือเหตุการณ์ร้ายๆ ที่ฝังใจ แต่ในความฝัน เราสามารถควบคุมความกลัวและอันตรายเหล่านั้นได้ ทำให้ชีวิตจริงเรามีแนวโน้มที่จะกลัวสิ่งนั้นน้อยลงนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญเรื่อง Lucid Dream เดนโฮล์ม แอสปาย (Denholm Aspy)เคยกล่าวไว้ว่า“บางคนอาจค้นพบพลังวิเศษหรือความสามารถพิเศษขณะที่กำลังฝัน พวกเขาสามารถต่อสู้หรือจัดการกับสิ่งที่มาทำ ร้ายได้ เช่น บินหนี หรือใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อปลุกตัวเองให้ตื่นจากฝันร้ายนั้น”ความเสี่ยงของ Lucid DreamLucid Dream อาจไม่เหมาะกับหลาย ๆ คน เช่นกลุ่มผู้มีจิตเปราะบาง มีความผิดปกติของคลื่นสมอง มีอาการเห็นภาพหลอน (Schizophrenia) หรือหลงผิด (Delusions) อาจยิ่งทำให้ยากต่อการแยกแยะโลกแห่งความจริง และโลกแห่งความฝัน หรือสำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องการนอน ที่ควรให้ความสำคัญกับการนอนหลับลึก นอนให้เต็มอิ่ม ยิ่งฝันให้น้อยยิ่งดี มุ่งเน้นการนอนระดับ N-REM (Non-rapid Eye Movement) ไม่ใช่ REM (Rapid Eye Movement)อ้างอิงรูปภาพ : https://www.freepik.com/free-vectorหากใครอยากลองทำนักวิจัยเขาก็มีวิธีมาให้ทดลองกันแต่ก็อย่าลืมเรื่องความเสี่ยงกันนะต้องดูเรื่องสุขภาพตัวเองกันด้วย1.นั่งสมาธิก่อนนอนซักประมาณ 20-30 นาที ก่อนนอน เพ่งจิตไปที่การหายใจ มีสติทุกลมหายใจ2.ลองจดบันทึกความฝัน เพื่อจดจำรายละเอียดความฝันในแต่ละครั้งของเรา3.ใช้เสียงเพลงมาขับกล่อมขณะหลับ โดยคลื่นความถี่ของเสียงเพลง มีส่วนในการทำให้คลื่นสมองเปลี่ยนไปได้ โดยเป็นเพลง เป็นจังหวะดนตรีที่เรียกว่า ‘binaural beats’ ความถี่ 4 – 8 Hz โดยควบคุมการหายใจให้สอคคล้องกับความถี่และนี่ก็คือ Lucid dream ความฝันที่รู้ตัว แต่ใดๆก็ตามถึงแม้เราจะสามารถควบคุมความฝันได้ด้วยตัวเองทุกคนอาจจะได้ประสบการณ์ที่น่าประทับใจแต่ก็อย่าลืมตระหนักว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันเป็นเพียงความฝันไม่ใช่ความจริง ทุกอย่างย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ทางเราหวังว่าบทความนี้จะสามารถช่วยให้ผู้อ่านทุกคนได้รับทฤษฎีความรู้ใหม่ๆแล้วนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่มากก็น้อยที่มา : https://thematter.co/brief/goodsmorning/goodsmorning-1590107400/112552https://rabbitcare.com/blog/lifestyle/lucid-dream-in-different-context-benefit-and-how-tohttps://www.medicalnewstoday.com/articles/323077#definitionhttps://www.facebook.com/brandthink.me

เรื่องสิวสิวจากนมวัว

07 ก.พ. 2024

เรื่องสิวสิวจากนมวัว

ใคร ๆ ก็บอกว่าการดื่มนมทุกวันมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แล้วมันดีต่อสุขภาพจริงไหม ทำไมดื่มแล้วสิวถึงขึ้นล่ะ แล้วนมทำให้สิวขึ้นจริงหรือเปล่า วันนี้เรามาตอบข้อสงสัยกันนมวัวมีประโยชน์จริงหรือเปล่า ?นมวัวมีประโยชน์จริง เพราะอุดมไปด้วยสารยสารอาหารที่มีคุณประโยชน์หลายชนิด หลัก ๆ ก็คือแคลเซียมที่ช่วยดูแลกระดูก และช่วยให้ฟันแข็งแรง มีโพแทสเซียมช่วยป้องกันโรคหัวใจ รวมถึงวิตามินบี แร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยป้องกันโรคเบาหวานการดื่มนมวัวทำให้สิวขึ้นจริงเหรอ ?จากการวิจัยของแพทย์ผิวหนังที่ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า “นมวัว” มีส่วนทำให้ผู้ที่เป็นสิวที่เกิดจากฮอร์โมน เป็นสิวเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากกระบวนการในการย่อยนมของร่างกายนั้นจะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโตขึ้นมา ทำให้ฮอร์โมนที่ทำให้เกิดสิวอย่าง แอนโดรเจน ก็ถูกผลิตขึ้นมาเพิ่มด้วย นอกจากนั้นในนมวัวที่รีดออกมาจากแม่วัวที่เพิ่งคลอดลูก ก็จะมีฮอร์โมนสูง ทำให้เวลาที่คนเราดื่มนมเข้าไป ฮอร์โมนในนมวัวเหล่านี้กลับไปกระตุ้นต่อมไขมันของเราให้ทำงานมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการหน้ามัน และเป็นสิวตามมา สำหรับคนที่มีปัญหาสิวฮอร์โมน ควรจะเปลี่ยนมาดื่มนมที่เป็นสารสกัดจากพืชแทน เช่น นมถั่วเหลือง หรือนมข้าว เป็นต้นตอนนี้เราก็ได้รู้แล้วว่าผลข้างเคียงจากนมวัวสามารถทำให้สิวเราขึ้นได้เหมือนกัน แต่เราไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องงดการดื่มนมไปเลย ซึ่งเราสามารถเลี่ยงไปดื่มนมแพะ นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ หรือน้ำนมข้าวแทนได้ เพราะคุณค่าทางสารอาหารมีประโยชน์ วิตามิน ที่สามารถทดแทนนมวัวได้เหมือนกันที่มา https://www.wongnai.com/articles/6-acne-treatment-doubthttps://www.sanook.com/health/31693/Author : DODOMILK

ยีนส์ทรงนี้ ดีกับหุ่นไหมนะ

10 เม.ย. 2024

ยีนส์ทรงนี้ ดีกับหุ่นไหมนะ

สวัสดีสาว ๆ วันนี้เราจะมาพูดถึงกางเกงยอดฮิตที่ทุกบ้านต้องมี นั่นก็คือ “กางเกงยีนส์”เชื่อว่าทุกคนต้องมีกางเกงยีนส์กันอยู่แล้ว แต่บางคนคงเลือกที่จะพับเก็บเข้าตู้ไปเพราะอาจจะคิดว่าหุ่นเราไม่เหมาะกับกางเกงยีนส์ ใส่แล้วไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง หรือบางคนอยากใส่กางเกงยีนส์แต่ไม่รู้ว่ากางเกงยีนส์แบบไหนจะเหมาะกับเรานะ วันนี้เรามีคำตอบมาให้เรามาเริ่มกันที่เช็ครูปร่างตัวเองกันว่าหุ่นเราเป็นทรงไหนกันนะขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ : https://i.pinimg.com1.หุ่นทรงแอปเปิ้ล ( Apple Shape ) ลักษณะคือมีรูปร่างเป็นทรงกว้าง หน้าอก เอว สะโพกมีขนาดเท่ากัน2.หุ่นทรงลูกแพร์ ( Pear Shape ) ลักษณะคือช่วงบนเล็กกว่าช่วงล่าง เอวเล็ก แต่มีสะโพกและต้นขา3.หุ่นทรงสามเหลี่ยมคว่ำ (Triangle Shape) ลักษณะคือช่วงบนใหญ่กว่าช่วงล่าง ไหล่กว้าง แต่ช่วงสะโพกจะมีขนาดเล็ก4.หุ่นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า (Rectangle Shape) ลักษณะคือช่วงบนและล่างมีขนาดเท่ากันไม่มีเอว รูปร่างตรง5.หุ่นทรงนาฬิกาทราย (Hourglass Shape) ลักษณะคือมีความสมดุลระหว่างช่วงบนและช่วงล่าง เอวคอด ดูมีอก มีสะโพกเมื่อทุกคนรู้จักรูปร่างตัวเองแล้วต่อไปเรามาเลือกกางเกงยีนส์กันดีกว่ากางเกงยีนส์ที่เหมาะสำหรับหุ่นแอปเปิ้ลทรงขากระบอกใหญ่ , ทรงขาบาน,ทรงขาม้า-ควรเน้นกางเกงยีนส์เอวสูงหรือกางเกงยีนส์ที่มีช่วงขอบเอวกว้าง เพราะขอบเอวกว้างๆนั้นจะช่วยในการเก็บหน้าท้องให้เข้ารูปได้ดีมากขึ้น-ไม่ควรกางเกงยีนส์ที่บีบช่วงขามาก ๆ อย่างเช่นกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ เพราะการที่ใส่กางเกงยีนส์ที่บีบช่วงขา จะทำให้ลำตัวดูใหญ่ขึ้นกางเกงยีนส์ที่เหมาะสำหรับหุ่นลูกแพร์ทรงขากระบอกใหญ่ , ทรงขาบาน,ทรงขาม้า-ควรเน้นกางเกงยีนส์สีทึบหรือสีเข้ม เพราะจะช่วยอำพรางสะโพกและเลือกกางเกงยีนส์ที่ช่วยกระชับสะโพกได้ดี อย่างกางเกงยีนส์เอวปกติหรือเอวสูง เพราะเก็บสะโพกได้ดีและเอวดูเล็กลง-ไม่ควรเลือกกางเกงยีนส์ที่รัดต้นขาหรือรัดรูปร่าง เช่น ทรงสกินนี่ เพราะจะทำให้ต้นขาและสะโพกชัดเกินไปกางเกงยีนส์ที่เหมาะสำหรับหุ่นสามเหลี่ยมคว่ำทรงขาม้า,ทรงบอย,ทรงขาบาน,ทรงขากระดิ่ง-ควรเลือกกางเกงยีนส์ที่มีสีอ่อนกว่าเสื้อ เพราะจะช่วยทำให้สะโพกออกมาดูเด่นมากขึ้น และสวมเสื้อที่สีเข้มเพราะว่าจะช่วยอำพรางไหล่ที่กว้างของเราได้-ไม่ควรเลือกกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่เพราะจะทำให้สะโพกดูแคบกว่าเดิมกางเกงยีนส์ที่เหมาะสำหรับหุ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าทรงสกินนี่, ทรงขาม้า, ทรงกระบอกเล็ก, ทรงขาบาน-ควรเลือกกางเกงยีนส์เอวปกติหรือเอวต่ำและกางเกงยีนส์ควรมีลูกเล่นตรงช่วงสะโพกเพราะจะช่วยเพิ่ม volume ให้กับสะโพก ทำให้เราดูมีสะโพกมากขึ้น-ไม่ควรใส่กางเกงยีนส์เอวสูง จะทำให้เอวเด่นเกิน และทำให้เราดูไม่มีส่วนเว้าโค้งกางเกงยีนส์ที่เหมาะสำหรับหุ่นนาฬิกาทรายทรงสกินนี่,ทรงขาม้า,ทรงกระบอกเล็ก,ทรงขาบาน,ทรงกระบอกใหญ่-ควรใส่กางเกงยีนส์เอวปกติหรือเอวสูง จะช่วยทำให้ขาดูยาวสวยขึ้น และกางเกงยีนส์เอวสูงจะช่วยให้ช่วงเอวเห็นชัดขึ้น จากที่เอวคอดอยู่แล้วก็จะทำให้เอวเราชัดกว่าเดิม-ไม่ควรสวมกางเกงยีนส์เอวต่ำ เพราะจะทำให้สะโพกดูใหญ่และทำให้ขาสั้นลงอีกด้วย...............................................................................ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วลิสต์กันไว้หรือยังว่ากางเกงยีนส์ทรงไหนเหมาะกับเราบ้าง นอกจากจะได้กางเกงที่เหมาะกับแล้วเรายังได้เช็ครูปร่างตัวเองอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าเราจะมีรูปร่างแบบไหน ชอบเสื้อผ้าแบบไหน ขอแค่เรามั่นใจในตัวเองมั่นใจกับสิ่งที่เสื้อผ้าที่เราใส่แค่นี้ก็พอแล้วว Have a good day นะคะ :)

เปิดมุมมอง LGBTQ+ Idol กับ พินเนอร์ STARDASH

06 ก.พ. 2024

เปิดมุมมอง LGBTQ+ Idol กับ พินเนอร์ STARDASH

ในปัจจุบันเชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินคำว่า “วงไอดอล” กันมาบ้างอยู่แล้วเป็นคำที่เราเห็นคุ้นชินถึงบุคคล หรือ กลุ่มคน ที่เก่งทั้งเต้น ร้อง มอบความสดใส และส่งต่อกำลังใจให้แก่ผู้ชมอย่างเรา ๆ ได้เป็นอย่างดีจะทั้ง ไอดอลชาย หรือไอดอลหญิง ก็เป็นที่โด่งดังมากในยุคสมัยนี้ แล้วไอดอล LGBTQ+ ละเราเคยรู้จักกันหรือเปล่า?“ Idol ” หรือ ไอดอล เป็นคำสั้น ๆ แต่กลับมีความหมายแฝงมากมาย หากอ้างอิงตามหลักพจนานุกรมของไทยเรานั้น แปลได้ว่า “คนหรือสิ่งที่ได้รับความชื่นชมหรือคลั่งไคล้อย่างมาก” หรือ “รูปเคารพ เทวรูป” แต่หากพูดกันตามความเข้าใจของทุกท่านนั้น คงจะหมายถึง บุคคลแบบอย่าง หรือ บุคคลที่จะมอบความ สดใส และเป็นแรงบัลดาลใจให้กับใครหลายๆคนวันนี้ Green Wave จะพาทุกท่านมารู้จักกับ คุณพิณ พินเนอร์ เรณุกา ปัญญาคุ้มวงศ์ หรือ พินเนอร์ ‘STARDASH’(สตาร์แดช) ไอดอล LGBTQ+ คนแรกของประเทศไทย ที่จะทำให้เราได้เห็นถึงมุมมองที่หลากหลายของคำว่า “ไอดอล”จุดเริ่มต้นการเป็น Idol“ตัวพินเนอร์เอง เคยได้รับโอกาศจากผู้ใหญ่เป็นไอดอลอยู่ในค่ายๆนึง แต่ในตอนนั้นตัวพินเนอร์เอง ด้วยความที่อายุยังน้อย และการควบคุมอารมณ์ กับปัจจัยอีกหลายๆอย่างที่ทำให้ พินเนอร์เองไม่เป็นตัวเองเท่าไหร่นัก สุดท้ายก็เลยไม่ได้ไปต่อ ทำให้พินเนอร์มีปมในใจว่า ตัวเราเองนั้นยังไม่เคยขึ้นเวทีเลยสักครั้ง แต่ด้วยความฝันและความชอบที่อยากเป็นไอดอล พินเนอร์จึงได้ตัดสินใจทำวงไอดอลขึ้นมา ทำให้เกิดวง STARDASH ขึ้นมา และมีเพลงแรกออกมาในปี 2019 ค่ะ”ที่มาของชื่อ ‘STARDASH’(สตาร์แดช)“คำว่า STARDASH (สตาร์แดช) นะคะ มาจากคำว่า Stardust (สตาร์ดัช) ที่แปลว่า ละอองดาว เปรียบกับคนที่ไล่ตามความฝัน แต่แตกสลายไม่รู้จนกี่ครั้ง แต่ไม่อยากหยุดฝัน พุ่ง DASH ตัวเองออกไปข้างหน้าเพื่อไล่ตามความฝันต่อไป จาก STARDUST จึงกลายมาเป็น STARDASH ค่ะ”Idol ในมุมมองของคุณพินเนอร์นั้นคืออะไร“คำว่าไอดอล แปลตรงตัวสำหรับคนไทยเลย นั้นคือ บุคคลตัวอย่างค่ะ แต่สำหรับตัวพิณเองนั้นชอบดูการ์ตูนค่ะ เป็นการ์ตูนแนวไอดอล อย่าง Love Live! School Idol ทำให้เรามองว่า ไอดอล คือเหล่าผู้คนที่เปล่งประกาย ที่จะมอบแรงบัลดาลใจ ความฝันให้แก่ผู้อื่นได้ เราจึงอยากเป็นคนหนึ่ง ที่เป็นแรงบัลดาลใจ เป็นความสุข เป็นรอยยิ้ม เป็นเสียงหัวเราะ และสร้างพลังบวกให้กับพวกเขาได้ค่ะ”Idol กับ LGBTQ+“ในมุมมองของพิณเอง มองว่า LGBTQ+ เป็นอะไรที่ปกติมาก ก็เหมือนมนุษย์อย่างเราๆที่มีความหลากหลายไม่ว่าจะทั้ง ความเชื่อ ทั้งนิสัย เพศก็มีความหลากหลายเช่นเดียวกัน พิณจึงมองว่าจะ หญิง หรือ ชาย หรือ LGBTQ+ เองนั้นไม่มีความแตกต่าง หรือต้องแบ่งแยกกันเลยค่ะ เหมือนกับความเป็นไอดอลที่แต่ละวงก็จะมีความชอบ นิสัย แนวเพลงที่แตกต่างกัน ทำให้พิณมองว่า ไม่ว่าคุณจะเป็น ชาย หญิง กระเทย LGBTQ+ หรือไอดอล หรือเพศใด ๆ ก็ตาม ทุกคนก็เป็นมนุษย์เหมือน ๆ กัน มีความรู้สึก รัก โลภ โกรธ หลง เสียใจ ดีใจ ขอให้เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา ให้เกียรติกันและกันไม่สร้างความเดือดร้อนก็เพียงพอค่ะพิณเป็นไอดอลคนแรกๆเป็น LGBTQ+ ในไทย อย่างญี่ปุ่นที่เป็นต้นกำเนิดไอดอลนั้น วงLGBTQ+ ก็มีมานานแล้วค่ะ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ พิณก็ผ่านอะไรมาหลาย ๆ อย่างเลย แต่รู้สึกดีใจที่ได้ทำตามความฝัน ไม่อยากให้ LGBTQ+ ในไทยมองว่า เป้าหมายของเรามีแค่ เวทีนางงาม เพียงอย่างเดียว อยากให้เห็นว่า เราเป็นได้ทุกอย่างตามที่ความฝันเราอยากจะเป็นไม่ว่าจะเป็น ศิลปิน หรือเป็นไอดอลเองก็ตาม”รู้สึกอย่างไรหากมีคนเรียกเราว่าเป็น กะเทย ตุ๊ด สาวสอง“พิณมองว่า มันเป็นอัตลักษณ์ทางเพศของเราค่ะ จะเรียกว่ากะเทย ตุ๊ด สาวสอง หรืออะไรก็ตาม พิณไม่ได้มองว่า คำเหล่านี้มันกลายเป็นคำดูถูกหรือเหยียดหยาม เราจะเป็นผู้ชายแต่งหญิง กะเทยแต่งหญิง ถ้ามันเป็นความชอบของตัวเราเอง ก็ให้เกียติตัวเองให้เกียติผู้อื่น และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนก็เพียงพอค่ะ”ความเป็นไอดอล ในแบบของตนเอง“ตัวพิณเอง ก็ไม่ถือว่าเป็นไอดอลตรงตามฉบับที่คนอื่น ๆ คุ้นเคยเท่าไหร่ พิณค่อนข้างจะมีความพูดตรง ๆ หรือบางครั้งก็พูดแรงออกไปบ้าง ภาพลักษณ์เลยอาจจะดูเป็นไอดอลแรง ๆ ซึ้งพิณเองก็ยอมรับว่าในบางครั้งมันก็ไม่ดีหรอก แต่แฟนคลับหลาย ๆ คนก็เข้าใจเราค่ะ เราอยากให้เห็นถึงความหลากหลายของไอดอลเหมือนกัน ว่าเป็นคนที่มีอารมณ์ และความรู้สึกเหมือนกันให้เห็นถึงความหลากหลายของการเป็นไอดอลค่ะ ไม่ได้ติดภาพจำว่าไอดอลต้องเป็น บุคคลที่น่ารักสดใสเพียงอย่างเดียว พิณเองก็มีกลุ่มคนที่ไม่ชอบพิณ โดนพิมพ์คอมเม้นต์แย่ๆใส่อยู่บ่อยครั้ง แต่พิณมองว่า หากเค้าไม่ให้เกียรติเรา เราคงทำอะไรไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่ไม่ชอบเรา ทำยังไงเค้าก็ไม่ชอบเราอยู่ดี อยากให้เราใส่ใจตัวเองรักตัวเอง ลงมือทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนดีกว่าค่ะ สร้างความสุข สร้างแรงบัลดาลใจ สร้างความฝัน ให้กับผู้อื่นดีกว่า อย่าเอาคำเหล่านั้นมาด้อยค่าตัวเองเลย ภูมิใจกับความเป็นตัวเองไว้ดีกว่า เพราะก็ไม่รู้ว่า ‘เราจะอยู่กับการไม่ภูมิใจในตัวเองไปทำไม’ ”รูปร่างหน้าตาไม่ดี จะมาเป็นไอดอล ?“พิณ มองว่าทุกคนสามารถดูดีได้สามารถ สวย หล่อ เท่ น่ารักได้หมดค่ะ แต่การที่เราจะดูดี ก็ขอให้เรานั้นดูดีเพื่อตัวเราเอง สวยเพื่อตัวเราเอง อย่าพยายามสวยเพื่อให้ผู้อื่นมองว่าสวยแต่ตัวเรานั้นเหนื่อยหรือทุกข์ใจ เพราะพิณ เชื่อว่า ความสวยที่เรามอบให้แก่ตนเองนั้น มันหมายถึง การที่เรารักตัวเอง เพราะเรารักตัวเองจึงได้ดูแลตัวเอง อยากให้ทุกคนทำอะไรเพื่อตัวเอง เพราะทุกคนมีชีวิตนี้แค่ครั้งเดียว อายุ 26 ครั้งเดียว 27 ครั้งเดียว เลยอยากให้ทุกคนกล้าที่จะทำอะไรเพื่อตนเอง รักตัวเองให้มากๆ และมีความกล้าที่จะทำความฝันค่ะ”หากในอนาคตมี มีวง ไอดอล LGBTQ+ เกิดขึ้นมาในประเทศไทยมากขึ้น“พิณอยากให้ทุกคนเปิดรับให้มากขึ้นค่ะ ไม่อยากให้ไอดอล จำกัดอยู่แค่เพศใดเพศหนึ่ง และก็อยากฝากว่า อย่าล้อเล่นกับความฝันของคนอื่น ไม่ว่าจะจากทางบริษัทเอง ไม่อยากให้เปิดรับเพียงเพราะเอากระแสหรือด้านธุรกิจเพียงอย่างเดียว เพราะอย่าลืมว่า ไอดอลก็เป็นมนุษย์ และพวกเขามีความฝัน ความเสียใจ ความดีใจ ความผิดหวัง เหมือนอย่างเราๆ นี่แหละค่ะ หรือทั้งจากผู้ที่อยากเป็นไอดอลเองก็ตาม ไม่อยากให้ทำเล่นๆ เพราะเมื่อได้รับเลือกแล้ว ก็จะมีคนที่ไม่ได้รับเลือกด้วยเช่นกัน อยากให้เต็มที่และเต็มใจที่จะเป็นไอดอล ผู้ที่มอบ แรงบัลดาลใจ ความฝัน ความสุข ความสนุก และรอยยิ้มให้แก่ผู้อื่นค่ะ”“ขอฝากวง STARDASH วงไอดอลที่จะมอบแรงบัลดาลใจ ความสุข ความสนุก ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะให้แก่ทุกคนด้วยนะคะ เร็วๆนี้ภายในปี 2024 ก็จะมีเพลงใหม่ๆออกมากันด้วย ฝากติดตามกันด้วยนะคะ”IG : pinnerz.stardashFackbook : PinNerz STARDASHTIKTOK : @pinnerz_stardashAuthor : MIKA_MIKAZUKI สิริชัย จันทร์เจริญ

album

0
0.8
1