13 ธ.ค. 2024
หนูเรียน และ ทำงานอยู่ต่างประเทศ ทำโปรเจ็กต์ส่งเข้าแข่งขัน แต่ก็ได้แค่ Top3 มาตลอด ทั้งๆที่ผลงานเรา คนปรบมือให้ดังมากกว่าคนที่ได้รางวัล มีถึงขั้น E-mail จากบุคคลปริศนา ส่งมาชื่นชมเรา แต่ไม่รู้เพราะอะไรผลถึงออกมาเป็นแบบนี้
หนูเรียน และ ทำงานอยู่ต่างประเทศ ทำโปรเจ็กต์ส่งเข้าแข่งขัน แต่ก็ได้แค่ Top3 มาตลอดทั้งๆที่ผลงานเรา คนปรบมือให้ดังมากกว่าคนที่ได้รางวัล มีถึงขั้น E-mail จากบุคคลปริศนาส่งมาชื่นชมเรา แต่ไม่รู้เพราะอะไรผลถึงออกมาเป็นแบบนี้ อยากได้กำลังใจให้ลุกขึ้นสู้ตามความฝันอีกครั้ง “คุณบิลลี่ (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [11 ธ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาอยากขอกำลังใจในการลุกขึ้นสู้ เวลาที่เจออุปสรรคอะไรสักอย่างหนึ่ง โดย “คุณบิลลี่ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘บิลลี่มีความฝันตั้งแต่เด็ก ที่จะนำเทคโนโยลีมาเปลี่ยนโลกแฟชั่นให้ยั่งยืน ซึ่งตอนอายุ 15 บิลลี่ก็พยายามทำทุกทาง เพื่อที่จะให้ได้ทุนมาเรียนต่อที่ต่างประเทศ จนตอนนี้อายุ 30 แล้วบิลลี่ได้ทุนมาเรียนต่อด้าน AI และกำลังทำ Start Up ที่ผ่านมาบิลลี่แข่งมาหลายเวทีมาก ๆ ในยุโรป แต่การแข่งขันของบิลลี่ มักจะไปจบลงที่รอบไฟนอลคล้าย ๆ กับที่เราไปชวดมงกุฎในรอบสุดท้าย ซึ่งหลายคนก็บอกบิลลี่ว่า อาจเป็นเพราะคู่แข่งเป็นคนที่นี่ เป็นคนผิวขาว และก็กระแสที่เขาต่อต้านต่างชาติในยุโรปตอนนี้ก็ค่อนข้างแรงประมาณหนึ่ง อย่างตอนที่แข่งรอบล่าสุด ตอนที่บิลลี่ Pitching เสร็จ คนทั้งฮอลล์ยืนขึ้นปรบมือ เมื่อเทียบกับคนที่ชนะ เขาไม่ได้มีอะไรใหม่เลย หลังจากที่จบการแข่งขัน ก็มีอีเมลปริศนาจากใครสักคนหนึ่ง เขาส่งมาหาบิลลี่ว่า ‘You Billy I’m a big fan of you นะ you ติ้กถูกทุกข้อเลยใน Check box ที่จะเป็นผู้ชนะ แต่ว่า you อาจจะไม่ชนะในเหตุผลบางอย่าง ที่เราทุกคนก็รู้กัน’ มันก็เลยทำให้บิลลี่เริ่มดาวน์และเหนื่อยที่จะสู้ แต่ว่าตอนนี้บิลลี่นำ Start up ของตัวเองเข้ารอบไฟนอล ในระดับภูมิภาคของประเทศเนเธอร์แลนด์ได้อีกแล้ว บิลลี่เลยอยากถามพี่ดีเจว่า พี่เคยไหม ที่พยายามมาตลอดอีกนิดเดียวเราจะมงแล้ว แต่เราก็ไปชวดในวินาทีสุดท้าย พี่มีวิธีฮีลใจตัวเองที่จะทำให้ลุกขึ้นสู้ต่อยังไงกันบ้าง ในมุมของพี่ ๆ แต่ละคน?’ ซึ่งเริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หอมอยากให้บิลลี่มองอีกมุมหนึ่ง คือผลแพ้-ชนะ มันถูกพ่ายแพ้โดยเหตุผลที่เรา Control ไม่ได้ มันไม่ได้แปลว่าเราไม่เก่งหรือว่าเราไม่ดี ฉะนั้นวันนี้หอมเลยอยากให้บิลลี่ภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำ บิลลี่เป็นคนเอเชียที่เข้าไปเติบโตที่นั่น การที่เข้าถึงรอบไฟนอลจริง ๆ แปลว่ามันผ่านการตัดสินอย่างยุติธรรม ในการให้คะแนน แต่บิลลี่มาแพ้ แพ้ความอยุติธรรม มันไม่ได้แพ้ในผลงาน ถ้าในมุมมองบิลลี่คือคนที่ชนะแล้ว แต่สิ่งที่มันเป็นเกณฑ์ที่เขาตั้งไว้ เช่น คุณต้องให้คนพื้นถิ่น อันนั้นมันเกินที่บิลลี่จะควบคุมแล้ว หอมอยากให้บิลลี่มองในแง่ดีมากกว่า สิ่งที่เราทำ ถ้าเป้าหมายของเรา เราสู้กับคนตั้งมากมาย แล้วเราเข้าไปอยู่ในรอบไฟนอล มันคือที่สุดแล้ว มันเก่งมาก ๆ แล้ว’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าให้ใกล้เคียงกัน ผมก็มีในเรื่องการประกวดที่ได้เข้าชิงรางวัลนั้น รางวัลนี้ หลายต่อหลายครั้ง แทบทั้งหมดก็ไม่เคยได้รางวัลเลย ซึ่งสำหรับผม Finalist ก็คือรางวัลแล้ว มันอยู่ที่ว่าเราตั้งเป้าและความคาดหวังของเราแค่ไหน ทุกวันนี้ตอนผมคุยกับลูก เราจะพยายามเปลี่ยนโฟกัส จากผลลัพธ์ไปเป็นระหว่างทางให้เยอะที่สุด ซึ่งมันจะดีต่อตัวเรา ถ้าเราไปโฟกัสที่ผลลัพธ์ ยังไงแล้วถ้าไม่ได้ที่ 1 มันก็เท่ากับว่าล้มเหลว ผมมองว่าการได้ที่สองจากการประกวด Start Up ทั้งยุโรป สำหรับผมมันเป็นพอร์ตที่ดี ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นความล้มเหลว เขาบอกว่าโลกไม่จำอันดับ 2 ผมว่าไม่จริง ถ้าคุณเป็นอันดับ 2 ที่พยายามมากพอและไม่ยอมแพ้ ผมว่าอันดับ 2 เยอะแยะมากมายที่ประสบความสำเร็จกว่าอันดับ 1 ในหลาย ๆ วงการ ผมที่ฟังอยู่ตอนนี้ ผลงานของบิลลี่ที่ได้อันดับ 2 มามันเป็นพอร์ตที่ดีมาก ลองกลับมาดู Start Up ของเราให้ดี เราคลอดเขามา แน่นอนเขาต้องเป็นลูกที่เราภูมิใจที่สุด ลองเอาตัวเองออกมาแล้วมองกลับไปดูว่า เขาสมบูรณ์แบบจริง ๆ อย่างที่เราหลงใหลเขาหรือเปล่า อะไรที่เป็นผลงานของเรา เราหลงไหลมันอยู่แล้ว แต่ถ้าเราเป็นคนนอกมองเข้ามา Start Up ของเราดีพอหรือยัง ว่าถ้าเราได้อันดับ 2 แล้วตัดเรื่องชาติพันธ์ออกไป อันดับ 1 มันมีอะไรที่ดีกว่าเราบ้างจริง ๆ ในแบบที่ไม่ Bias เลย ถ้าเรามองว่ายังไงแล้วของเราดีกว่าจริง ๆ เรามองมุมไหนของเราก็ดีกว่า เราแพ้ในเรื่องราวที่ควบคุมไม่ได้ งั้นจงมั่นใจในสิ่งที่เรามีอยู่ ถ้ากระถางที่นั่นเราโตไม่ได้ ก็ย้ายกระถางซะ ถ้าเมล็ดพันธุ์ที่คุณมีมันดีมากจริง ๆ เราลองเอาเมล็ดพันธุ์ของเราไปโตที่อื่น เพราะฉะนั้นอย่ามองว่ามันเป็นความล้มเหลวซะทีเดียว ให้มองด้วยว่าการได้ที่สองของเรา เราทำมันดีพอหรือยัง ถ้าดีพอแล้วมันไม่ได้มีอะไรให้ต้องเสียดายเลย’ และสุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่รู้สึกว่าหนูไปได้ขนาดนั้นแล้ว จากที่หนูอยากได้ทุน อยากเรียนต่อต่างประเทศ แต่ตอนนี้อยู่ไปอยู่เนเธอร์แลนด์แล้วนะ หนูส่งผลงานส่ง Start Up ตัวเองไปอยู่ใน Finalist พี่รู้สึกว่าหนูต้องภูมิใจกับตัวเองระดับหนึ่งแล้วสำหรับพี่ เพราะหนูมาได้ไกลมากนะ ซึ่งการตัดสินการประกวด บางทีเราก็เห็นกันอยู่บิลลี่ สมมติหนูดูนางงามหนูก็จะรู้ มันก็จะใกล้เคียงสุดกี่ปีกี่หนแล้ว ที่เรารู้สึกค้านสายตามาก แต่ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าภูมิใจมาก ๆ มันประจักษ์อยู่ในใจแล้วว่าสิ่งที่เราทำมันหน้าภูมิใจขนาดไหน ถ้าพี่จะแชร์เรื่องพี่นะ พี่เป็นผู้กำกับหนัง พอทำหนังออกมาเรื่องหนึ่ง เราไม่รู้จริง ๆ ว่าทำเสร็จแล้วคนดูเขาซื้อหรือไม่ซื้องานของเรา ถ้าเราจะเอามาตรวัดว่าคนดูไม่ดูหนังเราเลยหรือทำไมไม่ชอบหนังของเรา มันจะทำให้เราเสียใจ หมดความภาคภูมิใจในตัวเอง สำหรับพี่มันไม่ใช่ สำหรับพี่คือพี่ได้ทำหนังที่พี่รู้สึกว่าเต็มที่กับมัน พี่มีความสุขกับมัน สุดท้ายมันจะออกมาเป็นยังไง บางทีมันอยู่ที่ดิน ฟ้า อากาศ โชคชะตาแล้ว เราคุมไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราจะรู้ว่าเราภูมิใจกับผลงานชิ้นนี้ ซึ่งพี่ว่าบิลลี่รู้สึกกับมัน และบิลลี่ก็รับรู้ว่าคนอื่นเขารู้ว่างานของบิลลี่มันมีคนชอบ มีคนภูมิใจ แม้ว่ามันจะยากสำหรับเรา แต่มันจะสะใจมากนะบิลลี่ตอนที่เราได้มันมา ขอเพียงแค่ว่าเราไม่ยอมแพ้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin