
18 พ.ย. 2024
จะทำยังไงกับน้องสาวอายุ 14 ดีคะ? น้องไม่ค่อยกลับบ้าน เปลี่ยนแฟนไม่ซ้ำหน้า อยู่บ้านเพื่อนจนครูที่โรงเรียนมาตามที่บ้าน คุณแม่ก็เอาน้องไม่อยู่ น้องบอกจะดีขึ้นถ้าซื้อมอไซค์ให้คัน ละแสน แม่ก็ซื้อให้ สรุป น้องก็เหมือนเดิม
จะทำยังไงกับน้องสาวอายุ 14 ดีคะ? น้องไม่ค่อยกลับบ้าน เปลี่ยนแฟนไม่ซ้ำหน้าอยู่บ้านเพื่อนจนครูที่โรงเรียนมาตามที่บ้าน คุณแม่ก็เอาน้องไม่อยู่ น้องบอกจะดีขึ้นถ้าซื้อมอไซค์ให้คันละแสน แม่ก็ซื้อให้ สรุป น้องก็เหมือนเดิม แล้วน้องเคยพูดกับแม่ว่า "หนูสวย หนูหาผัวรวยๆเลี้ยงได้" “คุณเค (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (13 พ.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม – ดีเจเติ้ล – ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาครอบครัว โดย “คุณเค (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตอนนี้น้องสาวอยู่กำลังอยู่ในวัยอายุ 14-15 เป็นวัยที่เราก็รู้กันอยู่ว่าเขาก็กำลังโตเป็นสาว ปัญหาก็คือน้องตอนนี้เริ่มติดเพื่อนมาก ติดแฟนมากจนไม่เข้าบ้าน ไม่ไปเรียนหนังสือ ทางที่บ้านก็ไม่รู้จะพูดกับน้องยังไง เพราะตอนแรกคุณแม่ก็ถามว่าเราจะเอายังไงกันดี? ปล่อยให้ไปเที่ยวกับเพื่อนแม่ก็ไม่ว่า คือคุณแม่ก็ไม่อยากจะด่าน้องด้วย เหมือนแบบวัยนี้มันพูดแรงมากไม่ได้ พูดแรงปุ๊ปก็แบบยิ่งเตลิด อันนี้คือสิ่งที่คุณแม่บอกมา ซึ่งน้องก็ยังทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนตอนนี้ปัญหามันเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ ทางโรงเรียนก็เริ่มโทรมาบอกว่า “น้องไม่ไปโรงเรียนเลย อาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไปแค่วันสองวันเอง” คุณแม่ก็ไม่กล้าบอกกับทางโรงเรียนเพราะว่าน้องก็มีพฤติกรรมบางอย่างที่เราแบบไม่ค่อยโอเคด้วย เช่น สมมติมาถึงบ้านก็มาด่าคุณครูให้เราฟังว่าคุณครูเป็นอย่างงั้นเป็นอย่างงี้ ทำให้เรารู้สึกว่าเอ๊ะ! การที่เราบอกกับคุณครูจะทำให้น้องยิ่งเกลียดการไปโรงเรียนอีกหรือเปล่า? เลยเลือกที่จะไม่บอกคุณครูให้ทราบ ทีนี้เราก็เลยคุยกันว่าเราจะทำยังไงดีให้น้องกลับมาบ้าน ก็เลยยื่นข้อเสนอไปว่าอยากได้อะไรลองร้องขอมา น้องก็เลยร้องขอเป็นมอเตอร์ไซค์ราคาเกือบแสน คุณแม่ก็ตัดสินใจซื้อให้เพราะอยากจะให้น้องกลับมาเลยลองซื้อให้ กลายเป็นว่าการที่ซื้อไปน้องยิ่งเตลิดไปอีก เพื่อนเขาก็แบบเป็นฟีลสก๊อย ไม่เรียนหนังสือ เราก็ไปตามหาที่บ้านเพื่อนของเขาบ้าง บ้านแฟนบ้าง แต่คือตอนนี้เขาเริ่มมีแนวคิดที่แบบเราไม่รู้จะแก้ไขยังไง เขาบอกกับเราว่า เรียนหนังสือไปปวดหัว มีผัวดีกว่า คือความคิดนี้มาจากไหน เราก็ไม่รู้แต่ว่าเขามีความรู้สึกว่าเขาแบบสวย รู้สึกว่าความสวยของเขาสามารถทำให้ชีวิตเขาดีได้แน่นอน เราก็เลยไม่รู้จะกู้เขายังไงแล้วตอนนี้ ส่วนเรื่องเงินก็ได้คุยกับคุณแม่ดูว่าถ้าสมมติเราลองไม่ให้เงินเขาดีไหม เขาจะได้กลับบ้าน พอไม่ให้เงินปุ๊ปเขาก็กลับมาบ้าน มาขนเสื้อผ้า ขนของไปขายหมด เอาเงินไปใช้ แล้วเขาก็บอกคุณแม่ว่า ไม่มีแม่ก็หาเงินเองได้ ถามว่าเขาเอาตัวรอดได้ไหม? ก็ได้ แต่หนูว่าคำว่าเอาตัวรอด คือ เขาต้องไม่มีปัญหามาให้เรา ตอนนี้ครูก็โทรมาแจ้งเราเรื่อย ๆ พอครูโทรคุยกับน้อง น้องก็บอกว่า ไม่เป็นไรหรอก แก้ ๆ เอาก็จบแล้ว เราก็แบบโอโห้ จากเมื่อก่อนเขาเป็นคนเรียนดีเลย แต่ไม่รู้เพราะอะไรจริง ๆ ให้เขาเกิดความคิดแบบนี้ทั้ง ๆ ที่ความจริงเขาเกิดมาโชคดีกว่าเรามาก พ่อก็ตามใจ แม่ก็ไม่ค่อยว่าอะไร กลับบ้านจากไปเที่ยว 4 ทุ่ม 5 ทุ่มทุกวัน คุณแม่ก็ไม่สามารถว่าได้เรื่องนี้ ตอนนี้เขาก็น่าจะไม่ฟังใครในครอบครัวแล้ว เพราะในความคิดเขา เพื่อนคนรอบข้างเขาที่ไม่ใช่ครอบครัวคือสำคัญที่สุดของเขาไปแล้วตอนนี้ ส่วนทางพ่อแม่แฟนน้อง ทางเราก็ไม่ได้รู้จักพ่อแม่แฟนน้องเป็นการส่วนตัว แทบไม่เคยเจอหน้ากับแฟนเขาเลย เพราะว่าเวลาเขาไปไหนมาไหนเขาชอบหลบหน้าเรา สิ่งที่เราเป็นห่วงคือเรื่องยาเสพติด เรื่องท้องด้วย เพราะเราก็พูดตามความจริง เพื่อนเขาในมุมมองเรารู้สึกว่ามันไม่นำพาไปในสิ่งที่ดี คือน้องดันพอใจกับชีวิตที่น้องเป็นอยู่ แต่มันจะไม่แย่เลยถ้าสมมติมันไม่เกิดในสภาวะที่คุณแม่ก็ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูคุณพ่อที่ติดเตียง แล้วยังจะมาซื้อรถให้น้องเป็นแสนเพื่อหวังให้น้องกลับบ้าน แต่ผลตรงกันข้ามไปหมดเลย ทุกวันนี้น้องกลับบ้านเดือนนึงนับได้เลยว่ากี่ครั้ง เขาบอกเขาไปนอนบ้านเพื่อนแต่ว่าเราไปตามเขาทีไร คือ ครอบครัวของเพื่อนเขาก็จะบอกว่าเอาลูกกลับไปเถอะ เพราะเขาเหมือนแอบมองว่าเหมือนจะเป็นแหล่งซ่องสุม เพราะเวลาเขานัดปาร์ตี้กันมันก็หลาย ๆ คน ไม่ไปเรียนหนังสือกัน ผู้ปกครองเขาก็เป็นห่วงกันว่าเอ๊ะจะพาไปปาร์ตี้เหล้ายากันหรือเปล่า แล้วไปอยู่บ้านแฟนก็ไม่รู้ว่าใครคนไหน เพราะน้องเปลี่ยนแฟนบ่อย ทำให้เราไม่รู้เลยว่าคนไหน ก็เลยอยากจะมาปรึกษาว่า เราควรจะแก้ปัญหานี้กันยังไงดี?’ เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับพี่ก็คือว่าคุยกับแม่ให้เรียบร้อยว่าเราต้องตัดท่อน้ำเลี้ยงเขา แล้วถ้าคุยกับแม่เรียบร้อยแล้ว เราเรียกเขามาคุยเลยว่าถ้าไม่เรียนพี่จะพาไปลาออกให้ เพราะตอนนี้มันคาราคาซังครูจะได้ไม่ต้องโทรมาตาม ให้เขารู้เลยว่าตอนนี้เราจะปล่อยเขาแล้ว แล้วก็ไปหางานทำเองนะ เพราะโตแล้วไม่อยากเรียนใช่ไหมงั้นก็ถือว่าโตแล้วรับผิดชอบตัวเองได้แล้วงั้นก็ออกไปทำงานนะ ตอนนี้เขาฟังคนข้างนอก เพื่อน เขารู้สึกว่าคนพวกนี้คือคนที่เข้าใจเขามาก ๆ ส่วนเรื่องแฟนย้ำน้องเลยว่าป้องกันเพราะถ้ามีลูกทำแทงค์อย่างเดียวเลยนะ ไม่มีใครเอาต้องคุยกัยเด็ดขาดนะ แล้วส่วนหนึ่งที่น้องเป็นแบบนี้เพราะแม่ตามใจแม่แก้ไขด้วย เริ่มทำวันนี้มันยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยแล้วปล่อยให้มันวินาศสันตโล’ ต่อมา “ดีเจอั้น” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘บางทีอาจจะต้องบอกสถานการณ์ของครอบครัวเราว่าตอนนี้เป็นยังไง ซึ่งก็อาจจะไม่ต้องพูดความจริงทั้งหมด อย่างเช่น แม่กำลังจะเกษียณตอนนี้เรามีเงินแค่นี้นะแม่ดูแล้วแม่ไม่สามารถที่จะซัพพอร์ตได้แล้ว คือผมจะไม่โทษคุณแม่ที่น้องเติบโตมาในบ้านที่คุณแม่ตามใจแบบทุกอย่างแบบขั้นสุดเลย แต่ว่าถึงที่สุดของที่สุดแล้วมันก็จะมีขอบเขตที่เราจำเป็นที่จะต้องทำเพื่อไม่ให้ความรักของเรามันเกินขอบเขตจนกลายเป็นความรักที่ไปทำลายเขา’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ขอเสริมหรืออาจจะต้องไปทางบ้านแฟนหน่อยไปให้รู้ไปให้เห็น แฟนคือใคร ที่อยู่ยังไง แฟนยังดีนู้นนี่นะ ไม่ใช่แบบไม่รู้อะไรเลย เป็นกำลังใจให้เคและคุณแม่นะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin




