โดนเพื่อนร่วมงานเกลียดตั้งแต่ยังไม่เริ่มงาน! เพราะเขาไปถาม HR ว่าเราเริ่มงานด้วยเรทที่สูงกว่าคนในแผนก ทำงานดีจนตอนนี้ผ่านโปรตั้งแต่ 2 เดือนครึ่ง ยิ่งโดนแซะหนักกว่าเดิม จะรับมือยังไงดี?

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

โดนเพื่อนร่วมงานเกลียดตั้งแต่ยังไม่เริ่มงาน! เพราะเขาไปถาม HR ว่าเราเริ่มงานด้วยเรทที่สูงกว่าคนในแผนก ทำงานดีจนตอนนี้ผ่านโปรตั้งแต่ 2 เดือนครึ่ง ยิ่งโดนแซะหนักกว่าเดิม จะรับมือยังไงดี?

04 ธ.ค. 2023

            “คุณปาย (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (29 พ.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม ว่าถูกเพื่อนร่วมงานไม่ชอบหน้า ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงาน จนตอนนี้สถานการณ์เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ

            โดย “คุณปาย (นามสมมติ)” ได้เริ่มเล่าว่า ‘วันแรกที่เราเข้ามาทำงาน ก็มีพี่ในทีมมาเล่าให้ฟังว่า รุ่นพี่ที่ทำงานจับกลุ่มเม้าส์เรา ไม่ชอบเราตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มงาน เพราะรู้ว่าเงินเดือนเราสูงกว่าพวกเขา เพราะก่อนที่เราจะเข้ามาทำงานที่นี่ พวกรุ่นพี่ไปถามกับฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) เกี่ยวกับเรื่องเงินเดือนของเรา มันจึงเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมด เพราะเงินเดือนเราสูงเทียบเท่ากับเขาที่ต้องทำงานถึง 3 ปีจึงจะมีเงินเดือนเท่าเรา เรายังรู้สึกไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องจับกลุ่มเม้าส์เรา ทั้งที่เราก็มีวุฒิการศึกษา และประสบการณ์การทำงานมาก่อน ตอนยื่นใบเสนอเงินเดือนกับทางหัวหน้างาน ก็เป็นที่น่าพอใจทั้งสองฝ่าย เราจึงไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเป็นที่จับตามองของรุ่นพี่ที่ทำงาน

            ในช่วงแรก ๆ พี่ในทีมก็คอยมาบอกข่าวตลอด เราก็ทำงานมาเรื่อย ๆ จนเราก็ทำมาได้สักระยะประมาณสองเดือนครึ่ง หัวหน้าก็แจ้งว่าเราน่าจะผ่านโปรได้แล้ว จนเรื่องนี้ก็เป็นที่น่าจับตามองของพวกรุ่นพี่อีกครั้งเพราะคนส่วนใหญ่ไม่มีใครผ่านโปรเร็วขนาดนี้ บางคนก็ต้องยืดระยะเวลาออกไปอีกถึงจะผ่านโปร ช่วงแรก ๆ  ก็มีพี่ในทีมก็คอยถามไถ่เราบ้าง เราก็คิดว่าเขาหวังดี จนเราเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาแฟน แฟนก็คอยเตือนเราว่าที่เขาเข้ามา เขาเข้ามาเพราะหวังดีจริงมั๊ย หรือเพราะผลประโยชน์อื่น เราก็ตอบแฟนตลอดว่า “ ไม่รู้สิ ไม่ได้คิดอะไร ” แฟนก็มักจะเตือนว่านิสัยของแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง  แต่พี่ในทีมคนนี้ก็จะบอกเราตลอดว่าเราโดนนินทาในกลุ่มว่าเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ ไม่ชอบเราต่าง ๆ นา ๆ ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อนสักครั้ง

            ตอนนี้เราก็ทำงานที่นี่มาเข้าเดือนที่ 6 แล้ว สถานการณ์ก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ เรารู้สึกว่าต่อหน้าทำอีกอย่าง แต่ลับหลังเรารู้ว่าเขาชอบนินทาเรา วันนึงหัวหน้ามอบหมายงานให้เรารับผิดชอบ พอเราทำงานชิ้นนี้เสร็จ มันก็เป็นที่น่าพอใจของหัวหน้า จนหัวหน้าเรียกทุกคนมารวมกัน และบอกว่างานของเราดีมาก อยากให้เอาเป็นแบบอย่าง จนคนในบริษัทบอกเราจะทำงานนี้ทำไม ทำให้คนอื่นดูไม่ดี เขาก็ชอบพูดเหน็บแนมเราตลอด “ถ้าคิดว่าเก่งมากก็มาทำแทนเลย เดี๋ยวจะลาออกให้” จนตอนนี้พี่ในทีมที่เคยเตือนเราก็ย้ายฝั่งไปอยู่ฝั่งนู้นแล้วเพราะเราก็เคยมีปัญหากัน เพราะเขาชอบพูดให้เราดูผิด จนเราขึ้นเสียงใส่เขาเพื่ออธิบาย เขาเลยไม่มาคุยกับเราอีกเลย จนตอนนี้เราก็ไม่มีเพื่อนคบเลยในที่ทำงาน

            หลังจากที่เราทะเลาะกับพี่ในทีมไปตอนนั้น ถึงตอนนี้ทุกคนในทีมเราก็เริ่มตีตัวออกห่างจากเรา พยายามไม่คุยกับเรา และเริ่มมาเยอะกับเรามากขึ้น จากงานที่เคยส่งมาแล้วผ่านตลอด แต่รอบนี้กลับกลายเป็นว่าไม่ผ่าน ทั้ง ๆ ที่เราก็ทำเหมือนเดิมตลอด เขาให้คำตอบแค่ว่า “ไม่ได้ มันไม่ได้” จนเราเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาหัวหน้าเขาก็บอกแค่ว่าทีมน่าจะลืมบอก เราเลยตัดสินใจกลับไปคุยกับทีมว่าถ้างานพลาด ให้รีบแจ้งเราเลยได้มั๊ย เรายินดีที่จะแก้ แต่ในระหว่างที่เรากำลังเจรจากับพี่ ๆ ในทีม เราก็รู้สึกว่าบรรยากาศก็ไม่ได้ชวนอยู่สักเท่าไหร่ ก็เลยแอบบันทึกเสียงในมือถือ ก่อนจะเดินออกไปเพราะเราอยากรู้ว่าเขาคุยกันเกี่ยวกับเรายังไง ปรากฏว่าสิ่งที่เขาคุยกันคือบอกว่า “เราขี้เกียจ ขึ้เกียจก็คือขี้เกียจ อย่าไปเล่นละครตบตาหัวหน้าว่าตัวเองขยัน” จริง ๆ เราก็อยากจะหักหน้าเขาเหมือนกันว่าอยากให้ทำได้เหมือนเรา ไม่ใช่ให้เราทำได้คนเดียว

            ตอนนี้เรารู้สึกอึดอัดที่เพื่อนร่วมงานชอบพูดเหน็บแนมข้ามหัวกันไปมา ไม่ต้องเป็นเพื่อนร่วมกันที่ดีกันก็ได้ แต่ขอทำงานโดยที่ไม่ต้องมาจิกกัดเราแบบนี้ เราอยากรู้วิธีการรับมือ เพราะเราไม่ได้สนใจเรื่องนินทาเราแล้ว แต่บางทีได้ยินมันก็รู้สึกโมโห เพราะเราไม่ได้ลาออกจากที่นี่ อยากทำงานที่นี่ เพราะงานมันโอเคกับเราแล้ว

            ซึ่ง “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าถ้าเราไม่อยากได้ยินเสียงไหน เรามีวธีการจัดการกับมันอยู่ สำหรับพี่คงเลือกวิธีไม่กี่วิธี อย่างเช่น 1. คิดซะว่าหมาเห่าอยู่ตรงนั้น หรือว่าเช้า ๆ เสียงนกอีแร้งมาร้องอยู่ข้างบ้านไม่หยุด หาอะไรมาอุดหูซะ แก้ที่เรา 2. แก้ที่ความคิดของเรา ลองไม่สนใจเสียงเหล่านั้น ลองคิดซะว่าเป็นเสียงนกเสียงกา สุดท้ายแล้วพี่ค้นพบว่าเราไปอุดปากนกไม่ได้ อุดปากหมาที่มันเห่าไม่ได้ แต่ว่าเราอยู่ที่วิธีคิดเรามากกว่า ทำไปตามความสบายใจของเรา ความเป็นมืออาชีพของเรา เสียงด่าทอพี่เข้าใจนะว่ามันน่าลำคาญ แต่ว่าถ้าเทียบกันแล้วพี่อยากให้ปายอยู่มากกว่า แล้วให้พวกนั้นลาออก ทำงานให้เป็นมืออาชีพต่อไป ถ้าสุดท้ายมันมีอะไรตัดขัดเกี่ยวกับเรื่องงานก็บอกหัวหน้าว่าเราทำเต็มที่แล้ว เอาจริง ๆ ทางเลือกตอนนี้มันก็มีไม่มากก็คือ 1. ทนอยู่ต่อ 2. ลาออกไปเลย เพราะฉนั้นไม่ต้องใส่ใจ การจะรุ่งเรือง บางทีมันต้องมีอุปสรรคบ้าง เราทำงานให้หัวหน้าเห็น ให้บริษัทเห็น เป้าหมายเราคือตรงนั้น ระหว่างทางอย่าไปใส่ใจ

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เพราะว่าปายรักงานนี้ ปายอยากทำงานนี้ เพราะปายเห็นความเจริญเติบโตของมัน และปายก็ยังมีเจ้านายที่พี่เชื่อว่าเขาก็อยู่ทีมปายนะ เพราะฉะนั้นพี่ว่าปายต้องอดทน อย่างที่พี่เผือกบอกว่าเห็นพวกเขาเป็นอุปสรรคขวากหนามที่จะขัดขวางให้เราไปถึงเป้าหมาย ซึ่งมันก็เป็นเป้าหมายของปายที่ชัดเจนด้วยนะ ซึ่งต่างจากพวกเขาที่ไม่มีแต่อนาคตเลย ถ้าหัวหน้าปายมีคุณสมบัติมากพอ วันนึงเขาก็จะเห็นสิ่งที่พวกนั่นทำเอง และคงจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้หัวฟน้าเขาก็รับรู้แล้วแหละว่าเพื่อนร่วมงานไม่ชอบเรา เขาก็ดูมีเป้าหมทยที่ชัดเจนให้ปายนะ ว่าปายมาที่บริษัทเพื่อทำงาน ไม่ได้มาหาเพื่อน ซึ่งปายไม่จำเป็นต้องสนใจด้วยซ้ำ หรือถ้าเราไม่ไหวกับเพื่อนร่วมงานพวกนั้นแล้ว เพราะมันส่งผลกับงาน พี่ว่าก็เปิดใจคุยกับหัวหน้าได้นะ เดี๋ยวหัวหน้าก็ต้องจัดการปัญหาตรงนี้เอง ปายสามารถรายงานปัญหาได้เลย ส่วนเสียงนกเสียงกาเล่านั้น

            วันนี้พี่จะให้ไป 2 ทางเลือกคือ 1. พยายามไม่สนใจ ไม่เก็บมาใส่ใจ เพราะเราต้องเข้าใจว่าพวกเขาเป็นแบบนั้น หมาคือหมา จะไปห้ามหมาให้มันเห่าไม่ได้ พี่เข้าใจแหละว่ามันยาก พี่ไม่รู้หรอกนะว่าปายนิสัยยังไง แต่ถ้าเป็นพี่วันนึงถ้าทนไม่ไหว พี่จะหันไปแล้วพูดกับเขาเลยว่า ไม่ได้ให้มาชอบ ไม่ได้ให้มารัก ไม่ต้องมาเอ็นดูอะไรทั้งสิ้น เกลียดหรือด่าได้เลย แต่อย่ากระทบงาน ถ้ากระทบงานเมื่อไหร่ฟาดทันที! แต่ตอนี้เราก็ต้องทำได้แค่ทน ถ้าถึงเป้าหมายเมื่อไหร่ คนเหล่านั้นก็แค่วุ้น หรือเป็นแค่จุลินทรีย์เท่านั้นแหละ เพราะพี่เชื่อว่าถ้ามารไม่มี บารมีไม่เกิด

            ปิดจบที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ เราต้องเก็บหลักฐาน แล้วพร้อมต่อสู้ ปายต้องไม่ทนไปตลอด ไม่งั้นสภาพจิตปายเสียแน่นอน พวกนั้นต้องแบ่งไปบ้าง แต่ตัวแรง ๆ ไปเลย ให้รู้ว่าเราพร้อมบวก! อีกอย่างทำทีว่าคุยโทรศัพท์ให้พวกมันได้ยินไปเลยให้รู้ว่าเราสายตบ มัสันดานดิบที่ร้ายแรง! พี่ว่าทุกคนก็พูดมาหมดแล้วแหละ ซึ่งพี่ก็เห็นด้วยหมดเลย แต่ถ้าถึงจุดที่มันกระทบกับงานเมื่อไหร่ ให้ไปฟ้องเจ้านายแล้วเรียกคุยเลยทั้งห้อง แล้วบอกสาเหตุทุกอย่างไปว่าเกิดอะไรขึ้น และเหตุผลของเราว่าแค่ต้องการชีวิตการทำงานที่พาไปสู่เป้าหมายการทำงาน เรื่องส่วนตัวพวกเขาก็ควรที่จะเก็บไว้ในใจบ้าง ไม่ต้องฟ่นออกมา เพราะอาจจะทำให้เรา Toxic เพราะบริษัทไหนก็ตามที่ไม่ดูแลคนดี สักวันหนึ่งคนดีทั้งหมดก็จะลาออกหมด แล้วมันจะเหลือแต่พวก Toxic หรืออีกอย่างน้องก็พูดกับเขาไปตรง ๆ ไปเลยว่าการกระทำพวกพวกเขาเหล่านี้มัน Toxic จนทำให้เราหมดกำลังใจทำงาน เรามาทำงานในบริษัทนี้ก็เพราะอยากให้บริษัทมันเติบโต ตอนนแรกเราโคตรมีไฟเลย แต่ตอนนี้เราโคตรหมดไฟเลย เราทนเรื่องนี้มาสักพักนึงแล้ว แต่ก่อนที่เราจะพูดอย่างนั้น ปายก็ต้องมีหลักฐานนะว่าคนพวกนี้ทำให้งานของเราไม่ก้าวหน้า ให้เขารู้สึกว่าอารมณ์เราถึงที่สุดแล้วถึงออกมาพูดแบบนี้’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ทำงานที่เดิมมา 5 ปีไม่เติบโต เลยตัดสินใจจะย้ายงานใหม่ ตอนนี้เจองานที่ดี เงินเดือนดี บริษัทดีทุกอย่าง แต่ต้องไปเจอกับแฟนเก่าที่นอกใจเรา แฟนที่แอบนอกใจไปคบน้องในทีม เราอี๋จนไม่อยากเห็นหน้า ถ้าต้องไปเจอเขาก็กลัวว่าใจตัวเองจะไม่โอเค ควรย้ายไปทำที่นี่ดีไหม?

09 พ.ค. 2025

ทำงานที่เดิมมา 5 ปีไม่เติบโต เลยตัดสินใจจะย้ายงานใหม่ ตอนนี้เจองานที่ดี เงินเดือนดี บริษัทดีทุกอย่าง แต่ต้องไปเจอกับแฟนเก่าที่นอกใจเรา แฟนที่แอบนอกใจไปคบน้องในทีม เราอี๋จนไม่อยากเห็นหน้า ถ้าต้องไปเจอเขาก็กลัวว่าใจตัวเองจะไม่โอเค ควรย้ายไปทำที่นี่ดีไหม?

“คุณวุ้น (นามสมมติ)”อายุ 34 ปี สายที่สี่ในรายการพุธทอล์ค พุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [7 พฤษภาคม 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา“ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม”เกี่ยวกับปัญหาการทำงานว่าจะไปทำงานที่เติบโตแต่ต้องไปเจอแฟนเก่าดีไหม? โดย “คุณวุ้น (นามสมมติ)”ได้เล่าว่า ‘กำลังลังเลอยู่ว่าจะเลือกเส้นทางไหน สายงานเราเป็นงานที่อาจจะต้องทำได้งานร่วมกัน ถึงแม้จะอยู่กันคนละฝั่ง ดังนั้นตอนนี้ ช้อยส์ในใจจะมีอยู่ 3 ช้อยส์คือ 1.อยู่ที่เดิมไม่ย้ายงาน แต่ไม่เติบโต ทำงานที่เดิมไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอที่ใหม่ก่อน 2.ย้ายไปทำงานที่ใหม่ที่ตรง JD เราเลย เงินดีด้วย แต่ต้องไปเจอแฟนเก่า 3. Set Zero เริ่มต้นหาที่ใหม่ไปเลย สำหรับแฟนเก่าของเราจบกันไปแบบไม่ดีเลย เค้านอกใจไปคบกับน้องในทีมของเขาเอง’ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำแนะนำ ‘แบบเล่นๆ ว่า ให้ไปทำงานที่มีแฟนเก่าอยู่ ใกล้ชิดไปเลย ให้แฟนใหม่รู้สึกระแวง ทำให้แฟนใหม่ของแฟนเก่าเราไปกระซิบพูดต่อกันได้ว่า อุ๊ย แฟนเก่ากลับมา ทำงานเก่งด้วย วิธีการนี้ ดีเจเติ้ลบอกว่า ระวังจะงานไม่ก้าวหน้า เพราะมัวแต่ทำเรื่องพวกนี้ ดีเจต้นหอมบอกว่า คน Toxic ในความสัมพันธ์นี้ไม่ใช่เรา แต่เป็นแฟนเก่ามากกว่า’ “ดีเจเผือก” ก็แซวว่า ‘ไม่ใช่ว่าไปทำงานที่นี่แล้ว ปรากฏว่าบทสรุปคือ คุณวุ้น วิ่งไปร้องไห้ในห้องน้ำ แล้วโทษตัวเองว่า ไม่น่าไปทำงานที่นี่เลย เพราะยังรู้สึกอยู่’ “ดีเจต้นหอม” ถามกลับว่า ไม่ใช่ว่าเขามาง้อแล้วเราจะกลับไปนะ? “คุณวุ้น (นามสมมติ)” ตอบกลับทันทีว่า ‘นี่แหละคือเหตุผลที่หนูจะโทรมาปรึกษาพี่ๆ’ ดีเจทั้งสามคนถึงกับกรี๊ดเลยทีเดียวว่า ถ้าอย่างงั้นให้ตัดช้อยส์ที่มีแฟนเก่าออกไปได้เลย เพราะใจเรายังไม่แข็งแรงพอ แต่ถ้าจะไปจริงๆ ให้ไปแบบว่านางพญา ไปแบบร่างทอง ไปแบบผู้ชนะเลย’ สุดท้าย 3 ดีเจก็ได้เห็นตรงกันว่า ‘ให้ไปสมัครงานใหม่ๆก่อน แล้วทำงานที่เดิมรอเวลาไป ถ้าได้ที่ใหม่ที่มันดีๆก็ค่อยย้ายไป และอยากให้รายการอัปเดตสายนี้ด้วยว่าสรุปแล้ว วุ้นเลือกทางไหน จะไปทำงานกับแฟนเก่า แล้วกลับไปหาแฟนเก่ารึเปล่า? มารอฟังกัน...’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คุณพ่อ ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่สุดท้ายปฏิเสธการรักษาเพราะ … ไปใช้สิทธิประกันสังคม ครั้งแรกได้ยินพยาบาลบ่นใส่ “เบื่อตาแก่คนนี้จัง” ครั้งที่สอง ขอให้พาไปห้องน้ำหน่อยได้ไหม? พยาบาลบอก “ตายในห้องน้ำมาหลายคนแล้ว” จนครั้งนี้ เศร้าที่สุดคือ พ่อบอก...

21 ส.ค. 2023

คุณพ่อ ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่สุดท้ายปฏิเสธการรักษาเพราะ … ไปใช้สิทธิประกันสังคม ครั้งแรกได้ยินพยาบาลบ่นใส่ “เบื่อตาแก่คนนี้จัง” ครั้งที่สอง ขอให้พาไปห้องน้ำหน่อยได้ไหม? พยาบาลบอก “ตายในห้องน้ำมาหลายคนแล้ว” จนครั้งนี้ เศร้าที่สุดคือ พ่อบอก...

คุณพ่อ ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่สุดท้ายปฏิเสธการรักษาเพราะ…ไปใช้สิทธิประกันสังคม ครั้งแรกได้ยินพยาบาลบ่นใส่ “เบื่อตาแก่คนนี้จัง”ครั้งที่สอง ขอให้พาไปห้องน้ำหน่อยได้ไหม? พยาบาลบอก “ตายในห้องน้ำมาหลายคนแล้ว”จนครั้งนี้ เศร้าที่สุดคือ พ่อบอก เปลี่ยนผ้าอ้อมให้หน่อยนะครับ เจ้าหน้าที่บอก...“คนนี้ก็จะตาย คนนั้นก็จะเปลี่ยนผ้าอ้อม มาดูกันว่าใครจะตายก่อนกัน” “คุณปีใหม่ (นามสมมติ)” อายุ 25 ปี สายแรกในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา(16ส.ค. 66)ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก -ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอมเกี่ยวกับปัญหาคุณพ่อเจอคำพูดที่ทำร้ายจิตใจจากบุคลากรทางการแพทย์จนไม่มีใจอยากรักษา โดย “คุณปีใหม่ (นามสมมติ)” เล่าว่า `พ่อป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐในตัวจังหวัดแห่งหนึ่ง หลังจากที่เข้าคีโมครบหกครั้งแล้ว พ่อมีสภาวะแทรกซ้อน ก็คือเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พ่อมีอาการปวดขาข้างขวาขึ้นมา แล้วทีนี้คุณหมอจะนัดพบทุกๆ 3 เดือน เพื่อตรวจเลือด แต่แกมีอาการปวดขาแล้วไม่ยอมไปหาหมอเลย ด้วยทางบ้านหนูก็ไม่ได้มีรถยนต์ ไม่ได้มีรถส่วนตัว เวลาที่จะไปหาหมอแต่ละทีจะลำบาก ก็ต้องไปรถโดยสารแทน แกเลยรอให้ถึงกำหนดนัดก่อน ถึงจะไปโรงพยาบาล แล้วกำหนดนัดอีกครั้งก็คือ กันยายนเลย แต่ด้วยอาการของแก มันปวดมาก จนนอนไม่ได้ ทานข้าวไม่ได้เป็นระยะเกือบเดือนเลย จนถึงสัปดาห์ที่แล้ว ก็เลยตัดสินใจจะเรียกรถฉุกเฉิน คือจะต้องไปหาหมอแล้วแกรอไม่ไหวแล้ว พอไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอตรวจอาการเบื้องต้นและด้วยพ่อมีโรคประจำตัว คุณหมอบอกว่า “จะต้องให้คุณหมอที่เป็นเจ้าของไข้มาดูอาการ และค่อยทำเรื่องส่งไปรักษากระดูก” คือต้องรอก่อน พอคุณหมอเจ้าของไข้มาถึงก็ให้พ่อนอนรอดูอาการที่ห้องรวมคนไข้ เบื้องต้นหนูได้แจ้งหมอไว้แล้วว่า พ่อไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้นะ เพราะคุณพ่อเดินไม่ได้จากอาการปวดขา เวลาที่แกปวดขาก็จะปวดตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาจนถึงเอว รวมไปถึงอวัยวะเพศและมีอาการร้อนมาจากข้างใน และด้วยตำแหน่งเตียงของพ่อจะอยู่ห่างจากห้องน้ำประมาณ 10 เมตร คืออยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้อง หนูก็เลยขอคุณหมออยู่เฝ้าพ่อได้ไหม คุณหมอแจ้งกลับมาว่า ตามปกติแล้วจะไม่ให้ญาติอยู่เฝ้า หนูกับแม่คุยกันว่าไม่เป็นไรถ้าหมอไม่ให้เฝ้า จะให้พ่อใส่แพมเพิสแทน ซึ่งแกไม่เคยใส่แพมเพิสมาก่อน คืนแรกที่ใส่แพมเพิสแกหนูคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร จนวันต่อมาหนูเลิกงานรีบไปหาพ่อเลย สิ่งที่หนูเจอคือ คุณพ่อมีอาการหน้าซีด ตัวสั่นเหมือนตกใจอยู่ตลอดเวลา หนูคิดว่าเป็นอาการจากที่แกไม่ได้กินข้าว หรือปวดขามากจนไม่ได้นอนหรือเปล่า ก็เลยถาม “พ่อวันนี้ปวดขาไหม” แกตอบไม่ค่อยปวดเท่าไหร่ แล้วก็เงียบไป ซึ่งปกติพ่อจะเป็นคนชอบชวนคุย เวลาถามกลายเป็นคนถามคำตอบคำ ซึ่งตามปกติเวลาเยี่ยมของโรงพยาบาลรัฐ เขาจะแบ่งเป็น 3 ช่วง เริ่มจาก 6 โมงเช้า - 8 โมง และช่วงเที่ยง – บ่ายโมง ช่วงสุดท้าย 5 โมง – 1 ทุ่ม พอใกล้หมดเวลาเยี่ยม พ่อก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าแชทไลน์กลุ่ม แล้วพิมพ์เล่าถึงเหตุการณ์แรกที่แกเจอว่า เมื่อคืนพ่อโดนพยาบาลดุ เพราะแกจะให้พยาบาลช่วยเปลี่ยนแพมเพิสให้ ด้วยความที่แกไม่เคยใส่แพมเพิสมาก่อน อาจจะมีอาการร้อนหรือปัสสาวะเต็มแล้ว แกเรียกพยาบาล 2-3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งก็เว้นระยะประมาณ 30 นาที พยาบาลก็รับรู้ ฟังที่พ่อพูดแล้วก็เดินหนีไป จนประมาณตี 3 - 4 คุณพ่อก็ถามอีกครั้งว่า “เปลี่ยนแพมเพิสให้หน่อยได้ไหมครับ มันเต็ม” พยาบาลก็ตอบกลับด้วยภาษาอีสาน แปลออกมาก็ความหมายประมาณ ฉันเบื่อตาแก่คนนี้จัง... เหตุการณ์ที่สอง ต่อเนื่องจากที่พยาบาลไม่ยอมเปลี่ยนแพมเพิสให้ แกก็พยายามที่จะลุกไปเข้าห้องน้ำเอง แต่ด้วยความที่แกไม่มีไม้เท้า ทำให้ขณะที่พยายามลุกก็เกิดเสียงดังที่เตียงขึ้น ทำให้พยาบาลหันมาเห็น แล้วถามว่า “ทำอะไร” พ่อก็บอกว่า“จะไปเข้าห้องน้ำครับ พาไปเข้าห้องน้ำได้ไหม” พยาบาลพูดประมาณว่า “ตายมาหลายคนแล้วนะอยู่ในห้องน้ำ” หนูคิดว่าเหมือนพยาบาลจะสื่อว่าเดี๋ยวลื่นอะไรประมาณนี้ จนเหตุการณ์ที่สามที่พ่อเจอคือ เตียงข้างๆเป็นผู้สูงอายุใกล้จะเสียชีวิตแล้ว พยาบาลก็มารุมดูกันที่เตียงแล้วมีคนยืนข้าง ๆเตียงของพ่อ พ่อก็เลยกระซิบบอก “คุณหมอครับ ผมรบกวนเปลี่ยนแพมเพิสให้หน่อยได้ไหม” ซึ่งคนที่ยืนอยู่เป็นบุรุษพยาบาล ตอบกลับพ่อว่า “เอ้า! คนนึงก็จะตาย อีกคนก็จะเปลี่ยนแพมเพิส มาดูกันว่าใครจะตายก่อนกัน” หลังจากนั้นพ่อโทรหาหนู แกขอกลับบ้าน หนูก็ถามแกเป็นอะไรหรือเปล่า เป็นเพราะเหตุการณ์ที่พิมพ์มาใช่ไหม หนูก็บอกแกไม่เป็นไรนะหนูจะคุยกับคุณหมอให้ว่าขอย้ายได้ไหม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เจอคุณหมอ พ่อเซ็นปฏิเสธ การรักษาเองทั้งหมด พอกลับบ้านมา พ่อเปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน แกจะพูดเรื่องที่แกเจอย้ำๆ ซ้ำๆ ประมาณว่า พ่อจู้จี้เกินไปหรอ พ่อไปเป็นภาระให้เขาหรือเปล่า หรือเขาคิดว่าพ่อเป็นโรคจิตหรือเปล่า? หลังจากนั้นหนูก็โทรไปร้องเรียนกับทางโรงพยาบาล เขาก็แจ้งมาว่าตอนนี้พ่อมีอาการน่าเป็นห่วงนะ ยังไม่ได้ทำการรักษาอะไรเลย พ่อเซ็นยกเลิกทั้งหมดก่อน หนูบอกเหตุผลที่พ่อยกเลิกการรักษาว่าพ่อเจออะไรบ้าง ทางโรงพยาบาลก็บอก ถ้างั้นจะย้ายตึกให้ ญาติต้องดูแลคนไข้เอง แต่ตอนนี้พ่อไม่อยากรักษาแล้ว แกบอกว่า “ถ้าเกิดพ่อจะตาย ก็อย่าเอาพ่อไปที่นี่อีก” หนูอยากขอคำแนะนำวิธีหรือคำพูดยังไงดี ไม่ให้พ่อโทษแต่ตัวเอง... ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘พูดไปเลยว่าพยาบาลคนนั้นคงเครียด อาจจะมีเรื่องเยอะแยะมากมาย คนอื่นๆก็โดนแบบนี้เหมือนกัน พ่อไม่ต้องไปสนใจ พูดให้พ่อรับรู้ว่าสิ่งนี้มันไม่ได้เกิดจากพ่อ แต่มันเป็นเพราะตัวของพยาบาลคนนั้น เป็นเรื่องที่เราบังเอิญไปเจอคนแบบนี้ ทางด้าน “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘เอาชื่อไป complain กับทางโรงพยาบาล ให้เขาได้รับรู้ว่าบุคคลนี้เป็นปัญหาของแผนกนั้นอยู่ แล้วพยายามบอกคุณพ่อว่า มันไม่ได้เป็นปัญหาที่พ่อ แต่มันเป็นปัญหาที่คน ลองยกตัวอย่างคนที่เขาดีๆ สุดท้ายไม่ใช่ความผิดของพ่อเลย อาการ ร่างกายที่จะดีขึ้นก็คือ จิตใจต้องดีขึ้นก่อน ถ้าจิตใจเราแข็งแรงเดี๋ยวอย่างอื่นก็จะตามมาครับ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘หนูอยากให้คุณพ่อรักษาตัวเอง ไม่ใช่เพื่อใครเลย แต่เพื่อครอบครัวของเรา เพื่อคนที่เรารัก กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าเกิดพ่อห่อเหี่ยว คนในบ้านก็จะห่อเหี่ยวตามนะ ขอให้พ่อกลับไปรักษาเราจะได้อยู่กับลูกหลานไปนาน ๆ ส่วนเรื่องพยาบาล พ่อไม่ผิดเลย ยายนั่นมันร้ายเอง คนอย่างยายนั่นต้องเจอคนแบบหนู...’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

มีเพื่อนคนนึง ไม่ค่อยสนิทกัน แต่เค้าส่งคลิปมาให้หนูไม่หยุด ส่งมาให้ทั้งวัน ทั้งคืน คลิปตลก คลิปไวรัล คลิปโซเชียลต่างๆ บางทีหนูก็ไม่ได้เข้าไปดู ลองไม่ตอบไป 2-3 วัน ก็ยังส่งมาไม่หยุด จะบล็อกก็ไม่รู้ว่าจะเสียเพื่อนไปไหม ถ้าเจอแบบนี้ทำไงกันคะ?

26 ก.ค. 2024

มีเพื่อนคนนึง ไม่ค่อยสนิทกัน แต่เค้าส่งคลิปมาให้หนูไม่หยุด ส่งมาให้ทั้งวัน ทั้งคืน คลิปตลก คลิปไวรัล คลิปโซเชียลต่างๆ บางทีหนูก็ไม่ได้เข้าไปดู ลองไม่ตอบไป 2-3 วัน ก็ยังส่งมาไม่หยุด จะบล็อกก็ไม่รู้ว่าจะเสียเพื่อนไปไหม ถ้าเจอแบบนี้ทำไงกันคะ?

“คุณเบ (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี สายที่ห้าในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [24 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับเรื่องเพื่อนที่ไม่สนิทชอบส่งคลิปมาให้เรามากเกินไปจนมันน่ารำคาญ โดย “คุณเบ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีปัญหาคือจะมีเพื่อนที่ไม่สนิท ที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานมากเเล้ว เเต่ว่ามีโซเชี่ยลกัน ติดต่อในโซเชียลบ้าง คือเขาจะชอบส่ง Reels ส่งคลิปมาใน DM ไอจี แชร์มาตลอดเวลาทั้งวันเป็นสิบ ๆ อัน เป็นคลิปตลกบ้าง คลิปศิลปิน คลิปทั่วไปเรื่อยเปื่อย ด้วยความที่มันส่งมาทั้งวัน เเล้วหนูก็รำคาญ คนที่มีพฤติกรรมเเบบนี้มี 2 คน แรกๆ หนูก็ตอบค่ะ ก็ตามมารยาท เพื่อนแชร์อะไรมาให้หนูก็ดู รีเเอคชั่นกลับไป เเต่มันเหมือนหนูยิ่งตอบมันก็ยิ่งส่ง เเล้วหนูเป็นคนตอบเร็วเเล้วไม่ชอบให้มีโนติค้าง เเล้วเป็นว่าก็ส่งมาไม่หยุดเลย คนที่ 1 เขาจะชอบส่งศิลปินที่เขาชอบมา หนูรู้จักแต่ไม่ได้ชอบ เหมือนส่งมาหวีดเมนตัวเองว่า “แก เมนเราน่ารัก ทำแบบนั้นแบบนี้น่ารักมั้ย” หนูเลยตอบรีเเอคไปแบบกว้าง ๆ ไปไม่ได้ลงดีเทลเหมือนที่เขาต้องการ เพราะหนูคิดไปเองว่า ถ้าหนูรีเเอคแบบคนไม่มีใจ เขาจะส่งมาน้อยลง เเต่ว่าไม่ ชีก็ส่งมาเรื่อย ๆ เลย ขอแค่หนูตอบอะไรก็ได้ คนที่ 2 เนี่ยหนักเลย คนนี้เขาชอบแชร์มีม เเชร์เรื่องตลกเรื่อยเปื่อย คือมาทุกช่องทางโซเชี่ยลที่หนูมีกับเขาเลย คือหนูจะมีเฟสบุ้ค ไอจีเขา เขาก็ส่งมาหมดเลย เฟสบุ้คนี่หนักเลย คือมันจะแบ่งเป็น 2 อย่างใช่มั้ยคะ แท็กหนูใต้โพสต์มาเป็นสิบ เเล้วก็ยังเเชร์มาในเเมสเซนเจอร์ของเฟสบุ้คมาอีก ด้วยความที่หนูไม่ค่อยเล่นเฟสบุ้คเเล้วเพราะว่ามีพ่อแม่มีญาติอยู่ หนูก็ไม่ค่อยตอบ เขาก็เหมือนย้ายแพลตฟอร์มมาที่ไอจี มาส่ง เเต่เขาก็ไม่ได้หยุดส่งในเฟสนะคะ เขาก็เเชร์ 3 แพลตฟอร์มเลย คือมันเยอะมาก หนูก็เคยเห็นเขาเเท็กหลายคนอยู่นะคะในโพสต์ที่เขาเเท็กหนู หนูก็กดเข้าไปอ่านไม่ตอบ เพื่อให้โนติมันหายไป มีครั้งนึงชีคนที่ 2 เขาก็ทักหนูกลับมาว่า “เป็นอะไรอะ ไม่ตอบเลย ป่วยหรอ?” หนูก็ตอบกลับไปว่า “ส่งมาเยอะขนาดนี้ตอบไม่ไหวหรอกจ้า” เขาก็อ่านไม่ตอบเเล้วก็หายไปสักพัก ไม่ถึงวันเขาก็แชร์มาอีก หนูทำมาทุกวิถีทางเเล้ว ไม่อ่านไม่ตอบ ทิ้งไว้หลาย ๆ วันเเล้วค่อยไปกดออก เเต่เหมือน 2 คนนี้เขาไม่ลดละความพยายามเลย เขาเห็นหนูอ่านเเล้วก็จะส่งมาใหม่ทันที ไม่สนใจว่าหนูจะไม่ตอบนานเเค่ไหนเเล้วส่งมาเรื่อย ๆ ทีเนี่ย เเจ้งเตือนหนูก็จะชึ้น 2 อัน เป็นเขา 2 คนอยู่ตลอดเลย ไม่เคยหายไปเลย หนูก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่า หนูจะทำยังไงดีให้เขาเลิกส่งมาให้หนู หรือว่าส่งมาให้มันปริมาณไม่เยอะขนาดนี้’ ซึ่ง “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเเชร์มีมลอย ๆ มาในกรุ๊ปจะไม่ตอบ เเต่ถ้าเขายิงตรงถึงเรา อาจจะเข้าไปอ่านแล้วตอบนิด ๆ หน่อย ๆ ตามมารยาท เเต่ถ้ารัว ๆ จะไม่ตอบจะไม่สนใจเลย บางคนเขามีความสุขกับการแชร์มีม โดยไม่ต้องการคำตอบด้วย เเค่รู้สึกว่าให้เพื่อนได้เห็นอะไรตลก ๆ เหมือนเรา’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าไม่มีโอกาสได้เจอ เป็นพี่พี่บล็อกไปแล้ว พี่ไม่เหนื่อยมาลบหรอก หรือเบไปตั้งไม่ให้เเท็กได้นะในเฟสบุ้ค เเต่ในไอจีพี่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ถ้ามันทำให้รำคาญ พี่จะบล็อก! ไม่เห็นต้องเเคร์เขาเลยถ้าไม่ใช่เพื่อนที่สนิทเเบบจะเจอกันอยู่เเล้วอะ ถ้าบอกไปแล้ว ทำให้เขารู้ไปเเล้วว่าไม่อยากรับสารเหล่านี้ เเล้วเขายังทำอยู่ก็ต้องบล็อกอะ เพราะไม่รู้จะทำยังไงเเล้ว’ เเละสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘เป็นพี่ถ้าไม่สนิทพี่จะไม่อ่านเลย พี่จะลบ ถ้าเขาถามว่าเป็นอะไรทำไมไม่อ่าน ก็ตอบไปเลยว่ารู้ว่าที่ส่งอะไรมามันไม่สำคัญ ขี้เกียจอ่าน พูดตรงๆ เเต่ถ้าไม่อยากพูดตรง ๆ อีกวิธีคือให้อันฟอลเขาเเล้วไปตั้งค่าให้เเค่คนที่เราติดตามเท่านั้นส่งข้อความได้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูมีเพื่อนสองคน ผู้ชายกับผู้หญิง แต่เพื่อนผู้หญิงมาปรึกษาว่าเพื่อนผู้ชายคนนี้ ชอบทักมาถามว่าอยู่คนเดียวไหม? แล้วก็ส่งรูป คลิป ช่วยตัวเองมาให้เพื่อนหนูดู เพื่อนหนูปฏิเสธแล้ว แต่ก็ยังส่งมา จนตอนนี้ดูมาเกือบ 2 ปีแล้ว

13 ก.ย. 2024

หนูมีเพื่อนสองคน ผู้ชายกับผู้หญิง แต่เพื่อนผู้หญิงมาปรึกษาว่าเพื่อนผู้ชายคนนี้ ชอบทักมาถามว่าอยู่คนเดียวไหม? แล้วก็ส่งรูป คลิป ช่วยตัวเองมาให้เพื่อนหนูดู เพื่อนหนูปฏิเสธแล้ว แต่ก็ยังส่งมา จนตอนนี้ดูมาเกือบ 2 ปีแล้ว

หนูมีเพื่อนสองคน ผู้ชายกับผู้หญิง แต่เพื่อนผู้หญิงมาปรึกษาว่าเพื่อนผู้ชายคนนี้ชอบทักมาถามว่าอยู่คนเดียวไหม? แล้วก็ส่งรูป คลิป ช่วยตัวเองมาให้เพื่อนหนูดู เพื่อนหนูปฏิเสธแล้วแต่ก็ยังส่งมา จนตอนนี้ดูมาเกือบ 2 ปีแล้ว เพื่อนผู้หญิงบอก ถ้าเขากล้าส่งมา ก็กล้าดู หนูจะทำไงดีคะ? “คุณขนมปัง (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [11 ก.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาเพื่อนผู้หญิงโดนเพื่อนผู้ชายส่งรูปของลับมาให้เป็นเวลากว่า 2 ปี โดย “คุณขนมปัง (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีกลุ่มเพื่อน 3 คนรวมหนูด้วย อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ม.ปลาย แล้วตอนม.ปลายหนูก็จะสนิทกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ “ส้มส้ม” ส่วนอีกคนเป็นเพื่อนผู้ชายชื่อ “กาย” ที่คุยกันได้แต่ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น พอช่วงจบมัธยมเรา 3 คนก็แยกย้ายกันไปต่อมหาลัยคนละที่ ซึ่งตัวหนูกับกายก็แทบไม่ได้คุยกันเลยเพราะเราไม่ได้สนิทกันตั้งแต่ต้น แต่ว่ากายกับส้มเค้าจะยังมีติดต่อกันเพราะเค้าสนิทกัน จนเรื่องเริ่มมาพีคช่วงปี 2 - 3 อยู่ดี ๆ กายจะเริ่มทักไปหาส้มส้มว่า “ทำอะไรอยู่ , อยู่กับใคร” พอส้มส้มบอกว่าอยู่คนเดียวกายจะเริ่มถามส้มส้มว่า “อยากดูมั้ย” ซึ่งหมายถึงอวัยวะเพศของกาย ส้มส้มเลยตอบว่าไม่ดูแต่สุดท้ายกายก็ส่งมา และไม่ได้ส่งมาแค่ครั้งเดียว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมากายส่งรูป และคลิปอวัยวะเพศมาเยอะจนนับไม่ถ้วนเลย แถมช่วงหลังก็หนักข้อขึ้นเป็นคลิปช่วยตัวเอง แถมยังวิดีโอคอลมาโชว์อีก ประเด็นคือ กายก็เหมือนจะมีคนคุยหรือแฟนอยู่แล้ว และส้มส้มเองก็มีแฟน ซึ่งทั้งแฟนส้มส้มและกายก็เป็นพี่น้องที่รู้จักกันและสนิทกัน ทุกครั้งกายจะบอกให้ส้มส้มลบแชทเพราะกลัวแฟนส้มส้มรู้ ส้มส้มก็เหมือนปลงก็ฟีลประมาณว่าถ้าจะส่งก็ส่งมาเดี๋ยวดูให้ก็ได้ หนูเลยอยากถามพี่ ๆ ว่าแบบนี้คืออะไร? และอยากรู้ว่าการที่ผู้ชายส่งแบบนี้ให้ผู้หญิงคือต้องการอะไร?’ โดย “ดีเจทั้ง 3 คน” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ตอนนี้คนส่งมาไม่เท่ากับคนที่ดูมาตลอดนะ เพราะคนที่ส่งมาคำตอบง่าย ๆ คือโรคจิต ส่วนคนดูไม่หยุดหย่อนนี่จิตกว่านะที่ผูกพันกับมันไปแล้วนะ ทีนี้ต้องไปเอาความจริงกับส้มส้มแล้วนะว่าส้มส้มไม่ชอบจริง ๆ หรอ เพราะถ้าคนเราไม่ชอบจริง ๆ อะบล็อกไปตั้งนานแล้ว เพราะนี่คือเรื่องคุกคามทางเพศที่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เพราะถ้าโทรมาให้ดูแบบนี้นี่คือการใช้เราเป็นเครื่องมือทางเพศแล้วนะ เพราถ้านาน ๆ ที่ส่งมาแล้วเม้าท์กับเพื่อนว่า “เออมันส่งมาอีกละนะ” ยังพอเข้าใจ แต่นี่ส่งตลอด ละพอกายโทรมาก็รับ จริง ๆ มันง่ายมากแต่เค้าไม่เลือกทำมันอะ เค้าเลือกที่จะรับสารนั้น เพราะถ้าพี่เป็นส้มพี่บอกแฟนแล้วนะว่าไปจัดการให้หน่อย เพราะคำแนะนำพวกพี่คือบล็อกไม่มีอะไรยากเลย พี่ว่าเรื่องนี้มันไม่เหนือบ่ากว่าแรงที่จะคิดว่าเค้าผิดปกตินะ เพราะมันไม่มีช่องไหนได้เลยที่จะบอกว่าเค้ามีเหตุผลที่จะทำ เช่นมาจีบหรืออะไร แต่เค้าเป็นโรคจิต เรื่องที่มันไม่ปกติอย่าทำให้มันปกติ เพราะเรากำลังถูกคุกคาม’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1