เสียความมั่นใจไปเลย... สาวโทรแชร์ประสบการณ์กับ 3 ดีเจ เพิ่งไปนัด One Night Stand ครั้งแรกกับหนุ่มในแอปหาคู่ ตอนเจอกัน เขินมาก ทำตัวไม่ถูกเลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยๆ จนเขาพูดว่า "เธออย่าล่กดิ" โยนเสื้อใส่อกเรา แล้วออกจากห้องไปเลย

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เสียความมั่นใจไปเลย... สาวโทรแชร์ประสบการณ์กับ 3 ดีเจ เพิ่งไปนัด One Night Stand ครั้งแรกกับหนุ่มในแอปหาคู่ ตอนเจอกัน เขินมาก ทำตัวไม่ถูกเลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยๆ จนเขาพูดว่า "เธออย่าล่กดิ" โยนเสื้อใส่อกเรา แล้วออกจากห้องไปเลย

16 ส.ค. 2023

เสียความมั่นใจไปเลย... สาวโทรแชร์ประสบการณ์กับ 3 ดีเจ

เพิ่งไปนัด One Night Stand ครั้งแรกกับหนุ่มในแอปหาคู่

ตอนเจอกัน เขินมาก ทำตัวไม่ถูกเลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยๆ

จนเขาพูดว่า "เธออย่าล่กดิ" โยนเสื้อใส่อกเรา แล้วออกจากห้องไปเลย

ตอนนี้ไม่มั่นใจในตัวเองเลย ทำยังไงให้เอาความรู้สึกพวกนี้หมดไปสักที

            “คุณอิง (นามสมมุติ)” อายุ 21 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (9 ส.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหานัด One Night Stand ครั้งแรก ยังไม่ทันเริ่ม ก็โดนเขาบอกว่าอย่าล่ก แล้วก็ออกจากห้องไปเลย

            โดย “คุณอิง (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘เหตุการณ์ที่หนูเจอ ทำให้หนูเสียความมั่นใจจากการนัด ONS (One Night Stand) หนูขอเกริ่นก่อนว่า... ครั้งนี้คือการนัด ONS ครั้งแรกของหนู คิดว่าเรียนมหาลัยมา 4ปีแล้ว หนูก็อยากลองสักครั้งนึง เราเจอกันทางแอปหาคู่ ส่วนรูปที่ใช้ในโปรไฟล์กับตัวจริงก็ใกล้เคียงกัน ใส่ฟิลเตอร์นิดหน่อย ซึ่งเขาอายุพอๆกับหนู เราคุยกันและตกลงนัดกันคืนนั้นเลย เพราะอยู่ใกล้กันมาก

            หลังจากนั้นเขาก็มาที่ห้องหนู คือตอนนั้น ยอมรับเลยว่าเขินมากไม่รู้จะเริ่มยังไง หนูก็เลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยนู่น นั่น นี่ ช่วงแรกๆเขาก็ตอบหนูปกติ ดูจอยกับเรามาก สักพักนึงเขาก็เริ่มตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง นั่งเล่นโทรศัพท์บ้าง เริ่มไม่จอยแล้ว ซึ่งในระหว่างที่หนูชวนเขาคุย เขาจะพูดขึ้นมาตลอดเลยว่า เธออย่าล่กดิว่ะ อย่าล่กได้ปะ พอเห็นเขาพูดบ่อย ๆ หนูก็เลยเลิกถามเขา มันก็เลยกลายเป็นการเงียบใส่กัน แต่หนูว่า หนูก็ไม่ได้มีแสดงอาการตัวสั่น ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น หนูคิดว่าอาจจะชวนเขาคุยเยอะเกินไปกว่าที่หนูคิด ตอนคุยกันก็ถามประมาณ เธอเคยนัดหรือป่าว นัดมากี่คนแล้ว เรียนที่ไหน คณะอะไร คำถามประมาณนี้...

            หลังจากนั้นเขาก็พูดย้ำอีกรอบ เธอดูล่กจัง ถ้าไม่อยากทำ เดี๋ยวกลับก็ได้นะ หนูก็เลยถามเขาไปตรงๆว่า จะเริ่มเลยไหมหละ? เขาก็พยักหน้า แล้วเหมือนแบบสถานการณ์ตอนนั้นเขาดูแฮปปี้ขึ้นมาเลย ต่างจากก่อนหน้านี้ที่เขาตึงใส่หนู แล้วทีนี้ก็ตามสเต็ปเลย เล้าโลมกันปกติ แล้วหนูก็เหมือนอยากจูบเขา ก็เลยถามเขาว่า ไม่ Kiss กันหน่อยหรอ เขาก็นิ่งใส่หนูไปแป๊ปนึง แล้วก็ตอบกลับมาว่า เราไม่ค่อยชอบจูบอะ หลังจากนั้นเขาก็หยุดทำทุกอย่าง แล้วก็พูดต่ออีกว่า เธอดูล่กว่ะ ไม่ธรรมชาติเลย แล้วเขาก็โยนเสื้อมาปิดหน้าอกหนูไว้ แล้วก็ลุกขึ้น บอกกับหนูอีกรอบว่า เธอดูล่กอะ ไม่ธรรมชาติ แล้วก็ออกจากห้องหนูไปเลย ตอนนั้นคือหนูนั่งเอ๋อเลย

          หนูตั้งตัวไม่ทันว่าหนูผิดอะไร ที่หนูโทรเข้ามาวันนี้ก็เพราะ มันเสียความมั่นใจไปแล้ว คืนนั้นหนูนอนไม่หลับ รู้สึกดาวน์มาก ไม่มั่นใจในตัวเอง หนูอยากรู้วิธีเอาความรู้สึกนี้ออกไป แล้วก็อยากรู้ว่าที่หนูทำออกไปคืนนั้นมันดูล่กจริงๆหรอ? หนูค้างคาใจมากที่อยู่ดีๆเขาก็ไปเลย

            ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” เริ่มให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับคนบางคนที่เขาจะนัดมาเพื่อมีเพศสัมพันธ์ เขาไม่ต้องการการพูดคุยนะ เขามาเพื่อต้องการทำสิ่งนั้นแล้วจบ แล้วก็กลับ มันไม่ใช่การมาเดท เขาไม่ได้ต้องการมาอารัมภบท ไม่ต้องการจะรู้จัก บางคนไม่สนใจชื่อด้วยซ้ำว่าชื่ออะไร มันคือการนัดมาเพื่อทำกิจกรรมนั้นอย่างเดียว เรารู้สึกการที่น้องพยายามพูดคุย พยายามไปถามอย่าง “อยากจูบ” คือถ้าธรรมชาติคนที่เขาทำอะไรแบบนี้ เขาจะไม่ถาม ถ้าอยากทำเขาทำเลย พี่เลยรู้สึกว่าเนี่ยคือสาเหตุที่เขาทำแบบนั้นกับอิง แต่เอาจริง ๆ มันมีสาเหตุอีกมากมาย ที่พี่พูดคือพี่เดาจากสถานการณ์ที่อิงเล่ามานะ

            ต่อมาที่ “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ไม่รู้ธรรมชาติของการนัดมีอะไรกันผ่านแอป เพราะเท่าที่พี่ฟัง พี่ไม่ได้รู้สึกมันล่ก หรืออะไรนะ พี่ก็รู้สึกมันคือการทำความรู้จักกันก่อน แบบเปิดประตูมาจะให้จุดระเบิด ปั้ง โป้ง เป้ง แล้วแยกย้าย มันก็ตลกนะ หรือเอาแบบนี้ คิดในมุมพี่ อิงดันไปเจอคนที่เขาโผงผาง คนละสไตล์กับเรา ทั้งสองคนอาจต้องการเซ็กส์เหมือนกัน แต่คนนึงไม่อยากคุย อีกคนอาจจะเออเราคุยกันก่อนสิ แล้วดันไปเจอคนที่ไม่รักษาน้ำใจ ขี้รำคาญ มันก็หงุดหงิดอะไรมาด้วยหรือเปล่า แต่พอพี่ฟังจบ พี่กลับรู้สึกโชคดีจังเลย เหมือนเป็นโชคดีของอิงที่ไม่ได้อะไรมากกว่านี้กับคนนี้ เพราะไม่รู้ว่าถ้ามีอะไรกันจริงๆ แล้วพอแยกย้าย บรรยากาศตอนนั้นอาจจะทำให้อิงรู้สึกยิ่งด้อยค่าตัวเองลงไปอีกหรือเปล่า เราอาจจะมาลงในสนามที่เราไม่เคย แล้วเราก็ไม่รู้ธรรมชาติของคนในแอปนี้ ว่าเขาต้องแนะนำตัวไหม คุยกันแค่ไหน

            หลายครั้งที่คนโทรเข้าพุธทอล์ค พุธโทร แล้วเล่าว่าไปเล่นผิดสนาม มือใหม่ เข้าไปเขาอาจจะมีทำเนียมของเขาที่เราอาจไม่รู้ เพราะฉะนั้นพี่ว่าเรื่องนี้ไม่อยากให้เอาไปผูกกับความมั่นใจ หรือคุณค่าในตัวเอง พยายามคิดไว้ว่าในโลกที่เขานัดเจอกันผ่านแอป มันก็ไม่ต้องมานั่งประดิดประดอยกันมาก ถ้าเราอยากประดิดประดอย อยากคุยก็ต้องลองช่องทางอื่น เอาเป็นว่า รสนิยม สไตล์มันดันไม่ตรงกัน แล้วดันไปเจอคนไม่แคร์อะไรด้วย จะไปก็ไปเลย มันเลยทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าเราอยู่ถูกที่ ถูกเวลา แล้วก็ถูกคน มันก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทั้งหลายทั้งมวลถ้าต้องการอะไรที่สวยงามก็หาช่องทางที่เหมาะสมกับเรา และกลับไปถามกับตัวเองว่า “ฉันเหมาะกับ One Night Stand หรือเปล่า”

            ปิดจบกันที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า “ไม่ต้องไปเสียความมั่นใจ คนนั้นก็อ่อนด้อยเหมือนกันแหละ ทำไมไม่เริ่มก่อนหละ มาว่าอิงล่ก ก็เปิดมาก่อนสิ ถ้าเปิดเราก็พร้อมตามอยู่แล้ว เป็นผู้ชายก็ลุกมากก่อนสิ งี้ก็มือใหม่เหมือนกันนั้นแหละ เข้าไม่ถูกไง”

            ‘เอาแบบนี้ถ้าอยากได้คนที่มีชั้นเชิง เป็นงานก็อาจจะต้องหาคนที่อายุมากกว่านี้ แล้วอิงเป็นคนชอบแบบมีเรื่องราวก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ ถ้าแบบนี้เวลาหนูเข้าในแอป มันจะมีให้เลือกหลายประเภท มันมีโอกาสที่หนูจะเจอคนแบบจู่โจม หนูลองเปลี่ยนสนามไปร้านเหล้า มีคนแนะนำ เราดีลกันหน้างาน หนูยังเลือกคนได้ ยังสนทนากันได้นิดนึง ยังพอได้จีบกันหน่อย…..’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผมอายุ 37 คบแฟน 24 น้องเขาขี้หึงมาก ผมทำงานเป็นตากล้อง เจอนางแบบสวยๆ แต่แฟนไม่โอเค สั่งให้ลบรูปในโซเชียลทั้งหมด ผมลงเพราะเก็บพอร์ตก็ต้องลบ หลังๆมา แฟนบอกว่าให้เลิกทำอาชีพตากล้อง ผมเลิกไม่ได้เพราะคือรายได้หลัก ตอนนี้ผมห่างกับเขาแล้ว

21 มี.ค. 2025

ผมอายุ 37 คบแฟน 24 น้องเขาขี้หึงมาก ผมทำงานเป็นตากล้อง เจอนางแบบสวยๆ แต่แฟนไม่โอเค สั่งให้ลบรูปในโซเชียลทั้งหมด ผมลงเพราะเก็บพอร์ตก็ต้องลบ หลังๆมา แฟนบอกว่าให้เลิกทำอาชีพตากล้อง ผมเลิกไม่ได้เพราะคือรายได้หลัก ตอนนี้ผมห่างกับเขาแล้ว

ผมอายุ 37 คบแฟน 24 น้องเขาขี้หึงมาก ผมทำงานเป็นตากล้อง เจอนางแบบสวยๆ แต่แฟนไม่โอเคสั่งให้ลบรูปในโซเชียลทั้งหมด ผมลงเพราะเก็บพอร์ตก็ต้องลบ หลังๆมา แฟนบอกว่าให้เลิกทำอาชีพตากล้องผมเลิกไม่ได้เพราะคือรายได้หลัก ตอนนี้ผมห่างกับเขาแล้ว แต่ยังไม่ได้ถอนหมั้นกัน จะทำยังไงดี? “คุณกอล์ฟ (นามสมมติ)” อายุ 37 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [19 มี.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาแฟนขี้หึงมากจนกระทบกับงาน โดย “คุณกอล์ฟ (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘ผมหมั้นกับน้องคนนึง เขาอายุ 24 ปี เราคบกันและหมั้นมารวมทั้งหมด 2 ปี ผมทำอาชีพเป็นช่างภาพ ส่วนน้องเขาทำงานที่ร้านของบ้านผม น้องเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสังคม เอาแต่ใจ และเริ่มลามไปถึงเรื่องงานของผม ช่วงแรกๆที่คบกันน้องมีนิสัยงี่เง่านิดหน่อย แต่ยังไม่ได้ฉายแสงอะไร แต่ก็หึงหวงแรงมาก เช่น ตัดเพื่อนในโซเชียลมีเดียของผมเองเลย ช่วงที่ผมหมั้นกับเขาและทำงานไปด้วย ผมตัดเรื่องการถ่ายรูปเล่น เก็บพอร์ต ผมตัดทุกอย่างเพื่อเขา และรับแต่งานถ่ายภาพที่เป็นงานจริง ๆ เท่านั้น สาเหตุที่ผมตัดสินใจหมั้นกัน เพราะน้องเขาเป็นคนหน้าตาดี ผมก็อายุ 37 ปีแล้ว รู้สึกว่าถึงเวลาที่ควรจะมีครอบครัวได้แล้ว ถ้าช้ากว่านี้ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นชีวิตครอบครัวตอนไหน ก่อนคบกับเขา ผมค่อนข้างเจ้าชู้ เป็นคนเฟรนลี่ เล่นกับทุกคนไปหมด แต่พอคบกับเขา น้องก็มองว่าช่างภาพเจ้าชู้ทุกคน ผมเลยให้ความเชื่อใจโดยให้เขาดูทุกอย่าง รับงาน คุยกับใคร เช็คโทรศัพท์ได้ตลอด ซึ่งไม่เคยมีปัญหาเรื่องมือที่สามเลย จนกระทั่ง เวลาที่ผมจะต้องออกไปทำงาน ผมต้องคอยรายงานเขาตลอด แต่เวลาที่ผมเริ่มถ่ายงานเสร็จ ผมไม่ได้ทักบอกเขา เขาก็บอกว่า ทำไมถ่ายงานเสร็จแล้วไม่ทักบอกเลย ผมก็บอกว่า ขอนั่งพักซักแปปนึงได้ไหม เป็นแบบนี้ทุกครั้งมาตลอด เขาจะกลัวว่าผมจะไปจีบลูกค้า ไปคุยกับลูกค้าเกินกว่าที่เป็นช่างภาพกับลูกค้าคุยกัน ผมก็คอยแต่บอกเขาว่า มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ก็ให้เช็คได้ตลอดทุกครั้ง เราทะเลาะกันเรื่องนี้มาตลอด พอทะเลาะกันก็จะมีคำพูดนึงขึ้นมาว่า ไม่เคยชอบหรอกนะที่เธอถ่ายรูป และสุดท้ายเรื่องนี้ก็ลามไปถึงที่บ้านผม เพราะน้องอยากไปทำงานต่างจังหวัด ผมให้เขาไปคุยกับพ่อแม่ก่อน แต่พอคุยเสร็จก็ทะเลาะกับพ่อแม่ผม น้องยื่นคำขาดว่า ถ้าอยากให้เขาทำงานที่บ้าน ต้องให้ผมเลิกถ่ายรูป ผมถามเขาว่า แล้วจะทำอะไรกิน? เพราะแม้ว่าผมจะช่วยที่บ้านทำงาน แต่รายได้จากการถ่ายรูปก็ไม่ใช่น้อย ๆ ต่อเดือน กลายเป็นว่าเขาก็เลือกที่จะไปทำงานต่างจังหวัด ช่วงแรกเขาทดลองงาน 3 เดือน ผมซัพพอร์ตทุกอย่าง ค่าหอพัก ค่ากิน ค่าจิปาถะ ผมเคยแนะนำให้เขาทำงานที่บ้าน ถ้าไม่อยากทำงานที่บ้านก็ทำข้างนอก แต่ให้อยู่จังหวัดเดียวกัน จะได้กลับบ้านมาเจอกัน เป็นครอบครัว แต่น้องบอกว่า ไม่ ถ้าอยากให้เขาอยู่ ต้องเลิกถ่ายรูป หลังจากทดลองงานเสร็จ ผมบอกให้กลับมาขายของหน้าบ้านก็ได้ เพราะเขามีประสบการณ์ด้านร้านคาเฟ่ แต่น้องบอกหมดแพชชั่น ไม่อยากทำ ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่ คงเป็นเพราะไม่อยากมาเจอหน้าพ่อแม่ผม ที่เขาทะเลาะกับพ่อแม่ผมด้วยเรื่องที่เขาจะขอไปทำงานต่างจังหวัด เพราะพ่อแม่ไม่อยากให้ไป อยากให้ทำงานใกล้ ๆ ต่อให้ไม่ทำงานที่บ้านก็ไปทำงานในระแวกนั้นก็ได้ แล้วก็กลับบ้านมาเป็นครอบครัว แต่กลายเป็นว่า เขาเป็นคนดื้อ เขาเป็นคนเอาแต่ใจ ว่าฉันต้องทำแบบนี้ มีเส้นชัยไว้แบบนี้ ฉันต้องไปให้ได้ ซึ่งตอนนี้เขาไปทำงานไกลกว่าเดิมอีก ตอนแรกเขาฝึกงานกับอินฟลูเอนเซอร์คนนึงอยู่ในจังหวัดขอนแก่น แล้วก็ไปสมัครกับอินฟลูเอนเซอร์อีกคนที่โคราช ณ ตอนนี้ก็ทำงานอยู่ที่โคราช ยิ่งอยู่ห่างกัน น้องยิ่งหวงมากขึ้น พ่อแม่ผมถามว่า เธอไม่ไว้ใจลูกฉัน แล้วฉันไว้ใจเธอได้ไหม? น้องตอบว่า เชื่อใจได้สิ แต่ผมไม่เคยเช็คมือถือเขาเลย เพราะผมมองว่าชีวิตคู่ไม่ควรตึงหรือหย่อนเกินไป ต้องพอดี ๆ และเชื่อใจกัน ตอนแรกเราหมั้นกัน แล้วกะว่าครบปีจะจดทะเบียนสมรส แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าวันสุดท้ายที่ขาดสัมพันธ์กันเพราะความงี่เง่าของเขา วันนั้นผมออกไปถ่ายรูปรับปริญญาแต่เช้า บอกเขาแล้วว่าออกจากบ้านแล้วนะ แต่พอไปถึงที่งาน ผมไม่ได้ทักบอก น้องก็โกรธ พอตอนเย็นผมมีประชุมต่อ ก็ถ่ายรูปให้ดูว่าสถานที่ประชุมอยู่ตรงไหน แต่น้องก็งอนว่า ทำไมไม่บอกก่อนออกจากบ้าน ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ผมเป็นคนง้อ ขอโทษทุกอย่าง แต่ครั้งนี้ผมสุดจริง ๆ ผมบอกว่า ถ้าผมไม่ดี เปลี่ยนใหม่ไหม หรือห่างกันสักพัก น้องเขาก็ไม่ง้อผม เปลี่ยนสีแชท ลบทุกอย่าง หายไปหมด ผมเลยอยากถามพี่ๆดีเจว่า ผมทำถูกไหม ควรรอให้เขาคิดได้มากกว่านี้ หรือควรไปง้อเขา แล้วถ้าเขากลับมาง้อผม ผมควรพูดยังไง?’ เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คิดว่าเขายังคิดไม่ได้ แล้วก็ถ้าคุณกอล์ฟจะรอก็สุ่มเสี่ยงไป อายุ 37 แล้ว ถ้าคิดจะวางแผนอนาคต ลองมองหาคนที่เป็นผู้ใหญ่และเข้าใจเรามากกว่านี้ คือการมีแฟนต้องไม่แตะเรื่องการทำงานของเราเลย งั้นก็เลือกตัดแฟน ถูกต้องแล้ว คนนี้ไม่ได้เข้ามาอยู่ในวงจรของเรา เขาไม่สามารถเข้ามาโลกของเราได้ เขาไม่ได้เหมาะ เปลี่ยนคน เอาผู้ใหญ่ที่โตกว่านี้ เข้าใจการทำงานของเรา ไม่ได้ผิดที่เราผิดที่เขา’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘รู้สึกว่าคุณกอล์ฟดูถูกตัวเองไปหน่อย ว่าอายุ 37 แล้วยังไม่แต่งงานมันจะช้า เพราะรู้สึกว่า 37 มันควรได้อยู่ที่ส่งเสริมกันและกัน ซึ่งน้องเขาอาจจะไม่เหมาะกับแบบนี้ คุณกอล์ฟต้องถามตัวเองว่าถ้าแต่งงานแล้ว เราจะอยู่กับเขาได้จริง ๆ ใช่ไหม ถ้าเขากลับมา แล้วคุณกอล์ฟใจอ่อน ก็ต้องคุยกับเขาว่า เป็นแบบนี้ไม่ได้ เพราะอันไหนที่มันเกินไป ก็ต้องบอกว่าคุณกอล์ฟไม่โอเคกับเรื่องนี้ ก็ต้องปรับตัว ถ้าไม่ได้ก็เลิก’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ด้วยความห่างของอายุ 37 กับ 24 มันห่างกันมาก และคนละ Generation วิธีคิด การแสดงออก คนละแบบ ความตกตระกอนในชีวิตคนละเรื่อง ถ้าเราจะรอให้ผู้หญิงคนนี้ให้โต มันไม่ได้การันตีว่า อายุเยอะขึ้นแล้วจะหาย บางคนก็งี่เง่าแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ถ้างี่เง่าเรื่องอื่นโอเค แต่ถ้ามาตัดรายได้มันอยู่ด้วยกันไม่รอดแล้ว นั่นแปลว่าทัศนคติในการสร้างครอบครัวมันไม่เหมือนกันแล้ว การสร้างครอบครัวมันไม่ใช่แค่การคบแค่เป็นแฟน มันคือการหาเงิน การช่วยกันบริหารรายจ่าย รายรับ แต่เราดันไปเจอคนที่ไม่พร้อมมาก ๆ ถ้ามีแล้วปวดหัว มีแล้วการงานเสีย มีแล้วรายได้หด ก็อย่าเพิ่งมีดีกว่า’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

สิบปีที่แล้ว ผมคบกับแฟน แฟนบอกผมว่าแฟนท้อง ผมยืดอกรับแบบแมนๆ เลี้ยงลูกจนโต ไม่นานมานี้ สังเกตว่า แฟนผมเขาชอบแอบไปคุยกับผู้ชายอีกคน จนรู้ความจริงว่า ที่แท้ลูกที่ผมเลี้ยงมาเป็นลูกผู้ชายอีกคน ตอนนี้ผมเลิกกับแม่ของลูกแล้ว

20 มิ.ย. 2025

สิบปีที่แล้ว ผมคบกับแฟน แฟนบอกผมว่าแฟนท้อง ผมยืดอกรับแบบแมนๆ เลี้ยงลูกจนโต ไม่นานมานี้ สังเกตว่า แฟนผมเขาชอบแอบไปคุยกับผู้ชายอีกคน จนรู้ความจริงว่า ที่แท้ลูกที่ผมเลี้ยงมาเป็นลูกผู้ชายอีกคน ตอนนี้ผมเลิกกับแม่ของลูกแล้ว

สิบปีที่แล้ว ผมคบกับแฟน แฟนบอกผมว่าแฟนท้อง ผมยืดอกรับแบบแมนๆ เลี้ยงลูกจนโต ไม่นานมานี้สังเกตว่า แฟนผมเขาชอบแอบไปคุยกับผู้ชายอีกคน จนรู้ความจริงว่า ที่แท้ลูกที่ผมเลี้ยงมาเป็นลูกผู้ชายอีกคนตอนนี้ผมเลิกกับแม่ของลูกแล้ว แต่ลูกก็ยังอยู่กับผม ผมเลี้ยงเขามาขนาดนี้แล้ว รักเหมือนลูกของตัวเองและเลี้ยงต่ออย่างดี จนตอนนี้เปิดใจคุยกับผู้หญิงคนใหม่ เขารู้ทุกเรื่องที่เกิดกับผม แต่ทุกครั้งเวลาเรามีปัญหากันเขาจะเอาปมเรื่องนี้มาด่าผม “พี่โง่ปะวะ ไปรับลูกใครมาเลี้ยงก็ไม่รู้” ผมควรจะไปต่อกับเขา หรือ พอแค่นี้ดี “คุณโจ๋ (นามสมมติ)” อายุ 37 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [18 มิ.ย.68] โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเลี้ยงลูกมานาน แต่เพิ่งรู้ว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง มีคนคุยใหม่เขาก็ไม่ยอมรับ โดย “คุณโจ๋ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมอายุเท่านี้เคยผ่านการแต่งงานมีครอบครัวมาแล้ว ผมคบกับคนนี้มาสิบปีก็ปกติดีทุกอย่าง จนวันหนึ่งผมจับได้ว่าเขาคุยกับผู้ชายคนอื่น ซึ่งข้อความนั้นเป็นการอัปเดตเรื่องลูกซะส่วนใหญ่ ผมสงสัยก็เลยเก็บข้อมูลมาเรื่อย ๆ จนเพิ่งได้รู้ว่าลูกที่ผมเลี้ยงมาตั้งนานไม่ใช่ลูกของผม เรื่องมันเกิดจากตอนนั้นอายุ 24 ปี เขาท้องผมก็คิดว่าเป็นของผม ก็แมน ๆ เลยรับเป็นลูก ผมก็เลี้ยงมาอย่างดี อนาคตดีเลย พอผมมาเห็นแชทก็ใจสลาย ไปถามเขาเขาก็ไม่ยอมรับจนต้องเปิดแชทให้ดู เขาก็ยอม หลังจากนั้นเราก็เลิกกันด้วยดี ตอนนี้ลูกยังอยู่กับผมเพราะผมผูกพันธ์ไปแล้ว และที่บ้านของผมก็รัก ทางด้านแฟนเก่าผม หลังจากเลิกรากันไปก็มีครอบครัวใหม่ของเขาแล้ว ไม่ค่อยได้มาหาลูกเท่าไหร่ หลังจากแยกกันได้ 3 ปี ตัวผมก็แอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นปีแล้ว วันหนึ่งมีโอกาสได้คุยกัน ผมเปิดใจไม่มีอะไรปิดบัง เริ่มตั้งแต่เล่าโปรไฟล์ว่าผมมีลูกมาแล้ว เล่าเรื่องทุกอย่างเพราะไม่อยากให้มีปัญหาในภายหลัง เขาก็โอเค คุยกันไป 6-7 เดือน ปมอันนี้ก็ทำให้ผมไม่สามารถก้าวข้ามผ่านไปคบกับเขาได้ เพราะเขามาว่าผมว่า “พี่โง่ปะวะ ไปรับลูกใครมาเลี้ยงก็ไม่รู้” ทั้ง ๆ ที่เขารู้โปรไฟล์ผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาก็ตึงใส่ผม ตอนแรกก็คุยกันมาดีโทรคุยกันบ้าง แต่พอพูดถึงลูก เขาก็อารมณ์ขึ้นทันที เขาบอกว่ามันเป็นปมของเขา เขาบอกอีกว่าถ้าเขาเจอผู้ชายที่ฐานะเท่ากันกับผมแล้วไม่มีลูก เขาพร้อมเขี่ยผมทิ้งได้ตลอด แต่ที่เขายังคุยอยู่ถึงทุกวันนี้เพราะผมมีประโยชน์ ผมช่วยเหลือเขาได้ตลอด อยากได้อะไรผมหาให้ พาไปไหนผมก็พาไป อยากลงทุนผมก็ช่วยเสนอแนวคิดให้ ผมแบ่งเวลาให้กับเขาและลูกได้ ผมก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่า เวลามองมาเห็นผมมีโปรไฟล์แบบนี้ ผู้หญิงเขาจะมองแบบไหน? แบบเขาหรอ? และการตัดสินใจรับลูกคนอื่นมาเลี้ยง ผมตรรกะเพี้ยนมั้ย? ชอบมีคนพูดกับผมแบบนี้… ซึ่ง “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องเริ่มที่ตัวคุณโจ๋ก่อน ถ้ามีความตั้งใจที่จะไม่บอกความจริงกับลูกแล้วจะเลี้ยงเขาเหมือนลูกแท้ ๆ ต้องเลิกคิดว่าลูกเป็นลูกของคนอื่นก่อน เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนมาว่าเราโง่ที่ไปเลี้ยงลูกคนอื่น ให้ตอบกลับไปว่า “อย่ามายุ่งกับลูกกู” ที่บอกว่าตายแทนลูกคนนี้ได้ จงประพฤติแบบนั้น แล้วเขาจะไม่มีคุณค่าพอที่จะอยู่ในชีวิตของเราอีกต่อไป ต่อไปประเด็นผู้หญิงคนอื่นจะคิดแบบนี้มั๊ย บอกเลยว่า ไม่ อาจจะมีคนที่คิดแบบนี้และไม่ได้คิดแบบนี้ เพราะยิ่งสมัยนี้มีอีกมากมาย การหย่าร้างกัน มีลูก มีความรักครั้งใหม่ เขาก็ดูแลในแบบที่เข้าใจกันได้ อย่าให้ความคิดแย่ ๆ ของผู้หญิงคนนึงมาทำให้เราผิด ซึ่งมันจะย้อนกลับไปที่ข้อแรกว่าคุณจะตั้งคำถามกับการมีลูกคนนี้ว่าเป็นปัญหาในชีวิตคุณหรือเปล่า ซึ่งมั่นไม่ควร โจ๋ไม่ควรลังเลว่าตัดสินใจถูกหรือผิด ตอนนี้มันขัดกันเองอยู่ ณ วันนั้นที่รับมาเขาคือลูกของเรา ณ วันนี้ไม่ว่าเราจะเจอความจริงอะไรก็ตาม เขาก็คือลูกของเรา ถ้าทำให้ตัวเองเชื่อว่าเขาคือลูกของเราได้ มันจะไม่มีคำถามอื่นแล้ว’ ต่อไป “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผู้หญิงไม่ได้คิดแบบนี้ทุกคน พี่มองว่าผู้หญิงที่หยาบคายแบบนั้นคือส่วนน้อยแค่โจ๋เลือกผิดคน เพราะคำพูดแต่ละคำไม่ให้เกียรติเราเลยสักนิด โง่ที่สุดของโจ๋ไม่ใช่การเก็บลูกคนนี้มาเลี้ยง แต่เป็นการเลือกผู้หญิงคนนี้เข้ามาอยู่ในชีวิต ถึงเขาจะมองเรามีประโยชน์ แต่พี่ไม่เห็นประโยชน์ในตัวเขาเลย ถ้าเอาเข้ามา Toxic แน่นอน ถ้าลูกเราเป็นที่หนึ่งแล้วคนที่เข้ามาใหม่ต้องเดินไปพร้อมกับครอบครัวเราได้ ไม่ใช่มาเห็นแก่ตัว ผู้หญิงคนนี้ยังต่ำกว่ามาตรฐาน’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผู้หญิงดี ๆ ถ้าได้ฟังเรื่องราวนี้แล้วเค้าจะพูดว่า "โจ๋เป็นสุภาพบุรุษมากเลย, โจ๋มีความเป็นพ่อที่ดีเลย, พอรู้ความจริงแล้วยังเลี้ยงต่อนี่คือหัวหน้าครอบครัวที่พึ่งพาได้สุด ๆ" ผู้หญิงดี ๆ จะคิดแบบนี้ ส่วนผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงไปคิดเอาเอง ซึ่งที่โจ๋บอกว่าคบผู้หญิงคนนี้บอกกันทุกอย่างแบบไม่ปิดบังแม้กระทั่งเรื่องลูก สำหรับพี่ พี่มองว่าไม่จำเป็นต้องบอกใครเลยเพราะเขาคือลูกโจ๋ ผู้หญิงที่เข้ามาต้องเป็นอีกคนที่ทำให้โจ๋นั้นสมบูรณ์ ไม่ใช่เข้ามาให้ตั้งคำถามกับลูก ใครที่เข้ามาทำให้ลังเลสามารถตัดออกจากชีวิตได้เลย’ ทั้งนี้ “ดีเจต้นหอม” ได้ฝากไว้ว่า ‘ลูกต้องไม่ใช่ปมของเรา ลูกคือความสุข อย่าทำให้ความสุขนี้หายไป’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผมมีปมเรื่องความรัก เพราะเคยโดนเทคืนข้ามปี และ คืนฮาโลวีน พอถึงเทศกาลฮาโลวีน และ เทศกาลปีใหม่แต่ละปี ผมจะรู้สึกนอยด์ๆ ไม่ครื้นเครงแบบคนอื่น จะทำยังไงให้ก้ามข้ามความรู้สึกนี้ไปได้ดีครับ ?

01 พ.ย. 2024

ผมมีปมเรื่องความรัก เพราะเคยโดนเทคืนข้ามปี และ คืนฮาโลวีน พอถึงเทศกาลฮาโลวีน และ เทศกาลปีใหม่แต่ละปี ผมจะรู้สึกนอยด์ๆ ไม่ครื้นเครงแบบคนอื่น จะทำยังไงให้ก้ามข้ามความรู้สึกนี้ไปได้ดีครับ ?

“คุณเต้ (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [30 ต.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับการโดนเทช่วงเทศกาล แล้วกลายเป็นปมในชีวิตตัวเอง “คุณเต้ (นามสมมุติ)” โทรมาเล่าสั้นๆว่า ‘จริงๆไม่มีอะไรมาก แต่เห็นว่าพรุ่งนี้เป็นคืนวันฮาโลวีน ก็เลยอยากจะโทรมาเล่าปมเล็กๆในใจว่าตัวเองเคยโดนเท ตอนคืนวันเทศกาล ทั้งฮาโลวีน และปีใหม่ พรุ่งนี้เพื่อนๆก็นัดผมไปเที่ยวฮาโลวีน แต่ผมกลับยกเลิกนัดเพื่อน เพราะว่าไม่อยากไปแล้ว นอยด์ ตอนนั้นที่โดนเทวันฮาโลวีนคือเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ที่โดนคืนข้ามปีนั้นสมัยเด็กๆ ก็ไม่รู้จะก้าวข้ามไปยังไงดี?’ งานนี้ “ดีเจต้นหอม” ให้ความคิดเห็นว่า ‘ดีแล้วที่เขาเทเราคืนวันฮาโลวีน คิดซะว่าเป็นคืนปล่อยผี แล้วไปหาคนใหม่ซะ!!’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็แชร์ประสบการตัวเองสั้นๆว่า ‘เคยโดนคนคนนึงเทมาคืนข้ามปีเหมือนกัน แต่ขอเขาว่า อย่า ไม่ให้เลิกคืนนี้ หลังจากนั้น 2-3 วันก็เลิกกัน’ ส่วน “ดีเจเผือก” ก็แนะนำว่า ‘ให้ไปหาคนใหม่ คุยกันแต่แรกเลยว่าถ้าวันใดวันนึงจะเลิกกัน อย่ามาเลิกกันช่วงเทศกาล ตกลงกันตั้งแต่แรกเลย สุดท้ายยังไงเราก็ต้องมีคนใหม่’ และทั้งสามดีเจก็แซวๆว่า ‘ตอนนี้ในไลฟ์สด แชทจากแฟนๆ ชมว่าเต้เสียงหล่อ พร้อมดามใจเต้เลยทันที’ หลังจากนั้น “คุณเต้ (นามสมมุติ)” บอกว่าพอฟังพี่ๆแล้วมีกำลังใจเลย พรุ่งนี้ผมจะไปเที่ยวที่ข้าวสารกับเพื่อนเหมือนเดิม ไทป์ของผม ได้หมดเลย ใครก็ได้ เพศไหนก็ได้ครับ เรื่องอายุผมก็ไม่ติด วิธีสังเกตผมก็เป็นผู้ชาย สูง 170 กว่าๆ น้ำหนัก 60 ใส่แว่นกลม แล้วก็สวมแหวนนิ้วที่นิ้วโป้งข้างขวานะครับงานนี้ทำเอาชาวพุธโทรเรี่ยนที่โสดอยู่ ถึงกับแซวๆมาในคอมเม้นต์ไลฟ์สดว่า ‘จะออกไปตามล่าหาคุณเต้กันที่ข้าวสารเลยจ้า’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เรียนอยู่ห้อง King แล้วครูถามว่าใครจะเรียนต่อสายไหน แต่พอหนูยกมือตอบ เรียนสายอาชีพ เพื่อนหนูที่เรียนเก่งๆในห้องคนนึง พูดขึ้นมาว่า เรียนสายอาชีพ คือ “คนชั้นต่ำ” หนูได้ยินแบบนั้นแล้วเฟลไปเลย เก็บมาคิดมากถึงตอนนี้ พี่ๆคิดเห็นยังไงกันบ้างคะ?

21 ก.พ. 2025

เรียนอยู่ห้อง King แล้วครูถามว่าใครจะเรียนต่อสายไหน แต่พอหนูยกมือตอบ เรียนสายอาชีพ เพื่อนหนูที่เรียนเก่งๆในห้องคนนึง พูดขึ้นมาว่า เรียนสายอาชีพ คือ “คนชั้นต่ำ” หนูได้ยินแบบนั้นแล้วเฟลไปเลย เก็บมาคิดมากถึงตอนนี้ พี่ๆคิดเห็นยังไงกันบ้างคะ?

“คุณจิน (นามสมมติ)” อายุ 15 ปี สายที่หนึ่งในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [19 ก.พ. 66] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาการเลือกเรียนต่อสายอาชีพ โดย “คุณจิน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูกำลังเครียดมาก เพราะเพื่อนในห้องพูดใส่ว่า “พวกชั้นต่ำ” แค่เพราะหนูเลือกจะไปเรียนสายอาชีพ จริง ๆ เพื่อนคนนี้เป็นคนที่ชอบเหน็บแนมคนอื่นอยู่แล้ว ทุกคนในห้องรู้ดีว่าเขาเรียนเก่ง ดีทุกอย่าง แต่สิ่งที่เขาไม่มีคือ มารยาท ตอนนี้หนูใกล้จะจบ ม.3 แล้ว ก็จะมีครูประจำชั้นถามว่า มีใครจะไปเรียนสายอาชีพบ้าง? หนูเป็นคนเดียวทั้งห้องที่ยกมือขึ้น ซึ่งต้องบอกก่อนว่าหนูอยู่ห้องคิง ส่วนใหญ่เพื่อน ๆ จะไปต่อ ม.ปลายโรงเรียนดัง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนก็คงแปลกใจว่าทำไมหนูถึงเลือกเส้นทางนี้ พอครูเห็นว่ามีหนูคนเดียวที่ยกมือ ครูก็ไม่ได้ว่าอะไร แนะนำดีมากด้วยซ้ำ แต่ก็พูดว่า สายอาชีพไม่ได้ใบปริญญานะ มันจะได้ใบอนุปริญญา ถ้าอยากได้ปริญญาต้องไปเรียนต่ออีกสองปี แล้วทันทีที่ครูพูดจบ เพื่อนคนนั้นก็สวนขึ้นมาเสียงดังว่า ก็มันต่ำไง ก็คือพวกชั้นต่ำไง ตอนนั้นในใจหนูก็สงสัยว่าใครพูด หนูหันไปมอง แล้วก็รู้ทันทีว่าเป็นเพื่อนคนนั้น คำพูดนั้นทำให้หนูรู้สึกแย่มาก โคตรนอย ทำให้หนูพูดอะไรไม่ออก แต่สิ่งที่ทำให้หนูดีใจมากที่สุดคือครูสวนกลับแทนหนูว่า เธอนั่นแหละที่ชั้นต่ำ เรียนเก่ง บ้านรวยก็จริง แต่ไม่มีมารยาทเลย ตอนนั้นบอกเลยว่าสะใจ แต่ถึงอย่างนั้น ในใจหนูก็ยังนอยอยู่ว่าหนูผิดเหรอที่เลือกเรียนสายอาชีพ ในสายตาเพื่อน หนูคือ “พวกชั้นต่ำ” จริง ๆ เหรอ? ส่วนเหตุผลที่หนูเลือกเรียนสายอาชีพเพราะที่บ้านหนูไม่ได้มีกำลังพอจะส่งเรียนสูง ๆ และหนูเองก็ไม่ได้คิดจะเข้ามหาลัยแต่แรก หนูแค่เลือกเส้นทางที่เหมาะกับตัวเองที่สุด แต่พอเห็นสายตาเพื่อนทั้งห้องที่มองมา ตอนนั้นมันก็อดคิดไม่ได้ว่า พวกเขาจะมองเรายังไง? บางคนก็ยังมาถามซ้ำว่า คิดดีแล้วเหรอที่จะไปเรียนสายอาชีพ? หนูอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า หนูเลือกผิดรึเปล่าที่มาทางนี้ และในสายตาเพื่อน เราคือพวกชั้นต่ำจริงหรอ? เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘เรื่องการเรียนสายอาชีพ พี่ว่าในทุกวันนี้เรียนในสิ่งที่ชอบไปเลย ใบปริญญามันก็สำคัญแต่ว่าถ้ามันมีเป้าหมายที่แข็งแรงแล้ว เราสามารถไปทางนั้นได้เลย ทีนี้เพื่อนที่มองว่าชั้นต่ำ พี่ว่ามันน่าจะมีคนเดียว แต่คนอื่นที่ถามเพราะถามด้วยความห่วงใย แต่ถ้าวันนี้มีเป้าหมายชัดเจนว่าอยากหาเงิน ก็ไม่ต้องแคร์ ส่วนเพื่อนคนนั้น การที่โดนอาจารย์แก้ต่างให้เรา มันเจ็บกว่านะ เพราะการต่ำโดยทัศนคติ มันคือต่ำที่สุดแล้ว เราแค่รู้จักตัวเราดีก็พอ และชีวิตในอนาคตจะเจออะไรอีกเยอะ’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าเรื่องเพื่อนด่าว่าชั้นต่ำไม่สำคัญเลย วันนี้ลองตั้งเข็มทิศชีวิตใหม่ มองอนาคตตัวเอง เรื่องทุนการศึกษามหาวิทยาลัยก็มีสำหรับคนที่ขาดแคลน ต้องถามตัวเองว่าอยากทำงานอะไร การเลือกเรียนคอมพิวเตอร์ธุรกิจแค่เพราะเรียนมาตอนมัธยม พี่ไม่แน่ใจว่าถูกเลือกที่ถูกหรือเปล่า สายอาชีพบางอันมีทักษะติดตัวมากกว่า แต่ก็อยากให้เปิดโอกาสมหาวิทยาลัยด้วย เพราะสามารถขอทุนได้ อย่ายึดติดกับสายอาชีพหรือสามัญ แค่หาข้อมูลให้ชัดเจนก่อนเลือกเรียน’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าทุกคนคงเห็นเหมือนกันว่า มีแค่คนนั้นที่มองว่าการเรียนสายอาชีพมันเป็นเรื่องชั้นต่ำ เพราะพี่รู้สึกว่าเรียนอะไรก็ได้ แต่สุดท้ายปลายทางมันไม่ได้วัดกันแค่ใบปริญญาเท่านั้น สำหรับพี่นะ แต่สิ่งที่สำคัญคือการตั้งใจ ไปให้ได้ ไปให้รอด แล้วไปให้สุด ส่วนเพื่อนคนที่บอกว่าเรียนสายอาชีพชั้นต่ำก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนที่นั่งเครื่องบินแล้วดูถูกคนเดินถนน คนที่คิดแบบนั้นแล้วพูดออกมาด้วยความไม่กรั่นกรองก็คือเรียลชั้น G ของแท้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1