โยนเงินให้ 5000 ! แล้วเขาก็ทิ้งหนูกับลูกในท้องไปเลย สาวอายุ 19 ปี โทรปรึกษาสามดีเจในรายการ... คบกับแฟนมา 4 ปี ตอนนี้กำลังท้องได้ 6 เดือนแล้ว แต่จับได้ว่าแฟนนอกใจ หนูอยากกลับมาใช้ชีวิตปกติ แบบมีความสุข อยากจะมูฟออนต้องทำยังไง?

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

โยนเงินให้ 5000 ! แล้วเขาก็ทิ้งหนูกับลูกในท้องไปเลย สาวอายุ 19 ปี โทรปรึกษาสามดีเจในรายการ... คบกับแฟนมา 4 ปี ตอนนี้กำลังท้องได้ 6 เดือนแล้ว แต่จับได้ว่าแฟนนอกใจ หนูอยากกลับมาใช้ชีวิตปกติ แบบมีความสุข อยากจะมูฟออนต้องทำยังไง?

21 ก.ค. 2023

            “คุณโอ๋ (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [19 ก.ค. 66] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเติ้ล-ดีเจต้นหอม-ดีเจอั๋น เกี่ยวกับปัญหาชีวิตที่กำลังตั้งท้องแต่แฟนนอกใจ ก่อนไปเขาให้เงินเราแค่ 5,000

            “คุณโอ๋ (นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า หนูมีแฟนอายุ 23 ปี คบกับได้ 4 ปีแล้ว ตอนนี้หนูกำลังตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน แต่จับได้ว่าแฟนนอกใจ เขาให้เงินไว้ 5,000 บาท แล้วก็ทิ้งหนูไปเลย เรา 2 คน ไม่ได้แต่งงานและจดทะเบียนสมรสกัน ตอนนี้หนูกับแฟนเลิกกันแล้ว ไม่ได้ติดต่อ ตัดขาดกันทุกช่องทางมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว หนูไม่ได้ตั้งใจท้องแต่ทางครอบครัวของหนูและแฟนไม่อยากให้เอาออก หนูเลยตัดสินใจเก็บลูกไว้แล้วดรอปเรียนออกมาทำงาน ส่วนแฟนหนูไม่ได้เรียน เขาจบมัธยมปลายแล้วก็ทำงานเลย

            แฟนของหนูเขาดูเป็นคนเจ้าชู้ แต่ตั้งแต่คบกันมาก็ไม่เคยมีเรื่องนอกใจ หรืออาจจะมีแต่หนูไม่เคยจับได้ เขาดูแลหนูดีทุกอย่างยิ่งตอนท้องยิ่งดีเป็นพิเศษ หลังจากเกิดเรื่องหนูเล่าทุกอย่างให้ครอบครัวของหนูฟัง เขาไม่ได้โกรธที่หนูท้อง เขาให้กำลังใจพร้อมที่จะดูแลหนูและลูก แต่ทางบ้านของแฟนบอกกับหนูว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนสองคนไม่อยากเข้ามายุ่ง ถ้าลูกคลอดออกมาค่อยว่ากัน

            คุณโอ๋ถามพี่ๆดีเจว่า หนูจะทำใจ Move on ยังไงดี? หนูยังรัก ยังเห็นเขาอยู่ในทุกๆที่ หนูไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงต้องจบแบบนี้ หนูอยากกลับไปใช้ชีวิตปกติแบบมีความสุขเหมือนที่แฟนหนูทำอยู่ตอนนี้ หนูจะต้องทำยังไง?

            “ดีเจต้นหอม” ให้คำแนะนำว่า ‘ให้คุณโอ๋คิดถึงลูกให้มากๆ ตอนนี้คุณโอ๋มีหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่มากคือ หน้าที่แม่ ตอนท้องมันจะภาวะของมีฮอร์โมนที่มันสวิงมากๆ ยิ่งเราเ ครียดมากเท่าไหร่มันยิ่งส่งผลต่อลูกในท้องมากเท่านั้น ส่วนการ Move on คงต้องใช้เวลา นับจากวันนี้ อะไรที่ทำให้นึกถึงผู้ชายคนนั้นต้องพยายามลบออกไป ไม่รู้จะให้เขากลับมาทำไม ต่อให้เขากลับมาก็คงมารับผิดชอบดูแลคุณโอ๋กับลูกไม่ได้ ทั้งทางบ้านเขาและตัวเขาไม่มีอะไรดีให้น่าเสียดาย ฉะนั้นควรตัดสิ่งที่ไม่ดีนี้ออกไปจากชีวิต แล้วมาโฟกัสกับหน้าที่ในปัจจุบัน หน้าที่แม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มันหนักกว่าการทิ้งผู้ชายคนนึงไปอีก

            ส่วนจะใช้ชีวิตให้มีความสุขแบบเดิม มันเป็นแบบเดิมไม่ได้เพราะตอนนี้คุณโอ๋มีอีก 1 ชีวิตอยู่ในท้อง เราจะมีชีวิตแบบเดิมได้ก็ตอนลูกโต ถ้าคุณโอ๋อยากมีแฟน มีครอบครัวใหม่ ก็ทำได้ถ้าเราเจอใครสักคนที่รับได้ในความเป็นเรา ในเมื่อคุณโอ๋เลือกที่จะเก็บลูกไว้ ลูกจะเป็นทุกอย่าง และมาทดแทนความรักที่ขาดหายไป โลกทั้งใบของลูกก็คือคุณโอ๋ คุณโอ๋ควรเอาความรักทั้งหมดทุ่มเทให้ลูก ลูกอาจจะเป็นศูนย์รวมความรักทั้งหมดของโอ๋เลยก็ได้ ดังนั้นโฟกัสกับปัจจุบันและชีวิตที่เหลือ ส่วนอดีตที่เลวร้าย ช่างมัน ให้เวลาค่อยๆรักษา แล้วเราจะดีขึ้น’

            “ดีเจอั๋น” แนะนำว่า ‘จริงๆแล้ว ‘ควรมีเมื่อพร้อม’ ในทุกๆเรื่องไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม แต่เมื่อสิ่งนี้มันเกิดขึ้นแล้ว เราต้องกลับมาอยู่กับความจริงให้ได้ก่อน อย่าโทษตัวเองนานเพราะมันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ห้ามคิดว่าชีวิตตัวเองพัง ไม่เหลือโอกาสในการใช้ชีวิตหรือมีความสุขอีกแล้ว เรายังมีโอกาส ที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น เรายังมีครอบครัวที่คอยซัพพอร์ตทั้งจิตใจและร่างกาย

            ตอนนี้สิ่งที่คุณโอ๋ควรกังวลน้อยที่สุดคือเรื่องการเสียผู้ชายคนนี้ไป มันดูง่ายที่ทุกคนบอกให้ทิ้งเขาไป สำหรับคุณโอ๋มันเป็นเรื่องยากเพราะคุณโอ๋ยังรักเขาอยู่ แต่อยากให้คุณโอ๋ค่อยๆตระหนัก คิดถึงเขาให้น้อยลง หันไปโฟกัสเรื่องอื่นที่สำคัญกว่านี้ให้มากขึ้น แล้วจะรู้ว่า ‘คนๆนี้คือยาพิษ’ มันไม่มีประโยชน์เลยที่จะได้เขานี้กลับมาในชีวิต คิดว่าลูกคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาให้มา นอกจากนั้นมันไม่มีค่าเลย คุณโอ๋ต้องยืนขึ้น รับผิดชอบตัวเองและเป็นคุณแม่ที่ดีให้ได้ ทำให้ครอบครัวที่ซัพพอร์ตเราอยู่ภูมิใจ เอาความเศร้าทั้งหมดมาเปลี่ยนเป็นพลังบวกเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนเราไปสู่สิ่งที่ดีกว่านี้ให้ได้ แล้ววันนึงที่คุณโอ๋มีอิสระมากพอ ค่อยคิดว่าตัวเองจะมีความสุขกับชีวิตยังไง คิดซะว่านี่คือโจทย์ของชีวิต ผู้ชายคนนั้นแค่ปัญหาที่เราต้องแก้ แล้วทำมันให้ดีที่สุด’

            ส่วน “ดีเจเติ้ล” แนะนำเสริมว่า ‘เรื่องที่คุณโอ๋เจอมันเป็นเรื่องยากมากที่จะผ่านไปให้ได้ในอายุ 19 ปี แต่มันมีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหลายคนที่อายุเท่าคุณโอ๋แล้วเลี้ยงลูกได้ดี ชีวิตมีความสุข แต่ก็มีฝั่งที่ชีวิตพัง แล้วแต่ว่าคุณโอ๋อยากให้ชีวิตของตัวเองเป็นแบบไหน หลังจากนี้อีก 3 เดือนก่อนที่ลูกจะคลอด คุณโอ๋ต้องทำให้ลูกเห็นว่า ถึงจะมีพ่อที่ไม่ดี ไม่เห็นคุณค่าของแม่และลูก แต่ลูกโชคดีที่มีแม่เป็นคุณโอ๋ที่สามารถทำหน้าที่ให้ความรักแทนพ่อที่ทำไม่ได้ เอาความเศร้าในแต่ละวันมาเปลี่ยนเป็นพลังเพื่อดูแลตัวเองและลูก เป็นตัวอย่างที่ดีให้เขา ส่วนจะทำยังไงใช้ชีวิตมีความสุข คุณโอ๋ลองถามคุณแม่ตัวเองก็ได้ว่า ตอนที่คุณแม่มีคุณโอ๋ ท่านมีความสุขมากขนาดไหนกับการที่ได้เป็นแม่คนๆนึง เรายังมีความสุขได้แค่เรามีอีกมือนึงที่จับลูกเราไว้เท่านั้นเอง’

            พี่ๆดีเจทิ้งท้ายว่า ‘สิ่งนี่น่ากลัวที่สุดคือการที่ผู้ชายคนนั้นกลับมา เพราะเขาจะกลับมาเป็นภาระให้คุณโอ๋ แล้วก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าเขาจะทิ้งเราไปอีกหรือเปล่า บอกตัวเองว่า หัวใจที่เจ็บปวดที่สุดในวันนี้จะกลายเป็นหัวใจที่มีความสุขในอนาคต คุณโอ๋ต้องมองไปในทางที่ดีเศร้าไปก็ไม่มีประโยชน์มันจะส่งผลกระทบต่อลูกในท้อง ถ้าตอนนี้ต้องการกำลังใจให้ไปกอดพ่อแม่และครอบครัว พวกเขาพร้อมให้กำลังใจและความรักกับคุณโอ๋เสมอ’

            สุดท้ายนี้พี่ๆดีเจทุกคนเป็นกำลังใจให้คุณโอ๋ผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

จบลงด้วยดี ! เคสคุณแม่ซื้อของเล่นให้ลูกที่ร้านดัง แต่รอเคลมสินค้า 6-7 เดือน ในราคา 3600 ดีเจต้นหอมยื่นมือเข้าช่วยประสานงาน ล่าสุดคุณแม่เผยในรายการ "ได้รับของใหม่แล้ว พร้อมกับเงินค่าของเล่นคืนด้วย" #ต้นหอมจอมพลัง

19 เม.ย. 2024

จบลงด้วยดี ! เคสคุณแม่ซื้อของเล่นให้ลูกที่ร้านดัง แต่รอเคลมสินค้า 6-7 เดือน ในราคา 3600 ดีเจต้นหอมยื่นมือเข้าช่วยประสานงาน ล่าสุดคุณแม่เผยในรายการ "ได้รับของใหม่แล้ว พร้อมกับเงินค่าของเล่นคืนด้วย" #ต้นหอมจอมพลัง

“คุณแม่เอ (นามสมมติ)” สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร ได้โทรมาอัพเดทเรื่อง จากกรณีที่ลูกชายตั้งใจเก็บเงินซื้อของเล่น แต่รู้สึกเหมือนโดนโกง พนักงานไม่รับผิดชอบ จนลูกไม่อยากเก็บเงินต่ออีกเลย ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อคืนวันพุธวันที่ 17 เมษายน 67 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร โดย “คุณแม่เอ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ได้ของเล่นแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แล้วก็ได้เงินคืน หลังจากที่โทรเข้ามาในรายการพุธทอล์ค พุธโทร วันรุ่งขึ้นดีเจต้นหอมก็ได้มีการโพสต์ในไอจี ทีแรกแม่ไม่ค่อยเล่นไอจี ส่วนจะใหญ่เล่น Facebook มากกว่า แต่เห็นในเพจ EFM station โพสต์ว่าดีเจต้นหอมทวงถามทางร้านของเล่นให้ แม่ก็เลยเปิดเข้าไอจีไปดู พอวันศุกร์ทางร้านของเล่นก็โทรมา เหมือนทางร้านได้คุยกับดีเจต้นหอมแล้ว ทางร้านก็โทรมาหาแม่ ตอนที่คุยโทรศัพท์จำไม่ได้ว่า เขาแนะนำว่าเป็นผู้จัดการสาขาหรือผู้จัดการ เขาก็ขอโทษ วันนั้นที่โทรเข้าหาทางรายการได้คุยกับดีเจทั้ง 3 คน ก็มีกำลังใจขึ้นมา พอมีกำลังใจขึ้นก็ฮึดสู้ขึ้นอีกรอบหนึ่ง แม่ก็เลยไปแจ้ง สคบ. แล้วก็ส่งข้อความไปทางเพจร้านของเล่นว่า “เราไปแจ้ง สคบ. มาแล้วนะ” เหมือนพนักงานไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ พอวันศุกร์ที่ผู้จัดการโทรมา แม่ก็มีอารมณ์นิดหน่อยก็เลยต่อว่าเขาไป มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้วผู้จัดการก็รับฟังโดยดีและขอโทษ ผู้จัดการก็รับปากว่าไม่เกินอาทิตย์หน้าจะได้ของเล่นแน่นอน แต่ว่าเมื่อไหร่จะโทรมาแจ้งอีกที พอวันพุธเขาก็โทรมาแจ้งว่า “ของเข้าแล้วนะคะ สะดวกวันไหน เขาอยากมามอบให้ด้วยตัวเอง จะได้มาขอโทษด้วยตัวเอง” แม่ก็บอกว่าวันพฤหัสบดี บ่าย 2 หลังจากที่โทรมาในรายการพุธทอล์ค พุธโทร ก็ได้บอกกับลูกว่า “แม่โทรไปนะ” ลูกก็เขินอายนิดหน่อย แล้วลูกก็ไปเปิดฟังย้อนหลัง ลูกก็พูดกับเราว่า “ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้กดดันเรา เขาถามปกติว่าได้หรือยัง” ในใจลูกไม่ได้มีความรู้สึกว่ากดดันแม่หรืออะไร ลูกก็ไม่รู้ตัวว่าการที่ทำแบบนั้นจะทำให้แม่กดดัน ลูกก็ขอโทษ หลังจากที่ได้คุยกับทางผู้จัดการร้าน วันนั้นก็บอกกับลูกเลยว่า “เขาโทรมาแล้วนะ เขาคอนเฟิร์มว่าไม่เกินอาทิตย์หน้าว่าได้แน่นอน” พอลูกได้ฟังตั้งแต่วินาทีนั้นลูกก็ดีใจมาก แล้วลูกก็เริ่มมีโครงการใหม่ อยากได้ตัวนู้นตัวนี้ เขาจะเก็บเงิน เขาก็มีกำลังใจขึ้นมาทันที แต่รอบนี้ก็สัญญากัน คุยกันว่าเดี๋ยวเราจะไปดูที่สะพานเหล็ก ดูหลาย ๆ ร้าน แล้วแม่ก็จะช่วยดู เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นอีก วันที่ไปรับของ พูดได้เลยว่าโอเคมาก จากที่ได้พูดคุยกับทางร้าน เขาขอโทษ ก็คือไม่ติดใจอะไร แล้วผู้จัดการก็อธิบายว่ามันเป็นของที่ส่งมาจากต่างประเทศ ต้องใช้เวลา แต่จริง ๆ ถ้าทางร้านของเล่นบอกแม่ว่าในกระบวนการนี้ มันเป็นแบบนี้ว่าต้องรอ แม่ก็รอได้ แต่ที่ผ่านมาเขาไม่ตอบ ไม่หือ ไม่อือ แต่ถ้าตอบว่ารอก่อน ก็แค่นี้ ผิดพลาดที่การสื่อสาร พอลูกเห็นกล่องก็คือดีใจมาก เป็นกล่องสีน้ำตาล ซึ่งเป็นต้นทางจากบริษัท ลูกชอบมาก ผู้จัดการเขาก็ขอโทษแม่ เขาก็เลยยื่นซองสีขาวให้ แล้วก็บอกว่า “พี่อยากช่วยเป็นกำลังใจให้น้องที่เก็บเงินซื้อ” คือแม่ไม่ได้อยากได้เงิน คือถ้าได้ของก็โอเคจบแค่นั้น แต่ก็รับมาและคิดกันว่า เงินส่วนหนึ่งอาจจะเอาไปให้น้อง ๆ ตามสถานสงเคราะห์ เพราะคุยกับลูก ลูกก็ไม่สบายใจที่จะรับเงินมาเพราะก็ได้ของเล่นแล้ว แม่ก็พูดว่า “เอางี้ไหมล่ะ หนูอยากทำบุญไหม เราก็อาจจะไปทำบุญตรงนั้นตรงนี้” ลูกก็โอเค สุดท้ายอยากจะขอบคุณทุกคนจริง ๆ ทั้งทีมงานและดีเจทั้ง 3 คน โดยเฉพาะดีเจต้นหอม แล้วก็ชาวพุธโทรเรี่ยนทุกคน อยากขอบคุณจริง ๆ เพราะแม่ก็เป็นแฟนคลับรายการพุธทอล์ค พุธโทร มาตั้งแต่เรื่องคุณอั๋นที่เป็นมะเร็ง พอฟังแล้วรู้สึกว่ารายการนี้ดี ก็ฟังย้อนหลังแล้วก็ฟังมาตลอด ลูกก็อยากขอบคุณดีเจต้นหอมมาก ๆ แต่ลูกฝากขอบคุณ เพราะลูกไม่กล้าพูดเองเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบแฟนมาเกือบ 10 ปี วันเกิดที่ผ่านมา หนูตั้งใจเซอร์ไพร์สเขา สั่งเค้กรสชาติที่ร้านเลิกผลิตไปแล้ว แต่เขาบอกอยากกินเค้กพิซซ่าธรรมดาๆ ซื้อเสื้อให้เขา เขาก็บอกว่าแพง แต่งรูปวันเกิดอวยพรเขาเป็นสีขาวดำ เขาก็บอกว่าเหมือนรูปคนตาย

25 ต.ค. 2024

คบแฟนมาเกือบ 10 ปี วันเกิดที่ผ่านมา หนูตั้งใจเซอร์ไพร์สเขา สั่งเค้กรสชาติที่ร้านเลิกผลิตไปแล้ว แต่เขาบอกอยากกินเค้กพิซซ่าธรรมดาๆ ซื้อเสื้อให้เขา เขาก็บอกว่าแพง แต่งรูปวันเกิดอวยพรเขาเป็นสีขาวดำ เขาก็บอกว่าเหมือนรูปคนตาย

คบแฟนมาเกือบ 10 ปี วันเกิดที่ผ่านมา หนูตั้งใจเซอร์ไพร์สเขา สั่งเค้กรสชาติที่ร้านเลิกผลิตไปแล้วแต่เขาบอกอยากกินเค้กพิซซ่าธรรมดาๆ ซื้อเสื้อให้เขา เขาก็บอกว่าแพง แต่งรูปวันเกิดอวยพรเขาเป็นสีขาวดำเขาก็บอกว่าเหมือนรูปคนตาย เราน้อยใจสุดๆ เหมือนเขาไม่เห็นค่าเลย “คุณวัน (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [23 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับเราซื้อของขวัญเซอร์ไพรส์วันเกิดแฟน แต่แฟนไม่ชอบ โดย “คุณวัน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมา 9 ปี 10 เดือน กำลังจะเข้าปีที่ 10 ตอนนี้ยังไม่ได้แต่งงาน เเต่มีเเพลนว่าจะเเต่งในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นวันเกิดเขา สิ่งที่หนูตั้งใจทำให้กับเขาไม่ว่าจะเป็นการเซอร์ไพรส์ ของขวัญวันเกิดมันยังรู้สึกว่ามันยังไม่ดีพอ เเล้วคำพูดกับการกระทำของเขามันทำให้หนูเสียใจมาก ๆ ก่อนวันเกิดเราไปซื้อของขวัญ ก็คือพาเขาไปเดินเลือก ตอนแรกเขาอยากได้กระเป๋าเเต่มันไม่มีของที่เขาอยากได้ เราเลยเสนอว่า “เอาเป็นเสื้อตัวนี้มั้ย เสื้อตัวนี้สวยดีนะ” เขาก็ไปลองใส่เเล้วเขาก็บอกว่า “เออ มันก็สวย” เลยตัดสินใจว่าเอา เขาก็เก็บเอาไว้ ไม่ยอมแกะเเล้วบอกว่าจะใส่ในวันเกิด ตอนที่ดูรูปในโทรศัพท์เขาก็บ่นประมาณว่า “เสื้ออะไรเนี้ย” หนูก็เลยรู้สึกว่ามันก็ค่อนข้าง Negative เนอะ เขาคงไม่ได้ชอบหรอก เพราะว่าปกติเเล้วถ้าเขาชอบ เขาจะบอกว่าเสื้อตัวนี้เท่จังเลย ในตอนหลังก็ได้มาคุยกัน เขาก็บอกว่าจริง ๆ ไม่ได้ไม่ชอบนะ เเค่จะสื่อว่ามันแพงไป อย่างที่ 2 ก็จะเป็นเค้กวันเกิด ก็คืออยากให้มันพิเศษนิดนึงเพราะว่าเป็นทั้งวันเกิดเเละทั้งวันครบรอบพอดี เราก็เลยตั้งใจสั่งเป็นเค้กเจ้าอร่อยที่เราชอบ เเล้วทางร้านก็ไม่ค่อยได้ทำรสชาตินี้ออกมาขายเเล้ว เราก็รู้สึกว่ามันพิเศษนะ เเล้วเขียนหน้าเค้กไปประมาณว่า Happy Birthday Happy Anniversary เเล้วก็เขียนเป็นภาษาอังกฤษแปลประมาณว่า “คุณทำให้ 9 ปีกับอีก 10 มันเป็นเหมือนแค่วัน ๆ เดียว” เขาก็บอกว่า “ไม่อยากได้ อยากได้เป็นเค้กพิซซ่ามากกว่า” เเต่หนูมองว่ามันธรรมดาไป เพราะว่าเราก็กินกันบ่อยมาก ๆ เลย หนูก็เลยพูดหยอก ๆ เขากลับไปว่า “ก็เค้าอยากสั่งเค้กที่เค้าอยากกินอ่ะ” เขาก็เลยเงียบไป พอถึงวันเกิดเขาจริงๆ หนูก็ได้มีการแต่งภาพลงสตอรี่ เเต่ภาพที่เเต่งเป็นภาพขาวดำ เขาก็พิมพ์มาว่า “เฮ้ยย! มันทำไมถึงต้องขาวดำด้วย” หนูก็เลยบอกว่า “ก็มันเท่ดี” หนูก็รู้สึกว่าเขาก็ไม่พอใจประมาณนึง เพราะเขาบอกว่ามันดูเหมือนภาพงานศพ เเล้วก็พอถึงวันที่ฉลองวันเกิดเราก็ไปกันที่ร้านอาหาร หนูก็เลยได้มีการบอกเพื่อนว่า “ถ้าจะซื้ออะไรมาก็ซื้อเป็นพิซซ่าละกันเนอะ เพราะว่าเเฟนอยากเป่าเค้กพิซซ่า” เพื่อนก็เลยซื้อมาตามที่บอก พอมาถึงร้านหนูสัมผัสได้ว่าเขาได้เป่าเค้กพิซซ่าเขามีความสุข เพราะเขาบอกว่าคิดถึงโมเมนท์ตอนเด็ก ๆ ที่พ่อแม่ซื้อเค้กพิซซ่าให้กิน เเต่ว่าพอเป็นเค้กวันเกิดของหนูเขาดูเฉย ๆ มาก ๆ เค้กพิซซ่านั้นเขามีการเอาลงโซเชียลด้วย เเต่ว่าเค้กของหนูไม่ได้เอาลงโซเชียล เขาก็พูดมาประโยคนึงที่หนูเสียใจก็คือเขาบอกว่า “มีคนบางคนไม่ยอมซื้อเค้กพิซซ่าให้กิน ซื้อมาเเต่เค้กที่ตัวเองอยากกิน” หนูก็เลยรู้สึกว่าทำไมถึงพูดเเรงจัง พอหนูทำท่าโกรธเขาก็เหมือนประมาณว่าแบบหัวเราะกลบเกลื่อน เมื่อก่อนเขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย เพราะเมื่อก่อนเวลาซื้อของขวัญวันเกิดให้เราจะไม่ให้เขาไปเลือกเอง เราจะซื้อให้เลย เขาก็จะขอบคุณตลอด เเล้วก็ชอบไม่ชอบเราก็ไม่ได้สังเกตไงเพราะเราซื้อมาเเล้ว เขาขอบคุณก็จบแล้ว เเต่รอบนี้คำขอบคุณก็ยังไม่มีเลย จนหนูต้องทวงว่าไม่ขอบคุณกันเลยหรอ? หนูมองว่า 10 ปีมันค่อนข้างหมดความหวานเเล้ว ในเมื่อเราตกลงกันเเล้วว่าเราจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน เเต่ว่าถ้าเราจะต้องอยู่ด้วยกันโดยไม่รักษาน้ำใจกันเเบบนี้ มันจะทำยังไงให้มันตลอดรอดฝั่ง ถ้าเป็นแบบนี้หนูก็ไม่โอเคถ้ามันจะต้องเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เขาก็ไม่ได้บอกว่าต่อไปจะไม่ทำเเล้ว เเต่เขาบอกว่าทุกอย่างที่ทำให้ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี คำพูดเขาก็มาจากคำพูดเรา หนูก็เลยอยากปรึกษาพี่ดีเจทั้ง 3 คนว่าหนูควรทำยังไงต่อดี ให้ชีวิตคู่ของหนูมันไปรอดตลอดฝั่ง?’ โดยเริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าทั้งคู่จริง ๆ นอกจากจะถามเขาว่าจะอยู่ยังไงที่ไม่รักษาน้ำใจ เราต้องถามตัวเองด้วยว่าเราทำอะไรผิดพลาดไปในวันเกิดเขารึเปล่า ถ้ามันเป็นเรื่องเเค่วันเกิดที่ผิดใจกันจริง ๆ โอเคไม่มีปัญหา หลังจากกลับมาเป็นเหมือนเดิม พฤติกรรมหลังจากเนี้ยะน่าจะบอกได้ว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิมรึเปล่า เราแค่ผิดใจในวันนั้นรึเปล่า หรือจริง ๆ เเล้วมีปัญหาใหญ่ซ่อนอยู่ ถ้ามันมีหลังจากนี้มันจะเป็นอีกในลักษณะแบบนี้ เรื่องการคู่ชีวิตต้องรักษาน้ำใจถ้าตั้งเเต่คบมาเเล้วเขาเพิ่งจะมาไม่มีเเค่วันนี้ พี่ว่าก็ไม่ถือว่าคู่ชีวิตที่ไม่รักษาน้ำใจขนาดนั้นนะ’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องใช้เหตุเเละผลนะ สิ่งที่ทำวันนี้มันก็มีเหตุมีผลที่ทำให้เขาพูดแบบนั้น วันนึงถ้าคุยกันว่าชีวิตคู่จะไปยังไงให้รอด ก็ต้องคุยกับเขาว่าไม่ชอบในสิ่งที่เขาทำ โดยที่เราเองก็ต้องกลั่นกรองนะว่าถ้าเขาไม่รักษาน้ำใจในแบบที่ไม่มีเหตุผลแล้ว เพราะว่าเราจะมาไม่แฮปปี้ก็ไม่ได้อะ เราจะอยู่ต่อกันไปเรื่อย ๆ ลึก ๆ เเล้วคุณวันก็มีความคาดหวังสูงอยู่นะในการเซอร์ไพร์สแบบนี้ เเต่ถ้าเป็นเเบบนี้ไปตลอดในการมีชีวิตคู่พี่ว่ามันเหนื่อยนะ’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เป็นคู่ที่คุยกันได้ ลองเอานิสัยผู้หญิงออกไป อารมณ์แบบชั้นไม่ชอบไม่พอใจเเล้วชั้นเก็บอ่ะ ประมาณว่าแบบเรื่องเค้กอะก็พูดไปตรง ๆ ว่าถ้าไม่รู้ความหมายก็ถามสิ เดะแปลให้อยากให้เขารับรู้ ที่มันตรงกับความรู้สึกเราอะ โดยที่ไม่ต้องเก็บเอามาน้อยใจ การน้อยใจของผู้หญิงโคตรน่าสงสารเลยเว้ย เพราะมันจะนอนร้องไห้โดยที่ผู้ชายไม่รู้เรื่องอะไรเลย หรือว่าเราเคยทำอะไรผิดพลาดไป เคยพูดขอโทษกับเขาบ้างรึเปล่า ถ้าอยากให้กลับไปมีชีวิตคู่เหมือนแรก ๆ ที่คบกันน่ะ มันกลับไปไม่ได้แล้ว คนที่น่ารักในอดีตอ่ะมันไม่อยู่เเล้ว เพราะว่ามันใหม่มันมีปัจจัยอะไรหลาย ๆ อย่าง มันชาชินอยู่ด้วยความเป็นเพื่อน ความรักความหลงมันถูกทดแทนเป็นความผูกพันไปแล้ว’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูกับแม่ทะเลาะกัน แม่โกรธที่หนูไม่พาไปห้าง บ่นน้อยใจสารพัด จนหนูไม่คุยกับแม่เลย แอบดูอยู่ห่างๆ จากต่างจังหวัด มีน้องสาวเป็นคนกลาง ตอนนี้รู้ว่าแม่ป่วยมีภาวะซึมเศร้า เราอยากได้คำขอโทษจากแม่ รู้ตัวว่าตัวเองมีทิฐิสูง แต่อีกใจก็อยากกลับไปคุยด้วยเหมือนเดิม

24 มี.ค. 2025

หนูกับแม่ทะเลาะกัน แม่โกรธที่หนูไม่พาไปห้าง บ่นน้อยใจสารพัด จนหนูไม่คุยกับแม่เลย แอบดูอยู่ห่างๆ จากต่างจังหวัด มีน้องสาวเป็นคนกลาง ตอนนี้รู้ว่าแม่ป่วยมีภาวะซึมเศร้า เราอยากได้คำขอโทษจากแม่ รู้ตัวว่าตัวเองมีทิฐิสูง แต่อีกใจก็อยากกลับไปคุยด้วยเหมือนเดิม

หนูกับแม่ทะเลาะกัน แม่โกรธที่หนูไม่พาไปห้าง บ่นน้อยใจสารพัด จนหนูไม่คุยกับแม่เลย แอบดูอยู่ห่างๆจากต่างจังหวัด มีน้องสาวเป็นคนกลาง ตอนนี้รู้ว่าแม่ป่วยมีภาวะซึมเศร้า เราอยากได้คำขอโทษจากแม่รู้ตัวว่าตัวเองมีทิฐิสูง แต่อีกใจก็อยากกลับไปคุยด้วยเหมือนเดิม จะเริ่มยังไงดี?“คุณเมย์ (นามสมมติ)” อายุ 32 ปี สายที่หนึ่งในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [19 มี.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาทะเลาะกับแม่จนไม่ได้คุยกันมานาน โดย “คุณเมย์ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ทะเลาะกับแม่เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว แม่อายุ 60 ปีแล้ว แม่อยู่ที่ต่างจังหวัด เป็นคนละจังหวัดกับเรา บางครั้งแม่ก็จะมาเยี่ยมที่บ้าน ซึ่งเราก็ใช้ชีวิตปกติ ดูแลแม่ปกติ เช่นถามว่า แม่จะไปเที่ยวไหนมั้ย จะทำอะไรมั้ย เราเองก็กลัวแม่จะเหงา เลยหากิจกรรมให้เขาทำ มีอยู่วันหนึ่ง เราก็ใช้ชีวิตปกติ คุณแม่ก็นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ และประมาณ 4 โมงเย็น เป็นช่วงที่เด็กๆ เลิกเรียน เราก็เตรียมตัวไปรับลูกชายที่โรงเรียน แต่อยู่ๆ แม่ก็โพ่งขึ้นมาเลยว่า วันนี้เราไปห้างกันเถอะ อยากไปช้อปปิ้งจัง จะไปดูเสื้อผ้า เราก็เลยบอกแม่ไปว่า แม่ เราไปวันหลังได้ไหม เพราะว่าวันนี้หนูจะต้องไปรับหลาน แล้วเราก็ไม่ได้อธิบายอะไรต่อ คิดว่าแม่จะเข้าใจและเห็นด้วยกับเรา หลังจากนั้นเราก็ไปรับลูกชาย พอกลับมาเราก็เห็นแม่นั่งอยู่และสังเกตได้ว่า แม่ดูอารมณ์ไม่ดี เราเลยไปถามแม่ว่า แม่เป็นอะไร แม่น้อยใจหรือเปล่า ที่ไม่ได้พาไปห้าง แล้วแม่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ และก็บอกว่า ใช่! ฉันน้อยใจ!แล้วก็เดินหนีเข้าห้องตัวเองไป เราก็คิดว่าแม่น่าจะยังงอนอยู่ เลยปล่อยให้แม่อยู่กลับตัวเองไปก่อน ระหว่างนั้นเราส่งข้อความไปหาน้องสาว ว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เลิกงานมาแล้วช่วยไปคุยกับแม่ให้หน่อย เผื่อแม่จะอารมณ์ดีขึ้น พอน้องสาวกลับมาจากที่ทำงานก็เข้าไปอธิบายให้แม่ฟังว่า เวลานั้นถ้าไปห้างจะลำบากรถติด ถ้าจะไป ไปวันหลังดีไหม ซึ่งเราก็คิดว่าพอน้องไปอธิบายแม่จะเข้าใจ แต่กลายเป็นว่า แม่ร้องไห้แล้วตะโกนเหมือนเด็ก ขว้างปาข้าวของ และใช้คำที่ทำให้ลูกๆ เสียใจ ประมาณว่า ฉันดูพวกเธอมานานละ พวกเธอก็เป็นแบบนี้กัน และพูดว่าเราเป็นลูกที่ไม่ดี ดูแลเขาไม่ดี แม่ก็บอกว่า ฉันจะกลับบ้านแล้ว จะกลับตอนนี้เลย ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ถ้าพวกเธอไปหาฉัน ก็จะไม่เจอฉันอีก แต่เราก็ให้แม่พักคืนนี้ก่อน เผื่อจะใจเย็นขึ้นแล้วค่อยมาคุยกัน วันรุ่งขึ้นแม่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ยังอารมณ์เสียเหมือนเดิม แล้วก็ไม่พร้อมที่จะรับฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้นเลย เราเลยจองตั๋วให้แม่เพื่อที่จะกลับบ้าน เพราะที่บ้านก็จะมีคนที่อายุใกล้ๆ กัน จะได้คุยกับแม่เผื่ออารมณ์ดีขึ้น และหลังจากทะเลาะกันได้ 2 อาทิตย์ เราก็ให้น้องสาวโทรไปคุยว่าเป็นยังไงบ้าง และเหมือนแม่ก็รู้ว่าสิ่งที่ทำมันไม่ถูกต้อง แม่เลยไปปรึกษาหมอ แล้วหมอก็บอกว่า เป็นเพราะฮอร์โมน และอาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของคนที่จะเป็นซึมเศร้า ตอนที่แม่กลับไปอยู่บ้าน แม่จะอยู่กับน้าสาว แล้วหลายๆ คนในบ้านพยายามบอกให้เรากับแม่ลองคุยกันดู แต่จริงๆ แล้ว เราแค่ต้องการคำขอโทษจากแม่ ให้แม่ยอมรับว่า สิ่งที่แม่พูด แม่ไม่ได้ตั้งใจที่จะพูด เพราะเราก็เป็นลูกคนโต เรารับผิดชอบครอบครัวมาเยอะมากจริงๆ และคิดว่าตัวเองก็ทำได้ดีมากๆ เท่าที่ลูกคนหนึ่งจะทำได้ ซึ่งก่อนหน้าที่จะทะเลาะกัน เราได้พาแม่ไปห้าง 2 แห่ง ตอนเช้าไปด้วยกันห้างแรก ตอนเย็นก็ไปอีกห้างหนึ่ง และเราก็ค่อยถามแม่ตลอดว่าจะเอาอะไร คือตามใจแม่ทุกอย่าง ปัจจุบันนี้เราก็ยังทะเลาะกับแม่ และยังไม่ได้คุยกัน เราก็พยายามที่จะบอกตัวเองว่า ให้อภัยแม่ได้ไหม เพราะเราก็เหลือแม่แค่คนเดียว ซึ่งเราก็ให้อภัยแม่ได้ แต่พอนึกถึงคำพูดที่แม่เคยพูด เป็นคำพูดที่มันทำร้ายเรา แล้วในช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่เราอ่อนไหวและต้องผ่านเรื่องอะไรมาหลายๆ อย่าง แม่ก็ไม่ได้รู้ว่าลูกต่อสู้กับอะไรบ้าง เราก็ยังรู้สึกแย่อยู่ พอคิดจะกลับไปคุยกับแม่เราก็ทำไม่ได้ เพราะทิฐิที่เรามี ซึ่งเราเองก็ไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้ เกลียดทิฐิตัวเองมากๆ และเอาชนะมันได้ยากมากจริงๆ แต่ตอนนี้เราก็ยังซัพพอร์ตแม่อยู่ไกลๆ ยังติดตามอยู่ว่าแม่ทำอะไร แต่ก็ยังไม่ได้คุยกัน เลยอยากจะปรึกษาพี่ๆ ดีเจว่า เราจะตั้ง mindset ยังไง ให้เราก้าวผ่านความรู้สึกที่เสียไป และกลับไปคุยกับแม่ได้เหมือนเดิมคะ?’ เริ่มที่ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าเมย์ก็ต้องคิดว่า ถ้าพรุ่งนี้แม่ไม่อยู่ให้เมย์โทรไปหาแล้วจะเป็นยังไง อะไรก็ตามทั้งหมด เราคือครอบครัว และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็ต้องไปกันต่อ พี่ว่าหลายบ้านคุณแม่คุณลูกก็อาจจะมีเรื่องที่ไม่ดีต่อกันมากกว่านี้ เขาก็ต้องตัดสินใจที่จะไปต่อ ถ้าเขายังอยากเป็นครอบครัวกันอยู่ แล้วเมย์ก็รักคุณแม่ และอีกอย่างคือ จนตอนนี้เมย์อายุ 32 แล้ว พี่ว่าเมย์ก็น่าจะทำอะไรบางอย่างที่ทำให้แม่ไม่พอใจ หรือโกรธมาบ้าง แต่แม่ก็ยังอยู่กับเราจนถึงทุกวันนี้ได้ ซึ่งพี่ว่ามันคือครอบครัว เรามีความรักให้กัน แม้ว่าอีกฝั่งจะผิด แต่เราก็ต้องให้อภัยกัน เพราะเรารักกัน’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ในบางสถานการณ์ บางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครอบครัว มันอาจจะไม่มีประโยชน์ในการหาคนผิดคนถูก ในความสัมพันธ์ ในความเป็นครอบครัวกันในทุกรูปแบบ บางครั้งการที่เราพยายามจะบอกให้คนหนึ่งยอมรับว่าผิด มันอาจจะไม่ใช่ทางออกของปัญหาเสมอไป ต้องลองคิดดูดีๆ ว่าถ้าเราได้ยินคำนั้น มันจะทำให้เราปลดล็อกทุกอย่างในคำๆ เดียวหรอ? เวลาของคนเรามันจะน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งเราจะไม่มีวันเข้าใจคุณพ่อคุณแม่ที่สูงอายุมากๆ ที่เขาจะต้องอยู่คนเดียวจริงๆ ลูกก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน มันคงทรมานมาก กับการที่เขาเคยมีใครมาทั้งชีวิต แล้วอยู่ดีๆ วันหนึ่งมันก็โหวง เวลาในชีวิตเขามันก็น้อยลงไปเรื่อยๆ ทีละวันๆ ที่คุณหมอบอกว่ามันอาจจะเป็นภาวะซึมเศร้า มีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะจากที่คุณเมย์เล่ามา แม่เขาอยู่คนเดียว เราอย่าหาผิดหาถูกกับคนที่ป่วยเลย เขายิ่งน่าสงสารขึ้นไปใหญ่ ลองคิดสิว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ GEN เก่า แล้วยอมรับว่าตัวเองผิดถึงขนาดไปหาหมอ ซึ่งมันไม่ง่าย และมันก็แค่ 1 ประโยคที่เราตามหากัน ผมมองว่ามันยังมีเรื่องอีกมากมายที่น่าห่วงกว่านั้น เช่น คุณแม่จะอยู่ยังไงคนเดียวกับภาวะแบบนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้น ณ เวลานั้นใครจะเป็นคนใกล้ตัวที่ดูแลแม่ มันเลยมีเรื่องอื่นที่น่าห่วงกว่าคำขอโทษ สำหรับในมุมมองของคนนอกที่ได้ฟัง ส่วนเรื่องที่คุณเมย์เจอมา ผมเข้าใจมากๆ แล้วมันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณเมย์น้อยใจอยู่แบบนี้ แต่บางทีเราน้อยใจไปแล้ว แล้วยังไงต่อ และผมว่าเราทุกคนให้วันนี้ไม่มีวันเข้าใจ จนกว่าจะอายุเท่าคุณแม่แล้วอยู่คนเดียว ไม่มีใคร ผมก็ไม่อยากให้วันนั้นคุณเมย์มานึกย้อนว่า ‘อ๋อ ฉันเพิ่มเข้าใจในวันที่มันไม่มีโอกาสที่จะได้สื่อสารอะไรกันแล้ว’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สิ่งที่เมย์เป็นอยู่ หนักอกหนักใจอยู่ คือการที่เมย์ถือทิฐิเอาไว้ ฉะนั้นอยากเบา อยากปล่อยวาง ก็คือ วางมันลงซะ คำขอโทษทั้งหมดมันไม่ได้มีค่าขนาดนั้น ‘ขอโทษมาสิ แม่แพ้มาสิ’ ต่อให้เมย์ได้คำขอโทษ และความพ่ายแพ้ของแม่ เมย์ก็ไม่ได้รู้สึกดีใจขนาดนั้น ชัยชนะมันไม่ใช่ชัยชนะจริงๆ การรักษาความรักที่เรามีให้ซึ่งกันและกัน มันคือชัยชนะของครอบครัวนี้แล้ว เมย์ลองนึกถึงวันที่เมย์เป็นแม่ขึ้นมาแล้วลูกไม่คุยกับเมย์ มันจะเจ็บปวดขนาดไหน นั้นก็คือคำตอบ วันนี้เมย์เป็นทั้งแม่และลูก ฉะนั้นจะเข้าใจความรู้สึกของทั้งสองบทบาทเลย ลองเข้าหาคุณแม่เถอะ เราไม่รู้ว่าแม่ปวดเป็นอะไรด้วยซ้ำ และสิ่งที่แม่ทำและแสดงออกมาที่มันไม่ปกติแบบนี้ นั้นแปลว่าแม่กำลังป่วย แล้วแม่กำลังเผชิญกับความยากลำบาก มันอาจจะมากกว่าเราด้วยซ้ำ ฉะนั้นคำขอโทษไม่มีความหมายเลย ถ้าเทียบกับชีวิตแม่เรา’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

อายุ 27 เปลี่ยนงานมา 10 กว่าที่แล้ว งานแรกอยู่นานสุด 3 ปี เคยไปทำได้เดือนเดียว สองเดือน หรือ บางที่ไปทำวันเดียว ผมก็ออกมาเลย รู้สึกไม่โอเคกับสังคม เพื่อนร่วมงานที่อื่น วนลูปแบบนี้มานานแล้ว

24 มิ.ย. 2024

อายุ 27 เปลี่ยนงานมา 10 กว่าที่แล้ว งานแรกอยู่นานสุด 3 ปี เคยไปทำได้เดือนเดียว สองเดือน หรือ บางที่ไปทำวันเดียว ผมก็ออกมาเลย รู้สึกไม่โอเคกับสังคม เพื่อนร่วมงานที่อื่น วนลูปแบบนี้มานานแล้ว

อายุ 27 เปลี่ยนงานมา 10 กว่าที่แล้ว งานแรกอยู่นานสุด 3 ปีเคยไปทำได้เดือนเดียว สองเดือน หรือ บางที่ไปทำวันเดียว ผมก็ออกมาเลยรู้สึกไม่โอเคกับสังคม เพื่อนร่วมงานที่อื่น วนลูปแบบนี้มานานแล้วตอนนี้ผมเพิ่งผ่านโปรงานปัจจุบัน แต่ความรู้สึกนั้นเริ่มกลับมาอีกแล้ว “คุณโต๋ (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สี่ในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [19 มิ.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาการเปลี่ยนงาน โดย “คุณโต๋ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนงานบ่อยมากเลย คือ ผมเรียนจบสายสังคมศาสตร์ หลังจากที่ผมเรียนจบมา ผมได้มีโอกาสเข้าไปทำงานที่แรกเกี่ยวกับงานบริการ อาจจะไม่ตรงกับสายที่เรียน แต่ก็ยังได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาอยู่บ้าง ทำได้อยู่ 3 ปี ซึ่งเพื่อนร่วมงานก็ดี คอยช่วย คอยซัพพอร์ต คอยให้กำลังใจกัน เวลาโดนหัวหน้าด่าหรือโดนกดดันแต่พอได้เจอเพื่อน มันก็ยังอยู่ได้ จนผ่านมา 2 – 3 ปีเพื่อนก็ทยอยลาออกกันไปหมด แล้วต่อมาผมก็ลาออก เพราะผมต้องไปบวช ซึ่งใช้เวลาในการบวชค่อนข้างนานอยู่ และอยากออกไปหาประสบการณ์ใหม่ด้วย แต่ก็ไปทำงานที่ไหนก็ทำได้ไม่เคยถึงปีเลย ส่วนใหญ่เหตุผลที่ลาออก บางทีไปเจอสภาพแวดล้อมการทำงาน หรือว่าบรรยากาศการทำงานที่มันรู้สึกอึดอัด ต้องเจอเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างานที่กดดัน พอเราเข้าไปแล้วเหมือนเราเป็นเด็กใหม่ แล้วพยายามปรับตัวเข้าหาเขา แต่พออยู่ไปสักพักเหมือนเราเข้ากับเขาไม่ได้เลย หลังจากลาออกจากที่ทำงานที่แรก ผมเปลี่ยนที่ทำงานไปก็รวมๆ 10 ที่ได้แล้ว ในระยะเวลา 2 ปี ระยะเวลาในการทำงานที่สั้นสุด 1 - 2 วันก็ไม่ไปแล้ว ซึ่งสภาพแวดล้อมที่ผมต้องการ คือ อยากเจอเพื่อนร่วมงานที่ดี และระยะทางของการไปทำงาน ที่ทำงานอยู่ตอนนี้ ผมทำงานผ่านโปรมาได้ 4 – 5 เดือนแล้ว ผมมีความรู้สึกกลับไปวนลูปเดิม รู้สึกอยากเปลี่ยนงานอีกแล้ว รู้สึกที่นี่ไม่เหมาะกับเราอีกแล้ว เพราะเวลาที่ผมไปตามงานหรือถามงานอะไร เพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าเหมือนหงุดหงิดใส่ คุยกับผมเหมือนไม่อยากคุย แกล้งบ้าง หรือไม่อยากตอบบ้าง ซึ่งเวลาพี่ๆเขาสอน ผมก็จดไว้ตลอด แต่คำถามส่วนใหญ่เป็นคำถามเรื่องใหม่ตลอด ผมอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่าผมจะทำยังไงดี?เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1