เจ็บทุกทาง... ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร หนุ่มโทรเข้ารายการ เล่าปัญหาสุดหนักใจ ผมนอนไม่สบายอยู่ในบ้าน ตอนแฟนไม่อยู่ พี่สาวแฟนมาเช็ดตัวให้ จนเผลอไปมีอะไรกัน ตอนนี้ตั้งท้อง 5-6 เดือนแล้ว แต่พี่สาวขอแก้ไขเรื่องนี้ โดยการ...

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เจ็บทุกทาง... ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร หนุ่มโทรเข้ารายการ เล่าปัญหาสุดหนักใจ ผมนอนไม่สบายอยู่ในบ้าน ตอนแฟนไม่อยู่ พี่สาวแฟนมาเช็ดตัวให้ จนเผลอไปมีอะไรกัน ตอนนี้ตั้งท้อง 5-6 เดือนแล้ว แต่พี่สาวขอแก้ไขเรื่องนี้ โดยการ...

29 พ.ค. 2023

        “คุณเล็ก (นามสมมติ)” อายุ 21 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [24 พ.ค. 66] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์กับพี่สาวของแฟน

        โดย “คุณเล็ก (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมคบกับแฟนมาได้ปีกว่าๆแล้ว เหตุการณ์นี้มี 3 ตัวละคร  คือ แฟนของผม แม่แฟน และพี่สาวแท้ๆของแฟน อายุ 27 ปี พอดีวันนั้นผมป่วย ไข้สูง แฟนกับแม่แฟนก็ออกไปข้างนอก ในบ้านมีแต่ผมกับพี่สาวของแฟน แม่แฟนก็เลยฝากให้พี่สาวอยู่ดูแลผมหน่อย แล้วพี่สาวแฟนก็มาดูแลผมปกติ เอายามาให้กิน เช็ดตัวให้ ผมก็กินยาแล้วมันเพลียก็เลยหลับไป

        อยู่ดีๆ ผมก็สะดุ้งตื่น เห็นพี่สาวแฟนมาโอบกอดผม ผมก็ตกใจ แต่ตอนแรกผมก็นึกว่าเขาจะมาวัดอุณหภูมิ แล้วเขาก็บอกว่าเดี๋ยวเช็ดตัวให้นะ ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร แล้วเขาก็จะถอดเสื้อผม ตอนนั้นผมก็คิดไว้แล้วว่าจะต้องลองใจผมแน่ๆ ผมก็ไม่เล่นด้วย เวลานั้นเป็นช่วงเช้าและฝนกำลังตกพอดี บรรยากาศกำลังเย็นๆ แล้วเขาก็มาหอมแก้มผม จนผมมีอารมณ์ขึ้นมา ก็เลยได้มีอะไรกัน

        หลังจากนั้นผมกับพี่สาวก็งงว่าทำอะไรกันลงไป สุดท้ายก็แยกย้ายกัน จนเวลามันก็ผ่านมา ในระหว่างนั้นเวลาที่เขาจะไปซื้อของหรือไปไหน ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล เขาก็จะพาผมไปด้วย และอ้างว่าเอาผมไปขับรถให้ เพราะผมเป็นคนเดียวที่ขับรถยนต์เป็นในครอบครัว ทางแฟนและแม่แฟนก็ไม่ได้ติดใจอะไรกัน เราไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยมาก อาทิตย์นึงประมาณ 3-4 ครั้ง และทุกครั้งที่ไปไหนด้วยกัน ก่อนจะเข้าบ้าน เราจะแวะโรงแรมมีอะไรกันก่อน ผมยอมรับว่ามีความคิดร่วมด้วย และไม่เคยขัด...

        ตลอดเวลาที่มีอะไรด้วยกันมา ผมไม่เคยป้องกันเลย เพราะพี่สาวแฟนบอกว่าเขากินยาคุมแบบรายเดือน เขาบอกว่ามันกันได้ 100% ไม่ต้องป้องกันก็ได้ จนวันนั้นผมเดินไปหลังบ้าน เขาก็เดินมาเจอกับผม 2 คน ทุกคนอยู่หน้าบ้านกันหมด เขาก็มาบอกกับผมว่า พี่ท้องนะ แต่จะไม่ให้วุ่นวายด้วย เดี๋ยวจะหาวิธี หาทางเอง เพราะเขากลัวน้องสาวกับแม่โกรธ ผมก็เสียใจที่เขาคิดแบบนี้

        ต้องบอกก่อนว่าพี่สาวของแฟน เขาก็สวย มีคนแถวบ้านมาชอบ มาจีบเยอะมาก จนเขาได้แฟนมาคนนึง อายุ 23 ปี เขาคุยกันแปปเดียวก็คบกันเลย เหมือนพอเขารู้ว่าท้อง เขาก็ตั้งใจไปคุยกับผู้ชายคนนั้น แล้วเขาก็ไปบอกผู้ชายคนนั้นว่าเขาท้องด้วยกัน แต่ผู้ชายคนนั้นก็ไม่สงสัยอะไร และเขาก็แต่งงานกันแล้วด้วย หลังจากนั้นเขาก็ไม่มาอะไรกับเราอีกเลย ตอนนี้ก็ห่างกันแล้ว เขาบอกว่าไม่อยากให้ผมยอมรับ เพราะเขาไม่อยากให้ผมกับน้องสาวเขาต้องแยกกัน และครอบครัวเขาจะแตก เพราะมาทำแบบนี้กับแฟนน้อง

        ตอนนี้เขาตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5-6 เดือนแล้ว ผมเคยคุยกับเขาด้วย แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปเลย เขาดูแลได้ แต่มันก็เป็นตราบาปให้ผม ผมคิดว่าถ้าลูกคลอดออกมาแล้ว ผมอยากได้ลูกของผม ไม่ว่าจะเลิกกับแฟน เลิกกับพี่สาวแฟน หรือเลิกกับทั้งสองคนผมก็ยอม... ผมอยากรู้ว่า มันพอจะมีทางออกเพิ่มมั้ยครับ?’

        3 ดีเจให้คำปรึกษา “คุณเล็ก (นามสมมติ)” ว่า ‘ถ้าแม่ของลูกเขาบอกว่าเขาสามารถเลี้ยงได้ และเลี้ยงได้ดี เราก็ควรเดินออกมา เพราะวันนึงเล็กจะต้องแต่งงานและมีลูกใหม่ การที่เล็กไปบอกความจริงทุกอย่าง ไม่รู้ว่าแม่เขาจะยอมให้ลูกกลับมามั้ย?

        เอาจริงๆ เล็กก็ยังเป็นคนนอกสำหรับครอบครัวนี้ เป็นผู้ชายคนนึงที่นอกใจและไม่มีความยับยั้งชั่งใจ แต่พี่น้องที่คลานตามกันมา ทำไมถึงทำอย่างนั้นได้ลง และที่สำคัญต่อให้เล็กเปิดโปงความจริงทุกอย่าง คนที่เจ็บ ก็คือ แม่แฟนและแฟนที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย มันยากนะที่ใครหลายคนจะรับได้ แล้วคนที่เจ็บคือคนบริสุทธิ์ทั้งนั้นเลย

        ถ้าเล็กออกจากวงจรเขา เล็กก็ไม่ได้ผูกพันกับเด็กขนาดนั้น เราจะผูกพันกับเด็กคนนี้ก็ต่อเมื่อเราอยู่ในวันที่แม่เขาตั้งท้อง เราอยู่ในวันที่เขาคลอด เราอยู่และดูแลเด็กคนนั้นขึ้นมา แต่ถ้าวันนึงเราออกจากวงจรชีวิตนี้ไป แล้วไปเจอเด็กตอนโต เราจะไม่ผูกพัน แต่จะรู้สึกแค่ว่านี่คือลูกของเรา และความรักครั้งนี้ไม่อยากให้เปิดเผยด้วย...

        การที่จะไถบาปครั้งนี้ของเล็ก มันอาจจะสร้างบาปหนักไปมากกว่าอีก เล็กต้องไม่สปอยความอยากได้ของตัวเองแล้ว เล็กต้องระงับการที่จะอยากได้เด็กคนนี้มาเลี้ยงเป็นลูก เพราะไม่งั้นมันจะเป็นเหมือนเดิมที่เคยอยากได้กันกับพี่สาว แล้วปล่อยให้ทุกอย่างมันพังขนาดนี้ เล็กต้องไม่ได้ทุกอย่างที่อยากได้ได้แล้ว เพราะมันจะทำลายชีวิตคนอื่นไปด้วย

        ถ้าเล็กรู้สึกผิด อยากชดใช้ อยากแก้ไข พวกพี่ๆมองว่าเล็กทรมานไปคนเดียวน่าจะเหมาะสมกว่า เพราะการรับผิดชอบโดยการเอาเด็กมาเลี้ยง มันสร้างผลกระทบกับคนอื่นที่ต้องเจ็บไปพร้อมๆกับเราอีกมากมาย เพราะเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการที่เอาลูกมาอยู่กับเรา โดยที่ยอมเลิกกับแฟนทั้งสองคน มันจะยิ่งทำให้ปัญหานี้ ไม่จบไม่สิ้นสักที

        พวกพี่ๆให้ 2 ทางเลือก เล็กลองไปคิดดูว่าจะเอาแบบไหน โดยทางแรก คือ เล็กอยู่แบบนี้ แล้วเห็นเด็กคนนี้เติบโตขึ้นทุกๆวัน โดยที่เล็กต้องคิดและกล่อมตัวเองว่านี่ไม่ใช่ลูกของเราหรอก กับทางที่สอง คือ ออกมาเลย เล็กไปแบบช้ำๆ ไปเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนที่ไม่ได้อยู่ในวงจรครอบครัวนี้ ถือว่านี่เป็นผลที่มันเกิดขึ้นสำหรับการกระทำที่ผ่านมาของเรา

        สุดท้ายทางที่จะทำให้เล็กไปยุ่งกับเด็กคนนี้ได้ คือ ณ วันนั้นที่แม่เขาต้องการเรา สมมติอนาคต ถ้าสามีของเขาจับได้ว่านี่ไม่ใช่ลูกของเขา ตัวแม่ของเด็กไม่ไหว ดูแลลูกไม่ได้ แบบนี้มันน่าจะคุ้มที่เราไปแสดงความรับผิดชอบอะไรก็ตาม…’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ทันตั้งตัว เอาลูกนั่งคาร์ซีท ขับรถไปแอบส่องสามี ตอนทำงานร้องเพลงที่ร้านเหล้า เจอสาวนั่งเฝ้าสามี คอยถือของดูแลไม่ห่าง สุดท้าย สามีหนีออกจากบ้าน ทิ้งลูกสาว 1 ขวบ และ ลูกในท้องเกือบ 3 เดือนไปเลย...

28 ก.พ. 2023

หนูกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ทันตั้งตัว เอาลูกนั่งคาร์ซีท ขับรถไปแอบส่องสามี ตอนทำงานร้องเพลงที่ร้านเหล้า เจอสาวนั่งเฝ้าสามี คอยถือของดูแลไม่ห่าง สุดท้าย สามีหนีออกจากบ้าน ทิ้งลูกสาว 1 ขวบ และ ลูกในท้องเกือบ 3 เดือนไปเลย...

“คุณก้อย (นามสมมุติ)” อายุ 37 ปี สายแรกในรายการพุธทอล์ค พุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (22/02/2023) ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์กับสามีโดย “คุณก้อย (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘เรากำลังเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวกะทันหัน เพราะโดนสามีสวมเขา เรื่องเพิ่งเกิดสดๆร้อนๆเลย ต้องเกริ่นก่อนเลยว่าเรามีลูกอายุ 1 ขวบ 8 เดือน และตอนนี้ก็กำลังท้องอยู่ 2 เดือนกว่าๆ เรากับสามีจดทะเบียนสมรสกันแล้ว และสามีเราเป็นนักดนตรี ปกติเขาจะกลับบ้านตรงเวลา เลทนิดหน่อย โทรหาก็รับสายปกติ แต่ช่วงก่อนปีใหม่นี้ เราสังเกตเห็นว่าเขากลับบ้านช้า บางวันกลับบ้านเกือบเช้า โทรหาก็ไม่รับ วิดีโอคอลไปก็ไม่รับ เราก็เอะใจว่ามีอะไรหรือป่าว...ยิ่งหนักเข้ามันยิ่งผิดสังเกต เราก็เลยเอาลูกนั่งคาร์ซีท ขับรถตามไปดูที่ร้านเหล้าที่เขาไปทำงาน ไปแอบดูแบบเงียบๆ เจอผู้หญิงมานั่งเฝ้าเขาที่ร้านทุกวัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน สนิทกัน แต่เขาก็โกหกเราว่าไม่มีอะไร ไม่มีผู้หญิง ไว้ใจได้ มีแต่เพื่อนผู้ชาย เราตามไปเฝ้าดูประมาณ 2 เดือน ตอนแรกเห็นว่ามีคนมาเป็นกลุ่มๆ แต่ไปๆมาๆ เราเอะใจ ทำไมเห็นหน้าคนนี้บ่อยจัง ทำไมมานั่งเฝ้าสามีเรา มาถือของให้สามีเรา แล้วทำไมถึงขึ้นรถสามีเรา ตอนนั้นยังไม่กล้าบุกเข้าไปเพราะเราต้องมั่นใจก่อน กลัวสามีจะด่าด้วย อีกอย่างเขาก็ไม่ชอบที่ไม่ให้เกียรติเขา เราก็ทำได้แค่พยายามเงียบ พยายามเก็บข้อมูลจนวันนึงมีเสื้อผ้าใหม่ๆ เสื้อผ้าแพงๆ ของแพงๆ กางเกงตัวละเกือบหมื่นมาส่งที่บ้าน เราก็ถามว่าใครซื้อให้ เขาบอกผ่อนกับรุ่นพี่ เราก็ถามว่ารุ่นพี่ผู้หญิง หรือผู้ชาย เขาบอกรุ่นพี่ผู้ชาย อ้วนๆดำๆตัวใหญ่ๆ เราก็ไม่ได้คิดอะไร เราโอเคและเชื่อ สักพักก็เริ่มมีเสื้อ มีของต่างๆมาส่งอีก เราก็ถามเขา เขาบอกว่าอ่อ อันนี้ซื้อต่อเพื่อนมา อันนี้รุ่นพี่เขาให้มา เราก็โอเค เราเชื่อคืนนั้นที่เกิดเรื่อง เขากลับบ้านมาประมาณตี 3 เราเห็นเขานอนดู TikTok สไลด์ไปเรื่อยๆ เราก็สงสัยว่าทำไมเขาสไลด์ TikTok แล้วกลับมาหน้าไลน์ แล้วกลับไปหน้าไลน์ แล้วก็กลับมาหน้า ไลน์อีก วนอยู่แบบนี้ ซึ่งเขาปิดเสียงแจ้งเตือน ด้วยความที่เราเก็บข้อมูลมาแน่นมากพอแล้ว เราเห็นทุกอย่าง รู้ทุกอย่าง จังหวะที่เขาเอี้ยวตัวมาหอมลูก เรากระชากมือถือ แล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ล็อคประตูเลย ทีนี้ก็ไปดูในไลน์ว่าเขาคุยกับใครบ้าง ตอนแรกเราหาไม่เจอ เพราะเขาลบข้อความที่แชทข้อความหมด ลบทุกอย่าง แต่ด้วยความโชคดีของเรา ผู้หญิงทักไลน์เข้ามาพอดี เราก็เลยส่งคอนแทคของผู้หญิงคนนี้จากไลน์สามีเข้าเครื่องของเราสถานการณ์ข้างนอกคือเขานอนนิ่ง เก็บอาหาร หน้าตึง โกรธเรามากที่เราไปยุ่งของส่วนตัวของเขา แล้วเขาก็ลุกขึ้นแต่งตัว คว้ากุญแจรถ เราก็ถามว่าจะไปไหน เขาบอกว่า บอกแล้วใช่มั้ยว่าไม่ชอบให้ยุ่งของส่วนตัว เราก็ชิงกระชากกุญแจรถ แล้ววิ่งขึ้นรถ ล็อคตัวเองอยู่ในรถ เราก็โทรคุยกับผู้หญิงคนนั้น เล่าสารพัดความไม่ดีให้ฟัง เราถามว่าซื้อของให้สามีคนอื่นแบบนี้คืออะไร คิดอะไรกันหรือป่าว ผู้หญิงบอกว่าพี่ หนูไม่ได้คิดอะไร หนูเป็นคนเปย์เพื่อน เปย์ใครๆแบบนี้อยู่แล้ว คนเราไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนสนิทเป็นเพศเดียวกันปะ? เราก็บอกว่าใช่ เพราะเราก็มีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ว่าคงไม่ได้สนิทกันถึงขั้นขนาดนี้ ไปไหนมาไหนด้วยกันสองต่อสอง บางครั้งเขาเอาผู้หญิงคนนี้ไปที่วงดนตรีอื่น แล้ววงอื่นก็รู้จักกับเราทุกคน เขาทำได้แค่มองหน้ากันแล้วแบบคืออะไร ทำไมทำแบบนี้ ก็ไม่มีใครอยากยุ่ง ไม่มีใครสะกิดบอก แต่เรารู้สึกด้วยเซ้นส์ของเราเองหลังจากนั้นลูกก็ร้อง เขาบอกว่าเดี๋ยวขอออกไปจัดการตัวเอง ไปเคลียตัวเองก่อน เดี๋ยวไม่กี่ชั่วโมงกลับมา แล้วเขาก็หายไปเลย จนถึงตอนนี้เกือบ 1 เดือนแล้ว เขาให้เราเตรียมเสื้อผ้าบางส่วนไว้ให้สำหรับใส่ทำงาน แต่พวกเสื้อผ้าอื่นๆ ใส่เล่น ใส่เที่ยวทั่วไปก็ยังอยู่ที่บ้าน แล้วทุกอย่างในบ้านยังอยู่ที่เดิม เหมือนตอนที่เขาอยู่ เรายังไม่ได้เก็บของให้ ช่วงที่เขาหายไปก็มีการติดต่อกันบ้าง แต่คุยไปเขาก็ทะเลาะ ซึ่งเราพยายามคุยดีๆว่ามีปัญหาอะไร ทำไมอยู่ๆถึงเป็นแบบนี้ เขาก็บอกว่าอยู่กับเราเขาไม่มีความสุข เราคอยตาม คอยเช็ค ไม่เป็นตัวของตัวเอง รู้สึกไม่เป็นอิสระ เราก็เลยบอกว่าเราเป็นภรรยาที่งี่เง่าน้อยมากนะ เราทำดีทุกอย่างเลย ทำหน้าที่ภรรยาที่ดี ทำหน้าที่แม่ของลูกที่ดี มาว่าเราแบบนี้เพื่อปกปิดความชั่วของตัวเองหรือป่าว เขาบอกเขาไม่ได้มีใคร แค่อยากอยู่ตัวคนเดียว อยากไปไหน ทำอะไรคนเดียว อยากมีอิสระ เราก็เลยถามว่า อ้าว แล้วอิสระที่พาผู้หญิงคนนี้ไปด้วยเกือบทุกคืนคืออะไร เขาก็ถามว่ารู้ได้ยังไง เราก็บอกว่าเราเห็น ซึ่งเราเห็นจริงๆ ก็เลยพูดได้ เขาไม่ยอมรับว่าเขาคบกัน หลังจากที่หนูจับได้เขาก็ล็อคหน้าจอมือถือ เปลี่ยนรหัสต่างๆ ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากเรื่องนอกใจ ความเป็นสามี ความเป็นพ่อของเขาก็โอเค แต่เขาก็ไม่ได้ซัพพอร์ตเรามากมาย ส่วนตัวเราทำธรุกิจส่วนตัว จะพูดว่าเรามีมากกว่าเขาก็ได้ และเราไม่เคยยุ่งเรื่องเงินทองของเขาเลย เขาทำงานมาก็เก็บทุกบาททุกสตางค์ มีบ้างที่เขาช่วยออกค่ากับข้าว ซื้อนั่นซื้อนี้ให้บ้างแต่เล็กน้อยมากกับสิ่งที่เราให้เขา และค่าใช้จ่ายของลูกเขาก็ช่วยรับผิดชอบน้อยมาก ขนาดแพมเพิสยังไม่เคยซื้อให้เลย มีแต่คุณยายซื้อให้หมด เราก็ไม่อยากให้เขาเอาเรามาเป็นภาระ ต้องมาช่วยจ่ายนู้นนี่ เราจ่ายได้ก็จ่าย แต่เขาก็ติดเงินคุณแม่ของเราด้วย และก่อนหน้านี้เขาก็เคยมีครอบครัว มีลูก และลูกคนแรกเขาก็ไม่เคยส่งเสียล่าสุดเขาบอกว่าจะไม่กลับมาเป็นครอบครัวแล้ว ตอนนี้เขาไม่อยากเจอหน้าเรา หลบหน้าเรา อย่างเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาเราต้องไปฝากท้อง ซึ่งเราก็บอกเขาไปแล้ว แต่เขาก็ไม่มา ถามว่าเราสามารถเลี้ยงลูกเองได้มั้ย เราสามารถเลี้ยงได้ และเราก็ยังมีพ่อแม่ที่คอยซัพพอร์ตเราอยู่ข้างหลังด้วย เราทั้งเจ็บ ทั้งจุก เพราะลูกเคยนอนกอดเขาทุกวัน แต่วันนี้เขาเลือกที่จะทิ้งเรากับลูกๆไป เพราะผู้หญิงหนึ่งคน เพราะความโลภ ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ของเขา ถ้าวันหน้ากลับมาเราก็คงไม่เอาแล้ว เพราะในเมื่อวันที่เราต้องการเขา วันที่เราร้องไห้หาเขา เขากลับที่จะทิ้งเราไปอยากถามพวกพี่ๆดีเจว่า จะใช้ชีวิตต่อไปยังไงดี? เพราะลูกก็ถามหาพ่อ คนรอบข้างทุกคนก็ถามว่าสามีไปไหน ซึ่งทุกครั้งที่มีคำถามพวกนี้มันแทงใจมากๆ แต่คนที่ถามแทงใจที่สุด คือลูก ลูกจะถามคุณแม่ว่าปะป๊าไปไหน ทำไมปะป๊าไม่มาหาหนู...3 ดีเจให้คำปรึกษากับ “คุณก้อย (นามสมมุติ)” ว่า ‘ก้อยแค่เจอผู้ชายที่ไม่ดี เขาไม่เหมาะที่จะเป็นสามี หรือเป็นพ่อ แยกย้ายกันถูกแล้ว สิ่งใดที่มันเกิดขึ้นแล้วมันดีเสมอแหละ ครบครัวที่มีครบ มันไม่เท่ากับครอบครัวที่สมบูรณ์ การที่เราจะเป็นทั้งพ่อและแม่ มันไม่ใช่เรื่องยาก แค่ให้ความสุขเขา และสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคือเงิน ตอนนี้เรามีทั้งลูก ทั้งครอบครัว ส่วนใครที่เป็นภาระเรา ไม่ว่าจะเป็นภาระทางด้านการเงิน แถมภาระทางใจอีก อยู่กับคนนี้แล้วมันไม่ได้มีความสุขที่แท้จริง การที่เขาเดินออกจากชีวิตเราไป ถ้าเขาไม่ได้รักเราแล้ว การเริ่มต้นใหม่ของก้อยจะเป็นการเริ่มต้นการนับ 1 ของความสุขแล้ว มันเป็นข้อดีมากเลยนะที่ผู้ชายแบบนี้ออกไปจากชีวิตเราความสุขคนเรามันไม่เหมือนกัน ความสุขของคนบางคนอาจจะมีครอบครัวสมบูรณ์ แต่ความสุขของคนบางคนคือการตัดใครบางคนที่ไม่รักเราออกจากชีวิต มันอาจจะทำให้ชีวิตมีความสุขมากกว่านี้ การที่เขาตัดก้อยและลูกๆออกไป เขารู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้คือภาระสำหรับเขาเหมือนกัน และแปลว่ามันไม่ได้มีค่าสำหรับเขา เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นเลยที่ต้องคิดถึงคนๆนึงที่เดินออกไปแล้วโชคดีที่ลูกยังอยู่ในวัยที่สามารถลืมได้ ถ้าเป็นไปได้อนาคตเลือกโรงเรียนดีๆให้กับเขา แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นโรงเรียนนานาชาติ ขอแค่เป็นโรงเรียนที่ดี เพราะโรงเรียนจะสอนเขาเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้กับเด็กๆ แล้วของแบบนี้ไม่ต้องรีบไปฝังหัวลูกว่าพ่อเป็นคนแบบไหน แต่วันนึงเมื่อลูกโตขึ้น เราค่อยๆคุยกับเขา เดี๋ยวเขาจะเข้าใจทุกอย่างเองและอีกอย่างนึงที่เขาจะรับรู้ได้เลยว่าแม่คือทุกสิ่งทุกอย่างถามว่าจะใช้ชีวิตยังไง ก้อยต้องรักตัวเองให้มากพอก่อน แล้วความรักนั้นจะส่งต่อถึงลูก ถึงคนรอบข้าง เอาชีวิตของเราเป็นที่ตั้งและมูฟออน ความสุขของลูกให้มันอยู่ที่ก้อย ถ้าวันนึงมีความสุขแล้ว เขาจะกลับมา จำไว้ว่าอย่าเอาความทุกข์กลับเข้ามาอีก...เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

สาวข้องใจ... โทรปรึกษา และ ขอถามความเห็นจากทุกคน ถ้าเจอ ‘กิ๊กเก่า’ ของแฟนเรา ในร้านอาหาร ทุกคนจะทำยังไงคะ? ระหว่าง “เดินเข้าไปนั่งกิน สู้หน้าไปเลย” กับ “เดินออกมาจากร้าน” แล้วถ้านั่งกินจะทำตัวยังไง? หรือ เดินออกมาแล้วจะดูแพ้ไหม?

15 พ.ค. 2023

สาวข้องใจ... โทรปรึกษา และ ขอถามความเห็นจากทุกคน ถ้าเจอ ‘กิ๊กเก่า’ ของแฟนเรา ในร้านอาหาร ทุกคนจะทำยังไงคะ? ระหว่าง “เดินเข้าไปนั่งกิน สู้หน้าไปเลย” กับ “เดินออกมาจากร้าน” แล้วถ้านั่งกินจะทำตัวยังไง? หรือ เดินออกมาแล้วจะดูแพ้ไหม?

“คุณเอ (นามสมมติ)” สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (10 พ.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหา โดย “คุณเอ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ก่อนหน้านี้หนูไม่ได้อยู่กับแฟน คืออยู่คนละที่กัน แฟนก็นอกใจหนู แอบไปคุยกับคนอื่น แล้วผู้หญิงก็มาหาแฟนที่ห้องตลอด แต่แฟนก็ยังคุยกับหนูปกติ มาหาหนูปกติเลย แต่ตอนนี้เขาเลิกคุยกันแล้ว วันนี้ที่โทรมา อยากถามพี่ๆดีเจว่า ถ้าเราไปร้านอาหาร แล้วเจอคนที่เคยเป็นกิ๊กเก่าของแฟน เราจะเดินเข้าไปทานอาหารปกติ หรือจะเดินออกเลย...?เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ก็งานเสร็จแล้ว จะนั่งต่อเพื่อ ?? สาวออฟฟิศสุดกลุ้ม ถึงเวลาเลิกงานแล้ว แต่หัวหน้าชอบยื้อเวลาให้อยู่ต่อ ทั้งๆที่ไม่มีอะไรต้องทำแล้ว สงสัยจัง ทำไมจะกลับตรงเวลา ถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ !! พี่ๆในแผนกก็เจอเหมือนกันหมด

27 มิ.ย. 2023

ก็งานเสร็จแล้ว จะนั่งต่อเพื่อ ?? สาวออฟฟิศสุดกลุ้ม ถึงเวลาเลิกงานแล้ว แต่หัวหน้าชอบยื้อเวลาให้อยู่ต่อ ทั้งๆที่ไม่มีอะไรต้องทำแล้ว สงสัยจัง ทำไมจะกลับตรงเวลา ถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ !! พี่ๆในแผนกก็เจอเหมือนกันหมด

“คุณมน (นามสมมติ)” อายุ 25 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [21 มิ.ย. 66] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาเวลาการเลิกงาน โดย “คุณมน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้ 2 เดือนกว่าแล้ว ที่นี่ไม่ใช่บริษัทใหญ่ ตอนแรกหนูคุยกับเขา เขาบอกเข้างาน 09.30 น. เลิกงาน 18.30 น. แล้วเขาก็พูดทิ้งท้ายว่า แต่กลับสักทุ่มครึ่งก็ดีนะ หนูก็เอ๊ะ! แต่ตอนนั้นหนูอยากออกจากงานเก่าเต็มที แล้วเขาก็ให้เงินเดือนหนูเยอะเกินความคาดหมาย หนูก็เลยตัดสินใจทำงานที่นี่ พอเข้ามาทำงานจริงๆแล้ว ในช่วงเดือนแรกๆหนูก็กลับบ้านตรงเวลาอยู่ เพราะหนูเป็นคนกลับบ้านตรงเวลามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่หนูงงว่าทำไมในออฟฟิศไม่มีใครกลับเลย หนูก็เลยค่อยๆตะล่อมถามคนในออฟฟิศว่า เอ้อ...ทำไมไม่มีใครกลับเลย เขาก็เล่าให้หนูฟังว่าเจ้านายเขาไม่ค่อยอยากให้กลับตรงเวลา เขาจะดึงให้ทำงาน บางคนไม่ได้มีอะไรทำ แต่เขาก็ดึงเพื่อให้อยู่ด้วยกันแล้วเขาก็จะบอกว่าเดี๋ยวซื้อข้าวให้กิน พอช่วงหลังๆมาหนูก็ไม่ได้กลับตรงเวลา เพราะว่าจะมีงานให้บ้าง ที่หนูกลับดึกที่สุดตอนนี้ประมาณ 2 ทุ่ม – 2 ทุ่มครึ่ง ซึ่งเป็นการที่หนูกลับเอง คือไม่ไหวแล้ว อยากกลับแล้ว ก็ลาเขาแล้วก็ออกไปเลย ไม่ได้รอเขาตอบกลับอะไร วันที่อยู่ดึกๆกลับช้าหนูก็ไม่ได้โอที แต่มีคนเคยบอกว่าถ้าเกิดวันไหนทำถึง 4 ทุ่ม หนูก็จะได้โอที 200 บาท ส่วนเรื่องอื่นๆ หนูเคยถามว่าลาพักร้อนมีกี่วัน เขาก็ตอบหนูไม่ชัดเจน แล้วเขาก็บอกว่าแต่ต้องทำงานให้ครบปีก่อนนะ ถึงจะได้วันลาพักร้อน แต่เขาก็ไม่บอกจำนวนวัน บรรยากาศในการทำงานมันเป็นสภาวะที่อึดอัด ทุกคนทำงานเหมือนอยู่ในสถานปฏิบัติธรรม เงียบมาก เจ้านายก็นั่งอยู่ในห้องทำงาน แต่พอเจ้านายเดินออกจากห้องทำงาน ทุกคนก็เฮฮาหัวเราะ หนูก็เลยคิดว่าทำไมบรรยากาศมันแตกต่างจังเลย หนูเคยทำที่อื่นมาก่อน แต่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย และล่าสุดที่เจอมา คือ มีเพื่อนคนนึงเขาป่วยหนักหลายวัน เจ้านายก็เลยให้เรียกรถมายกคอมไปให้ทำที่บ้านเลย การกลับบ้านของเจ้านายแต่ละวันก็แล้วแต่เขาเลย บางวันเขากลับเร็วก็เร็ว บางวันเขากลับดึกก็ดึก วันไหนที่เขากลับเร็วก็เหมือนเป็น Lucky ของพนักงานที่จะได้กลับเร็ว แต่ก็จะมีอีกกรณีนึงที่คนเก่าเขาเล่ามา คือ บางตำแหน่งที่เขาต้องคุยกับลูกค้า แล้วลูกค้าโทรมาให้ทำงานให้ตอนดึกๆ เจ้านายก็จะโทรมาบอกให้อยู่ทำงานก่อน ทำงานให้เสร็จ บางคนเลิกเที่ยงคืน ตี 1 ก็มี ส่วนค่าตอบแทน ที่นี่เขาให้เงินเดือนสูง คนอื่นๆก็ได้เงินเดือนสูงเหมือนกัน ได้โบนัสดี แต่เจ้านายคนนี้เขาก็ดี แค่เรื่องเวลาที่รู้สึกไม่ค่อยโอเค... “คุณมน (นามสมมติ)” อยากถามพี่ๆ ดีเจว่า ควรจะออกจากที่ทำงานนี้เลยมั้ย หรือ ทำต่อไป เพราะเราอยากได้ประสบการณ์ “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำแนะนำว่า ‘เมื่อ15 ปีที่แล้ว ผมก็เคยทำงานออฟฟิศมาก่อน แต่ของผมเป็นออฟฟิศค่อนข้างใหญ่แบบ WorldWide ตอนนั้นก็สัมผัสได้ว่ามันเป็นวัฒนธรรมของงานในสายงานนี้ เมื่อคุณเสร็จงานประจำในช่วงเวลาปกติแล้ว หลังจากนั้นคุณสามารถทำอะไรต่อได้อีกเยอะเลย คุณสามารถทำงานเพื่อส่งประกวด เพื่อแคมเปญต่อๆไป ผมเลิกงานช้าสุดก็ตี 3 - 4 ไปเลย เน้นงานเสร็จไม่ได้เน้นเวลาการทำงาน ก่อนที่จะเลือกช้อยส์ 1 หรือช้อยส์ 2 ต้องถามตัวเองก่อนว่า มนมีทางเลือกหรือเปล่า? มีตัวเลือกอื่นที่จะทำให้มนย้ายและเงินเดือนเพิ่มขึ้น ได้งานที่รับผิดชอบที่สนุกสนานมากขึ้น หน้าที่การงานเติบโตขึ้นก็ย้าย แต่ถ้ารู้สึกว่าตัวเลือกนี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด จากเงินเดือนที่เขาให้มาค่อนข้างสูงและจากที่ฟังมนเล่ามา เขาไม่ได้ดูเป็นคนเลวร้ายอะไร แค่เขาอาจจะขี้เหงา และเป็นหัวหน้าที่บ้างาน บางครั้งหัวหน้าที่บ้างานมักจะเอาความเป็นตัวเองใส่มาให้ลูกน้องด้วย แต่ถ้าไม่มีทางเลือก การที่อยู่เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มนอาจจะได้เจออะไรที่เลวร้ายกว่า 2 เดือนแรกอีก เดี๋ยวอยู่ต่อไป มีถึงตี 1 – 2 วันที่ต้องปิดงานเพื่อจะต้องส่ง นั่นแหละต้องเจออีกแน่ ถ้าไม่มีทางเลือกก็อยู่ต่อไป มีทางเลือกเมื่อไหร่ก็บายบ๊าย เงินเดือนเพิ่มขึ้น ธรรมชาติของงานแบบนี้ย้ายกันบ่อยอยู่แล้ว ยิ่งย้าย มีผลงานเป็นที่พิสูจน์ ยิ่งอัพเงินเดือนเพิ่มขึ้น ถ้าเป็นพี่เมื่อ 15 ปีที่แล้วพี่ยังคงทำ...’ ‘ดีเจเติ้ล’ ให้คำแนะนำว่า ‘มนต้องถามตัวเองว่าเป็นคนประเภทไหน แน่นอนมันจะมีคนที่สู้เพื่องาน จะเหนื่อยเท่าไร จะไม่สบายยังไง แต่ถ้าทำงานแล้วงานมันดี มันทำให้เราเจริญเติบโตก้าวหน้ายอมเสียสละ ถ้าเอาแค่ปัญหาที่อยู่แล้วไม่มีงานทำ ก็อาจจะลองถามคนอื่นว่ามีอะไรให้ช่วย เพราะว่างานที่หนูทำอยู่มันไม่ใช่งานที่ทำแล้วจบ มันสามารถทำอย่างอื่นเพื่อเพิ่มสกิล ทักษะอื่นๆได้ ถ้าหนูอยากหาประสบการณ์ คือ มันอยู่ที่ทัศนคติของหนูในการทำงานว่าจะทำให้มันดีกับตัวเองได้หรือเปล่า หรือแค่มานั่งว่างๆเพื่อรอให้คนอื่นกลับ แล้วฉันจะกลับ อันนี้พี่ว่ามันไม่มีประโยชน์ เอาจริงๆ มันควรต้องแก้ที่ตัวหัวหน้า ที่จะให้เขารู้ว่า เวลาในการทำงานมันไม่ได้เท่ากับประสิทธิภาพในการทำงานนะ มันไม่ได้เสมอไปว่า ถ้าทำงานดึกๆ มันจะได้งานที่ดี แต่ถ้าเขาเป็นแบบนี้ เราไปเปลี่ยนเขาไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเราไปเป็นลูกน้องเขา ตอนนี้มันก็มีแค่มนที่ต้องปรับ อยู่แบบนี้ให้ได้ โดยที่อยู่ยังไงให้ดีกับตัวเรา เหมือนที่พี่ถามมนตั้งแต่แรกว่ามนเป็นคนประเภทไหน มันแล้วแต่เลยว่าเราอยากเห็นชีวิตเราเป็นแบบไหน เราเลือกเป็นแบบไหน ซึ่งมันไม่มีถูก ไม่มีผิด มันแล้วแต่ว่าเราแฮปปี้หรือไม่แฮปปี้เท่านั้นเอง ตอนนี้มนต้องถามตัวเองว่ามนแฮปปี้มั้ยที่เป็นแบบนี้ แต่ก็ต้องดูองค์ประกอบอื่นๆด้วยว่า ถ้ามนออก ที่อื่นจะยังไง จะรับเข้าทำงานมั้ย ตอนนี้เงื่อนไขชีวิตเป็นยังไง หรือถ้าทนได้ แล้วไม่มีอะไรทำก็หาอะไรทำได้ ถ้างานมันยังดี เจ้านายดี ติดแค่เวลาการทำงานที่ชอบให้อยู่ดึก ลองชั่งน้ำหนักดูแล้วถ้าข้อดีมันมีเยอะกว่าก็อยู่ต่อ...’ ‘ดีเจต้นหอม’ ให้คำแนะนำว่า ‘ถ้าพี่เป็นเจ้านายแล้วลูกน้องกลับก่อนคนอื่น พี่จะเช็คว่างานเขาเสร็จหรือยัง เพราะฉะนั้นมันจะฟ้องด้วยผลงาน ถ้าเกิดงานหมดมันเสร็จแล้ว มันก็สามารถกลับได้ เราก็เคยไปบอกเขาว่ากลับก่อนนะคะ เขาก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร พี่ว่าเราอาจจะยังไม่ต้องคิดอะไรไปก่อนก็ได้ คือ ถ้ามนทำงานแล้วคุณภาพมันไม่ได้ลดลง มนกลับได้! เจ้านายไม่ไล่ออกหรอก ถ้าคุณภาพการทำงานของมนดี ทำงานเกินเงินเดือน ถึงเวลาเราทำงาน เราทำเต็มที่ วัดกันที่คุณภาพ แต่ถ้าวันไหนที่เขามีเคสเร่งด่วนหน่อย เราก็มีน้ำใจในการช่วยเหลือเขา คนละครึ่งทาง มันก็คือการเอื้ออาทรต่อกัน ถามว่าจะอยู่ต่อหรือพอแค่นี้ เอามวลความสุขของเราว่าการที่เราอยู่ที่นี่เรารู้สึกมีความสุขมั้ย บางทีมันไม่ใช่เรื่องหัวหน้า ไม่ใช่เรื่องเวลาอย่างเดียวหรอก เพื่อนร่วมงาน องค์ประกอบทุกอย่าง เราอยู่แล้วเราโอเคมั้ย แล้วเงินมันจำเป็นมั้ยที่ต้องได้เท่านี้ มันมีปัจจัยให้มนตัดสินใจได้อีกเยอะ 2 เดือนยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ ให้เวลากว่านี้หน่อย...’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หย่าตอนนี้เร็วไปไหม? เพิ่งเป็นเจ้าสาวเมื่อเดือนที่แล้ว แต่มาจับได้ว่าแฟนแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงอีกคน เขาบอกจะไม่ทำอีกแล้ว แต่ล่าสุดเพิ่งเห็นเขายังคุยแชทกันอยู่ ความไว้ใจที่มีตอนนี้ไม่เหลือแล้ว ควรทำยังไงดี...? จะให้โอกาส สามีอีกดีไหม? หรือ เดินหน้าหย่าไปเลย

14 ก.ค. 2023

หย่าตอนนี้เร็วไปไหม? เพิ่งเป็นเจ้าสาวเมื่อเดือนที่แล้ว แต่มาจับได้ว่าแฟนแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงอีกคน เขาบอกจะไม่ทำอีกแล้ว แต่ล่าสุดเพิ่งเห็นเขายังคุยแชทกันอยู่ ความไว้ใจที่มีตอนนี้ไม่เหลือแล้ว ควรทำยังไงดี...? จะให้โอกาส สามีอีกดีไหม? หรือ เดินหน้าหย่าไปเลย

“คุณแพรว (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [12 ก.ค. 66] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจอั๋น ภูวนาท เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์กับสามี โดย “คุณแพรว (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูแต่งงานได้ประมาณ 1 เดือนก็จับได้ว่าสามีไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นแล้ว ก่อนหน้านี้หนูไม่แน่ใจว่าเขาเคยทำมั้ย เขาอาจจะเคยทำ แต่หนูจับไม่ได้เองหรือเปล่า หรือเขาไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้เลย แฟนอายุเท่ากันเลย ก่อนแต่งงานคบกันมาเกือบจะ 5 ปีแล้ว หนูเพิ่งแต่งงานกัน ค่อยๆย้ายของไปอยู่ที่บ้านแฟน ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเราทั้งสองคนไม่เคยอยู่ด้วยกัน เมื่อประมาณวันเสาร์ 2 อาทิตย์ที่แล้วได้ไปเจอรหัส Internet WiFi โรงแรมที่ห้องเขา หนูก็เลยถามเขาว่าโรงแรมนี้ที่ไหน เขาก็บอกว่าเหมือนไปประชุมที่นึงมา เขาให้มาแหละ หนูก็สงสัย เพราะจริงๆคือเขาไปประชุมที่จังหวัดนึง แต่โรงแรมนี้อยู่อีกจังหวัดนึง หนูก็เลยขอดูโทรศัพท์ เท่านั้นแหละ! พิรุธมาเต็ม เขาไม่ให้ ล็อคแขนหนู แล้วบอกว่ายังไงก็ไม่ให้ แล้วเหมือนเขาเอาโทรศัพท์ไปลบแชทผู้หญิงคนนั้นทิ้ง หนูก็ไปค้นมาจนเจอ เห็นเขาบล็อกผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ แต่หนูไม่เห็นแชทที่เขาคุยกัน หนูก็เลยถามเขาว่าคนนี้คือใคร เขาก็บอกว่าเคยคุยกันนานแล้ว ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมันก็คือก่อนแต่งงาน หนูก็รู้สึกเสียใจ และเขาบอกว่าผู้หญิงคนนี้เพิ่งทักกลับมา หนูก็ไม่เชื่อ หนูก็ค้นต่อ ซึ่งในแชทไลน์เขามีติดประกาศเบอร์บัญชีของผู้หญิงคนนั้นอยู่ หนูก็เอาไปเสิร์จทุกธนาคารเลย จนไปเจอชื่อจริงผู้หญิงคนนั้น หนูก็เอาไปเสิร์จเฟซบุ๊กและไอจี แล้วก็ทักไปถามผู้หญิงคนนั้น เขาก็บอกว่าเพิ่งเจอกันวันอังคารที่ผ่านมา เหมือนไปเจอกันที่ร้านเหล้า แล้วสามีหนูไปเลี้ยงเหล้าเขา ดื่มเสร็จสามีหนูก็ไปส่งที่หอพัก แต่เหมือนผู้หญิงลืมกุญแจหอพักก็เลยไปเปิดโรงแรมนอนด้วยกัน แล้วก็มีอะไรกัน หนูก็ถามผู้หญิงว่า เธอจะพัฒนาความสัมพันธ์มั้ยหรือคุยกันมานานหรือยัง? เขาก็บอกว่า เอ้ย เพิ่งเจอ ไม่ได้จะพัฒนาความสัมพันธ์ สุดท้ายสามีก็มาสารภาพว่าไปเจอกันที่ร้านเหล้า แล้วไปมีอะไรกัน และเขาก็บอกว่าคุยกับผู้หญิงคนนี้สนุกดี สำหรับหนู เขามาทำแบบนี้หลังจากแต่งงานได้เดือนเดียว มันเร็วมากเลย เพราะก่อนแต่งงานเราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน หนูอยู่หอ เขามาหาเสร็จ เขาก็กลับบ้านเขาไป หนูก็อยากให้อภัยนะ แต่อีกใจก็ไม่อยากให้อภัย แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สิ่งที่หนูเจออีกครั้ง คือ หนูไปเจอแชทที่เขาคุยกันอีก เห็นแค่ประมาณว่า กินข้าวหรือยัง ที่นี่ฝนตกนะ ที่นั่นฝนตกมั้ย? ต้องบอกก่อนว่า...สามีเขาเริ่มเปลี่ยนไปตอนก่อนที่เราจะจัดงานแต่งกัน แล้วประเด็นคือวันนั้นเขาก็มาหงุดหงิดใส่หนู หนูก็โทรไปเคลียร์กับสามี ซึ่งตอนนั้นเขาก็คุยกับผู้หญิงคนนั้นไปด้วย และคุยโทรศัพท์กับหนูไปด้วย หนูรู้ เพราะตอนที่ทะเลาะกันครั้งก่อน หนูขอรหัสเฟซบุ๊กกับไลน์เขา แต่หนูคิดว่าเขาคงจะคิดว่าหนูไม่ได้ค้นจริงๆ เพราะหนูไม่ค่อยได้เช็คโทรศัพท์เขาสักเท่าไร ซึ่งนานๆทีหนูมีเซ้นส์ถึงจะไปเปิดดู ก่อนแต่งงานมันจะมีแค่เขาทักไปหาผู้หญิงขายบริการ แต่แค่ทักเฉยๆ ไม่ได้มีแชทต่อเนื่องว่าเขาไปหา หนูก็รู้สึกไม่ดีแล้ว แต่พอรู้ว่าเขาเลือกแต่งงานกับหนู หนูก็ไม่ค้น ไม่อะไรแล้ว แต่พอหลังแต่งงานมา มันเป็นแบบนี้ หนูรู้สึกระแวงมาก คือทุกคืนที่นอนกับเขา หนูต้องสะดุ้งตื่นมา เพื่อไปค้นดูโทรศัพท์เขา ซึ่งเขาลบแชททุกอย่าง บล็อกทุกอย่าง แต่พออีกวันเขาก็ยังไปคุยกันได้ สำหรับการแต่งงาน หนูเป็นคนต่างจังหวัด ส่วนเขาเป็นคนกรุงเทพ แล้ววัฒนธรรมคนต่างจังหวัด พวกเขาก็คิดว่าคบกันมานานแล้ว เมื่อไรจะแต่ง แล้วก็ไปถามเขาบ่อยๆ แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยวางแผนร่วมกัน หนูก็เคยถามเขาไปว่า เธออยากแต่งงานกับเรามั้ย? แล้วจะแต่งกันประมาณไหน? แล้วเขาก็เพิ่งมาสารภาพเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วว่าจริงๆเขาไม่พร้อมจะแต่งงานนะ เขาก็พรั่งพรูหมดเลยว่าหนูไปดุเขา หนูไปกดดันเขา ซึ่งหนูก็บอกว่าถ้ามันขนาดนี้ เธอบอกเลิกเราไปก่อนที่จะแต่งงานกันก่อนก็ได้นะ หรือบอกว่าเราไม่พร้อมก็ได้ แต่เขาไม่พูด เขาแบบก็แต่งๆไป แต่เรามีการเก็บเงินมาแต่งงานด้วยกัน ถึงเขาจะเก็บเยอะกว่า แต่เราก็มีการวางแผนร่วมกัน... หนูก็เคยบอกเขาไปว่า ครั้งแรกเราก็อยากให้โอกาส เพราะสิ่งที่เขาบอกเราก็ดูผิดเหมือนกันนะ เราผิดที่ทำให้เขาเครียด ต้องไปกินเหล้าที่ร้านเหล้าบ่อยๆก่อนแต่งงาน เขาบอกเขาแอบไป โดยที่เราไม่รู้ หนูก็อยากปรับตัวนะ ซึ่งหนูพยายามปรับตัวแล้ว เหมือนมันมีอะไรบางอย่างที่เขาบอกเราไม่หมด เหมือนมันยังตึงๆ ร่วมกับการที่หนูยังระแวงเขา หลังจากที่หนูจับได้ ตอนนี้เขาก็ดูเหมือนรู้สึกผิด เขาก็บอกว่าเขาไม่คุยแล้ว แต่พอเรามาจับได้ครั้งที่ 2 เขาก็พูดเหมือนเดิมว่าเขาไม่ทำแล้ว รอบนี้ไม่มีจริงๆ หนูไม่อยากให้มีครั้งที่ 3 ให้หนูรู้สึกไม่ดีอีกแล้ว แต่พอหนูถามว่าเขาจะหย่ามั้ย? จริงๆเรื่องหย่า หนูไปเห็นในประวัติการค้นหาใน Google ของเขา เขาก็ค้นหาคำว่า หย่า ไม่รักแล้ว แล้วพอวันจันทร์ที่ผ่านมาหนูก็เห็นเขาแชทคุยกับแฟนเก่า เขาถามแฟนเก่าว่าถ้าคิดเรื่องหย่านี่ถือว่าเป็นเรื่องเล็กมั้ย แต่แฟนเก่าเขาก็ไม่ได้อะไร เหมือนให้คำปรึกษามากกว่า ซึ่งหนูก็ถามเขาว่าแล้วจะไปปรึกษาแฟนเก่าทำไม เขาบอกว่าคิดว่าจะได้คำปรึกษาที่ดีจากแฟนเก่า แต่พอหนูถามเขาว่าหย่ามั้ย เขาก็บอกว่าไม่หย่า ขอโทษทุกอย่าง จะไม่ทำอีกแล้ว ขอโอกาสให้เขานะ ตอนที่จับได้ครั้งแรก เขาก็ง้อเราด้วยกันพาหนูไปเที่ยว จองโรงแรมดีๆเลย ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยจองโรงแรมดีขนาดนี้ แต่หนูขอเขาว่าให้หนูดูแลเรื่องเงินได้มั้ย เขาก็ถามว่าแล้วทำไมเขาจะต้องให้ หรือแม้แต่การเปลี่ยนรูปโปรไลน์ที่ใส่รูปแต่งงานหนูคู่กับเขา เขาก็ยังไม่ยอมเลย เขาไม่ได้แสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจอะไรเลย เวลาเล่นโทรศัพท์เสร็จเขาก็จะเก็บใส่กระเป๋าเลย ไม่ได้ให้เราดูได้เต็มร้อย และเวลาอาบน้ำก็จะเอาโทรศัพท์ไปด้วย ช่วงนี้ชีวิตหนูก็ค่อนข้างเครียดเพราะมีปัญหาที่บ้าน แล้วเขากลับเอาความเครียดของหนูมาทำให้เขาเครียดไปด้วย หนูก็เลยคิดว่าเราเป็นสามี-ภรรยากันแล้ว เราแชร์ความทุกข์ ความสุขกันไม่ได้หรอ กลายเป็นทุกอย่างตอนนี้หนูทำอะไรก็ไม่ดี ผิดไปหมด แล้วยังต้องมาเจอที่เขาทำกับหนูอีก หรือเขาโทษหนูเพื่อบ่ายเบี่ยงประเด็นหรือเปล่า... หนูอยากปรึกษาพี่ๆว่า ถ้าเราหย่าเลยตอนนี้มันจะเร็วไปมั้ยสำหรับคนที่เพิ่งแต่งงานกัน หรือจริงๆเราควรจะให้โอกาสเขามั้ย? “ดีเจอั๋น” ให้คำแนะนำว่า ‘คุณแพรวต้องถามตัวเองก่อนว่า คุณแพรวอยู่ในภาวะที่ต้องพึ่งพิงเขามากแค่ไหน เราจะขาดเขาได้ไหม ในวันนี้เราแข็งแรงพอไหมที่จะไม่มีเขา ปัญหาที่คุณแพรวเล่ามาเป็นสิ่งที่คุณแพรวไม่ได้คุยกับเขาตั้งแต่ก่อนตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งเรื่องการเงินและทัศนคติต่างๆ เรื่องที่คุณแพรวขอเป็นคนดูแลเรื่องเงิน เขาไม่ควรบอกคุณแพรวว่า “ทำไมผมต้องให้” มันเป็นคำพูดที่ไม่ดีและมันแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใส่ใจคุณแพรวเลย มันไม่มีคำว่าช้าหรือเร็ว ตอนนี้คุณแพรวควรคุยกับเขาดีๆว่ายังอยากมีกันและกันในชีวิตหรือเปล่า ถ้าเขายังอยากมีกัน ก็บอกเขาว่าช่วยทำให้คุณแพรวรู้สึกสำคัญ มีค่าและไม่สามารถเสียไปจากชีวิตได้ แต่ก่อนจะถามเขาคุณแพรวต้องรู้ก่อนว่าตัวเองมีค่า และถามตัวเองว่ายังอยากมีผู้ชายแบบนี้อยู่ในชีวิตหรือเปล่า’ ส่วน “ดีเจเติ้ล” แนะนำว่า ‘ที่สามีคุณแพรวนอกใจน่าจะไม่ใช่แค่ครั้งแรก ถ้าเขาทำผิดครั้งแรกการที่เขาขอโทษน่าจะเป็นเรื่องใหญ่กว่านี้ คนที่รู้ตัวว่าทำผิดอย่างน้อยเขาจะต้องมีการเว้นระยะที่จะไม่ทำผิดอีก แต่สามีของคุณแพรวยังทำผิดติดต่อกันลับหลังคุณแพรว ตอนนี้คุณแพรวกับเขามองค่าน้ำหนักความผิดไม่เท่ากัน เรื่องเล็กของเขาแต่มันคือเรื่องใหญ่ของคุณแพรว ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะมันเก็บสะสมมาเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้มีการทำความเข้าใจและแก้ปัญหา จนทำให้สามีคุณแพรวแสดงออกมาว่าเขาไม่มีความสุขกับความรักครั้งนี้ ซึ่งจริงๆแล้วนี่อาจจะเป็นช่วงปลายของการคบหากันตลอด 4-5 ปีก็ได้ ส่วนเรื่องการหย่า จะเร็วจะช้ามันขึ้นอยู่กับตัวของคุณแพรว หนึ่งเดือนของบางคนอาจจะนานสำรับการทนเจ็บ ถ้าคุณแพรวไม่มีความสุขก็กลับมารักตัวเองดีกว่า’ ดีเจ “ต้นหอม” เสริมว่า ‘การกระทำของสามีคุณแพรวคือผู้ชายเจ้าชู้ เขาไม่สำนึกเลยว่าเขาทำผิด เขาไม่เห็นความสำคัญของคุณแพรว และเขาไม่สามารถสร้างความมั่นใจในความสัมพันธ์นี้ได้เลย คุณแพรวต้องถามตัวเองแล้วว่าอยากอยู่กับผู้ชายแบบนี้ไหม ถ้าคุณแพรวรับไม่ได้แสดงว่านี่ไม่ใช่ที่ของคุณแพรว ไม่ต้องสนใจกับงานแต่งที่มันเกิดขึ้นไปแล้ว ถ้าแต่งงานมาอยู่ด้วยกันแล้วมีแต่เรื่อง Toxic ก็ทิ้งอดีตไป นับจากนี้ชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณแพรวจะต้องมีแต่ความสุข การที่เขาไม่หย่าไม่ได้แปลว่าเขารักเรา เพราะการกระทำเขามันไม่แสดงออกถึงความรักเลย ถ้าอยู่ไม่ไหวก็ออกมา แต่ถ้าอยู่ไหวก็อดทนแล้วเปลี่ยนตัวเองให้เขาเมตตาและมอบความรักให้เราบ้าง ถ้าเลือกที่จะอยู่ด้วยกันต่อก็ต้องบอกสามีให้ปรับไปด้วยกัน แต่สุดท้ายชีวิตใครชีวิตมัน คุณแพรวต้องถามตัวเอง เพราะคนที่เจ็บและสุขก็คือคุณแพรวคนเดียว’ สุดท้ายนี้พี่ๆดีเจเป็นกำลังใจและบอกให้คุณแพรวทบทวนตัวเองดีๆ ให้ตัดสินใจเรื่องนี้ได้เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1