24 มี.ค. 2023
สาวรอแฟนมารับ กลับจากงานศพเพื่อนสนิท คืนนั้นมีเบอร์แฟนโทรมาหาตอนตี 3 แต่เป็นสายจากเพื่อนบ้าน บอกว่า ‘แฟนเราเสียชีวิตแล้ว’...
ช็อคเรื่องไหนก่อนดี? สาวรอแฟนมารับ กลับจากงานศพเพื่อนสนิท คืนนั้นมีเบอร์แฟนโทรมาหาตอนตี 3 แต่เป็นสายจากเพื่อนบ้านบอกว่า ‘แฟนเราเสียชีวิตแล้ว’ รู้เพราะมีเพื่อนแฟนมาปลุกให้ไปช่วยดู มารู้ทีหลังว่าเพื่อนคนนั้น เป็นผู้หญิง ทำงานที่เดียวกับแฟน...และแอบมานอนกับแฟนเรา ที่สำคัญเค้ามีสามี แต่งงานมาแล้ว 8 ปี ทำเอา 3 ดีเจอึ้งกันทั้งห้องจัด! เมื่อ “คุณอุ้ย (นามสมมุติ)” อายุ 36 ปี สายแรกในรายการพุธทอล์ค พุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (22/03/2023) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาแฟนเสียชีวิตแต่มีเรื่องที่มารู้ทีหลัง โดย “คุณอุ้ย (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘คบกับแฟนมา 3 ปี จะเข้าปีที่ 4 แล้ว ระหว่างที่คบกันก็สร้างครอบครัว ซื้อบ้านด้วยกันมา ซึ่งเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว เรามีปัญหาทะเลาะกันบ่อย หนูก็กลับไปอยู่บ้านตัวเอง แต่เราก็ยังไม่ได้เลิกกัน ยังคุยกันทุกวัน เขาก็มารับพาไปนู้นไปนี่ตลอด ไปกินข้าวด้วยทุกอาทิตย์ เจอกันเหมือนเดิม ใช้ชีวิตเหมือนแฟนกันปกติ แต่เราแค่ห่างกันเพื่อปรับ เมื่อวันที่ 18 กุมภาที่ผ่านมา เพื่อนสนิทของเราเสียชีวิต แฟนเราก็ยังขับรถพาไปเดินเรื่องที่เพื่อนเสียให้อยู่เลย ทีนี้เราจะต้องไปต่างจังหวัดเพื่อไปร่วมงานศพเพื่อนคนนี้ แฟนเราก็ไปด้วย แต่พอเสร็จพิธี เราจะกลับแล้วแต่พ่อของเพื่อนยังไม่อยากให้เรากลับ เขากลัวบ้านเหงาก็เลยขอให้เราอยู่ต่อ เราก็นัดกับแฟนว่าให้มารับเราวันเสาร์ หลังจากนั้นแฟนก็เลยขับรถกลับบ้าน แต่เราก็ยังคุยโทรศัพท์กันปกติ วันศุกร์เขาก็ยังส่งคลิปรายการพุธทอล์ค พุธโทรมาให้เราดูอยู่เลยว่าคลิปนี้ตลกนะ แต่พอวันเสาร์ เวลาประมาณตี 3.49 น. เบอร์ของแฟนก็โทรเข้ามา แต่คนที่โทรมาเป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของเรา เขาแจ้งว่าแฟนเราเสียแล้ว เราถามเขาว่ารู้ได้ไง เขาก็เลยบอกว่าเพื่อนของแฟนเราวิ่งไปปลุกเขา ไปกดออดที่บ้านเรียกเขาให้ไปดูแฟนเราหน่อย เหมือนแฟนเรานอนละเมอแล้วปลุกไม่ตื่น แต่ตอนที่เพื่อนบ้านเข้ามาในบ้านเรา ขึ้นไปบนห้องนอนก็เห็นว่าแฟนเราหยุดหายใจไปแล้ว จริงๆบ้านหลังนั้นแฟนเราอยู่คนเดียว แต่เราเข้าใจว่าเพื่อนของแฟนคงไปสังสรรค์แล้วนอนค้างที่บ้าน เพราะเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนเขามานอนค้าง พอเพื่อนบ้านโทรมา เราก็เลยขอคุยกับเพื่อนแฟน เพราะเราอยากรู้อาการว่าเป็นอะไร ยังไง กลับกลายว่าเพื่อนที่ไปอยู่กับเขาเป็นผู้หญิง แล้วก็อยู่กันสองคนในห้องนอนของเรา ตอนนั้นเราช็อค ไม่อยากถามอะไรมาก เราเป็นห่วงแฟน จนสักพักพยาบาลโทรมาหาเราบอกว่าตอนนี้เขาปั้มหัวใจไปได้ 20 นาทีแล้วนะ เหลืออีก 10 นาที ถ้ายังไม่กลับมาเขาจะทำการหยุดปั้มหัวใจ เขาก็รายงาน บอกเราตลอด เราก็รีบกลับมาที่บ้านเลย พอกลับมาถึง ศพก็ถูกเคลื่อนย้ายไปชันสูตรที่โรงพยาบาลแล้ว และทางญาติแฟนก็เอาศพกลับบ้านเกิด เราก็ข้องใจเลยโทรไปหาผู้หญิงคนนั้น แล้วก็ถามว่าเขาเป็นอะไรกัน คบกันหรือเปล่า ถ้าเป็นแฟนกันบอกพี่ได้นะ พี่จะขอไปงานศพแค่วันเผาวันเดียวเพื่อไปอโหสิกรรมให้เขา ผู้หญิงก็บอกว่าหนูไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่ได้เป็นอะไรกัน หนูเป็นเพื่อนกันค่ะ เราก็บอกว่าเป็นเพื่อนกันเอากันไม่ได้นะหนู เพราะเขาเล่าให้เราฟังว่า เขานัดเจอกัน ไปกินข้าวด้วยกันแล้วก็มีอะไรกัน เผลอหลับไป และก็เกิดเรื่อง เรามาเปิดดูกล้องวงจรปิดในบ้านย้อนหลัง เราเห็นตอนที่ผู้หญิงเข้ามาในบ้านเรา เขาก็กลัวคนอื่นจะรู้ คือนั่งเบาะหลังคนขับมา แล้วตอนเข้าบ้านก็เอารองเท้าเข้ามาซ่อนในบ้าน ปิดเงียบทุกอย่าง ไม่ให้ใครรู้ แล้วอีกคลิปก็เหมือนเขานอนดูหนังอยู่ด้วยกันบนโซฟา แฟนเรานอนดูหนังจริงๆ ไม่ได้กอด หรือหอมผู้หญิงคนนั้นเลย แต่ผู้หญิงพยายามกอด พยายามหอมแฟนเรา กลิ้งนอนทับตัวไปมา เราไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนแล้ว แต่เราเจ็บมาก ซึ่งผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนร่วมงานกับแฟนเรา เขาบอกว่าเขาก็หวังว่าแฟนเราจะเลือกเขา เขารู้มาตลอดว่าแฟนมีเรา แต่เราไม่เคยรู้เลยว่าแฟนมีเขา ตอนแรกที่เราทะเลาะกัน เราก็เคยบอกว่าถ้าจะมีใครใหม่ให้บอกกันนะ แต่แฟนเราเขาเป็นคนบอกเองว่าไม่เอา ไม่เลิก เราห่างเพื่อปรับกัน เรายังคบกันอยู่นะ เราก็เลยคิดว่ามันเป็นแบบนั้นมาตลอด และหลังจากวันที่แฟนเราเสียชีวิต โทรศัพท์ของแฟนก็อยู่ที่เรา แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ทักแชทไลน์มาหาแฟนเราว่าคิดถึงจังเลย เราก็ตอบกลับไปบอกว่าโทรศัพท์อยู่กับพี่นะ เขาบอกว่าเขาขอคลิปตอนที่ช่วยชีวิตแฟนเราหน่อยได้มั้ย เขาคิดถึง คือเพื่อนบ้านเขาถ่ายคลิปเป็นหลักฐานไว้ว่าเขามาช่วยนะ เราก็เลยบอกว่าเอาเบอร์พี่ไปนะ แอดไลน์พี่มา เดี๋ยวส่งให้ทางเครื่องของพี่ เพราะเครื่องนี้มันส่งยาก แล้วเราก็ส่งให้ปกติ และเราก็บอกกับเขาไปว่าตอนนี้พี่ยังคุยกับหนูไม่ได้ทุกเรื่องนะ เพราะพี่ยังทำใจไม่ได้ พี่ยังสับสนอยู่ ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรากำลังตัดสินใจว่าเราจะไปงานศพเขาดีมั้ย ถ้าเราไป แล้วเราไปในฐานะอะไร เราควรไปหรือไม่ไปดี พอวันที่ 2 ผู้หญิงคนนั้นเขาไลน์มาบอกอีกว่าวันนี้กินข้าวกับอะไร จนเราไม่ไหวแล้วก็เลยพิมพ์กลับไปบอกว่าถ้ามาพิมพ์อะไรแบบนี้ เขารับรู้ไม่ได้หรอก หนูไปจุดธูปบอกเขาเองนะ ยิ่งเขาทำแบบนี้ เรายิ่งทำใจไม่ได้ เรายิ่งไม่อยากไปงานศพเขาเลย แต่ทางญาติแฟนก็ตามให้เราไปงานศพสักที อยากให้ลูกเขาหมดห่วง ให้เราไปร่วมงานไปอโหสิกรรม เราก็พิมพ์ไปบอกผู้หญิงว่า อย่าทำแบบนี้นะ พี่ไม่ไหวจริงๆ มันเป็นการตอกย้ำว่าเขาหักหลัง ทำร้ายเราจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ และเราก็ไปร่วมงานศพของเขา แต่ไปวันสุดท้าย ก็มีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ คนที่เขาไม่รู้เรื่องเขาก็มองว่าแบบเป็นแฟนภาษาอะไร ทำไมเพิ่งมาร่วมงาน เราก็ตอบทุกคนว่าเขาเสียด้วยโรคประจำตัว เราก็ไม่รู้จะตอบแบบไหนที่จะไม่สะเทือนใจญาติพี่น้องของเขา ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็ไปร่วมงานศพด้วย แต่การกระทำในงานศพเขาล้ำเส้นเรามาก ล้ำเส้นจนกระทั่งวันเผา ทางญาติของเขามาตามให้เราไปทำพิธีตัดกรรมตามประเพณีของบ้านเขา ซึ่งเราจะต้องขึ้นไปบนเมรุคนเดียว ระหว่างที่เราขึ้นไป เราได้ยินเสียงลุงสัปเหร่อที่อยู่ข้างบน เขาพูดว่า อ้าว เมียเขาคนนี้หรอ? ตอนเปิดโลงเขาก็ยืนร้องไห้ เอาหน้าถูโลง อยู่ตั้งแต่คนแรกจนลงคนสุดท้าย แต่หนูขึ้นไปแปปเดียวเพราะหนูทำใจไม่ได้ ญาติเขารู้วันที่แฟนเสียว่ามันมีเรื่องแบบนี้ แล้วก็รู้ว่าเป็นผู้หญิงคนนี้ แต่ก็เข้าใจว่าเขาไปร่วมงานก็ไม่ได้อะไร แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เราก็เลยทำในสิ่งที่ไม่ดีอย่างนึง คือ ผู้หญิงคนนั้นเขามีสามีแล้ว เขาเคยผูกข้อไม้ข้อมือด้วยกัน ตอนแรกเราจะไม่ยุ่งเลย อยากให้มันจบๆไป แต่สิ่งที่เขาทำเหมือนไม่ให้เกียรติเราเลย เราเลยทักไปหาแฟนเขา ไปเล่าให้แฟนเขาฟังเรื่องที่เกืดขึ้น แฟนเขาก็บอกว่าเขาสองคนยังไม่ได้เลิกกันนะ เขายังคบกันดีอยู่ ซึ่งเขาคบกันมา 8 ปีแล้ว วันนั้นที่ผู้หญิงแอบมาหาแฟนเรา คือแฟนของผู้หญิงเขาไปทำงาน เข้ากะดึก คือเขาไม่รู้เรื่องเลย และเราก็บอกว่าถือว่าฝั่งพี่หมดกรรมแล้ว พี่จะไม่ขอยุ่งอะไรแล้ว แต่พอเสร็จจากงานศพ ผู้หญิงคนนั้นโทรมาหาเรา เขาน่าจะรู้เรื่องว่าเราโทรไปบอกแฟนเขา เขาบอกว่าสิ่งที่เขากลัว คือกลัวโดนเราประจาน เขาอาย เราก็เลยบอกว่าอย่ามายุ่งกับเราเลย เราอโหสิกรรมให้ แต่ถ้ายิ่งมายุ่งวุ่นวายกับเรา เรายิ่งทำใจไม่ได้ ตอนนี้มันไปต่อไม่ได้เลย มันคิดวนอยู่ในหัวว่ามันเกิดอะไรขึ้น แฟนเราเขาหักหลังเราอย่างนั้นจริงๆใช่มั้ย ผู้หญิงคนนั้นก็ไปบอกแฟนเขาว่าแฟนเราเป็นคนไปจีบเขาก่อน เราก็เหมือนมูฟออนไม่ได้ บางทีอยากจะอโหสิกรรมให้เขา แต่บางทีมันก็ปรี๊ดขึ้นมาว่าตกนรกแน่ๆ แต่บางทีเราก็ยังคิดถึง โหยหาเขา แบบทั้งรักทั้งแค้น มันงงไปหมด เพราะสิ่งที่เรารับรู้คือได้แค่ฝั่งผู้หญิงคนนั้นว่ามันเป็นอย่างนั้น อย่างนี้... แฟนเราเพิ่งเสียไปเมื่อวันที่ 25 กุมภาที่ผ่านมา อยากได้แนวคิดดีๆที่มันไปต่อได้ ตอนนี้คือเราสะดุ้งตื่นตอนตี 3 ทุกวัน กินยาไปแล้วก็ยังสะดุ้งตื่น มันวนเวียนอยู่ในหัว บางทีทำงานไม่ได้ มันคิดวกไปวนมา ทั้งๆที่เขาก็ตายไปแล้ว 3 ดีเจให้คำปรึกษาว่า ‘ให้คิดว่าเขาตายไปแล้ว ไม่ว่าเค้าจะนอกใจ หรืออะไรก็ตาม ณ ตอนนี้ เค้าเสียชีวิตไปแล้ว ปกติที่จะเป็นความลังเลว่าควรจะเสียใจดีไหมที่เขาจากเราไป แต่ในคณะเดียวกันการจากไปครั้งนี้ เขาก็นอกใจไปมีอะไรกับคนอื่น ณ วันนี้ ไม่จำเป็นต้องรีบบังคับตัวเองว่าจะต้องอโหสิกรรม หรือให้อภัย เพราะเรื่องมันเพิ่งเกิด คงต้องใช้เวลามากกว่านี้ มองปัจจุบันว่าคนที่อยู่คือเรา ตัวเขาไม่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องแบกเรื่องนั้นไปตลอด เพราะยังไงเขาก็มาให้คำตอบเราไม่ได้แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือโฟกัสที่ตัวเอง อย่าให้เขามาส่งผลต่อความรู้สึกของเราตอนนี้เลย ท่องไว้เลยว่า มันไม่มีเขาแล้ว จากนี้ไปเราจะเป็นคนกำหนดเองว่าชีวิตเราต่อจากนี้จะเป็นยังไง... คนที่ให้คำตอบเราได้วันนี้คือตัวเขา ซึ่งไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะไปหาคำตอบ หาเหตุผล หรือ สิ่งที่มันเกิดขึ้นจากใครทั้งนั้น เพราะมันมีแต่จะทำให้เราเสียใจเปล่าๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันยุ่งเหยิง วุ่นวายไปหมด จึงเป็นเรื่องที่จะต้องรอเวลา ใช้เวลาเยียวยาที่นานกว่าคนปกติ รอให้เวลาผ่านไปก่อน ณ วันนี้เป็นเรื่องปกติมากที่เราจะยอมรับความจริงอะไรไม่ได้ เพราะเป็นกลไกความคิดที่คนเราต้องเจอ ทำความเข้าใจกับมันว่า ช่วงนี้คือช่วงที่หนักสำหรับเรา แต่สักพักมันต้องดีขึ้น จะช้าจะเร็วก็แล้วแต่คน แต่อยากให้เชื่อว่า ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว มันต้องดีขึ้น... ‘ความคิด’ ของเราเอง คือสิ่งที่กำหนดทุกอย่าง ถ้าเรามีสติและมองให้ลึกมากพอ เราจะรู้ว่าความคิดของเราเป็นสิ่งสำคัญมากๆที่จะกำหนดว่าเราจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร อย่าเพิ่งมองถึงอนาคตว่าจะทำอะไรยังไง มองปัจจุบันก่อน ตื่นมาทำอะไร อยากกินอะไรก็กิน ร้องไห้จนไม่ไหวก็ร้องไป อยากนอนก็นอนไป อย่างน้อยการร้องไห้มันก็เป็นการเผาความเศร้าออกไปได้ รอวันที่เรายอมรับความจริงได้ เราก็รู้ว่าเขาไม่ได้ซื่อสัตย์กับเรา ณ ตอนนี้ การที่เขาเอาผู้หญิงเข้าบ้านขนาดนั้น มันคือการนอกใจแล้ว โทษสูงสุดของการนอกใจคือการเลิก แต่ขั้นกว่าคือ ตายไปเลย!! วันนี้คิดซะว่าถ้าจะลงโทษเค้าเรื่องการนอกใจ คิดซะว่า ณ ตอนนี้เขาได้รับโทษไปแล้ว เป็นโทษที่สูงสุดด้วย ควรถามตัวเองดีกว่าว่า เราเสียใจมากกว่า หรือ โกรธมากกว่า ถ้าวันนี้ตามที่คุณอุ้ยบอกมาว่า เสียใจมากกว่า ให้ตัดเรื่องการนอกใจออกไปเลย หันกลับมาทำความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ยังไงสักวันหนึ่งคนเราก็ต้องจากกันไป ไม่ว่าจากเป็นหรือจากตายอยู่แล้ว วิธีที่อยากจะแนะนำคือ หยุดเอาคำถามเรื่องที่เกิดขึ้นมาใส่ในหัว แล้วบอกตัวเองว่าเราจะอยู่ให้ได้ ช่วงนี้ก็หลีกเลี่ยงการอยู่คนเดียว อยากพูด อยากทำอะไรทำ ปลดปล่อยตัวเอง แล้วให้เวลาเยียวยาเรา ตัดเรื่องผู้หญิงคนนั้นออกไปเลย ความแค้นมันทำให้เราเป็นทุกข์ เรื่องที่คุณอุ้ยเจออยู่มันไม่ง่ายเลย แต่บอกตัวเองว่าฉันจะผ่านไปให้ได้ และเรื่องที่เกิดความสูญเสีย เจอกับเหตุการณ์ช็อคๆแบบนี้ อยากจะแนะนำให้ไปปรึกษา พูดคุยกับจิตแพทย์ดู อย่าปล่อยให้ตัวเองดิ่งนานๆ มันอาจจะเป็นสัญญาณสู่ ‘โรคซึมเศร้า’ ได้ และถ้าการไปหาจิตแพทย์แล้วไม่เวิร์ค อย่าเพิ่งถอดใจไป ให้ลองเปลี่ยนจิตแพทย์คนอื่นดูก่อน ขอร่วมส่งกำลังใจให้คุณอุ้ย ผ่านเรื่องนี้ไปได้เร็วๆ...’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin