หนูเป็นคนค่อนข้าง Introvert เวลาคุยงานกัน ไม่กล้า Eye contact กับใคร แต่หนูจะมองต่ำ แล้วจะไปโฟกัสที่เป้าของเขาแทน จะเตือนตัวเองยังไงดี แล้วอยากรู้ว่าผู้ชายจะรู้ตัวไหม ว่าโดนมองเป้าอยู่?

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูเป็นคนค่อนข้าง Introvert เวลาคุยงานกัน ไม่กล้า Eye contact กับใคร แต่หนูจะมองต่ำ แล้วจะไปโฟกัสที่เป้าของเขาแทน จะเตือนตัวเองยังไงดี แล้วอยากรู้ว่าผู้ชายจะรู้ตัวไหม ว่าโดนมองเป้าอยู่?

14 พ.ย. 2025

ไม่กล้าสบตาผู้ชาย แต่หนูเผลอไปโฟกัสเป้าเขาแทน...
พี่คะ หนูเป็นคนค่อนข้าง Introvert แล้วเป็นผู้หญิง
ที่ได้ทำงานร่วมกับผู้ชายหลายคนเลยในที่ทำงาน
เวลาประชุม คุยงานกัน หนูไม่กล้า Eye contact กับใคร
แต่หนูจะมองต่ำ แล้วตาจะไปโฟกัสที่เป้าของเขาแทนแบบไม่รู้ตัว
จะเตือนตัวเองยังไงดีคะไม่ให้มองเป้าเขา
แล้วอยากรู้ว่าผู้ชายจะรู้ตัวไหม ว่าโดนมองเป้าอยู่?
อยากเลิกนิสัยนี้ อยากกล้าสบตาคนอื่นตอนคุยกัน ทำยังไงดีคะ

            “คุณฟ่า” (นามสมมติ) อายุ 20 สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร ในคืนวันพุธที่ผ่านมา (12 พฤศจิกายน 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม”  เกี่ยวกับปัญหาที่แฟนทำงานมา 10 เดือนแล้ว แต่เขายังไม่ผ่านโปร

            โดย “คุณฟ่า” (นามสมมติ) ได้เล่าว่า ‘หนูมีแฟน เขาอายุ 24 ปี เขาได้เข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในตำแหน่งตัดต่อ ซึ่งระยะเวลา 3 เดือนเป็นระยะเวลาที่ทดลองงาน แต่ตอนนี้ ผ่านมา 10 เดือนแล้ว แฟนหนูยังไม่ผ่านโปรเลย ทางบริษัทแจ้งว่ายังไม่ได้รับงานจากภาครัฐ เลยยังไม่สามารถให้ผ่านได้ ซึ่งเขาไม่ได้ให้เหตุผลอะไรไปมากกว่านี้

           มันทำให้แฟนของหนู ทำงานโดยไม่ได้เงินเดือนที่มากขึ้น สวัสดิการสังคมที่ควรจะได้ในตอนที่ผ่านโปรก็ยังไม่ได้รับ บริษัทนี้ไม่มีตัวสัญญา เป็นการพูดด้วยปากเปล่า และในช่วงวันหยุด แฟนหนูก็ต้องเตรียมตัว คอยรอตัดงานให้เขา ถ้าเขาสั่ง ในช่วงตีสองตีสาม ก็ยังทักมาตามงานอยู่เลย

            หนูเลยอยากปรึกษาพวกพี่ว่า มันเป็นเรื่องปกติมั้ย หรือความคิดหนูแปลกเอง’

            เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเป็นบริษัทขนาดเล็ก ระบบหรือระเบียบ จะไม่ค่อยมี อันนี้พี่ไม่ได้เหมารวมทั้งหมดนะ ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ปกติ และมันไม่ใช่เรื่องของผลการทำงานว่าดีหรือไม่ดี เพราะแฟนหนูทำงานมา 10 เดือนแล้ว คนทั้งบริษัทก็ยังไม่ได้เป็นพนักงานประจำ ถ้าเป็นที่แฟนน้องคนเดียวอันนี้ยังพอคิดไปทางอื่นได้

           พี่ว่าเขายังไม่มีกำลังพอที่จะจ้างประจำหรือพร้อมที่จะให้สวัสดิการ เขาคงรอโปรเจ็คใหญ่มา  ทั้งหมดทั้งมวลก็ขึ้นอยู่กับแฟนของฟ่า ลองคิดถึงข้อดี-ข้อเสียดู แต่อย่าคิดว่ามันไม่ดี เพราะอย่างน้อยเราก็ได้พอร์ต จากการตัดคลิปต่าง ๆ ถ้าแฟนฟ่ามีทางเลือกอื่น ยื่นพอร์ตไปที่ต่าง ๆได้  ถ้ามีโอกาสคงจะได้ขยับขยายย้ายที่ได้’

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘อีกหนึ่งกรณี เขาอาจจะโกง พูดไปเฉย ๆ แต่จริง ๆ ตั้งใจที่จะให้เงินเดือนเท่านี้อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับแฟนเรา ไปคุยเรื่องสัญญา ไปคุยเรื่องลิมิต ขีดเส้นให้มันชัดเจน แฟนเรารู้สึกว่าไปที่อื่นได้มั้ย การทำงานโดยไม่มีสัญญาต้องยอมรับความเสี่ยงนะ เพราะเลือกที่จะทำงานไม่มีสัญญาเอง’

            สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถึงจะไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่กฎหมายคุ้มครองตามกฎหมายทุกประการ ตอนนี้คือเหมือนเขาเอาเปรียบ หล่อเลี้ยงเราไว้เฉย ๆ บริษัทจะได้งานหรือไม่ได้งาน ก็ต้องจ่ายตามข้อตกลงอยู่ดี ถ้าแฟนคุณเก่งจริงๆ ยื่นพอร์ตไปเลย เพราะตอนนี้ตัดต่อเป็นที่ต้องการมาก’

เรื่องราวทั้งหมดนี้จะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App AtimeFungFin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

อาที่เป็นญาติผู้ใหญ่ที่เราเคารพ ทักเราว่า “ทำไมอ้วนจัง?” จังหวะนั้นเราหงุดหงิดพอดี เพราะเจอคำถามนี้บ่อยมาก เลยพูดกลับอาไปว่า “ปกติหนูก็จะไม่กล้าทักใครแบบนี้นะคะ มันดูเป็นคนไม่มีมารยาท” อีกวันอาไลน์มาต่อว่าหนู

14 ต.ค. 2024

อาที่เป็นญาติผู้ใหญ่ที่เราเคารพ ทักเราว่า “ทำไมอ้วนจัง?” จังหวะนั้นเราหงุดหงิดพอดี เพราะเจอคำถามนี้บ่อยมาก เลยพูดกลับอาไปว่า “ปกติหนูก็จะไม่กล้าทักใครแบบนี้นะคะ มันดูเป็นคนไม่มีมารยาท” อีกวันอาไลน์มาต่อว่าหนู

อาที่เป็นญาติผู้ใหญ่ที่เราเคารพ ทักเราว่า “ทำไมอ้วนจัง?” จังหวะนั้นเราหงุดหงิดพอดีเพราะเจอคำถามนี้บ่อยมาก เลยพูดกลับอาไปว่า “ปกติหนูก็จะไม่กล้าทักใครแบบนี้นะคะมันดูเป็นคนไม่มีมารยาท” อีกวันอาไลน์มาต่อว่าหนู หนูก็เลยขอโทษเขาไปหนูจะดูเป็นเด็กที่ไม่ดีในสายตาอาไหมคะ? “คุณแกลม (นามสมมติ)” อายุ 18 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [8 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาญาติทักว่าอ้วน เราเลยสวนกลับไป แต่เราก็รู้สึกแย่ที่พูดแรงไป โดย “คุณแกลม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเพิ่งโดนญาติผู้ใหญ่ไลน์มาด่า เพราะว่าอาทิตย์ที่แล้วเขามาว่าหนูอ้วน หนูเลยสวนกลับเขาไป เขาเป็นคุณอา (น้องชายของพ่อ) หนูสนิทกับเขามากเลย คุยเล่นกันได้ ตั้งแต่เด็กจนโตเลย คือตอนหนูเกิดหนูพูดชื่อเขาได้คนแรก มีช่วงที่หนูไปอยู่คนละจังหวัดกับเขา แต่เวลากลับมาเจอกันเราจะคุยกัน สนิทกันได้ปกติเลย ตอนนี้คุณอาเขาทะเลาะกับพ่อหนู เขาตัดครอบครัวหนูออกจากชีวิตเขา เขาไม่เอาเลย แต่เขายังรักหนูอยู่ ยังคุยกับหนูคนเดียว แต่ตอนนี้เขากำลังจะตัดหนูออกด้วย เราอยู่กันคนละบ้าน แต่คุณอาจะแวะเวียนมาที่บ้าน มาดูแลคุณปู่ คุณย่า เรื่องที่เกิดคือ เขามาทักต่อหน้าหนูว่า ทำไมอ้วนขึ้น? เขาทักหนูหลายรอบมาก หนูก็เสียใจ แล้วก็นอยเพราะหนูอ้วนขึ้น เพราะเอฟเฟกต์จากยาที่กินด้วย หนูเลยพูดออกไปโดยไม่ทันคิดว่า ปกติหนูจะไม่ทักคนอื่นแบบนี้ เพราะมันดูไม่มีมารยาท แล้วเขาก็ยิ้มแห้งเลย หลังจากนั้นหนูก็รู้สึกแย่ที่พูดแบบนั้นกับเขาไป ซึ่งช่วงนี้หนูต้องคุยกับเขาเพราะจะกดเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้คุณปู่ คุณย่า หนูก็เลยคุยเรื่องเอกสารกันนิดหน่อย แล้วเขาก็พิมพ์กลับมาว่า โตแล้วหนิ เดี๋ยวนี้แรงใช้ได้เลยนะ ไม่ต้องเลี้ยงดูละ หนูก็เลยขอโทษเขาไป แต่เขาไม่ได้ตอบอะไรหนูมาเลย จริงๆหนูรู้สึกเสียใจมากที่ตัดกับอาคนนี้ หนูไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก หนูอยากเป็นเด็กที่น่ารักกับผู้ใหญ่ หนูควรทำยังไงดี?เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น เรียนจบแล้ว จะอยู่เที่ยวต่อก่อนกลับไทย 1 เดือน ทักไปขอเพื่อนผู้หญิง จะขออยู่ด้วยชั่วคราว แต่เพื่อนผู้หญิงบอกว่าไม่สะดวก ก็เลยไปขอเพื่อนผู้ชายที่เรียนด้วยกันที่ญี่ปุ่น

04 ก.ค. 2025

หนูเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น เรียนจบแล้ว จะอยู่เที่ยวต่อก่อนกลับไทย 1 เดือน ทักไปขอเพื่อนผู้หญิง จะขออยู่ด้วยชั่วคราว แต่เพื่อนผู้หญิงบอกว่าไม่สะดวก ก็เลยไปขอเพื่อนผู้ชายที่เรียนด้วยกันที่ญี่ปุ่น

หนูเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น เรียนจบแล้ว จะอยู่เที่ยวต่อก่อนกลับไทย 1 เดือน ทักไปขอเพื่อนผู้หญิงจะขออยู่ด้วยชั่วคราว แต่เพื่อนผู้หญิงบอกว่าไม่สะดวก ก็เลยไปขอเพื่อนผู้ชายที่เรียนด้วยกันที่ญี่ปุ่นเพื่อนคนนี้บอกว่า มาเลย นอนด้วยกันได้ ไม่มีปัญหา หนูรู้สึกว่าอยากประหยัดเงิน แต่จะบอกแฟนหนูยังไงดีให้เขาเข้าใจว่าจะขออยู่ห้องเพื่อนผู้ชายคนนี้ กลัวว่าแฟนจะหึง แต่ถ้าต้องไปจ่ายค่าโรงแรมเองหนูก็คิดว่าจะรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว “คุณทราย (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [2 ก.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจก็อตจิ - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเรื่องราววีซ่าเหลือ อยากเที่ยวต่อ มีเพื่อนให้พักฟรีแต่ก็ดันเป็นเพื่อนผู้ชาย แต่กลัวแฟนไม่สบายใจ โดย “คุณทราย (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนอยู่ประเทศญี่ปุ่น โครงการ 1 ปี เดือนหน้าจะเรียนจบแล้วแต่วีซ่ายังไม่หมดจึงวางแผนที่จะเที่ยวต่อ ซึ่งการวางแผนเที่ยวก็ต้องจองโรงแรมก่อน แต่เราก็มีเพื่อนที่ยังอยู่ญี่ปุ่นสามารถให้เราไปพักฟรีด้วยได้ แต่ประเด็นคือ เขาเป็นเพื่อนผู้ชาย แต่เราเป็นผู้หญิง หนูเองก็มีแฟนอยู่ที่ประเทศไทยก็เลยตัดสินใจอยู่ว่าจะจองโรงแรมดีมั๊ยหรือว่าไปนอนหอพักกับเพื่อนดี แต่ก็เกรงใจแฟนกลัวแฟนจะไม่สบายใจ ไม่รู้จะบอกแฟนยังไงดี? ปกติหนูกับแฟนมีอะไรจะปรึกษากันตลอด มาอยู่ญี่ปุ่นความสัมพันธ์ก็ยังดี แต่ช่วงนี้เขาไปเกณฑ์ทหาร ก็เลยไม่ได้ปรึกษาในเรื่องนี้ หนูอยากไปอยู่หอเพื่อนผู้หญิงก็เป็นหอในไปอยู่ด้วยไม่ได้ หนูอยากจะถาม 2 คำถามคือ 1. ในฐานะที่หนูยังเป็นนักศึกษาอยู่ยังไม่มีรายได้ของตัวเอง ควรจะอยู่หอเพื่อนหรือไปจองโรงแรมดี 2. ถ้าตัดสินใจไปพักกับเพื่อนผู้ชายจะบอกแฟนยังไงดี’ ซึ่งดีเจทั้ง 3 คน “ดีเจเผือก - ดีเจก็อตจิ - ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาตรงกันว่า ‘จะไปนอนที่หอพักของเพื่อนผู้ชายไม่ได้เด็ดขาดไม่ว่ากรณีไหนก็ตามเพราะเขาเป็นผู้ชาย เราเป็นผู้หญิง บนโลกใบนี้ผู้หญิงผู้ชายเป็นเพื่อนกันได้แต่จะไปนอนค้างด้วยกันเป็นเดือนไม่ได้ หรือถ้ามีเหตุจำเป็น มากที่สุดก็ให้แค่ 1 คืนเท่านั้น หรือไม่ก็ไปหาที่พักแบบ Airbnb หรือ Hostel อะไรราคาถูกก็นอนไป อย่าดิ้นรนหรือพยายามทำอะไรเกินตัว การอยู่ต่อเพื่อที่จะเที่ยวเพราะวีซ่าเหลือ มันไม่ใช่เหตุผลจำเป็นอะไรเลย ที่สำคัญเรื่องนี้อย่าไปเอ่ยปากถามแฟนเด็ดขาดเพราะจะกลายเป็นว่าทำไมเรื่องแค่นี้คิดไม่ได้ เขาอาจจะระแวงเราไปเลย จากความสัมพันธ์ดี ๆ จะกลายเป็นไม่โอเค จริงอยู่ที่เราไว้ในแฟนแต่เราไม่ควรไว้ใจคนอื่นหรือใครทั้งสิ้น’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาเพิ่มเติมว่า ‘จริง ๆ มันไม่ใช่แค่เรื่องแฟนหึง แต่มันมีเรื่องความปลอดภัยของตัวเราเองเข้ามาเกี่ยวด้วย เราจะมั่นใจได้ยังไงว่าเขาจะไม่ทำอะไรเรา รู้จักกันมาแค่ 1 ปีเอง ไม่มีใครการันตีได้เลย ต้องคิดถึงตรงนี้ด้วย หรือสมมติว่าอยากมาหางานที่นี่ ก็ตั้งเดดไลน์ไว้ ถ้าเดือนนี้เราเช่าคอนโด แล้วต้องหางานให้ได้ภายในตอนไหน ถ้าเดือนนี้ไม่สามารถมีเงินจ่ายค่าคอนโดได้ให้บินกลับเลย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เจอเพื่อนร่วมงาน TOXIC สังคมที่ทำงานไม่น่าอยู่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้หันมาศึกษาอ่านไพ่ เป็นแม่หมอ ไลฟ์ใน TIKTOK คนรีวิวกันว่าแม่น จนมีลูกค้าหลายคนจองคิว มีความคิดว่าจะออกจากงานประจำ มาเป็นหมอดูเต็มตัวเลยดีไหม? เพราะรายได้ที่ได้มามากกว่างานประจำที่ทำอีก

13 มิ.ย. 2025

เจอเพื่อนร่วมงาน TOXIC สังคมที่ทำงานไม่น่าอยู่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้หันมาศึกษาอ่านไพ่ เป็นแม่หมอ ไลฟ์ใน TIKTOK คนรีวิวกันว่าแม่น จนมีลูกค้าหลายคนจองคิว มีความคิดว่าจะออกจากงานประจำ มาเป็นหมอดูเต็มตัวเลยดีไหม? เพราะรายได้ที่ได้มามากกว่างานประจำที่ทำอีก

เจอเพื่อนร่วมงาน TOXIC สังคมที่ทำงานไม่น่าอยู่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้หันมาศึกษาอ่านไพ่เป็นแม่หมอ ไลฟ์ใน TIKTOK คนรีวิวกันว่าแม่น จนมีลูกค้าหลายคนจองคิว มีความคิดว่าจะออกจากงานประจำมาเป็นหมอดูเต็มตัวเลยดีไหม? เพราะรายได้ที่ได้มามากกว่างานประจำที่ทำอีก แต่อีกใจก็กลัวว่าจะไม่มั่นคงและไปได้ไม่ดี ทุกคนคิดว่ายังไงดีคะ?? “คุณจีจี้ (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี สายที่สองในรายการ ‘พุธทอล์ค พุธโทร’ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [11 มิ.ย. 68] โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเจอเรื่อง Toxic ในที่ทำงาน จึงจะลาออกไปรับดูดวง โดย “คุณจีจี้ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูทำงานที่นี่มาสามปี ตอนแรกก็แฮปปี้ดี แต่พอเกิดการเปลี่ยนแปลงในที่ทำงาน ก็ทำให้ทำงานยากและลำบากขึ้นกว่าเดิม ตอนแรกทำงานก็ผ่านฉลุยแต่ หลัง ๆ เจอเพื่อนร่วมงานที่ไม่ดี ส่งงานก็ใช้เวลานานกว่าปกติกว่าจะผ่าน เพราะเขาไม่ได้มาซัพพอร์ตเราในส่วนนี้เลย เคยมีการคุยกับเพื่อนในแผนกบ้างแล้ว เขาก็เหนื่อยเหมือนกัน เพื่อนก็บอกว่าเขาเคยเอาเรื่องของหนูมาเล่าให้เพื่อนฟังด้วย จุดเริ่มต้นของการดูดวง หนูมีรุ่นพี่เป็นแม่หมอดูดวงคนนึง วันนั้นเขาชวนหนูไปซื้อไพ่สำรับใหม่แล้วเขาให้หนูเลือก หนูก็หลับตาเลือก ๆ ไป อันไหนเหมือนจะดึงเรา ก็เอาอันนั้นเลย หนูก็บอกรุ่นพี่ว่าหนูชอบอันนี้ แต่พอซื้อกลับมารุ่นพี่ก็โทรมาบอกว่าเขาอ่านไพ่สำรับนี้ไม่ออก หนูก็เลยตัดสินใจซื้อไพ่นี้มาเพื่อเรียนเองตามคู่มือที่มี เรียนไปได้สักพักหนูก็เริ่มขึ้นไลฟ์ใน TikTok แบบขำ ๆ จอย ๆ แต่คนดูก็บอกว่า ‘ทายแม่นนะ ลองทำจริงจังมั๊ย’ หนูก็เลยลองดูสักหน่อย แต่ก็ต้องหยุดไปเพราะปวดหัวกับที่ทำงานประจำ เมื่อเริ่มจับต้นชนปลายได้ หนูก็ลองคำนวณรายได้จากการดูดวงทั้งจากไลฟ์และทั้งส่วนตัวแล้ว ก็พบว่ามีจำนวนมากกว่างานที่ทำอยู่ด้วยซ้ำ แต่หนูยังไม่ได้ลงมือทำจริง หนูรับดูดวง 30 นาที 159 บาท 1 ชั่วโมง 259 บาท ถ้าในไลฟ์จะเป็นส่งของขวัญเพื่อดูดวง ซึ่งคนดูก็มีเข้ามาเรื่อย ๆ หนูยอมรับว่าตอนนี้หนูไม่สามารถทำงานควบกัน 2 อย่างได้ เพราะงานที่ทำส่งผลกับชีวิตหนู หนูไม่อยากเปิดไพ่ดูเพราะกลัวความ Toxic ออกมา แล้วก็ไม่อยากดูให้ตัวเองด้วยเพราะกลัวจะเข้าข้างตัวเองเกินไป ตอนนี้หนูแอบหางานใหม่อยู่ หนูก็เลยอยากถามว่าจะทำที่นี่ต่อไปดีมั๊ยหรือจะออกมาทำหมอดูแบบ Full Time ดี” ซึ่งดีเจทั้ง 3 คน (ดีเจเผือก-ดีเจต้นหอม-ดีเจเติ้ล) ได้ให้คำปรึกษาตรงกันว่า ‘อย่าเพิ่งลาออกจากงานเลย อยากให้จีจี้ทำงานควบไปทั้ง 2 อย่างก่อน ถ้ายังไม่มั่นใจจริง ๆ อย่าเพิ่งเลือกทางใดทางหนึ่ง ค่อยเลือกตอนถึงเวลาที่จำเป็น หรืออีกทางคือลองหางานประจำใหม่ แล้วให้การดูดวงเป็นรายได้เสริม เพราะจากที่เล่ามาตอนนี้ยังมีความเสี่ยงมากเกินไปที่จะเลือกดูดวงอย่างเดียว การมีรายได้หลายทางก็นับเป็นการกระจายความเสี่ยงอีกอย่างหนึ่ง ลองพยายามให้มีงานหลักประจำก่อน แล้วทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าวันนึงเราจะแจ้งเกิดจากการดูดวงแล้วค่อยหันมาทำอย่างจริงจัง’ ทั้งนี้ “ดีเจต้นหอม” ได้เสนอขั้นตอนการทำงานไว้ว่า ‘1. หางานประจำใหม่แล้วโฟกัสกับงานนี้ไปก่อน 2.ดูดวงเป็นรายได้เสริมในเวลาว่าง 3.หากแจ้งเกิดและมีชื่อเสียงจากการดูดวงให้เปลี่ยนมาโฟกัสเป็นการดูดวง 4.ลาออกจากงานประจำ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูคบกับแฟนมาตั้งแต่อายุ 13 จนตอนนี้อายุ 25 แล้ว ตั้งแต่ปีที่ 6 ที่คบกัน แฟนมีพฤติกรรมที่ทำร้ายหนูมาตลอด แรกๆก็ไม่หนัก จนล่าสุดทำร้ายจนหนูภาพตัด กระดูกเคลื่อน หนูลางานไป 1 เดือน แกล้งบอกคนอื่นว่า ไปเที่ยวต่างประเทศ

04 พ.ย. 2025

หนูคบกับแฟนมาตั้งแต่อายุ 13 จนตอนนี้อายุ 25 แล้ว ตั้งแต่ปีที่ 6 ที่คบกัน แฟนมีพฤติกรรมที่ทำร้ายหนูมาตลอด แรกๆก็ไม่หนัก จนล่าสุดทำร้ายจนหนูภาพตัด กระดูกเคลื่อน หนูลางานไป 1 เดือน แกล้งบอกคนอื่นว่า ไปเที่ยวต่างประเทศ

หนูคบกับแฟนมาตั้งแต่อายุ 13 จนตอนนี้อายุ 25 แล้ว ตั้งแต่ปีที่ 6 ที่คบกัน แฟนมีพฤติกรรมที่ทำร้ายหนูมาตลอดแรกๆก็ไม่หนัก จนล่าสุดทำร้ายจนหนูภาพตัด กระดูกเคลื่อน หนูลางานไป 1 เดือน แกล้งบอกคนอื่นว่าไปเที่ยวต่างประเทศ จริงๆหนูนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ไม่กล้าบอกคนในครอบครัว ไม่กล้าบอกคนรอบตัวเพราะเขาจะมองแฟนหนูไม่ดี นอกจากจะทำร้ายร่างกายหนู แฟนหนูก็เจ้าชู้ เคยทำผู้หญิงท้อง หนูต้องตามไปจ่ายค่าเสียหายให้ครอบครัวผู้หญิงหลายแสน เรื่องถึงจบ ตอนนี้แฟนหนูเขามาขอหนูแต่งงานใจนึงก็ไม่อยากไปต่อแล้ว แต่ก็ลังเล เพราะตอนที่เราเจ็บตัวเข้าโรงพยาบาล เขาก็ดูแลเราดีมากๆ “คุณฟ้า (นามสมมติ)” อายุ 25 ปี เป็นสายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (22 ต.ค. 68) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม” เกี่ยวกับปัญหาแฟนที่คบกันมา 12 ปี นอกใจและทำร้ายร่างกายเราจนถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล แต่จู่ ๆ ก็มาขอเราแต่งงาน “คุณฟ้า (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมาตั้งแต่วัยรุ่น ตอนนี้ก็ 12 ปีแล้ว คบกันตั้งแต่อายุ 13 ปี ในระหว่างที่คบกัน แฟนก็นอกใจหนูมาตลอด หรือเวลาทะเลาะกันเขาก็จะชอบทำร้ายร่างกายจนถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล เขาเริ่มเป็นแบบนี้ตอนที่คบกันเข้าปีที่ 6 แต่ช่วงแรก ๆ ก่อนหน้านั้นเขาก็จะขี้โมโห ขึ้นสุดลงสุด แต่ก็โมโหได้แปปเดียวจากนั้นก็กลับมาดี ในช่วงที่หนูเข้าโรงพยาบาลเขาก็จะเข้ามาทำดีด้วย แบบดีมาก ๆ มาเฝ้าหนูจนหนูใจอ่อนเลยให้อภัยไป แต่ถัดจากนั้นมาประมาณ 2-3 อาทิตย์ เขาก็ไปมีคนอื่นอีก ผู้หญิงไม่ซ้ำหน้ากันเลย แต่หนูก็ยังอยู่เพราะเราคบกันมานานและแม่ของแฟนก็ขอให้อย่าเลิกกับลูกเขาด้วย จนวันหนึ่งเราไปเที่ยวด้วยกัน แล้วเขาก็ขอหนูแต่งงานแต่หนูบ่ายเบี่ยง พูดติดตลกไปว่า “เธอลองไปขอต่อหน้าแม่เค้าไหม?” แล้วแฟนก็ตอบกลับมาว่า “ได้ ไว้รอเธอพร้อม” แต่หลังจากกลับมาหนูก็รับงานเวรยาว ๆ ไม่ได้กลับห้อง ทำตัวยุ่ง ๆ ตลอดเวลาเพื่อที่จะไม่ได้ไปเจอหน้าเขา หนูกลัวว่าถ้าหนูแต่งไป หนูจะเจออะไรอีกไหม? คือหนูยังรักเขา ถ้าให้อยู่ด้วยกันก็อยู่ได้แต่กลัวว่าวันหนึ่งเราจะโดนอะไรมากกว่านี้ ตอนโดนทำร้ายร่างกาย หนูก็พักรักษาตัวเป็นเดือน ซี่โครงเคลื่อน กะโหลกตรงเบ้าตาแตก เลือดออกหู พ่อแม่หนูไม่ทราบเรื่องนี้เพราะหนูไม่ได้บอก หนูไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวคนจะมองแฟนไม่ดีและก็ทะเลาะกับแฟนบ่อยกลัวว่าเพื่อนจะต่อว่าแฟนอีก กับอีกเคสหนึ่งคือแฟนหนูทำผู้หญิงท้อง หนูก็เป็นคนชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะด้วยหน้าที่การงานแฟน ถ้ามีเรื่องแบบนี้ออกไปเขาก็น่าจะโดนหนัก เลยคุยกันว่าเดี๋ยวหนูจะออกหน้าแทนให้แต่คราวหลังอย่าทำอีก ส่วนเรื่องเงินเขาไม่ได้เป็นคนบอกให้หนูจ่ายให้ แต่ทางฝั่งของแม่น้องผู้หญิงที่เสียหายเขาโมโหมาก จนจะเอาเรื่องไปถึงที่ทำงานแฟน หนูเลยค่อย ๆ เสนอเงินเพื่อที่จะได้รับผิดชอบสภาพจิตใจและร่างกายของผู้หญิงอีกคนโดยที่ไม่ได้ปรึกษาแฟนก่อน มีครั้งหนึ่งหนูบอกเลิกเขาเพราะหนูเปิดประตูห้องไปเจอเขามีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น แล้วหนูก็กลับไปนอนที่บ้าน เช้าวันต่อมา เขาก็เข้ามานั่งคุยกับแม่ หนูเลยต้องตามน้ำไปและก็กลับไปกับเขา พอถึงห้อง หนูก็โดนเขาซ้อมเลยทันที เลยอยากจะปรึกษาพี่ ๆ ดีเจ ว่าหนูควรแต่งงานกับเขาดีไหมหรือควรเลิกให้เด็ดขาดไปเลย?’ เริ่มที่ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ทำไมหนูถึงให้คน ๆ นี้ยังอยู่ในชีวิตของหนูอีก หลังจากที่เขาทำร้ายหนูมาไม่รู้กี่ครั้ง หลังจากที่หนูต้องอยู่โรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว หลังจากที่หนูเห็นเขามีอะไรกับคนอื่นต่อหน้าต่อตา หลังจากที่เขามาง้อแล้วพอหนูกลับไป เขาก็ทำร้ายหนูอีก ทำไมหนูถึงปล่อยให้คน ๆ นี้อยู่ในชีวิตของหนู พี่พยายามจะเข้าใจว่ามันคือความผูกพัน แต่มันคือความผูกพันแบบไหนอีกคนถึงต้องทำร้ายเราจนเราซี่โครงเคลื่อน พี่ว่ามันถึงเวลานานมากแล้วที่คนที่เขารักตัวเอง คนที่มีสติ เขาจะไม่ได้เอาความรักแบบใดก็ไม่รู้มาบอกกับตัวเองว่าเราต้องอยู่กับผู้ชายคนนี้เพราะว่าเราผูกพันกับเขา หนูบอกกับพี่ว่าหนูไม่อยากให้เขาดูไม่ดี แต่ตอนนั้นฟ้าไม่ได้มองดูตัวเองเลยเหรอว่าหนูเจ็บร่างกาย เจ็บใจขนาดไหน แล้วทำไมหนูถึงต้องปกปิดให้ผู้ชายคนนั้นอยู่อีก ตั้งแต่ที่พี่ฟังมา พี่ไม่รู้จริง ๆ ว่าอะไรที่ทำให้ฟ้ายังอยู่กับผู้ชายคนนี้ โดยที่ตัดสินใจแน่วแน่ไม่ได้ว่าจะเลิกกับเขา หนูเอาการเป็นแฟนกับเขาคนนี้ที่เป็นแฟนคนแรกและเป็นคนที่ยาวนานมาขังตัวเองและมาขอโทษกับอะไรก็ไม่รู้ ทั้งหมดทั้งมวลจะไม่มีใครช่วยหนูได้เลยถ้าหนูไม่ตัดสินใจที่จะออกมาเอง คนรักที่ดีเขาจะไม่ทำร้ายร่างกายกัน คนรักที่ดีจะไม่มีทางนอกใจกัน ทั้งหมดที่พูดไป สุดท้ายมันอยู่ที่หนูคนเดียวเลย หวังว่ามันจะมีอะไรมาทำให้หนูฟังสิ่งที่พี่พูดและคิดตามได้ในเร็ววัน’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาเสริมว่า ‘พี่พยายามคิดเข้าข้างคนที่ฟ้ารักมาก ๆ ว่าอะไรที่ทำให้ฟ้าอยู่กับคน ๆ นี้ และพี่เจอแค่เหตุผลเดียวคือเขาเป็นคนแรกและคนเดียวในชีวิต ฟ้าบอกว่าเขาดีมาก พี่ก็พยายามถามว่า “ดียังไง?” ซึ่งถ้ามนุษย์ปกติมาฟังความดีของเขา ทุกคนก็จะบอกว่า “ใครก็ทำได้ คนทั่วไปก็ทำได้” ฟ้าให้คุณค่าชีวิตตัวเองลิมิตถึงแค่ไหน เพราะนี่ก็เข้าโรงพยาบาลเดือนหนึ่งก็ทนมาได้ หรือชีวิตเราก็ให้เขาได้ ชีวิตฟ้าไม่ได้อยู่ที่ตัวฟ้าอีกต่อไปแล้ว ชีวิตฟ้าอยู่กับเขาเพราะว่าฟ้าใช้ชีวิตเขากำหนดชีวิตฟ้า มีแค่ภาวนาให้เขาดีขึ้น เพราะกับตัวฟ้ามันอาจจะเป็นแบบนี้ไปแล้ว ถ้าฟ้าให้ผู้ชายคนหนึ่งนำชีวิตอยู่ เราก็จะภาวนาให้เขาเปลี่ยนแปลงเป็นคนที่ดีขึ้นมาแทนแล้วกัน มันมีไม่กี่เรื่องหรอกที่เราไม่ควรทำกับคนที่เรารัก คือการทำร้ายร่างกายกับการนอกใจ ขอให้เขาเลิกพฤติกรรมนี้ได้และก็ขอให้ชีวิตฟ้าอยู่รอดปลอดภัย มีอะไรก็บอกพ่อกับแม่ ต่อให้เราไม่ได้อยู่ใกล้กันแต่เขาก็คงไม่อยากให้ใครทำร้ายลูกเขาขนาดนี้ ถ้าพาตัวเองออกมาไม่ได้หาคนช่วยดีกว่า จิตแพทย์ก็ได้ ฟ้าควรจะพึ่งใครสักคน’ สุดท้าย “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำปรึกษาปิดท้ายว่า ‘ลองสมมติกลับกันดูว่ามีคนมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟ้าฟัง หนูจะรู้สึกยังไง ถ้าหนูเป็นคนอื่นหนูจะตอบได้ แล้วอะไรที่พอมันเกิดขึ้นกับตัวเองแล้วเราทำไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นเรื่องคนอื่น การบอกเลิกกลายเป็นเรื่องที่ง่าย มันเป็นความสัมพันธ์ที่มองง่าย ๆ ก็คือ Abusive Relationship มันคือการทำร้ายกัน และบางทีความสุขของหนูก็จะไปขึ้นอยู่กับความสุขของเขา เขามีความสุข หนูก็มีความสุข พี่ก็คิดเหมือนพี่เผือกว่า ถ้าหนูปรึกษาใครไม่ได้ ถ้าหนูกลัวว่าเขาจะมองแฟนหนูไม่ดี เราอาจจะยึดเขาเป็นหลักในเรื่องที่เราขาด สาเหตุของปัญหามันไม่ใช่แค่เรื่องของการที่เขาทำร้ายหนูภายนอก ที่หนูปล่อยให้เขาทำร้ายหนู หรือบางทีหนูอยากจะออกมาแต่อะไรที่ทำให้หนูยังออกมาไม่ได้ พี่คิดว่าถ้าหนูไปปรึกษาคนให้เป็นเรื่องเป็นราวและแก้พฤติกรรมหรือช่วยดูพฤติกรรมของหนู เขาจะได้ช่วยหนูออกจากปมปัญหาครั้งนี้ สำหรับพี่ พี่แนะนำให้หนูไปพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อพูดคุยและพาหนูให้ออกมาจากปัญหานี้อย่างคนที่เข้าใจและไม่ตัดสินหนู แต่หนูต้องมี Commitment และไปเป็นประจำ ในเมื่อหนูยังมีเวลาให้ผู้ชายคนหนึ่งทำร้ายหนูได้ หนูเพิ่มเวลาอีกนิดนึงเพื่อดูแลตัวเองในทางกลับกัน พี่ว่าอันนี้จะดีกับหนูมากขึ้น’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายกาวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1