ครอบครัวหนูไม่ได้มีฐานะมาก พ่อเกษียณแล้วแต่เงินบำนาญก็ได้ไม่เยอะ พ่อมีเงินก้อนจาก การเวนคืนที่ดินมาก้อนใหญ่ เหลือเงินประมาณ 4 ล้านบาท เก็บไว้ในบัญชีของพ่อเอง แต่คุณแม่แอบเข้ารหัสมือถือพ่อไปใช้ คุณแม่เล่นหวยประเทศเพื่อนบ้าน วันละ 20,000+ บาท

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ครอบครัวหนูไม่ได้มีฐานะมาก พ่อเกษียณแล้วแต่เงินบำนาญก็ได้ไม่เยอะ พ่อมีเงินก้อนจาก การเวนคืนที่ดินมาก้อนใหญ่ เหลือเงินประมาณ 4 ล้านบาท เก็บไว้ในบัญชีของพ่อเอง แต่คุณแม่แอบเข้ารหัสมือถือพ่อไปใช้ คุณแม่เล่นหวยประเทศเพื่อนบ้าน วันละ 20,000+ บาท

06 ต.ค. 2025

ครอบครัวหนูไม่ได้มีฐานะมาก พ่อเกษียณแล้วแต่เงินบำนาญก็ได้ไม่เยอะ พ่อมีเงินก้อนจาก

การเวนคืนที่ดินมาก้อนใหญ่ เหลือเงินประมาณ 4 ล้านบาท เก็บไว้ในบัญชีของพ่อเอง

แต่คุณแม่แอบเข้ารหัสมือถือพ่อไปใช้ คุณแม่เล่นหวยประเทศเพื่อนบ้าน วันละ 20,000+ บาท

เอาเงินไปเล่นจนหมดไป 4 ล้านบาทแล้ว จนไม่เหลือสักบาท  และ มีหนี้เพิ่มอีก 2-3 แสน

แต่หนูยังต้องกู้เรียน กยศ.เองอยู่เลย รู้สึกเสียใจ ตอนนี้ครอบครัวกำลังจะได้เงินเวนคืนอีกก้อน

กำลังจะได้คืนอีกมา 4 ล้าน หนูจะรักษาเงินก้อนสุดท้ายไว้ยังไงดี?  กลัวแม่ทำเหมือนเดิม

            “คุณฟาง (นามสมมติ) อายุ 19 สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [1 ต.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาแม่ติดพนัน จนมองข้ามชีวิตคนรอบข้าง

            โดย “คุณฟาง (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ที่บ้านของหนูไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมาก คุณพ่อคุณแม่ไม่มีใครทำงาน เพราะคุณแม่เป็นแม่บ้าน ส่วนคุณพ่อก็เกษียณมา มีเงินบำนาญไม่ได้เยอะ และจุดเปลี่ยนผันของที่บ้านคือ ที่ดินได้ถูกเวียนคืน เลยได้เงินมาก้อนนึง ก้อนใหญ่รวมๆแล้ว ต้องได้ทั้งหมดสิบห้าล้าน แต่ตอนนี้ได้มาก่อนหกล้าน ทีนี้ก็เลยเอาเงินไปซื้อรถ เพราะว่าที่บ้านไม่มี ตอนนี้เลยเหลือประมาณสี่ล้าน คุณพ่อของหนูท่านก็เก็บเงินไว้ในโทรศัพท์ของคุณแม่ เพราะท่านไม่ใช้โทรศัพท์เลย เวลาจะคุยโทรศัพท์ หรือทำอะไร ก็จะผ่านแม่ตลอด  แต่เป็นบัญชีของคุณพ่อ ตามจริง    คุณแม่เขาก็ไม่รู้รหัส แต่ว่าท่านก็แอบดู แล้วก็เอาเงินไปใช้

            ตอนหนูประมาณ ม.2 ก็จับได้ว่าคุณแม่แอบเอาเงินไปใช้เล่นหวย เพราะหนูชอบเล่นโทรศัพท์ของท่าน ตอนนั้นก็ยังเป็นเด็กไม่กล้าพูดอะไร เลยได้แต่ถ่ายๆไว้ส่งให้พี่สาวตนเอง พี่ก็เลยเป็นคนจัดการคุยกับแม่ให้ ท่านก็รับปากว่า จะไม่เล่นหวยแล้ว แต่หนูก็จับได้เรื่อยๆว่า ท่านยังเล่นอยู่ ก็เลยได้พูดกับแม่ว่า ‘ถ้าแม่ยังไม่เลิกเล่น หนูจะไปบอกพ่อนะว่าแม่เอาเงินพ่อมา’ แต่ท่านก็ไม่ได้กลัวหรอก แม่เขาพูดว่า ‘ถ้าอยากให้บ้านแตกก็บอกเลย’ ตอนนั้นหนูยังมัธยมต้นอยู่เลย ก็รู้สึกจุกจนไม่กล้าพูดอะไร

            พอผ่านมาจนหนู ม.5 แม่ก็ดูเล่นหนักขึ้นเรื่อยๆ พี่สาวเลยตัดสินใจบอกคุณพ่อ ว่าแม่แอบเอาเงินไปนะ คุณพ่อก็บอกว่าท่านรับได้ สูงสุดคือล้านนึง แต่พอไปดูจริงๆ เงินมันไม่เหลือแล้วสักบาท ก็เลยได้รู้ความจริงว่าคุณแม่เล่นวันละสองหมื่น บวกกับหนี้ที่สร้างไว้อีกสองสามแสน คุณแม่เขาก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หนูรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบแตกสลาย เพราะอีกปีนึงหนูก็ขึ้นมหาลัยแล้ว ทำไมท่านถึงไม่คิดถึงอนาคตของลูกเลย ทุกๆครั้งที่เกิดการพูดคุยกันคุณพ่อจะบอกเสมอว่า เก็บเงินไว้ให้ลูกเรียน แต่คุณแม่ไม่เข้าใจ ท่านรู้สึกว่า แล้วฉันเป็นใคร ฉันก็เป็นเมีย ทำไมฉันไม่ได้ใช้เงินเธอบ้าง แต่ดีที่คุณพ่อท่านมีเงินกับธนาคารที่ออกมาพอดีในตอนนั้น เลยพอส่งหนูเรียนได้

            แต่ตอนนี้ เงินก้อนจากการเวียนคืน กำลังจะได้มาในปีสองปีนี้ จากสิบห้าล้าน เหลือสี่ล้าน เพราะเราขึ้นศาลกัน จริงๆควรจะได้มากกว่านี้ แต่ถูกลดลงมา ซึ่งคุณแม่ท่านก็ยังไม่หยุดเล่น ยังแอบยักยอกเงินคุณตาเวลาที่ไปเก็บตลาดนัด ยักยอกเงินน้าที่จ้างให้เฝ้าร้านเครื่องซักผ้า ค่อนข้างเดือดร้อนคนหลายๆคน   และถ้าเงินก้อนสุดท้ายออกมา คุณแม่คงไปสร้างหนี้ ให้คุณพ่อคอยจ่ายให้อยู่ดี หนูเลยอยากจะปรึกษาพวกพี่ว่า หนูควรจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง? ไม่อยากมองแม่เป็นคนไม่ดี’

            เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ให้ลองเปลี่ยนความคิดจากการที่มองคุณแม่เป็นคนไม่ดี ให้มองว่าท่านป่วยจะดีกว่าเพราะเท่าที่พี่ทำรายการมา และคุยกับคุณหมอ มันเกิดจากสมองชัดเจน แล้วลองคุยกับคนรอบข้างให้ดีว่า เราจะจัดการสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยจากคุณแม่ยังไง เช่นไม่ตามใจ ไม่ให้เงิน แยกเก็บเงินเป็นหลายๆกองมั้ย ต้องเซ็นกี่คนถึงจะเบิกได้ คงต้องทำความเข้าใจมากๆ

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เป็นคนใช้ไม้แข็ง คือเขาจะไม่ได้เงินจากพี่เลยสักบาท มันต้องเกิดการพูดคุยกัน แบ่งเงิน เหมือนโอเค คนละล้าน แล้วแม่จะเอาเงินไปถลุงจนหมดตัวก็ให้เขาเป็นไป ส่วนพ่อถ้าได้ล้านนึง แล้วจะตามเช็ดให้แม่ ก็แล้วแต่พ่อ แต่อีกสองล้าน คือเราต้องเก็บไว้ และทำให้เขาเห็นว่าเขาจะไม่ได้เงินจากเราจริงๆสักบาท’

            สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ช่างแม่เลยนะ แล้วเรียกครอบครัวมาคุยกันว่า ปัญหาของแม่ คือแบบนี้ และมันคงไม่จบ  ให้กันเงินไว้ให้เป็นค่าเทอมของเรา มันคงทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านี้แล้ว การที่เราไม่ดูแลแม่ เพราะแม่ทำสิ่งนี้ ก็ไม่ใช่ว่าบาป ถ้าเราดูแลจนสุดทาง แล้วเขายังเลือกเป็นแบบนี้อยู่ เราเลือกได้ ก็พูดให้เขาคิดว่า ถ้าแม่ยังอยากไปกับเราทำให้ครอบครัวชีวิตดีขึ้น เราจะไปด้วยกัน แต่ถ้าทำให้มันถอยหลังลง เราก็จะไม่ไปด้วย ให้แม่ดูแลชีวิตตัวเอง’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบกับแฟนมา ไม่เคยเจอคุณแม่ แต่คุณแม่แฟนเอา วัน เดือน ปีเกิดเราไปเช็คดวง แล้วบอกกับลูกสาวว่า ดวงไม่สมพงษ์กัน แล้วหมอดูก็ยังบอกมาอีกว่า ผู้ชายคนนี้ มีครอบครัวแล้วให้ระวัง ซึ่งผมไม่มี

31 พ.ค. 2024

คบกับแฟนมา ไม่เคยเจอคุณแม่ แต่คุณแม่แฟนเอา วัน เดือน ปีเกิดเราไปเช็คดวง แล้วบอกกับลูกสาวว่า ดวงไม่สมพงษ์กัน แล้วหมอดูก็ยังบอกมาอีกว่า ผู้ชายคนนี้ มีครอบครัวแล้วให้ระวัง ซึ่งผมไม่มี

คบกับแฟนมา ไม่เคยเจอคุณแม่ แต่คุณแม่แฟนเอา วัน เดือน ปีเกิดเราไปเช็คดวงแล้วบอกกับลูกสาวว่า ดวงไม่สมพงษ์กัน แล้วหมอดูก็ยังบอกมาอีกว่า ผู้ชายคนนี้ มีครอบครัวแล้วให้ระวังซึ่งผมไม่มี ตอนนี้ทุกคนในบ้านฟังแม่เขาหมด แล้วแฟนก็ขอห่างกับผม เหมือนผมโดนตัดสินโดยใครก็ไม่รู้... “คุณเอ็กซ์ (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [29 พ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแม่แฟนเอาวันเดือนปีเกิดไปดูดวงจนทำให้ต้องเลิกกับแฟน โดย “คุณเอ็กซ์ (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมทำงานอยู่ที่บริษัทซอฟแวร์แห่งหนึ่ง ที่บริษัทจะมีรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง คือว่าเราสองคนได้รับหน้าที่ให้ทำโปรเจ็คด้วยกัน ทำให้เราสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้น ได้อยู่ด้วยกันตลอดทุกวัน เราก็เริ่มชอบกัน เพราะเราคุยกันถูกคอมากๆ ระบายกันทุกเรื่อง แล้วทีนี้เราก็ได้มีการนัดไปทำงานกันที่ห้างแห่งหนึ่ง เราก็มานั่งทำงานกันพอทำงานเสร็จ เราก็ไปกินข้าวด้วยกัน แล้วพอกินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ แต่บ้านผมอยู่ไกลมาก ผมก็ต้องนั่งรถไฟฟ้ากลับ แต่ว่าผมเข้าใจผิดคิดว่าขบวนรถไฟสุดท้ายคือเที่ยงคืน แต่จริงๆ ขบวนสุดท้ายของสายนั้นคือ 5 ทุ่ม ทีนี้ผมก็ไม่มีรถกลับ ผมก็เลยโทรบอกเขา เออเนี่ย…เดี๋ยวจะไปเปิดห้องนอนก่อน แล้วเช้าค่อยกลับ แต่เขาก็บอกว่า ไม่เอาๆ เดี๋ยวเขาวนรถกลับมารับ แล้วก็ไปนอนบ้านเขา ผมก็ตกลง วันนั้นผมก็ได้ไปนอนบ้านเขาและวันนั้นเราสองคนก็ได้ตกลงเป็นแฟนกัน เราก็คบกันมาได้เกือบอาทิตย์ ต้องขอบอกเลยว่าพี่เขาเป็นคนที่เชื่อแม่ และรักแม่มากๆ สำหรับเขาแม่มีอิทธิพลมากพอสมควร ผมก็มองว่าไม่ผิดคนเราต้องรักแม่ถูกแล้ว แล้วทีนี้แม่เขาก็เอาวันเดือนปีเกิดของผมไปดูดวง ว่าดวงผมกับพี่เขาเป็นยังไง แล้วหมอดูทำนายว่า ดวงผมไม่สมพงศ์กับพี่เขา และมีอีกคำนายหนึ่งที่ไม่เป็นความจริงเลยคือ หมอดูทำนายว่า ผมมีครอบครัวแล้ว โดยที่ไม่ถามไถ่ผมเลย ซึ่งแฟนผมก็น่าจะยังไม่ได้บอกแม่เขาว่าผมยังไม่มีครอบครัว เพราะเขาน่าจะดูเชื่อไปด้วย แต่ผมไม่รู้ว่าเชื่อกี่เปอร์เซ็นต์ แต่หลักๆ เลยก็คือแม่เขาก็ไม่อยากให้ไปต่อกับผมนั่นแหล่ะ พี่เขาก็เลยขอลดสถานะความสัมพันธ์กับผม และไม่ขอพัฒนาต่อไปมากกว่านี้แล้ว การขอลดสถานะความสัมพันธ์ครั้งนี้ ผมไม่ติดอยู่แล้ว ผมเคารพการตัดสินใจของเขา เพราะเราเปลี่ยนความคิดใครไม่ได้ แต่ที่ผมนอยมากๆ เลยก็คือ ผมถูกตัดสินจากใครก็ไม่รู้ ที่รู้แค่ วันเดือนปีเกิดของผมแค่นั้น ซึ่งหลังจากที่เราเลิกกัน ผมก็ลาออก แต่พี่เขาก็ยังมีทักมาหาผมบ้าง มาระบายเรื่องงาน ถามเรื่องโปรเจคที่ผมกับพี่เขาเคยทำร่วมกัน ตอนนี้พี่เขารับหน้าที่ดูแลต่อ แล้วก็มีคุยเรื่องส่วนตัวบ้าง ผมก็มีถามเขาบ้างว่า สบายดีมั้ย เหนื่อยรึเปล่า ผมก็ถามไปปกติ ผมอยากถามพี่ๆดีเจว่า ควรปล่อยเขาไปใช่มั้ย หรือว่าควรจะสู้กับดวงที่หมอดูทำนายมาดี?’ โดย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับหอม ชีวิตเราเป็นคนเลือกเอง หมอดูเป็นแค่สิ่งที่นำทางให้เราเฉยๆ ถ้าหมอดูพูดอะไรแล้วมันซัพพอร์ตกับสิ่งที่อยู่ในใจเรา เราจะมีความมั่นใจในการลุยกับสิ่งนั้นมากขึ้นเท่านั้นเอง แล้วก็ที่ถามว่าเราจะยังไปรอผู้หญิงคนนี้อีกมั้ย หอมบอกเลยว่า ตัดไปเลย ทิ้งไปเลย ให้รู้ซะบ้าง ไม่ใช่ว่าแบบ เธอเลิกกับฉันง่ายๆ เพียงแค่ฟังคำหมอดู ซึ่งมัน Non sense ถ้าเกิดเราคบกันแล้วเธอเจอปัญหาที่ใหญ่กว่านี้ แล้วแม่เธอพูดอะไรสักอย่างหนึ่ง เราก็เลิกกันได้อยู่ดี เรื่องเล็กๆ เธอยังเลิกกับเราได้ง่ายขนาดนี้เลย ฉะนั้นถ้ามีปัญหาใหญ่เข้ามาในชีวิต เธอจะไม่ปล่อยมือกันง่ายๆ หรอ แล้วก็ไม่ต้องถามเขาว่า สบายดีมั้ย เขาเทเรา ด้วยเหตุผลที่งี่เง่ามาก เขาต้องได้รับบทเรียน เธอกำลังเสียผู้ชายที่ดีที่สุดไป แล้วไปหาคนใหม่เลย หาคนที่เขาเห็นคุณค่าในตัวเราไม่ใช่แค่รู้สึกว่า เราไม่มีคุณค่าอะไรเลยหรอ ถึงได้ตัดสินเรากับเรื่องงี่เง่าแค่นี้ อันนี้คือไร้เหตุผลมากๆ และครอบครัวนี้ไม่เหมาะกับเรา ครอบครัวที่ใช้พ่อแม่บงการทุกอย่างในชีวิต จนไม่เป็นตัวของตัวเอง ก็ให้เขาอยู่กับแม่ไปหรือไม่ก็ให้เขามีแฟนกับคนที่แม่เขาหาให้ แล้วไม่ต้องรอให้มันเสียเวลา เชิ่ด !!!!’ ต่อด้วย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มันมี 2 ประเด็นสำหรับพี่นะ เวลาที่พี่เห็นใครที่เขาเชื่อเรื่องอะไรทำนองนี้ เรื่องหมอดู ดวงชะตา โชคชะตา และถ้าเขายึดมันเป็นแกนหลักในการใช้ชีวิตแล้ว พี่รู้สึกว่า อะไรก็เอาเขาไม่อยู่ เพราะเขาเลือกที่จะเชื่อแบบนี้แล้ว ถ้าเขาใช้สิ่งนี้เป็นที่ตั้ง แสดงว่าเขามีแนวคิดที่คิดมาแล้ว หรือว่าประสบการณ์ชีวิตของเขา สิ่งนี้มันพิสูจน์ได้ว่า มันจริงสำหรับเขา พี่ว่าการจะไปสู้กับอะไรแบบนี้ เหมือนเราแพ้ตั้งแต่หน้าประตูแล้ว ซึ่งมันเหนื่อยมากเลยกับการแพ้ ให้กับสิ่งที่เรามองไม่เห็น แล้วเราไม่รู้ว่าจะไปพิสูจน์มันยังไง นอกจากเราต้องใช้เวลา เข้าใจมั้ย ซึ่งบางอย่างเขาไม่มารอเรา แล้วเขาตัดสินเราไปแล้ว อันนี้สำหรับเรื่องแรกพี่ว่ามันยาก สำหรับอันที่ 2 พี่เห็นด้วยกับพี่หอมว่า ถ้าคนๆ หนึ่งเลือกเรา ในการคบหาจากการดวงล้วนๆ หรือจากสิ่งที่หมอดูบอก โดยที่ไม่ได้ดูสิ่งที่เราทำ ไม่ดูว่าเรามีพฤติกรรมที่ปฎิบัติกับเขายังไงในฐานะคนรัก พี่ว่าคนแบบนี้ พี่ไม่เลือกเอามาเป็นแฟนนะ ถ้าเขาไม่เอา เราก็ไปหาคนอื่น มันไม่ได้มีคนเดียวบนโลกใบนี้ที่เราจะต้องรักพุ สำหรับพี่มันง่ายแค่นี้’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผมมีความเชื่อว่าถ้าเห็นลู่ทางไม่ดี เราอย่าชิงแพ้ให้เละเทะ เราไปแบบเชิ่ดๆ หล่อๆ ก่อนดีกว่า แล้วไปแบบให้เขาเสียดาย ไปแล้วไปลับไม่กลับมา ให้เขาเสียดายว่า ไอความไร้สาระของเขามันเคยทำให้เขาพลาดอะไรไป คือถ้าเรื่องแค่นี้เขามาขอลดความสัมพันธ์กับเรา หมอดูคนนี้จะดูชีวิตคู่ของคุณเอ็กซ์กับเขาเนี่ยไปตลอดเลย จะมีลูกปีไหน จะเกิดเดือนไหน จะให้เรียนโรงเรียนอะไร มันจะวุ่นวายไปหมด แล้วก็นอกจากหมอดูแล้วเนี่ย คิดว่าครอบครัวเขาก็จะมามีอิทธิพลกับชีวิตคู่คุณเอ็กซ์กับเขาไปตลอด ซึ่งถ้าคุณเอ็กซ์ได้ฟังพุธทอล์คพุธโทรมา ปัญหาที่ครอบครัวเข้ามาวุ่นวายในชีวิตคู่เนี่ยโครตปวดหัวเลย เพราะฉะนั้นไปแบบผู้ชนะถึงแม้ว่าใจลึกๆ เราจะรู้สึกว่าโดนเทก็ตาม แต่จงรักษาทรง แล้วเดินออกไปอย่างผู้ที่เหมือนว่าชนะ แบบโดนเทแต่ยังเท่อยู่ ให้เขาเสียดายเราในภายหลัง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูไปทำงานพาร์ทไทม์ที่นึง เจอรุ่นพี่ อายุ 37 แล้ว ขอแอดไลน์กัน เขาถ่ายรูปคู่กับเด็ก 7 ขวบ ถามเขา เขาบอกน้อง คุยไปคุยมา เริ่มคิดถึงเค้า เค้าโทรมาขอเงิน 100 พอเราจะโอนให้ เขาบอก ขอ 200 เลยแล้วกัน

13 ก.ย. 2024

หนูไปทำงานพาร์ทไทม์ที่นึง เจอรุ่นพี่ อายุ 37 แล้ว ขอแอดไลน์กัน เขาถ่ายรูปคู่กับเด็ก 7 ขวบ ถามเขา เขาบอกน้อง คุยไปคุยมา เริ่มคิดถึงเค้า เค้าโทรมาขอเงิน 100 พอเราจะโอนให้ เขาบอก ขอ 200 เลยแล้วกัน

หนูไปทำงานพาร์ทไทม์ที่นึง เจอรุ่นพี่ อายุ 37 แล้ว ขอแอดไลน์กัน เขาถ่ายรูปคู่กับเด็ก 7 ขวบถามเขา เขาบอกน้อง คุยไปคุยมา เริ่มคิดถึงเค้า เค้าโทรมาขอเงิน 100 พอเราจะโอนให้เขาบอก ขอ 200 เลยแล้วกัน โอนเสร็จ เพิ่งรู้ว่าบัญชีเมียเขา และ เขาก็หายไปเลยไม่เจอที่ทำงานแล้ว “คุณเบสท์ (นามสมมติ)” อายุ 20 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [11 ก.ย.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาโอนเงินให้ผู้ชายที่มาจีบ 200 มารู้ทีหลังว่าเขามีลูกมีเมียแล้ว จากนั้นเขาก็หายไป เงินก็ไม่คืน โดย “คุณเบสท์ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ขอเกริ่นก่อน พอดีหนูมีเพื่อนสนิทคนนึง เขาทำงานพาร์ทไทม์ในห้างสรรพสินค้าที่นึง เขาก็มาชวนหนูไปทำงาน หนูก็เลยตอบตกลงเพราะค่าตอบแทนค่อนข้างสูง ทีนี้เขารับเด็กพาร์ทไทม์เยอะ หนูเลยได้ไปเจอกับคนๆนึง เขาหล่อ ดูทรงแบดบอย เขาทำงานโซนเดียวกับหนู แล้วเขาก็สนิทกับเพื่อนหนูมาก่อน ต่อมาเขาก็เหมือนจะมาเต๊าะๆ จีบๆหนู ตอนแรกหนูก็ไม่ค่อยชอบ พราะเขาอายุค่อนข้างห่างกับหนูเยอะเลย เขาอายุ 37 ปี ด้วยความที่หนูโสดนาน ไม่มีคนคุยด้วย และเป็นคนใจง่ายนิดๆ พอเขาเต๊าะเข้ามากๆหนูก็ไปชอบเขาแล้ว หลังจบงานเขามาขอไลน์หนู หนูก็ให้ไป พอเขาแอดมา รูปโปรไฟล์ของเขาที่หนูเห็นคือเขากำลังจูงเด็กผู้ชายคนนึงอายุประมาณ 6 – 7 ขวบ หนูก็เลยถามเขาว่าลูกหรอ? เขาบอกว่าเป็นน้อง ด้วยความที่หนูซื่อบื้อก็ไม่ได้คิดอะไร น้องก็น้อง พอเลิกงานเขาก็ทักมาคุยว่า “คิดถึงนะ ฝันดีนะ เจอกันนะ พรุ่งนี้บ่ายสองเดี๋ยวพี่พักงานแล้วจะโทรหานะ” หนูก็รอโทรศัพท์จากเขา จนวันนั้นทั้งวันเขาก็ไม่โทรมา หนูก็เลยตัดใจ ไม่เอาแล้ว ไม่ชอบแล้ว พอเช้าวันถัดมาเขาโทรมาหาหนูช่วง 10 โมง หนูก็เลยกลับมาชอบเขา เขาก็บอกหนูว่า “คิดถึงจังเลย เดี๋ยววันจันทร์ไปกินหมูกระทะกันนะ วันนี้มีแพลนจะไปไหนมั้ย ไปไหนก็อย่าให้ไลน์ผู้ชายนะ อย่าให้ไลน์ใครนะ” เหมือนเขาหวง เป็นห่วงเรา หนูก็เลยคิดกับตัวเองว่า เอาล่ะ ดูทรงเหมือนจะมีแฟนแล้วแหละ ทีนี้เขาก็บอกหนูว่าน้องติดต่อเพื่อนคนนี้ได้มั้ย? บอกเขาว่าโอนตังให้พี่หน่อยร้อยนึง หนูก็งงๆ สะลึมสะลือ เลยให้เขาพูดใหม่อีกรอบ เขาก็บอกว่า “ยืมตังคนนี้ให้หน่อยนะ ให้เขาโอนให้หน่อย” สักพักนึงหนูก็บอกโอเคค่ะ เขาก็วกกลับมาที่หนูว่า “หรือน้องมีก่อนมั้ยตอนนี้?” หนูก็โอนไวด้วย เปย์ ตอนแรกหนูก็ถือสายรอให้เขาส่งคิวอาร์โค้ดมาให้ แล้วเขาก็บอกว่า “เออ...น้องเป็นสองร้อยได้มั้ย?” เดี๋ยวบ่ายสองวันนี้พี่โอนคืนให้ แล้วหนูก็โอนให้เขา ตอนแรกหนูก็สงสัยว่าทำไมบัญชีปลายทางเป็นของผู้หญิง ใช้นางสาว แต่หนูก็เข้าใจว่าคงจะโอนค่าอื่นๆหรือเปล่า? หลังจากนั้นเขาก็ไม่คืน บ่ายสองแล้วก็ไม่คืน วันถัดไปก็ไม่คืน หนูไลน์ไปหาก็ไม่อ่าน ไม่ตอบ คือเขาหายไปเลย ตอนแรกหนูก็ไม่กล้าบอกเพื่อนว่าพี่คนนี้มาขอตัง เพราะกลัวเพื่อนจะว่าเราเป็นสายเปย์ไปเปย์ผู้ชาย จน 4 ทุ่มวันนั้นหนูไลน์ไปบอกเพื่อน เพื่อนหนูก็เลยมาบอกว่า “มึง กูขอโทษนะ รู้หรือเปล่าว่าเขามีลูก มีเมียอยู่แล้ว ขอโทษที่ไม่ได้บอก ไม่ได้คิดว่ามึงจะจริงจัง” ตอนนั้นพอหนูรู้ หนูนอยเลย คือไม่ได้ติดเรื่องเงินเลย แต่หนูนอยมันไม่ใช่อ่ะ ทีนี้เพื่อนก็ถามว่าโอนเข้าบัญชีใครนะ หนูก็เอาชื่อบัญชีให้ดู มันพีคตรงที่บัญชีนั้นเป็นบัญชีเมียเขา เพื่อนหนูก็รู้จักกับเมียเขา เพราะเคยทำงานด้วยกัน เพื่อนเลยเล่าให้ฟังว่าเมียเขาค่อนข้างที่จะโอ้อวดว่าที่บ้านซื้อรองเท้าแบรนด์ดังให้ลูกเลยนะ ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมต่างๆ เวลาที่หนูให้ใครยืมเงิน หนูไม่เคยทวงเงิน เพราะอยากให้เขาคืนด้วยจิตสำนึกของตัวเอง แต่พอหนูมารู้ว่าคนนี้มีลูก มีเมียแล้ว หนูก็เลยไม่โอเค หนูเป็นคนที่ทวงสุภาพมากเลยนะแบบทักไปบอกว่าทิ้งเลขบัญชีไว้ให้ก่อนนะคะ ไม่ได้ไปจี้ทวง ซึ่งคนนี้เขาก็หายไปเลย หนูทักไปเขาก็ไม่อ่าน ไม่ตอบ เขาเคยบอกว่าเขาทำงานประจำที่นี้ๆ เพื่อนหนูรู้จักกับคนที่ทำงานที่เดียวกับเขา พอไปถามถึงเขา คนที่ทำงานที่เดียวบอกว่า พี่คนนี้เขาลาออกไปเดือนนึงแล้ว เพื่อนหนูทักไปทั้งทางเมียและผัวเลยแต่ไม่มีใครตอบเลยสักคน หนูอยากได้วิธีทวงตังหรือไม่ก็อยากให้พี่ๆดีเจพูดอะไรให้เขาคืนตังหนูหน่อย?’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ชอบเจอคนบังคับให้ดื่ม แล้วพูดว่า "ดื่มหน่อยน้อง บรรยากาศจะได้สนุก" แต่เราโดนบังคับแบบนี้ไม่สนุกเลย บางทีไม่เมาก็จอยได้ ทำไงดีไม่ชอบคนแบบนี้เลย

10 พ.ย. 2023

ชอบเจอคนบังคับให้ดื่ม แล้วพูดว่า "ดื่มหน่อยน้อง บรรยากาศจะได้สนุก" แต่เราโดนบังคับแบบนี้ไม่สนุกเลย บางทีไม่เมาก็จอยได้ ทำไงดีไม่ชอบคนแบบนี้เลย

“คุณมิน (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (8 พ.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับเรื่องของเพื่อนที่ชอบชวนให้ออกไปดื่ม แต่ด้วยส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ดื่มเลย กลายเป็นว่าอึดอัดเวลามีคนชวนไปสังสรรค์ โดย “คุณมิน (นามสมมติ)” ได้เริ่มเล่าว่า ‘ส่วนตัวเราเป็นคนที่ไม่ชอบสังสรรค์ และไม่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ด้วยหน้าที่การงานที่เราทำ ก็มักจะมีรุ่นพี่ในบริษัทชวนออกไปสังสรรค์อยู่บ่อยครั้ง หรือมีบางโอกาสที่ต้องไปร่วมเพราะบริษัทมีจัดเลี้ยงสังสรรค์ ด้วยความที่เราเป็นคนที่มีอายุน้อยที่สุดในงาน จึงมักจะเป็นจุดสนใจของทุกคน เพราะทุกครั้งที่เราปฎิเสธก็จะเป็นการไม่รักษาน้ำใจ เพราะเขาก็ชงมาให้เราแล้ว ถ้าไม่ดื่มแล้วใครจะดื่ม หลังจากที่เราทำงานอยู่ที่เก่าได้ประมาณปีกว่า ๆ ก็ย้ายบริษัทออกมาทำงานอีกที่หนึ่งแทน แต่ปัจจุบันก็ยังเจอเพื่อนหรือรุ่นพี่ที่รู้จัก เวลาชวนออกไปสังสรรค์ก็รู้ว่าไม่ชอบดื่ม แต่ทุกครั้งที่ไปก็มักจะบังคับให้ดื่มทุกครั้ง มันทำให้เรารู้สึกอึดอัดมาก และไม่อยากทำให้บรรยากาศเสีย เราจึงต้องยอมดื่ม ปัญหานี้มันเกิดขึ้นกับเรามาเรื่อย ๆ มันไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานที่ชอบชวนดื่มอย่างเดียว สังคมรอบข้างที่สนิทก็มักจะบังคับให้ดื่มอยู่บ่อยเหมือนกัน วันนี้เลยอยากปรึกษาว่า ดีเจทั้งสามคน มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับคนประเภทนี้ ที่ชอบมักจะชวนดื่มอยู่ตลอด พวกเขาต้องการอะไร? เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่กับแค่คนในริษัทอย่างเดียว แต่สังคมรอบข้างที่รู้จักก็มักจะบังคับให้ดื่มเหมือนกัน “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ส่วนตัวพี่เอง ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่ไม่สามารถปฎิเสธได้ เพราะก็มักจะปฎิเสธตลอด ตัวเองมีอาการแพ้เหล้า ดื่มไม่ได้ ร่างกายมันต่อต้าน และก็จะบอกไปเลยว่าไม่ชอบดื่ม และตั้งแต่ทำงานเป็นดีเจหรืองานในบริษัท ก็ไม่เห็นมีใครมาบังคับให้ดื่ม แต่ถ้ามีโอกาสไปร่วมงานสังสรรค์ เราก็สามารถเมาดิบได้ สามารถสนุกได้โดยที่ไม่ต้องดื่ม เพราะส่วนตัวพี่ไม่ได้เป็นคนที่ชอบสังสรรค์ เวลาที่ไปก็จะกลับเร็ว จึงแนะนำว่าถ้าจะให้อ้างเหตุผล ก็ควรจะอ้างเรื่องของสุภาพว่า แพ้แอลกอฮอล์ โรคตับ หมอบอกห้ามดื่ม วันก่อนที่ไปค่าตับขึ้น เดี๋ยวเต้นให้แล้วกัน อะไรก็ได้อ้างไป หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือไม่ต้องไปเลย ถ้าจะตกงานเพียงเพราะไม่ได้ดื่มก็หางานใหม่ เพราะในว่ารูปแบบงานบางงาน มันก็มีวัฒนธรรม หรือต้องไปดื่มจริง ๆ คนหมู่มากที่เขาทำงานก็ชอบสังสรรค์เป็นเรื่องปกติ ถามว่าคนหมู่น้อยอยู่ได้มั๊ย มันก็อยู่ได้แหละ แค่เรากล้าปฎิเสธหรือเปล่า หลักแน่นมากพอหรือเปล่า แต่ถ้าอยู่ไม่ได้ก็หางานใหม่ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็อย่าไปยุ่งชีวิตเขา เขาจะเอาอะไรเข้าร่างของเขามันเป็นสิทธิ์ของเขา เพราะส่วนตัวพี่เองก็ไม่ได้เป็นคนที่ชอบดื่มเหมือนกัน ถึงแม้ในวงการบันเทิงมักจะมีการสังสรรค์อยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งก็จะปฎิเสธตลอด จึงแนะนำว่าให้กล้าปฎิเสธอย่างหนักแน่นว่าไม่ดื่ม สัญญากับแม่ว่าจะไม่ดื่ม พี่ชายเคยเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำตาย เราไปอยู่ในงานนั้นก็พอแล้ว เราสนุกกับงานได้โดยไม่ต้องกินเหล้า หรือว่าเลี่ยงการไปงานสังสรรค์ไปเลย ปิดจบกันที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เสนอไปเลย 3 ทางเลือกคือ 1. บอกไปว่าเป็นโรคตับ วันนั้นไปตรวจมา ปรากฏว่าตับอักเสบ ดื่มไม่ได้จริง ๆ ให้ยืนยันเสียงแข็งว่าดื่มไม่ได้ สักวันหนึ่งเขาคงรู้แหละว่าเราไม่ดื่ม 2. ถ้าไม่อยากอยากให้มันเสียบรรยากาศเราก็จิบ ๆ ได้ นั่งสักพักพอทุกคนเริ่มได้ที่แล้ว เราก็แอบหนีกลับบ้านไปเลย 3. ถ้าเราอยากอยู่ทั้งคืน ก็เนียน ๆ ไป เราก็ผสมโคล่าเพิ่มเข้าไป แก้วแรกอาจจะเป็นเหล้าปกติ แก้วต่อไปก็เป็นโคล่าไปอย่างเดียว จะได้ไม่เสียบรรยากาศ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนักใจกับทุกทางเลือก... สาวโทรปรึกษา คบแฟนมา 2 ปี ก่อนหน้านี้ดีมาตลอด จนมาจับได้ว่าเขานอกใจ ก็เลยเลิกกันไป แต่หลังจากนั้นแฟนก็เกิดอุบัติเหตุจนป่วยติดเตียง ต้องผ่าตัดสมอง ตอนนี้สับสนไปหมด ควรทำยังไงดี...

08 ส.ค. 2023

หนักใจกับทุกทางเลือก... สาวโทรปรึกษา คบแฟนมา 2 ปี ก่อนหน้านี้ดีมาตลอด จนมาจับได้ว่าเขานอกใจ ก็เลยเลิกกันไป แต่หลังจากนั้นแฟนก็เกิดอุบัติเหตุจนป่วยติดเตียง ต้องผ่าตัดสมอง ตอนนี้สับสนไปหมด ควรทำยังไงดี...

หนักใจกับทุกทางเลือก... สาวโทรปรึกษา คบแฟนมา 2 ปี ก่อนหน้านี้ดีมาตลอด จนมาจับได้ว่าเขานอกใจ ก็เลยเลิกกันไปแต่หลังจากนั้นแฟนก็เกิดอุบัติเหตุจนป่วยติดเตียง ต้องผ่าตัดสมองตอนนี้สับสนไปหมด ควรทำยังไงดี จะ “ทิ้งเขาไปเลยแล้วเริ่มใหม่” หรือ “ดูแลทั้งๆที่รู้ว่าเขานอกใจ” ตัดสินใจไม่ได้เลย... “คุณปลา (นามสมมุติ)” อายุ 36 ปี สายแรกของรายการ “พุธทอล์ค พุธโทร” เมื่อคืนวันพุธที่ผ่าน (26 ก.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาชีวิตที่แฟนนอกใจเลยเลิกกันไป พอหลังจากนั้นเขาต้องผ่าตัดสมองเราทำถูกไหมที่อยู่ดูเเลเขาทั้งๆที่เขานอกใจเรา โดย “คุณปลา (นามสมมุติ)” เล่าว่า ‘คบกับแฟนมาได้ 2 ปี ตอนนี้แฟนเป็นโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) ต้องผ่าตัดสมอง ซึ่งตอนนี้ผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว แต่ก่อนหน้านี้เขานอกใจแล้วก็โกหกหนู ที่ผ่านมาหนูโดนเขาหลอกเพราะเขาโกหกหนูมาตลอด จนล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา แฟนหนูเขาล้มอยู่ในห้อง มีคนที่ทำงานของเขาที่เป็นผู้หญิง ไปเจอและพาไปส่งโรงพยาบาล เเล้วก็โทรมาหาหนูว่าใช่แฟนพี่เขาหรือเปล่า รู้รหัสโทรศัพท์พี่เขาไหม... ช่วงนั้นเราไม่ได้เจอกันประมาณเดือนนึง พอหนูรู้เรื่อง หนูก็มาหาเขาที่โรงพยาบาล มาถึงเขาก็อยู่ในห้องฉุกเฉินเเล้ว สักพักเขาเข็นรถเข็นมา หนูก็อึ้งที่ได้เห็นเขาเเล้วมานึกในใจว่าเขานอกใจเรา หนูได้เจอกับญาติเขา ญาติเขาก็มาถามว่าหนูรู้จักผู้หญิงคนนี้ไหม ก็คือผู้หญิงคนใหม่ที่เขาไปคุยกัน ส่วนตัวหนูกับผู้หญิงคนนั้นก็ไม่เคยเจอกัน ตัวเขาเองก็สื่อสารไม่ได้ ตอนนี้หนูก็เฝ้าเขาอยู่ที่โรงพยาบาล สำหรับหนูก็อยากดูเเลเขา เเต่ลึกๆในใจก็ยังเจ็บที่โดนหลอก... วันนี้ที่คุณปลาโทรมา อยากจะถามพี่ๆดีเจว่า ‘หนูทำถูกแล้วใช่ไหมตอนนี้ ที่หนูมาอยู่ข้างๆเขา เฝ้าเขา’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าใจเราอยากดูเเลเราก็ดูแล การอยากอยู่ตรงมีทางเดียวคือต้องอดทนลืมเรื่องในอดีต แล้วก็ดูเเลต่อไปก็ไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนเพราะความต้องการของคุณปลาชัดเจน’ ทางด้าน “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘คบกันมา 2 ปี มันก็ยังมีความผูกพันกัน คุณปลาอยากดูแลก็ได้นะ ข้างในคุณปลายังโกรธยังเสียใจหรืออะไรก็ตาม ถ้าไม่อยากให้มีอะไรติดใจให้คิดเราก็ดูแลในฐานะที่เป็นคนรักกัน เเล้วพอเขาฟื้นขึ้นมาก็ค่อยคุยกัยว่าจะยังไงต่อ เราเลือกที่จะมาดูเเลเขาเพราะเห็นแกความรักที่เรามีให้กัน ถ้ามันจะทำให้คุณปลาไม่แค้นนะให้นึกในใจว่านี่คือผลกรรมที่เขาทำ สมมุติเขาฟื้นมาเขาสำนึกได้เเล้วมีการคุยกันมันก็อยู่ที่คุณปลาว่าจะดำเนินความรักนี้ไปต่อหรือหยุดลงมันเป็นที่ตัวคุณปลาเลือกได้เลย’ ส่วน “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าทำโดยความรู้สึกที่อยากทำจะมาเรื่องราวดีๆที่ผ่านกันมา ก็ทำไปด้วยไม่มีปัญหา เเต่ถ้าทำด้วยความรู้สึกผิดหรืออยากจะชดเชยอะไรเนี่ย อันนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปอยู่ ความแค้นหรือเรื่องที่เขาทำกับเราเเล้วยังเจ็บอยู่ในใจเเสดงว่าฝั่งดีมีน้ำหนักมาพอที่ทำให้ปลาอยู่ดูเเลเขา ก็ทำเท่าที่เราไหวครับ สุดท้ายเเล้วเราต้องไม่ทำจนทำร้ายใจเราเองแค่นั้นเอง เป็นกำลังใจให้ครับ’ สุดท้ายนี้...พี่ๆดีเจก็ขอให้แฟนคุณปลาหายเร็วๆด้วย เพราะถ้ายิ่งหายเร็วคุณปลาก็จะสบายขึ้นมได้บทสรุปที่เร็วขึ้นเคลียร์ให้รู้เรื่องรู้ราว เเละเป็นกำลังใจให้กับคุณปลาด้วยนะคะเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1