เจฟ ซาเตอร์ ซาบซึ้งแฟนคลับเคารพชีวิตส่วนตัว หลังถูกนำภาพถ่ายกับหญิงสาวมาจับผิดสถานะ

ENTERTAINMENT NEWS

เจฟ ซาเตอร์ ซาบซึ้งแฟนคลับเคารพชีวิตส่วนตัว หลังถูกนำภาพถ่ายกับหญิงสาวมาจับผิดสถานะ

18 ก.ค. 2024

ก่อนหน้านี้บนโซเชียลมีเดียมีการแชร์ภาพถ่ายของ เจฟ ซาเตอร์ ศิลปินและนักแสดงชื่อดังกับหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งมีการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่าเธอคือ วีวี่ หนึ่งในทีมงานเบื้องหลังของ Studio on Saturn แต่จากภาพถ่ายหลายคนโฟกัสไปที่ความสนิทสนมของทั้งคู่ พร้อมกับตั้งคำถามว่าพวกเขาอยู่ในสถานะคนพิเศษหรือไม่

จากประเด็นดังกล่าวทำให้ เจฟ และ วีวี่ ถูกโจมตีอย่างหนัก เพราะหากย้อนกลับไม่ในการสัมภาษณ์กับสื่อที่ผ่านมา เจฟ ยืนยันตลอดว่าเขาอยู่ในสถานะโสด และจากดราม่าที่เกิดขึ้นทำให้เขาต้องรีบเข้าไปพูดคุยกับแฟนคลับของตัวเอง พร้อมกับอธิบายถึงประเด็นที่หลายคนกำลังตั้งข้อสงสัย แต่ก็กลับรับรู้ได้ถึงพลังของความรักจากแฟน ๆ ที่พร้อมจะเข้าใจและเคารพชีวิตความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์ที่พิเศษกับใครก็ตาม

เจฟ บอกว่ารู้จักและทำงานร่วมกับ วีวี่ มานานกว่า 12 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีสถานะหรืออะไรที่ชัดเจน เป็นความซับซ้อนทางความสัมพันธ์ แต่หากในอนาคตมีการขยับหรือพัฒนาขึ้นจะมาบอกกับทุกคนอย่างแน่นอน

“จริง ๆ ผมไม่ได้จะมายืนยันความชัดเจน ไม่ได้มาบอกเรื่องสเตตัส แต่มายืนยันคำพูด และความจริงในความสัมพันธ์ เสมือนเวลาขึ้นบันไดมีการก้าวไปหนึ่งขั้น แต่ละขั้นจะมีความซับซ้อน มีอะไรระหว่างทาง และผมไม่ได้ชอบที่จะบอกว่าตอนนี้เรากำลังอยู่บันไดขั้นไหน เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว และเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ผมรู้สึกใกล้ชิดกับแฟนคลับมากขึ้น ความรักที่เราเคยคิดว่ามีเท่านี้แต่จริง ๆ มันมีมากกว่าที่เราเห็น”

เจฟ ยังบอกอีกว่าหลังมีข่าวต่าง ๆ ออกไป วีวี่ ก็กังวลเพราะอาจทำให้เกิดผลกระทบกับ เจฟ พร้อมบอกว่าเธอคือผู้หญิงที่เก่ง เธอคือศิลปินที่ต้องการเพียงพื้นที่เงียบ ๆ ให้ทำงาน แต่ขณะเดียวกันก็โล่งใจและเข้าใจว่าคนที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นแย่ ๆ ไม่น่าใช่แฟนคลับ เพราะหากเป็นแฟนคลับจริงจะต้องให้เกียรติคนอื่น

ภาพ : jeffsatur

related ENTERTAINMENT NEWS

ร่วมเชียร์ Jeff Satur ในการแข่งขัน รายการ Call Me by Fire #3 ที่ประเทศจีน ออนแอร์เทปแรก 25 ส.ค.นี้

23 ส.ค. 2023

ร่วมเชียร์ Jeff Satur ในการแข่งขัน รายการ Call Me by Fire #3 ที่ประเทศจีน ออนแอร์เทปแรก 25 ส.ค.นี้

วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคมนี้แล้ว ที่เราจะได้ชมการแข่งขันเทปแรกของรายการ Call Me by Fire Season 3 เรียลลิตี้ค้นหาสุดยอดศิลปินเสียงดีของประเทศจีน โดยปีนี้รวบรวมผู้เข้าแข่งขันซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นศิลปินที่เดบิวต์มีผลงานในวงการบันเทิงระดับหัวกะทิจำนวน 32 คน และหนึ่งในนั้นคือ เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) หนุ่มสุดฮอตเจ้าของเสียงร้องสุดละมุนจากประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันด้วยสำหรับ เจฟ จะต้องผ่านการฝึกฝนพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ และขึ้นโชว์บนสเตจประจำสัปดาห์แบบกลุ่มร่วมกับเพื่อนผู้เข้าแข่งขัน แล้วทำการเสิร์ฟสุดยอดโชว์ เพื่อค้นหาว่าใครจะเป็นผู้ชนะโดยล่าสุดบน YouTube : Call Me by Fire และบน Weibo : @披荆斩棘 มีการปล่อยวิดีโอ EP.0 ออกมาเพื่อแนะนำถึงความน่าสนใจของซีซั่นนี้ รวมถึงแนะนำตัวผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งนอกจาก เจฟ ตัวแทนประเทศไทยแล้ว ซีซั่นนี้ยังได้ต้อนรับ Boyuan อดีตเมมเบอร์วง INTO1 รวมถึง Wei Zhe Ming หนุ่มหล่อที่ฝากผลงานการแสดงซีรีส์มาแล้วมากมายรวมอยู่ด้วยแฟน ๆ สามารถรอติดตามเชียร์และเป็นกำลังใจให้ เจฟ ซาเตอร์ ได้ในรายการ Call Me by Fire โดยจะออกอากาศตอนแรก 25 สิงหาคมนี้ภาพ : Call Me by Fire

เจฟ ซาเตอร์ ประกาศกลางคอนเสิร์ตฯ ออกจากค่าย Be On Cloud โดยจะย้ายไปอยู่ในสังกัด Studio On Saturn ของตัวเอง

26 ก.พ. 2023

เจฟ ซาเตอร์ ประกาศกลางคอนเสิร์ตฯ ออกจากค่าย Be On Cloud โดยจะย้ายไปอยู่ในสังกัด Studio On Saturn ของตัวเอง

เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) ศิลปินและนักแสดงจากเรื่อง ‘KINNPORSCHE THE SERIES’ ออกมาประกาศข่าวกับแฟนคลับและผู้ชมบนเวทีคอนเสิร์ต ‘KINNPORSCHE THE SERIES WORLD TOUR 2022 WTF (WHAT THE FUN)’ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ได้ออกจากการเป็นศิลปินและนักแสดงภายใต้สังกัด Be On Cloud แล้ว โดยจะทำงานภายใต้ค่าย Studio On Saturn ของตัวเอง ส่วนงานเพลงก็ยังคงเดินหน้าต่อไปในฐานะศิลปินในสังกัด Warner Music Thailandโดย ปอนด์-กฤษดา วิทยาขจรเดช ผู้บริหารค่าย Be On Cloud ได้แจ้งบนเวทีว่า“หลังจากนี้เจฟจะดูแลตัวเองแล้วนะครับ เขามีค่ายของเขาที่เตรียมมาสักพักแล้ว อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กับเจฟกับStudio On Saturn ทุกคนน่าจะได้เห็นแล้วว่าเจฟพร้อมแล้ว ผมเลยถือโอกาสนี้อยากบอกทุกคนว่า ต่อให้เจฟจะไม่ได้อยู่ Be On Cloud แต่เมฆกับดาวเสาร์มันก็ไม่ได้ไกลกันนะครับ”ขณะที่ เจฟ ก็ได้เปิดใจด้วยการขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในการเดินทางครั้งนี้ พร้อมขอบคุณเพื่อนๆ นักแสดง และแฟนคลับ โดยเฉพาะพี่ปอนด์ให้ฐานะพี่ชายที่คอยสนับสนุนว่า“ขอบคุณพี่ปอนด์ที่เป็นก้าวแรกให้ผมเสมอในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะกับตัวละคร ‘คิม’ ที่มันไม่มีบทเล่นดนตรีด้วยซ้ำ พี่ก็เขียนมันขึ้นมาเพื่อให้ไม่ใช่แค่ ‘คิม’ ที่ไชน์ แต่เจฟ ซาเตอร์ได้ไชน์ด้วย ทุกครั้งที่มันมีปัญหา ก็จะเป็นพี่ปอนด์มารับกระสุนแทนเสมอ และพี่ปอนด์จะพูดเสมอว่า อย่าถือว่านี่เป็นบุญคุณ เพราะผมควรได้รับสิ่งนี้”ภาพ : Warner Music Thailand

อิงฟ้า และ เจฟ เล่าถึงความท้าทายในฐานะนักแสดง กับผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก ‘วิมานหนาม’

22 ส.ค. 2024

อิงฟ้า และ เจฟ เล่าถึงความท้าทายในฐานะนักแสดง กับผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก ‘วิมานหนาม’

เลิกงานวันนี้แวะซื้อตั๋วเดินเข้าโรงภาพยนตร์ไปชม ‘วิมานหนาม’ ผลงานชิ้นใหม่จากค่าย GDH ฝีมือผู้กำกับ บอส-นฤเบศ กูโน ที่หยิบประเด็นความไม่เท่าเทียมมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ สู่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ว่าด้วยการแย่งชิงเพื่อครอบครองมรดก ซึ่งเปรียบดั่งวิมานในฝัน และเป็นครั้งแรกของการประชันฝีมือระหว่าง เจฟ ซาเตอร์ และ อิงฟ้า วราหะ บนจอเงินโดย อิงฟ้า ออกมาเขียนถึงความรู้สึกและความท้าทายของผลงานชิ้นนี้ว่า จาก day 1 ของการทำงาน จนถึงวันนี้ที่หนังเข้าฉายแล้ว หลายสิ่งเกิดขึ้นเพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวละคร ‘โหม๋’ ก็เป็นเครื่องพิสูจน์เธอในฐานะนักแสดงภาพยนตร์เช่นกัน ชนิดที่วันสุดท้ายของการถ่ายทำ เธอถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ยืนร้องไห้หน้าบ้านสวนทุเรียน เพราะเรื่องราวของตัวละครออกจากใจได้ยากเหลือเกิน และเชื่อว่าคนที่ได้ชมหนังเรื่องนี้ก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกันทางด้าน เจฟ ซาเตอร์ ก็แชร์ความรู้สึกต่อผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกเช่นกันว่า ไม่คิดฝันมาก่อนว่าจะได้รู้จักกับ ‘ทองคำ’ ตัวละครที่เขาต้องเข้าไปสวมบทบาท สิ่งที่อยากให้หนังเรื่องนี้ทำงานกับคนดูไม่ใช่แค่การส่งต่อเรื่องราว และโอบกอดความรู้สึกของตัวละคร แต่อยากลดระยะความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้นในสังคม“ไม่คิดว่าวันนึงจะได้มารู้จักกับทองคำ ตลอดเวลาการถ่ายทำเราคุยกันตลอด ถึงชีวิตของเขาและสิ่งที่เขาอยากจะพูดให้ทุกคนได้ยินผ่านเรื่องราวที่ผมทำได้เพียงโอบกอดความรู้สึกเหล่านั้น ก่อนจะส่งผ่านมันออกไปผ่านการแสดง“ตลอดการถ่ายทำ ผมอ่านไดอารี่ที่มีชื่อว่าความฝันของทองคำที่ผมเขียนเอง เพื่อให้รู้จักเขามากขึ้น แต่ระหว่างการถ่ายทำมันก็ทำให้ผมรู้ว่ามีอีกหลายอย่างที่ผมไม่เคยรู้เลย เขาเป็นทั้งเพื่อนสนิทและคนแปลกหน้าในเวลาเดียวกัน มุมหนึ่งห่างเพียงฝ่ามือเอื้อมอีกมุมห่างจนมองเห็นเพียงเงาลาง ๆ“ในวันที่จากลากันแม้เราจะไม่ได้เจอกันอีก แต่ผมรู้แน่ว่าผมจะได้พบเขาอีกบนจอภาพยนต์เรื่องนี้ ที่นั่นเขาจะเป็นนิรันดร์ เช่นเดียวความข้อความที่เขาอยากจะพูด หวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะลดระยะความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้นลง ผ่านชีวิตของทุกตัวละครในเรื่องและทุกตัวอักษรในบท”พร้อมกันนี้ยังขอบคุณไปยังทุก ๆ คนที่เข้ามามีส่วนในการช่วยให้เกิดผลงานชิ้นนี้ และขอให้แฟน ๆ ทุกคนสนุกไปกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในภาพยนตร์ ‘วิมานหนาม’ เข้าฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์ภาพ : GDH

เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

29 ส.ค. 2023

เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

GDH ออกมาอัปเดตความคืบหน้าของ Project D (Working Title) หนึ่งในโปรเจกต์ภาพยนตร์ชิ้นใหม่ของ GDH ผลงานของผู้กำกับ บอส-นฤเบศ กูโน ว่าจะกลับมาเริ่มกระบวนการทำงานอีกครั้ง หลังต้องระงับการทำงานไปชั่วคราว โดยมีความเปลี่ยนแปลงลิสของนักแสดงซึ่งครั้งนี้ได้ เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) ศิลปินและนักแสดงมากความสามารถมารับบทนำคู่กับ อิงฟ้า วราหะ“บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ขอประกาศอัปเดตความคืบหน้าของภาพยนตร์ โปรเจกต์ D (Working Title) ซึ่งทางบริษัทมีเหตุจำเป็นต้องระงับการถ่ายทำไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่ลงตัวของระยะเวลาในการเตรียมงาน“ซึ่งทางบริษัทฯ ผู้กำกับภาพยนตร์ และทีมงานที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์นี้ ได้ใช้เวลาในช่วงที่ผ่านมาในการแก้ไขปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ ของบทภาพยนตร์จนสมบูรณ์เรียบร้อย ทางบริษัทฯ จึงขอแจ้งให้แฟน ๆ ทราบว่า ขณะนี้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวกำลังจะเข้าสู่กระบวนการเตรียมงานก่อนการถ่ายทำจริงแล้ว โดยทีมนักแสดงหลักทั้ง 5 ท่าน ได้แก่ เจฟ ซาเตอร์, อิงฟ้า วราหะ, พงศกร เมตตาริกานนท์, หฤษฎ์ บัวย้อย และ สีดา พัวพิมล จะเริ่มทำการเวิร์กช็อปร่วมกัน เพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดกล้องที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้“ทางบริษัทฯ ขอขอบคุณแฟนๆ ที่ให้ความสนใจรอชมภาพยนตร์เรื่องนี้ และให้การสนับสนุนที่ดีเสมอมา”สำหรับ Project D ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน GDH Line Up 2023 นำแสดงโดย พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร แต่เนื่องด้วยระยะเวลาในการเตรียมงาน รวมถึงสถานที่ที่ไม่ลงตัว ทำให้ต้องระงับการถ่ายทำไปชั่วคราว ขณะที่แฟนคลับเองก็แอบเสียดายที่จะไม่ได้เห็นฝีมือการแสดงภาพยนตร์ของ พีพี แต่ก็เคารพการตัดสินใจของทุกฝ่ายทางด้าน เจฟ ซาเตอร์ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้แล้วว่า เป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมงานกับทาง GDH และนักแสดงทุกคนในเรื่อง ส่วนตัวเขารู้สึกว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก รวมถึงประเด็นหลักของเรื่องที่จะพูดถึงก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจทีเดียว“จริงๆ เราคุยกันมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว พอได้เห็นตัวบทก็รู้สึกว่ามันท้าทายมาก หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปแคสต์กับพี่บอสผู้กำกับ ความน่าสนใจของตัวบทคือ มีการพูดถึงประเด็นที่น่าสนใจมาก ๆ ซึ่งเกี่ยวกับ LGBT ด้วย แล้วมันเป็นประเด็นที่ผมพูดมาตลอด เรารู้สึกว่าก็ดีนะถ้าเราจะได้เป็นตัวแทนในการพูดถึงเรื่องนี้แทนคนที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ รวมถึงไดนามิกของเรื่องมันค่อย ๆ ไล่ไปจนถึงจุดที่มันไม่น่าจะไปถึงได้“ตอนแรกผมก็รู้สึกกังวลว่าผมเหมาะหรือเปล่า ซึ่งผู้ใหญ่บอกว่าจากการได้ดูวิดีโอแคสต์ก็รู้สึกว่านี่เป็นเวอร์ชั่นที่เขาอยากจะเห็นในหนังเรื่องนี้ ตอนแรกที่ผมกังวลเพราะตัวบทมันท้าทายมาก แล้วผมอาจจะมีเวลาเตรียมตัวไม่ได้เยอะขนาดนั้น แล้วการที่จะต้องทรานส์ฟอร์มตัวเองไปเป็นคนอื่นมันก็ยาก การทำงานเพลงมันคือการเป็นตัวเรา แต่งานหนังมันเป็นการทิ้งตัวเราแล้วไปเป็นคนอื่น“ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันกดดันอะไรในเรื่องนี้ แต่ถ้าจะกดดันผมกดดันกับเรื่องบทมากกว่า ในฐานะเป็นนักแสดงสิ่งที่ต้องทำการบ้านจริง ๆ คือตัวบท แล้วเราจะไปเป็นคนคนนั้นในหนังเรื่องนี้ได้ยังไง”เจฟ ยังบอกอีกว่า คาแร็กเตอร์ในเรื่องนี้ถือว่าเป็นที่สุดของการทรานส์ฟอร์มตัวเอง เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่แฟน ๆ ได้เห็นเขาในลุคผิวดำและต้องโกนหัว ซึ่งเขามองว่าหากจะต้องไปเป็นคนอื่น ก็ต้องทิ้งตัวตนของตัวเองไว้ที่หน้าเซ็ตแล้วเข้าไปในโลกของตัวละครนั้นจริง ๆ ต้องรอดูว่าฝีมือการแสดงของเขาจะออกมาเป็นยังไง แต่ที่แน่ ๆ เจฟ ก็ทุ่มสุดตัวเลยทีเดียวภาพ : Wayfer Records

album

0
0.8
1