เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

ENTERTAINMENT NEWS

เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

29 ส.ค. 2023

GDH ออกมาอัปเดตความคืบหน้าของ Project D (Working Title) หนึ่งในโปรเจกต์ภาพยนตร์ชิ้นใหม่ของ GDH ผลงานของผู้กำกับ บอส-นฤเบศ กูโน ว่าจะกลับมาเริ่มกระบวนการทำงานอีกครั้ง หลังต้องระงับการทำงานไปชั่วคราว โดยมีความเปลี่ยนแปลงลิสของนักแสดงซึ่งครั้งนี้ได้ เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) ศิลปินและนักแสดงมากความสามารถมารับบทนำคู่กับ อิงฟ้า วราหะ

“บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ขอประกาศอัปเดตความคืบหน้าของภาพยนตร์ โปรเจกต์ D (Working Title) ซึ่งทางบริษัทมีเหตุจำเป็นต้องระงับการถ่ายทำไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่ลงตัวของระยะเวลาในการเตรียมงาน

“ซึ่งทางบริษัทฯ ผู้กำกับภาพยนตร์ และทีมงานที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์นี้ ได้ใช้เวลาในช่วงที่ผ่านมาในการแก้ไขปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ ของบทภาพยนตร์จนสมบูรณ์เรียบร้อย ทางบริษัทฯ จึงขอแจ้งให้แฟน ๆ ทราบว่า ขณะนี้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวกำลังจะเข้าสู่กระบวนการเตรียมงานก่อนการถ่ายทำจริงแล้ว โดยทีมนักแสดงหลักทั้ง 5 ท่าน ได้แก่ เจฟ ซาเตอร์, อิงฟ้า วราหะ, พงศกร เมตตาริกานนท์, หฤษฎ์ บัวย้อย และ สีดา พัวพิมล จะเริ่มทำการเวิร์กช็อปร่วมกัน เพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดกล้องที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้

“ทางบริษัทฯ ขอขอบคุณแฟนๆ ที่ให้ความสนใจรอชมภาพยนตร์เรื่องนี้ และให้การสนับสนุนที่ดีเสมอมา”

สำหรับ Project D ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน GDH Line Up 2023 นำแสดงโดย พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร แต่เนื่องด้วยระยะเวลาในการเตรียมงาน รวมถึงสถานที่ที่ไม่ลงตัว ทำให้ต้องระงับการถ่ายทำไปชั่วคราว ขณะที่แฟนคลับเองก็แอบเสียดายที่จะไม่ได้เห็นฝีมือการแสดงภาพยนตร์ของ พีพี แต่ก็เคารพการตัดสินใจของทุกฝ่าย

ทางด้าน เจฟ ซาเตอร์ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้แล้วว่า เป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมงานกับทาง GDH และนักแสดงทุกคนในเรื่อง ส่วนตัวเขารู้สึกว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก รวมถึงประเด็นหลักของเรื่องที่จะพูดถึงก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจทีเดียว

“จริงๆ เราคุยกันมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว พอได้เห็นตัวบทก็รู้สึกว่ามันท้าทายมาก หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปแคสต์กับพี่บอสผู้กำกับ ความน่าสนใจของตัวบทคือ มีการพูดถึงประเด็นที่น่าสนใจมาก ๆ ซึ่งเกี่ยวกับ LGBT ด้วย แล้วมันเป็นประเด็นที่ผมพูดมาตลอด เรารู้สึกว่าก็ดีนะถ้าเราจะได้เป็นตัวแทนในการพูดถึงเรื่องนี้แทนคนที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ รวมถึงไดนามิกของเรื่องมันค่อย ๆ ไล่ไปจนถึงจุดที่มันไม่น่าจะไปถึงได้

“ตอนแรกผมก็รู้สึกกังวลว่าผมเหมาะหรือเปล่า ซึ่งผู้ใหญ่บอกว่าจากการได้ดูวิดีโอแคสต์ก็รู้สึกว่านี่เป็นเวอร์ชั่นที่เขาอยากจะเห็นในหนังเรื่องนี้ ตอนแรกที่ผมกังวลเพราะตัวบทมันท้าทายมาก แล้วผมอาจจะมีเวลาเตรียมตัวไม่ได้เยอะขนาดนั้น แล้วการที่จะต้องทรานส์ฟอร์มตัวเองไปเป็นคนอื่นมันก็ยาก การทำงานเพลงมันคือการเป็นตัวเรา แต่งานหนังมันเป็นการทิ้งตัวเราแล้วไปเป็นคนอื่น

“ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันกดดันอะไรในเรื่องนี้ แต่ถ้าจะกดดันผมกดดันกับเรื่องบทมากกว่า ในฐานะเป็นนักแสดงสิ่งที่ต้องทำการบ้านจริง ๆ คือตัวบท แล้วเราจะไปเป็นคนคนนั้นในหนังเรื่องนี้ได้ยังไง”

เจฟ ยังบอกอีกว่า คาแร็กเตอร์ในเรื่องนี้ถือว่าเป็นที่สุดของการทรานส์ฟอร์มตัวเอง เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่แฟน ๆ ได้เห็นเขาในลุคผิวดำและต้องโกนหัว ซึ่งเขามองว่าหากจะต้องไปเป็นคนอื่น ก็ต้องทิ้งตัวตนของตัวเองไว้ที่หน้าเซ็ตแล้วเข้าไปในโลกของตัวละครนั้นจริง ๆ ต้องรอดูว่าฝีมือการแสดงของเขาจะออกมาเป็นยังไง แต่ที่แน่ ๆ เจฟ ก็ทุ่มสุดตัวเลยทีเดียว

ภาพ : Wayfer Records

related ENTERTAINMENT NEWS

แฟนคลับแสดงความห่วงใย หลัง เจฟ ซาเตอร์ เผยว่าเขาโหมงานหนักจนทานข้าวเพียง 1 มื้อต่อวัน

31 ต.ค. 2024

แฟนคลับแสดงความห่วงใย หลัง เจฟ ซาเตอร์ เผยว่าเขาโหมงานหนักจนทานข้าวเพียง 1 มื้อต่อวัน

เป็นศิลปินสุดฮอตควบตำแหน่งพระเอกร้อยล้าน สำหรับ เจฟ ซาเตอร์ หลังจากที่พิสูจน์ฝีมือทางการแสดงมาแล้วผ่านผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก ‘วิมานหนาม’ ล่าสุดถึงเวลากลับมาโฟกัสที่ผลงานเพลง โดย เจฟ เพิ่งโพสต์ภาพของเขาขณะที่กำลังอยู่ในสตูดิโอทำเพลง เป็นสัญญาณเกี่ยวกับผลงานเพลงใหม่ที่น่าจะปล่อยออกมาให้แฟน ๆ ได้ฟังกันในอีกไม่นานนี้เจฟ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงโปรเจกต์ใหม่ที่แฟน ๆ จะได้ติดตามกันในปี 2568 ว่า มีหลากหลายผลงานที่เตรียมปล่อยออกมาให้แฟน ๆ ได้ติดตาม ทั้งงานแสดงและงานเพลง ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการทำงาน คือ เจฟ เล่าว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เขามีโอกาสได้ทำงานที่หลากหลาย โดยคิวงานตอนนี้ยาวไปถึงเดือนมีนาคมปีหน้า และหากแพลนรวม ๆ ก็สามารถบอกได้เลยว่ายาวไปถึงปีใหม่ของปีหน้าด้วย นั่นจึงทำให้เขาพยายามบาลานซ์การทำงานกับการพักผ่อนให้ได้ดี แม้จะมีบางวันที่เขามีเวลาทานอาหารเพียง 1 มื้อต่อวันเท่านั้น“สำหรับผมการได้ทำงานที่เรา คือการพักผ่อนไปในตัวด้วยครับ เอาจริง ๆ ก็ได้นอนอยู่นะ ผมก็พยายามแบ่งเวลาให้ดีเพื่อให้เรามีเวลานอนครบ 8 ชั่วโมง ถ้ามีโอกาสผมก็จะเข้าไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพอยู่เรื่อย ๆ ครับ เพียงแต่ช่วงนี้ก็อาจจะมีบ้างที่นอนไม่พอ กินอาหารไม่ครบ เพราะบางทีเราตื่นสายบ้าง ทำให้เราลืมที่จะทานอาหาร เพราะเราต้องทำงานเลย ทำให้ได้ทานข้าวมื้อเดียวในวันนั้น”โดยมีแฟนคลับจำนวนมากแสดงความห่วงใยต่อ เจฟ หลังทราบว่าเขาโหมทำงานจนทำให้มีเวลาพักผ่อนน้อย และทานอาหารน้อย พร้อมทั้งส่งกำลังใจให้เขาสามารถบาลานซ์โหมดการทำงาน กับโหมดชีวิตส่วนตัวให้ดีภาพ : Jeff Satur

เต๋อ นวพล เปิดตัวธีมโปสเตอร์หนังเรื่องใหม่ “FAST & FEEL LOVE เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ” ก่อนเปิดโรงไปฟาสต์พร้อมกัน 6 เมษายนนี้

10 มี.ค. 2022

เต๋อ นวพล เปิดตัวธีมโปสเตอร์หนังเรื่องใหม่ “FAST & FEEL LOVE เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ” ก่อนเปิดโรงไปฟาสต์พร้อมกัน 6 เมษายนนี้

เป็นผลงานที่คอหนังเฝ้ารอมากที่สุด สำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ กับค่าย GDH อย่าง “FAST FEEL LOVE เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ” หลังจากสร้างปรากฏการณ์เซอร์ไพรส์ผู้ชม ด้วยการปล่อย Official Teaser ออกมาเป็นน้ำจิ้มเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับกระแสจากแฟนๆ ว่า นี่คือผลงานที่อยู่เหนือทุกการคาดเดา และฉีกทุกกฏเกณฑ์ของหนังไทย โดยล่าสุด GDH ได้เปิดตัวธีมโปสเตอร์ของ “FAST FEEL LOVE เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ” ภาพยนตร์แอ็คชั่นในชีวิตประจำวัน ของผู้กำกับขวัญใจเด็กแนว ที่นำแสดงโดย นัท-ณัฏฐ์ กิจจริต, ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์, โปเต้-อนุสรา กอสัมพันธ์ และ ปริมมี่-วิพาวีร์ พัทธณ์ศิริ เต๋อ นวพล เผยว่า “FAST FEEL LOVE เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันในวัย 30+ ที่มีผลต่อความเร็ว ความฝัน และความรัก ซึ่งเราจะได้เห็นบทบาทใหม่ๆ ของนัท กับ ญาญ่า รวมถึงนักแสดงท่านอื่นๆ ผมพูดได้คำเดียวว่าห้ามพลาด แต่ละคนโชว์สกิลการแสดงที่ไม่ทำให้ผมผิดหวังเลย เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ” “FAST FEEL LOVE เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ” ปฐมบทแอ็คชั่นจากผู้กำกับ เต๋อ นวพล เตรียมตัวฟาสต์พร้อมกันทั่วประเทศ 6 เมษายนนี้ ในโรงภาพยนตร์ภาพ : GDH

ดู๋ สัญญา เผยว่าความรู้สึกหลัง หลานม่า เป็น 1 ใน 15 ผลงานที่ผ่านเข้ารอบ ลุ้นเป็น 5 เรื่องสุดท้ายชิงออสการ์

26 ธ.ค. 2024

ดู๋ สัญญา เผยว่าความรู้สึกหลัง หลานม่า เป็น 1 ใน 15 ผลงานที่ผ่านเข้ารอบ ลุ้นเป็น 5 เรื่องสุดท้ายชิงออสการ์

ระหว่างที่คณะกรรมการจาก สถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์ (The Academy) กำลังพิจารณาและให้คะแนน เพื่อตัดสินว่าภาพยนตร์เรื่องใดจะเป็น 5 เรื่องสุดท้ายในฐานะนอมินีชิงรางวัลออสการ์ สาขา ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมประจำปีนี้ ดู๋-สัญญา คุณากร นักแสดงมากความสามารถผู้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ หลานม่า (How To Make Millions before Grandma Dies) ผลงานตัวแทนประเทศไทยที่สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปเป็น 15 เรื่องสุดท้าย ก็ให้สัมภาษณ์ถึงความภาคภูมิใจที่เกิดขึ้นกับวงการหนังไทย“ผมว่านี่ก็ทะลุความตั้งใจไปเยอะ ตอนแรกแค่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในฐานะตัวแทนหนังไทยเราก็ดีใจแล้วครับ แต่ตอนนี้พอเข้าไปอยู่ใน 15 เรื่องสุดท้าย ก่อนที่จะไปถึง 5 นอมินี ผมว่าเป็นความรู้สึกที่ดี เป็นชัยชนะในใจของทุกคนแล้วครับ ผมว่าหนังไทยไม่ใช่แค่เรื่องหลานม่า ก่อนหน้านี้เราก็มีผลงานดี ๆ ที่น่าประทับใจ ให้ความรู้สึกว่าไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติไหน แน่นอนว่าคนทั้งโลกก็มีของดีเป็นของตัวเอง สักวันก็ต้องมีวันนั้น เหมือนวงการกีฬาได้เหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรก วงการหนังก็ต้องมีวันนั้น เอาใจช่วยกันไปเรื่อย ๆ หนังไทยไม่สามารถไปต่อได้ด้วยรางวัล แต่ไปต่อได้การการสนับสนุนจากคนไทย หนังจะไปได้จากคนไทยดูก่อน แล้วนานาชาติช่วยกันดูมันก็จะไปต่อได้ อยากให้กำลังใจคนทำหนังทุกคน“ผมไม่ได้เก่งเรื่องการวิเคราะห์หนัง ผมพูดในฐานะคนดูหนังไทยคนหนึ่ง ผมเคยอ่านนิยายกำลังภายในจีนซึ่งมีประโยคหนึ่งที่ตรงกับหลานม่า เขาบอกว่า ‘สูงสุดคืนสู่สามัญ’ เราพัฒนาความซับซ้อนของเทคนิคขึ้นไปเรื่อย ๆ เหมือนมือกระบี่ที่เก่งขึ้นเรื่อย ๆ จนวันหนึ่งกลายเป็นท่าที่ดูเบาเบา ดูธรรมดา ไม่ได้พยายามเข้น พยายามขยี้ แต่มันเกิดสิ่งนั้นขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ คือ ความซาบซึ้ง ความประทับใจที่ไม่ได้ถูกเข็น หลานม่าไม่ได้สร้างมาให้ร้องไห้ สร้างมาให้มันรีเลทกับเรื่องราวของแต่ละบุคคล ผมดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบเล็ก ๆ ที่ทำให้หนังไปถึงตรงนั้นครับ”มาร่วมลุ้นและเอาใจช่วยให้หนังไทยอย่าง หลานม่า ทะลุผ่านเข้าไปยืนเป็นผลงาน 5 เรื่องสุดท้ายเพื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขา ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม โดยจะมีการเผยรายชื่อผลงาน 5 เรื่องในฐานะนอมินีวันที่ 17 มกราคมที่จะถึงนี้ภาพ : GDH

Thailand Box Office เปิดตัวเลขรายได้ช่วงหยุดยาวของภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ กวาดไปราววันละกว่า 30 ล้านบาท มุ่งหน้าสู่หนัง 100 ล้าน!

07 เม.ย. 2024

Thailand Box Office เปิดตัวเลขรายได้ช่วงหยุดยาวของภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ กวาดไปราววันละกว่า 30 ล้านบาท มุ่งหน้าสู่หนัง 100 ล้าน!

เรียกว่ามาได้ถูกจังหวะและเวลามาก ๆ สำหรับ ‘หลานม่า’ ภาพยนตร์ดราม่าครอบครัวเรื่องแรกของปี 2567 จากค่าย GDH เปิดตัวแรงพร้อมสร้างปรากฏการณ์ทั่วโลกออนไลน์ ไม่เพียงเท่านั้นความดังของหนังยังเป็นที่พูดถึงในแง่ของความทัชใจ และคุณภาพที่กลมกล่องลงตัวตั้งแต่วันแรกของการเข้าฉายก่อนหน้านี้ทาง GDH ได้ออกมาเปิดเผยรายได้เปิดตัว ‘หลานม่า’ 4 เมษายนที่ผ่านมาว่า เป็นหนัง GDH ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงที่สุดในอันดับที่ 4 อยู่ที่ 21 ล้านบาท เป็นรอง ‘ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค’ (55 ล้านบาท), ‘บุพเพสันนิวาส 2’ (51 ล้านบาท) และ ‘Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน’ (24 ล้านบาท)แต่นั่นเป็นเพียงรายได้เปิดตัวเท่านั้น เพราะหลายคนจับตามองว่า หากกระแสของหนังยังทำงานกับใจคนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นปากต่อปาก บวกกับจังหวะการเข้าฉายตรงกับช่วงวันหยุดยาว และบรรยกาศวันครอบครัวแบบนี้ น่าจะช่วยกระตุ้นให้รายได้ของภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ ทะลุผ่านหลัก 200 ล้านบาทได้แบบไม่ยากนักทางด้าน Thailand Box Office ก็ออกมาเปิดเผยรายได้ของ ‘หลานม่า’ ว่ายังสามารถทำเงินอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวนี้ (วันเสาร์กวาดรายได้ไปกว่า 30 ล้านบาท และวันอาทิตย์กวาดรายได้ไปกว่า 40 ล้านบาท) ทำให้ตอนนี้มุ่งหน้าสู่ 100 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้วกระแสของหนังถูกพูดถึงไปในทิศทางเดียวกันนั้นคือ เป็นผลงานคืนฟอร์มของ GDH ที่คนดูประทับใจกับทุกสิ่งที่ผู้กำกับอย่าง พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผสมผสานให้เข้ากันได้อย่างกลมกล่อมลงตัว อีกทั้งยังหยิบเอาเรื่องราวใกล้ตัวมานำเสนอได้อย่างลึกซึ้ง ถ่ายทอดผ่านฝีมือการแสดงชั้นยอดของ บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล, ดู๋-สัญญา คุณากร, เผือก-พงศธร จงวิลาส, เจีย-สฤญรัตน์ โทมัส, ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล โดยเฉพาะ คุณยายแต๋ว-อุษา เสมคำ น้องใหม่อายุ 76 ปี ที่ช่วยสื่อสารบทต่าง ๆ ให้เข้าถึงคนดูอย่างตรงใจและเป็นธรรมชาติไปซาบซึ้งด้วยกันกับภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ภาพ : GDH

album

0
0.8
1