ร่วมเชียร์ Jeff Satur ในการแข่งขัน รายการ Call Me by Fire #3 ที่ประเทศจีน ออนแอร์เทปแรก 25 ส.ค.นี้

ENTERTAINMENT NEWS

ร่วมเชียร์ Jeff Satur ในการแข่งขัน รายการ Call Me by Fire #3 ที่ประเทศจีน ออนแอร์เทปแรก 25 ส.ค.นี้

23 ส.ค. 2023

วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคมนี้แล้ว ที่เราจะได้ชมการแข่งขันเทปแรกของรายการ Call Me by Fire Season 3 เรียลลิตี้ค้นหาสุดยอดศิลปินเสียงดีของประเทศจีน โดยปีนี้รวบรวมผู้เข้าแข่งขันซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นศิลปินที่เดบิวต์มีผลงานในวงการบันเทิงระดับหัวกะทิจำนวน 32 คน และหนึ่งในนั้นคือ เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) หนุ่มสุดฮอตเจ้าของเสียงร้องสุดละมุนจากประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันด้วย

สำหรับ เจฟ จะต้องผ่านการฝึกฝนพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ และขึ้นโชว์บนสเตจประจำสัปดาห์แบบกลุ่มร่วมกับเพื่อนผู้เข้าแข่งขัน แล้วทำการเสิร์ฟสุดยอดโชว์ เพื่อค้นหาว่าใครจะเป็นผู้ชนะ

โดยล่าสุดบน YouTube : Call Me by Fire และบน Weibo : @披荆斩棘 มีการปล่อยวิดีโอ EP.0 ออกมาเพื่อแนะนำถึงความน่าสนใจของซีซั่นนี้ รวมถึงแนะนำตัวผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งนอกจาก เจฟ ตัวแทนประเทศไทยแล้ว ซีซั่นนี้ยังได้ต้อนรับ Boyuan อดีตเมมเบอร์วง INTO1 รวมถึง Wei Zhe Ming หนุ่มหล่อที่ฝากผลงานการแสดงซีรีส์มาแล้วมากมายรวมอยู่ด้วย

แฟน ๆ สามารถรอติดตามเชียร์และเป็นกำลังใจให้ เจฟ ซาเตอร์ ได้ในรายการ Call Me by Fire โดยจะออกอากาศตอนแรก 25 สิงหาคมนี้

ภาพ : Call Me by Fire

related ENTERTAINMENT NEWS

แฟนคลับแสดงความห่วงใย หลัง เจฟ ซาเตอร์ เผยว่าเขาโหมงานหนักจนทานข้าวเพียง 1 มื้อต่อวัน

31 ต.ค. 2024

แฟนคลับแสดงความห่วงใย หลัง เจฟ ซาเตอร์ เผยว่าเขาโหมงานหนักจนทานข้าวเพียง 1 มื้อต่อวัน

เป็นศิลปินสุดฮอตควบตำแหน่งพระเอกร้อยล้าน สำหรับ เจฟ ซาเตอร์ หลังจากที่พิสูจน์ฝีมือทางการแสดงมาแล้วผ่านผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก ‘วิมานหนาม’ ล่าสุดถึงเวลากลับมาโฟกัสที่ผลงานเพลง โดย เจฟ เพิ่งโพสต์ภาพของเขาขณะที่กำลังอยู่ในสตูดิโอทำเพลง เป็นสัญญาณเกี่ยวกับผลงานเพลงใหม่ที่น่าจะปล่อยออกมาให้แฟน ๆ ได้ฟังกันในอีกไม่นานนี้เจฟ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงโปรเจกต์ใหม่ที่แฟน ๆ จะได้ติดตามกันในปี 2568 ว่า มีหลากหลายผลงานที่เตรียมปล่อยออกมาให้แฟน ๆ ได้ติดตาม ทั้งงานแสดงและงานเพลง ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการทำงาน คือ เจฟ เล่าว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เขามีโอกาสได้ทำงานที่หลากหลาย โดยคิวงานตอนนี้ยาวไปถึงเดือนมีนาคมปีหน้า และหากแพลนรวม ๆ ก็สามารถบอกได้เลยว่ายาวไปถึงปีใหม่ของปีหน้าด้วย นั่นจึงทำให้เขาพยายามบาลานซ์การทำงานกับการพักผ่อนให้ได้ดี แม้จะมีบางวันที่เขามีเวลาทานอาหารเพียง 1 มื้อต่อวันเท่านั้น“สำหรับผมการได้ทำงานที่เรา คือการพักผ่อนไปในตัวด้วยครับ เอาจริง ๆ ก็ได้นอนอยู่นะ ผมก็พยายามแบ่งเวลาให้ดีเพื่อให้เรามีเวลานอนครบ 8 ชั่วโมง ถ้ามีโอกาสผมก็จะเข้าไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพอยู่เรื่อย ๆ ครับ เพียงแต่ช่วงนี้ก็อาจจะมีบ้างที่นอนไม่พอ กินอาหารไม่ครบ เพราะบางทีเราตื่นสายบ้าง ทำให้เราลืมที่จะทานอาหาร เพราะเราต้องทำงานเลย ทำให้ได้ทานข้าวมื้อเดียวในวันนั้น”โดยมีแฟนคลับจำนวนมากแสดงความห่วงใยต่อ เจฟ หลังทราบว่าเขาโหมทำงานจนทำให้มีเวลาพักผ่อนน้อย และทานอาหารน้อย พร้อมทั้งส่งกำลังใจให้เขาสามารถบาลานซ์โหมดการทำงาน กับโหมดชีวิตส่วนตัวให้ดีภาพ : Jeff Satur

เจฟ ซาเตอร์ ชื่นชม ไบร์ท วชิรวิชญ์ เป็นศิลปินที่เปี่ยมด้วยแพสชัน ห่วงสภาพจิตใจหลังเกิดดราม่า

13 มิ.ย. 2024

เจฟ ซาเตอร์ ชื่นชม ไบร์ท วชิรวิชญ์ เป็นศิลปินที่เปี่ยมด้วยแพสชัน ห่วงสภาพจิตใจหลังเกิดดราม่า

กระแสหลังจบการแสดง ‘The Kingdoms Concert’ ดูจะเทไปทาง ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี อย่างหนักหน่วง โดยเขาถูกวิจารณ์ว่าเป็นนักร้องเสียงเพี้ยน จากการแสดงทั้งในพาร์ตเดี่ยวของตัวเอง และชัดเจนที่สุดในพาร์ตที่ต้องร้องร่วมกับเพื่อนศิลปินทั้ง นนท์ ธนนท์, เจฟ ซาเตอร์ และ THE TOYS จนถูกเปรียบเทียบเรื่องศักยภาพ จนเขาต้องออกมาขอโทษผู้ชมในช่วงท้ายคอนเสิร์ตล่าสุด เจฟ ซาเตอร์ หนึ่งในศิลปินหลักของคอนเสิร์ตนี้ได้ออกมาพูดถึงกระแสที่เกิดขึ้น ทั้งขอบคุณการสนับสนุนจากผู้ชม และแฟนคลับจากทุกด้อม เพื่อนศิลปินที่ทุ่มเทและตั้งใจกันอย่างเต็มที่ พร้อมกับใช้พื้นที่นี้กล่าวชื่นชม ไบร์ท ว่าเป็นศิลปินที่เปี่ยมไปด้วยแพสชัน“ไบร์ทเป็นคนที่พยายามมากครับ ผมเชียร์อัพน้องตลอดรวมถึงติดตามผลงานของเขาด้วย ไบร์ทก็เป็นไบร์ทในแบบที่ดีที่สุด บอกพี่ผมทำได้ ผมจะทำให้ดีขึ้น ซึ่งก็อย่างที่ทุกคนได้เห็นวันที่ 2 ไบร์ทร้องดีขึ้นมาก น้องตั้งใจมาก ผมไม่เชื่อว่าเพลงไหนจะมีเวอร์ชันดีที่สุดเวอร์ชันเดียว ผมไม่เชื่อว่าเวอร์ชันผมคือดีที่สุดแล้วผมว่าทุกคนมีรสนิยมในการฟังเพลงที่แตกต่างกัน ทุกความเพราะ ทุกบทเพลงขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะชอบไม่ชอบมากกว่า ยอมรับว่าเป็นห่วงเขาครับ แต่เชื่อว่าไบร์ทเข้มแข็งมาก พวกเราทุกคนเห็นเขาเต็มที่ในทุก ๆ งานที่เขาได้โอกาสในการแสดงความสามารถครับ”ภาพ : LOVEiS ENTERTAINMENT

เจฟ ซาเตอร์ ประกาศกลางคอนเสิร์ตฯ ออกจากค่าย Be On Cloud โดยจะย้ายไปอยู่ในสังกัด Studio On Saturn ของตัวเอง

26 ก.พ. 2023

เจฟ ซาเตอร์ ประกาศกลางคอนเสิร์ตฯ ออกจากค่าย Be On Cloud โดยจะย้ายไปอยู่ในสังกัด Studio On Saturn ของตัวเอง

เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) ศิลปินและนักแสดงจากเรื่อง ‘KINNPORSCHE THE SERIES’ ออกมาประกาศข่าวกับแฟนคลับและผู้ชมบนเวทีคอนเสิร์ต ‘KINNPORSCHE THE SERIES WORLD TOUR 2022 WTF (WHAT THE FUN)’ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ได้ออกจากการเป็นศิลปินและนักแสดงภายใต้สังกัด Be On Cloud แล้ว โดยจะทำงานภายใต้ค่าย Studio On Saturn ของตัวเอง ส่วนงานเพลงก็ยังคงเดินหน้าต่อไปในฐานะศิลปินในสังกัด Warner Music Thailandโดย ปอนด์-กฤษดา วิทยาขจรเดช ผู้บริหารค่าย Be On Cloud ได้แจ้งบนเวทีว่า“หลังจากนี้เจฟจะดูแลตัวเองแล้วนะครับ เขามีค่ายของเขาที่เตรียมมาสักพักแล้ว อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กับเจฟกับStudio On Saturn ทุกคนน่าจะได้เห็นแล้วว่าเจฟพร้อมแล้ว ผมเลยถือโอกาสนี้อยากบอกทุกคนว่า ต่อให้เจฟจะไม่ได้อยู่ Be On Cloud แต่เมฆกับดาวเสาร์มันก็ไม่ได้ไกลกันนะครับ”ขณะที่ เจฟ ก็ได้เปิดใจด้วยการขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในการเดินทางครั้งนี้ พร้อมขอบคุณเพื่อนๆ นักแสดง และแฟนคลับ โดยเฉพาะพี่ปอนด์ให้ฐานะพี่ชายที่คอยสนับสนุนว่า“ขอบคุณพี่ปอนด์ที่เป็นก้าวแรกให้ผมเสมอในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะกับตัวละคร ‘คิม’ ที่มันไม่มีบทเล่นดนตรีด้วยซ้ำ พี่ก็เขียนมันขึ้นมาเพื่อให้ไม่ใช่แค่ ‘คิม’ ที่ไชน์ แต่เจฟ ซาเตอร์ได้ไชน์ด้วย ทุกครั้งที่มันมีปัญหา ก็จะเป็นพี่ปอนด์มารับกระสุนแทนเสมอ และพี่ปอนด์จะพูดเสมอว่า อย่าถือว่านี่เป็นบุญคุณ เพราะผมควรได้รับสิ่งนี้”ภาพ : Warner Music Thailand

เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

29 ส.ค. 2023

เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

GDH ออกมาอัปเดตความคืบหน้าของ Project D (Working Title) หนึ่งในโปรเจกต์ภาพยนตร์ชิ้นใหม่ของ GDH ผลงานของผู้กำกับ บอส-นฤเบศ กูโน ว่าจะกลับมาเริ่มกระบวนการทำงานอีกครั้ง หลังต้องระงับการทำงานไปชั่วคราว โดยมีความเปลี่ยนแปลงลิสของนักแสดงซึ่งครั้งนี้ได้ เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) ศิลปินและนักแสดงมากความสามารถมารับบทนำคู่กับ อิงฟ้า วราหะ“บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ขอประกาศอัปเดตความคืบหน้าของภาพยนตร์ โปรเจกต์ D (Working Title) ซึ่งทางบริษัทมีเหตุจำเป็นต้องระงับการถ่ายทำไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่ลงตัวของระยะเวลาในการเตรียมงาน“ซึ่งทางบริษัทฯ ผู้กำกับภาพยนตร์ และทีมงานที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์นี้ ได้ใช้เวลาในช่วงที่ผ่านมาในการแก้ไขปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ ของบทภาพยนตร์จนสมบูรณ์เรียบร้อย ทางบริษัทฯ จึงขอแจ้งให้แฟน ๆ ทราบว่า ขณะนี้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวกำลังจะเข้าสู่กระบวนการเตรียมงานก่อนการถ่ายทำจริงแล้ว โดยทีมนักแสดงหลักทั้ง 5 ท่าน ได้แก่ เจฟ ซาเตอร์, อิงฟ้า วราหะ, พงศกร เมตตาริกานนท์, หฤษฎ์ บัวย้อย และ สีดา พัวพิมล จะเริ่มทำการเวิร์กช็อปร่วมกัน เพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดกล้องที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้“ทางบริษัทฯ ขอขอบคุณแฟนๆ ที่ให้ความสนใจรอชมภาพยนตร์เรื่องนี้ และให้การสนับสนุนที่ดีเสมอมา”สำหรับ Project D ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน GDH Line Up 2023 นำแสดงโดย พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร แต่เนื่องด้วยระยะเวลาในการเตรียมงาน รวมถึงสถานที่ที่ไม่ลงตัว ทำให้ต้องระงับการถ่ายทำไปชั่วคราว ขณะที่แฟนคลับเองก็แอบเสียดายที่จะไม่ได้เห็นฝีมือการแสดงภาพยนตร์ของ พีพี แต่ก็เคารพการตัดสินใจของทุกฝ่ายทางด้าน เจฟ ซาเตอร์ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้แล้วว่า เป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมงานกับทาง GDH และนักแสดงทุกคนในเรื่อง ส่วนตัวเขารู้สึกว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก รวมถึงประเด็นหลักของเรื่องที่จะพูดถึงก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจทีเดียว“จริงๆ เราคุยกันมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว พอได้เห็นตัวบทก็รู้สึกว่ามันท้าทายมาก หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปแคสต์กับพี่บอสผู้กำกับ ความน่าสนใจของตัวบทคือ มีการพูดถึงประเด็นที่น่าสนใจมาก ๆ ซึ่งเกี่ยวกับ LGBT ด้วย แล้วมันเป็นประเด็นที่ผมพูดมาตลอด เรารู้สึกว่าก็ดีนะถ้าเราจะได้เป็นตัวแทนในการพูดถึงเรื่องนี้แทนคนที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ รวมถึงไดนามิกของเรื่องมันค่อย ๆ ไล่ไปจนถึงจุดที่มันไม่น่าจะไปถึงได้“ตอนแรกผมก็รู้สึกกังวลว่าผมเหมาะหรือเปล่า ซึ่งผู้ใหญ่บอกว่าจากการได้ดูวิดีโอแคสต์ก็รู้สึกว่านี่เป็นเวอร์ชั่นที่เขาอยากจะเห็นในหนังเรื่องนี้ ตอนแรกที่ผมกังวลเพราะตัวบทมันท้าทายมาก แล้วผมอาจจะมีเวลาเตรียมตัวไม่ได้เยอะขนาดนั้น แล้วการที่จะต้องทรานส์ฟอร์มตัวเองไปเป็นคนอื่นมันก็ยาก การทำงานเพลงมันคือการเป็นตัวเรา แต่งานหนังมันเป็นการทิ้งตัวเราแล้วไปเป็นคนอื่น“ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันกดดันอะไรในเรื่องนี้ แต่ถ้าจะกดดันผมกดดันกับเรื่องบทมากกว่า ในฐานะเป็นนักแสดงสิ่งที่ต้องทำการบ้านจริง ๆ คือตัวบท แล้วเราจะไปเป็นคนคนนั้นในหนังเรื่องนี้ได้ยังไง”เจฟ ยังบอกอีกว่า คาแร็กเตอร์ในเรื่องนี้ถือว่าเป็นที่สุดของการทรานส์ฟอร์มตัวเอง เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่แฟน ๆ ได้เห็นเขาในลุคผิวดำและต้องโกนหัว ซึ่งเขามองว่าหากจะต้องไปเป็นคนอื่น ก็ต้องทิ้งตัวตนของตัวเองไว้ที่หน้าเซ็ตแล้วเข้าไปในโลกของตัวละครนั้นจริง ๆ ต้องรอดูว่าฝีมือการแสดงของเขาจะออกมาเป็นยังไง แต่ที่แน่ ๆ เจฟ ก็ทุ่มสุดตัวเลยทีเดียวภาพ : Wayfer Records

album

0
0.8
1