สิ้นสุดการรอคอย 12 ธันวาคมนี้ ‘ONE OK ROCK’ ประกาศ Luxury Disease Asia Tour 2023 กรุงเทพฯ พบกัน ณ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี

ENTERTAINMENT NEWS

สิ้นสุดการรอคอย 12 ธันวาคมนี้ ‘ONE OK ROCK’ ประกาศ Luxury Disease Asia Tour 2023 กรุงเทพฯ พบกัน ณ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี

12 มิ.ย. 2023

            ONE OK ROCK ร็อกแบนด์ชื่อดังระดับโลก จากแดนปลาดิบ กลับมาพบกับแฟนๆ อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการประกาศเอเชียทัวร์ Luxury Disease Asia Tour 2023 แล้ววันนี้! หลังจากที่พวกเขาพัดพากระแสความบ้าคลั่งไปเยือนอเมริกาเมื่อปลายปี 2022 และได้กลับมาทำโดมทัวร์ทั่วประเทศญี่ปุ่นถึง 6 เมืองใหญ่ รวมไปถึงการประกาศยุโรปทัวร์ ล่าสุด ONE OK ROCK พร้อมแล้ว ที่จะมาพบกับแฟนๆ ทั่วเอเชียอีกครั้ง

            นับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ ONE OK ROCK ได้กลับมาทัวร์คอนเสิร์ตที่เอเชีย หลังจากยกเลิกทัวร์ไปเมื่อปี 2020 (จากสถานการณ์โรคระบาดครั้งใหญ่)  โดยในทัวร์ครั้งนี้ จะประกอบด้วยการแสดงใน 6 เมือง ได้แก่

LUXURY DISEASE ASIA TOUR 2023

16/09/2023 Taipei – Taipei Nangang Exhibition Center

17/09/2023 Taipei – Taipei Nangang Exhibition Center

26/09/2023 Manila – Smart Araneta Coliseum

29/09/2023 Jakarta – Beach City International Stadium

07/10/2023 Hong Kong – Central Harbourfront Event Space

12/12/2023 Bangkok – Impact Arena

18/12/2023 Singapore – Singapore Indoor Stadium

และจะมีประกาศเพิ่มเติมอีกในอนาคต

 

นอกจากนี้ พวกเขายังได้ประกาศถ่ายทอดสดสตรีมมิ่งคอนเสิร์ต ในวันที่ 3 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ เพื่อให้แฟนๆ ทั้วโลก ได้มัน! ไปพร้อมๆ กัน และเตรียมตัวอุ่นเครื่อง ก่อนที่จะเจอพวกเขาในทัวร์คอนเสิร์ต Luxury Disease ในประเทศต่างๆ ที่เหลืออยู่

 

สำหรับแฟนๆ ชาวไทยที่ตั้งตารอทัวร์คอนเสิร์ตในครั้งนี้ เตรียมตัวไว้ให้พร้อม! เพราะ Avalon Live ผู้จัดมากคุณภาพ พร้อมเสิร์ฟความมันอย่างเต็มอิ่ม เต็มสเกลที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

 

จดลงปฏิทินไว้ว่าเราจะพบกัน วันอังคารที่ 12 ธันวาคม 2023 ตั้งแต่เวลา 20:00 น. เป็นต้นไป ติดตามรายละเอียดเพิ่มเต็มเร็วๆ นี้ ทาง https://www.facebook.com/AVALONLIVE

 

ภาพ AVALONLIVE

related ENTERTAINMENT NEWS

ใจสั่นเบอร์แรง! “ยูคยอม” สมาชิก GOT7 ประกาศจัดคอนเสิร์ต “2022 YUGYEOM 1st Live in Bangkok”

30 มิ.ย. 2022

ใจสั่นเบอร์แรง! “ยูคยอม” สมาชิก GOT7 ประกาศจัดคอนเสิร์ต “2022 YUGYEOM 1st Live in Bangkok”

คัมแบ็คแล้วอีกหนึ่ง! “ยูคยอม” สมาชิกวง GOT7 ประกาศจัดคอนเสิร์ต “2022 ยูคยอม เฟิร์ส ไลฟ์ อิน แบงคอก” (2022 YUGYEOM 1st Live in Bangkok) โซโลสเตจเต็มรูปแบบครั้งแรกในเมืองไทย เป็นอีกหนึ่งความพิเศษของ “ยูคยอม” ในปี 2022 ที่เพิ่งปล่อยซิงเกิลอัลบั้มชุดใหม่ไปเมื่อเดือนมีนาคม ในชื่อ Take You Down พร้อมกับการออกเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต ในต่างประเทศที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กับ 3 ประเทศในโซนยุโรป และเร็วๆ นี้จะถึงคิวอากาเซ่เมืองไทยที่จะได้พบกับ “2022 ยูคยอม เฟิร์ส ไลฟ์ อิน แบงคอก” (2022 YUGYEOM 1st Live in Bangkok)” ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2565 เวลา 18:00 น. ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 เมืองทองธานี สามารถติดตามรายละเอียดต่างๆ ได้ทางออฟฟิเชียลแฟนเพจของผู้จัดงาน FeohThai ทุกช่องทางภาพ : FeohThai

“แอน ทองประสม” เปิดใจหลังถูกคนใกล้ตัว ยกเค้าสูญเสียกว่า 19 ล้านบาท

01 ส.ค. 2022

“แอน ทองประสม” เปิดใจหลังถูกคนใกล้ตัว ยกเค้าสูญเสียกว่า 19 ล้านบาท

“แอน ทองประสม” เปิดใจหลังถูกผู้ช่วยคนสนิทยกเค้า สูญเสียทรัพย์สินอาทิ เงินสด, เครื่องเพชร, นาฬิกาหรูฝังเพชร, ทองคำแท่ง, แผ่นทองคำ รวมมูลค่ากว่า 19 ล้านบาทโดย “แอน ทองประสม” ได้เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ และให้สัมภาษณ์ว่า “วันนี้แอนอยู่ในช่วงติดตามเอาของคืนค่ะ คือตอนเกิดเหตุแอนจะไปงานเลยไปเปิดตู้เซฟ เพื่อเอาเครื่องประดับใช้ออกงาน จึงทราบว่าของและเงินหายไป และขอความร่วมมือกับนิติบุคคลของคอนโด ให้ช่วยดูกล้องวงจรปิด ระหว่างนี้ก็ไปแจ้งความ ตรวจของว่ามีอะไรหายไปบ้าง และให้ข้อมูลว่าใครเข้าออกห้องได้ จนได้ภาพจากกล้องวงจรปิดหลังจากนั้นก็เห็นว่ามีใครบ้าง เลยเชิญมาให้ปากคำ และมีคนรับสารภาพ ตำรวจเลยแจ้งมา แต่วันนั้นเราติดถ่ายละคร แต่ก็ทราบว่าคนนั้น ‘เป็นผู้ช่วยเราเอง’ ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดมูลค่า เกือบ 19 ล้าน ตอนนี้เรายังไม่ได้ของคืน แต่เรารู้ว่าของอยู่ตรงไหน โรงรับจำนำไหน ต้องอาศัยตำรวจติดตามเอาของคืนให้ แต่เงินหายหมดส่วนเรื่องเขามีพฤติกรรมน่าสงสัยไหม ความผิดที่เกิดขึ้นตรงนี้ ก่อนหน้านี้มีรายละเอียด เราก็ได้ดูแลกันมาประมาณนึง ซึ่งมีเรื่องอะไรเราก็คอยเตือนเขาตลอด เพราะเป็นเจ้านายเขา ช่วยดูแลไม่ให้เขาทำอะไรไม่ถูกต้อง จนมารอบนี้มันเป็นเรื่องใหญ่โต อยู่ด้วยกันมา 10 ปี ถามว่าทราบเรื่องเขาติดการพนันมาก่อนไหม เราเป็นเจ้านายไม่ค่อยมีใครเล่าอะไรให้เราฟัง แต่ก็มีเตือนเขาไปบ้าง แต่ไม่ได้ดูใหญ่โตขนาดนี้ แต่พอเรามารู้ตรงนี้ คือเรื่องใหญ่ เลยงงว่าเขาเอามาได้ยังไง ตู้เซฟไม่ได้ถูกงัดแงะด้วย รหัสเซฟไม่มีใครรู้ มีแอนรู้คนเดียว พอเรื่องนี้คนขโมยเป็นคนใกล้ตัว มันก็เจ็บ หลังเกิดเรื่องก็ไม่ได้คุยกันอีก”ภาพ : onebunterng

BLACKPINK สร้างสถิติใหม่! เป็นศิลปินที่มีผู้ติดตามบน YouTube มากที่สุดถึง 80.1 ล้าน Subscribers

06 ก.ย. 2022

BLACKPINK สร้างสถิติใหม่! เป็นศิลปินที่มีผู้ติดตามบน YouTube มากที่สุดถึง 80.1 ล้าน Subscribers

หลังจากซิงเกิล Pink Venom ถูกปล่อยออกมาฉลองการคัมแบ็กในรอบ 2 ปีของสาวๆ BLACKPINK พร้อมกับทำลายทุกสถิติทั้งมิวสิกวิดีโอเพลงที่มียอดผู้ชมทะลุ 10 ล้านครั้งเร็วที่สุดเพียง 53 นาที, เป็นมิวสิกวิดีโอที่มีผู้เข้าชมใน 24 ชั่วโมงสูงที่สุดของปี 2022 ถึง 90.4 ล้านครั้ง, เป็นมิวสิกวิดีโอเพลง K-POP ที่มียอดผู้ชมทะลุ 200 ล้านครั้งเร็วที่สุดล่าสุดสาวๆ BLACKPINK ทำสถิติใหม่ได้อีกครั้งเมื่อทาง YouTube เผยตัวเลขอย่างเป็นทางการว่า BLACKPINK เป็นศิลปินที่มีจำนวนผู้ติดตามบนช่อง BLACKPINK Official มากที่สุดในโลกถึง 80.1 ล้านซับสไครบ์ หลังจากเปิดช่องมานาน 6 ปี และสะสมยอดผู้ชมรวมทะลุไปกว่า 26,047 ล้านครั้งส่วนอันดับของศิลปินที่มีผู้ติดตามบน YouTube มากที่สุด 10 อันดับได้แก่ BLACKPINK (80.1 ล้าน), BTS (70.6 ล้าน), Justin Bieber (69.9 ล้าน), Marshmello (55.8 ล้าน), Eminem (53.3 ล้าน), Ed Sheeran (52.3 ล้าน), Ariana Grande (51.7 ล้าน), Taylor Swift (47.3 ล้าน), Billie Eilish (46.5 ล้าน) และ Katy Perry (43.3 ล้าน)ภาพ : BLACKPINK#EFM94 #แฉข่าวเช้า #BLACKPINK #PinkVenom

จำฝังใจ!! แม่เปลี่ยนไป เพราะปลดเบาผิดที่…

20 ต.ค. 2022

จำฝังใจ!! แม่เปลี่ยนไป เพราะปลดเบาผิดที่…

เรื่องราวชวนขนหัวลุกนี้ มาจากคุณฟีน สายแรกที่โทรเข้ามาแชร์ประสบการณ์ของคุณแม่ให้ดีเจแนน และดีเจเคเบิลได้คลุมโปงไปด้วยกัน ในรายการ “อังคารคลุมโปง” เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (18 ตุลาคม 2565)คุณฟีนเล่าว่า ครอบครัวของคุณฟีนมีกิจการคณะลิเก ในช่วงๆ หนึ่งของทุกปี จะต้องเดินทางไปแสดงลิเกที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ และในปีที่ทำให้ต้องพบกับประสบการณ์หลอนนั้น คือปี พ.ศ. 2545 ทางวัดได้จัดพื้นที่ให้คณะลิเกตั้งซุ้มคณะใกล้ๆ กับพื้นที่ก่อสร้างด้วยพื้นที่ที่จำกัดทำให้คณะลิเก จัดตั้งได้เพียงแค่ด้านหน้าเวทีการแสดงเท่านั้น ส่วนด้านหลังที่เป็นพื้นที่พักผ่อนหรือแต่งตัวแต่งหน้าของทีมงานและนักแสดง ต้องย้ายไปจัดอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างข้างๆ ที่เป็นลักษณะลานกว้างและหลังคายังสร้างไม่เสร็จดี ถัดจากลานกว้าง ก็มีห้องๆ หนึ่งที่ยังเป็นโครงประตู หน้าต่างที่กำลังก่อสร้างอยู่และเนื่องจากทางวัดไม่เคยจัดให้โรงลิเกอยู่ในพื้นที่นี้มาก่อน ทำให้ระยะทางระหว่างโรงลิเกและห้องน้ำอยู่ห่างกันมาก ทีมงานและนักแสดงหลายคนจึงตัดสินใจปลดเบาที่ห้องห้องนั้นแทน...จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่ยังมีการแสดงลิเกอยู่นั้น คุณแม่ของคุณฟีนก็ได้ไปปลดเบาที่ห้องนั้นเช่นเคย หลังจากนั้นแกก็เริ่มมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงราวกับว่ามีคนเอาไม้หน้าสามมาตีที่หัวอย่างไรอย่างนั้น!เมื่อการแสดงจบลง คนในครอบครัวก็สังเกตว่าอาการปวดหัวนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งทำให้ตาของคุณแม่เหล่ และเมื่อคุณแม่ไปหาหมอ ก็ได้รับมาเพียงยาพาราเซตามอลคุณฟีนเล่าต่ออีกว่า บ้านของเธอเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนมี 4 ห้อง แบ่งเป็นฝั่งซ้ายขวาอย่างละ 2 ห้อง ซึ่งทางด้านขวาเป็นห้องพระ ในระหว่างที่คุณพ่อกำลังประคองคุณแม่เดินขึ้นมายังชั้น 2 จู่ๆ คุณแม่ก็ก้มหัวตัวเองลงกับพื้น จากนั้นก็ไถหัวแล้วเบนหน้าหนีจากห้องพระเพื่อขึ้นบันไดจนถึงห้องแล้วก็ปิดประตูทันที!คุณฟีนเสริมว่า ภายในห้องพระนั้น มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของต้นตระกูลอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือพ่อแก่ที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ของทวด ซึ่งไม่มีใครกล้าบูรณะให้เพราะหลายคนสัมผัสได้ถึงความดุของท่านเมื่ออาการของคุณแม่เริ่มหนักขึ้น บรรดาญาติๆ ต่างก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยียน ไม่ต่างจากคุณลุง ผู้ซึ่งทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถบบางรัก คุณลุงเองก็อยากให้คุณแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลนี้ และตั้งใจจะไปขอให้คุณหมอที่สนิทกันช่วยรักษาให้เมื่อไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอก็ยินดีรับคุณแม่เข้ารับการรักษา ซึ่งตอนนั้นคุณฟีนเองก็สัมผัสได้ว่าตอนนี้เหมือนคุณแม่ของเธอเหมือนมีสองคนอยู่ในร่างเดียว บางครั้งก็เป็นคุณแม่ที่คุณฟีนรู้จัก แต่ในบางครั้งก็จะแสดงท่าทีแปลกไปทางด้านลูกพี่ลูกน้องของคุณฟีน ก็รู้สึกแปลกใจเรื่องนี้เช่นกัน ขณะที่คุณแม่กำลังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ญาติของคุณฟีน จึงลองสวดคาถาชินบัญชร พอสวดเสร็จก็สอดคาถาไว้ใต้หมอนของคุณแม่ จากนั้น คุณแม่ก็ตื่นขึ้น!แต่กลับกลายเป็นว่า คุณแม่ไม่ยอมนอนหนุนหมอนที่มีคาถาซ่อนอยู่ พร้อมกันนั้นแกกลับสลับเอาเท้าไปพาดกับหมอนแทน ก่อนจะพูดว่า “ไม่นอน ไม่อยากนอน ไม่เอา” ซ้ำวนไปมาหลายรอบ แล้วยังบอกอีกว่า “เอาบทสวดมนต์ออกไป” เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนเข้าใจแล้วว่า คุณแม่ต้องโดนของหรืออะไรบางอย่างแน่ๆ... แต่ก็จะรักษาด้านวิทยาศาสตร์ควบคู่กับความเชื่อไปด้วยผ่านไปได้ 3-4 วัน คุณอาที่รับหน้าที่เฝ้าคุณแม่ก็ได้โทรมาบอกว่า คุณแม่เริ่มอาการไม่ดี ให้รีบมาที่โรงพยาบาลด่วน ถ้าคืนนี้ไม่ไหว ก็อาจจะต้องปล่อยให้คุณแม่ไป เมื่อไปถึงโรงพยาบาล บรรดาญาติก็เห็นว่าคุณแม่ไม่ได้นอนซมเพราะป่วย แต่ลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยว่า “ขอตังค์หน่อยสิ ขอตังค์หน่อยได้ไหม” ญาติก็ถามกลับว่า “จะเอาตังค์ไปทำอะไร?” แม่ก็ตอบว่า “อยากได้เงิน ต้องใช้เงิน”หลังจากนั้นคุณหมอก็พาเข้าห้องไป เมื่อรักษาเสร็จก็พาออกมา และดูเหมือนว่า อาการของคุณแม่จะดีขึ้น แต่ก็ถูกมัดมือมัดเท้าเพราะมีสายท่อที่ใช้ในการรักษาระโยงระยางเต็มไปหมดทางครอบครัวยังคงรักษาคุณแม่ต่อในโรงพยาบาล ส่วนในแง่ของความเชื่อ ก็มีคนแนะนำมาว่าให้ไปหาพระวัดป่ารูปหนึ่งในจ.ราชบุรี เผื่อท่านจะช่วยได้ จากนั้นคุณย่าก็ไปหาพระรูปนั้น เพื่อนำวันเดือนปีเกิดของคุณแม่ไปให้ พอยื่นให้ท่าน ท่านก็พูดว่า “เขาโกรธนะ ไปเยี่ยวรดหัวเขาแบบนั้น คนมอญน่ะเขาโกรธนะ เขาจะเอาไปเลยนะ”นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า “คนที่มาสิง เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสองสี เป็นคนมอญ”และยังถามอีกว่า “มีลูก 2 คนใช่ไหม?” ย่าก็ตอบว่า “ใช่” พระท่านจึงแนะนำว่า “ให้คนโตบวช 15 วัน ส่วนคนเล็กให้เลิกกินเนื้อตลอดชีวิต และให้นำของไหว้ ไปที่ที่แม่เคยโดนของ แล้วก็ขอขมา บอกว่าเราไม่ได้ตั้งใจ” หลังจากนั้นไม่กี่วัน คุณย่าก็รีบไปทำพิธีตามที่พระท่านบอก คุณย่าเล่าให้ฟังว่า ที่ตรงนั้นทั้งมืด ทั้งน่ากลัว แต่ก็ทำการสวดมนต์และขอขมาจนเสร็จสิ้นกลับมาที่ฝั่งของโรงพยาบาล ก็เหมือนมีอะไรมาดลใจคุณหมอให้เดินมาที่เตียงของคุณแม่ แล้วถามคุณอาว่า “ขอถามหน่อยสิ คนไข้ตาเหล่มาตั้งแต่กำเนิดเลยไหม?” อาก็ตอบกลับว่า “ไม่ใช่ค่ะ” เมื่อคุณหมอได้ยินดังนั้น ก็ให้นักศึกษาแพทย์มาช่วยกันตรวจอาการของคุณแม่ทันที เพราะมีเคสน้อยมากที่จะปวดหัวจนตาเหล่แบบนี้ เมื่อคุณหมอได้วินิจฉัยเสร็จแล้ว ผลตรวจออกมาว่า คุณแม่มีอาการไวรัสขึ้นสมอง เป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่คุณย่าได้ไปขอขมาพอดี คุณแม่ก็เริ่มมีอาการดีขึ้นแต่ก็ใช้เวลาเกือบ 1 เดือนเต็มเลยทีเดียวเมื่อได้ออกจากโรงพยาบาล คุณแม่ก็กลายเป็นคนที่พูดช้าลง รวมทั้งการกระทำต่างๆ ก็ด้วย แล้วคุณแม่ก็เล่าให้ฟังว่า “ก่อนที่แม่จะไปโรงพยาบาล แม่ก็ยืนอยู่หน้าห้องพระ แล้วพูดว่าพ่อแก่ ขอให้ลูกหายกลับมา ลูกจะบวช 15 วัน” แล้วก็บอกว่าตอนที่อยู่โรงพยาบาลแม่ฝันว่า “มีคนมาจ้างลิเกให้ไปเล่นบนสวรรค์ แม่ก็ชักรอกขึ้นไป แล้วก็มีคนเอาตุ๊กตามาให้แม่ถือเต็มมือเลย แต่แม่ก็ทำหล่น คนข้างล่างที่เป็นเหมือนคนมอญก็พูดขึ้นมาว่าทำหล่นเหรอ แล้วก็โดนด่า” แล้วยังฝันอีกว่า “แม่กระโดดข้ามตึกไปมา แล้วก็ไม่ตาย มีคนมาช่วย แล้วก็เห็นคนที่ตายทุกคนมายืนล้อมเตียงเหมือนพยายามจะมาช่วยแม่”หลังจากนั้น คุณแม่และพี่ชายของคุณฟีนก็ไปบวช ส่วนคุณฟีนก็เลิกกินเนื้อตลอดชีวิต และคุณแม่ก็ได้ไปหาพระรูปนั้นที่คุณย่าเคยไปหา พระท่านก็แนะนำอีกว่า “ให้เลิกกินหอยที่มีคนเอาไปปล่อย พยายามทำบุญตักบาตรเรื่อยๆ นะ”แต่หลายคนก็สงสัยว่ามีทีมงานและนักแสดงหลายคนที่ไปปลดเบาในห้องนั้น ไม่เห็นมีใครมีอาการเหมือนคุณแม่เลย ท่านจึงบอกว่า “อาจเพราะดวงกำลังตก และเป็นคนจิตอ่อนทำให้โดนได้ง่าย”นับตั้งแต่วันนั้น คุณแม่ก็ยังคงพูดช้าจวบจนทุกวันนี้ แต่ก็ไม่มีอาการแปลกๆ เหมือนช่วงที่เข้าโรงพยาบาลอีกเลย... สามารถติดตามชมความหลอนย้อนหลังแบบเต็มๆได้ทางหากคุณชอบเรื่องหลอน และอยากแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุก รับชมรายการสดได้ทุกวันอังคาร เวลา 20.00-22.00 น. ทางคลื่นวิทยุ EFM94 และ App : Atimefungfin

album

0
0.8
1