“หลวงตาไหนโยม? วัดนี้ไม่มีหลวงตานะ..” กุฏิชวนหลอน ร่างหลวงตาหายวับไปกับตา !

ENTERTAINMENT NEWS

“หลวงตาไหนโยม? วัดนี้ไม่มีหลวงตานะ..” กุฏิชวนหลอน ร่างหลวงตาหายวับไปกับตา !

13 ธ.ค. 2022

สายแรกของรายการ ‘อังคารคลุมโปง’ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (6 ธันวาคม 2565) เป็นสายจาก ‘คุณต้น’ ที่ได้แชร์ประสบการณ์หลอนของรุ่นพี่ที่รู้จัก มีชื่อเรื่องว่า ‘กุฏิหลอน’ เรื่องราวจะหลอนชวนขนหัวลุกขนาดไหน เชิญสัมผัสได้ข้างล่างนี้เลย..

คุณต้นบอกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 8-9 ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องของรุ่นพี่เอ (นามสมมติ) เกิดขึ้นที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบุรี ซึ่งพี่เอนั้นเรียนทางด้านจิตรกรรม พอเรียนจบ ก็รับงานวาดรูปตามผนังในโบสถ์วัดต่าง ๆ อยู่มาวันหนึ่งก็มีคนติดต่อให้ไปวาดรูปผนังโบสถ์ที่วัดแห่งนี้ให้ เมื่อตกลงกันเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงวันที่พี่เอ จะต้องเดินทางไปวาดรูปที่วัด

เมื่อมาถึง พี่เอก็ได้ติดต่อกับหลวงพี่รูปหนึ่ง จากนั้นก็เข้าไปดูสถานที่ รวมถึงรับบรีฟเพื่อให้เข้าใจตรงกันจนเสร็จเรียบร้อย หลวงพี่ก็พาพี่เอไปห้องพัก (คุณต้นเล่าเพิ่มเติมว่า ถ้าพี่เอรับงานวาดรูปที่วัดไหน พี่เอก็จะนอนอยู่ที่วัดเลย) เมื่อไปถึงห้องพัก ซึ่งเป็นกุฏิที่ว่างอยู่ ไม่มีใครใช้ พี่เอที่รับงานและมักจะนอนที่วัดบ่อย ๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร บวกกับไม่ใช่คนขี้กลัว จึงจะนอนที่วัดและนำของที่เตรียมมาไปวางไว้ในกุฏิอย่างเช่นที่เคยทำ

วันแรกของการทำงานเริ่มขึ้นและดำเนินไปอย่างปกติ ช่วงเที่ยงหลังเวลาเพลของพระ ขณะที่พี่เอกำลังวาดรูปอยู่นั้น ก็มีหลวงตารูปหนึ่งเดินมาเรียก “โยม ๆ มากินข้าวก่อนมั้ย?” เมื่อเห็นว่าหลวงตาเอ่ยปาก พี่เอจึงละจากงานที่ทำอยู่ไปกินข้าวตามที่หลวงตาบอก หลังจากเสร็จเรียบร้อย ก็กลับมาทำงานต่อจนถึงเย็นแล้วก็กลับห้องเพื่อพักผ่อน

คุณต้นอธิบายลักษณะของกุฏิหรือห้องพักเพิ่มเติมว่า ข้างในก็เป็นกุฏิธรรมดาทั่วไป แต่ตรงกลางห้อง จะมีม่านกั้นอยู่ ทำให้ห้องนั้นแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ทางพี่เอเองก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าคงเป็นถ้วยจานชาม หรือเป็นของที่ไม่ค่อยได้ใช้ คล้ายกับเป็นห้องเก็บของก็เป็นได้ เมื่อไม่ได้คิดอะไร และไม่มีอะไรน่าสงสัยจึงไม่ได้ลองเปิดดู พี่เอก็นอนหลับพักผ่อน ผ่านคืนนั้นไป...

เช้าวันต่อมา พี่เอยังคงทำงานปกติ จนกระทั่งคืนนี้ ขณะที่พี่เอกำลังนอนอยู่ ก็ได้ยินเสียงสวดมนต์แว่วดังขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มดังก้องกังวานไปทั่วห้อง พี่เอพยายามไม่คิดอะไร และเข้าใจว่าเราอยู่ในวัด ก็คงจะพระสวดมนต์ หรือใครสักคนเปิดเสียงสวดมนต์ดังขึ้นมาเป็นธรรมดา ผ่านไปสักพัก ขณะกำลังจะเคลิ้มหลับ ก็มีกลิ่นธูปลอยมาแตะที่จมูก พี่เอที่มองโลกในแง่ดีแบบสุด ๆ ก็คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ จากนั้นก็ผล็อยหลับไป

เช้าวันที่ 3 นับได้ว่าเป็นครึ่งทางของการทำงานแล้ว (ตกลงกันว่างานจะแล้วเสร็จภายใน 5-6 วัน) ช่วงเย็นหลังเลิกงาน ประมาณ 6 โมง พี่เอจึงลองเดินสำรวจรอบ ๆ วัดว่ามีอะไรบ้าง หลังจากสำรวจจนพอใจก็จะเดินกลับไปยังห้องพัก เมื่อใกล้ถึงห้องพักก็ได้ยินเสียงคนเรียก หันไปตามเสียงก็เห็นเป็นหลวงตาแก่ ๆ รูปหนึ่ง เดินเข้ามาคุยด้วย เป็นคำถามทั่วไปที่ดูเหมือนเป็นการทำความรู้จักกัน เช่น “โยมมาทำอะไร?” ระหว่างที่คุยกับหลวงตา พี่เอก็รู้สึกได้กลิ่นธูปลอยมาจากตัวหลวงตารูปนี้อยู่ตลอดเวลา จังหวะที่คุยกับหลวงตาอยู่นั้น หลวงพี่ที่จัดหาห้องพักให้ก็เปิดกุฏิของท่านออกมา แล้วก็ถามว่า “อ้าวโยม ทำอะไร ยังไม่เข้ากุฏิไปพักอีกหรอ?” พี่เอจึงตอบหลวงพี่ไปว่า “อ๋อ คุยกับหลวงตาอยู่ครับ เดี๋ยวแปปนึง” จังหวะที่หันไปตอบหลวงพี่ แล้วหันกลับมา หลวงตารูปนั้นก็หายไป ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว! พี่เอคิดในใจว่าทำไมท่านเดินไปเร็วจัง จึงได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ และพยายามทำตัวตามปกติ แต่สายตาของหลวงพี่ได้มองไปข้างหลังของพี่เอ จากนั้นจึงบอกว่า “รีบเข้านอนได้แล้ว” และกลับเข้ากุฏิของตัวเองไป

กลางดึกคืนนั้น พี่เอรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา แต่ห้องน้ำนั้นอยู่ไกลต้องเดินออกไปนอกห้องพัก จึงพยายามข่มตาให้หลับ สักพักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินไปเดินมาอยู่รอบ ๆ มุ้งที่พี่เอนอนอยู่ พอมองออกไปก็เห็นเป็นเงาคนเดินอยู่จริง ๆ จึงเปิดมุ้งออกมาดู ก็เห็นเป็นร่างนึง ยืนอยู่ตรงมุมประตู เป็นชุดจีวรสีเหลืองห่มอยู่ พี่เอจึงพยายามจะเดินไปใกล้ ๆ แล้วร่างนั้นก็หายวับไปกับตา! พี่เอตกใจจึงรีบวิ่งเข้ามาในมุ้ง จากที่ตอนแรกไม่กลัว ตอนนี้พี่เอรู้สึกกลัวมาก ๆ อาการอยากเข้าห้องน้ำก็หายไปหมด และเกิดคำถามว่า “ใครอ่ะ มันคืออะไร?” พี่เอพยายามสงบสติอารมณ์และกลั้นใจนอนต่อไป ไม่นานก็มีเสียงสวดมนต์ดังขึ้นมาจากฝั่งที่เป็นผ้าม่านกั้นอยู่ คราวนี้เป็นกลิ่นสาปเหมือนหนูตายลอยมา พี่เอลืมตาและตามหากลิ่น จากนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรสักอย่างร่วงตกลงสู่พื้น! ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าคนเดินรอบ ๆ มุ้งของพี่เออีกครั้ง พี่เอจึงเริ่มสวดมนต์เพื่อให้หลุดพ้นจากเหตุการณ์นี้ หลังจากนั้นฝีเท้าก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหัวนอนที่พี่เอนอน แล้วกลิ่นก็หายไป พี่เอที่ไม่รู้จะทำยังไง สวดมนต์เสร็จก็หลับไป ราวกับว่าภาพมันตัดไปเอง

ปกติแล้วทุกเช้า พี่เอจะตื่นออกไปช่วยหลวงพี่ตอนบินฑบาตร แต่เช้านี้ยังไม่เห็นพี่เอตื่น หลวงพี่จึงมาเคาะเรียกที่กุฏิห้องพัก พี่เอได้เล่าเรื่องที่เจอให้หลวงพี่ฟัง หลวงพี่ก็ไม่ได้พูดอะไร เมื่อถึงวันสุดท้ายของการทำงาน พี่เอเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อย ก็บอกหลวงพี่ว่าเห็นหลวงตารูปหนึ่ง อยากจะไปกราบลาท่าน หลวงพี่ก็ถามว่า “หลวงตาไหน?” พี่เอก็อธิบายลักษณะของหลวงตา เมื่อหลวงพี่ได้ยินก็เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะบอกว่า “ถ้าอย่างนั้น โยมตามมานี่” หลวงพี่พาพี่เอกลับมายังกุฏิห้องที่พี่เอพัก แล้วก็เปิดม่านที่กั้นอยู่ สิ่งที่เห็นคือร่างของพระรูปหนึ่งนอนอยู่ในโลงแก้ว!

พี่เอเห็นดังนั้นจึงตกใจ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพราะจำได้แม่นว่าลักษณะเหมือนกันกับหลวงตาที่เดินเข้ามาคุยและที่เจอในคืนนั้นเลย มองข้าง ๆ ก็จะมีรูปตั้งอยู่ นั่นยิ่งตอกย้ำกับพี่เอเลยว่าใช่ ใช่แน่ ๆ เมื่อตั้งสติได้ พี่เอก็กราบลาหลวงพี่และหลวงตา จากนั้นก็กลับบ้านไป...

 

ชมไลฟ์สดย้อนหลัง

related ENTERTAINMENT NEWS

“UrboyTJ” โพสต์ประกาศ ขอพักรักษาตัว หลังเผชิญอาการ depression, ซึมเศร้า และ bipolar

24 มิ.ย. 2022

“UrboyTJ” โพสต์ประกาศ ขอพักรักษาตัว หลังเผชิญอาการ depression, ซึมเศร้า และ bipolar

ทำเอาแฟนๆและเพื่อนศิลปินอดเป็นห่วงไม่ได้เลย เมื่อนักร้องขวัญใจวัยรุ่นสุดฮอต “UrboyTJ” หรือ “เต๋า จิรายุทธ ผโลประการ” ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว โดยระบุว่า “สวัสดีครับ ผมชื่อ เต๋า ทีเจ จิรายุทธ ผโลประการ ผมมีเรื่องจะมาบอกครับ เพราะผมคิดว่ามันถึงวิกฤตแล้ว ผมเป็น depression ซึมเศร้า, bipolar ผมรู้สึกหมดไฟในการใช้ชีวิตมาหลายเดือนมากแล้ว แต่ไม่มีใครฟังผมเลย ในสิ่งที่ผมพูด ในสิ่งที่ผมแสดงออกไป เมื่อคืนผมตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่โชคดีที่ทำไม่สำเร็จ และผมคิดว่าผมคงไม่สามารถทำงาน entertain คนดูได้ ถ้าชีวิตผมยังมืดดำอยู่แบบนี้” “ผมจึงขออนุญาตเข้ารับการรักษาตัวโดย 1.โรงพยาบาลตรวจร่างกายทั้งหมด 2. พบ psychotherapist และทำการเปลี่ยนยาเคมีในสมอง และหาทางแก้ปัญหา ผมไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน ผมอาจจะหายหรือไม่หายก็ได้ แต่ตอนนี้ผมขอหายไปก่อนเพื่อรักษาตัวครับ ขอโทษทุกคนครับ ถ้าผมยังรักตัวเองไม่ได้ ผมก็รักคนอื่นไม่ได้หรอกครับ” EFM 94 ขอส่งกำลังใจให้ “UrboyTJ” หายป่วยไวๆ นะครับ

คุณครูสังเกตเห็นรูปวาดของเด็กหญิงเก็บตัว ‘ต้นไม้ = แม่ ส่วนผู้หญิง..คือใครไม่รู้!’ เมื่อตามไปถึงบ้านก็พบหญิงร่างใหญ่แปลกหน้า พอถามพ่อ ดันตอบว่าอยู่กันแค่ 2 คน!

01 ก.พ. 2023

คุณครูสังเกตเห็นรูปวาดของเด็กหญิงเก็บตัว ‘ต้นไม้ = แม่ ส่วนผู้หญิง..คือใครไม่รู้!’ เมื่อตามไปถึงบ้านก็พบหญิงร่างใหญ่แปลกหน้า พอถามพ่อ ดันตอบว่าอยู่กันแค่ 2 คน!

รายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (24 มกราคม 2566) ที่ผ่านมา ‘คุณตั้ม The Shock’ หรือ ‘คุณตั้ม รถขนไม้’ ได้เข้ามานั่งเล่าเรื่องหลอนกันแบบสด ๆ ถึงห้องจัดรายการ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณครูโรงเรียนประถมที่สังเกตเห็นอาการแปลก ๆ ของ ‘น้องเมย์’ เด็กหญิงที่มีนิสัยเก็บตัว แต่จะหลอนอย่างไรนั้น เราสรุปไว้ให้คุณแล้ว!เรื่องนี้มาจาก ‘คุณแอล’ เธอเล่าให้ฟังว่าเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้กลับบ้านต่างจังหวัด และได้พูดคุยกับน้องชาย ซึ่งเป็นคุณครูสอนคณิตศาสตร์ประจำโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง (จะขอเรียกน้องชายคุณแอลว่า ‘คุณครู’) หนึ่งในเรื่องที่คุยกันนั้นเป็นเรื่องของนักเรียนคนหนึ่ง นามว่า ‘น้องเมย์’ เด็กสาวบุคลิกเงียบขรึม ที่ไม่ค่อยสนใจใคร และปลีกตัวไปนั่งอยู่ที่มุมห้องคนเดียว คุณครูจึงเข้าไปถามไถ่ แต่น้องเมย์ก็ไม่ตอบรับอะไร และพยายามหลบตา จนกระทั่งสังเกตเห็นรอยช้ำที่ต้นแขน ก็ถามน้องว่าไปโดนอะไรมา ด้วยความเป็นเด็ก น้องยังไม่รู้ว่ารอยช้ำคืออะไร แต่ก็บอกคุณครูว่า “เป็นผลจากการทำการบ้านแล้วถูกพ่อดุ” คุณครูได้ยินดังนั้นก็เป็นห่วง และคิดว่าปล่อยเอาไว้คงไม่ดีแน่ จึงพาน้องไปที่สถานีตำรวจ แต่ตำรวจกลับไม่สนใจ มองว่าเป็นเรื่องเล็ก และไม่รับเรื่อง ด้วยความเป็นครูจึงไม่ยอมแพ้ พาน้องเมย์เข้าพบครูใหญ่ แต่กลับได้คำตอบว่า “อย่าไปยุ่งเลย พ่อของน้องเป็นนักการเมือง เดี๋ยวโรงเรียนเราจะมีปัญหา” เมื่อได้ยินดังนั้นคุณครูก็ผิดหวัง และก็คิดว่าจะพยายามดูแลน้องเมย์เท่าที่ตัวเองจะทำได้..วันรุ่งขึ้น ครูใหญ่ก็แจ้งกับคุณครูว่าให้ย้ายขึ้นไปสอนชั้นป.2 แทน ทำให้ต้องจำใจย้ายขึ้นไปตามคำสั่ง แต่ก็ยังเป็นห่วงน้องเมย์อยู่ เมื่อไหร่ที่มีเวลาว่าง ก็จะแวะไปดูน้องเมย์เป็นครั้งคราว วันหนึ่ง คุณครูแวะมาดูน้องเมย์ ก็เห็นน้องกำลังก้มหน้าก้มตาวาดรูปอยู่คนเดียว ภาพวาดของน้องจะมีต้นไม้อยู่ตรงกลาง ข้าง ๆ มีผู้หญิง และเด็กผู้หญิง ส่วนด้านบนมีดวงอาทิตย์ คุณครูจึงพยายามที่จะพูดคุยด้วยการเอ่ยปากชม “น้องเมย์วาดรูปสวยมากเลย คุณครูขอเอากลับไปได้มั้ย?” น้องเมย์ก็พยักหน้าตอบรับ คุณครูจึงคิดว่านี่เป็นสัญญาณที่ดี เพราะน้องเริ่มตอบรับแล้ววันต่อมา คุณครูก็มาหาน้องเมย์อีกครั้ง น้องยังคงวาดรูปอยู่ที่มุมเดิม และเป็นรูปเหมือนเดิมทุกรูป คุณครูจึงคิดว่าจะเริ่มชวนคุยผ่านรูปภาพเหล่านี้ และเอ่ยปากขอรูปอีกครั้ง น้องเมย์ก็ตอบว่า “ได้” เมื่อน้องเริ่มตอบโต้ คุณครูจึงบอกน้องว่า “น้องเมย์ลองเขียนอธิบายภาพนี้หน่อยสิ ว่ามันมีอะไรบ้าง ใครเป็นใคร” น้องก็นั่งเขียนรายละเอียดตามที่คุณครูบอก ไม่นานน้องเมย์ก็เขียนเสร็จ รายละเอียดที่น้องเขียนคือ พระอาทิตย์ = พระอาทิตย์, เด็กผู้หญิง = เมย์, ใต้ต้นไม้ = แม่ และ ผู้หญิง = ใครไม่รู้ นั่นทำให้คุณครูคิดไปไกลว่าผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นคนที่ทารุณกรรมน้อง!ด้วยความร้อนใจ เย็นวันนั้นคุณครูก็รีบไปที่บ้านน้องทันที เมื่อไปถึงบ้าน ก็เห็นว่าบ้านมีลักษณะคล้าย ๆ กับรูปที่น้องเมย์วาด หลังจากกวาดสายตาไปรอบ ๆ ก็มองขึ้นไปที่หน้าต่างชั้นสอง คุณครูก็เห็นผู้หญิงร่างใหญ่คนนึง มองมาที่คุณครู ทางด้านคุณพ่อก็ต้อนรับอย่างดี และกำลังจะพาไปห้องรับแขก น้องเมย์ก็วิ่งออกมา แล้วกระซิบบอกคุณครูว่า “เขาไม่พอใจ ในสิ่งที่คุณครูมาทำแบบนี้นะ” คุณครูก็ตอบกลับไปว่า “อ๋อ ผู้หญิงที่อยู่ข้างบนหรอ? ไม่เป็นไร เขาทำอะไรครูไม่ได้หรอก” สิ้นเสียงคุณครู น้องเมย์ก็ไม่ตอบกลับอะไร คุณครูจึงเข้าไปพูดคุยกับคุณพ่อ เมื่อคุยไปคุยมา คุณครูก็หยิบเอาภาพที่น้องเมย์วาดมาให้คุณพ่อดู น้ำเสียงและสีหน้าก็เปลี่ยนไป กลายเป็นโมโหบอกว่า “มันก็แค่รูปถ่าย! ทำไมอ่ะ มันมีปัญหาอะไร” เมื่อเห็นว่าคุณพ่อไม่พอใจ จึงเปลี่ยนเรื่องไปถามถึงผู้หญิงที่อยู่ข้างบนแทน คุณพ่อก็ยิ่งหัวเสียเพิ่มขึ้นไปอีก! แล้วบอกว่า “คุณพูดอะไร แม่น้องเมย์เขาตายตั้งแต่น้องอายุ 2 ขวบ ผมอยู่กันสองคนพ่อลูก ไม่เคยเอาใครเข้าบ้าน!” คุณครูก็ไปต่อไม่ได้ ท้ายที่สุด คุณพ่อก็เชิญคุณครูออกไป แม้ในใจจะสงสัยมากก็ตามทีเมื่อสลัดความสงสัยออกไปไม่ได้ จึงไปถามจากคนละแวกบ้าน ได้คำตอบมาว่า แม่ของน้องเมย์เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ หลังจากแม่เสีย พ่อของน้องเมย์ก็กลายเป็นคนเก็บตัว และเขาอยู่กันสองพ่อลูกจริง ๆ เมื่อคุณพ่อทราบเรื่องว่าคุณครูทำแบบนั้นก็ไม่พอใจ จึงย้ายน้องเมย์ออกจากโรงเรียน ส่วนที่บ้านก็ไม่รู้ว่าย้ายหรืออยู่ต่อ เพราะคุณครูก็ไม่ได้เจอน้องเมย์อีกเลย..แม้เรื่องที่เจอจะจบไปแล้ว แต่ความสงสัยของคุณครูยังไม่จบ เรื่องแรก ถ้าน้องเมย์อยู่กับคุณพ่อ ทำไมรูปที่วาดถึงไม่มีคุณพ่อเลย แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร..? แล้วที่น้องถูกกระทำ ถูกทำร้ายร่างกาย อาจจะเกิดจากผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า?

เล่าเรื่องผีแบบ Y2K กับตัวแม่จะแคร์เพื่อ ‘เสือโคร่ง’ ที่มาพร้อมลิ้นทรงเสน่ห์และไม้เซลฟี่คู่ใจ | อังคารคลุมโปง X

20 ม.ค. 2023

เล่าเรื่องผีแบบ Y2K กับตัวแม่จะแคร์เพื่อ ‘เสือโคร่ง’ ที่มาพร้อมลิ้นทรงเสน่ห์และไม้เซลฟี่คู่ใจ | อังคารคลุมโปง X

แต่งตัวแบบ Y2K กันไปแล้ว มาฟังเรื่องผีแบบ Y2K จากดาว TikTok คนดังอย่าง ‘เสือโคร่ง’ ตัวแม่จะแคร์เพื่อ กันบ้างดีกว่า กับเรื่องหลอนที่มีชื่อว่า ‘ซ่อนหา By สาวสอง’ ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (17 มกราคม 2565) ที่ผ่านมา อยากรู้ว่าหลอนแบบ Y2K เป็นยังไง เชิญอ่านกันได้เลย!คุณเสือโคร่งเล่าว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยนาฏศิลป์แห่งหนึ่ง ตอนนั้นยังอยู่หอในกับเพื่อนๆ ซึ่งภายในวิทยาลัยก็จะมีโรงละครตั้งอยู่ จากที่เคยได้ยินมาเขาเชื่อกันว่าต้องเป็นพื้นที่ที่มีคนตายถึงจะสร้างโรงละครได้ และบริเวณนั้นเอง ก็เป็นสถานที่ของกลุ่มเพื่อนสาวสองเกือบ 20 คนนัดมารวมตัวทำกิจกรรมด้วยกัน เช่น เตยกัก กระโดดยาง หรือฝึกแต่งหน้า แต่วันนั้น แก๊งเพื่อนสาวสองเกิดอยากจะเล่น ‘ซ่อนหา’ ในเวลา 2 ทุ่มขึ้นมาซะได้ ไม่รอช้าก็จัดสรรปันส่วน และเริ่มเล่นเกมท่ามกลางบรรยากาศไม่ชอบมาพากล...เมื่อเกมเริ่ม ทุกคนก็แยกย้ายไปซ่อนตามต้นไม้ ซอกตึก หรือที่ต่าง ๆ ของโรงละคร ด้วยความที่แก๊งนี้มีจำนวนคนเยอะ ทำให้ใช้เวลาหานานมาก คุณเสือโคร่งที่อยู่บนต้นไม้ก็เริ่มเมื่อย ไป ๆ มา ๆ คนหาดันหาย ทุกคนที่ไปซ่อนจึงมารวมตัวกันหน้าหอเพื่อออกตามหา แต่หายังไงก็ไม่เจอ จึงตัดสินใจไปไหว้ศาลทาง 3 แพร่ง ขณะที่ทำพิธีไหว้อยู่นั้น ก็มีพี่กะเทยคนนึงเดินเข้ามาบอกว่า “มึงไม่ต้องไหว้! เดี๋ยวกูหาเอง!” พูดเสร็จก็หยิบธูปปักคว่ำลงกับพื้น! คุณเสือโคร่งอธิบายเพิ่มเติมว่า พี่กะเทยคนนั้นเป็นคนผิวสีเข้ม ฟันคม กินหมาก “เขาเป็นกะเทยเขมร ของก็แรงอยู่แล้ว อย่างถึง” ระหว่างที่ทุกคนงงงวยอยู่นั้น พี่กะเทยคนนั้นที่เสือโคร่งหลุดปากมาว่าชื่อ ‘เอ๋’ ก็พึมพำกับตัวเอง ไม่นานก็เจอเพื่อนที่หายไป!เมื่อเจอเพื่อนที่หายไป พี่เอ๋ก็พาไปอาบน้ำ พออาบเสร็จ ต้องบอกว่าสภาพของเพื่อนที่หายไปนั้นเหมือนหลุดออกจากภวังค์ นั่งเหม่อลอยไร้สติแบบสุด ๆ เมื่อถึงเวลาใกล้นอนทุกคนก็สวดมนต์ ซึ่งในหอในปกติจะมียันต์ แต่วันนั้นยันต์ดันไม่มี! ยังไม่ทันได้หลับสนิท อยู่ ๆ ประตูก็มีเสียงดังขึ้น! กะเทยที่นอนชั้น 2 (เตียง 2 ชั้น) ก็ชะเง้อมองเห็นว่าเป็นเหมือนกลุ่มคนจำนวนมากกำลังจะเข้ามา! เพื่อนกะเทยต่างตกใจกลัว พี่เอ๋ก็เดินเข้ามาด่าผี “มึงไม่ต้องเข้ามา! มึงไปเลยนะ!” เพื่อนกะเทยใจกล้าอีกคนจึงรีบเดินไปเปิดประตู แล้วทุกอย่างก็หายไป ทุกคนนั่งรวมกันไม่ได้หลับไม่ได้นอนจนเวลาล่วงมาถึงตี 5 แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าเล่นซ่อนหาอีกเลย...ติดตามความหลอนแบบ Y2K ต่อได้

สุดปลื้ม! “ลิซ่า BLACKPINK” สนับสนุนมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทย

21 มิ.ย. 2022

สุดปลื้ม! “ลิซ่า BLACKPINK” สนับสนุนมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทย

“ลิซ่า BLACKPINK” สนับสนุนมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทย เดินหน้าปรับปรุงอาคารเอนกประสงค์ ซ่อมแซมและทาสีอาคารใหม่ ให้กับ “โรงเรียนโนนสุวรรณพิทยาคม” จังหวัดบุรีรัมย์ เสร็จสมบูรณ์เมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา สำหรับโครงการปรับปรุงอาคารอเนกประสงค์นี้ เป็นโครงการที่ได้รับความร่วมมือจากสองฝ่าย และเป็นความร่วมมือของมูลนิธิที่อยู่อาศัยของทั้งสองประเทศ คือ ประเทศไทย และ ประเทศเกาหลีใต้ ได้รับการสนับสนุนจาก คุณลิซ่า - ลลิษา มโนบาล, NAVER HAPPYBEAN และ YG Entertainment เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ที่ดีของนักเรียนในอนาคต ทางผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู และน้องๆ นักเรียน ขอขอบคุณ “ลิซ่า ลลิษา, NAVER HAPPYBEAN และ YG Entertainment” ที่สนับสนุนโครงการดีๆ ในครั้งนี้อย่างยิ่ง สามารถติดตามข่าวประชาสัมพันธ์ กิจกรรมเพื่อชุมชนหรือสนับสนุนบริจาคผ่าน http://www.habitatthailand.org or Line : @hfht และ Facebook : Habitat for Humanity Thailandภาพ : NAVER HAPPYBEAN

album

0
0.8
1