จำฝังใจ!! แม่เปลี่ยนไป เพราะปลดเบาผิดที่…

ENTERTAINMENT NEWS

จำฝังใจ!! แม่เปลี่ยนไป เพราะปลดเบาผิดที่…

20 ต.ค. 2022

เรื่องราวชวนขนหัวลุกนี้ มาจากคุณฟีน สายแรกที่โทรเข้ามาแชร์ประสบการณ์ของคุณแม่ให้ดีเจแนน และดีเจเคเบิลได้คลุมโปงไปด้วยกัน ในรายการ “อังคารคลุมโปง” เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (18 ตุลาคม 2565)

คุณฟีนเล่าว่า ครอบครัวของคุณฟีนมีกิจการคณะลิเก ในช่วงๆ หนึ่งของทุกปี จะต้องเดินทางไปแสดงลิเกที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ และในปีที่ทำให้ต้องพบกับประสบการณ์หลอนนั้น คือปี พ.ศ. 2545 ทางวัดได้จัดพื้นที่ให้คณะลิเกตั้งซุ้มคณะใกล้ๆ กับพื้นที่ก่อสร้าง

ด้วยพื้นที่ที่จำกัดทำให้คณะลิเก จัดตั้งได้เพียงแค่ด้านหน้าเวทีการแสดงเท่านั้น ส่วนด้านหลังที่เป็นพื้นที่พักผ่อนหรือแต่งตัวแต่งหน้าของทีมงานและนักแสดง ต้องย้ายไปจัดอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างข้างๆ ที่เป็นลักษณะลานกว้างและหลังคายังสร้างไม่เสร็จดี ถัดจากลานกว้าง ก็มีห้องๆ หนึ่งที่ยังเป็นโครงประตู หน้าต่างที่กำลังก่อสร้างอยู่

และเนื่องจากทางวัดไม่เคยจัดให้โรงลิเกอยู่ในพื้นที่นี้มาก่อน ทำให้ระยะทางระหว่างโรงลิเกและห้องน้ำอยู่ห่างกันมาก ทีมงานและนักแสดงหลายคนจึงตัดสินใจปลดเบาที่ห้องห้องนั้นแทน...

จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่ยังมีการแสดงลิเกอยู่นั้น คุณแม่ของคุณฟีนก็ได้ไปปลดเบาที่ห้องนั้นเช่นเคย หลังจากนั้นแกก็เริ่มมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงราวกับว่ามีคนเอาไม้หน้าสามมาตีที่หัวอย่างไรอย่างนั้น!

เมื่อการแสดงจบลง คนในครอบครัวก็สังเกตว่าอาการปวดหัวนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งทำให้ตาของคุณแม่เหล่ และเมื่อคุณแม่ไปหาหมอ ก็ได้รับมาเพียงยาพาราเซตามอล

คุณฟีนเล่าต่ออีกว่า บ้านของเธอเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนมี 4 ห้อง แบ่งเป็นฝั่งซ้ายขวาอย่างละ 2 ห้อง ซึ่งทางด้านขวาเป็นห้องพระ ในระหว่างที่คุณพ่อกำลังประคองคุณแม่เดินขึ้นมายังชั้น 2 จู่ๆ คุณแม่ก็ก้มหัวตัวเองลงกับพื้น จากนั้นก็ไถหัวแล้วเบนหน้าหนีจากห้องพระเพื่อขึ้นบันไดจนถึงห้องแล้วก็ปิดประตูทันที!

คุณฟีนเสริมว่า ภายในห้องพระนั้น มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของต้นตระกูลอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือพ่อแก่ที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ของทวด ซึ่งไม่มีใครกล้าบูรณะให้เพราะหลายคนสัมผัสได้ถึงความดุของท่าน

เมื่ออาการของคุณแม่เริ่มหนักขึ้น บรรดาญาติๆ ต่างก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยียน ไม่ต่างจากคุณลุง ผู้ซึ่งทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถบบางรัก คุณลุงเองก็อยากให้คุณแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลนี้ และตั้งใจจะไปขอให้คุณหมอที่สนิทกันช่วยรักษาให้

เมื่อไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอก็ยินดีรับคุณแม่เข้ารับการรักษา ซึ่งตอนนั้นคุณฟีนเองก็สัมผัสได้ว่าตอนนี้เหมือนคุณแม่ของเธอเหมือนมีสองคนอยู่ในร่างเดียว บางครั้งก็เป็นคุณแม่ที่คุณฟีนรู้จัก แต่ในบางครั้งก็จะแสดงท่าทีแปลกไป

ทางด้านลูกพี่ลูกน้องของคุณฟีน ก็รู้สึกแปลกใจเรื่องนี้เช่นกัน ขณะที่คุณแม่กำลังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ญาติของคุณฟีน จึงลองสวดคาถาชินบัญชร พอสวดเสร็จก็สอดคาถาไว้ใต้หมอนของคุณแม่ จากนั้น คุณแม่ก็ตื่นขึ้น!

แต่กลับกลายเป็นว่า คุณแม่ไม่ยอมนอนหนุนหมอนที่มีคาถาซ่อนอยู่ พร้อมกันนั้นแกกลับสลับเอาเท้าไปพาดกับหมอนแทน ก่อนจะพูดว่า “ไม่นอน ไม่อยากนอน ไม่เอา” ซ้ำวนไปมาหลายรอบ แล้วยังบอกอีกว่า “เอาบทสวดมนต์ออกไป” เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนเข้าใจแล้วว่า คุณแม่ต้องโดนของหรืออะไรบางอย่างแน่ๆ... แต่ก็จะรักษาด้านวิทยาศาสตร์ควบคู่กับความเชื่อไปด้วย

ผ่านไปได้ 3-4 วัน คุณอาที่รับหน้าที่เฝ้าคุณแม่ก็ได้โทรมาบอกว่า คุณแม่เริ่มอาการไม่ดี ให้รีบมาที่โรงพยาบาลด่วน ถ้าคืนนี้ไม่ไหว ก็อาจจะต้องปล่อยให้คุณแม่ไป เมื่อไปถึงโรงพยาบาล บรรดาญาติก็เห็นว่าคุณแม่ไม่ได้นอนซมเพราะป่วย แต่ลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยว่า “ขอตังค์หน่อยสิ ขอตังค์หน่อยได้ไหม” ญาติก็ถามกลับว่า “จะเอาตังค์ไปทำอะไร?” แม่ก็ตอบว่า “อยากได้เงิน ต้องใช้เงิน

หลังจากนั้นคุณหมอก็พาเข้าห้องไป เมื่อรักษาเสร็จก็พาออกมา และดูเหมือนว่า อาการของคุณแม่จะดีขึ้น แต่ก็ถูกมัดมือมัดเท้าเพราะมีสายท่อที่ใช้ในการรักษาระโยงระยางเต็มไปหมด

ทางครอบครัวยังคงรักษาคุณแม่ต่อในโรงพยาบาล ส่วนในแง่ของความเชื่อ ก็มีคนแนะนำมาว่าให้ไปหาพระวัดป่ารูปหนึ่งในจ.ราชบุรี เผื่อท่านจะช่วยได้ จากนั้นคุณย่าก็ไปหาพระรูปนั้น เพื่อนำวันเดือนปีเกิดของคุณแม่ไปให้ พอยื่นให้ท่าน ท่านก็พูดว่า “เขาโกรธนะ ไปเยี่ยวรดหัวเขาแบบนั้น คนมอญน่ะเขาโกรธนะ เขาจะเอาไปเลยนะ

นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า “คนที่มาสิง เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสองสี เป็นคนมอญ”และยังถามอีกว่า “มีลูก 2 คนใช่ไหม?” ย่าก็ตอบว่า “ใช่” พระท่านจึงแนะนำว่า “ให้คนโตบวช 15 วัน ส่วนคนเล็กให้เลิกกินเนื้อตลอดชีวิต และให้นำของไหว้ ไปที่ที่แม่เคยโดนของ แล้วก็ขอขมา บอกว่าเราไม่ได้ตั้งใจ” หลังจากนั้นไม่กี่วัน คุณย่าก็รีบไปทำพิธีตามที่พระท่านบอก คุณย่าเล่าให้ฟังว่า ที่ตรงนั้นทั้งมืด ทั้งน่ากลัว แต่ก็ทำการสวดมนต์และขอขมาจนเสร็จสิ้น

กลับมาที่ฝั่งของโรงพยาบาล ก็เหมือนมีอะไรมาดลใจคุณหมอให้เดินมาที่เตียงของคุณแม่ แล้วถามคุณอาว่า “ขอถามหน่อยสิ คนไข้ตาเหล่มาตั้งแต่กำเนิดเลยไหม?” อาก็ตอบกลับว่า “ไม่ใช่ค่ะ” เมื่อคุณหมอได้ยินดังนั้น ก็ให้นักศึกษาแพทย์มาช่วยกันตรวจอาการของคุณแม่ทันที เพราะมีเคสน้อยมากที่จะปวดหัวจนตาเหล่แบบนี้ เมื่อคุณหมอได้วินิจฉัยเสร็จแล้ว ผลตรวจออกมาว่า คุณแม่มีอาการไวรัสขึ้นสมอง เป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่คุณย่าได้ไปขอขมาพอดี คุณแม่ก็เริ่มมีอาการดีขึ้นแต่ก็ใช้เวลาเกือบ 1 เดือนเต็มเลยทีเดียว

เมื่อได้ออกจากโรงพยาบาล คุณแม่ก็กลายเป็นคนที่พูดช้าลง รวมทั้งการกระทำต่างๆ ก็ด้วย แล้วคุณแม่ก็เล่าให้ฟังว่า “ก่อนที่แม่จะไปโรงพยาบาล แม่ก็ยืนอยู่หน้าห้องพระ แล้วพูดว่าพ่อแก่ ขอให้ลูกหายกลับมา ลูกจะบวช 15 วัน” แล้วก็บอกว่าตอนที่อยู่โรงพยาบาลแม่ฝันว่า “มีคนมาจ้างลิเกให้ไปเล่นบนสวรรค์ แม่ก็ชักรอกขึ้นไป แล้วก็มีคนเอาตุ๊กตามาให้แม่ถือเต็มมือเลย แต่แม่ก็ทำหล่น คนข้างล่างที่เป็นเหมือนคนมอญก็พูดขึ้นมาว่าทำหล่นเหรอ แล้วก็โดนด่า” แล้วยังฝันอีกว่า “แม่กระโดดข้ามตึกไปมา แล้วก็ไม่ตาย มีคนมาช่วย แล้วก็เห็นคนที่ตายทุกคนมายืนล้อมเตียงเหมือนพยายามจะมาช่วยแม่

หลังจากนั้น คุณแม่และพี่ชายของคุณฟีนก็ไปบวช ส่วนคุณฟีนก็เลิกกินเนื้อตลอดชีวิต และคุณแม่ก็ได้ไปหาพระรูปนั้นที่คุณย่าเคยไปหา พระท่านก็แนะนำอีกว่า “ให้เลิกกินหอยที่มีคนเอาไปปล่อย พยายามทำบุญตักบาตรเรื่อยๆ นะ

แต่หลายคนก็สงสัยว่ามีทีมงานและนักแสดงหลายคนที่ไปปลดเบาในห้องนั้น ไม่เห็นมีใครมีอาการเหมือนคุณแม่เลย ท่านจึงบอกว่า “อาจเพราะดวงกำลังตก และเป็นคนจิตอ่อนทำให้โดนได้ง่าย

นับตั้งแต่วันนั้น คุณแม่ก็ยังคงพูดช้าจวบจนทุกวันนี้ แต่ก็ไม่มีอาการแปลกๆ เหมือนช่วงที่เข้าโรงพยาบาลอีกเลย...   

สามารถติดตามชมความหลอนย้อนหลังแบบเต็มๆได้ทาง

 

หากคุณชอบเรื่องหลอน และอยากแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุก รับชมรายการสดได้ทุกวันอังคาร เวลา 20.00-22.00 น. ทางคลื่นวิทยุ EFM94 และ App : Atimefungfin

related ENTERTAINMENT NEWS

ตำนานสร้างได้ทุกวัน! เมื่อ ‘GRACE’ มาแฉข่าวเช้าพร้อมเดบิวต์ซิงเกิล “I Don’t Know”

28 ก.ย. 2022

ตำนานสร้างได้ทุกวัน! เมื่อ ‘GRACE’ มาแฉข่าวเช้าพร้อมเดบิวต์ซิงเกิล “I Don’t Know”

แฉข่าวเช้าเช้านี้ เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เมื่อ ‘GRACE’ หรือ ‘เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า’ มาในรายการเรียกว่าสนุกกันตั้งแต่เช้าเพราะ วันนี้ (28 ก.ย.65) เกรซมาพร้อมเดบิวต์ซิงเกิล “I Don’t Know” ซึ่งเพลงนี้ได้มาจาก คำพูดติดปากของเกรซโดยเพลงนี้ ผ่านการเรียบเรียงดนตรีโดยโปรดิวเซอร์คิวทองอย่าง NINO และ แอ้ม อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์ มาเขียนเนื้อร้องแซ่บๆซึ่งการมารายการแฉข่าวเช้าในวันนี้ ‘เกรซ’ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะสอนสามดีเจ (พีเค-ดาด้า-มะตูม) พูดคำว่า “I Don’t Know” ในเวอร์ชั่นที่ถูกต้อง อีกทั้งยังสอนเต้นเพลงนี้ในแบบที่สามดีเจต้องร้องขอชีวิต!!ติดตามความสนุกย้อนหลังได้ และสามารถขอเพลง I DON'T KNOW จาก GRACE ที่คลื่นวิทยุ EFM94ภาพ : แฉข่าวเช้า

ช็อคแล้วช็อคอีก! หนุ่มโทรปรึกษา 3 ดีเจ เจอถุงยางใช้แล้วในห้องแฟน แฟนเพิ่งสารภาพว่าทำไซด์ไลน์ และตอนนี้ กำลังคบกับลูกค้าของตัวเองอยู่ หรือทั้งหมดที่เธอทำ เป็นเพราะผมคนเดียว ...

29 ม.ค. 2023

ช็อคแล้วช็อคอีก! หนุ่มโทรปรึกษา 3 ดีเจ เจอถุงยางใช้แล้วในห้องแฟน แฟนเพิ่งสารภาพว่าทำไซด์ไลน์ และตอนนี้ กำลังคบกับลูกค้าของตัวเองอยู่ หรือทั้งหมดที่เธอทำ เป็นเพราะผมคนเดียว ...

“คุณบี (นามสมมุติ)” อายุ 42 ปี สายแรกในรายการพุธทอล์คพุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (25/01/2023) ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์กับแฟนโดย “คุณบี (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมเลิกกับคนเก่าไปแล้วแต่มีลูกติดมาด้วย ตอนนี้ลูกอายุ 8 ขวบแล้ว และเราก็ได้มาเจอกับแฟนคนปัจจุบัน คบกันเข้าปีที่ 7 แล้ว ปีสองปีแรกที่คบกันก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน แต่ก็มีปัญหาแม่ผัว – ลูกสะไภ้ มันก็เลยทำให้สถานะของผมกับเขายังไม่ชัดเจนว่าจะมาสร้างครอบครัวด้วยกันจริงๆ แต่เราก็คบกันมาเรื่อยๆ ไปมาหาสู่เขา พาลูกชายไปเล่นด้วยผมทำงานเป็นฟรีแลนซ์ ปีครึ่งที่ผ่านมาผมต้องไปทำงานที่ภาคตะวันออก ไปๆกลับๆ ช่วงแรกๆเขาก็ไปอยู่ด้วย ส่วนตัวผมไม่ค่อยเช็คแฟนเวลาที่เขาไม่ได้มาด้วย เราก็ปล่อยให้เขามีอิสระ แต่ก็มีทะเลาะกัน ผมจะเป็นคนที่ค่อนข้างเฉยเมิน ให้เวลาเขาน้อย ด้วยความที่ตอนนี้โลกของผมมันมีอยู่ 2 ฝั่ง คือทางครอบครัว แม่ผมกับลูกชาย และอีกฝั่งคือเขา เวลาก็เลยไปปันทางลูกชายเยอะกว่า ผมก็เลยดูเหมือนไม่ค่อยใส่ใจ ไม่ค่อยมีเวลาให้เขา ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา พอผมไปทำงานที่นั่นได้ 4 – 5 เดือน เขาก็เริ่มไม่ค่อยมากับผมแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร รู้ว่าต่างคนต่างมีหน้าที่ซึ่งล่าสุดเรื่องเกิดเมื่อวันที่ 17 ธันวาที่ผ่านมา ผมกลับจากทำงานก็แวะไปหาเขาที่คอนโด เช้ามาเขาก็ออกไปทำธุระ ด้วยความที่เอะใจ และเห็นทิชชู่มันเยอะก็เลยไปค้นดูถังขยะ ผมก็เจอถุงยางอนามัยอยู่ และเขาลืมไอแพดไว้ก็เลยเข้าไปดู เห็นเขาคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง เลื่อนขึ้นไปดูได้ไกลสุดคือเดือนกุมภาพันธ์ปี 65 และข้อความก่อนๆก็โดนลบไปแล้วด้วย เขาคุยกัน ไปมาหาสู่ ดูแลกัน ผมรับรู้แล้วแต่ยังไม่ทำอะไร แล้วผมก็กลับไปบ้าน เช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็โทรมา พยายามแค้นเขาว่ามันคืออะไร ยังไง สุดท้ายเขาสารภาพมาว่าคนนี้คือใครๆ แต่ที่เซอร์ไพร์สคือเขาบอกว่าเขารับงานไซด์ไลน์ ทำมาตั้งแต่ปลายเดือนมกรา แล้วคนที่เขาคุยด้วยเป็น 1 ในลูกค้าของเขาที่ผู้ชายขอคบด้วย ตอนแรกผมก็ยังไม่เชื่อว่าเขาทำงานไซด์ไลน์ เพราะการเป็นอยู่ของเขามันดูปกติมาก ก่อนหน้านี้เขาบอกทำร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์กับเพื่อน เป็นหุ้นส่วนกัน แต่ผมก็ไม่เคยเห็นนะ เวลาขอดู เขาก็บ่ายเบี่ยงไม่ให้ดูเขามีโทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่ง มีทวิตเตอร์และไลน์ เพื่อไว้คุยราคา นัดสถานที่เจอกัน ด้วยเรื่องราวทั้งหมดก็พยายามหาข้อสรุปกัน โดยส่วนตัวเราจะแยกกระเป๋ากันใช้ แต่ถ้าเขาเดือดร้อน แล้วเอ่ยปากบอก เราก็จะให้ แต่ก็ไม่ได้ให้เยอะและไม่ได้ให้ทุกครั้ง และมานั่งคุยกันว่าภาระของคุณคืออะไร เราจะปิดหนี้รถให้ เขาก็ไม่ยอม เราก็เลยไม่รู้สาเหตุจริงๆว่าทำไมเขาถึงเลือกทำแบบนี้ ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าอยากสร้างครอบครัวกับผม บอกว่าจะเลิกทำ แล้วมาอยู่ด้วยกัน สร้างครอบครัวกันใหม่ แต่ถ้าไม่มาทางนี้ก็ต้องแยกย้าย เขาจะกลับไปทำงานไซด์ไลน์เหมือนเดิมคือผมไม่สามารถลบเรื่องราวในหัวได้ เขาก็บอกว่าให้เราอยู่แบบนี้ไปก่อน ช่วงนี้เขาจะยังไม่รับงานเพิ่ม เพราะกลัวผมเสียใจ แต่มีอยู่ครั้งนหนึ่งเขาก็ไปรับงานเหมือนเดิม เพราะผมไปคอนโดเขา แต่เขาโกหกว่าอาบน้ำ ดูหนังอยู่ผมรับไม่ได้ ลึกๆก็รู้ว่าเราไม่สามารถไปต่อกันได้ แต่ผมก็ยังผูกพันกับเขา ยังอยากเจอเขาอยู่ อยากไปกินข้าวด้วย ไปเที่ยวด้วยกัน แล้วเราค่อยๆเฟดตัวออกมา ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นที่ผมละเลยเขาในช่วงปีที่ผ่านมา แล้วผมต้องชดเชยอะไรหรือเปล่า จริงๆใจเขาก็บอกว่าไม่อยากเลิก แต่เหมือนเขาก็ครึ่งๆกลางๆ โทรไปไม่รับ ไลน์ไปไม่ตอบ นานๆจะทักกลับมา คือผมก็ยังมีความรู้สึกผิดอยู่ แบบมีหลายครั้งที่เขาเอ่ยปากขอ เราก็ให้ แต่ให้น้อย และก็กลับไปคิดว่า ถ้าวันนั้นเราให้มากกว่านี้ เขายังจะเลือกไปทางนั้นมั้ย อยากให้พี่ๆแนะนำว่าที่ผมเลือกไม่ให้โอกาสเขา ผมทำแบบนี้ถูกแล้วมั้ย?3 ดีเจก็ได้ให้คำแนะนำว่า ‘คำตอบในใจคือคนนี้ไม่ใช่แล้ว ต่อให้อดีตจะทำดีไม่พอแค่ไหนก็ตาม มันเป็นอดีตไปแล้ว อยู่กับผลลัพธ์ของปัจจุบัน มันไม่มีประโยชน์ที่จะไปตามหาคำตอบ ปัจจุบันมันให้ผลลัพธ์ไปแล้ว ซึ่งผลลัพธ์ก็คือความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยน บีมีเหตุผลที่จะต้องแยกกับเขา เพราะเรารับไม่ได้ แต่ความรู้สึกมันสวนทางกับเหตุและผล เพราะเราทำใจไม่ได้ที่เขาจะไปตอนนี้คบกันมา 7 ปี แต่ไม่รู้เลยว่าแฟนทำงานอะไร เป็นความสัมพันธ์ที่บางเบามากๆ คือ 7 ปีมันต้องรู้ไส้รู้พุง หลับตายังรู้เลยว่าเขาจะเดินไปทางไหน เพราะฉะนั้น 7 ปี ของบีมันเสียเวลาไปแล้ว ควรจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ และถ้าเรารับไม่ได้แต่เรายังอยากกินข้าวดูหนังกับเขาอยู่ ต้องถามความสมัครใจเขาด้วยว่าเขาโอเคมั้ย ถ้าเขาโอเคก็จบ แต่เราจะไม่เป็นอนาคตซึ่งกันและกันแล้วนะ และบีก็จำไว้เลยว่าบีไม่มีสิทธิ์หึงหรือเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขาเลย เพราะเราไม่ใช่คนของอนาคตซึ่งกันและกันแล้ว’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางhttps://youtu.be/z2vNj0dyEaEใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

บ้านเช่า..บูชายัญ เปิดตัวอันดับ 1 ด้วยรายได้วันแรก 9.1 ล้าน พร้อมกับคำวิจารณ์เชิงบวก

07 เม.ย. 2023

บ้านเช่า..บูชายัญ เปิดตัวอันดับ 1 ด้วยรายได้วันแรก 9.1 ล้าน พร้อมกับคำวิจารณ์เชิงบวก

เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวานนี้ (6 เมษายน 2566) สำหรับ บ้านเช่า..บูชายัญ ภาพยนตร์สยองขวัญลุ้นระทึกเรื่องใหม่จาก GDH โดยผู้กำกับ จิม-โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ ที่เคยฝากความประทับใจมาแล้วจากเรื่อง ลัดดาแลนด์ โดยมีนักแสดงนำคุณภาพทั้ง เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ, มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน และ ต่าย-เพ็ญพักตร์ ศิริกุล มาถ่ายทอดประสบการณ์ความหลอนที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคดีสะเทือนขวัญเกี่ยวกับ ‘บ้านเช่า’ ที่เคยเป็นข่าวดังในสังคมไทยล่าสุดทาง GDH ออกมาเปิดเผยว่า บ้านเช่า..บูชายัญ สามารถเปิดตัวอันดับ 1 พร้อมกับรายได้วันแรกกว่า 9.1 ล้านบาท อีกทั้งยังได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกจากผู้ชม ซึ่งส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หลอนครบรส เป็นหนังผีที่ไปสุดในทุกๆ มิติจริงๆ โดยเฉพาะคำชมต่อผู้กำกับ ซึ่งเพจ จับผิดหนัง ได้ให้คะแนนผลงานเรื่องนี้ว่า เป็น Master of Horror ของพี่จิม โศภณ อย่างแท้จริงขณะเดียวกันกระแสการตอบรับจากต่างประเทศก็ไม่น้อยหน้า เพราะหลังจากที่ บ้านเช่า..บูชายัญ เข้าฉายในไทยแล้ว ก็เตรียมเดินทางไปมอบประสบการณ์ความหลอนระทึกและเปิดให้เช่าที่ต่างประเทศด้วย โดยจะเดิมกันที่บ้านบ้านอย่างกัมพูชา พร้อมกับเปิดตัวโปสเตอร์โปรโมทเรียกน้ำจิ้มจากคอหนังสยองขวัญชาวกัมพูชาด้วยสัมผัสความหลอนในบ้านเช่าหลังนี้ได้แล้วทุกโรงภาพยนตร์ สามารถเช็ครอบได้ทาง openlink.co/homeforrentภาพ : GDH

เตรียมเปิดประตูสู่จักรวาล “Miss Universe Thailand 2022” ประกาศรายชื่อสาวงาม 45 คนสุดท้ายผ่านเข้ารอบ “ออดิชั่น”

29 มิ.ย. 2022

เตรียมเปิดประตูสู่จักรวาล “Miss Universe Thailand 2022” ประกาศรายชื่อสาวงาม 45 คนสุดท้ายผ่านเข้ารอบ “ออดิชั่น”

ศึกชิงมงกุฏได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว สำหรับการประกวด “Miss Universe Thailand 2022” ที่เปิดฉากมาพร้อมคอนเซ็ปต์แบบใหม่แบบสับ “NEW BEGINNINGS”หรือ“ก้าวสู่รุ่งอรุณใหม่ไปด้วยกัน”เพื่อเฟ้นหานางงามที่ครบเครื่อง และจะเป็นตัวแทนสาวไทยไปสู้ศึก “MISS UNIVERSE 2022” พิชิต “มงสาม” ที่รอคอยมานาน ซึ่งเปิดฉากการประกวดด้วยSPECIAL EP 1. First Gate To Universe เพื่อคัดเลือกสาวงามเข้าสู่รอบ “ออดิชั่น” ล่าสุดเวที “Miss Universe Thailand 2022” ได้ประกาศรายชื่อสาวงามทั้งหมด 45 คนสุดท้าย เพื่อไปฟาดฟันกันต่อด้วยการโชว์ศักยภาพต่อหน้าคณะกรรมการ และช่วงชิงตั๋วเข้าสู่รอบ 30 คนสุดท้าย ทั้งนี้ “เฟิร์ส ประภัสสร ไทยเสถียร” หนึ่งในผู้ผ่านเข้ารอบ ไม่สามารถเข้าร่วมประกวดต่อไปได้ เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการเข้าร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ของกองประกวด ติดตามรายชื่อสาวงามผู้ผ่านเข้ารอบ 45 คน ได้ทาง Facebook : Miss Universe Thailand และติดตามการประกวด EP.2 THE CHOSEN ONES (Audition Top 30) ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2565 ถ่ายทอดสดทาง Trueid ภาพ : Miss Universe Thailand

album

0
0.8
1