หลอนข้างทาง! เมื่อขับรถกลับบ้านคนเดียวยามวิกาล ดันเจอประสบการณ์ที่ทำให้ต้องโกนหัวตลอดชีวิต!

ENTERTAINMENT NEWS

หลอนข้างทาง! เมื่อขับรถกลับบ้านคนเดียวยามวิกาล ดันเจอประสบการณ์ที่ทำให้ต้องโกนหัวตลอดชีวิต!

12 ต.ค. 2022

ประสบการณ์ขวัญผวานี้ มาจากคุณเบิร์ดพาหลอน สายแรกในรายการ  “อังคารคลุมโปง” เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (11 ตุลาคม 2565) ได้โทรเข้ามาแชร์ประสบการณ์ที่ได้ฟังจากรุ่นพี่ในวงดนตรีให้ดีเจแนน และดีเจเจ็มได้คลุมโปงไปพร้อมกัน เรื่องราวจะหลอนและชวนขวัญหนีดีฝ่ออย่างไร เชิญอ่านความหลอนกันได้เลย!

คุณเบิร์ดเล่าว่าประสบการณ์หลอนนี้ ได้ฟังมาจากรุ่นพี่ที่เคยเล่นดนตรีด้วยกัน (ขอแทนว่า พี่เอ) ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว คุณเบิร์ดยังเล่นดนตรีกลางคืนอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทุกครั้งที่ต้องไปรับงานเล่นดนตรีด้วยกัน พี่เอจะใส่หมวกอยู่ตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง หลังเล่นดนตรีเสร็จ พี่เอได้ถอดหมวกออกมา ทำให้คุณเบิร์ดเห็นว่าพี่เอหัวโล้น จึงถามไปว่า “ทำไมถึงโกนหัวล่ะครับพี่?” พี่เอได้ตอบกลับมาว่า “เบิร์ด...เอ็งเชื่อเรื่องผีหรือเปล่า? ถ้าเอ็งเชื่อ พี่จะเล่าให้ฟัง แต่ถ้าไม่เชื่อ พี่จะไม่เล่า” คุณเบิร์ดตอบกลับด้วยเสียงหนักแน่นว่า “เชื่อครับ

พี่เอเล่าว่า ก่อนที่จะมาทำวงดนตรีกับคุณเบิร์ดในขณะนั้น เขาเคยเล่นอยู่อีกวงใน จ.พระนครศรีอยุธยาเช่นเดียวกัน แต่อาศัยอยู่ที่บ้านใน จ.อ่างทอง ทำให้ต้องขับรถไปกลับอ่างทองและอยุธยาอยู่เสมอ แน่นอนว่าหลังเลิกงาน เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงตี 2-3 แล้ว และนั่นคือเวลาที่พี่เอต้องขับรถกลับบ้าน...

จนกระทั่งคืนหนึ่ง พี่เอได้ขับรถกลับบ้านในเวลาปกติ โดยใช้เส้นทางที่หลายคนก็รู้กันดีว่ามืดมาก พอขับไปสักระยะ พี่เอก็สังเกตเห็น “คน” ยืนอยู่ข้างหน้าไกลๆ เมื่อรถขับเข้าไปใกล้ “คน” ที่ว่า ก็เริ่มเห็นชัดแล้วว่าคนคนนี้ “ไม่มีหัว!”

 เมื่อพี่เอเห็นดังนั้น ก็รวบรวมสติไม่ให้ตัวเองหันไปมอง และพยายามมองตรงไปข้างหน้า พอขับผ่านตรงนั้นไป พี่เอมองไปที่กระจกรถก็ยังเห็น “ร่างที่ไม่มีหัว” ยืนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน แต่ยังไม่ทันได้หายตกใจ ขับต่อไปอีกสักพัก ก็ยังเจอร่างเดิมย้ายมายืนอยู่ข้างหน้าอีกครั้ง!

รอบนี้พี่เอแทบตั้งสติไม่อยู่ แต่ก็พยายามเอาหน้าไปแนบกับพวงมาลัย เพื่อที่จะได้ไม่เห็นเงาสะท้อนกระจกอีก ไม่กี่อึดใจ ก็มีเสียงดังมาจากหลังรถ “ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ!” พี่เอทำตามสัญชาติญาณหันกลับไปดูทันที สิ่งที่เห็นคือร่างที่ไม่มีหัว กำลังวิ่งตามรถมาอย่างบ้าคลั่ง และที่มาของเสียง “ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ!” คือ “หัว” ที่กระทบกระรถของพี่เอนั่นเอง!

เมื่อขับรถกลับถึงบ้าน พี่เอก็รีบลงจากรถ และตรงไปที่นอนเพื่อคลุมโปงทันที ด้วยความแปลกใจของภรรยา เธอจึงถามพี่เอว่า “เกิดอะไรขึ้น?” แต่พี่เอก็ไม่ยอมตอบอะไรกลับมา ภรรยาที่เห็นดังนั้นจึงออกไปเลื่อนรถมาจอดในบริเวณบ้าน

เช้าวันรุ่งขึ้น พี่เอได้เล่าเรื่องเมื่อคืนให้กับภรรยาฟัง เธอจึงบอกว่า “ตอนที่ขับรถเข้าไปจอดในบ้าน เห็นมีคนมายืนอยู่หน้าบ้าน คิดว่าเป็นเพื่อนของพี่ กะว่าขยับรถเข้ามาแล้ว จะไปเรียกคนนั้นเข้ามาในบ้าน แต่พอลงจากรถมาก็ไม่เจอคนนั้นยืนอยู่แล้ว” นอกจากนี้ภรรยาก็ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่าคนคนนั้นเขามีหัวปกติ

หลังจากคืนนั้น พี่เอต้องหยุดงานเล่นดนตรีกลางคืนเกือบทั้งสัปดาห์ เพราะมีไข้ขึ้นสูง และเส้นผมก็หลุดออกมาเป็นกระจุกอย่างไม่มีสาเหตุ แถมผมที่ขึ้นใหม่นั้น ยังมีสภาพไม่เหมือนเดิมอีกด้วย พี่เอจึงตัดสินใจตัดโกนผมจนกระทั่งทุกวันนี้…

สามารถติดตามชมความหลอนย้อนหลังแบบเต็มๆ ได้ทาง 

หากคุณชอบเรื่องหลอน และอยากแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุก รับชมรายการสดได้ทุกวันอังคาร เวลา 20.00-22.00 น. ทางคลื่นวิทยุ EFM94 และ App : Atimefungfin

related ENTERTAINMENT NEWS

3 ดีเจส่งกำลังใจ น้องวัย 19 โทรปรึกษาในรายการ ทำไมทุกวันนี้หนูถึงรู้สึกว่า ‘ชีวิตนี้ไร้จุดหมาย’ ไม่ได้อยากตาย แต่ก็ไม่ได้อยากอยู่ต่อ... หนูอยากรู้ เป้าหมายการใช้ชีวิตของทุกคน คืออะไรคะ?

15 ม.ค. 2023

3 ดีเจส่งกำลังใจ น้องวัย 19 โทรปรึกษาในรายการ ทำไมทุกวันนี้หนูถึงรู้สึกว่า ‘ชีวิตนี้ไร้จุดหมาย’ ไม่ได้อยากตาย แต่ก็ไม่ได้อยากอยู่ต่อ... หนูอยากรู้ เป้าหมายการใช้ชีวิตของทุกคน คืออะไรคะ?

“น้องเพ้นท์ (นามสมมุติ)” อายุ 19 ปี สายแรกในรายการพุธทอล์คพุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (11/01/2023) ได้โทรเข้ามาปรึกษาพี่ๆ ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับแพชชั่นในการใช้ชีวิตโดย “น้องเพ้นท์ (นามสมมุติ)” ได้ปรึกษาว่า ‘หนูไม่มีแพชชั่นในการใช้ชีวิตเลย เหมือนแบบอยู่ไปวันๆ คือคุณพ่อ-คุณแม่เป็นคนง่ายๆ สบายๆ ไม่หรูหรา ไม่ต้องใช้ของแบรนด์เนม ไม่ต้องกินอาหารหรู และเขาก็ปลูกฝังว่าไม่จำเป็นต้องดิ้นรนหาเงินเพื่อที่จะใช้ชีวิตหรูๆ แพงๆ แบบนั้น หนูก็เลยไม่มีแพชชั่นในการใช้ชีวิต หาเงิน หรือออกไปทำอะไรต่างๆ ทั้งแต่งตัวหรือออกไปเที่ยวที่ไหนเลยตอนนี้หนูเป็นนักศึกษา ออกมาอยู่หอ แล้วก็อยู่แต่ห้อง ไม่ค่อยออกไปเจอใคร ไม่อยากรู้จักใคร ตอนเรียนอยู่มัธยมก็ไม่ค่อยมีแพชชั่นแต่ด้วยความที่เจอเพื่อนก็ยังได้เล่นกับเพื่อนๆบ้าง แต่พอมาเรียนมหาลัยก็ต่างคนต่างอยู่ เพื่อนที่มหาลัยไม่มีเลย จะมีแค่เพื่อนในคลาสที่คุยกันบ้างนิดๆหน่อยๆ แต่เพื่อนที่ออกไปกินข้าวหรือเที่ยวด้วยกันไม่มีเลย มันก็เลยวนลูปอยู่แบบนี้ทุกวัน หนูเริ่มคิดตั้งแต่อยู่ม. 3 – 4 แล้วว่าคนเราจะต้องทะเยอทะยานสูงขนาดนั้นไปเพื่ออะไร ไม่เข้าใจว่าคนเราต้องมีชีวิตไปทำอะไร คิดว่าสุดท้ายทุกคนก็ต้องตายอยู่ดี หนูก็ไม่ได้อยากตาย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอยากอยู่ต่อ ทุกวันนี้ที่อยู่ก็เพื่ออยู่กับคุณพ่อ-คุณแม่ไปอย่างนั้น...หนูไม่ค่อยได้ทำอะไรเลย งานอดิเรกก็มีจดคำศัพท์ภาษาอังกฤษบ้าง ดูอนิเมะญี่ปุ่นบ้าง ดูการ์ตูนบ้าง แต่ไม่มีการ์ตูนที่ชอบเลย ส่วนศิลปินที่ชอบ คือ “เทย์เลอร์ สวิฟต์” หนูอยากให้พี่ๆช่วยปรับ Mindset ของหนูหน่อย และก็อยากรู้จุดมุ่งหมายในการใช้ชีวิตของพวกๆพี่ด้วยว่าคืออะไร เผื่อหนูจะเอามาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้บ้าง...งานนี้พี่ๆ ดีเจทั้ง 3 คน ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สิ่งที่พ่อแม่เพ้นท์ปลูกฝังและเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าเราไม่จำเป็นต้องดิ้นรนอะไรเลย นั้นเป็นสิ่งเรียบง่ายที่ดีงามมากๆเลยนะ เพราะพ่อแม่ไม่ได้กดดันให้เราต้องมีความอยากที่จะมีสิ่งต่างๆ ที่สังคมบางส่วนบอกว่ามันต้องมีแบบนี้ถึงจะประสบความสำเร็จในชีวิตเพ้นท์ลองหาความสุขในชีวิตให้เจอ ต่อให้มันจะเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆก็ตาม หรือไม่ก็ลองวางเป้าหมายระยะสั้นดูเพื่อให้ชีวิตสนุกขึ้น แต่การที่เราอยู่ไปวันๆในช่วงวัยหนึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย และแนะนำให้ไปหาคุณหมอ ไม่ใช่ว่าหนูป่วยนะ แต่มันเป็นศิลปะการใช้ชีวิตอย่างหนึ่งที่เราไปเอาจากผู้เชี่ยวชาญว่าเราควรต้องไปทางไหนสำหรับพวกพี่ไม่ได้มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนขนาดนั้น แค่ได้กินของอร่อย ได้นอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมง ได้เจอเพื่อน เม้าท์กับเพื่อน แค่นี้ก็มีความสุขที่รู้สึกว่าบางทีก็ไม่จำเป็นต้องหาแพชชั่นในชีวิตก็ได้ แต่ชีวิตของมนุษย์มีค่านะ ทั้งการที่เราได้มีความสุขในระหว่างที่เราดำรงชีวิตอยู่ และเหมือนเป็นความหมายของการเกิดมาเป็นมนุษย์ คิดดูว่าชีวิตหนูมันสามารถสร้างประโยชน์อะไรให้คนอื่นได้บ้าง ลองไปทำอะไรก็ตามที่คนที่เขาไม่มีความสามารถแล้วต้องการความช่วยเหลือจากเรา พี่ว่านี่คือคำตอบง่ายๆที่จะบอกเพ้นท์ได้ว่าเราจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร...’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางhttps://youtu.be/AUJf-cppsLcรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่! “Jackson Wang” โชว์เปิดงาน “ศึกแดงเดือด”

09 มิ.ย. 2022

เซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่! “Jackson Wang” โชว์เปิดงาน “ศึกแดงเดือด”

เซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่! เมื่อวันนี้ (วันที่ 9 มิถุนายน 2565) “Jackson Wang (แจ็คสัน หวัง)” หนึ่งในสมาชิกของวง GOT7 ได้ออกมาโพสต์ภาพลงบนอินสตาแกรมส่วนตัว ที่ทำเอาเหล่าอากาเซถึงกับร้องกรี๊ด! กับการบิดลัดฟ้ามาโชว์เปิดงาน “RED WORLD OPENING LIVE THE MATCH BANGKOK CENTURY CUP 2022” ที่จะมีขึ้นวันที่ 12 กรกฏาคม 2565 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 18.00 น. ตามเวลาประเทศไทย งานนี้ #JacksonWang ก็ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ไปเลยภาพ : jacksonwang852g7

ฟินกันทั้งฮอลล์! กับความสนุกแบบจัดเต็ม "JAY B" Encore in BANGKOK

31 ม.ค. 2023

ฟินกันทั้งฮอลล์! กับความสนุกแบบจัดเต็ม "JAY B" Encore in BANGKOK

คอนเสิร์ตปิดท้ายเวิลด์ทัวร์ในประเทศไทยกับงาน “2022 WORLD TOUR JAY B TAPE: PRESS PAUSE ENCORE IN BANGKOK” ซึ่งถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 21-22 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ที่ระเบิดความสนุกจัดเต็มเกือบ 3 ชั่วโมง เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟน ๆ ได้ไม่มีแผ่วแบบนอนสต็อป​เปิดพาร์ทแรกด้วยบทเพลงสุดไพเราะตามสไตล์ของ “JAY B” ซึ่งแม้จะเป็นการกลับมาภายใต้การเวิลด์ทัวร์เดิม แต่คอนเสิร์ต ENCORE ในครั้งนี้ก็ได้มีการเรียบเรียงลำดับเพลงขึ้นใหม่ ไม่เหมือนครั้งที่แล้ว ทุกพาร์ทการแสดงไม่มีดรอป มีแต่เพิ่มความสนุกมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยขนทัพเพลงฮิต และเพลงในดวงใจเหล่าแฟนคลับทุกคนมาแบบครบถ้วน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเซอร์ไพรส์พิเศษกับหลาย ๆ บทเพลงที่ไม่เคยร้องที่ไหนมาก่อนอีกด้วย เรียกเสียงกรี๊ดฮอลล์แทบแตก! ตามด้วยอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์แบบไม่ให้แฟนคลับได้พัก เพราะ “JAY B” ยังคงนำเอารถเลื่อนไปทักทายแฟน ๆ ทั่วทั้งฮอลล์อย่างใกล้ชิดเช่นเดิม พร้อมโยนลูกบอลที่มีลายเซ็นต์ให้แฟนคลับได้เก็บเป็นที่ระลึกอีกด้วย ซีนนี้ชนะใจแฟนคลับไปเต็ม ๆ เพราะแม้สถานที่จะใหญ่ขึ้น และแฟน ๆ จะอยู่ไกลแค่ไหนแต่ก็คุ้มค่าทุกที่นั่งแน่นอน!โดยหลังจากจบพาร์ทการแสดง และเข้าสู่ช่วง ENCORE “JAY B” ได้กลับขึ้นเวทีด้วยลุคเสื้อยืดสีดำสกรีนลายคอนเซ็ปต์ของการเวิลด์ทัวร์ในครั้งนี้ ซึ่งหลังจากเปิดขายก็ “SOLD OUT” ไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน และก็ถึงเวลาที่แฟนคลับชาวไทยจะได้เซอร์ไพรส์ “JAY B” กลับบ้าง ด้วยการเตรียมแฟนโปรเจกต์มาให้เพื่อนรักแบบ 2 วันไม่ซ้ำ! โดยหลังจากรับชม “JAY B” ได้ขอให้ทีมงานดับไฟในฮอลล์และบอกความรู้สึกว่า “ทุกคนเหมือนดวงดาว และผมก็จะเหมือนพระจันทร์เหมือนที่ทุกคนบอกครั้ง เราจะรอเวลาที่เราจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าผมจะดีพอที่จะรับความรักจากทุกคนหรือเปล่า แต่ผมสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดี รักษาสุขภาพ ไม่ต้องเป็นห่วงผมจนเกินไปนะครับ” และอ้อนแฟนชาวไทยด้วยประโยค "ทุกคนรอผมกลับมาด้วยนะครับ" เป็นภาษาไทยอีกด้วยซึ่งแฟนคลับก็ทราบกันดีว่าหลังจากจบการเวิลด์ทัวร์ในครั้งนี้ หนุ่ม “JAY B” อาจจะต้องหายหน้าหายตากันไปซักพัก เลยได้เตรียมเซอร์ไพรส์ใหญ่ด้วยบทเพลงพิเศษอย่าง “잠시만” (แปลว่า อีกแค่ไม่นาน) โดยมีท่อนฮุคสุดกินใจความหมายลึกซึ้งว่า "รอผมหน่อยนะ มันไม่นานหรอก อีกแค่ไม่นาน ผมจะได้กลับมาอยู่ข้าง ๆ คุณ" เพลงพิเศษที่เพื่อนรักคนนี้ตั้งใจเขียนบอกความรู้สึกถึงแฟน ๆ ที่เค้ารักมากที่สุด​เรียกได้ว่างานทั้ง 2 รอบการแสดงประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมาก ๆ คอนเสิร์ตเดี่ยวในประเทศไทยในฐานะศิลปินเดี่ยวของ “JAY B” ผ่านพ้นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยแฟนคลับชาวไทยก็ให้คำสัญญาว่าเราทุกคนจะรออยู่ตรงนี้เสมอ ไม่ไปไหนแน่นอน จนกว่าจะพบกันใหม่ ถ้าเราคิดถึงกันก็ให้มองขึ้นไปที่ท้องฟ้า เพราะ “ดวงดาว” จะโอบกอด “พระจันทร์” เสมอภาพ : BEX

เซนส์แรงเป็นเหตุ จะเกิดอะไรขึ้น?! เมื่อ ‘คน’ มีเพื่อนเป็น ‘ผี’ !!

27 ต.ค. 2022

เซนส์แรงเป็นเหตุ จะเกิดอะไรขึ้น?! เมื่อ ‘คน’ มีเพื่อนเป็น ‘ผี’ !!

ใครเป็นเด็กหอต้องมีเสียวสันหลัง เมื่อได้ฟังเรื่อง “รูมเมท” จากคุณนุ๊ก สายที่ 2 ในรายการ “อังคารคลุมโปง” เธอได้โทรเข้ามาแชร์ประสบการณ์ขวัญผวาของคนมีเซนส์ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (25 ตุลาคม 2565)“อยู่ที่ไหน นุ๊กก็จะมีรูมเมท” คุณนุ๊กเปิดหัวเรื่องด้วยประโยคชวนขนลุก ก่อนจะเล่าว่า ในช่วงที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่นั้น คุณนุ๊กพักอยู่หอในกับรูมเมท (คน) ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทางคุณนุ๊กเองก็ได้บอกรูมเมทไปล่วงหน้าว่า “เราอาจจะเห็นอะไรแปลกๆ นะ” รูมเมทก็ตอบกลับมาว่า “เราชอบฟังเรื่องผี” ทั้งสองจึงอยู่ด้วยได้กันช่วงแรกหลังจากได้เข้าไปอยู่ คุณนุ๊กก็รู้สึกว่าเหมือนมีใครอีกคนอยู่ในห้อง หลังๆ ก็เริ่มรู้สึกมากขึ้น อย่างตอนที่นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะก็จะรู้สึกว่าที่หางตามีผู้หญิงนั่งอยู่ปลายเตียงของรูมเมท ในทุกๆคืน คุณนุ๊กจะสวดมนต์ก่อนนอน แต่ถ้าวันไหนไม่ได้สวด ก็จะรู้สึกว่ามีอะไรมาดึงขาบ้าง มาทุบที่คางบ้างและนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นมีอยู่วันหนึ่งคุณนุ๊กกลับมานอนพักที่ห้อง ระหว่างที่กำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น ตอนนั้นเธอรู้สึกตัว แต่ขยับไม่ได้ จากนั้นก็เห็นคนเปิดประตูเข้ามา ซึ่งก็คิดว่าเป็นรูมเมท สักพักพอคนนั้นเดินมาข้างๆ เตียง เธอก็เริ่มรู้สึกว่ามันแปลกเพราะตรงเตียงของคุณนุ๊กและรูมเมทนั้นจัดชิดติดกันตั้งแต่แรกไม่มีช่องว่างที่จะสามารถเดินเข้ามาได้แล้วคนๆ นั้นเธอเดินเข้ามาระหว่างเตียงคุณนุ๊กกับเตียงรูมเมทได้ยังไง?จากนั้นเธอก็ยื่นมือมาจัดหิ้งพระที่คุณนุ๊กนำมาวางไว้บนหัวเตียง พอเสร็จ เรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น ก็กำลังจะเกิดขึ้น!เธอค่อยๆ นั่งลงกับพื้นแล้วก็เอามือจับขอบเตียงทั้งสองข้าง ใบหน้ายื่นเข้ามาหาคุณนุ๊กในระยะประชิด! ลักษณะตาโบ๋ลึกเข้าไป ปากก็โบ๋กว้าง คุณนุ๊กคิดในใจว่าไม่ใช่รูมเมทแล้ว ไม่ใช่แม้กระทั่งคนด้วยซ้ำไป จึงพยายามคิดว่าจะทำยังไงให้หลุดออกจากตรงนี้ ในระหว่างนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คุณนุ๊กก็หลุดออกจากตรงนั้นพลันคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ปรากฏว่าไม่มีเบอร์ใครโทรเข้ามาเลย คุณนุ๊กไม่รอช้า รีบออกจากห้องทันทีหลังจากวันนั้น คุณนุ๊กก็ไม่กล้านอนคนเดียวในตอนกลางวันอีกเลย และมักจะชวนเพื่อนอีก 2 คนมานั่งเล่นด้วยแทน หนึ่งในบทสนทนาคือประสบการณ์หลอนที่คุณนุ๊กมักจะเจอ แต่แล้วคุณนุ๊กและเพื่อนอีกคนก็ต้องหันมามองหน้ากัน เมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ดังแว่วมา ทั้งคู่พยายามไม่คิดอะไร และทำตัวให้ปกติที่สุด เพื่อให้เพื่อนอีกคนที่ไม่ได้ยินเสียงนั้นสบายใจนอกจากเหตุการณ์นั้นแล้ว คุณนุ๊กก็ยังเจออีกเรื่อยๆ เช่น มีเพื่อนมาอยู่ด้วยในขณะที่คุณนุ๊กนั่งสวดมนต์อยู่ เพื่อนคนนั้นก็ได้ยินเสียงสวดมนต์เป็นเสียงผู้หญิงหวานๆ ตอนแรกก็นึกว่าเป็นคุณนุ๊กที่สวด แต่พอมองไปที่คุณนุ๊กก็พบว่า เธอสวดอยู่ในใจ ไม่ได้อ้าปากออกเสียงอะไรเลย ส่วนคุณนุ๊กเองก็เคยได้ยินคนสวดมนต์ตามเสียงตัวเองเหมือนกัน ก็เข้าใจว่ารูมเมทมาร่วมสวดด้วย แต่พอหันไปดูก็พบว่าเขาแค่นั่งดูโทรทัศน์ไม่ได้ขยับปากแม้กระทั่งรูมเมทที่บอกว่าชอบฟังเรื่องผี แต่ไม่เคยเจอกับตัว กลายเป็นว่าเขาก็ต้องเจอไปด้วย อย่างในตอนที่ออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นผู้หญิงยืนหันหลังอยู่ คิดว่าเป็นคุณนุ๊ก จึงเรียก แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับแต่อย่างใด รูมเมทจึงไม่ได้สนใจ พอเดินมาที่กลางห้อง ถึงได้เห็นว่าคุณนุ๊กยืนส่องกระจกอยู่ที่หน้าห้องน้ำ ซึ่งเป็นคนละตำแหน่งกับที่เจอเมื่อสักครู่นี้เมื่อไม่สามารถย้ายหอได้เพราะข้อจำกัดหลายๆ อย่าง คุณนุ๊กจึงทำได้เพียงสวดมนต์และแผ่เมตตาให้บ่อยๆ หลังจากนั้นก็เริ่มดีขึ้น ไม่ค่อยปรากฏตัวให้เห็น และเริ่มมาเฉพาะตอนที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่น มีครั้งหนึ่งที่คุณนุ๊กป่วย คืนนั้นคุณนุ๊กกำลังโทรคุยกับเพื่อน พอเวลาประมาณ 5 ทุ่ม เพื่อนก็ถามว่า “ห้ะ? พูดว่าอะไรนะ?” จากนั้นสายก็ตัดไป พยายามโทรกลับไปหาเท่าไหร่ก็ไม่ติด แต่ก็ไม่คิดอะไรแล้วก็นอนหลับไป วันต่อมา คุณนุ๊กก็ถามเพื่อนว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนก็บอกว่าได้ยินเสียงผู้หยิงพูดแทรกเข้ามาว่า “พอแล้วนะ จะให้นอน” ด้วยน้ำเสียงไพเราะฟังสบายและอีกเหตุการณ์ที่คุณนุ๊กจำได้แม่นเลยก็คือ ในตอนนั้น สมุดบัญชีได้หายไปทั้งหมด 2 เล่ม คุณนุ๊กก็มานั่งที่เตียงแล้วก็พึมพำว่า “ช่วยนุ๊กหาสมุดบัญชีหน่อยสิ” สักพักก็มีความรู้สึกให้เดินไปที่เก้าอี้ที่มีประเป๋าแขวนไว้ พอเปิดดูก็พบสมุดบัญชีเล่มหนึ่ง จากนั้นคุณนุ๊กก็กลับมานั่งที่เตียงแล้วบอกว่า “เจอเล่มเดียวเอง แล้วอีกเล่มนึงล่ะ?” หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าต้องเดินกลับไปที่เดิม แล้วก็มองไปที่พื้น ซึ่งรอบแรก คุณนุ๊กมั่นใจเลยว่าไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้นจริงๆ พอมารอบนี้ก็พบสมุดบัญชีวางอยู่คุณนุ๊กเล่าเพิ่มว่า ช่วงหนึ่งรูมเมทที่เคยอยู่ด้วยกันมีเหตุต้องย้ายออกไป ทำให้คนใหม่ย้ายมา แต่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างสบายใจนัก เพราะคนใหม่มักคุยโทรศัพท์เสียงดัง คุณนุ๊กจึงคิดในใจว่า “อยากนอนอ่ะ จัดการให้หน่อย” หลังจากพูดเสร็จ อยู่ดีๆ รูมเมทคนใหม่ก็วางสายแล้วก็นอนทันทีคุณนุ๊กเองในตอนนั้น ก็รู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นเพื่อนคนนึงไปแล้ว ตอนที่ต้องย้ายออกจากหอ คุณนุ๊กก็ร้องไห้เพราะรู้สึกผูกพัน หลังจากนั้นก็มีทำบุญให้เรื่อยๆอีกเหตุการณ์ที่คุณนุ๊กเล่า คือก่อนหน้าที่คุณนุ๊กจะย้ายเข้าไปอยู่ ที่ชั้น 5 ของหอนี้ได้เกิดเหตุมีคนเสียชีวิต คุณนุ๊กเองก็ทราบและไม่อยากอยู่ที่นี่ ไม่อยากได้ห้องหมายเลข 214 ที่เป็นห้องตรงสามแยกพอดี แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ วันหนึ่งขณะกำลังจะเดินไปขึ้นลิฟต์ ก็สังเกตเห็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งใส่กระโปรงสั้นเดินเข้าไปในลิฟต์ก่อน แต่คุณนุ๊กอยากขึ้นแค่คนเดียว จึงยืนรออยู่หน้าลิฟต์ ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็ไม่กดลิฟต์สักที คุณนุ๊กจึงเดินเข้าไป ปรากฏว่าในลิฟต์ดันไม่มีใครอยู่เลย คุณนุ๊กที่ชินกับเรื่องแบบนี้ จึงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสคุยกับยามประจำหอ พี่ยามก็บอกว่า “อ๋อ คนเห็นประจำ น่าจะเป็นคนที่ชั้น 5 ส่วนลิฟต์ตัวนั้น เป็นลิฟต์ที่ขนศพเขาลงมา”ปัจจุบัน คุณนุ๊กก็ยังคงมีเซนส์ มักจะเห็นอะไรที่คนปกติไม่เห็นอยู่เสมอสามารถติดตามชมความหลอนย้อนหลังแบบเต็มๆ ได้ทาง

album

0
0.8
1