23 กันยายนนี้ ‘วันซ์’ พร้อมไหม ‘ทไวซ์’ พร้อมมาก! กับ “TWICE 5TH WORLD TOUR ‘READY TO BE’ BANGKOK”

ENTERTAINMENT NEWS

23 กันยายนนี้ ‘วันซ์’ พร้อมไหม ‘ทไวซ์’ พร้อมมาก! กับ “TWICE 5TH WORLD TOUR ‘READY TO BE’ BANGKOK”

29 พ.ค. 2023

เกิร์ลกรุ๊ปเจนสามขวัญใจพี่สาวน้องสาว TWICE (ทไวซ์) กลับมาเยือนกรุงเทพฯ ในรอบ 4 ปี กับเวิลด์ทัวร์ครั้งใหม่ TWICE 5TH WORLD TOUR ‘READY TO BE’ BANGKOK เพลงใหม่ เพลงปัง เพลงดังมาครบ ONCE (วันซ์) วอร์มคอ รอเต้น แล้วมาเจอกัน 23 กันยายนนี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

 

ทไวซ์ประสบความสำเร็จในฐานะหนึ่งในศิลปินเคป๊อปที่มียอดขายอัลบั้มสูงสุดตลอดกาล โดยกวาดยอดขายกว่า 10 ล้านอัลบั้ม ยอดสตรีมมิงกว่า 6,000 ล้านครั้งใน Spotify รวมไปถึงได้ปรากฏตัวในรายการวาไรตี้ชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Tonight Show Starring Jimmy Fallon และ The Late Show with Stephen Colbert นอกจากนี้ทไวซ์ยังเป็นเคป๊อปเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกที่ได้จัดสเตเดียมทัวร์ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเพิ่งปิดทัวร์ญี่ปุ่นเลกแรกที่ Ajinomoto Stadium พร้อมแฟน ๆ เข้าชมกว่า 100,000 คน

วันซ์เตรียมพบกับการแสดงสุดปัง พร้อมโปรดักชันอลังการที่นอกจากจะโชว์เพลงจากอัลบั้มใหม่อย่าง Set Me Free และ Moonrise Sunrise แล้ว สาว ๆ ทไวซ์ยังขนเพลงฮิตจากชุดก่อน ๆ ที่แฟน ๆ คิดถึง พร้อมโซโล่สเตจสุดปังมาให้ชมกันอย่างแน่นอน

 

23 กันยายนนี้ เตรียมตัวพบกันใน TWICE 5TH WORLD TOUR ‘READY TO BE’ BANGKOK ที่อิมแพ็ค อารีน่า บัตรราคาเริ่มต้น 2,800 บาท สมาชิกไลฟ์เนชั่นเทโร ซื้อบัตรก่อนใคร 16 มิถุนายนนี้ (10.00 – 22.00 น.) ทาง livenation.co.th จำหน่ายบัตรรอบทั่วไปวันแรก 17 มิถุนายนนี้ ทางเว็บไซต์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์เท่านั้น ก่อนจะเปิดจำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา

ภาพ Live Nation Tero

related ENTERTAINMENT NEWS

“กุ๊บกิ๊บ” พร้อมครอบครัวเซอร์ไพรส์รอรับ “บี้” ถึงสนามบิน หลังไม่เจอกันนานถึง 353 วัน!

03 ส.ค. 2022

“กุ๊บกิ๊บ” พร้อมครอบครัวเซอร์ไพรส์รอรับ “บี้” ถึงสนามบิน หลังไม่เจอกันนานถึง 353 วัน!

เรียกได้ว่าดีใจแบบสุด ๆ สำหรับนักแสดงสาว “กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์” หลังจากที่ต้องอยู่ห่างไกลกับสามี “บี้ ธรรศภาคย์” เนื่องจากต้องไปทำงานที่ประเทศจีนเป็นเวลานานเกือบปี ล่าสุด “กุ๊บกิ๊บ” พร้อมลูกสาว “น้องเป่าเปา”และ“น้องเป่าเป้ย์” ก็ได้เดินทางไปรอรับ “บี้” ถึงสนามบิน และโพสต์ภาพสุดอบอุ่นผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว เขียนแคปชั่นว่า ‘*Best August ever!! we have waited for you for 353 days!!! welcome home baby we miss you so much@biexu1991ป๊ากลับมาเซอร์ไพรสพวกเราหลังจากไม่ได้เจอกันมา 353 วัน แต่เจอพวกเราเซอร์ไพรส์กลับพี่เปาทำป้ายและขนไปรับกันทั้งบ้าน ยินดีต้อนรับกลับมาพักผ่อนนะคะคนดี สิงหาคมปีนี้ใจดีกับพวกเราจัง :)#เรามีบี้เป็นของตัวเองแล้ว’ งานนี้ทำเอาเหล่าคนในวงการบันเทิงและแฟน ๆ เข้ามาร่วมคอมเมนต์แสดงความดีใจและยินดีต้อนรับบี้กลับประเทศไทยกันอย่างมากมาย ภาพ : gggubgib36

จำฝังใจ!! แม่เปลี่ยนไป เพราะปลดเบาผิดที่…

20 ต.ค. 2022

จำฝังใจ!! แม่เปลี่ยนไป เพราะปลดเบาผิดที่…

เรื่องราวชวนขนหัวลุกนี้ มาจากคุณฟีน สายแรกที่โทรเข้ามาแชร์ประสบการณ์ของคุณแม่ให้ดีเจแนน และดีเจเคเบิลได้คลุมโปงไปด้วยกัน ในรายการ “อังคารคลุมโปง” เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (18 ตุลาคม 2565)คุณฟีนเล่าว่า ครอบครัวของคุณฟีนมีกิจการคณะลิเก ในช่วงๆ หนึ่งของทุกปี จะต้องเดินทางไปแสดงลิเกที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ และในปีที่ทำให้ต้องพบกับประสบการณ์หลอนนั้น คือปี พ.ศ. 2545 ทางวัดได้จัดพื้นที่ให้คณะลิเกตั้งซุ้มคณะใกล้ๆ กับพื้นที่ก่อสร้างด้วยพื้นที่ที่จำกัดทำให้คณะลิเก จัดตั้งได้เพียงแค่ด้านหน้าเวทีการแสดงเท่านั้น ส่วนด้านหลังที่เป็นพื้นที่พักผ่อนหรือแต่งตัวแต่งหน้าของทีมงานและนักแสดง ต้องย้ายไปจัดอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างข้างๆ ที่เป็นลักษณะลานกว้างและหลังคายังสร้างไม่เสร็จดี ถัดจากลานกว้าง ก็มีห้องๆ หนึ่งที่ยังเป็นโครงประตู หน้าต่างที่กำลังก่อสร้างอยู่และเนื่องจากทางวัดไม่เคยจัดให้โรงลิเกอยู่ในพื้นที่นี้มาก่อน ทำให้ระยะทางระหว่างโรงลิเกและห้องน้ำอยู่ห่างกันมาก ทีมงานและนักแสดงหลายคนจึงตัดสินใจปลดเบาที่ห้องห้องนั้นแทน...จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่ยังมีการแสดงลิเกอยู่นั้น คุณแม่ของคุณฟีนก็ได้ไปปลดเบาที่ห้องนั้นเช่นเคย หลังจากนั้นแกก็เริ่มมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงราวกับว่ามีคนเอาไม้หน้าสามมาตีที่หัวอย่างไรอย่างนั้น!เมื่อการแสดงจบลง คนในครอบครัวก็สังเกตว่าอาการปวดหัวนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งทำให้ตาของคุณแม่เหล่ และเมื่อคุณแม่ไปหาหมอ ก็ได้รับมาเพียงยาพาราเซตามอลคุณฟีนเล่าต่ออีกว่า บ้านของเธอเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนมี 4 ห้อง แบ่งเป็นฝั่งซ้ายขวาอย่างละ 2 ห้อง ซึ่งทางด้านขวาเป็นห้องพระ ในระหว่างที่คุณพ่อกำลังประคองคุณแม่เดินขึ้นมายังชั้น 2 จู่ๆ คุณแม่ก็ก้มหัวตัวเองลงกับพื้น จากนั้นก็ไถหัวแล้วเบนหน้าหนีจากห้องพระเพื่อขึ้นบันไดจนถึงห้องแล้วก็ปิดประตูทันที!คุณฟีนเสริมว่า ภายในห้องพระนั้น มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของต้นตระกูลอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือพ่อแก่ที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ของทวด ซึ่งไม่มีใครกล้าบูรณะให้เพราะหลายคนสัมผัสได้ถึงความดุของท่านเมื่ออาการของคุณแม่เริ่มหนักขึ้น บรรดาญาติๆ ต่างก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยียน ไม่ต่างจากคุณลุง ผู้ซึ่งทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถบบางรัก คุณลุงเองก็อยากให้คุณแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลนี้ และตั้งใจจะไปขอให้คุณหมอที่สนิทกันช่วยรักษาให้เมื่อไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอก็ยินดีรับคุณแม่เข้ารับการรักษา ซึ่งตอนนั้นคุณฟีนเองก็สัมผัสได้ว่าตอนนี้เหมือนคุณแม่ของเธอเหมือนมีสองคนอยู่ในร่างเดียว บางครั้งก็เป็นคุณแม่ที่คุณฟีนรู้จัก แต่ในบางครั้งก็จะแสดงท่าทีแปลกไปทางด้านลูกพี่ลูกน้องของคุณฟีน ก็รู้สึกแปลกใจเรื่องนี้เช่นกัน ขณะที่คุณแม่กำลังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ญาติของคุณฟีน จึงลองสวดคาถาชินบัญชร พอสวดเสร็จก็สอดคาถาไว้ใต้หมอนของคุณแม่ จากนั้น คุณแม่ก็ตื่นขึ้น!แต่กลับกลายเป็นว่า คุณแม่ไม่ยอมนอนหนุนหมอนที่มีคาถาซ่อนอยู่ พร้อมกันนั้นแกกลับสลับเอาเท้าไปพาดกับหมอนแทน ก่อนจะพูดว่า “ไม่นอน ไม่อยากนอน ไม่เอา” ซ้ำวนไปมาหลายรอบ แล้วยังบอกอีกว่า “เอาบทสวดมนต์ออกไป” เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนเข้าใจแล้วว่า คุณแม่ต้องโดนของหรืออะไรบางอย่างแน่ๆ... แต่ก็จะรักษาด้านวิทยาศาสตร์ควบคู่กับความเชื่อไปด้วยผ่านไปได้ 3-4 วัน คุณอาที่รับหน้าที่เฝ้าคุณแม่ก็ได้โทรมาบอกว่า คุณแม่เริ่มอาการไม่ดี ให้รีบมาที่โรงพยาบาลด่วน ถ้าคืนนี้ไม่ไหว ก็อาจจะต้องปล่อยให้คุณแม่ไป เมื่อไปถึงโรงพยาบาล บรรดาญาติก็เห็นว่าคุณแม่ไม่ได้นอนซมเพราะป่วย แต่ลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยว่า “ขอตังค์หน่อยสิ ขอตังค์หน่อยได้ไหม” ญาติก็ถามกลับว่า “จะเอาตังค์ไปทำอะไร?” แม่ก็ตอบว่า “อยากได้เงิน ต้องใช้เงิน”หลังจากนั้นคุณหมอก็พาเข้าห้องไป เมื่อรักษาเสร็จก็พาออกมา และดูเหมือนว่า อาการของคุณแม่จะดีขึ้น แต่ก็ถูกมัดมือมัดเท้าเพราะมีสายท่อที่ใช้ในการรักษาระโยงระยางเต็มไปหมดทางครอบครัวยังคงรักษาคุณแม่ต่อในโรงพยาบาล ส่วนในแง่ของความเชื่อ ก็มีคนแนะนำมาว่าให้ไปหาพระวัดป่ารูปหนึ่งในจ.ราชบุรี เผื่อท่านจะช่วยได้ จากนั้นคุณย่าก็ไปหาพระรูปนั้น เพื่อนำวันเดือนปีเกิดของคุณแม่ไปให้ พอยื่นให้ท่าน ท่านก็พูดว่า “เขาโกรธนะ ไปเยี่ยวรดหัวเขาแบบนั้น คนมอญน่ะเขาโกรธนะ เขาจะเอาไปเลยนะ”นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า “คนที่มาสิง เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสองสี เป็นคนมอญ”และยังถามอีกว่า “มีลูก 2 คนใช่ไหม?” ย่าก็ตอบว่า “ใช่” พระท่านจึงแนะนำว่า “ให้คนโตบวช 15 วัน ส่วนคนเล็กให้เลิกกินเนื้อตลอดชีวิต และให้นำของไหว้ ไปที่ที่แม่เคยโดนของ แล้วก็ขอขมา บอกว่าเราไม่ได้ตั้งใจ” หลังจากนั้นไม่กี่วัน คุณย่าก็รีบไปทำพิธีตามที่พระท่านบอก คุณย่าเล่าให้ฟังว่า ที่ตรงนั้นทั้งมืด ทั้งน่ากลัว แต่ก็ทำการสวดมนต์และขอขมาจนเสร็จสิ้นกลับมาที่ฝั่งของโรงพยาบาล ก็เหมือนมีอะไรมาดลใจคุณหมอให้เดินมาที่เตียงของคุณแม่ แล้วถามคุณอาว่า “ขอถามหน่อยสิ คนไข้ตาเหล่มาตั้งแต่กำเนิดเลยไหม?” อาก็ตอบกลับว่า “ไม่ใช่ค่ะ” เมื่อคุณหมอได้ยินดังนั้น ก็ให้นักศึกษาแพทย์มาช่วยกันตรวจอาการของคุณแม่ทันที เพราะมีเคสน้อยมากที่จะปวดหัวจนตาเหล่แบบนี้ เมื่อคุณหมอได้วินิจฉัยเสร็จแล้ว ผลตรวจออกมาว่า คุณแม่มีอาการไวรัสขึ้นสมอง เป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่คุณย่าได้ไปขอขมาพอดี คุณแม่ก็เริ่มมีอาการดีขึ้นแต่ก็ใช้เวลาเกือบ 1 เดือนเต็มเลยทีเดียวเมื่อได้ออกจากโรงพยาบาล คุณแม่ก็กลายเป็นคนที่พูดช้าลง รวมทั้งการกระทำต่างๆ ก็ด้วย แล้วคุณแม่ก็เล่าให้ฟังว่า “ก่อนที่แม่จะไปโรงพยาบาล แม่ก็ยืนอยู่หน้าห้องพระ แล้วพูดว่าพ่อแก่ ขอให้ลูกหายกลับมา ลูกจะบวช 15 วัน” แล้วก็บอกว่าตอนที่อยู่โรงพยาบาลแม่ฝันว่า “มีคนมาจ้างลิเกให้ไปเล่นบนสวรรค์ แม่ก็ชักรอกขึ้นไป แล้วก็มีคนเอาตุ๊กตามาให้แม่ถือเต็มมือเลย แต่แม่ก็ทำหล่น คนข้างล่างที่เป็นเหมือนคนมอญก็พูดขึ้นมาว่าทำหล่นเหรอ แล้วก็โดนด่า” แล้วยังฝันอีกว่า “แม่กระโดดข้ามตึกไปมา แล้วก็ไม่ตาย มีคนมาช่วย แล้วก็เห็นคนที่ตายทุกคนมายืนล้อมเตียงเหมือนพยายามจะมาช่วยแม่”หลังจากนั้น คุณแม่และพี่ชายของคุณฟีนก็ไปบวช ส่วนคุณฟีนก็เลิกกินเนื้อตลอดชีวิต และคุณแม่ก็ได้ไปหาพระรูปนั้นที่คุณย่าเคยไปหา พระท่านก็แนะนำอีกว่า “ให้เลิกกินหอยที่มีคนเอาไปปล่อย พยายามทำบุญตักบาตรเรื่อยๆ นะ”แต่หลายคนก็สงสัยว่ามีทีมงานและนักแสดงหลายคนที่ไปปลดเบาในห้องนั้น ไม่เห็นมีใครมีอาการเหมือนคุณแม่เลย ท่านจึงบอกว่า “อาจเพราะดวงกำลังตก และเป็นคนจิตอ่อนทำให้โดนได้ง่าย”นับตั้งแต่วันนั้น คุณแม่ก็ยังคงพูดช้าจวบจนทุกวันนี้ แต่ก็ไม่มีอาการแปลกๆ เหมือนช่วงที่เข้าโรงพยาบาลอีกเลย... สามารถติดตามชมความหลอนย้อนหลังแบบเต็มๆได้ทางหากคุณชอบเรื่องหลอน และอยากแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุก รับชมรายการสดได้ทุกวันอังคาร เวลา 20.00-22.00 น. ทางคลื่นวิทยุ EFM94 และ App : Atimefungfin

“โต้ง ทูพี” เปิดใจ! หลังเลิก “ปราง กัญญ์ณรัณ” ความสัมพันธ์ครั้งนี้เป็นหนังรักที่สวยงามที่ผมรักที่สุดในชีวิต

31 ส.ค. 2022

“โต้ง ทูพี” เปิดใจ! หลังเลิก “ปราง กัญญ์ณรัณ” ความสัมพันธ์ครั้งนี้เป็นหนังรักที่สวยงามที่ผมรักที่สุดในชีวิต

หลังจากที่นางเอกสาว “ปราง กัญญ์ณรัณ” ได้ออกมาเปิดใจถึงสถานะความสัมพันธ์กับ “โต้ง ทูพี” ที่ได้ปิดฉากรัก 10 ปีกันอย่างสมบูรณ์แล้ว ล่าสุด “โต้ง” ก็ได้ออกมาเปิดใจด้วยการโพสต์ภาพคู่ “ปราง” ผ่านอินสตาแกรม พร้อมเขียนแคปชั่นว่า ‘ผมอยากจะขอขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แฟนๆทุกคนที่คอยส่งกำลังใจให้เราในทุกๆทาง ผมเห็นและได้อ่านเกือบหมด ต้องขอโทษจริงๆที่ไม่ได้ตอบใครเลย ขอบคุณที่รักเรา เชียร์ และ supoort เราสองคนมากขนาดนี้ มันมีความหมายมากๆ แฟนๆรักเรามากๆจนผมรู้สึกได้เลย ผมรู้สึกตื้นตันอย่างมากจนบอกไม่ถูก ขอบคุณที่ติดตามหนังรักภาคสองของพวกเรา มันเป็นหนังรักที่สวยงามที่ผมรักที่สุดในชีวิต ขอบคุณอีกครั้งจากใจ love yall’ งานนี้อดีตคนรัก “ปราง” ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ส่งอิโมจิหัวใจสีขาวให้ รวมถึงเหล่าคนในวงการบันเทิงและแฟน ๆ ก็ต่างเข้ามาร่วมคอมเมนต์ส่งกำลังใจให้ทั้งคู่กันอย่างมากมาย ภาพ : twopee

‘เมย์ อรวรรณ (MAME)’ นักเขียนนิยาย BL ไทยคนแรก ที่จัดงานแฟนไซน์ในประเทศญี่ปุ่น

17 เม.ย. 2023

‘เมย์ อรวรรณ (MAME)’ นักเขียนนิยาย BL ไทยคนแรก ที่จัดงานแฟนไซน์ในประเทศญี่ปุ่น

ถึงวันนี้คงไม่มีแฟนนิยายวายคนไหนที่จะไม่รู้จัก "คุณเมย์ - อรวรรณ วิชญวรรณกุล" นักเขียนดังที่ใช้นามปากกาว่า "MAME" รวมถึงเป็นผู้บริหารและผู้จัดซีรีส์ของ บริษัท มี มายด์ วาย จำกัด ที่ประสบความสำเร็จกับบทบาทนักเขียนนิยายวาย Boy Love (BL) อย่างมาก จนเป็นที่รู้จักในหลายประเทศ และมีนิยายหลายเรื่องที่ถูกนำไปแปลเป็นภาษาต่างประเทศแล้วทั่วโลก จากประสบการณ์และความตั้งใจทำให้ MAME เป็นนักเขียนนิยายวายไทยคนแรกที่มีโอกาสได้ไปจัดงานแฟนไซน์ไกลถึงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กับงานที่มีชื่อว่า "BEGINNING OF LOVE MAME 1st FANSIGNING IN TOKYO" เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา โดย เมย์ อรวรรณ เปิดใจถึงงานแฟนไซน์ครั้งนี้ว่า "เอาจริง ๆ ตอนแรกเลยที่รู้ว่ามีทีมออแกไนซ์สนใจจัดงานแฟนไซน์นักเขียนให้กับเมย์ ก็รู้สึกตกใจนะคะ เพราะไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง ๆ กับเราหลังจากที่เขียนนิยายมากว่า 10 ปี แล้วยิ่งเป็นที่ต่างประเทศอีก ปลื้มเลย (หัวเราะ) ซึ่งตอนแรกที่ประกาศงานออกไป แค่มีคนมาถึงสัก 100 คน เมย์ก็ดีใจแล้ว แต่พอวันสรุปยอดคนซื้อบัตรปรากฏว่ามีคนมา 600 กว่าคนเลย ดีใจมาก (ยิ้ม) ที่มีคนมารอเจอเมย์ ชื่นชอบผลงานของเมย์ และเห็นคุณค่าในความพยายามของเมย์มากขนาดนี้ ในวันงานตื่นเต้นจนไม่กล้าไปแอบดูหน้าเวทีเลยค่ะ กลัวทำตัวไม่ถูก (หัวเราะ) ในงานนี้เมย์ได้มีโอกาสแอบเอาเบื้องหลัง Wedding Plan The Series มาเปิดให้แฟน ๆ ที่ญี่ปุ่นได้ดูก่อนใครเป็นที่แรกด้วยค่ะ เมย์อยากขอบคุณแฟน ๆ นิยายขอเมย์ทุกคนทั้งในไทยเองหรือในต่างประเทศก็ตาม ที่สนับสนุนเมย์เสมอมา ทุกกำลังใจเป็นแรงผลักดันที่สำคัญมาก ๆ ที่ทำให้เมย์ยังตั้งใจทำตามความฝันของตัวเอง จนถึงทุกวันนี้ มันทำให้เมย์อยากทำผลงาน สร้างความสุขให้กับทุกคนออกมาเรื่อย ๆ ไปอีกนาน ๆ เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นนิยายหรือซีรีส์ ยังไงก็ขอฝากผลงานต่าง ๆ ของเมย์ด้วยนะคะ หวังว่าผลงานทุกชิ้นของเมย์จะสร้างความสุข และรอยยิ้มให้กับทุกคนอยู่เสมอค่ะ" ภาพ Me Mind Y

album

0
0.8
1