“มิว ศุภศิษฏ์” สุดเจ๋ง! โชว์ร้องเพลง “Forever Love” ในรายการ “Simply K-Pop Con-Tour”

ENTERTAINMENT NEWS

“มิว ศุภศิษฏ์” สุดเจ๋ง! โชว์ร้องเพลง “Forever Love” ในรายการ “Simply K-Pop Con-Tour”

26 ก.ค. 2022

ฮอตปรอทแตกเลยทีเดียว สำหรับ “มิว ศุภศิษฏ์” กับการขึ้นโชว์ร้องเพลง “FOREVER LOVE” เป็นครั้งแรก ร่วมกับ “BUMKEY (บอมคีย์)” ในรายการ “Simply K-Pop Con-Tour” ที่ประเทศเกาหลีใต้

งานนี้เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับ “Mewlions Korea” ที่มารอนั่งชมในสตูดิโอได้อย่างถล่มทลาย และยังมีการถ่ายทอดสดผ่านทาง Youtube : Live Streaming ช่อง “Arirang K-Pop” ให้แฟนๆ ทั่วโลกได้รับชมกันอีกด้วย

ส่งผลให้ #SimplyCONTOURxMEW ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ของโลก และอันดับ 1 ของประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ที่ผ่านมา กันเลยทีเดียว

หลังจบรายการยังมี “มินิแฟนมีตติ้ง” กับแฟนๆ ถึง 70 คน แถมยังมี Food Support ส่งมาให้กำลังใจ “มิว ศุภศิษฏ์” กันถึงหลังเวที งานนี้น่าจะได้ “มิวเลียนส์” เพิ่มขึ้นอีกมากมาย และยังเป็น “Kim Mew Mew” ของ “Mewlions Korea” อีกด้วย

 สำหรับใครที่พลาดชมรายการตอนช่วง Live Streaming สามารถชม โชว์เพลง “FOREVER LOVE” ย้อนหลังได้ทาง YouTube : Arirang K-Pop

 

ภาพ : MewSuppasitStudio

related ENTERTAINMENT NEWS

บ้านพักร้างสร้างเรื่อง! 12 พยานหลอนเห็นตรงกัน ขนาดทำบุญใหญ่แล้วก็ยังดุดัน ไม่เกรงใจใคร! | อังคารคลุมโปง

27 ธ.ค. 2022

บ้านพักร้างสร้างเรื่อง! 12 พยานหลอนเห็นตรงกัน ขนาดทำบุญใหญ่แล้วก็ยังดุดัน ไม่เกรงใจใคร! | อังคารคลุมโปง

รายการ ‘อังคารคลุมโปง’ ที่ผ่านมา (20 ธันวาคม 2565) ได้เชิญ ‘คุณแจ็ค The Ghost Radio’ กลับมาเล่าเรื่องผีกันอีกครั้ง คราวนี้แพ็คความหลอนมาเต็มกระเป๋าต้อนรับปีใหม่ กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘ผีในวงเหล้า’ งานนี้ทำเอาดีเจแนน และดีเจซันเดย์ต้องอ้าปากค้าง ยกให้เป็นเรื่องหลอนระดับสิบกันเลยทีเดียว !คุณแจ็คเกริ่นเรื่องว่า ในทุก ๆ วงสนทนา และการดื่มกินสังสรรค์ ภายใต้ค่ำคืนแห่งความมืดมิด บรรยากาศหลอน ๆ ชวนให้ต้องเล่าเรื่องผี ดังนั้นเรื่องที่จะเล่านี้ ผีไม่ได้ปรากฏขึ้นมาในวงเหล้าให้เห็นจะ ๆ แต่เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นในวงสนทนาเรื่องนี้มาจาก ‘คุณเยี่ยม’ เพื่อนของ ‘คุณเซน’ แฟนรายการ The Ghost Radio เขาเล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับกลุ่มคน 12 คน ที่อยู่ในสถานที่เดียวกัน ทั้งหมดเป็นพยานความหลอนในครั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงที่พึ่งเข้าไปทำงานใหม่กับบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งในตำแหน่ง ‘โฟร์แมน’ หรือ ‘ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง’ ครั้งนั้นได้รับมอบหมายให้ไปทำงานสร้างห้างสรรพสินค้าในจังหวัดปราจีนบุรี ทางคุณเยี่ยมและเพื่อนร่วมงาน ก็ต้องเดินทางไปประจำที่ไซต์งานแห่งนั้น โดยทางบริษัทได้จัดหาที่พักไว้ให้ และต้องอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 7 เดือนเต็มที่พักแห่งนี้มีลักษณะเป็นคูหาทั้งหมด 8 ห้องใหญ่ กำแพงไม่ติดกัน เหมือนเป็นแท่งสี่เหลี่ยมยาว ๆ ลึกเข้าไป ด้านหน้าของตึกติดตั้งระเบียงเหล็ก (คล้ายกับตะแกรงเหล็ก) และมีบันไดขึ้นทั้ง 2 ทาง เหมือนทางขึ้นเมรุอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งทางบริษัทจัดหาไว้ให้ 3 ห้อง นับเรียงจากฝั่งซ้าย (คุณแจ็คขอเรียกเป็นห้องซ้าย ห้องกลาง ห้องขวา) แต่ละห้องจะแบ่งเป็น 2 ห้องนอน (นอนด้วยกันห้องนอนละ 2 คน ก็จะพอดีจำนวน 12 คน) คุณแจ็คเล่าเสริมว่า อาชีพโฟร์แมนจะมีความรู้เรื่ององค์ประกอบการก่อสร้าง แต่เมื่อได้เห็นที่พักที่ถูกจัดให้พักนั้นก็เกิดความรู้สึกว่ามัน ‘แปลก’ ชอบกลในแต่ละห้อง ส่วนของชั้นล่างจะโล่ง มีบันไดขึ้นชั้นบน มีห้องนอน 2 ห้อง คือ ห้องนอนด้านหน้าที่ติดกับระเบียงเหล็ก และห้องนอนด้านหลัง ส่วนที่แปลกคือประตูทางเข้าของห้องนอนด้านหน้าต้องเข้าจากทางระเบียงเท่านั้น ไม่มีประตูให้เข้าจากข้างใน แม้จะเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเพียงใด เหล่าโฟร์แมนทั้ง 12 คนก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะที่พักแห่งนี้ถูกจัดมาให้เรียบร้อยแล้ว ถ้าจะให้หาที่พักใหม่ ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเองวันหนึ่ง หลังจากเลิกงาน ก็มีปาร์ตี้สังสรรค์กินดื่มกันบ้างเป็นเรื่องปกติ 1 ใน 12 โฟร์แมน นามว่า ‘คุณต้อม’ บอกว่ารู้สึกเหนื่อย จึงขอเข้าไปนอนพักแทนที่จะสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงาน สมาชิกที่เหลือไม่ได้ผิดสังเกตอะไร จึงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน จนถึงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม คุณต้อมก็วิ่งหน้าตื่นออกมาจากห้อง แล้วบอกว่า “ผีอำว่ะ” เพื่อนร่วมงานที่เป็นชายปากกล้าก็ถามกลับไปว่า “คิดมากไปหรือเปล่า นอนมากไป ฝันมากไป ผีไม่มีหรอก และผีที่อำเนี่ย ผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าเป็นผู้หญิง เดี๋ยวจัดการให้” สิ้นเสียงนั้น ทุกคนในที่นั้นก็เห็นผ้าขนหนูผืนบางที่ถูกแขวนอยู่ตรงผนังหลุดออกมา แล้วก็ถูกเหวี่ยงมาใส่หน้าของผู้ชายคนนั้น! ทุกคนทั้งอึ้งและงงกับเหตุการณ์นั้น จากนั้นพี่ซีเนียร์ในกลุ่มก็พยายามพูดเพื่อไม่ให้ทุกคนหวั่นกระเจิงไปกันใหญ่ว่า “ห้องนี้ไม่ได้ปิดประตูหน้าต่างให้มันดี ลมมันอาจจะพัดมาก็ได้” แต่ทุกคนก็อดคิดไม่ได้ช่วงกลางวันของวันต่อมา คุณเยี่ยมก็ออกเดินสำรวจพื้นที่รอบ ๆ สิ่งหนึ่งที่เห็นคือบริเวณหน้าประตูมีปี่เซียะตั้งอยู่ นั่นไม่ใช่จุดที่ผิดสังเกต แต่สิ่งที่ชวนสงสัยคือทุกซอกทุกมุมของตึกไม่ว่าจะเป็นประตู หน้าต่าง มีปี่เซียะวางอยู่ทุกจุด! คุณเยี่ยมคิดว่าเจ้าของตึกอาจจะมีความเชื่อทางด้านนี้ และเขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปี่เซียะมีไว้ทำไม จึงไม่ได้สนใจแม้จะสงสัยอยู่ในใจก็ตามหลังจากนั้นหลังเลิกงาน ปาร์ตี้สังสรรค์ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง เวลาประมาณเที่ยงคืนทุกคนก็เริ่มแยกย้ายไปนอน เริ่มจากห้องกลาง เป็นห้องของคุณเยี่ยมและคุณต้อม ระหว่างที่กำลังจะเคลิ้มหลับประมาณตีหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นมาจากบันได คล้ายกับเสียงรองเท้าคัทชูไม่ก็ส้นสูง คุณเยี่ยมนอนฟังอยู่ก็นึกสงสัยว่าใครกันที่จะใส่รองเท้าแบบนั้นเดินขึ้นบันได เพราะทั้งเขาและคุณต้อมต่างก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ จากเสียงรองเท้ากระทบกับปูนก็เปลี่ยนเป็นเสียงที่กระทบกับเหล็กดัง “ก๊องแก๊ง ก๊องแก๊ง” ไปตามจังหวะการเดินคุณเยี่ยมที่นอนอยู่มองเห็นเงาของผู้หญิงผ่านหน้าต่าง สักพักเงานี้ก็เอาอะไรบางอย่างทุบกำแพงดัง “ตึงๆๆๆๆ” ซึ่งคุณเยี่ยมที่นอนอยู่ก็คิดว่าคงโดนเข้าให้แล้ว จึงหันไปหาคุณต้อมที่นอนอยู่ข้าง ๆ ก็พบว่า คุณต้อมเองก็ไม่ได้หลับเช่นกัน! ทั้งคู่ตาเบิกโพลงและทำได้แค่มองหน้ากัน ไม่ทันได้หายตกใจ เงาร่างนั้นก็เดินไล่บนระเบียงไปห้องซ้ายไปห้องขวา เดินไปเดินมา (ระเบียงเชื่อมกันหมด) จนถึงตีสาม คุณเยี่ยมและคุณต้อมก็ยังนอนฟังเสียงนั้นอยู่และไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเจอกับอะไร!วันต่อมา ทั้งคู่ได้เล่าเรื่องที่เจอให้กับทุกคนฟัง ฝ่ายห้องขวาเป็นผู้หญิงก็บอกว่า “หนูคิดว่าหนูได้ยินแค่ 2 คน” ส่วนห้องทางซ้ายเป็นพี่ซีเนียร์คู่กับผู้ชายปากกล้าก็บอกว่า “ได้ยินเสียงเดินแบบนี้ทั้งคืน ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร” เมื่อทุกคนไม่รู้ว่ากำลังเจอกับอะไร แต่หลังจากนั้นเป็นเวลากว่า 1 อาทิตย์ เมื่อเข้าสู่เวลาตีหนึ่ง เสียงนั้นก็จะดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และไม่มีใครใจกล้าพอที่จะออกไปดูว่ามันคืออะไรกันแน่..เรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นจากห้องข้างหน้าไม่พอ ห้องข้างหลังเองก็เช่นกัน เขาเล่าว่า “ตอนที่นอนอยู่นั้น ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แต่ผมโดนผีอำ” ไม่ได้โดนผีอำแค่คนเดียว แต่ทุกคนที่นอนอยู่ห้องข้างหลังก็โดนผีอำกันทุกคน! เมื่อเรื่องมันชักจะไปกันใหญ่ ทุกคนจึงตกลงกันว่าหลังจากนี้จะไม่ดื่มแอลกอฮอล์กันอีกและนอนให้เร็วขึ้น เผื่อว่าจะดีขึ้นเมื่อเปลี่ยนเวลาให้นอนเร็วขึ้น คุณเยี่ยมกลับไม่สบายตัวอย่างที่คิด เขานอนกระสับกระส่าย จนถึงเวลา 4 ทุ่ม เสียงเคาะหน้าต่างก็ดังขึ้น! “พี่ๆ ช่วยหนูด้วย!” เป็นน้องผู้หญิง 2 คน ที่มาจากห้องขวาวิ่งมาขอความช่วยเหลือ เมื่อเปิดประตูออกไป น้องก็บอกว่า “หนูอ่ะ หลับไปแล้ว ส่วนเพื่อนอีกคนลุกไปเข้าห้องน้ำ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาทำกับข้าวอยู่ข้างล่าง แล้วก็มีเสียงคนซักผ้า” เธอเล่าต่อว่าพอเข้าห้องน้ำเสร็จก็ปิดไฟเดินกลับมาที่ห้อง เพื่อนคนที่นอนอยู่ก็นอนบิดไปบิดมา สักพักก็เอามาคว้าอะไรบางอย่าง แล้วก็ตะโกนออกมา “ว๊ากกกกก!” หลุดออกมาจากอาการผีอำ! เธอเล่าเพิ่มเติมว่าเหมือนมีผู้หญิงคนนึงมานั่งทับที่หน้าอก แล้วก็จับตัวไว้ไม่ให้ขยับ พอเพื่อนที่ลุกไปเข้าห้องน้ำกลับมา ถึงได้หลุดออกจากตรงนั้น เมื่อเห็นท่าไม่ดี จึงวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือหลังจากได้ยินเสียงผู้หญิงเรียก ทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องกลาง และพร้อมใจบอกว่า “โดนผีอำเหมือนกัน” ซึ่งจะโดนแตกต่างกันไป ผู้หญิงบ้าง ผู้ชายบ้าง บางคนไม่เห็นตัวแต่ขยับตัวไม่ได้ คุณเยี่ยมซึ่งไม่เคยโดนผีอำก็โดนเช่นกัน เหตุการณ์คือ ขณะที่กำลังนอนอยู่ เห็นผู้หญิงเดินเข้ามาในห้อง แล้วก็เอามานั่งทับที่หน้าอก จากนั้นก็บีบคอ คุณเยี่ยมก็พยายามขัดขืนแต่ก็ทำไม่ได้ และหันไปหาเพื่อนที่นอนอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับตะโกนเรียก แต่เรียกเท่าไหร่ ก็ไม่มีเสียงใดเล็ดลอด จึงนึกถึงพระ จากนั้นเสียงก็ออกมา เพื่อนที่นอนอยู่บอกว่าได้ยินเสียงแปลก ๆ จึงปลุกคุณเยี่ยมให้ตื่นด้วยความที่ทั้งหมดเป็นพนักงานใหม่ การจะย้ายออกแล้วต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเองนั้นก็ดูจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ทุกคนจึงจำใจอยู่ที่นี่ต่อ ในทุก ๆ คืน ตี 1 – 3 ก็จะต้องเจอกับเหตุการณ์หลอนซ้ำ ๆ วนมาไม่จบสิ้น จะมีเพียงวันเสาร์อาทิตย์ที่แต่ละคนได้กลับบ้าน นั่นจึงเป็นเวลาหาเครื่องรางของขลังมาป้องกันตัวเอง ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร…เหตุการณ์ดำเนินมาจนถึงช่วงประมาณเดือนที่ 4 – 5 บริษัทได้เรียกพนักงาน 6 คน เปลี่ยนไปทำงานที่อื่น ทำให้เหลือเพียง 6 คน ที่โชคร้ายยังต้องเผชิญเรื่องหลอนไม่จบไม่สิ้น ทุกคนตกลงกันว่าจะนอนด้วยกัน ห้องละ 3 คน เพื่อความสบายใจ พี่ซีเนียร์พูดขึ้นมาว่า “ที่เราเจอกันอยู่เนี่ย มันไม่ใช่ผีแค่ตัวเดียว น่าจะมีเป็นสิบ” น้อง ๆ ในกลุ่มจึงถามขึ้นว่า “พี่รู้ได้ยังไง?” พี่ซีเนียร์ตอบว่า “กูไปรู้อะไรบางอย่างมา มึงรู้มั้ยว่าค่าเช่าของที่นี่เดือนละเท่าไหร่? 3 คูหา มันเดือนละ 5,000” ซึ่งก็ได้วิเคราะห์ว่า อาจเป็นเพราะตึกนี้มันร้างมาก่อน แล้วพอมีบริษัทมาเช่าให้พนักงานอยู่ เขาก็เลยพยายามมาเคลียร์โดยการเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ มาวางไว้ และยังสังเกตอีกว่า ตลอดเวลา 4 – 5 เดือนที่ผ่านมานี้ ไม่มีใครสักคนที่เดินเข้ามาถามว่าอีก 5 คูหาที่เหลือยังว่างให้เช่ามั้ย ทั้ง ๆ ที่ตรงนี้เป็นทำเลดี ติดถนนใหญ่ ทุกคนจึงคุยกันอีกรอบว่าจะแก้ปัญหานี้กันอย่างไรดี ได้ข้อสรุปว่าจะทำบุญครั้งใหญ่ จึงไปซื้ออาหารและจัดเตรียมสิ่งของสำหรับการทำบุญ…เมื่อวันทำบุญมาถึง ช่วงเวลากลางวันแสก ๆ หลังจากปักธูปไหว้เสร็จ พี่ซีเนียร์ก็ดันคิดอะไรแปลก ๆ ไปหยิบจานและตะเกียบมาเคาะแล้วพูดว่า “อ้าว มากินข้าวกินเร็ว” หลังจากเคาะ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังวิ่งลงมาเป็นสิบ ๆ คน ผ้าม่านที่อยู่ตรงนั้นก็ไหวไปมา ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น!หลังจากทำบุญให้ ก็ยังเจออยู่เหมือนเดิมไม่เบาลงเลย แม้ทุกคนจะรู้อยู่แก่ใจว่าที่แห่งนี้มีอะไรบางอย่างมาอยู่ร่วมด้วย แต่ก็ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ จึงต้องอยู่และทำงานกันต่อไป จนกระทั่งถึงเดือนที่ 7 พนักงานกลุ่มนี้ต้องย้ายออก ก็ได้มีพนักงานใหม่เข้ามาอยู่แทน ทั้ง 2 กลุ่มได้คุยกัน หนึ่งในกลุ่มที่มาใหม่บอกว่า “ผมเอาลูกมาอยู่ด้วย วันหนึ่งผมเห็นลูกผมยื่นขนมให้ใครก็ไม่รู้” ในวันย้ายออกมีการจ้างรถชาวบ้านมาช่วยขนย้าย คุณลุงที่เป็นคนขับรถก็ชวนคุยระหว่างทาง “นึกว่าใครมาอยู่ ที่แท้ก็นายช่างนี่เอง แล้วมาอยู่ได้ยังไง ที่นี่ผีดุ นายช่างไม่รู้เหรอ” จากนั้นทุกคนก็รุมถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…คุณลุงเล่าว่าย้อนกลับไปว่า สมัยก่อนที่ตรงนั้นยังเป็นป่าช้า จากนั้นก็มีการล้างป่าช้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าล้างหมดหรือไม่ ส่วนใกล้ ๆ กับบริเวณนั้นเป็นลานโล่ง แล้วก็มีการสร้างโรงพยาบาล คนที่เป็นเจ้าของที่เห็นว่ามันน่าจะพัฒนาที่ดินได้ จึงอยากสร้างอาคารพาณิชย์ แม้จะมีเสียงรอบข้างห้ามปราม แต่เขาก็ดึงดันที่จะสร้าง รวมทั้งไม่ได้สนใจโครงสร้างและการออกแบบเลย ตึกที่ได้จึงมีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมยาววางเรียงกันเหมือนกับโลงศพ! พอมีคนมาเช่า ผลประกอบการก็ไม่ดี ทำมาค้าขายไม่ขึ้น จึงให้ซินแสเข้ามาช่วยดู เขาจึงแนะนำว่าให้ปรับหน้าตาของอาคารให้ดูดีขึ้น ให้มันมีอะไรอยู่ข้างหน้าหน่อย จึงเป็นที่มาของการสร้างระเบียงนั่นเอง นั่นยิ่งทำให้เหมือนทางขึ้นเมรุเข้าไปอีก เรียกได้ว่ายิ่งแก้ยิ่งเละและเมื่อขุดประวัติลึกเท่าไหร่ ความน่ากลัวของคูหาเหล่านี้ก็ยิ่งทวีคูณ ห้องกลางนั้นมีเคยมีผู้หญิงผูกคอตาย ห้องขวาเคยมีสามีภรรยาทะเลาะกัน ฝ่ายชายลงมือฆ่า ส่วนห้องซ้ายเป็นสามีภรรยาเช่นกัน ฝ่ายชายฆ่าฝ่ายหญิง แล้วกินยาฆ่าตัวตายตาม ยังไม่นับรวมเคสอื่น ๆ อีก รวมแล้วมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นกว่า 5 ราย ส่วนคูหาอื่นที่ไม่มีคนเข้าไปอยู่ก็ไม่รู้ว่ามีเคสอะไรเกิดขึ้นบ้าง…และนี่คือเหตุการณ์หลอนทั้งหมด ที่โฟร์แมนทั้ง 12 คนเป็นพยานรู้เห็นความหลอนในครั้งนี้ติดตามความหลอนย้อนหลังได้

กันไว้ดีกว่าแก้! อุ๋มอิ๋ม คนเห็นผี แนะควรหรือไม่ควรทำอะไร เพื่อให้ดวงเฮงตลอดปี 66! | อังคารคลุมโปง

12 ม.ค. 2023

กันไว้ดีกว่าแก้! อุ๋มอิ๋ม คนเห็นผี แนะควรหรือไม่ควรทำอะไร เพื่อให้ดวงเฮงตลอดปี 66! | อังคารคลุมโปง

‘อังคารคลุมโปง X’ ที่ผ่านมา (10 มกราคม 2565) ถือได้ว่าเป็นเทปแรกของปี 2566 ‘อุ๋มอิ๋ม คนเห็นผี’ จึงถือโอกาสนี้ เตือนชาวอังคารคลุมโปงถึงสิ่งที่ควรระวังและมีเคล็ดลับเสริมดวงให้เฮงตลอดปี จะมีอะไรบ้างนั้น เชิญอ่านกันเลย!มากันที่คำเตือนกันก่อนคุณอุ๋มอิ๋มบอกว่าปีกระต่ายปีนี้ จะมีเหตุการณ์ผู้สูงอายุเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น ชนิดที่ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน อาจจะเป็นอุบัติเหตุหรืออยู่ ๆ ก็ไม่หายใจไปเสียดื้อ ๆ ก็มี ดังนั้นหากมีผู้สูงอายุอยู่ในครอบครัว แนะนำให้พาไปตรวจสุขภาพ จะได้รักษาได้ทันท่วงทีอีกเรื่องที่อยากจะเตือนให้ระมัดระวัง คือในช่วงครึ่งปีแรก เศรษฐกิจที่เริ่มจะดีขึ้นบ้างแล้วนั้น หลายคนพอทรงตัว แต่ก็ไม่อยากให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ยังต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกควบคู่ไปด้วย ใครที่เล่นหุ้น จะเล่นแบบ Long Term ยาก ส่วนเรื่องทอง ยังเป็นทางเลือกที่ดีแต่ไม่ควรลงทุนมากจนเกินไป ไม่ควรลงทุนกับสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามาก และให้ระวังมิจฉาชีพให้มาก ๆ เพราะจะมาในทุกรูปแบบ ต้องระวัง รอบคอบ อย่าลงทุนกับสิ่งที่เราไม่รู้ ส่วนเรื่องที่ดิน กฎหมายอาจมีการเปลี่ยนแปลงอีกสิ่งที่สำคัญที่สุดคืออุบัติเหตุบนท้องถนน คุณอุ๋มอิ๋มอธิบายเพิ่มว่า คนเก็บวิญญาณ จะมาเก็บตามถนนเพิ่มมากขึ้น อาจเพราะดวงบ้านดวงเมืองเปลี่ยน ดังนั้นไม่ว่าจะรถประเภทไหน ก็อยากให้มีสติก่อนสตาร์ท ง่วง เมา ไม่ขับส่วนคำแนะนำสำหรับต้นปีคุณอุ๋มอิ๋มก็แนะนำให้ไปไหว้ศาลหลักเมืองประจำจังหวัด ถ้าตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ชื่ออยู่ที่จ.อื่น ก็ให้ไหว้ที่กรุงเทพฯก่อน แล้วค่อยไปต่างจังหวัด จากนั้นให้ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดที่คุณอยู่ ไม่ว่าจะเป็น วัด ศาลเจ้า หรืออะไรก็ได้หมดเลย อีกหนึ่งที่คือศาลเจ้าแม่กวนอิม สามารถขอให้ท่านดูแลเรื่องสุขภาพ ความเป็นมงคล บุญบารมีต่าง ๆ ของไหว้ต้องเป็นของบริสุทธิ์ เช่น ดอกบัวสีขาว หรือส้มส่วนอากงนั้น คุณอุ๋มอิ๋มแนะนำให้ไหว้ด้วยกล้วยหอมสุกสีเหลือง, สัปปะรดภูแล ยิ่งลูกเล็ก ๆ ตาสัปปะรดก็จะเยอะ สื่อว่าหูตาเราจะเยอะ เวลามองหรือจับอะไรจะได้มีช่องทางมากขึ้น และสุดท้ายคือลูกท้อหรือพีช กี่ลูกก็ได้ตามสะดวก และหากมีโอกาสให้นำพวงมาลัยติดไปเอง จะได้สื่อถึงความตั้งใจ สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือให้เขียนคำอธิษฐานไว้ให้ครบ อย่าอายที่จะหยิบขึ้นมาดู เพราะการไม่ได้เขียนเรียบเรียงไว้ก่อนอาจจะทำให้เราพูดวนไปมาได้ แล้วก็อาจจะไม่ได้อะไรเลยนอกจากนี้ คุณอุ๋มอิ๋มยังมีทริคในการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ถ้าหากไปไหว้ในช่วงที่คนเยอะ ให้เดินเข้าไปถ่ายรูปคำอธิษฐานออกมาก่อน แล้วหาพื้นที่ที่ทำให้จิตใจเราสงบ แล้วอธิษฐานจากตรงนั้นส่วนใครที่ทำการค้า แนะนำให้ปล่อยสัตว์น้ำ ที่กรมประมงอนุญาต และต้องมีการไถ่ชีวิต ส่วนสินค้าที่เป็นปัจจัย 4 นั้นจะขายดีเสมอกระเป๋าสตางค์เองก็สำคัญ ถ้าหากมีการชำรุด รูดซิปไม่ดีติดขัด ให้เปลี่ยนในช่วงตรุษจีนจะถือว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดีมาก แต่ถ้าใครชอบการสแกนจ่ายมากกว่า ก็ระวังอย่าให้ฟิล์มหรือหน้าจอโทรศัพท์ชำรุด เพราะอาจเกิดความเสียหายระหว่างการโอนเงินได้ คุณอุ๋มอิ๋มเสริมว่าแม้จะสแกนจ่ายมากกว่า แต่ก็ควรจะมีกระเป๋าสตางค์ติดตัวไว้ เผื่อพกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้กับตัวได้ ถือว่าเป็นเคล็ดสำหรับปีชง ให้ทำพิธีปัดชง 3 เดือนครั้งทั้งปี โดยให้ปัดตั้งแต่หัวจรดพื้น 13 ครั้ง หรือใครไม่ชงอยากจะปัดก็ปัดได้เลย และไม่แนะนำให้ปัดแทนคนอื่นติดตามความสนุกย้อนหลัง

“ณัฏฐ์ กิจจริต” โพสต์รูปคู่รูปแรกกับ “ฟ้า ษริกา” ทำเอายอดไลก์ทะลุสามแสนไลก์

27 มิ.ย. 2022

“ณัฏฐ์ กิจจริต” โพสต์รูปคู่รูปแรกกับ “ฟ้า ษริกา” ทำเอายอดไลก์ทะลุสามแสนไลก์

เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ยูทูปเบอร์สาว “ฟ้า ษริกา” ได้โพสต์รูปอวยพรวันเกิด “ณัฏฐ์ กิจจริต” นักแสดงหนุ่มจากภาพยนต์เรื่อง 4Kings อาชีวะยุค 90 ซึ่งเป็นรูปถ่ายที่ไม่เห็นหน้า แต่ “ฟ้า ษริกา” ได้แท็กชื่ออินสตาแกรมของ “ณัฏฐ์ กิจจริต” ในรูปด้วย ทำให้แฟน ๆ รับรู้ว่าทั้งคู่คบหาดูใจกันอยู่ แต่ก็ไม่ได้เปิดตัวกันอย่างเป็นทางการ ทำเอาแฟน ๆ แอบลุ้นกันมานานหลายเดือน ว่าทั้งคู่จะเปิดตัวกันหรือไม่ ล่าสุดรูปคู่รูปแรกมาแล้ว เมื่อ “ณัฏฐ์ กิจจริต” ได้โพสต์รูปบนอินสตาแกรมส่วนตัว และเขียนแคปชั่นว่า “เออๆๆ” พร้อมแท็กชื่ออินสตาแกรมของ “ฟ้า ษริกา” งานนี้แฟน ๆ ปลื้มใจกันจนกดไลก์ทะลุสาม แสนไลก์กันเลยทีเดียว ภาพ : natkitcharit

เล่าเรื่องผีแบบ Y2K กับตัวแม่จะแคร์เพื่อ ‘เสือโคร่ง’ ที่มาพร้อมลิ้นทรงเสน่ห์และไม้เซลฟี่คู่ใจ | อังคารคลุมโปง X

20 ม.ค. 2023

เล่าเรื่องผีแบบ Y2K กับตัวแม่จะแคร์เพื่อ ‘เสือโคร่ง’ ที่มาพร้อมลิ้นทรงเสน่ห์และไม้เซลฟี่คู่ใจ | อังคารคลุมโปง X

แต่งตัวแบบ Y2K กันไปแล้ว มาฟังเรื่องผีแบบ Y2K จากดาว TikTok คนดังอย่าง ‘เสือโคร่ง’ ตัวแม่จะแคร์เพื่อ กันบ้างดีกว่า กับเรื่องหลอนที่มีชื่อว่า ‘ซ่อนหา By สาวสอง’ ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (17 มกราคม 2565) ที่ผ่านมา อยากรู้ว่าหลอนแบบ Y2K เป็นยังไง เชิญอ่านกันได้เลย!คุณเสือโคร่งเล่าว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยนาฏศิลป์แห่งหนึ่ง ตอนนั้นยังอยู่หอในกับเพื่อนๆ ซึ่งภายในวิทยาลัยก็จะมีโรงละครตั้งอยู่ จากที่เคยได้ยินมาเขาเชื่อกันว่าต้องเป็นพื้นที่ที่มีคนตายถึงจะสร้างโรงละครได้ และบริเวณนั้นเอง ก็เป็นสถานที่ของกลุ่มเพื่อนสาวสองเกือบ 20 คนนัดมารวมตัวทำกิจกรรมด้วยกัน เช่น เตยกัก กระโดดยาง หรือฝึกแต่งหน้า แต่วันนั้น แก๊งเพื่อนสาวสองเกิดอยากจะเล่น ‘ซ่อนหา’ ในเวลา 2 ทุ่มขึ้นมาซะได้ ไม่รอช้าก็จัดสรรปันส่วน และเริ่มเล่นเกมท่ามกลางบรรยากาศไม่ชอบมาพากล...เมื่อเกมเริ่ม ทุกคนก็แยกย้ายไปซ่อนตามต้นไม้ ซอกตึก หรือที่ต่าง ๆ ของโรงละคร ด้วยความที่แก๊งนี้มีจำนวนคนเยอะ ทำให้ใช้เวลาหานานมาก คุณเสือโคร่งที่อยู่บนต้นไม้ก็เริ่มเมื่อย ไป ๆ มา ๆ คนหาดันหาย ทุกคนที่ไปซ่อนจึงมารวมตัวกันหน้าหอเพื่อออกตามหา แต่หายังไงก็ไม่เจอ จึงตัดสินใจไปไหว้ศาลทาง 3 แพร่ง ขณะที่ทำพิธีไหว้อยู่นั้น ก็มีพี่กะเทยคนนึงเดินเข้ามาบอกว่า “มึงไม่ต้องไหว้! เดี๋ยวกูหาเอง!” พูดเสร็จก็หยิบธูปปักคว่ำลงกับพื้น! คุณเสือโคร่งอธิบายเพิ่มเติมว่า พี่กะเทยคนนั้นเป็นคนผิวสีเข้ม ฟันคม กินหมาก “เขาเป็นกะเทยเขมร ของก็แรงอยู่แล้ว อย่างถึง” ระหว่างที่ทุกคนงงงวยอยู่นั้น พี่กะเทยคนนั้นที่เสือโคร่งหลุดปากมาว่าชื่อ ‘เอ๋’ ก็พึมพำกับตัวเอง ไม่นานก็เจอเพื่อนที่หายไป!เมื่อเจอเพื่อนที่หายไป พี่เอ๋ก็พาไปอาบน้ำ พออาบเสร็จ ต้องบอกว่าสภาพของเพื่อนที่หายไปนั้นเหมือนหลุดออกจากภวังค์ นั่งเหม่อลอยไร้สติแบบสุด ๆ เมื่อถึงเวลาใกล้นอนทุกคนก็สวดมนต์ ซึ่งในหอในปกติจะมียันต์ แต่วันนั้นยันต์ดันไม่มี! ยังไม่ทันได้หลับสนิท อยู่ ๆ ประตูก็มีเสียงดังขึ้น! กะเทยที่นอนชั้น 2 (เตียง 2 ชั้น) ก็ชะเง้อมองเห็นว่าเป็นเหมือนกลุ่มคนจำนวนมากกำลังจะเข้ามา! เพื่อนกะเทยต่างตกใจกลัว พี่เอ๋ก็เดินเข้ามาด่าผี “มึงไม่ต้องเข้ามา! มึงไปเลยนะ!” เพื่อนกะเทยใจกล้าอีกคนจึงรีบเดินไปเปิดประตู แล้วทุกอย่างก็หายไป ทุกคนนั่งรวมกันไม่ได้หลับไม่ได้นอนจนเวลาล่วงมาถึงตี 5 แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าเล่นซ่อนหาอีกเลย...ติดตามความหลอนแบบ Y2K ต่อได้

album

0
0.8
1