‘เจฟ ซาเตอร์’ จัดเต็มกับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในไทยกับ ‘JEFF SATUR LIVE ON SATURN : FIRST SOLO CONCERT IN BANGKOK’

ENTERTAINMENT NEWS

‘เจฟ ซาเตอร์’ จัดเต็มกับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในไทยกับ ‘JEFF SATUR LIVE ON SATURN : FIRST SOLO CONCERT IN BANGKOK’

24 มี.ค. 2023

ผ่านไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ตที่หลายคนยกให้เป็นหนึ่งในโมเมนต์หูเคลือบทองของแฟนเพลง สำหรับ JEFF SATUR LIVE ON SATURN : FIRST SOLO CONCERT IN BANGKOK เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ รอยัลพารากอน ฮอลล์ ที่ ‘เจฟ ซาเตอร์’ มาพร้อมกับเพอร์ฟอร์มานซ์จัดเต็ม ที่ทำให้เราสัมผัสได้ถึงตัวตนและความสามารถทางด้านดนตรี ของเจฟอย่างแท้จริง

 

บรรยากาศหน้างานเต็มไปด้วยเหล่าแฟนคลับ (คุณวันเสาร์) ที่รอเข้างาน พร้อมด้วยเจ้ามาสคอตดาวเสาร์สุดน่ารักที่แฟน ๆ ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้โดยเฉพาะ เริ่มด้วย 3 เพลงแรกที่อยู่ในสังกัด Wayfer Records ภายใต้ Warner Music Thailand อย่าง Highway, ทำไมมันยาก (Complicated) และ แค่เงา (Hide) ก่อนจะทักทายเหล่าคุณวันเสาร์สั้น ๆ แล้วไปมันส์กันต่อ กับเพลงใหม่ล่าสุด Dum Dum ที่เพิ่งปล่อยมาเพียงแค่ 3 วันก่อนคอนเสิร์ต และแสดงสดที่นี่เป็นที่แรก ตามมาด้วย Steal The Show ผลงานร่วมกับศิลปินเกาหลี SHAUN ที่มาพร้อมกับโชว์สุดอลังการสร้างเสียงกรี๊ดได้สนั่นฮอลล์

 

และในคอนเสิร์ตครั้งนี้เจฟไม่ได้มาแค่คนเดียว ยังชวนอีก 2 แขกรับเชิญที่คาดไม่ถึงว่าจะมาร่วมโชว์กับเจฟในคอนเสิร์ตครั้งนี้ นั่นก็คือ โจอี้ ภูวศิษฐ์ และ มิลลิ ดนุภา โดยเจฟและโจอี้ได้ร่วมกันร้องเพลงฮิตอย่างนะหน้าทอง พร้อมกับการประชันฝีมือโซโล่พิณของ 2 หนุ่มที่หาดูไม่ได้ที่ไหนแน่นอน รวมถึงเพลงสุดใจ ที่ทั้งคู่ได้โชว์สกิลล์เสียง จนผู้ชมขนลุกกันไปทั้งฮอลล์

 

เมื่อถึงคิวของสาวมิลลิ ทั้งฮอลล์ก็ส่งเสียงดังลั่นต้อนรับ มาพร้อมกับเพลง Weekend และ โลกคู่ขนาน (Isekai) ที่มิลลิตั้งใจเลือกเพลงขึ้นมาเพื่อโชว์สกิลล์การร้องเพลงแบบอื่น ที่นอกเหนือจากสกิลล์การเป็นแร็พเปอร์ของมิลลิที่เราคุ้นชิน

และที่พลาดไม่ได้กับเพลงที่แฟน ๆ ชาวไทยตั้งตารออย่าง Hype Boy ที่เจฟได้ไปโชว์ลีลาการเต้นสุดน่ารักไว้ในโชว์หลาย ๆ ประเทศก่อนหน้านี้ ซึ่งเจฟได้เต้นจัดเต็มพร้อมกับทีมแดนเซอร์ที่มาสร้างความสดใสไปทั้งเวที

 

และมาถึงจุดเซอร์ไพรส์ของโชว์ สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับ เจฟ ซาเตอร์ มายาวนาน จะต้องฟินไปกับซิงเกิ้ลสุดฮิตในตำนาน ไม่กล้าบอกชัด ที่หนุ่มเจฟนำกลับมามาร้องในคอนเสิร์ตครั้งนี้ เพื่อเป็นของขวัญให้แฟน ๆ ที่ติดตามเจฟมาตลอดระยะเวลา 10 ปีของการเดินทาง และเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของการเป็นศิลปินมากความสามารถอย่างแท้จริง

 

JEFF SATUR LIVE ON SATURN : FIRST SOLO CONCERT IN BANGKOK เป็นอีกหนึ่งโชว์คุณภาพที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า 'เจฟ ซาเตอร์' ศิลปินไทยคนนี้พร้อมที่จะแสดงความสามารถในเวทีต่าง ๆ ทั่วโลก และตั้งตารอคอยจะได้เห็นเจฟ ซาเตอร์ ขึ้นคอนเสิร์ต โชว์เพอร์ฟอร์มานซ์หูเคลือบทองให้แฟน ๆ ได้ฟังกันอีกสักครั้ง!

ภาพ: Warner Music Thailand

related ENTERTAINMENT NEWS

เพราะไม่เชื่อและคึกคะนองอยากลองของดี ตกดึกเจอ ‘ผี’ หลอนจนไข้ขึ้น! เรื่องเล่าจาก ‘แจ็ค The Ghost Radio’

25 พ.ย. 2022

เพราะไม่เชื่อและคึกคะนองอยากลองของดี ตกดึกเจอ ‘ผี’ หลอนจนไข้ขึ้น! เรื่องเล่าจาก ‘แจ็ค The Ghost Radio’

เรื่องราวที่พี่ ‘แจ็ค The Ghost Radio’ นำมาเล่าในรายการ ‘อังคารคลุมโปง’ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 พฤศจิกายน 2565) เป็นเรื่องราวที่ทำให้หลายคนต้องเสียวสันหลัง กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘กระทงผี’ เรื่องนี้จะหลอนชวนคลุมโปงแค่ไหน แท็กเพื่อนมาอ่านความหลอนไปด้วยกันเลย!‘กระทง’ ที่ว่านี้ ไม่ใช่กระทงที่เราคนไทยใช้เพื่อขอขมาพระแม่คงคาในเทศกาลลอยกระทง แต่หมายถึง ‘กระทงเซ่นไหว้’ และเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ส่วนเจ้าของเรื่องคือ ‘คุณหนูฝน’ แฟนคลับรายการ ‘The Ghost Radio’ นั่นเองเรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อคุณหนูฝนซึ่งเป็นคนไทยคนเดียว ได้เดินทางไปเที่ยวกับแฟนและกลุ่มเพื่อนชาวต่างชาติที่ประเทศอินโดนีเซีย คุณหนูฝนเล่าว่าคนที่บาหลีส่วนใหญ่มักจะนับถือศาสนาฮินดูเป็นหลัก และมีพิธีการเซ่นไหว้เทพเจ้าหรือภูติผีปีศาจต่าง ๆ ผ่านกระทงเซ่นไหว้ จากนั้นก็นำไปวางไว้ในสถานที่ต่าง ๆ ตามถนน เรียกได้ว่าสามารถเห็นได้แทบจะทุก 3 ก้าวเลยทีเดียว แถมยังบอกอีกว่าทุก 3-4 ชั่วโมง ต้องเห็นคนมาไหว้อยู่ตลอดระหว่างที่กำลังเดินเที่ยวกันอยู่ ‘คุณซันนี่’ หนึ่งในกลุ่มเพื่อนชาวต่างชาติก็เผลอเดินไปเหยียบกระทงแบบไม่ตั้งใจ คุณหนูฝนจึงบอกให้เพื่อนขอโทษเพราะนี่ถือว่าเป็นความเชื่อของเขา แต่คุณซันนี่ก็ถามกลับว่า “ทำไมต้องขอโทษกระทงด้วย กระทงนี่คืออะไร?” แล้วทั้งกลุ่มก็หัวเราะขำขัน ไม่ได้คิดอะไร แต่ตัวคุณหนูฝนก็พยายามพูดขอโทษแทนคุณซันนี่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นภาษาอังกฤษประมาณว่า “เพื่อนไม่ได้ตั้งใจนะ” หลังจากนั้นทุกคนก็พากันไปดื่มสังสรรค์ตามแพลนที่วางไว้ขากลับทุกคนในกลุ่มก็เริ่มกรึ่ม ๆ ปรากฏว่าแฟนของคุณหนูฝน ดันเดินไปเหยียบกระทงที่วางอยู่ข้างทาง หนึ่งในกลุ่มเพื่อนจึงพูดว่า “เธอเดินเหยียบผีอ่ะ ระวังผีหลอกนะ” แล้วทุกคนก็เฮฮากัน เพราะด้วยความที่เป็นฝรั่งก็ไม่ได้คิดหรือมีความเชื่ออะไร แฟนคุณหนูฝนที่กำลังกรึ่มเมาได้ที่ก็บอกว่า “อ๋อ นี่ผีใช่มั้ย? ได้เลย!” แล้วก็เดินไล่เหยียบกระทงทีละอัน! คุณหนูฝนจึงรีบตักเตือนแฟนชาวต่างชาติว่าไม่ควรทำแบบนี้ทันที ดังนั้นทุกคนในกลุ่มจึงหยุดหัวเราะ ส่วนคุณหนูฝนที่ไม่สบายใจ จึงขอขมาเป็นภาษาอังกฤษอีกครั้ง และพากันเดินกลับที่พักไปเมื่อเดินทางกลับมาถึงที่พัก ซึ่งได้จองไว้เป็นวิลล่า แยกกันนอนคนละหลัง แต่ละคนก็อาบน้ำและเข้านอนตามปกติ ระหว่างที่กำลังนอนอยู่นั้น คุณหนูฝนก็รู้สึกได้ยินเสียงเหมือนกับมีอะไรมาขูดที่ผนังดัง “แกร๊ก แกร๊ก” จึงเปิดไฟหัวเตียง แล้วก็พบว่าแฟนของคุณหนูฝนหายไป! คุณหนูฝนจึงมองหาไปรอบ ๆ จนสายตาหยุดอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าที่เปิดอยู่ คุณแจ๊คเล่าเสริมว่าแฟนคุณหนูฝนมีร่างใหญ่ สูงกว่า 185 เซนติเมตร ยืนอยู่ในตู้เสื้อผ้าแล้วทำคอพับ จากนั้นก็เอาเล็บตะกุยผนังตู้เสื้อผ้า คุณหนูฝนเห็นดังนั้นจึงรีบตะโกนถามว่าเป็นอะไร แล้วก็พยายามลุกไปปลุกให้แฟนมีสติ แต่ระหว่างนั้นแฟนคุณหนูฝนก็ได้ปัสสาวะราด เมื่อได้สติเขาก็บอกว่าในฝันมีผู้หญิงคนหนึ่ง เหมือนจะเข้ามาทำร้ายเขา แต่เขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณหนูฝนจึงบอกให้ไปอาบน้ำให้สบายตัว แล้วกลับมานอนใหม่ดีกว่า พรุ่งนี้ ตั้งสติได้ เราค่อยมาคุยรายละเอียดกันอีกทีเช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนก็ออกไปกินข้าวเช้ายกเว้นคุณซันนี่ที่ยังไม่ออกมา แต่ทุกคนก็คิดว่าคงไม่มีอะไร ในตอนที่กินข้าวอยู่นั้น คุณหนูฝนก็ถามแฟนว่า “ตกลงเมื่อคืนนี้ เป็นอะไร? มันเกิดอะไรขึ้น?” เขาก็เล่าให้ฟังว่าเขาฝันว่ามีผู้หญิงตาสีดำเหมือนตาโบ๋มีผมฟู พยายามวิ่งไล่เขาอยู่ในห้อง ด้วยความกลัวเขาก็เลยวิ่งหนีวนในห้อง จนถึงประตู เขาก็เลยเปิดเพื่อที่จะหนีออกไปข้างนอก ปรากฏว่าเปิดออกไป ประตูนี้มันดันเป็นทางตัน ซึ่งมันก็เป็นภาพเดียวกับที่คุณหนูฝนเห็นว่าแฟนกำลังตะกุยตะกายตู้เสื้อผ้านั่นก็เพราะเขาจะหาทางออกนั่นเอง คุณหนูฝนจึงคิดว่ามันอาจจะเป็นผลพวงจากเมื่อวานก็ได้ แต่ทุกคนก็ยังงง ๆ และยังไม่เชื่อสักเท่าไหร่ เวลาผ่านไปสักพัก คุณซันนี่ก็ยังไม่ปรากกฎตัว ทุกคนจึงคุยกันว่าจะไปตามที่บ้านพักเมื่อไปถึงบ้านพักของคุณซันนี่ ก็พบว่าคุณซันนี่นอนไข้ขึ้นสูง แล้วก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนเขาได้ฝัน ซึ่งเป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก เพราะหลังจากที่คุณซันนี่อาบน้ำเสร็จแล้วมานอนที่เตียง สายตาก็มองไปที่หน้าต่าง ก็เห็นผู้หญิงใส่ชุดคล้ายกับนางรำของบาหลี มีผมฟูยืนอยู่ตรงหน้าต่าง คุณซันนี่คิดในใจว่าอาจจะเป็นคนสติไม่ดีแถวนี้ จึงปิดหน้าต่างแล้วก็นอน ระหว่างที่กำลังนอนอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกุกกัก จึงลืมตาขึ้นมาดู พบว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่นอกหน้าต่าง ตอนนี้ได้มายืนอยู่ตรงปลายเตียง แถมยังรำท่าทางน่ากลัว! เขาก็เลยตกใจจนไข้ขึ้น เมื่อได้ยินดังนั้น คุณหนูฝนจึงบอกว่าสิ่งที่ได้ทำไปเมื่อวานนั้นมันไม่ถูกต้อง และนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ไกด์ท้องถิ่นฟัง หลังจากฟังจบไกด์ท้องถิ่นคนนั้นก็รู้สึกโมโห และบอกว่าทำแบบนั้นไม่ได้ คนที่นี่เขามีความเชื่อและศรัทธามาก ถ้าคุณไปทำแบบนี้ให้ชาวบ้านเห็น คุณจะไม่ได้เจอแค่ผีหลอกนะ คุณอาจจะโดนรุมประชาทัณฑ์ได้เลยเมื่อเห็นว่านี่เป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คิด ไกด์ท้องถิ่นจึงได้พาทุกคนไปยังวัดแห่งหนึ่งที่มีอ่างน้ำมนต์เพื่อให้ทุกคนได้ไปอาบ ทุกคนก็ยอมทำตามนั้น หลังจากนั้นก็ดูเหมือนจะเริ่มสบายใจขึ้น และเที่ยวต่อตามแผนเดิมได้อย่างปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากจบทริปก็แยกย้ายกันกลับประเทศของตัวเองไปคุณแจ็คเล่าเสริมว่าที่นำมาเล่าให้ฟังในครั้งนี้ เพราะรู้สึกทึ่งกับความเชื่อและวัฒนธรรมของบาหลี และอยากเล่าเพื่อเป็นวิทยาทานให้กับคนที่จะต้องเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ถึงเราจะไม่มีความเชื่อเหมือนกับประเทศของเขา แต่ก็อยากให้เคารพวัฒนธรรมและสิ่งที่เขาเชื่อด้วยติดตามความหลอนย้อนหลังได้

“แบคโฮ” โชว์พลังเสียงโวคัลระดับท็อป ระเบิดความหวาน คว้าใจ “โดโน่ไทย” ใน 2023 BAEKHO MINI CONCERT <BAEKHoney DAY> IN BANGKOK

07 ก.พ. 2023

“แบคโฮ” โชว์พลังเสียงโวคัลระดับท็อป ระเบิดความหวาน คว้าใจ “โดโน่ไทย” ใน 2023 BAEKHO MINI CONCERT <BAEKHoney DAY> IN BANGKOK

dOnO (โดโน่ ชื่อแฟนคลับ ) ชาวไทย ได้ต้อนรับเดือนแห่งความรักก่อนใคร กับความสุขสุดพิเศษที่หวานล้ำยิ่งกว่าน้ำผึ้งเดือนห้าจากเสือขาวสุดหล่อ แบคโฮ (BAEKHO) ในงาน 2023 BAEKHO MINI CONCERT BAEKHoney DAY IN BANGKOK จัดขึ้น ณ ยูเนี่ยนฮอลล์ 2 ศูนย์การค้ายูเนี่ยนมอลล์ ในวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา โดยผู้จัดฝีมือดีการันตีคุณภาพ D-SHOW THAILAND โดยครั้งนี้เป็นการกลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง ในรอบ 3 ปี ของ “แบคโฮ” ซึ่งเขาหอบความรัก ความคิดถึง ที่กักเก็บไว้ตลอด 3 ปี มาเปลี่ยนเป็นพลังงานความสุขมอบให้กับโดโน่ไทยในมินิคอนเสิร์ตครั้งนี้ พร้อมจัดเต็ม! แท็กทีมวงดนตรีแบบเต็มแบนด์ มาร้อง เล่น กันแบบสดๆ เขย่าโสตประสาทของโดโน่ไทยให้ตื่นเต้นยิ่งกว่าที่เคย บรรยากาศของ BAEKHoney DAY ที่เต็มไปด้วยพลังของความสุข เริ่มต้นด้วยทุ่งดอกไม้สีแดงจากแท่งไฟที่สาดแสงสีชมพูสดใส โดโน่ส่งพลังเสียงกรี๊ดดังสนั่นฮอลล์ ต้อนรับ “แบคโฮ” ขึ้นมาบนเวที กับเพลง LOVE BURN และ BAD 4 U ก่อนที่เขาจะทักทายแฟนคลับอย่างเป็นทางการ “สวัสดีครับ ต้อนรับทุกคนเข้าสู่มินิคอนเสิร์ตของผมนะครับ ”(ภาษาไทย) “สวัสดีครับ แบคโฮครับ” ดีใจที่ได้เจอกันใหม่นะครับ ทุกคนสบายดีใช่ไหมครับ” และหยอดคำหวานว่าวันนี้เขาพร้อมจะเป็นฮันนี่ของโดโน่ไทย! เช็คเอเนอจี้แฟนๆ ให้พร้อมออกเดินทางไปกับวันแสนหวานแล้ว หนุ่ม “แบคโฮ” ก็เดินหน้าจัดเต็มความสนุกต่อทันที กับเพลย์ลิสต์เพลงที่โดโน่ไทยต้องกดหัวใจให้รัวๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงจากอัลบั้ม Absolute Zero ซึ่งผลงานโซโล่เดี่ยวของเขา อย่าง No Rules , Festival in my car และ Wanna go back รวมถึงเพลงเพราะๆ อีกมากมาย อาทิ VVITH , If we, Need it, Hello และ DRIVE นาทีนี้ใครจะมีความสุขเท่า “โดโน่ไทย” ไม่มีอีกแล้ว เพราะนอกจากฟังเพลงจากเสียงหวานๆ อันทรงพลังจาก “แบคโฮ” ไปเพลินๆ แล้ว พ่อหนุ่มเสือขาวยังโชว์ฝีมือการทำกรอบรูปดอกไม้พร้อมเขียนข้อความลายมือภาษาไทย “มีความสุขมากๆนะครับ” ด้วยตัวเอง อีกทั้งของขวัญสุดพิเศษที่มอบให้กับโดโน่ที่มาร่วมงานทุกคน ได้แก่สบู่กระดาษ ของขวัญน่ารักๆ ที่จะทำให้โดโน่ไทยได้นึกถึงใบหน้าหล่อๆ ของเขาทุกครั้งที่ใช้ รวมถึงเรื่องราวที่เขาอยากพูดคุยกับแฟนๆ อีกมากมาย ทั้งความตื่นเต้นในการเตรียมอัลบั้ม Absolute Zero ความประทับใจกับอาหารไทย ความน่ารักของโดโน่ไทยที่มาแชร์โมเม้นต์ ความทรงจำระหว่างกันให้ฟัง ยิ่งทำให้บรรยากาศของ BAEKHoney DAY อันประกอบไปด้วย เพลงพราะๆ, โดโน่ไทย และแบคโฮ เต็มไปด้วยมวลแห่งความสุข แต่มาไทยในรอบ 3 ปี ทั้งที นอกจากหอบความคิดถึงมาฝากโดโน่ไทยแล้ว “แบคโฮ” ยังเตรียมของขวัญสุดพิเศษเฉพาะโดโน่ไทยมาอีกด้วย กับคัฟเวอร์เพลง “กีดกัน” จากศิลปิน Billkin ซึ่งพ่อหนุ่มเสือขาวก็ทำได้ดี ทั้งการออกเสียงภาษาไทย และการสื่ออารมณ์ จนแฟนๆ ยกนิ้วให้คะแนน 10 เต็ม 10 ไปเลย! แบคโฮที่ว่าหวาน แต่บอกเลยว่า “โดโน่ไทย” หวานไม่แพ้กัน! กับโปรเจกต์ ชูสโลแกนข้อความว่า "รอยยิ้มของแบคโฮ​ คือความสุขของพวกเรา" พร้อมเปิด VCR ที่รวบรวมผลงานของแบคโฮในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งบอกได้ถึงความรู้สึกภูมิใจ ความขอบคุณในตัวไอดอลของพวกเขา และพร้อมจะสนับสนุน “แบคโฮ” อยู่ตรงนี้เสมอ เป็นโปรเจกต์ที่อบอุ่น ที่หนุ่ม “แบคโฮ” ก็รู้สึกขอบคุณมากๆ เช่นกัน “ขอบคุณมากๆ เลยครับ ผมได้ทำกิจกรรมหลากหลายมากๆ แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ผมยังไม่เคยทำ เวลาจะทำอะไรผมจะเป็นคนที่ขี้กลัว แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสใหม่ๆ ผมตัดสินใจเริ่มทำเพราะว่ามีโดโน่อยู่เคียงข้างผม ผมเลยรู้สึกอุ่นใจ และมีกำลังใจมากๆ การได้ยืนอยู่บนเวทีนี้ เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมากที่สุด ไม่ใช่แค่บนเวทีแต่ทุกคนส่งความรัก กำลังใจให้ผมเสมอ เพราะความรักของทุกคนเลยทำให้ผมได้เป็น MC ได้ถ่ายรายการกอล์ฟ แม้จะไม่เก่งมาก แต่เพราะทุกคนก็คอยส่งเอเนอจี้ดีๆ ให้ แม้จะตื่นเต้นแต่ก็ทำให้ผมกล้าที่จะทำมากขึ้น ผมกล้าพูดว่า จะลองทำให้ดีที่สุดเพราะทุกคนเลยครับ ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ” ตอนที่เตรียมงานคอนเสิร์ตนี้ ผมอยากจะเจอทุกคนเร็วๆ แต่พอเริ่มแล้วก็ไม่อยากให้งานนี้จบลงเลย ผมรู้สึกแบบนี้เพราะผมมีความสุขมากๆ ความทรงจำดีๆ ที่เราสร้างด้วยกัน ผมจะจดจำไปอีกนานเลยครับ (ภาษาไทย) “ผมมีความสุข” หวังว่าจะมีโอกาสกลับมาหาทุกคนเร็วๆ นี้นะครับ ขอบคุณโดโน่ทุกคนมากๆ เลยครับ วันนี้ผมมีความสุขมากเลยครับ ตอนแรกผมตั้งใจอยากจะมอบฮันนี่เดย์ให้ทุกคน แต่รู้สึกว่าวันนี้เป็นฮันนี่เดย์ของผมครับ หวังว่าทุกคนจะจดจำวันนี้ไปนานๆ นะครับ” และเหตุผลที่เขาตั้งใจทำงานเพราะมีโดโน่อยู่เคียงข้าง พร้อมให้กำลังใจ คอยส่งพลังงานดีๆ มาให้เสมอมา Good Boy กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เป็นคำสัญญาที่สัมผัสถึงความรู้สึกจริงใจที่มีต่อโดโน่มากๆ เชื่อว่า “โดโน่ไทย” จะจดจำวันที่เต็มไปด้วยเรื่องราวดีๆ เหล่านี้ไปอีกนาน จนกว่าจะพบกันใหม่อีกครั้งแน่นอนภาพ D.SHOW Thailand

‘RUEL’ โชว์สุดใจเพื่อไทยแฟน กับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งที่ 2 ‘RUEL 4TH WALL WORLD TOUR BANGKOK’

15 พ.ค. 2023

‘RUEL’ โชว์สุดใจเพื่อไทยแฟน กับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งที่ 2 ‘RUEL 4TH WALL WORLD TOUR BANGKOK’

จบกันไปแล้วสำหรับค่ำคืนแห่งความประทับใจของแฟน ๆ ชาวไทยกับคอนเสิร์ต RUEL 4TH WALL WORLD TOUR BANGKOK ทัวร์เปิดอัลบั้มของ RUEL (รูล) และเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งที่สองของนักร้องหนุ่ม ที่ทำสามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ให้เมื่อวันศุกร์ที่แล้วแคบลงถนัดตา เพราะคลาคล่ำไปด้วยเหล่าแฟน ๆ ที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอนเสิร์ตเดี่ยวของรูลเริ่มต้นคอนเสิร์ตด้วย 3 เพลงโปรโมทจากอัลบั้มใหม่อย่าง GO ON WITHOUT ME, GROWING UP IS_____ และ YOU AGAINST YOURSELF ซึ่งล้วนเป็นเพลงที่ความหมายและเมโลดี้แตกต่างจากอัลบั้มชุดก่อน ๆ คล้ายกับเป็นการประกาศกับแฟน ๆ ว่ารูลกลับมาครั้งนี้ด้วยแนวทางเพลงใหม่ ๆ และภาพลักษณ์ที่โตขึ้นรูลพาแฟน ๆ ย้อนเวลาไปกับเพลงที่หลายคนคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็น Dazed Confused เพลงอาร์แอนด์บีเสริมด้วยกรูฟบลูส์ที่ทำให้หลายคนตกหลุมรักในเสียงของเขา หรือจะเป็น Face 2 Face เพลงรักใส ๆ สไตล์วัยรุ่น ที่กำลังจะกลายเป็นหนึ่งในเพลงฮิตตลอดกาลในไม่ช้า ตามด้วยเพลงจากอัลบั้มปัจจุบันอย่าง MUST BE NICEนอกจากเพลงของตัวเองแล้ว รูลยังคัฟเวอร์เพลงของบอยแบนด์รุ่นพี่ ‘ONE DIRECTION’ อย่าง Night Changes รวมไปถึง Golden Hour เพลงฮิตเวอร์ชั่นรีมิกซ์ที่เจ้าตัวทำร่วมกับ ‘JVKE’ ศิลปินมาแรงแห่งยุค ครึ่งหลังของโชว์น้องรูลยังขนเพลงฮิตจากอัลบั้มใหม่อย่าง SOMEONE ELSE PROBLEM และ SITTING IN TRAFFIC รวมถึงโชว์เพลงที่ทุกคนร้องได้จากชุดเก่า ๆ มาเอาใจคอร์แฟนเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Free Time, Younger หรือ Painkiller ก่อนจะปิดฉากความประทับใจของค่ำคืนแห่งความสุขด้วยเพลง I DONT WANNA BE LIKE YOU ที่แฟน ๆ ร่วมกันเล่นบอลลูนสีเหลืองไปทั่วทั้งสามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ด้วยโชว์ไดเร็กชั่นสุดแข็งแรงและพลังจากรูลที่ส่งไปถึงแฟน ๆ มากขึ้นตามประสบการณ์ RUEL 4TH WALL WORLD TOUR BANGKOK ทำให้เราได้เห็นพัฒนาการของนักร้องหนุ่มคนนี้ว่าพร้อมที่จะเติบโต เป็นศิลปินคุณภาพแห่งวงการดนตรีโลกคนหนึ่งในอนาคตภาพ Live Nation Tero

8 ปีที่หนูไม่เคยลืม... พ่อเป็นคนอารมณ์ร้อน เอาปืนจ่อหัวหนู วิ่งเท้าเปล่าหนีตายออกจากบ้าน ไปขออาศัยอยู่บ้านแฟน มาวันนี้แม่ขอให้กลับบ้าน ถ้าทุกคนเป็นหนูจะกลับไปไหมคะ?

10 ก.พ. 2023

8 ปีที่หนูไม่เคยลืม... พ่อเป็นคนอารมณ์ร้อน เอาปืนจ่อหัวหนู วิ่งเท้าเปล่าหนีตายออกจากบ้าน ไปขออาศัยอยู่บ้านแฟน มาวันนี้แม่ขอให้กลับบ้าน ถ้าทุกคนเป็นหนูจะกลับไปไหมคะ?

“คุณเค (นามสมมุติ)” อายุ 26 ปี สายแรกในรายการพุธทอล์คพุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (08/02/2023) ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างตนกับพ่อโดย “คุณเค (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘ต้องบอกก่อนว่าหนูเป็น LGBTQ แล้วเดิมทีครอบครัวของหนูอยู่กันด้วยความรักใคร่กันมาตลอด จนพ่อเริ่มมีปัญหากับแม่เรื่องที่พ่อมีบ้านเล็กบ้านน้อย แล้วก็ทำให้พ่อเปลี่ยนไป คุณพ่อไม่มีอาชีพ ปกติแม่จะเป็นคนเลี้ยงคนทั้งครอบครัวเลย และบอกเลยว่าหนูกับพ่อแทบไม่ค่อยได้คุยกันเลย เพราะพ่อเป็นคนอารมณ์ร้อนมากๆ หนูไม่สามารถปรึกษาอะไรได้เลย เวลามีปัญหาหรือไม่พอใจพ่อจะทำร้ายร่างกายทั้งหนูและแม่เลย แต่พ่อไม่ดื่ม อาจเป็นเพราะแกโตมาในพื้นฐานครอบครัวที่อารมณ์ร้อนด้วยพอหนูอายุได้ 18 ปี หนูก็ตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อไปสอบเข้ามหาลัย แต่พ่อด้วยความที่แกว่าง ก็เลยรับลูกสุนัขมาเลี้ยง โดยที่ไม่ได้ปรึกษาคนในบ้านเลย แล้วน้องเขาก็ยังเด็ก พ่อเลยให้หนูเลี้ยงแทน ในขณะที่หนูกำลังพยายามทำเกรด ตั้งใจเรียน ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อจะได้เข้ามหาลัยตามที่คาดหวังไว้ แล้วหนูก็อดทนเลี้ยงมาให้พ่อสักพักนึง หนูก็เริ่มทนไม่ไหวแล้ว ก็ไปบอกกับพ่อดีๆว่าให้พ่อไปดูแลหมาแทนได้มั้ย? เพราะหนูต้องอ่านหนังสือ คือหนูพูดตรงๆเลย และไม่ได้มีทะเลาะอะไรกันเลย แต่หลังจากนั้นพ่อก็โมโหหนูมาก แล้วก็พังห้องที่หนูกำลังอ่านหนังสือสอบอยู่ พีคสุดคือพ่อเอาปืนมาจ่อที่หัวของหนู แล้ววันนั้นก็คือเวลาเที่ยงคืนแล้ว มันดึกมาก หนูก็วิ่งออกมาจากบ้านเท้าเปล่าเลย ตอนแรกนึกว่าพ่อแค่ไม่พอใจหนู แต่มันไม่น่าใช่ เพราะหนูได้ยินเสียงปืนมาจากหลังบ้าน หนูก็รู้เลยว่าถ้าไม่ออกมาตอนนั้นคือหนูไม่รอดแล้วแต่หนูโชคดีอย่างนึง คือ หนูมีแฟน แล้วมันก็เป็นช่วงที่หนูเรียนจบพอดี ก็เลยไปอยู่มหาลัย เรียนมาประมาณ 5 – 6 ปี เรียนจบหนูก็กลับมาอยู่บ้านแฟน แต่ไม่ได้กลับไปบ้านตัวเอง เพราะมันยังมีเรื่องที่ยังไม่เคลียร์ใจ ตั้งแต่วันที่หนีออกมาหนูก็ไม่เคยกลับบ้านเลย 8 ปีแล้ว จนตอนนี้หนูก็ทำงานแล้ว ปกติจะโทรคุยกับแม่ แต่เรื่องนี้แม่ไม่เคยทราบเลยว่าหนูมีปัญหาในใจตลอด และพ่อก็ไม่เคยโทรมาถามความรู้สึกหนูเลยว่าหนูรู้สึกยังไง หนูมีน้องสาว 1 คน แต่พ่อจะรักใคร่เอ็นดูมากกว่าเพราะน้องเป็นผู้หญิงด้วย แต่หนูเป็นเพศทางเลือก พ่อก็เป็นคนจีนด้วยเขาก็คงไม่โอเค แต่น้องก็เจอแบบที่หนูเจอเหมือนกัน...แม่ก็ถามหนูว่าอยู่บ้านแฟนนานแล้ว ไม่เกรงใจเขาหรอ? แต่จริงๆหนูช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายเขาทุกอย่าง เพราะหนูไม่อยากเป็นภาระใคร แต่แม่อยากให้หนูกลับไปอยู่บ้าน ถามว่าอยากกลับมั้ย หนูก็อยาก แม่ชอบพูดเข้าข้างพ่อ บอกว่าพ่อดีขึ้นแล้วนะ เขาอายุมากขึ้นแล้ว ความคิดเขาคงเปลี่ยน ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้แม่ก็ยังโทรมาเล่าเรื่องที่พ่อฟิลขาด อารมณ์ร้อน ให้หนูฟังเหมือนเดิม หนูก็กลัวจะโดนอีก หนูก็เข้าใจแหละว่าแม่รักพ่อ แต่ในใจหนูตอนนี้คือมองหน้าพ่อไม่ได้แล้ว ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร แต่แม่อยากให้กลับไปอยู่บ้าน อยากให้กลับไปอยู่กับครอบครัวเหมือนเดิม แต่หนูคิดว่าครอบครัวหนูเขาก็ควรเซฟความรู้สึกหนูด้วยสิ ไม่ใช่แค่อยู่ครบ อยู่กันครบแล้วทำไม? หนูโตแล้ว และหนูรู้ว่ายังไงพ่อก็เปลี่ยนไม่ได้ถ้าเป็นพวกพี่ๆดีเจ จะกลับไปอยู่กับครอบครัวตัวเองมั้ย? หรือจะอยู่ตรงนี้ของเราเหมือนเดิมดีแล้ว?3 ดีเจได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ตอนนี้เคอายุ 26 ปีแล้ว ควรจะเป็นช่วงเวลาที่จะสร้างเนื้อสร้างตัว หรือหาความมั่นคง หาเอนเนอร์จี้ในการทำงาน ไม่ใช่มานั่ง Toxic กับครอบครัว ถ้าแม่อยากเจอให้นัดแม่มาหาหรือมาเจอกันข้างนอก ไม่จำเป็นต้องเข้าไปอยู่ในบ้าน ถ้าพ่อ Toxic ไม่ต้องรับโทรศัพท์ ถ้าพ่อแรงมาก็แรงกลับได้ให้รู้ว่าไม่ยอมแล้วเหมือนกันแสดงออกชัดเจนไปเลยว่าถ้าพ่อจะเป็นคนแบบนี้ก็อย่ามายุ่งกับเค ต่อให้วันนึงบังเอิญเจอกับพ่อ แล้วพ่อทำอะไรที่รุนแรงกับเราหรือร่างกายเราก็ต้องไม่ยอมนะ หรือถ้าเอาปืนมาจ่อหัวอีก ให้แจ้งตำรวจ ลงบันทึกประจำวันเคเก่งมากเลยนะ สำหรับสิ่งที่เคต้องเจอ สามารถประคองชีวิตได้ และต้องขอบคุณแฟนเคด้วยที่เขาเป็นครอบครัว บ้านอีกหลังให้เค ทั้งๆที่บ้านจริงๆ มันไม่น่าอยู่ และมันไม่มีประโยชน์อะไรเลยกับการที่จะกลับไปเพื่อให้แม่สบายใจว่าเรามีภาพพ่อ-แม่-ลูกอยู่พร้อมกัน แต่ความรู้สึกของคนที่เป็นลูกและพ่อ มันไม่เคยได้เชื่อมสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเลย แล้วจะกลับไปเพื่ออะไร?ตอนนี้พยายามทำชีวิตตัวเองให้ดีเพื่อวันใดวันหนึ่งเราได้ดูแล เอาน้องออกมาจากบ้านนั้นได้ ส่วนแม่ละไว้ในฐานที่เข้าใจเลยว่านี่คือชีวิตที่เขาเลือกว่าเขาจะทนอยู่กับผู้ชายคนนี้ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่สำหรับเรา เราเลือกจะมีชีวิตเราได้ เราเลือกที่จะไม่กลับไปเจอคนแบบนี้ที่ไม่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น...เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางhttps://www.youtube.com/live/sC5zxuGHJQQ?feature=shareใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1