19 มิ.ย. 2023
[REVIEW] ‘Elemental’ ผจญภัยเมืองธาตุสุดตื่นตา หนังมาพร้อมไอเดียสุดล้ำ | GOSSIP GUN
พิกซาร์แอนิเมชั่นกลับมาพร้อมกับหนังไฮคอนเซปต์อีกครั้งใน Elemental หลังจากเคยหยิบเอา "อารมณ์" ของมนุษย์มาพัฒนาเป็นตัวละครมาแล้วใน Inside Out ล่าสุดทางสตูดิโอขอหยิบเอา "ธาตุ" มาสร้างเป็นคาแรคเตอร์กันบ้างในหนังใหม่ที่จะพาผู้ชมเข้าสู่โลกของธาตุ เมื่อตัวละครถูกแบ่งออกเป็นพวก ดิน น้ำ ลม ไฟ ต้องมาอาศัยร่วมกันในเมือง Element City กลายเป็นเรื่องราวอันวุ่นวาย โดยไอเดียสุดล้ำนี้มาจาก ปีเตอร์ ซอห์น ที่เคยพาหนังพิกซาร์คว่ำมาแล้วใน The Good Dinosaur เขาขอโอกาสแก้ตัวกับโปรเจกต์นี้ ที่ดูเหมือนจะทะเยอทะยานยิ่งกว่าเก่า โดยมี พีท ดอกเตอร์ จากหนังพิกซาร์ระดับหัวๆอย่างUp, Inside Out และ Soul มาทำหน้าที่อำนวยการสร้าง เพื่อให้มั่นใจว่า Elemental จะกลับมาเป็นหนังคืนฟอร์มให้กับพิกซาร์ได้สำเร็จElemental เล่าเรื่องราวของเอมเบอร์ หญิงสาวที่โตมาในครอบครัวของไฟ ธาตุสายพันธุ์เดียวที่ถูกมองว่าเป็นอันตราย เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถอยู่ใกล้กับทั้ง น้ำ ดิน หรือลมได้ เอมเบอร์ถูกวางตัวให้เป็นทายาทสืบทอดกิจการของพ่อ ที่เปิดร้านไฟร์เพลส เพื่อสานฝันให้กับตัวเอง ทุกวันเธอต้องทำทุกทางเพื่อพิสูจน์ว่า สามารถดูแลร้านต่อจากพ่อได้ แต่ด้วยความอารมณ์ร้อน หลายครั้งเมื่อเธอระเบิดอารมณ์จึงทำให้ร้านเกือบพัง และครั้งล่าสุดทำให้เธอได้บังเอิญเจอกับ เวด หนุ่มธาตุน้ำที่ขาดความมั่นใจ ซึ่งทำงานให้กับศาลาว่าการของเมือง ที่ดันพลาดส่งคำร้องเพื่อปิดกิจการร้านไฟร์เพลสไป เพราะสร้างไม่ได้มาตรฐาน เอมเบอร์และเวดจึงต้องร่วมมือกันแก้ไขความผิดพลาดนี้ เพื่อรักษาร้านของพ่อเธอไว้ ในขณะที่ใครๆก็รู้ว่า น้ำกับไฟ อยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่เอมเบอร์และเวดกลับเริ่มสานสัมพันธ์ และพบว่า บางอย่างที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าเราเชื่อมั่นมากพอ มันอาจจะเป็นจริงก็เป็นอันได้ !โดยรวม Elemental ถือเป็นแอนิเมชั่นที่เพลิดเพลิน ตื่นตาและแปลกตามากๆ ผู้สร้างสามารถหยิบเอาไอเดียสุดล้ำเรื่องธาตุมาต่อยอดได้อย่างหลากหลาย ไฮไลต์สำคัญ คือการออกแบบสร้างสรรค์เมืองธาตุและตัวละคร ให้ดูแปลกใหม่ นับตั้งแต่นาทีแรกที่ผู้ชมได้สัมผัส Element City มันดูหวือหวาเหมือนกำลังเดินเข้าสู่สวนสนุก (ซึ่งดิสนีย์สามารถนำไปต่อยอดกับดิสนีย์แลนด์ได้) รายละเอียดของเมืองได้หยิบเอาข้อจำกัดเกี่ยวกับธาตุต่างๆมาเล่นได้อย่างสนุกสนาน นำไปสู่การสร้างคาแรคเตอร์ที่ดูไม่ซ้ำทางกับหนังเรื่องไหนที่มีมาก่อน ทำให้ Elemental มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน น่าสนใจไม่เหมือนใคร และที่สร้างสีสันได้อย่างดี คือหนังนำเมนไอเดียเกี่ยวกับธาตุต่างๆมาสร้างเป็นมุกตลกได้ค่อนข้างเวิร์กตลอดทั้งเรื่อง (ซึ่งมุกต่างๆแอบอ้างอิงถึงหลักวิทยาศาสตร์ได้อย่างสนุกสนาน)แม้หนังจะมาพร้อมงานวิชวลสุดตื่นตา และไอเดียหลักที่ค่อนข้างแปลกใหม่ แต่แอบน่าเสียดายที่ตัวแก่นหลักหรือโครงเรื่องของหนังนั้น กลับเป็นสิ่งที่แฟนแอนิเมชั่นโดยเฉพาะของดิสนีย์ มักจะได้ดูกันบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงเรื่องสุดคลาสสิกเรื่องความรักต้องห้าม จากความแตกต่างของตัวละครทั้งต่างสายพันธ์หรือต่างชนชั้น ที่เราเคยดูกันจากทั้ง Beauty and the Beast, Aladdin, The Little Mermaid ที่สองตัวละครหลักต้องฝ่าฟันอุปสรรคเมื่อคนรอบข้างบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ หรีือแม้แต่ปมเรื่องตัวละครหลักที่ต้องการทำตามความปรารถนาของตัวเอง หาใช่สิ่งที่พ่อแม่วางไว้ให้ ซึ่งเห็นได้บ่อยๆในหนังของพิกซาร์ พอ Elemental เลือกที่จะเล่าประเด็นนี้ เลยทำให้หนังไม่สามารถไปไกลได้ในระดับ Up, Soul หรือแม้แต่ Inside Out ที่ต่างเล่าประเด็นที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า จุดนี้เองเลยกลับดึงให้ Elemental ที่ได้ขึ้นไปอยู่ในกลุ่มหนังพิกซาร์ระดับบนๆอย่างที่หน้าหนังส่งให้มันควรจะเป็นอย่างไรก็ตาม Elemental ถือเป็นหนังแอนิเมชั่นของพิกซาร์ที่อยู่ในกลุ่มประคองตัว หลังจากทางค่ายมาพร้อมกับผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังหลายเรื่องในระยะหลัง (โดยเฉพาะ Lightyear เมื่อปีก่อนที่ไม่ประสบความสำเร็จอย่างน่าเสียดาย) สำหรับเรื่องนี้ถือเป็นหนังที่ดูสนุก เพลิดเพลินตา มาพร้อมกับตัวเรื่องที่ใครๆก็สามารถเข้าถึงได้อย่างไม่ยาก และตัวหนังเองแอบโรแมนติกมากกว่าที่คิด อาจจะเป็นหนังพิกซาร์ที่โรแมนติกที่สุดเรื่องนึงเลยก็ว่าได้ แต่แค่น่าเสียดายที่มันไม่สามารถพลิกเกมให้กับค่ายอย่างที่คาดหวังไว้เท่านั้นเองชมตัวอย่าง Elemental เข้าฉาย 22 มิถุนายนนี้ในโรงภาพยนตร์ภาพ : Walt Disney Studios Thailand