ทำความรู้จักคู่จิ้นสุดน่ารัก ที่ตกหัวใจแฟนคลับด้วยความธรรมชาติของพวกเธอ “ฟรีน-เบคกี้” พร้อมฉายาที่ใครหลายคนยังไม่รู้

EFM FANDOM RECAP

ทำความรู้จักคู่จิ้นสุดน่ารัก ที่ตกหัวใจแฟนคลับด้วยความธรรมชาติของพวกเธอ “ฟรีน-เบคกี้” พร้อมฉายาที่ใครหลายคนยังไม่รู้

13 มี.ค. 2023

        นับเป็นโอกาสดีๆ ที่ทาง EFM Fandom Live ได้มีแขกรับเชิญสุดพิเศษที่เรียกได้ว่าเป็นคู่จิ้น หญิง-หญิง อันดับต้นๆ ของประเทศไทย จากซีรีส์ “ทฤษฎีสีชมพู” ฟรีน สโรชา จันทร์กิมฮะ และ เบคกี้ รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง 

มาเยือนถึงในรายการเมื่อวันพฤหัสบดี 2 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ความสดใสของทั้งสองคนฟุ้งกระจายเต็มห้องจัดกันไปเลย ซึ่งแน่นอนว่าความสดใสนี้ไม่ได้มีแค่ในห้องจัดเท่านั้น แต่ยังกระจายไปกระทบตากระทบใจแฟนคลับอีกหลายๆ คนที่ติดตามพวกเธออยู่ หรือแม้แต่คนที่ยังไม่ได้ติดตามพอเจอความน่ารักของพวกเธอเข้าไปรับรองได้เลยว่าโดนตกเข้าด้อมแน่นอน และนี่จึงเป็นที่มาของบ้านแฟนคลับของพวกเธอ ไม่ว่าจะเป็น บ้านฟรีน, บ้านเบค, และบ้านคู่

        เริ่มกันที่แฟนคลับบ้านฟรีน ที่มาแชร์ที่มาของฉายาต่างๆ ที่เหล่าแฟนคลับเอาไว้เรียกฟรีน ไม่ว่าจะเป็น “ฟรีนจังจอมแก่น” เกิดจาก แฟนคลับถ่ายรูปให้ฟรีนเป็นตอนหันหลัง และฟรีนเอาไปลงสตอรี่ในอินสตาแกรม แล้วรูปนั้นดันเห็นแก้มของฟรีนเป็นก้อนก้อนเหมือนชินจังจอมแก่น หลังจากนั้นฟรีนก็เลยเอารูปที่เป็นชินจังจอมแก่นมาตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ในทวิตเตอร์ และเปลี่ยนชื่อทวิตเตอร์เป็นฟรีนจังจอมแก่น ต่อด้วยอีกฉายาที่เรียกฟรีนว่า “มุแดง” ก็เกิดจากพี่ช่างแต่งหน้าที่อยู่ในกองถ่าย เวลาตบรองพื้นให้ฟรีน แก้มของน้องจะเด้ง เหมือนมุแดง ซึ่งจริงๆ แล้ว คำว่ามุแดงก็คือเพี้ยนมาจาก “หมูแดง” นั่นเอง และฉายาสุดท้ายนั่นก็คือ “ปิโย๊ะ” เกิดจากที่แฟนคลับมีไลน์โอเพ่นแชทแล้วมีฟรีนอยู่ในกลุ่มโอเพ่นแชทนี้ด้วย และฟรีนตั้งชื่อไลน์ตัวเองว่าปิโย๊ะ ซึ่งมันคือตัวการ์ตูนลูกเจี๊ยบจากเรื่อง “กุเดทามะ” นั่นเอง แต่ตอนนี้บ้านฟรีนยังไม่มีชื่อด้อม แต่จะมีชื่อเรียกกันหลายหลายแถว เช่น แฟนพี่ฟรีน, พี่ฟรีนตัวจริง, หม่าม๊า(มาจากที่ตัวการ์ตูนปิโย๊ะตามหาหม่าม๊าอยู่) นอกจากนี้ความประทับใจของแฟนคลับที่มีต่อฟรีนนั้นก็คือเรื่องของทัศนคติ โดยเวลาที่ไลฟ์ผ่านโซเชียลมีเดีย ฟรีนมักจะมีข้อคิดดีๆ มาบอกให้กับแฟนคลับอยู่เสมอ

      และมากันที่แฟนคลับบ้านเบคกี้ ฉายาแรกที่จะพาไปรู้จักนั่นก็คือ “น้องพุง” มาจากแฟนคลับตัดต่อหน้าน้องเบคกี้ไปใส่ในรูปเด็กน้อยที่มีพุงย้วยก้อนกลมๆ น่ารักๆ เบคกี้เลยเอาไปตั้งเป็นรูปโปรไฟล์และเปลี่ยนชื่อเป็นน้องพุง จนอัลกอริทึมของเฟสบุ๊คได้มอบเครื่องหมายสีฟ้า(เป็นการยืนยันว่านี่คือบัญชีผู้ใช้จริงสำหรับบุคคลสาธารณะ)ให้เพราะคิดว่าเป็นบัญชีของแฟนคลับ ไม่ใช่บัญชีของน้องเบคกี้ ตามมาด้วยฉายา “คิวศูนย์” มาจากการที่ใครจะเป็นแฟนฟรีนจะต้องต่อคิว ซึ่งแฟนคลับเปรียบเปรยว่าตอนนี้คิวยาวไปถึงดาวอังคารแล้ว แต่ถึงแม้จะต่อคิวยาวไปถึงดาวอังคาร คิวก็ไม่ขยับเพราะมีเบคกี้ยืนคุมที่คิวศูนย์ไม่ไปไหนเลย และฉายาสุดท้ายคือ “น้องขิง” ด้วยที่ตัวเบ็คกี้เองชอบลงรูป “ขิง” แฟนตัวจริงของฟรีนว่าพี่ฟรีนของฉันบ่อยๆ แฟนคลับจึงแซวและนำมาเรียกจนเป็นฉายา ทำให้ความประทับใจที่มีต่อตัวเบคกี้นั้นมีอย่างล้นหลาม “น้องมีสายตาที่แน่วแน่, ซื่อตรงต่อความรู้สึก ทั้งๆ ที่น้องเป็นเด็กขี้อาย แต่ด้วยสายตานั้นสามารถทำให้แฟนคลับที่หมดไฟไปแล้วกลับมาลุกขึ้นสู้ได้” แฟนคลับกล่าว

       และมาถึงคิวบ้านคู่ของฟรีนกับเบคกี้กันบ้าง โดยในรายการได้พูดถึงที่มาที่ไปว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร แฟนคลับเล่าว่า “เกิดมาก่อนที่ซีรีส์จะออนแอร์” โดยแฟนคลับโดนน้องตกจากการที่น้องไปแคส แอบหลงรักเดอะซีรีส์ ก่อน และได้เห็นน้องสองคนเวิร์คช็อปและมีโมเมนต์น่ารักๆ ซึ่งกันและกันเลยเกิดเป็นแท็กเล็กๆ ขึ้นมาว่า “ฟรีน-เบค

ซึ่งความประทับใจที่แฟนคลับมีต่อน้องทั้งสองคนคงหนีไม่พ้นความเป็นธรรมชาติ เป็นตัวของตัวเอง และน้องทั้งสองเป็นกันเองกับแฟนคลับ เจอแบบไหนตั้งแต่ต้นปัจจุบันก็ยังคงเป็นแบบนั้น

และนอกจากนี้ทางรายการเองก็ได้พูดคุยกับฟรีนและเบคกี้ ถึงเรื่องราวที่เจาะลึกลงไปถึงประเด็นต่างๆรวมถึงเปิดโมเม้นสุดคิวท์ พร้อมบทสัมภาษณ์ที่ชาวแฟนด้อมอย่างเราไม่เคยรู้มาก่อน! บอกเลยงานนี้มีฟินนนน~

 

ช่วงสัมภาษณ์ “ฟรีน-เบค”

มาที่คำถามแรกเมื่อดีเจพี่แนนเกิดสงสัย ว่าจริงๆ แล้วชื่อเล่นว่า ‘ฟรีน’ มีที่มาจากอะไร เพราะถือว่าเป็นชื่อที่แปลกใหม่มาก ฟรีนเลยให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยรู้ความหมายชื่อตัวเองมาก่อน จนไปถาม Master ที่เรียนด้วย เขาจึงบอกว่าจริงๆ แล้ว ฟรีน มาจากภาษากรีก ที่ผันมาจาก Friendly จนกลายมาเป็น Freen นั่นเองค่ะ เพราะก่อนหน้านี้ตัวเองก็ชื่อว่า ฟิล์ม แต่ดันไปเหมือนพี่ข้างบ้านซะงั้น แม่ก็เลยเปลี่ยนเป็น ฟรีน แทนค่ะ ดีเจพี่ดาว ก็เลยเอ่ยปากชมว่า ดันกลายเป็นความหมายที่ดีไปด้วยเลยนะคะเนี่ย

 

‘ First Impression ‘ จากมักเน่ขี้อายกลายเป็นสนิทสุดในกอง

เมื่อถามว่าทั้งคู่ตอนเจอกันครั้งแรกเป็นอย่างไรบ้าง ด้านฟรีนตอบว่า เจอกันครั้งแรกน้องไม่คุยด้วยเลยค่ะ (หัวเราะ) อาจจะเพราะน้องเป็นมักเน่ด้วยแต่สวยค่ะ แล้วเราก็เลยงงว่า อืมม แล้วเราต้องพูดภาษาอะไรด้วย ซึ่งตอนนั้นน้องก็ยังพูดไทยไม่ค่อยชัดด้วยค่ะ แต่ช่วงนั้นก็เลยทำให้เราได้กลายมาสอนภาษาไทยให้น้องไปด้วยเลย

ส่วนเบคกี้ ก็ตอบกลับมา ตอนเจอพี่ฟรีนครั้งแรกเลย ก็สวยค่ะ คือเราไม่รู้จะเข้าหายังไง เพราะพี่เขาหน้านิ่งแล้วดูเหมือนดุด้วย ก็เลยยังไม่กล้าเข้าหาเท่าไหร่ค่ะ แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้เราสนิทกัน ฟรีนและเบคกี้ก็ต่างบอกว่า จริงๆ มันเริ่มช่วงซีรีส์เรื่องแรกเลยค่ะ ที่เราแสดงเป็นเพื่อนกัน ฝน-ของขวัญ ซึ่งในเรื่องเป็นสองสาวที่ต้องอยู่ในแก๊งวิศวะ เราก็เลยมีกันอยู่สองคนค่ะ ช่วงนั้นเราเลยเริ่มสนิทกัน มีซีนน้อยก็เลย ชอบพากันไปหาอะไรกินค่ะ ซึ่งเบคกี้ก็เสริมมาว่า นั่นแหละค่ะ จุดเริ่มต้นที่ทำให้หนูติดชานมค่ะ (หัวเราะ)

 

‘FreenBecky’ ความแตกต่างที่ลงตัว

พอพูดถึงเรื่องชานม ดีเจพี่แนนก็ถามขึ้นมาว่า แล้วปกติทั้งคู่ทานหวานประมาณไหน เบคกี้ก็ตอบเลยว่า เมื่อก่อนหนูติดชานมมาก แต่ตอนนี้ก็ลดมาบ้างแล้วค่ะ วันละหนึ่งแก้วแบบนี้ ปกติหนูกินหวาน100%เลยค่ะ ส่วนพี่ฟรีนเขาก็จะกินหวาน 30% ไม่ก็ 50% ค่ะ ดีเจพี่แนนจึงเอ่ยแซวว่า หรือเพราะพี่ฟรีนจะเหลือท้องไว้เผื่อ น้ำปลาร้า น้ำยำ ด้วยรึเปล่า ฟรีนถึงกับหลุดขำ ก็อาจจะใช่ค่ะเคยลองชวนน้องแล้วแต่น้องกินเผ็ดไม่ได้ ซึ่งเวลาไปทานข้าวด้วยกัน ก็เลยต้องแยกเป็นสองรูปแบบเลยค่ะ ถ้าไปร้านซูชิก็จะรู้เลยว่าฝั่งไหนของหนูฝั่งไหนของน้องค่ะ อย่างหนูก็จะต้องยำแซลม่อน แซ่บๆ เลยค่ะ ซึ่งฟรีนและเบคกี้ก็เสริมมาว่าเดี๋ยวนี้ก็ชอบชวนกันไปร้านนวดแล้วค่ะ พี่ฟรีนเป็นคนเปิดโลกเลย (หัวเราะ)

 

“ เปิดมุมมองความฝันในวัยเด็ก “

ทั้งสองคนมีความฝันอะไรกันบ้าง ถ้าเกิดตอนนี้ยังไม่ได้ทำงานตรงนี้มาก่อน ด้านฟรีนตอบว่า จริงๆ เมื่อก่อนอยากเป็นนักเขียนค่ะ เป็นฟีลเขียนฮีลใจผู้คนอะไรแบบนี้ เพราะด้วยเป็นคนนอนหลับยากด้วย ตอนกลางคืนในหัวเลยมีคำมากมายเลยค่ะและต้องจดใส่โทรศัพท์ทุกวันเลย ไม่งั้นจะนอนไม่หลับ นี่เลยทำให้ตัวเองค้นพบด้วยว่าการเขียนก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ชอบและอยากจะทำค่ะ  ตอนเด็กๆ ไม่เคยรู้เลย เพราะเราก็เรียนวิทย์-คณิตมาด้วยและก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะได้ทำอะไรหรืออยากเป็นอะไรด้วยค่ะ ณ ช่วงนั้น

ส่วนของเบคกี้ ความฝันในวันเด็กก็คือการได้เป็น นักร้องค่ะ เพราะชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ตอนนี้ก็ได้มีโอกาสเป็นนักแสดง และเรียนกฎหมายไปพร้อมๆ กัน ก็ค่อนข้างหนักนิดนึงค่ะ เพราะเราเรียนที่อังกฤษ และตอนนี้ก็เลยต้องเรียนแบบออนไลน์ไปด้วย แต่สนุกค่ะเพราะเราชอบด้วย

 

ทฤษฎีสีชมพู “คุณสาม - น้องม่อน” คาแรคเตอร์ที่ ‘ไกลตัว’ แต่ ‘ใกล้หัวใจ’

เมื่อพูดถึงกระแสของซีรีส์ ทฤษฎีสีชมพู ที่ผลตอบรับดีเกินคาดและดังไปหลายประเทศ ด้านฟรีนและเบคกี้ ก็ต่างตอบว่า ไม่เคยคิดถึงจุดจุดนี้มาก่อน เพราะเราไม่เคยเป็นนักแสดงหลักมาก่อนด้วยคิดแค่ว่าเราจะทำได้มั้ย เพราะคาแรคเตอร์ที่ดูเป็นผู้ใหญ่ เป็นวัยทำงาน การทำการบ้านกับตัวละครก็เลยหนักมาก ทั้งแบคกราวนด์ตัวละคร และเหตุผลของตัวละครทั้งสองด้วย อย่างตัวคุณสามก็ต้องมีความโตและนิ่ง แต่จริงๆ ความรู้สึกข้างในก็อ่อนไหวมากเช่นกัน ส่วนน้องม่อนก็จะมีความขี้อ้อน แต่มีความรู้สึกที่หลากหลาย ซึ่งการเรียนรู้ของเราก็มาจากตัวแฟนคลับฟีดแบคมาด้วย เราก็จะนำมาปรับปรุงเสมอเลย ทำให้เหมือนตัวซีรีส์ก็เติบโตไปพร้อมคนดูเลยค่ะ

 

“มุมมองความรักของ ฟรีน และ เบคกี้”

- ถ้าหากชีวิตจริงของทั้งฟรีนและเบคกี้ ต้องเจออุปสรรคทางความรักเหมือนใน ทฤษฎีสีชมพู ที่ถูกกีดกันจากคนในครอบครัว ทั้งสองจะทำอย่างไรบ้าง

ด้านฟรีนก็ตอบอย่างมั่นใจว่า ตนจะทำให้เราหาตรงกลางให้ได้และเชื่อว่าถ้าเราเชื่อในความรักและคนคนนั้น ทุกอย่างมันก็จะสามารถผ่านไปได้

ส่วนเบคกี้กลับมีอีกมุมมองที่คิดว่า ถ้ามองในความเป็นจริง เรารู้สึกว่ามันจะท็อคซิกกับตัวเองจนเกินไป เราอาจจะอยู่กับอะไรแบบนี้ไม่ได้นาน เราควรที่จะออกไปหาอะไรที่ทำให้เห็นถึงคุณค่าของตน และคิดว่าถ้าส่วนตัวเรา เราคงไม่อยากไปอยู่ในความสัมพันธ์ที่ท็อคซิกแบบนั้น

- แล้วเวลามีความรัก ฟรีน และ เบคกี้ เป็นอย่างไร

ฟรีน : หนูว่าหนูคลั่งรักอยู่น้า เพราะเราเชื่อในความรักด้วย แล้วความรักก็ทำให้เรามีพลังบวกด้วยค่ะ ถ้าคิดเปอร์เซ็นต์ก็ 90 % เลยค่ะ (หัวเราะ)

เพราะความรักมันมีหลายรูปแบบด้วยค่ะ ครอบครัว แฟน เพื่อน ถ้าเรามีความรักที่ดี ก็จะส่งผลให้ชีวิตขับเคลื่อนได้ดีด้วย ก็…ความรักก็น่ารักดีค่ะ

เบคกี้ : คลั่งรักเหมือนกันค่ะ (หัวเราะ) เพราะความรักของเราไม่ว่าใครที่เข้ามาในชีวิตเราให้ 100%เลยค่ะ ด้วยความที่เป็น Introvert ด้วย ก็เลยจะใส่ใจกับคนที่เข้ามาในชีวิตเรามากๆ เลยค่ะ

- การมอบความรักซึ่งกันและกัน

ทุกวันนี้เราทั้งสองดูแลกันยังไง ด้านฟรีนก็ตอบมาว่า ทุกวันนี้หนูเป่าผม ม้วนผม ทำผม ให้ด้วยเลยค่ะ (หัวเราะ) แต่เบคกี้เขาจะมาดูแลเราหนักๆ เลยช่วงเราป่วยค่ะ แต่ส่วนใหญ่ชีวิตประจำวันหนูชอบเทคแคร์คนอื่นซะมากกว่าค่ะ

ในเรื่องการให้คำปรึกษาเบคกี้ก็ตอบมาว่า ส่วนใหญ่มีอะไรก็จะปรึกษาพี่ฟรีนเลยค่ะ ด้วยความส่วนใหญ่เพื่อนเราอยู่ที่อังกฤษด้วย พี่ฟรีนก็ถือว่าเป็นพี่ที่สำคัญในชีวิตคนหนึ่งเลยค่ะ

 

และนี่นับเป็นการสัมภาษณ์ที่เปิดให้แฟนคลับได้รู้จักและรักพวกเธอทั้งสองคนมากยิ่งขึ้นไปอีก จะไม่ให้รักและผูกพันธ์ได้อย่างไร เพราะ “ทฤษฎีสีชมพู” ที่ทั้งสองคนถ่ายทอดความสัมพันธ์ที่มีต่อกันและกันออกมานั้นไม่เพียงแต่มีในจอเท่านั้น แต่ยังส่งไปถึงแฟนคลับที่อยู่นอกจอด้วย

“การได้ดูซีรีส์ของทั้งคู่เหมือนได้ย้อนกลับมาดูความรักของตัวเองว่าเราผ่านอะไรกันมาบ้าง” แฟนคลับที่ได้โทรเข้ามาพูดกับทั้งสองคนกล่าว

ทำให้ฟรีนและเบคกี้ต่างปลื้มปริ่มใจที่ตัวเองสามารถเป็นซอฟพาวเวอร์ให้กับใครหลายๆคนได้ และสุดท้ายนี้ฟรีนและเบคกี้ก็อยากฝากไว้กับแฟนคลับทุกคนที่คอยสนับสนุนพวกเธอเสมอมาว่า…

 

     “อยากให้ทุกคนอยู่ด้วยกันในทุกวัน ไม่ว่าจะเจออะไรก็อยากผ่านไปด้วยกัน และอยากขอบคุณทุกกำลังใจและแรงซับพอร์ตที่ทำให้ฟ้าของหนูสดใสขึ้นมาก แม้ในบางวันที่มันไม่ได้ดีทุกวัน

   -ฟรีน-

 

    “‌thank you guys,thank you for your support. I know I probably say this every single day. I hope you have bought yet but we love each so much. We appreciate you so much. we understand the language barrier and understand everything you guys put so much afford. Example like trying to communicate with us or see us or even Supposed watching line group. Anything really to really heart warming, thanks you for been such a lovely family and hope we will be  together forever.

    -เบคกี้-

 

ชมไลฟ์สดย้อนหลัง

related EFM FANDOM RECAP

ค่ำคืนสุดป่วน! “หยิ่น - วอร์” กลับมาเสิร์ฟความสนุกปนความแปลกใน EFM FANDOM LIVE พร้อมสกิลการตอบคำถามสุดฮา และบทเพลงพิเศษที่มอบให้ชาวหมูยอทุกคนกับ ‘รักทุกตอน’

26 พ.ย. 2025

ค่ำคืนสุดป่วน! “หยิ่น - วอร์” กลับมาเสิร์ฟความสนุกปนความแปลกใน EFM FANDOM LIVE พร้อมสกิลการตอบคำถามสุดฮา และบทเพลงพิเศษที่มอบให้ชาวหมูยอทุกคนกับ ‘รักทุกตอน’

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 20 พฤศจิกายน 2568 ] ค่ำคืนนี้เตรียมออกซิเจนไว้ให้ดี ! เพราะ “หยิ่น - วอร์” พร้อมเสิร์ฟรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแบบจัดเต็ม ร่วมสร้างโมเมนต์สุดฮาไปกับ 2 ดีเจสาวสวย “ดีเจดาว” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ ๆ ดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS”ที่ถูกเลือกมาจากแฟน ๆ ส่งความในใจที่อยากจะบอกกับศิลปินจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... 6 ปีที่ผูกพันสู่ 70 ปีที่อยากอยู่ข้างกันไม่ปล่อยมือ ถึงพี่หยิ่นพี่วอร์ หนูเองอาจจะไม่ได้อยู่มาตั้งแต่ก้าวแรกๆของพี่ๆ แต่ตอนนี้รู้สึกอยากขอบคุณ ช่วงเวลาเกือบ 6 ปีที่ผ่านมา มันมีแต่ความทรงจำดีๆเต็มไปหมด มันเป็นระยะเวลาที่นานมากๆ กับการได้รักใครสักคน ดีใจมากนะที่ตอนนี้เรายังไม่ปล่อยมือจากกันไปไหน ยังคงคอยอยู่ซัพพอร์ตกันเสมอ และอยากบอกพี่ว่า 70 ปีข้างหน้าที่พี่สัญญากันไว้ ไม่ว่าหนูจะมีโอกาสได้เห็นไหม ก็จะขอเฝ้ามองไปจนถึง 70 ปีเหมือนกันนะ รักพี่ทั้งสองLetter #1: This letter is titled... Six years of connection blossoming into a lifelong desire to cherish each other for the next 70 years and beyond. Even though I wasn't there to witness your first steps but the nearly six years we've shared have been brimming with wonderful memories. That’s quite a span of time to have someone to cherish in our lives. I’m truly thankful that we continue to hold on to one another and are still here to support each other. I want you to know that for the next 70 years you promised, whether I'm there to experience it or not, I will always be watching over you throughout that time. I love you both dearly.จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... หนึ่งส่วนร้อยความในใจ เพราะต่อให้พูดให้ฟัง 1 วันก็คงไม่พอ เป็นหมูยอเข้าปีที่ 4 แล้ว อยากบอกว่าตั้งแต่รู้จักหยิ่นวอร์ยิ่งรู้สึกรักและอยากซัพพอร์ตมากขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกทั้งคู่เป็นเซฟโซน เป็นกำลังใจ เป็นความสุขในชีวิต และเป็นแรงบันดาลใจให้ลองทำในสิ่งไม่เคยทำ ได้ค้นพบตัวเองมากขึ้น จากคนที่วาดรูปไม่เป็นแต่อยากวาด FAN ART เพราะเป็นด้อมสายผลิต FAN ART มาก จนอยากลองดู ยังจำได้ในวันที่นำผลงานไปให้ทั้งคู่ ดูมีความสนใจและให้ความสำคัญ รู้เลยว่าหยิ่นวอร์ก็พร้อมซัพพอร์ตแฟนคลับเช่นกัน”Letter #2: This letter is titled... Just a fraction of my deepest wishes, because even sharing them with you for a single day wouldn’t be sufficient. I can't believe it's been four years since I became Moo Yor! From the moment I discovered YinWar, my admiration for them has only grown. They've created this wonderful feeling of safety and support in my life, acting as a source of joy and inspiration. Because of them, I've been encouraged to step outside my comfort zone and explore new things. I’ve learned so much about myself during this journey. I used to think I couldn’t draw, but the passion of our fandom to create fan art motivated me to give it a shot. I’ll never forget the day I shared my artwork with them; they seemed genuinely interested and valued my effort. It’s clear to me that YinWar is just as dedicated to their fans as we are to them.จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... คดีด่วน ! 'หยิ่นวอร์' สองผู้ต้องหาขโมยหัวใจหมูยอ ตั้งแต่ตามศิลปินมา ไม่มีใครทำให้คลั่งรักมากขึ้นทุกวันเท่าพวกแกอีกล่ะ จะกี่ปีก็มีแค่ ‘หยิ่นวอร์’ ความเป็นธรรมชาติที่แสนพิเศษนี่แหละ เป็นสิ่งที่ผูกมัดหมูยอกันแน่นแฟ้น ขอบคุณวงโคจรทุกอย่างที่ทำให้เราได้มาเจอกัน โปรดจำไว้ว่าในทุกๆก้าวของทั้งสองคน จะมี ‘หมูยอ’ คอยเดินตามหลังไปทุกที่เสมอ เพราะสุภาษิตสอนไว้ว่า "เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด" 5555 หยอกเล่น รักน้า คุณอานันท์ คุณวนรัตน์ คนเก่งของหมูยอLetter #3: This letter is titled... Urgent case! 'Yin War', two suspects in the case of stealing the heart of Mooyor. Since I've started following artists, no one makes me fall in love with them more and more each day than you all. No matter how many years pass, my heart will always belong to 'YinWar.' It’s this unique connection that keeps MooYor so tightly woven together. I’m incredibly grateful for the paths that have brought us together. Always remember that wherever you two go, ‘MooYor’ will be right behind you, just like the saying goes: "If you follow an adult, the dog won't bite"—just kidding! Love you both, Uncle Anan and Khun Wanarat, as well as all the talented individuals at MooYor.จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... เศษหนึ่งส่วนสี่ของหัวใจฉัน 7 ปีที่ผ่านมามันดีมากๆ “เราต่างเป็นเศษหนึ่งส่วนสี่ของกันและกันจริงๆ” ช่วงชีวิตนึงของเรามันเป็นหยิ่นวอร์เช่นกัน เป็นแรงใจในทุกช่วงการเติบโตของเรา ดีใจที่ได้มาพบเจอหยิ่นวอร์ทุกครั้ง เป็นแบตเตอรี่ก้อนโตมากๆ วันใดที่เหนื่อยเพียงแค่เห็นรอยยิ้มหยิ่นวอร์ มันก็เหมือนได้ชุบชีวิตจริงๆ ที่สำคัญ ขอบคุณหยิ่นวอร์ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองกันเลย มีผลงานดีๆ ออกมาให้ชาวหมูยอได้ชื่นชมเสมอ ภูมิใจในตัวหยิ่นวอร์มากๆเลยนะLetter #4: This letter is titled... A quarter of my heart The last seven years have been truly incredible. "We really are a part of each other." YinWar has played a significant role in our journey. They have inspired us at every turn as we've grown. I genuinely look forward to seeing them; it's like they bring me back to life on my tired days just by flashing that smile. Most importantly, I want to thank YinWar for continuously pushing themselves to grow. Your amazing work never ceases to amaze MooYor, and I couldn't be prouder of you.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... บทอ่อนโยนในนิยายชีวิต ฉบับที่ฉันรักที่สุด บางทีโลกอาจไม่ได้ใจดีกับฉันทุกวัน แต่การมีเธออยู่ในเรื่องราวนิยายของเรา ทำให้ทุกบทมีความหมายเสมอ และในนิยายชีวิตเล่มนี้ บทที่ฉันรักที่สุด ก็ยังคงเป็นบทที่มีคุณอยู่ในนั้น แบบเดิมไม่เปลี่ยนเลย ในทุกบทของชีวิต มีทั้งวันที่ร้าวลึกและวันที่สว่างไสว ฉันไม่เคยคาดหวังว่าจะมีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาเป็น “ตัวละครสำคัญ” แต่พอได้รู้จักหยิ่นวอร์ ฉันก็เหมือนพบบทพิเศษที่ไม่เคยมีในต้นฉบับLetter #5: This letter is titled... The sweet moment in my favorite life story Life may not show me kindness every single day, but having you in our journey makes each chapter feel significant. By far, the chapter I cherish the most is the one that features you, just like always. Throughout life’s ups and downs, there are moments of both joy and hardship. I never imagined someone would come along who would play such a vital role in my story. But when I met YinWar, it felt like discovering a beautiful new chapter I never knew was missing.เข้าสู่ช่วงที่สองของ EFM FANDOM LIVE ต้อนรับ “หยิ่น - วอร์” พ่อคนซึนผู้มาพร้อมเสียงหัวเราะ และมิติใหม่ของการตอบคำถามสุดเข้าขาตอกย้ำความสัมพันธ์ตลอด 7 ปีอันแน่นแฟ้น พร้อมเผยเบื้องหลังบทเพลงสุดหวาน ‘รักทุกตอน’5 ปีกับด้อมหมูยอ มิตรภาพอันเหนียวแน่นตลอด 5 ปีของด้อมหมูยอยังคงสวยงามเสมอ โดยด้านวอร์เล่าว่า ชื่อด้อม ‘หมูยอ’ ครบรอบ 5 ปี และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 เป็นที่เรียบร้อย แต่จริง ๆ หยิ่นและวอร์รู้จักกันมา 7 ปีแล้ว เมื่อถามถึง ‘อาถรรพ์ 7 ปี’ ที่หลายคนมีความเชื่อว่าความสัมพันธ์จะสั่นคลอนเมื่อถึงปีที่ 7 แต่หยิ่นกลับตอบว่าเมื่อวันก่อนโดนผีอำไป หรือนี่จะเป็นการยืนยันทางอ้อมว่าอาถรรพ์ 7 ปีไม่สามารถทำลายความสัมพันธ์อันดีของทั้งคู่ไปได้…?ลุคเดินแบบของ “หยิ่น” ที่ตราตรึงใจ ลุคเดินแบบของหยิ่นในงานแฟชั่นโชว์ที่หลายคนพูดถึงและถูกแชร์กันสนั่นในโลกโซเซียล แต่เจ้าตัวขอออกมาแก้ข่าวแบบขำ ๆ ว่ามันเป็นเพราะมุมกล้องหลอกตา ยังบอกอีกว่าตนออกกำลังกายน้อยกว่าปีที่แล้ว พร้อมทิ้งท้ายว่า ‘การเป็นดารากล้ามใหญ่อาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด แต่ที่สำคัญคือ กล้ามชัด ต่างหาก’สกิลสุดว้าวกับการปั้นหม้อของ “วอร์” หลายคนคงคุ้นตากับงานอดิเรกสุดสร้างสรรค์ที่ถูกพูดถึงอย่างมากของวอร์ กับการปั้นหม้อเซรามิก ที่ล่าสุดเจ้าตัวเผยว่ามีแพลนจะซื้อตึกเพื่อเก็บรวบรวมผลงานเหล่านี้ไว้ สืบเนื่องจากห้องที่ตนอยู่พื้นที่เต็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเจ้าตัวก็ยังคงยืนยันอย่างแน่วแน่ว่าไม่คิดจะขาย ส่วนตัวทำเพราะชื่นชอบ และมีความสุขกับทุกขั้นตอนที่ได้ลงมือจริง ๆ แต่ในอนาคตหากสามารถนำผลงานของตนไปใช้ได้ ก็ต้องรอชื่นชมกันได้เลย ยังแอบเผยอีกว่าหากตึกเสร็จ ทุกคนอาจจะได้เข้าไปชมผลงานกันแพลนวันคริสต์มาสของ “หยิ่น - วอร์” งานนี้ทั้งคู่ถึงกับนิ่งไปครู่ใหญ่ เนื่องจากยังไม่ได้วางแพลนไว้ ปกติจะดูแพลนกันแบบวันต่อวัน ซึ่งทั้งคู่ก็บอกว่าอาจจะมีงาน แต่หากไม่มีก็ถือว่าเป็นวันหยุดพักผ่อนวันนึง ยิ่งช่วงนี้อากาศดี ฮีลใจทั้งคู่สุด ๆกว่าจะมาเป็นบทเพลง ‘รักทุกตอน’ หยิ่น - วอร์ ตั้งใจจะออกผลงานเพลง อย่างน้อยปีละเพลง เพื่อไม่ให้แฟน ๆ ได้ฟังเพลงซ้ำจนเกินไปเวลาออกงานต่าง ๆ เพลง ‘รักทุกตอน’ มาพร้อมแนวคิดที่ว่าทั้งคู่อยากมอบเพลงให้กับแฟนคลับทุกคนอยู่เคียงข้างมาหลายปี รวมถึงการเล่าเรื่องราวตั้งแต่จุดเริ่มต้น ผ่านทั้งสุขและทุกข์ แต่บทสรุปสุดท้ายก็ ‘รักทุกตอน’ ซึ่งเพลงนี้ยังได้ 2 โปรดิวเซอร์มากประสบการณ์อย่าง พี่เอฟู และพี่ก๊อป โปสการ์ด มาร่วมทำเพลงให้ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังผลงานศิลปินไทยมานับไม่ถ้วน โดยทั้งคู่เล่าว่าขั้นตอนการอัดเสียงก็ค่อนข้างยาก เพราะต้องสลับกันร้องเหมือนโต้ตอบกันไปมา แถมยังมีลูกเล่นในเพลงมากขึ้น จึงมีความยากมากขึ้นจากผลงานที่ผ่านมาEFM ขอเสนอตอน ‘คำพูดมากมาย ความหมายไปเรื่อย’ เมื่อคำถามโดนเส้น จึงขอเล่นกลับสักหน่อย… กับคำถามที่ว่า ‘รถใน MV เป็นรถจริง หรือ CG’ ด้านหยิ่นวอร์ถึงกับเสียอาการ พร้อมแซวกลับขำ ๆ ว่าถ้าเป็น CG ตนจะไปทำหนังแอกชั่นแล้วนะ ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะทั้งคู่เล่นใหญ่ต่อเนื่อง เผยว่าทุกอย่างใน MV เป็น AI ทั้งหมด แถมมีหุ่นยนต์ด้วย พร้อมเสริมว่าถึงกับหมดตัวในการทุ่มทุนสร้างครั้งนี้ เพราะลงทุนไปถ่ายทำถึงดวงจันทร์เพื่อแฟน ๆ โดยเฉพาะ เรียกว่าเป็นมิติใหม่ของการตอบคำถามเดิมซ้ำ ๆ ฝากทุกคนเอาใจช่วยดีเจทั้งสองให้ผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปด้วยนะคะช่วงเวลาที่ “หยิ่น - วอร์” คิดถึงหมูยอเป็นพิเศษ ก่อนจะเข้าโหมดจริงจัง ขอแวะแซวซะหน่อย โดยวอร์เล่าว่า จริง ๆ ตอนไปถ่ายทำที่ดวงจันทร์ก็คิดถึงนะ ไกลบ้านด้วย เห็นหมูยอตัวนิดเดียวเอง แถมเสริมขำ ๆ ว่าในจังหวะที่ลมหายใจกำลังจะหมด นึกถึงหมูยอขึ้นมาเลย งานนี้เหมือนจะจริงจัง แต่ก็จิงโจ้ตามสไตล์พ่อคนซึนทั้งคู่ แอบบอกรักหมูยออ้อม ๆ ว่า… แม้ลมหายใจสุดท้ายก็ยังมีหมูยออยู่ในความทรงจำหรือเปล่าน้า ?ก่อนเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของ EFM FANDOM LIVE ในค่ำคืนนี้ทางรายการขอเสิร์ฟโมเมนต์ความน่ารักปนตลก ชวนปวดหัวของ “หยิ่น - วอร์”ด้วยคำถามสุดเซอร์ไพร์ส กับช่วง Bonus Time คำถามพิเศษ : หยิ่นวอร์ รักทุกตอน ตอนไหนดีน้า??แสดงความรักตอน 07.00 น. คำแรกของวัน...ที่จะพูดกับอีกฝ่าย ? วอร์ : จริง ๆ ผมยังไม่ตื่นนะ… แต่ก็คงเป็น ‘คุณเราสดชื่นมากและดีใจที่ตื่นมาเจอคุณอยู่ข้าง ๆ’ หยิ่น : ตอนเด็ก ๆ คุณยายจะชอบร้องเพลงนึงให้ฟังตลอด ‘ตื่นเถิดชาวไทย อย่ามัวหลับใหลลุ่มหลง’แสดงความรักตอน 09.00 น. ถ้าต้องเตรียมมื้อเช้าให้อีกฝ่ายอยากจะทำเมนูอะไรให้ ? วอร์ : ถ้าเช้าสำหรับคนที่ผมรัก จะต้องเป็นอาหารสุขภาพ ซึ่งผมจะทำวิตามิน C E B D (แบบเม็ด) ผัดรวมกับน้ำเปล่าให้เขา จะได้ทานง่าย ๆ รับวิตามินอย่างครบถ้วน หยิ่น : ถ้าผมรักใครจะยังไม่ให้เขากิน ผมจะพาเขาทำ IF เราจะเริ่มทานตอนเที่ยงแสดงความรักตอน 12.00 น. พักเที่ยงนี้อากาศดี ชวนกันไปนั่งเล่นที่ไหน...ที่คิดว่าบรรยากาศดีสุด ๆ ? วอร์ : ถ้าเที่ยงวันเนี่ย แดดน่าจะแรง ผมจะไม่ให้เขาออกไปไหน ผมเป็นห่วงเขาเดี๋ยวผิวจะไหม้ หยิ่น : ถ้าเกิดเที่ยงวันกังวลว่าจะโดนแดด ผมจะพาเขานั่งเครื่องบินไปอเมริกา เพราะเป็นเวลาเที่ยงคืนพอดีแสดงความรักตอน 17.00 น. ไปเล่นกีฬาสัก 2 ชั่วโมง ไปเล่นกีฬาอะไรดี ? หยิ่น : ผมจะพาไปเล่นโปโลน้ำ วอร์ : แต่ผมจะไม่ให้เขาเล่นอะไร อย่างโปโลน้ำ ถ้าเขาสำลักน้ำ ผมก็จะเป็นทุกข์ละ ผมจะให้เขาค่อย ๆ ขยับไปทีละส่วนของร่างกาย เริ่มจากนิ้วมือ ต่อด้วยข้อมือ และตามด้วยแขน แล้วผมค่อยนวดให้เขาทีละส่วนแสดงความรักตอน 19.00 น. หลังเล่นกีฬากินเมนูอะไร ? วอร์ : ข้าวมันไก่ ง่าย ๆ เลย เพราะคิดไม่ออกแล้ว … หยิ่น : ข้าวมันไก่เหมือนกัน (เพราะเธอกินอะไร ผมก็จะกินเหมือนกัน)แสดงความรักตอน 21.00 ไลฟ์ร้องเพลงให้แฟนคลับฟังก่อนนอน จะร้องเพลงอะไร ? หยิ่น : เรื่องเพลงนี่พี่วอร์ถนัดเลย เลือกมาสักเพลง ผมร้องตามได้หมดเลย วอร์ : ผมได้มีการศึกษามาแล้วว่า สำหรับแฟน ๆ ที่ผมรัก เพลงที่จะกล่อมนอนได้ดีที่สุดก็คือ ‘เพลงคลาสสิค’ เป็น คอร์ดเพลง Canon in Dแสดงความรักตอน 23.00 น. ส่งกันเข้านอนด้วย 1 ประโยค วอร์ : ผมให้คำเดียวเลย เห้อ… หยิ่น : ผมอาจจะไม่มี เพราะผมน่าจะหลับตั้งแต่ 3 ทุ่มแล้วส่งท้ายความฟินให้ค่ำคืนนี้กับโมเมนต์สุดพิเศษด้วยการให้ “หยิ่น - วอร์” โทรกลับและได้พูดคุยกับแฟน ๆ แบบ Exclusive สุดท้ายนี้… รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “หยิ่น - วอร์” ที่มาเติมเต็มค่ำคืนนี้ให้ความสนุกเต็มพิกัด พร้อมเสน่ห์ความตลกของทั้งคู่ที่หลายคนต้องหลงรัก และขอฝากผลงานเพลงล่าสุด ‘รักทุกตอน’ สามารถรับฟังและรับชม Music Video ได้ทาง YouTube : ARGENTIS RECORDS แวะมาขอเพลงนี้กันได้ที่ EFM94 ด้วยน้าา และอย่าลืมติดตามผลงานอื่น ๆ ของทั้งคู่กันด้วยนะคะสามารถเข้าไปรับชมความแปลก เติมความสนุกกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

ต้อนรับการกลับมา EFM FANDOM LIVE ครั้งที่ 2 ของ “อิงฟ้า - ชาล็อต” พร้อมเม้าท์มอยถึงซีรีส์ “หยดฝนกลิ่นสนิม” กับคาแรคเตอร์ “สารวัตรตุลย์ - หมอรัน”

05 ก.พ. 2025

ต้อนรับการกลับมา EFM FANDOM LIVE ครั้งที่ 2 ของ “อิงฟ้า - ชาล็อต” พร้อมเม้าท์มอยถึงซีรีส์ “หยดฝนกลิ่นสนิม” กับคาแรคเตอร์ “สารวัตรตุลย์ - หมอรัน”

รายการEFM FANDOM LIVE[30 มกราคม 68] คืนนี้ต้อนรับ “อิงฟ้า - ชาล็อต”จากซีรีส์ “หยดฝนกลิ่นสนิม (Petrichor The Series)” พร้อมพูดคุยเม้าท์มอยกับ 2 ดีเจสุดสวย “ดีเจดาว”และ“ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ๆดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS”ที่ถูกเลือกมาจากแฟนๆ ส่งความในใจที่อยากจะบอกศิลปินเข้ามาจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... อิงล็อต จะถูกค้นพบด้วย ‘รัก’ ของเราเสมอ หลายครั้งที่มือเราเกือบจะหลุดกันไป แต่ตราบใดที่รักยังอยู่ เราจะคว้ากันทันเสมอ มีหลายเรื่องราวที่เราผ่านด้วยกันมาทั้งร้ายและดี อยากขอบคุณทั้งคู่ที่ทำให้เข้าใจคำว่า รัก มากขึ้น ขอบคุณที่พามิตรภาพดีๆสังคมดีๆมาเจอกันเพราะมีอิงล็อตเป็นหัวใจของบ้าน เชื่อเสมอว่าทุกอย่างมีเวลาของมันเสมอ ไม่รู้ว่าเราจะหมดอายุรักหรือหมดอายุขัยก่อนกัน แต่ตราบใดที่ยังมีแรงพูดคำว่ารัก อิงล็อต จะยังเป็นเจ้าของคำนั้นอยู่เสมอ Letter #1: This letter is titled... Through our affection, we will always uncover the beauty of Englot. Our hands may have almost faltered at times, but as long as love remains, we will always find a way to hold onto one another. We've shared countless experiences together, both joyful and challenging. I want to express my heartfelt gratitude to both of you for deepening my understanding of love. Thank you for fostering wonderful friendships and a strong sense of community, as Englot truly is the heart of our home. Let's always remember that everything happens in its own time. While I don't know what the future holds for our love or what lies ahead for us, as long as we have the strength to say the word love, Englot will continue to reflect its beautiful essence.จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... ขอบคุณหยดฝนที่ทำให้ค้นพบอิงล็อต ตอนแรกไม่เคยคิดเลยว่าจะมาชอบ อิงฟ้า กับ ชาล็อต ได้ คือเห็นผ่านตามานานแต่ก็ยังไม่ได้อะไร จนได้มาดูซีรีส์หยดฝนกลิ่นสนิม ที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชอบอิงล็อตมากๆ เริ่มจากการชอบการแสดง ไปๆมาๆก็หาดูซีรีส์เรื่องเก่าๆที่เคยเล่นด้วยกัน สัมภาษณ์ต่างๆ แล้วก็โดนตกจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว มันอาจจะเป็นเรื่องจังหวะและเวลาจริงๆ เสียดายที่มารู้จักช้าไปหน่อย แต่ก็ดีใจนะที่อย่างน้อยได้ค้นพบอิงล็อต จะตามซัพพอร์ตไปเรื่อยๆนะคะLetter #2: This letter is titled... Thanks a bunch, Petrichor The Series, for introducing us to Englot. Initially, I didn't think I would be a fan of Engfa and Charlotte. I had seen them around for quite some time, but they didn't catch my attention until I watched 'Petrichor The Series.' That was the moment I truly began to appreciate Englot. It started with their fantastic performances. I found myself searching for older shows they had appeared in together, along with interviews and other content, and I was so captivated that I could hardly look away. Perhaps it was just a matter of timing, and although I discovered them a little later than I would have liked, I’m genuinely thankful to have found Englot. I’m excited to continue cheering them on!จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสาม (POWER OF ENGLOT) อิงล็อต คำนิยามของมวลความสุขที่เกิดขึ้นกับเราเสมอ เวลาเกือบ 3 ปีที่ติดตามทั้งคู่ถูกรายล้อมไปด้วยความรักและความเข้าใจ ดีใจมากๆที่ได้มารู้จักกัน จนทำให้เป็นที่มาของสมการความรักของด้อมคือ 1+1 = 3 สิ่งที่อยากจะบอกกับทั้งคู่มากที่สุดก็คงจะขอให้เค้าทั้งสองคนรักษาสุขภาพ เพราะทำงานกันหนักมาก พยายามหาความสุขรอบตัวง่ายๆ และยิ้มให้กับตัวเองเสมอ ท้ายที่สุดก็อยากบอกว่ารักและจะซัพพอร์ตให้เต็มที่เท่าที่จะทำได้Letter #3: This letter is titled... One Plus One Equals Three. (POWER OF ENGLOT) Englot truly embodies the essence of happiness for all of us. Over nearly three years of following this lovely couple, I've been enveloped in a world of love and understanding. It brings me immense joy to know them. Their relationship is the heart of our fandom's love story, symbolized by the beautiful equation 1+1=3. What I wish to express most to them is a gentle reminder to take care of their health, as they put in so much effort. They have a wonderful way of seeking happiness in their surroundings and always manage to smile at themselves. Ultimately, I just want to say how much I love them and that I will always be here to support them in any way I can.จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... กาลเวลาของอิงล็อต เดินทางมาด้วยกันสามปีแล้วนะ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ตรงนี้ไม่เสียใจเลยที่ได้มารักกัน เราผ่านสุขและทุกข์มาด้วยกันมากมายเลยเนอะ ดีใจที่พวกเรายังคว้ากันทัน ขอบคุณที่เลือกปรับเข้าหากันเสมอ ต่อให้ถึงวันนึงที่หมดสัญญาและต้องแยกย้ายกันไป พวกแกจะเป็น อิงล็อต ที่ไม่มีวันหมดสัญญาสำหรับเราอยู่ดีLetter #4: This letter is titled... The Era of Englot. It’s hard to believe we’ve been together for three years! I truly cherish the love we’ve built during this time. We’ve shared so many joyful moments and overcome challenges side by side, and I’m really thankful that we’ve always found a way to support each other. Even if the time comes when our paths need to part, you will always hold a special place in my heart, and our bond will remain unbreakable.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... พี่กุหลาบขาวกับน้องทานตะวัน รู้ใช่มั้ยว่ารักมาก... เราทุกคนอยากเห็นแกมีความสุขนะ ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ อยากทำอะไรก็ทำ อยากเดินทางไหนก็เดินกันได้เลยนะ เพราะเราจะอยู่กับแกเสมอ พร้อมซัพพอร์ตทุกการเติบโต :-)ขอบคุณนะอิงล็อต ขอบคุณที่เกิดมาเจอกัน เป็นสีขาวดำกับสีรุ้งในชีวิตกันและกัน มาแต่งเติมสีสันให้มันพิเศษขอบคุณที่สร้างบ้านหลังใหญ่นี้ขึ้นมา บ้านที่มีผู้คนจากทั่วโลก และขอบคุณที่เปลี่ยนจาก house กลายเป็นhomeLetter #5: This letter is titled... White rose and sunflower I want you to know just how deeply I care about you. We all wish for your happiness and for you to live life on your own terms, pursuing your desires and exploring the world freely, knowing we’ll always be here to support you every step of the way. Thank you, Englot, for coming into my life and being the vibrant mix of black, white, and rainbow hues that makes our journey so beautiful. I’m grateful for the wonderful home you’ve created, bringing together people from around the globe and transforming a house into a warm, welcoming home.ถึงเวลาที่แฟน ๆ ชาวด้อมรอคอยกันแล้วว~~เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVEเราจะมาพูดคุยกับ “อิงฟ้า - ชาล็อต” กัน2 ปีที่ผ่านมากับการเติบโตของ “อิงล็อต” อิงฟ้า : ที่ทำให้เห็นได้ชัดเลย โตขึ้น การทำงานที่เก่งขึ้น ชัดๆ เลยที่เราร่วมงานกันล่าสุดคือซีรีส์ หยดฝนกลิ่นสนิม เห็นได้ชัดเลยว่าน้องมีพัฒนาการที่ดีขึ้นค่ะ ชาล็อต : รู้สึกว่าพี่ฟ้าได้ทำหลากหลายอย่างมากขึ้นภายในสองปี ซึ่งสำหรับหนูเป็นระยะเวลาที่สั้นมาก แต่ด้วยความสามารถเขาด้วย แล้วก็โอกาสต่างๆ สิ่งที่เขาได้รับมาคือทำดีตลอดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเดินแบบ เล่นเอ็มวี ร้องเพลง โฆษณาถึงในซีรีส์จะไม่ชอบฝน แต่ชีวิตจริง “อิงล็อต” ชอบมาก อิงฟ้า : ชอบค่ะ ชอบมาก หนูเหมือนกบเลยเวลาฝนตก ชอบที่รู้สึกเย็น และในความเหงานั้นมันก็มีความโรแมนติกอยู่ ชาล็อต : ถ้าไม่ต้องทำงานก็ชอบฝน ไม่ชอบแดด แล้วแต่อารมณ์ แต่ว่าส่วนตัวชอบฝนตกตอนกลางคืนเวลานอนอะไร ถ้าวันไหนฝนไม่ตกก็จะเปิดในแอปพลิเคชั่น Youtube เพื่อกล่อมให้หลับความท้าทายในคาแรคเตอร์ของ “สารวัตรตุลย์” กับ “หมอรัน” อิงฟ้า : ท้าทายทุกอย่างค่ะ เราเป็นนางงามเนอะ ในเรื่องนี้ต้องเป็นอาชีพที่เป็นทางการด้วย วิชาการด้วย มันพลาดได้ยากมากเพราะว่ามันละเอียดอ่อน เรื่องนี้มีแฟนซีรีส์ แฟนนิยายก็เยอะ ความกดดันต่างๆ เห็นได้ว่าเรื่องนี้เราถ่ายกันฟุ้งน้อยมาก มันจะเน้นความเรียลมากๆ จริงๆ สังเกตจากเมคอัพ จากผมหรือการแต่งกาย ต้องเป๊ะไปตามวิชาชีพจริงๆ ซึ่งความเป็นตำรวจ เป็นหมอ ก็ถือว่ายากอยู่ค่ะ ชาล็อต : สำหรับหนูพอดูเรื่องนี้จบ หนูเข้าคลินิกเลย ทำทรีทเมนหน้า มันเรียลมากเลย เห็นทุกกระ ทุกรูขุมขนของหนู สิวทุกเม็ดหรือแบบอันไหนยังไม่โผล่คือก็เห็นเลย โทรบอกคุณหมอ detox หน้าให้หน่อย แล้วมันต้องเล่นยังไงก็ได้ให้เป็นคุณหมอจริงๆ จากที่เราไม่ได้มีความรู้ด้านหมอเลย ก็ต้องไปเจอแบบเลือด เจอร่างกายต่างๆ ที่เราไม่ได้เห็นทุกวัน แล้วก็กลัวด้วย แต่ต้องก้าวข้ามความกลัวให้ได้ครั้งแรกกับการเจออาจารย์ใหญ่ของจริง! อิงฟ้า : ได้ไปเจออาจารย์ใหญ่ แต่ว่าเขาถามก่อนว่าอยากจะไปดูไหม? ถามความสมัครใจก่อน เราก็ตอบว่าไป ชาล็อต : ตอนแรกหนูก็บอกว่าไม่เอา ไม่ไป เขาเลยบอกว่าให้ไปดูหมอ ดูวิธีการทำงานของคุณหมอว่าเขาทำยังไงในห้องนั้น เวลาเราเข้าซีน เราจะได้เข้าใจ อิงฟ้า : เราก็เข้าไปด้วยกัน เพราะในเรื่องตำรวจกับแพทย์นิติเวชต้องทำงานคู่กันอยู่แล้ว แต่ว่าตอนที่เราตอบว่าตกลง เราก็คิดก่อนว่าโอกาสที่คนธรรมดาอย่างเราจะไปอยู่ในห้องนั้นอ่ะ มันยาก เรามีโอกาสที่จะไปยืนตรงนั้นแล้วก็เอาสักหน่อย สักตั้งหนึ่ง เอาที่เราไหว ก็คือดูกันจนจบ ก็มีกลัวบ้าง แพนิคบ้าง เป็นอาทิตย์กว่าหนูจะเอาภาพ เอากลิ่นออกไปได้ มันก็ทำให้เราปลงในการใช้ชีวิตมากขึ้นสุดฟิน~ ฉากเลิฟซีนที่ทั้งคู่อิมโพรไวซ์เอง... อิงฟ้า : คือผู้กำกับอยากให้เราเล่นเป็นฟิลเรา อยากรู้เราเล่นจะออกมาฟิลไหน เพราะ 3 เรื่องที่ผ่านมาไม่ได้เล่นกันขนาดนี้ ด้วยเรื่องนี้เลิฟซีนน้อยมาก ส่วนมากมันจะเป็นบู๊ เป็นไขคดี พอมันแวะมาเป็นฉากเลิฟซีนก็ต้องเอาให้อยู่ เราก็เลยลองเล่นตามที่เขาอยากให้เล่น ก็เหมือนฟรีเลย แต่ก็มีการขออนุญาตกันก่อน ชาล็อต: ตอนนั้นเหมือนมันไหลไปตามอารมณ์ตัวละครด้วย คิดในใจก็คือเอาที่เดียวเต็มที่ให้มันผ่าน ให้มันดี ก็เลยปล่อยตามฟิลไปเลยใกล้เดินทางสู่ตอนจบแล้ว ขอสปอยนิดนึง! ชาล็อต : หนูว่าเรื่องนี้อะ เราได้ดูใน EP10 นิดนึงละ หนูรู้สึกว่ามันยังคงมีให้ลุ้นต่อ ถึงมันเป็นตอนจบก็ตาม ยังลุ้นว่าสรุปแล้วฆาตกรจะยังไง แล้วตัวละครหลักจะยังไง คือมันไม่ได้จบแบบโอเค สบายใจแล้ว มันยังมีให้ลุ้นอยู่ทุกช็อตแม้กระทั้งตอนเกือบสุดท้ายว่ายังไงต่อ อิงฟ้า : เรื่องของความฟินก็อาจจะมี แต่ว่าจะเป็นเลเวลไหนต้องไปรอลุ้นดู แต่ว่ายังคงมีเซอร์ไพรส์อยู่ใน EP10 อาจจะมีคนตายเพิ่ม อาจจะมีการหักมุมหรืออะไร ก็ต้องไปรอลุ้นในวินาทีสุดท้ายใน EP10นอกจากมาพูดคุย เม้าท์มอยกันแล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVEก็มีเกมมาให้ “อิงฟ้า - ชาล็อต” เล่นกันด้วย ชื่อเกมว่า “หยดฝน กลิ่นความรัก”แล้วมาดูกันว่าทั้งคู่จะรู้ใจกันมากขนาดไหน? (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเสิร์ฟความฟินกันแบบจุกๆให้ “อิงฟ้า - ชาล็อต” ได้โทรหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “อิงฟ้า - ชาล็อต” มากๆเลยน้า ที่มาร่วมพูดคุย สร้างสีสัน ความน่ารัก ความสุขให้กับแฟนๆ และฝากซีรีส์ “หยดฝนกลิ่นสนิม (Petrichor The Series)” ทางช่อง one31 เวลา 21.15 น. และสามารถรับชมย้อนหลังแบบ Uncut ได้ทาง iQIYI เท่านั้นสามารถเข้าไปรับชมความฟินความสนุกกันได้ทางSee you next week nakaa : )

ไม่ใช่ยาเม็ด ไม่ใช่ยาน้ำ แต่เป็นยาใจ 2 หนุ่มสุดฮอต “มาร์ค - โอม” จากซีรีส์แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ มาเสิร์ฟความฟินใน EFM FANDOM LIVE

19 พ.ค. 2025

ไม่ใช่ยาเม็ด ไม่ใช่ยาน้ำ แต่เป็นยาใจ 2 หนุ่มสุดฮอต “มาร์ค - โอม” จากซีรีส์แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ มาเสิร์ฟความฟินใน EFM FANDOM LIVE

รายการ EFM FANDOM LIVE [24 เมษายน 68] คืนนี้ต้อนรับ “มาร์ค - โอม” จากซีรีส์ แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ Sweet Tooth, Good Dentist พร้อมพูดคุยเม้าท์มอยกับ 2 ดีเจสุดฮอต “ดีเจโซเซฟ” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ๆดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS"ที่ถูกเลือกมาจากแฟนๆ ส่งความในใจที่อยากจะบอกศิลปินเข้ามาจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... ไม่ใช่ยาเม็ด ไม่ใช่ยาน้ำ แต่เป็นยาใจ การค้นพบ MarkOhm คือเรื่องราวดีๆในชีวิต “MarkOhm เหมือนยาวิเศษ”รู้ตัวอีกที MarkOhm ก็เป็นเหตุผลหลักของความสุขไปแล้ว “เธอทำให้ฉันยิ้มได้”ในวันที่เหนื่อยล้า ต้องการฮีลใจ แค่ได้ดูคอนเทนต์ ทั้งคู่ก็เหมือนได้บูสความสุขขึ้นมาใหม่ “MarkOhm คือคนที่รักษาใจฉันดีที่สุดเลย” ขอบคุณทั้งคู่ที่ตั้งใจกับทุกๆอย่างที่ทำ อยากบอกว่าเห็นเสมอและจะคอย support อยู่ข้างหลัง มองดูทั้งคู่ค่อยๆเติบโตและเดินเคียงข้างกันบนเส้นทางนี้นะLetter #1: This letter is titled... Neither a pill nor a liquid remedy, but a potion for the soul. Discovering MarkOhm has been a wonderful journey in my life. "MarkOhm feels like a magic remedy." Before I knew it, you became a huge source of my joy. "You bring smile to my face" On a day when I was feeling drained and needed some emotional recovery, just watching your content lifted my spirits. "MarkOhm truly has a unique way of mending my heart." I'm grateful to both of you for pouring your hearts into everything you create. I want you to know that I notice all your efforts and will always be here to support you. I’m excited to see you grow, and I look forward to walking alongside you on this journey.จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า...ตะล๊อกต๊อกแต๊กมาทำไม มาทำไม ก็มาบอกความในใจถึงคุณไง อยากบอก พี่มาร์ค กับ พี่โอม ว่าเก่งมาก ขอบคุณที่มารับบทเป็นหมอเจย์ น้องซองต์ที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ เป็นซีรีส์ฟีลกู๊ดที่ชอบมากเลย ตั้งตารอตั้งแต่เปิดกล้องจนตอนนี้ได้ออนแล้ว ภูมิใจในตัวพวกพี่มาก ๆ เลย หวังว่าซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้พวกพี่ได้รับความรักเพิ่มขึ้นไปอีก วันศุกร์มันสดใสอยู่แล้วที่จะได้พักผ่อน แต่พวกพี่สามารถทำให้มันสดใสขึ้นได้ไปอีก ขอบคุณที่มาช่วยเติมพลังให้กับชีวิต เป็นเหมือนยาวิเศษจริง ๆ รักนะคะLetter #2: This letter is titled...What's brought me here? I’m here to share my feelings with you. I just want to say to P'Mark and P'Ohm that you both areamazing. Thank you for stepping into the roles of Dr. Jay and N' Sant—you’re truly the perfect fit. This series brings me so much joy, and I've been eagerly waiting for it since filming began, right up until it started airing. I’m so proud of both of you. I really hope this series brings you even more love and appreciation. Fridays were already lovely for some downtime, but you both make them even more special. Thanks for bringing such positivity into my life; it feels like a miracle. Much love to you both!จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... จดหมายที่แฟน(คลับ)ส่วนใหญ่แนะนำ ตั้งแต่วันเปิดตัวว่า มาร์ค - โอม จะได้เป็นพาร์ทเนอร์กัน เราดีใจมาก นี่มันคู่ที่สมน้ำสมเนื้อที่สุด เคมีที่เข้ากันขนาดนี้ ใครจะเอามาร์คอยู่เท่าน้องโอม และใครจะปราบเด็กดื้อแบบน้องโอมได้เท่ามาร์ค ดีใจที่ได้ซัพพอร์ตทั้งสองคน เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ รอดูความสำเร็จอยู่เสมอ หวังว่า จดหมายที่แฟน(คลับ)ส่วนใหญ่แนะนำ ฉบับนี้จะสร้างรอยยิ้มให้กับมาร์คโอม เหมือนกับ “แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ” คอยสร้างรอยยิ้มให้กับเรานะLetter #3: This letter is titled...Letters that are highly suggested by the majority of fans (club). From the moment it was revealed that Mark and Ohm would become partners, our excitement has been undeniable. They truly complement each other perfectly. With their exceptional chemistry, who else can manage Mark better than Ohm? And who can handle the stubbornness of Ohm quite like Mark can? We’re excited to cheer for both of them and can’t wait to see what they achieve. I hope this letter, which comes highly recommended by many fans, will make Mark Ohm smile, just as the 'fans endorsed by most dentists' never fail to brighten our day.จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... จากฉันคนนี้ ถึง พวกเธอคนโปรด จากวันแรกถึงวันนี้ จากที่เห็นเธอยืนอยู่มุมๆบนเวที จนวันนี้มายืนตรงกลางให้เห็นชัดๆแล้ว ภูมิใจและดีใจมากที่ได้อยู่เห็นทุกความสำเร็จ ได้เห็นมาร์คและโอมในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด เป็นเวอร์ชั่นที่เติบโตอย่างมั่นคงทั้งกายและใจ เก่งมาก ขอให้เชื่อมั่นในตัวเองเหมือนที่ฉันเชื่อมั่นในพวกเธอเสมอ ดีใจที่ได้รู้จักกันนะ ขอบคุณที่ทำให้ประโยคที่ว่า 'รักเธอไม่เคยเสียใจเลยสักวัน' มันไม่เคยเกินจริงเลยเมื่อได้รู้จักมาร์คโอมLetter #4: This letter is titled... From me to those who mean the most to me. From the very beginning until now, watching you go from standing on the corner of the stage to today standing in the middle and clearly visible. I've witnessed all your successes and seen Mark and Ohm become the best versions of themselves, both physically and mentally. You all have such incredible talent. Always believe in yourselves, just as I believe in you both. It's been a pleasure getting to know you. Thank you for making the phrase 'I love you and have never been sad even once' feel completely true since I met Mark and Ohm.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... แด่มาร์คโอม คนที่ฉันอยากจะปกป้องและดูแลให้ดี นี่คือความรู้สึกภายในใจที่ไม่เคยได้บอกพวกเธอไป ทุกครั้งที่พวกเธอขอบคุณแฟนคลับ อยากจะบอกว่าความอบอุ่นที่ได้รับจากพวกเธอ รอยยิ้มของพวกเธอ มันสามารถแทนคำขอบคุณทั้งหมดที่มีให้กันได้แล้ว ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณที่เธออยู่ในจุดที่ฉันสามารถมองเห็นได้อยู่เสมอ โลกของฉันมันดีกว่าเดิมเพราะการมีอยู่ของพวกเธอจริงๆ ฉันจะปกป้องพร้อมดูแลคนที่ฉันรักอย่างสุดความสามารถ ดังนั้นเป็นตัวเองที่มีความสุขในทุกวันได้เลยนะLetter #5: This letter is titled... For Mark Ohm, the one I want to look after and keep safe. I’ve never shared these emotions with you before. Whenever you express your appreciation to your fans, I feel like I want to convey that the kindness and smiles I get from you mean more to me than any thanks I could give. Honestly, I should be the one expressing my gratitude for your constant support. I really appreciate that you're always around for me to notice. You truly make my life brighter just by being in it. I promise to cherish and look after those I love as best as I can, so just be yourself and find joy each day.ถึงเวลาที่แฟน ๆ ชาวด้อมรอคอยกันแล้วว~~เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVE เราจะมาพูดคุยกับ “มาร์ค - โอม” กันจะเกิดอะไรขึ้นถ้า มาร์ค - โอม - ปูน - บุ๊ค - จูเนียร์ - เต ตะวัน อยู่ด้วยกัน! มาร์ค : มันก็จะเป็น สิ่งที่มีแต่ผู้พูด ไม่มีพูดฟัง และผมเชื่อว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ผมก็จะเป็นคนฟัง แล้วจะพยายามหาช่องแทรกเรื่อยๆ โอม : พี่เต พี่จูเนียร์ จะเป็นตัวนำ มาร์ค : และปูนจะเป็นคนที่ออนตลอดเวลา คือจะพูดไปเรื่อยๆ ไม่หยุด โอม : เกี่ยวไม่เกี่ยวไม่รู้ แต่พูดไปก่อน ส่วนผมจะเป็นตัวเสริม ใครเริ่มชนะ ผมจะอยู่กับคนนั้นที่ 1 ของการเมาท์แฟ่ด! มาร์ค : ถ้ามีแค่ในแก๊งนั้น ผมว่าเป็นปูด ปูนคือคำนิยามง่ายๆ ของคำว่าพูดจนลิงหลับได้ โอม : ผมว่าพี่เต พี่เตเขาพูดไปเรื่อย แต่พี่ปูนเขาพูดไม่รู้เรื่อง มาร์ค : เขาพูดไปเรื่อยจริงๆ เขาเหมือนใช้ชีวิตแบบการ์ตูนหน่อยๆ รีแอคก็จะเป็นการ์ตูน โอม : เหมือนสั่งคัดเขาจะยังอยู่ในเรื่องอยู่ ทุกการกระทำของเขามันจะดูเป็นการ์ตูนไปหมด แม้กระทั้งตอนที่เราถ่ายซีรีส์ด้วยกัน เขาเป็นคนที่คุยกับไก่ คุยกับสุนัข คุยกับตัวเอง คุยไปเรื่อยดีเจมือใหม่ กับการส่งเข้าเพลง Mr.Romantic แบบใหม่ มาร์ค : บทเพลงต่อไป เป็นหนึ่งเพลงที่ ผมคิดว่ามันดีต่อใครหลายๆ คน สำหรับคนที่มีคนรัก ไม่ว่าจะเป็นแฟน พี่น้อง คุณพ่อคุณแม่ พี่ป้าน้าอา หรือใครก็ได้ที่คุณรู้สึกว่า คุณรักเขา แล้วเขาก็รักคุณ แล้วเพลงนี้เป็นตัวแทนของคนที่คลั่งรักคนๆ หนึ่งมากๆ เพลงนี้มีชื่อว่า Mr.Romantic อยากให้ทุกคนลองเปิดใจฟังดูนะครับ โอม : อย่างที่พี่มาร์คบอก เพลงนี้มันสำหรับคนที่มีความรักให้กันแบบ full feel เพลงนี้มันเป็นเพลงที่ดี ถึงนักร้องจะไม่ดีมาก แต่ผมอยากให้ทุกคนติดตาม เป็นซิงเกิ้ลแรกของนักร้องคนนี้ เป็นนักร้องหน้าใหม่ ไฟแรง ซึ่งจะเป็นยังไง อยากให้ทุคนลองไปฟังกันดูครับสปอย ซีรีส์ Sweet Tooth ,Good Dentist EP ต่อไปแบบกรุบกริบ… มาร์ค : สปอยตามตัวอย่างที่ปล่อยไปละกัน คือจะมีตัวละครใหม่เข้ามาชื่อว่า กัปตัน เล่นโดยพี่หมอจิมมี่ ตัวละครนี้จะเป็นตัวที่เข้ามาขับเคลื่อนทุกความสัมพันธ์เลย ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของเจกับซองต์ และจะเข้ามาแข่งกันจีบซองต์ เส้นเรื่องที่เป็นตัวละครเจ ก็จะบอกอะไรมากขึ้นจากตัวกัปตันด้วย โอม : ใช่ เหมือนตัวละครกัปตันเข้ามา เป็นไดนาไมท์ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของตัวละครขับเคลื่อนเร็วขึ้น ทั้งตัวเจซองต์ ทั้งกัปตันมาร์ค กับ หมอเจ ความขี้หึงที่แตกต่าง มาร์ค : คือถ้าเจหึง มันดูชัดว่าหึง คือเจจะตามไปทุกที่ แต่ตัวผม ไม่ ผมจะปล่อย เพราะผมรู้สึกว่าอาการหึง มันคือความเชื่อใจ หมายความว่าไม่ต้องให้เราไปกีดกันหรือตามไปทุกที่ ทุกสิ่งเขาทำ ถ้าเขาทำให้เราสบายใจ เชื่อใจ ถ้าเขาซื่อสัตย์กับเรา ฉะนั้นเราไม่ต้องไปตามหึงอะไรเลย แต่ถ้าเขาจะไม่ซื่อสัตย์ ถ้าเขาจะทำอะไรลับหลังเรา ต่อให้มี 108 วิธี ที่เราไปตามเขา ยังไงเขาก็จะหักหลังเราอยู่ดีจะหึง หรือ โดนหึง แต่ความสัมพันธ์ ต้องมีพื้นที่ให้กัน… โอม : ถ้า ณ ปัจจุบัน โอมคิดว่าโอมไม่ใช่คนขี้หึง แต่มันก็เคยมีช่วงที่ผ่านมา เราเป็นคนที่ขี้หึงมาก เราต้องอยากรู้ตลอดว่าเขาทำอะไรอยู่ เขาอยู่ที่ไหน ทำไมไม่บอกกันเลย พอมันโตมาเรื่อยๆ ผมรู้สึกว่า 1 เลย เหมือนที่พี่มาร์คบอก มันคือการให้เกียรติกัน แล้วอย่างที่ 2 มันคือการให้พื้นที่ซึ่งกันและกัน คนสองคนเรามาอยู่ด้วยกัน มันก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวให้กันอยู่Workshop กับการเตรียมตัวเป็นหมอเจ มาร์ค : จริงๆ ตอนที่ว้าวอย่างแรกเลยคือการสวมใส่อุปกรณ์ ตอนแรกผมเห็นอุปกรณ์ มีถุงมือ ที่คลุมผม มีแมส ผมก็หยิบใส่แบบปกติ แต่จริงๆ มันมีลำดับขั้นตอน ทั้งหยิบใส่แล้วก็ถอด ถุงมือต้องใส่เป็นสิ่งสุดท้าย ต้องใส่แมส ใส่ที่คลุมผมให้เสร็จ แล้วค่อยใส่ถุงมือ เพราะเราต้องรักษาความสะอาด ไม่ใช่เราใส่ถุงมือก่อนแล้วไปใส่แมส มาจับผมตัวเองมันไม่ได้ เวลาถอดก็ถอดถุงมือออกก่อนได้เลย โอม : ทุกครั้งก็จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อยู่หน้าเซตจริงๆ ค่อยกำกับว่าควรทำยังไงก่อน ถ้าผิดเขาจะให้ถ่ายใหม่หมดเลยถึง“ซองต์” จะสู้ชีวิต แต่ “โอม” คือลูกคุณที่แท้จริง โอม : จริงๆ ไม่ขนาดนั้น แต่เหมือนตัวละครซองต์ เป็นหัวหน้าครอบครัว แล้วก็เป็นคนที่คอยหาเงิน ทำงาน ทั้งดูแลยาย ดูแลหลาน เป็นเดอะแบก รวมถึงต้องดูแลชีวิตตัวเองด้วย ซึ่งโอมในชีวิตจริง โอมเป็นลูกคนเล็กมีพี่ชาย 2 คน แล้วมีพ่อแม่ ลูกคนเล็กพ่อแม่ก็จะตามใจ เวลาไปขออะไรพี่ชายก็จะให้ก่อน ซึ่งตรงนี้มันยากสำหรับโอม ที่เราไม่เข้าใจว่าการใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นมันเป็นยังไง ความรู้สึกที่มันต้องมีภาระมันเป็นยังไงความห่วงใยจากทันตแพทย์ ถึงแฟนๆ ทางบ้าน มาร์ค : ก็แปรงฟันให้ถูกวิธี มันจะมีคำหนึ่งที่หมอเจเคยพูดไว้ว่า ฟันเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ให้มาตั้งแต่กำเนิด คุณก็ควรดูแลรักษาให้ดีที่สุด บางคนคิดว่าเป็นอะไรนิดนึงก็ถอนทิ้งไปเลย มันไม่ใช่ จริงๆ เราควรรักษาให้ถึงที่สุด ที่เริ่มต้นง่ายๆ เลย คือการแปรงฝันให้ถูกวิธี ซึ่งจริงๆ ทุกวันนี้ผมก็ยังทำไม่ค่อยได้ มันเหมือนง่าย แต่มันยาก โอม : ก็ต้องไปพบหมอตามที่หมอนัด เหมือนโอมเคยไม่ไปตามที่หมอนัดแล้วก็ลืมไปเลย และมันก็มีซีนที่ต้องส่องกล้องไปที่ฟันจริงๆ แล้วพี่มาร์คก็บอกว่า “โอม มึงนี่หินปูเยอะเหมือนกันนะ”หมอไม่ดุ แต่ฟันผุ ไม่สนุกน้าา มาร์ค : ในฐานะนักแสดงที่ผมเล่นเป็นทันตแพทย์ ผมรู้สึกว่าการดูแลรักษาช่องปากตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ อาจก่อให้เกิดหลายๆ โรค วิธีง่ายๆ ในการดูแลตัวเองอยู่ที่บ้าน คือ การแปรงฟันให้ถูกวิธี ถ้าให้ดี คือแปรงทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร ผมรู้สึกว่านั้นเป็นสิ่งที่โอเคแล้ว หรือบ้วนน้ำยาบ้วนปากอะไรอย่างเงี้ย โอม : ใครกลัวหมอฟัน ก็แค่แปรงฟันให้สะอาด ดูแลเหงือกของเราให้ดี กินของหวานตอนดึกได้ แต่ต้องแปรงฝันก่อนนอนด้วยนอกจากมาพูดคุย เม้าท์มอยกันแล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVEก็มีเกมมาให้ “มาร์ค - โอม” เล่นกัน! ชื่อเกมว่า... จุดจุดจุด ที่ มาร์คโอม แนะนำ(เข้าไปชมได้ใน YouTube: ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเสิร์ฟความฟินกันแบบจุกๆให้ “มาร์ค - โอม” ได้โทรหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “มาร์ค - โอม” มากๆเลยน้า ที่มาร่วมพูดคุย สร้างสีสัน ความน่ารัก ความสุขให้กับแฟนๆ และฝากซีรีส์ แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ Sweet Tooth, Good Dentist ทุกวันศุกร์ เวลา 20:30 น. ทางช่อง GMM25 และดูออนไลน์ เวลา 21:30 น. บนแอป iQIYI และเว็บ iQ.com ที่เดียวเท่านั้น และฝากเพลง OST.ของซีรีส์จากทั้งสองหนุ่มด้วยน้าสามารถเข้าไปรับชมความฟิน ความสนุกกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

กลับมา EFM FANDOM LIVE ครั้งนี้ “บุ๋น – เปรม” ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะเขามีคอนเสิร์ตมาฝากทุกคน! พร้อมเล่าภารกิจเซอร์ไพร์สวันเกิดสุดฮา

17 ส.ค. 2023

กลับมา EFM FANDOM LIVE ครั้งนี้ “บุ๋น – เปรม” ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะเขามีคอนเสิร์ตมาฝากทุกคน! พร้อมเล่าภารกิจเซอร์ไพร์สวันเกิดสุดฮา

วันที่ 17 สิงหาคม 66 ที่ผ่านมาพบกับ EFM Fandom Live เปิดสตูดิโอต้อนรับความสนุกพร้อมกับเสียงหัวเราะกับสองหนุ่มสุดฮอต “บุ๋น-เปรม” ที่จะมา “จิ้นกันให้ YUPP!” บอกก่อนเลยว่างานนี้มีแต่เสียงหัวเราะมาที่ช่วงแรกของรายการก่อนที่จะไปพูดคุยกับ “บุ๋น-เปรม” มาพูดคุยกับตัวแทนแฟนคลับของทั้ง 2 หนุ่มถึงโปรเจกต์ที่ผ่านมาโปรเจกต์ที่แฟนๆทำให้ “บุ๋น” ตอนนี้มีอยู่ 2 โปรเจกต์ที่แฟนคลับทำให้บุ๋น โปรเจคแรกที่เพิ่งจะปิดรับพรีออเดอร์ไปคือ โปรเจกต์ปฏิทินปี 2024 อีกอันหนึ่งคืองานวันเกิดย้อนหลังของบุ๋น โดยปฏิทินที่เพิ่งปิดพรีออเดอร์ไปบอกได้เลยว่ามันจึ้งมาก ถ้าได้เห็นคือต้องเตรียมยาดม ยาหม่องเลย ตั้งแต่ที่เปิดวันแรก ใครที่สั่ง 400 ออเดอร์แรกจะมีแถมโฟโต้การ์ดให้ และสุดท้ายก็ถึง 400 ออเดอร์โดยที่ไม่ถึง 1 วัน ในส่วนของงานวันเกิดที่จัดย้อนหลังให้กับบุ๋น ก็คือวันที่ 16 สิงหาคม 66 ที่ผ่านมา ให้แฟนๆมากรอกทะเบียนย้อนหลัง มีแฟนคลับมาประมาณ 400 คน ทำให้ทุกกิจกรรมในงานที่เอ็นจอยกันมากทั้งแฟนคลับและศิลปิน ที่สำคัญเลยก็มีคุณแม่และพี่ชายของบุ๋นมาร่วมเซอร์ไพร์สวันเกิดด้วย แล้วก็รวมไปถึงเปรมที่มาอวยพรวันเกิดให้กับบุ๋นโปรเจกต์ที่แฟนๆทำให้ “เปรม” มีโปรเจกต์ครบรอบ 25 ปี เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 66 ที่ผ่านมา ก็ได้ไปบริจาคเลือดร่วมกับแฟนคลับที่สภากาชาดไทย ล่าสุกที่พึ่งผ่านไป วันที่ 8 เดือน 8 ครบรอบ 3 ปีของบ้าน “Prem Space official” ได้จัดโปรเจกต์ร่วมกันบริจาคของให้กับเด็กที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านพะเบี้ยว จังหวัดเชียงใหม่To… บุ๋น อยากฝากเรื่องสำคัญเลย อยากให้บุ๋นนอนเยอะๆพักผ่อนบ้าง เห็นบุ๋นทวิตบ่นเรื่องเพลียๆเลยอยากให้บุ๋นนอนเยอะๆTo… เปรม อยากให้ได้ทำอะไรในสิ่งที่อยากทำ จะคอยซัพพอร์ตเสมอมาในช่วงที่สองของรายการ ขอต้อนรับ 2 หนุ่มสุดฮอต “บุ๋น-เปรม” ที่บอกเลย มาถึงก็สวัสดีกันแบบหลากหลายภาษา ทั้งภาษาไทย , เกาหลี , จีน , ฝรั่งเศส , เวียดนาม และเมียนมาร์ กับแฟนๆอินเตอร์ 7 เดือนที่ผ่านมาจะเน้นไปที่แฟนมีตติ้ง ได้เจอแฟนคลับต่างประเทศ พอได้มีโอกาสก็เลยอยากจะไปเจอให้ครบ ที่ไปมาแล้วก็มีเกาหลี , ไทเป , ญี่ปุ่น , ฟิลิปปินส์ และอีกหลายประเทศ แต่ที่ได้ไปบ่อยสุดจะเป็นประเทศญี่ปุ่นพูดถึงน้องพิคโกโร่ (แมวของเปรม) บุ๋นบอกว่า “พิคโกโร่” นิสัยจะเหมือนกับเปรมเลย จะเป็นแบบเเมวอึนๆ ใครจะจับก็จับ ไม่หือ ไม่อือ ที่เขาบอกเลี้ยงสัตว์ออกมายังไงนิสัยก็จะเหมือนพ่อแม่อยู่แล้ว เเต่ก็น่ารักกก...งานวันเกิดบุ๋นที่โดนเซอร์ไพรส์แบบจัดหนักจัดเต็มเลย วันเกิดตรงกับตอนไปจัดแฟนมีตติ้งที่ญี่ปุ่น ตอนเเรกก็คิดว่าจะเซอร์ไพรส์เหมือนเดิมคือแกล้งป่วย พอใกล้ๆถึงวัน เขาก็บอกว่าป่วย ปวดท้อง พอตอนเช้าจะไปแฟนมีตติ้งต่อ เขาก็บอกปวดท้อง เราก็แบบเเปลกๆแล้ว เราก็เลยให้ยาเขา แล้วสงสัยก็เลยแอบมองผ่านเบาะว่าเขากินรึเปล่า ก็เห็นว่าเขาแกะยากิน เราก็โอเค อันนี้ยังไม่พีคนะ เขาก็บอกปวดท้องอีก ผมก็เลยให้ยาแก้ปวดท้องแบบเม็ดไป เปรมเขาก็แกะยากินแล้วก็กินน้ำตาม แต่เเอบยาไว้ข้างแก้ม เเล้วแกล้งเดินไปทิ้ง แถมยังมีอีกช็อตที่เปรมไปเข้าห้องน้ำเเล้วก็แกล้งทำเป็นอ้วก ผมก็มีคิดนิดนึงว่าหรือเขาป่วยจริง จนทีมงานมาคุยกันจริงจังว่าเปรมไม่ไหวต้องไปโรงพยาบาล แต่ผมคิดว่าการที่จะเอาเปรมออกไปต้องมีประกาศผมก็เลื่อนทวิตก็ไม่เห็นมี ก็แปลกๆละ พอตอนขึ้นเวทีก็มีกิจกรรมให้ทำแต่ของทุกอย่างก็อยู่ครบ พอขึ้นเวทีปุ๊บพิธีกรพูดประกาศว่าเปรมจะไม่ขึ้นเวทีนะ แต่ก็ยังมีตะหงิดอยู่นิดนึง จนเขาปล่อยให้ผมร้องเพลงอยู่คนเดียว แล้วประเด็นคือเพิ่งบอกให้ผมร้องเพลงคนเดียวก่อนขึ้นเวทีครึ่งชั่วโมง แล้วอยู่ๆ ก็มีกล่องของขวัญออกมา ผมก็คิดว่าคงเหมือนปีก่อนๆที่เปรมเขาจะอยู่ในกล่องพอไปเปิดดูก็มีเเต่ลูกโป่ง สุดท้ายเขาก็โผล่มาจากข้างหลังแฟนคลับ แต่มันมีอีกตอนหนึ่งที่แม่เปรมเข้ามา เปรมไหวไหมลูก ให้โทรหาพ่อไหม การแสดงแม่คือเป็นศูนย์มากความรู้สึกตอนรู้ว่าจะได้ขึ้นคอนเสิร์ต “จิ้นกันให้ YUPP!” ดีใจมาก ด้วยความที่เราไม่ค่อยมีโอกาสได้ร่วมงานกับคนที่แบบคนละสายกับเรา อย่างเราเป็นนักแสดงก็จะได้ร่วมงานกับนักแสดง แต่อันนี้เขาเป็นสายนักร้องโดยตรง ยินดีถ้าจะได้ร่วมงานกับเขา เเล้วยิ่งเป็นคอนเสิร์ตใหญ่รวมศิลปินเยอะมากๆ ตอนนี้ก็ 19 คน ประกาศแขกรับเชิญอีก 4 คน พยายามซ้อมให้เยอะที่สุด และไม่ได้อยากได้ความรน่ารัก อยาดได้ความแบบเซ็กซี่ว่าด้วยเรื่องการฮีลใจของบุ๋น จะเป็นการเติมเกมครับ เป็นความสุขของเราในช่วงหนึ่งที่เราเอาเงินซื้อความสุข บางทีไม่ได้มีฟีลที่อยากออกไปเจอใครเราก็อยากอยู่ในเกมกับตัวของเราการสตรีมเกมที่เปรมเคยพูดไว้ว่าจะมีสตรีมเกม จริงๆ ก็ไม่ใช่แค่ผมนะเเต่พี่บุ๋นก็เคยบอกไว้ ตั้ง 3 ปีเเล้วที่เคยบอกไว้ จนคอมของบุ๋นพังจนซื้อใหม่เเล้วก็ยังไม่ได้สตรีมบุ๋นเคยคิดอยากสตรีมเกมด้วย จริงๆ อยากทำเหมือนกัน แต่กลัวทำแล้วมันไม่ประจำเหมือนกัน กลัวคนสมัครมาดูช่องเราเเล้ว แล้วเราทำไม่ประจำเดี๋ยวจะเสียเงินฟรี เลยแบบเดี๋ยวรอก่อนดีกว่ารอทำ Vlog ดีกว่า**รูป**สกิลที่ “บุ๋น-เปรม” ไม่เคยฝึกมาก่อนหรือพึ่งมาค้นพบว่าจะต้องพัฒนา จริงๆ ก็แทบทุกอย่าง เพราะเราเป็นสายนักแสดง เราก็มีสกิลเฉพาะทางนี้ เเต่พอขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่มันต้องมีทั้ง ร้อง เต้น การแร็ป ก็คือฝึกทุกอย่างเลยกับพวกพี่ๆที่ร่วมงานกัน ด้วยความที่คนเยอะมากก็จะมีคิวที่จะจับมาเจอกันคู่ที่อยากเม้าท์เป็นพิเศษ ที่เจอบ่อยๆหน่อยก็จะเป็น คูเปอร์-ปอย แล้วก็ะเป็น เซฟ-จี บอส-อึล ที่จะเจอบ่อยๆก็น่ารักกันทุกคู่ มีความเป็นตัวเองในแบบของเขา เห็นเขาพยามเต้น พยายามทำในสิ่วที่ตัวเองไม่ถนัด ทุกคนตั้งใจมาก คอนเสิร์ตต้องออกมาดีมากพูดถึงเรื่องที่ “บุ๋น-เปรม” ไม่ค่อยเล่นไลน์ บุ๋น - ส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบอ่านไลน์ มันเด้งนะ ก็อ่านแต่ไม่อยากเปิดตอบ เพราะถ้าอ่านก็ต้องพิมพ์ต่ออีกแน่เพราะเราเป็นคนที่ตัดบทสนทนาไม่ค่อยถูก เราเลยตัดปัญหาโดยการไม่อ่านไลน์ โทรมาเเล้วก็แต่อารมณ์ที่จะรับไม่รับ เปรม - เราก็เป็นเเนวๆเดียวกัน มีอะไรก็คุยงานที่จำเป็นจริงๆก็จะผ่าน ARมารายการ EFM Fandom Live ของเราทั้งที ทางรายการก็มีเกมให้ “บุ๋น-เปรม” เล่นสนุกด้วย ชื่อเกมว่า “ร้อง YUPP! สนั่นห้อง” (เข้าไปชมใน Youtube : ATIME)ช่วงสุดท้ายของรายการเปิดโอกาสให้เเฟนคลับได้โทรเข้ามาพูดคุยกับ “บุ๋น-เปรม” ในรายการTo... บุ๋น อยากถามว่าเหนื่อยไหม ปากยิ้มเเต่ออกทางสาย ตาดูล้าๆ รู้ว่าพี่บุ๋นเป็นคนนอนยาก ก็เลยเป็นห่วงเป็นพิเศษ รู้ว่าพยายามเเค่ไหนให้คอนเสิร์ตครั้งนี้ดีที่สุด เพิ่งมาติดตามแต่พอไปดูผลงานแรกๆเราก็รู้เเล้วว่าคนๆนี้เขาพยายามทุกอย่าง มันทำให้สิ่งพวกนี้เราชอบเขา เเล้วมันทำให้เรายังอยู่ตรงเพื่อเขาเหมือนกันTo... เปรม อยากบอกว่าตั้งเเต่รู้จักเปรม วันเเรกที่รักยังวันนี้ก็ยังรักแบบนั้น ทุกครั้งที่ได้คุยกับเปรมก็ยังตื่นเต้นเหมือนครั้งเเรกที่ได้คุย คอยซัพพอร์ตเสมอ ไม่ว่าจะทำอะไรก็เเล้วเเต่อนาคตก็ยังจะอยู่ตรงนี้ จะคอยซัพพอร์ตทุกทาง ก่อนจะจบรายการ “บุ๋น-เปรม” ก็ขอฝากคอนเสิร์ต “จิ้นกันให้ YUPP!” ในวันที่ 2 กันยายน 66 ศิลปินคับคั่งมาก รวมถึงมีเพลงเยอะเเยะอีกมากมาย รวมถึงโชว์ ร้อง เต้น จัดเต็มเเน่นอน อยากให้ทุกคนมาสร้างความทรงจำด้วยกันสุดท้ายนี้ EFM Fandom Live ขอขอบคุณ “บุ๋น-เปรม” ที่มาพูดคุยกันในรายการ บอกเลยว่าสนุกมากๆมีแต่เสียงหัวเราะทั้งรายการสามารถเข้าไปรับชมกันได้ทาง Youtube : ATIMEเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

album

0
0.8
1