Food & Beverage

แลนมาร์คใหม่ ใจกลางบางแสนที่ Bangsaen Toshin

04 มิ.ย. 2024

ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น เพราะตอนนี้บางแสนเปิดศูนย์การค้าใหม่ที่รวมกลิ่นอายญี่ปุ่นไว้ที่นี้ ที่ Toshin Bangsaen มีบริการทั้งอาหารและเครื่องดื่ม สิ่งที่ถูกใจสายคอนเทนต์คือ ที่นี้มีมุมถ่ายมากมาย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่น และที่สำคัญ คือ เดินทางสะดวก ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น จากกรุงเทพฯ

Bangsaen Toshin ศูนย์การค้าเปิดใหม่สไตล์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ บางแสนสาย 4 เหนือ ตำบลแสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ใครที่ชอบบรรยากาศเหมือนได้ไปญี่ปุ่น คือต้องลองไปที่นี้เลย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร การตกแต่งร้าน หรือแม้แต่ถนน ทุกมุมจะได้รับกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นสุด ๆ

มุมนี้ก็จะเป็นมุมสุดฮิตของ Bangsaen Toshin ที่ใครมาเที่ยวก็ต้องแวะถ่ายรูป กับรถสีเหลือง และตู้กดน้ำแห่งนี้

อีกหนึ่งไฮไลท์ของ Bangsaen Toshin ด้านบนก็จะเป็น Densha Cafe คาเฟ่จำลองรถไฟ JR ในญี่ปุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนถ่ายรูปบนรถไฟที่ประเทศญี่ปุ่น

สำหรับช่วงวันหยุดนี้ ใครยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน แนะนำให้ลองมาเที่ยวกันที่ Toshin Bangsaen อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่น่าสนใจมากของบางแสน ใครที่จะไป อย่าลืมเตรียมกล้องถ่ายรูป และเม็มกล้องให้พร้อม บอกเลยว่ามาที่เดียวเหมือนอยู่ญี่ปุ่นแล้วสิบวัน เพราะคุณจะไปรูปสวยๆ กลับไปแน่นอน

เปิดเวลาบริการ : จันทร์ - อาทิตย์ 10.00 น. - 22.00 น.

related Food & Beverage

02 พ.ค. 2024

หน้าร้อนนี้ บูทเอนเนอร์จี้ด้วย “Juicy bunny”

ร้านน้ำปั่น “Juicy bunny” กระต่ายสีชมพู ตกแต่งสะดุดตา ตั้งอยู่ที่สยามสแควร์วัน สมูทตี้น้ำผลไม้แท้ 100% มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ใครที่กำลังเดินสยามแล้วต้องการ บูทเอนเนอร์จี้ ต้องมาที่ร้านน้ำปั่น “Juicy bunny” เมนูแนะนำ คือ Rose Melon มีส่วนผสมของแตงโม ลิ้นจี่ และน้ำกุหลาบ เมื่อดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น มีกลิ่นหอมของกุหลาบกับลิ้นจี่ ออนท็อปมาด้วย Boba หรือ ไข่มุก แต่เมื่อทานเข้าไป Boba จะแตกออก และมีน้ำลิ้นจี่อยู่ภายใน ทำให้ความหอมของลิ้นจี่เพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้ราคา 125 บาท ส่วนใครที่แพ้นมวัวก็สามารถดื่มได้ เพราะ Juicy bunny มีนมโอ๊ต เป็นทางเลือกใหม่สำหรับสายรักสุขภาพ พร้อมคุณประโยชน์ครบถ้วนจาก โอเมก้า 3 ,6 , ไฟเบอร์สูง , เบต้ากลูแคน, วิตตามิน A,B,D,E , น้ำตาล และไขมันต่ำ ผู้ที่ทานเจ วีแกน หรือมังสวิรัติก็สามารถดื่มได้เช่นกัน หน้าร้อนนี้ อย่าลืมมาบูสเอเนอจี้กับสมูทตี้ผลไม้ จะสายเปรี้ยวหวาน หรือสูตรนมนัว ก็สามารถบูสเอเนอจี้ได้ที่ร้าน “Juicy bunny” สยามสแควร์วัน เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00- 22.00น. หรือจะสั่งออนไลน์ก็สะดวกสามารถติดตามได้ที่เพจ : Juicybunnythhttps://www.facebook.com/p/Juicybunnyth-100092267199010/388 สยามสแควร์วัน ถนนพระราม1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน

03 ก.ค. 2024

รีเฟสความสดชื่นด้วยน้ำผลไม้ Oh Juice!

หากพูดถึงร้านน้ำผลไม้ปั่นที่เป็นกระแส ณ ตอนนี้ ATIME ขอพูดได้เลยว่าต้องเป็นร้าน Oh Juice!! ร้านสมูธตี้น้องใหม่ในเครือโอ้กระจู๋ ที่พึ่งมาเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัลลาดพร้าวเมื่อไม่นานมานี้ และเป็นร้านที่คนต่อคิวยาวเพื่อพิสูจน์ความอร่อยกันทุกวันเมนูของร้าน Oh Juice ไม่ได้มีแค่สมูธตี้ หรือผลไม้ปั่นเท่านั้น ยังไม่เมนูอื่นๆ อย่าง อาซาอิ อีกด้วย และเมนูซิเนเจอร์ของร้านหากใครมาแล้วต้องลอง คือ 5 เมนู ดังนี้OCEAN N EARTHANGEL’S SECRETKING GREEN MILEPASSIONATEACAI ANTIOXIDANT SUNRISE GINGERหากใครที่สั่งเมนูอื่นที่ไม่ใช่ ซิเนเจอร์ ทางร้าน Oh Juice จะมีขนาดให้เลือก 3 ขนาดด้วยกันได้แก่ GRAND CLASSIC PETITEวันนี้ ATIME ขอนำเสนอความอร่อยของร้าน Oh Juice ด้วยเมนู OCEAN N EARTH ราคา 270 บาท แนะนำว่าห้ามพลาด เพราะเมนูนี้นอกจากจะหน้าตาดี สีสวยแล้ว รสชาติอร่อยนัว เต็มไปด้วยกล้วย มะพร้าวและอโวคาโด้ ดูดแปปเดียวหมดแก้วแน่นอนมาต่อที่แก้วที่สองด้วยเมนู ACAI ANTIOXIDANT SUNRISE GINGER ราคา 270 บาท เป็นสมูธตี้ที่รวมผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เรียกได้ว่าเมนูเป็นเมนูของคนสวยคนหล่อก็ว่าได้ เพราะว่า เมนูนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง แถมอุดมไปด้วยวิตามินเอ แคลเซียม และไฟเบอร์ แถมที่ร้าน Oh Juice เขายังเคลมตัวเองว่าไม่ใส่น้ำตาลอีกด้วย เป็นรสชาติจากผลไม้แท้ๆ กันเลยใครอยากมีรีเฟรชความสดชื่น สามารถแวะมาได้ที่ ร้าน OH Juice สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 2

05 มิ.ย. 2024

เรียนรู้โลกใต้น้ำที่ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ม.บูรพา

สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา ตั้งอยู่บริเวรด้านหน้าของมหาลัยบูรพา ซึงเป็นสถานที่ท่องโลกทะเล และให้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทางทะเล โดยค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนละ 80 บาท ส่วนเด็กราคาคนละ 40 บาทเท่านั้น ซื้อเมื่อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปชมความอลังการของโลกใต้ทะเลกันได้เลยระหว่างทางเดินก็จะมีน้องนักศึกษาจากมหาลัยบูรพาที่ประจำอยู่ที่ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มาให้ความรู้วิทยาศาสตร์ทางทะเล หรือจะเดินอ่านตามป้ายเองเพลิน ๆ ก็ได้เช่นกันจุดไฮไลท์ของ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล อีกหนึ่งจุด คือ แมงกระพรุนพระจันทร์ (Moon Jellyfish) ใครที่เดินผ่านจะต้องแวะดูสีสันความสวยงาม และถ่ายรูปคู่กับน้องแมงกระพรุนกันไฮไลท์สำคัญของ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล คือ ตู้จัดแสดงปลาขนาดใหญ่ ที่รวบรวมเหล่ายักษ์ใหญ่ของปลาทะเลไทย มาให้เราได้ดูกันแบบใกล้ชิด มีทั้งปลาฉลาม ปลากระเบน ปลาทูน่า และปลาอื่น ๆ อีกมากมายเรียกได้ว่า สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ม.บูรพา แห่งนี้ คือ ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเลที่อลังการ อีกทั้งยังมีอีกหลากหลายมุมที่มีให้ชม ได้ดูความสวยงามของทะเล แถมยังได้ความรู้อีกด้วย ถือว่าคุ้มค่ากับค่าบัตรเพียงแค่ 80 บาท ส่วนใครยังไม่เคยได้ไป ต้องลองไปสักครั้งในชีวิต หรือจะพาน้อง ๆ หนู ๆ ไปเสริมทักษะการเรียนรู้โลกใต้ท้องทะเลก็ได้เช่นกันพิกัดสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ม.บูรพา : https://goo.gl/maps/aZwJqCeARNUhPu7W7เวลาให้บริการเวลา : 9.00-16.00 น.ค่าเข้าชม : เด็ก 40 บาท ผู้ใหญ่ 80 บาท คนต่างชาติ เด็ก 120 บาท ผู้ใหญ่ 220 บาท

12 มิ.ย. 2024

One day trip เที่ยว 5 วัดดัง ที่อยุธยา

ช่วงวัดหยุดนี้ ใครที่กำลังวางแผนเที่ยวใกล้กรุงเทพ แบบไปเช้า-เย็นกลับ Atime ขอพาทุกคนไปชมวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย พร้อมทั้งตามรอยละครดังกับ 5 วัด จังหวัด พระนครศรีอยุธยา จะมีวัดไหนกันบ้างไปดูกันวัดแรกของจังหวัดอยุธยาที่เราพามานั้น คือ วัดใหญ่ชัยมงคล ถือเป็นวัดที่มีสำคัญต่อประวัติศาสตร์ไทยอย่างมาก โดยจุดเด่นของวัดนี้ คือ สถาปัตยกรรมที่วิจิตร งดงามมาก ทั้งเจดีย์องค์ใหญ่ที่สูงที่สุดในอยุธยา อีกทั้งยังเป็นวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุด และโดยรอบเจดีย์จะเป็นสวนหย่อมให้เดินชม ถ้าใครได้ไปช่วงเย็น จะบอกว่า ที่นี่บรรยากาศดีมากพิกัด : https://goo.gl/maps/PdTxx23ZYHJ3g29o6เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.ค่าเข้าชม : คนไทยเข้าฟรี , ต่างชาติ 40 บาทมาต่อกันที่วัดที่ 2 กับ วัดพนัญเชิงวรวิหาร ใครที่ได้มาวัดนี้ ต้องห้ามพลาดที่จะมาสักการะ “หลวงพ่อโต” เพื่อความเป็นสิริรมงคล โดยหล่วงพ่อโต ถือเป็นพระพุทธรูปปางวมารชัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา มีสีทองอร่าม สวยงาม จึงทำให้มีผู้คนมากมาย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้ามากราบไหว้สักการะพิกัด : https://goo.gl/maps/BArmRHdvmvzToTb87เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.วัดที่ 3 ได้แก่ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ในอดีตนั้น วัดแห่งนี้เป็นวัดประจำวังหลวง จึงไม่พระภิษุจำพรรษาอยู่ เช่นเดียวกับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ วัดพระแก้ว จุดเด่นของวัดนี้ก็คือ เจดีย์ทรงลังกา 3 องค์ตั้งวางเรียงกัน งดงามด้วยโบราณสถาน พระพุทธรูปปูนปั้นเก่าแก่ ถึงจะทรุดโทรมแล้ว แต่ก็ยังดึงดูดให้ชวนมอง และยังคงร่องรอยของความใหญ่โตอลังการของสถาปัตยกรรมไว้ เดินชมไปก็ชวนให้นึกถึงว่า ถ้าเป็นในสมัยนั้นคงสวยงาม ๆ ส่วนใครไม่อยากเดิน ที่วัดเขามีบริการนั่งช้างชมวัดด้วยนะ บอกเลยว่าเป็นวัดที่ต้องมาให้ได้พิกัด : https://maps.app.goo.gl/mjbkPx9VTTVdEprP8?g_st=icเปิดให้เข้าชม : ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 น.–16.30 น.ค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท , ชาวต่างประเทศ 50 บาทมาต่อกันที่ วัดพุทไธศวรรย์ เป็นวัดที่สำคัญมาก ๆ ในสมัยอยุธยา ก่อตั้งขึ้นมานานถึง 600 กว่าปี โดยจุดเด่นของวัดนี้ คือ ปรางค์ประธานองค์ใหญ่ศิลปะแบบขอม และมีพระพุทธรูปรอบ ๆ ปรางประธานเรียงสวยงาม ผู้คนส่วนใหญ่นอกจากมากราบไหว้สักการะแล้ว ยังมีการสวมชุดไทยมาถ่ายรูปตามรอยละครดัง ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปอยู่สมัยกรุงศรีอธุยธยาพิกัด : https://goo.gl/maps/MctB4kUAywbtnQ8dAเปิดให้เข้าชม : ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.ปิดท้ายด้วยวัดที่ 5 กับวัดไชยวัฒนาราม ปัจจุบันวัดนี้เป็นเหมือนกับโบราณสถานที่เปิดให้มาชื่นชมความงาม และศึกษาประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยา ถึงแม้จะโรยราไปตามกาลเวลา แต่ยังคงสวยงามดึงดูดให้ชื่นชมหากใครที่เดินถ่ายรูปเล่น แล้วต้องการแวะพักเหนื่อย แนะนำที่คาเฟ่เรือนมยุรา ที่นี้เขามีไอศกรีมรูปทรงวัดไชยวัฒนาราม ที่ใครมาวัดนี้ก็ต้องมาแวะซื้อไปถ่ายรูปกันคนละแท่ง อีกทั้งยังรสชาติไอศครีมมีให้เลือกมากมายพิกัด : https://maps.app.goo.gl/w6N8odFVFg2KkEJq8?g_st=icเปิดให้เข้าชม : ทุกวัน เวลา 8.00 - 18.00 น.ค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท / ชาวต่างประเทศ 50 บาทเต็มอิ่มกับ 5 วัดดังที่จังพระนครศรีอยุธยา ได้ทั้งไปไหว้พระทำบุญ และยังได้ไปห่มสไบตามรอยละครดัง พร้อมทั้งได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทยในอดีต ใครวางแผนจะไปเที่ยวในวัดหยุด แบบไป เช้า-เย็นกลับ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็เป็นตัวเลือกที่ดีอับดับต้น ๆ เลย