ปักหมุด 6 คาเฟ่ธีมทะเลในกรุงเทพ แวะเช็คอิน ต้อนรับซัมเมอร์

Food & Beverage

ปักหมุด 6 คาเฟ่ธีมทะเลในกรุงเทพ แวะเช็คอิน ต้อนรับซัมเมอร์

04 เม.ย. 2023

ช่วงซัมเมอร์แบบนี้ สถานที่ที่คนนิยมไปกันคงจะหนีไม่พ้นทะเล แต่สำหรับคนที่ยังไม่สะดวกไปถึงทะเลจริง ๆ ก็อย่าให้ระยะทางมาเป็นอุปสรรค เพราะยังมีคาเฟ่เก๋ ๆ รอให้ทุกคนมานั่งชิล ถ่ายรูปเช็คอินอีกเพียบ วันนี้เราเลยจะมาชี้เป้า คาเฟ่ธีมทะเลในกรุงเทพ ให้ทุกคนแวะไปนั่งเล่นในบรรยากาศสบาย ๆ แวะแชะรูปสวย ๆ ให้เข้ากับหน้าร้อนแบบนี้กัน

รูปภาพจาก Facebook

เฌอริ คาเฟ่ che'rie cafe bkk

คาเฟ่ในกรุงเทพที่ตั้งอยู่ที่งามวงศ์วาน 51 บริเวณชั้น 2 ของ สยาม พาราไดซ์ เปิดบริการตั้งแต่ 11.00-21.00 น. (หยุดวันจันทร์) เป็นร้านที่มีทั้งของคาว และของหวาน เรียกว่านั่งกันได้ยาว ๆ ครบจบในร้านเดียวเลย ช่วงนี้ทางเฌอริตกแต่งร้านเป็นธีม under the sea มีเปลือกหอยขนาดใหญ่ให้ทุกคนถ่ายรูป นอกจากนั้นยังตกแต่งจานแต่ละเมนู ให้เข้ากับบรรยากาศของโลกใต้ท้องทะเลด้วย ถูกใจคนรักเมอร์เมดแน่นอน

รูปภาพจาก Facebook

Unbirthday Cafe

คาเฟ่ใจกลางเมือง ย่านสุขุมวิท 31 ที่บางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อกันมาบ้าง เพราะเขาเปลี่ยนธีมร้านไปเรื่อย ๆ ตามแต่ละเทศกาล ร้านซ่อนตัวอยู่ที่ชั้น 2 ของอพาร์ทเมนต์ มาเป็งเส็ง เปิดทุกวันตั้งแต่ 9.00-19.00 น. ล่าสุดตอนนี้จัดเป็นธีม Pastel Mermaid Dream นำเสนอบรรยากาศโทนสีพาสเทล พร้อมขนมและเครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเหล่านางเงือกและโลกใต้ท้องทะเล  นอกจากหน้าตาน่าทานแล้วยังอร่อยอีกด้วย

รูปภาพจาก Facebook

Cabana Pasta & Steak

สถานที่ Hang out แห่งใหม่ ย่านกาญจนาภิเษก เขารีแบรนด์จากคาเฟ่ทะเลฝั่งธน สู่ร้านอาหารฟีลริมทะเล ร้านตั้งอยู่บริเวณเยื้องซอยบางแวก 120-122 เปิดบริการตั้งแต่ 12.00-20.00 น. (หยุดวันอังคาร) เป็นร้านพาสต้าและสเต๊กที่บรรยากาศดีสุด ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งทานข้าวริมทะเล มีสระน้ำให้ทุกคนถ่ายรูปสวย ๆ กันด้วย ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ เหมาะกับซัมเมอร์แบบนี้ ห้ามพลาด

รูปภาพจาก Facebook

Fav

ไม่ต้องไปถึงต่างจังหวัด ก็สัมผัสบรรยากาศเหมือนอยู่ริมทะเลได้ Fav เป็นคาเฟ่สไตล์บาหลีย่านลาดพร้าว ตั้งอยู่ที่นาคนิวาส 37 (สุดซอย) ลาดพร้าว71 เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 14.00 - 22.00 น. (หยุดวันจันทร์) ร้านบรรยากาศดีสุด ๆ อาหารอร่อย มีทั้งของคาว ของหวาน ราคาไม่แพง และแอบบอกว่าไม่มี Service charge ด้วยนะ ใครที่เป็นสายถ่ายรูป แนะนำโซน Outdoor เลย นั่งชิล ๆ ฟีลริมทะเล ถ่ายรูปสวยสุด ๆ

รูปภาพจาก Facebook

The Beach กลางกรุง

คาเฟ่ที่ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ริมชายหาด แต่ไม่ต้องขับรถไปไกลถึงทะเล เพราะคาเฟนี้อยู่ใกล้ ๆ แค่ลาดกระบัง ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11:00 - 23.00 น. เป็นร้านที่บรรยากาศดีสุด ๆ เหมาะไปนั่ง Hang out โดยเฉพาะช่วงเย็น ๆ แดดอ่อน ๆ เขามีมุมถ่ายรูปเพียบ รวมไปถึงมีดนตรีสดด้วย รับรองว่าถ้าได้ลองไปนั่งแล้ว จะได้ความรู้สึกคล้ายกับนั่งทานข้าวริมทะเลจริง ๆ เลย

รูปภาพจาก Facebook

My Castle Beach

ขยับออกจากกรุงเทพมานิดนึง มาที่ย่านนนทบุรี เราจะเจอคาเฟ่ลับ ฟีลชายหาด ที่เรียกได้ว่าเหมือนยกทะเลมาไว้ที่นี่เลย เพราะมีชายหาดที่เต็มไปด้วยทรายนุ่ม ๆ ให้เราเดินเล่นได้จริง ๆ รวมไปถึงมีสระว่ายน้ำ และเก้าอี้อาบแดด ไว้ให้ทุกคนถ่ายรูปเก๋ ๆ ด้วย ส่วนโซน Indoor ก็จะแต่งธีมโลกใต้ท้องทะเล ใครกำลังมองหาคาเฟ่ที่เหมาะมาถ่ายรูปฟีลซัมเมอร์ มาที่นี่ได้เลย ร้านเปิดบริการตั้งแต่ 11.00-23.00 น. (หยุดวันพฤหัสบดี)

related Food & Beverage

เดินชิล เดินช้อป กินกันเพลิน "เกษตรแฟร์" ปี 2567

08 ก.พ. 2024

เดินชิล เดินช้อป กินกันเพลิน "เกษตรแฟร์" ปี 2567

เตรียมตัว เตรียมพุง พุ่งไปงาน "เกษตรแฟร์" ปี 2567 งานที่รวบรวมของกิน ของอร่อย ของช้อป ให้ได้เดินกันเพลิน ๆ ตั้งแต่วันที่ 2 - 10 กุมภาพันธ์ 2567 ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน"เกษตรแฟร์" งานนี้บอกเลยว่ามีแต่ของกินเยอะจนตาลาย ปีนี้จัดหนัก จัดเต็ม ทั้งของกิน ของช้อป ทั้งร้านเด็ดจากโซเชี่ยล ทั้งเมนูของคาว และของหวาน ขนมากันเพียบ หลากหลายโซน เดินกันจุก ๆ ตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึง 4 ทุ่ม ทุกวัน ระหว่างวันที่ 2-10 กุมภาพันธ์ 2567 ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน พร้อมแล้วไปลุยกันเลยโซน A : Kaset Station เกษตรชวนชิม อร่อยชวนแชร์โซน B : Kasetsart Floating Market ตลาดน้ำเกษตรโซน C : Modern Technology Agricultural เทคโนโลยีก้าวไกลโซน D : Plants of Love สราญรมย์ ชมพฤกษาโซน E : Pet Society เพื่อนรักสัตว์เลี้ยงโซน F : Let’s Take a Break สีสันตะวันฉายโซน G : All U Can Eat ครบเครื่องเรื่องอร่อยโซน J : Soft Power on Thai Agricultural Culture ของดีทั่วไทย ส่งใจถึงมือโซน K : Road of Happiness ฟินสุดหยุดไม่ได้โซน L : KU Partner Product from Department of Correction สร้างสรรค์เรื่องงานดีโซน Food Court ศูนย์อาหารโซน Fun Park สวนสนุกร้านค้านิสิตร้านจำหน่ายอาหาร ร้านค้านามสโมสรนิสิตใครกำลังมองหาของกิน หาที่เดินเล่น เดินช้อป ลองแวะไปเดินเล่นที่งาน "เกษตรแฟร์" กันได้ งานนี้บอกเลยว่าได้ของกินติดไม้ ติดมือ กลับบ้านกันอย่างแน่นอน

Central Embassy ชวนมาค้นพบความสุขในความวุ่นวายเล็กๆ กับ FUNNY LITTLE MESS | SEASON OF GIVING โดย STICKY MONSTER LAB!

09 ธ.ค. 2025

Central Embassy ชวนมาค้นพบความสุขในความวุ่นวายเล็กๆ กับ FUNNY LITTLE MESS | SEASON OF GIVING โดย STICKY MONSTER LAB!

ต้อนรับเทศกาลแห่งการให้และการเฉลิมฉลองส่งท้ายปี! เซ็นทรัล เอ็มบาสซีเนรมิตพื้นที่ให้กลายเป็นดินแดนแห่งความสุขสุดคิวต์ในงาน "FUNNY LITTLE MESS: SEASON OF GIVING"ที่สร้างสรรค์ร่วมกับ Sticky Monster Lab สตูดิโอครีเอทีฟชื่อดังระดับโลกจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยเป็นการประเดิมจัดงานครั้งแรกในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้!อุโมงค์ไฟและของตกแต่งตื่นตาตื่นใจกับ The Monster Gateway ทางเข้าเชื่อมสถานี BTS เพลินจิต ที่เต็มไปด้วยแสงไฟสีสันสดใส และของประดับในธีมคริสต์มาสสุดน่ารัก และห้ามพลาดกับ ป๊อปอัพสโตร์ แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รวบรวมของที่ระลึกและสินค้าลิขสิทธิ์สุดคิวต์มาให้เลือกซื้อเป็นของฝากหรือของสะสมทำความรู้จัก Sticky Monster Lab และคอนเซ็ปต์สุดว้าวSticky Monster Lab คือสตูดิโอที่โดดเด่นในการสร้างสรรค์คาแรคเตอร์มอนสเตอร์สุดน่ารักที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผ่านงานดีไซน์ที่ผสมผสานความขี้เล่น ความตลกขบขัน และมุมมองศิลปะร่วมสมัยอย่างลงตัวงาน "FUNNY LITTLE MESS" ได้รับแรงบันดาลใจจากคาแรคเตอร์ Redmon และ Elfmon โดยสองครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ SML คือ Fla และ Boo ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวการผจญภัยสุดอบอุ่นที่ชวนให้ทุกคนค้นพบความสุขจาก “ความวุ่นวายเล็ก ๆ ที่อบอุ่นใจ” หรือ "funny little mess" ของชีวิต อันเต็มไปด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพ คุณจะได้พบกับคู่หูเพื่อนซี้ Redmon และ Elfmon ซึ่งไม่เคยปรากฏตัวในกรุงเทพฯ มาก่อน! และถูกนำมาจัดแสดงในรูปแบบอาร์ตอินสตอลเลชันขนาดใหญ่ทั่วทั้งศูนย์การค้าดื่มด่ำกับ Installation Art สุดคิวต์ทุกมุมของ Central Embassyคุณจะได้พบกับคู่หูเพื่อนซี้ Redmon และ Elfmon ซึ่งไม่เคยปรากฏตัวในกรุงเทพฯ มาก่อน! และถูกนำมาจัดแสดงในรูปแบบอาร์ตอินสตอลเลชันขนาดใหญ่ทั่วทั้งศูนย์การค้าจุดถ่ายรูปสุดชิคอย่าพลาดมุมถ่ายรูปสุดสร้างสรรค์อื่น ๆ ทั่วห้าง ไม่ว่าจะเป็น The Wishing Tree หรือ Stick-Ey Together Fountain ที่ทางเข้าเพลินจิต และแน่นอนว่าต้องมีหุ่น Nutcracker ยักษ์ ที่หน้าทางเข้าของห้างอีกด้วยงาน FUNNY LITTLE MESS: SEASON OF GIVING ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงศิลปะที่น่ารักเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งต่อพลังบวกและความหมายของ "การให้" และ "มิตรภาพ" ที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความรู้สึกดี ๆ อีกด้วยเซ็นทรัล เอ็มบาสซี งาน FUNNY LITTLE MESS : SEASON OF GIVING 2025 ที่อยู่ : 1031 ถนนเพลินจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพฯพิกัด : https://maps.app.goo.gl/iCYMagoYMWYfGX819เปิดให้เข้าชม : 10.00-22.00 น.การเดินทาง : รถไฟฟ้า BTS สถานีเพลิตจิตมาเปลี่ยนช่วงเวลาส่งท้ายปีให้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความทรงจำที่อบอุ่นใจไปกับเหล่ามอนสเตอร์สุดน่ารักที่ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี แล้วคุณจะรู้ว่าความสุขที่แท้จริงอาจซ่อนอยู่ใน "ความวุ่นวายเล็กๆ" ที่น่ารักนี้!เขียนโดย : เบญญาภา แนบเนียน

แฟน Toy Story ห้ามพลาด! Oh My Cafe โตเกียว โอซาก้า และนาโกย่า

13 มิ.ย. 2023

แฟน Toy Story ห้ามพลาด! Oh My Cafe โตเกียว โอซาก้า และนาโกย่า

แฟนคลับ Toy Story มีกรี๊ด กับ Oh My Cafe คาเฟ่ชื่อดังที่ประเทศญี่ปุ่น ที่มักจะจัดเป็นตีมตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ อยู่เสมอ ล่าสุดเขามาในตีม Welcome to TOY ROOM ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนเรื่อง Toy Story เนรมิตทั้งร้านเป็นห้องของแอนดี้ พร้อมกับเมนูหน้าตาน่ารักน่าทาน รวมไปถึงของที่ระลึกสวย ๆ ที่มีขายเฉพาะอีเวนต์นี้เท่านั้นสำหรับ Oh My Cafe ครั้งนี้ กลับมาพร้อมความพิเศษสุด ๆ เพราะนอกจากที่โตเกียวแล้ว ยังมีที่โอซาก้า และนาโกย่าด้วย โดยที่โตเกียวจะจัดถึงวันที่ 9 ก.ค. 66 ส่วนที่โอซาก้า และนาโกย่า จะจัดถึงวันที่ 18 มิ.ย. 66เมนูอาหารของ Oh My Cafe ตีม Toy Story ก็มีให้เลือกหลากหลายเลย ตั้งแต่พาสต้าที่จัดจานเป็นตีมวู้ดดี้ ข้าวแกงกะหรี่ที่มาในตีมบัซไลท์เยียร์ แซนวิชไก่ที่มาในตีมเจสซี่ สตูว์เสิร์ฟพร้อมขนมปังที่ทำเป็นกล่องของเล่น รวมไปถึงโยเกิร์ตกีวี่ในตีมเหล่าเอเลี่ยนด้วยส่วนเมนูเครื่องดื่มก็มีให้เลือกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น เมล่อนโซดา เบอร์รีโยเกิร์ตสมูตตี้ ชามะนาว น้ำส้มและสัปปะรด รวมไปถึงเครื่องดื่มร้อนอย่าง กาแฟร้อน ชาร้อน และนมร้อนนอกจากนั้นยังมีเมนูลิมิเต็ดถึงสองช่วง โดยช่วงแรกจะมาในคอนเสปห้องของบอนนี่ มีให้ลองชิมกันถึงแค่ 31 พ.ค. 66 เท่านั้น มีทั้งขนมปัง เครื่องดื่ม และของหวาน ตกแต่งจานน่ารักมากส่วนเมนูลิมิเต็ดช่วงที่ 2 จะมาในคอนเสป Sunny Side โดยคาเฟ่สาขาโตเกียวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 66 ไปจนถึงจบอีเวนต์ ส่วนโอซาก้า และนาโกย่า จะเริ่มตั้งแต่ 22 พ.ค. 66 ไปจนถึงจบอีเวนต์เลยเช่นเดียวกัน เมนูที่ไม่ควรพลาดเลยสำหรับสายคอนเทนต์ เพราะน่าหยิบมาถ่ายรูปสุด ๆ ก็คือนมที่เสิร์ฟมาในแก้วรูปขวดนมเด็ก แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะทานยังไง เพราะเขาให้ใช้หลอดดูดเอานะนอกจากอาหาร และเครื่องดื่มแล้ว สิ่งที่ไม่อยากให้พลาดอีกอย่าง ก็คือพวกของที่ระลึก เพราะถือเป็นอีกหนึ่งความพิเศษ มีขายที่คาเฟ่นี้เท่านั้น มีให้เลือกชอปกันตั้งแต่สติ๊กเกอร์ พวงกุญแจ เข็มกลัด กระเป๋าผ้า แฟ้ม หมอน และกล่องเก็บของ ลวดลายน่ารัก สีสันสดใสสำหรับใครที่อาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นโตเกียว โอซาก้า หรือนาโกย่า หรือมีแพลนจะไปเที่ยวในช่วงอีเวนต์ Oh My Cafe ตีม Welcome to TOY ROOM อยู่แล้ว ก็อย่าพลาดแวะไปทานอาหาร และซื้อของที่ระลึกที่คาเฟ่กันได้ สำหรับใครที่ต้องการจะไปทานอาหาร แนะนำให้จองโต๊ะก่อนไปนะ จองในเว็บไซต์เสร็จแล้วก็เตรียมแต่งตัวสวย ๆ ไปถ่ายรูปในคาเฟ่น่ารัก ๆ แบบนี้กันได้เลยCr. https://toyroom.ohmycafe.jp/

"ร้านเช่าหนังสือวราสาส์น : สายใยแห่งการอ่านในยุคดิจิทัล"

26 ก.พ. 2025

"ร้านเช่าหนังสือวราสาส์น : สายใยแห่งการอ่านในยุคดิจิทัล"

ใจกลางย่านราชเทวี-พญาไท ซึ่งเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง มีร้านเช่าหนังสือเล็กๆ ที่ยังคงยืนหยัดผ่านกาลเวลาและกลายเป็นพื้นที่แห่งความทรงจำของใครหลายคน ร้านนั้นคือ "ร้านเช่าหนังสือวราสาส์น" ที่เต็มไปด้วยชั้นหนังสือเรียงรายและกลิ่นหนังสือเก่าที่อบอวลต้อนรับผู้มาเยือนวราภรณ์ เชฎฐาวิวัฒนา เจ้าของร้านวัย 70 ปี เล่าถึงจุดเริ่มต้นของร้านที่หยั่งรากมาจากความรักการอ่านตั้งแต่วัยเด็ก เธอเติบโตมาในครอบครัวที่มีวัฒนธรรมการอ่านเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ด้วยความใกล้ชิดกับหนังสือที่พ่อของเธอถ่ายทอดให้ เธอจึงหลงใหลการอ่านตั้งแต่วัยเยาว์ พอเข้าสู่วัยทำงาน แม้จะต้องทำงานหนักจนได้ฉายา "หญิงเหล็ก" แต่ความรักในหนังสือก็ยังคงอยู่ ทำให้เธอตัดสินใจเปิดร้านเช่าหนังสือเพื่อสานต่อความหลงใหลนี้การเปิดร้านหนังสือในช่วงที่ผู้คนเริ่มหันเหไปหาความบันเทิงรูปแบบใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความมุ่งมั่นและใจรัก วราภรณ์และสามีได้ร่วมมือกันสร้างร้านเช่าหนังสือแห่งนี้ขึ้นมา พวกเขาตระเวนหาซื้อหนังสือจากบ้านต่าง ๆ ประกาศรับซื้อและค่อย ๆ สะสมหนังสือจนกลายเป็นคลังหนังสือขนาดใหญ่ที่มีหนังสือหลายหมื่นเล่มแม้ว่าโลกจะหมุนไปอย่างรวดเร็ว แต่ร้านเช่าหนังสือวราสาส์นยังคงรักษาเสน่ห์และกลิ่นอายของความคลาสสิกไว้ได้อย่างมั่นคง ความอบอุ่นของร้านและความใส่ใจของเจ้าของร้านดึงดูดลูกค้าประจำให้กลับมาเสมอ บางคนแวะมาหาหนังสือที่เคยอ่านในวัยเด็ก บางคนมาเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือเล่มโปรด ร้านนี้จึงเปรียบเสมือนศูนย์กลางของชุมชนเล็กๆ ที่คนรักการอ่านมารวมตัวกันในยุคดิจิทัลที่การอ่านผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นที่นิยม ร้านเช่าหนังสือวราสาส์นยังคงมีเสน่ห์ในแบบที่เทคโนโลยีไม่อาจแทนที่ได้ กลิ่นหนังสือเก่า การสัมผัสหน้ากระดาษ และความทรงจำที่เชื่อมโยงกับหนังสือเล่มโปรดคือสิ่งที่ทำให้ลูกค้าหลายคนยังคงแวะเวียนมา แม้จะมีความท้าทายมากมาย แต่ร้านเช่าหนังสือแห่งนี้ยังเป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบันไว้อย่างงดงามวราภรณ์เชื่อว่าร้านเช่าหนังสือมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการอ่าน เธอเล่าว่า "หนังสือเล่มหนึ่ง คนอ่านได้เป็นร้อยเป็นพัน เป็นวิทยาทานที่เราต้องการเผยแพร่" แม้ว่าร้านเช่าหนังสือจะให้ผลตอบแทนไม่สูงนัก แต่เธอยังคงยืนหยัดทำด้วยความสุขที่ได้เห็นคนเข้ามาหยิบหนังสือและได้แบ่งปันความรู้ให้กับเยาวชนนอกจากการให้บริการเช่าหนังสือ วราภรณ์ยังจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอ่านเป็นประจำ เช่น การจัดมุมอ่านฟรีสำหรับเด็กๆ หรือการลดราคาหนังสือในโอกาสพิเศษ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงหนังสือได้ง่ายขึ้น เธอมองว่าการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านตั้งแต่วัยเยาว์จะช่วยเสริมสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์และจินตนาการ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิตวราภรณ์มีมุมมองที่ชัดเจนต่ออนาคตของการอ่าน แม้เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน แต่เธอเชื่อว่าหนังสือมีคุณค่าในแบบที่ดิจิทัลไม่สามารถทดแทนได้ เธอมองว่าการอ่านหนังสือช่วยสร้างสมาธิ กระบวนการในการคิด และการเชื่อมโยงอารมณ์กับเนื้อหาได้มากกว่า เธอหวังว่าความรักในการอ่านจะถูกส่งต่อไปยังคนรุ่นใหม่ผ่านประสบการณ์ที่จับต้องได้ เช่น การพลิกหน้ากระดาษและการแบ่งปันความรู้ระหว่างกันนอกจากนี้ เธอยังเน้นว่าร้านเช่าหนังสือเป็นพื้นที่ที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงความรู้ ด้วยราคาที่จับต้องได้ ทำให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถมีโอกาสอ่านหนังสือดีๆ ได้ วราภรณ์เชื่อว่าการส่งเสริมการอ่านในชุมชนเล็กๆ สามารถสร้างผลกระทบในวงกว้างและช่วยพัฒนาสังคมให้ก้าวหน้าการดำเนินร้านเช่าหนังสือในยุคนี้เต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและจำนวนผู้อ่านที่ลดลง วราภรณ์พยายามปรับตัวอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นการขยายประเภทหนังสือให้หลากหลาย หรือการสร้างความสัมพันธ์อันอบอุ่นกับลูกค้าประจำ ร้านวราสาส์นจึงไม่ได้เป็นเพียงธุรกิจ แต่เป็นพื้นที่ที่รวบรวมความรักและความมุ่งมั่นในการรักษาวัฒนธรรมการอ่านทุกๆ ปีในวันเด็ก วราภรณ์จะเปิดให้เด็กๆ อ่านหนังสือฟรี เพื่อปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน แม้เด็กที่เข้าร้านจะลดน้อยลง แต่เธอก็ยังคงยึดมั่นในความตั้งใจนี้ เพราะเชื่อว่าการอ่านจะช่วยสร้างอนาคตที่ดีให้กับสังคม เธอหวังว่าภาครัฐจะมีนโยบายสนับสนุนร้านเช่าหนังสือขนาดเล็กเช่นนี้ เพื่อรักษาสังคมแห่งการเรียนรู้และเสริมสร้างวัฒนธรรมการอ่านให้คงอยู่ต่อไปร้านเช่าหนังสือวราสาส์นจึงไม่ใช่แค่ร้านเช่าหนังสือธรรมดา แต่เป็นพื้นที่แห่งความทรงจำและความรักการอ่าน ที่เปิดโอกาสให้คนทุกวัยได้เข้ามาสัมผัสเสน่ห์ของหนังสือ และเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและใจรักที่ไม่เสื่อมคลายของเจ้าของร้านผู้เปรียบเสมือน "หญิงเหล็ก" ที่ต่อสู้เพื่อความสุขเล็กๆ ของตัวเองและเพื่อแบ่งปันความสุขนี้ให้กับผู้อื่นวราสาส์นFacebook : วราสาส์นสถานที่ตั้ง : 68, 56 ซ. เพชรบุรี 5 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/xFktv6YTGV5fboRWAเวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 12:30-20:30 น. (ปิดทุกวันอาทิตย์)ผู้เขียน : จิตรกร ปะวะโขภาพ : เบญญาภา แนบเนียน