24 ม.ค. 2022
นั่งทำงานนานๆ ยืดเส้นยืดสายยังไงดี
การนั่งทำงานหน้าคอมนานๆ ยังเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอยู่ดี ดังนั้นใครที่ต้องนั่งทำงานหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ทุกวัน หากไม่อยากป่วยเป็นโรคต่างๆ ควรทำตามเคล็ดลับของแพทย์แผนจีน วันนี้จะเล่าให้ฟังค่ะนั่งนานเกินไปผู้ใหญ่ชาวอเมริกันเฉลี่ยร้อยละ 60 จะนั่งอยู่กับที่เฉยๆ และนานกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน กลุ่มนักวิจัยได้เปรียบเทียบ ระหว่างผู้เข้าร่วมที่นั่งอยู่หน้าโทรทัศน์ หรือหน้าจออื่นๆไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมง กับผู้ที่ใช้เวลา 4 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ปรากฏว่าผู้ที่นั่งมากกว่า 4 ชั่วโมง มีโอกาสเสียชีวิตมากถึงร้อยละ 50 (ไม่ว่าสาเหตุใดก็ตาม) มากกว่าผู้เข้าร่วมในกลุ่มแรก แถมโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจก็เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 125มีอาการเรื้อรังตามมานอกจากอาการปวดกล้ามเนื้อหลังแล้ว การนั่งทั้งวันยังมีส่วนเกี่ยวโยงกับโรคหัวใจ และโรคเบาหวาน ยิ่งนั่งนานก็ยิ่งทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้น้อยลงเนื่องจากกล้ามเนื้อของเราไม่ได้ทำงาน หัวใจไม่ได้สูบฉีดเร็วและแรง ด้วยเหตุนี้กรดไขมันจึงสะสม และอุดตันหัวใจได้ง่ายยิ่งขึ้น ในความเป็นจริงผู้ที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวหรือนั่งเกือบตลอดทั้งวัน มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหัวใจมากกว่าผู้ที่เคลื่อนไหวเป็นประจำถึง 2 เท่า นอกจากนี้การนั่งมากเกินไป ยังทำให้อัตราการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นด้วยค่ะเบลอทั้งวันการนั่งมากเกินไป ยังส่งผลต่อสมองของเรา เมื่อกล้ามเนื้อเคลื่อนไหว หัวใจก็จะสูบฉีดเลือดที่มีออกซิเจนสูงไปยังสมอง ในทางกลับกัน การนั่งนานๆจะชะลอการทำงานทุกอย่างในร่างกาย รวมถึงการทำงานของสมองด้วย นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับความรู้สึกซึมเศร้า และเพิ่มความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมแพทย์แผนจีนแนะนำระหว่างที่นั่งปั่นงานอยู่ ลองตั้งเวลาให้ลุกขึ้นเดินไปเดินมาในบ้านทุกๆ ชั่วโมงดู อาจจะเดินเข้าห้องน้ำ กดน้ำมาดื่ม ชงชา กาแฟการเดินบ่อยๆ จะเผาผลาญพลังงานได้ และป้องกันโรคอ้วนได้ด้วยค่ะดื่มน้ำมากขึ้นใครที่รู้ตัวว่าอยู่ในห้องทำงานตลอดเวลา แทบไม่ได้กระดิกตัวไปไหน อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันด้วยนะคะ หาเวลาจิบน้ำ ทุกๆ ชั่วโมง จะตั้งขวดลิตรเอาไว้บนโต๊ะ แล้วพยายามดื่มน้ำให้หมดภายใน 1 วันก็ได้ค่ะ แล้วสังเกตสีปัสสาวะของตัวเอง หากสีปัสสาวะยังเป็นสีเหลืองเข้มอยู่ แสดงว่ายังดื่มน้ำไม่เพียงพอ ต้องดื่มน้ำเพิ่ม และตัวเลือกที่ดีที่สุด ควรเป็นน้ำเปล่า หากเบื่อหรือขี้ลืมจริงๆ จะฝานผลไม้ที่เพิ่มความสดชื่นอย่างมะนาวลงไปในน้ำเปล่าด้วยก็ได้นะคะ แต่ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงด้วยนะคะ กลัวจะเป็นโรคเบาหวานกันก่อนท่าบริหารจากแพทย์แผนจีนท่าบริหารต้นคอ เริ่มจากนำมือข้างซ้ายอ้อมไปจับศีรษะด้านขวา ดึงมาทางด้านซ้ายจนรู้สึกตึง นับ 1 - 10 สลับใช้มือข้างขวาอ้อมจับศีรษะด้านซ้ายทำเช่นเดียวกัน นับ 1 - 10 จากนั้นประสานมือบริเวณท้ายทอย ดันไปด้านหน้าจนรู้สึกตึง นับ 1 - 10ท่าบริหารกล้ามเนื้อหัวไหล่ ยกไหล่ขึ้นไปจนสุด แล้วเกร็งค้างไว้ นับ 1 - 10 จากนั้นกดไหล่ลงไปให้สุด แล้วเกร็งค้างไว้ นับ 1 - 10 ท่านี้สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องของการปวดไหล่เป็นประจำค่ะท่าบริหารผ่อนคลายกล้ามเนื้อแขนท่าที่ 1 เพื่อยืดแขน โดยประสานมือ จากนั้นจึงเหยียดขึ้นไปเหนือหัวเราจนสุดแขน การทำแบบนี้จะทำให้กล้ามเนื้อแขนได้ยืดออกแล้วให้เงยหน้ามองขึ้นด้านบน เพื่อเปลี่ยนท่าทางของช่วงคอ ค้างท่านี้ไว้นับ 1 - 10 แล้วค่อยเอาลงค่ะท่าที่ 2 เพื่อคลายความเมื่อล้าของกล้ามเนื้อแขน ใช้มือซ้ายจับฝ่ามือขวา จากนั้นเหยียดแขนทั้งสองไปข้างหน้า แล้วจึงดัดข้อมือขวาเข้าหาตัวจนรู้สึกว่าตึงบริเวณด้านในข้อศอกขวา ทำค้างไว้นับ 1 - 10 แล้วจึงเปลี่ยนข้างท่าบริหารนิ้ว และฝ่ามือเป็นท่าที่ช่วยผ่อนคลายอาการเมื่อยล้าที่นิ้ว และฝ่ามือ กำมือทั้ง 2 ข้างให้แน่นที่สุด แล้วกำมือค้างไว้นับ 1 - 5 จากนั้นจึงค่อยๆ คลายออกช้าๆ เหยียดนิ้วและกางนิ้วมือออกให้มากที่สุด เท่าที่ทำได้ แล้วค้างไว้นับ 1 - 5 แล้วจึงกลับมาอยู่ท่าเดิม ทำแบบนี้เรื่อยๆ ประมาณ 2 – 3 รอบค่ะท่าบริหารกล้ามเนื้อด้านหน้าอก และแก้ปัญหาไหล่ห่อท่าที่ 1 ให้ลุกขึ้นยืน จากนั้นนำมือประสานกันด้านหลัง ค่อยๆ ยกขึ้นมาจนถึงระดับที่เรารู้สึกว่าตึง นับ 1 - 10ท่าที่ 2 เป็นการยืดด้านหลัง โดยการกอดตัวเองให้แน่นที่สุด ให้มือไขว้กันเยอะที่สุด โดยเอามือโอบด้านหลังของตัวเองให้มากที่สุด นับ 1 - 10ท่าบริหารหลังยืนตัวตรง ยกแขนทั้งสองข้างเหนือศีรษะ ประสานมือเอาไว้ แล้วค่อยๆ เอนตัวไปด้านหลังจนรู้สึกตึงแล้วนับ 1 - 10ท่าบริหารบริเวณช่วงสะโพกท่านี้จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อบริเวณสะโพก ซึ่งมักจะไปกดทับเส้นประสาท ทำให้รู้สึกมีปัญหา ปวดบริเวณสะโพก ชาลงขา และเท้า ทำโดยยกเท้าซ้ายขึ้นมาวางทับเหนือเข่าขวา จากนั้นเอนตัวมาด้านหน้า จะรู้สึกตึงบริเวณต้นขาด้านซ้าย นับ 1 - 10 จากนั้นสลับเท้าด้านขวาทำเช่นเดียวกันค่ะท่าบริหารกล้ามเนื้อด้านข้างยืดมือขึ้นบนสุดประกบกัน จากนั้นเอนตัวทางด้านซ้าย นับ 1 - 10 จากนั้นเอนตัวมาด้านขวา นับ 1 - 10ท่าบริหารขาเหมาะสำหรับผู้ที่ยืนนานๆ หรือใส่รองเท้าส้นสูง ไขว้ขาซ้ายเข้ากับขาขวา จากนั้นค่อยๆ ก้ม เอามือไปแตะหน้าขา นับ 1 - 10ลองทำดูนะคะแล้วคุณจะมีความสุขกับการทำงานมากขึ้นไม่ว่าจะทำที่บ้านหรือที่ทำงาน เราจะสุขภาพดีไปด้วยกันค่ะ ^^ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะFacebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’GirlMusic Travel Lover