
09 ส.ค. 2024
ผมเป็นครูมา 10 ปี เพิ่งเคยเจอ ผมเสียใจร้องไห้มา 2 อาทิตย์แล้วครับ ได้มาสอนชั้นอนุบาล เจอผู้ปกครองไปขอผอ. ย้ายลูกไปเรียนห้องอื่น เหตุผลเพราะเขาเห็นผมเป็น LGBTQ+ เขากลัวว่าลูกจะโตมาเป็นแบบผม แล้วการที่ผมเป็นแบบนี้ ผมผิดอะไร?
ผมเป็นครูมา 10 ปี เพิ่งเคยเจอ ผมเสียใจร้องไห้มา 2 อาทิตย์แล้วครับ ได้มาสอนชั้นอนุบาลเจอผู้ปกครองไปขอผอ. ย้ายลูกไปเรียนห้องอื่น เหตุผลเพราะเขาเห็นผมเป็น LGBTQ+เขากลัวว่าลูกจะโตมาเป็นแบบผม แล้วการที่ผมเป็นแบบนี้ ผมผิดอะไร? ลูกเขายังร้องไห้ อยากเรียนกับผมอยู่เลย “คุณคิม (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [7 ส.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจอ้อม - ดีเจเติ้ล - ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาสอนชั้นอนุบาล แต่ผู้ปกครองอยากย้ายลูกไปเรียนห้องอื่น เพราะเราเป็น LGBTQ โดย “คุณคิม (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘ผมเป็นครูกำลังจะเข้าปีที่ 10 ผมเป็น LGBTQ+ ผมก็มีแฟนและใช้ชีวิตปกติ ปีนี้ผมลงไปสอนชั้นอนุบาล แล้วผมก็เจอผู้ปกครองกลุ่มหนึ่งที่ค่อนข้างมีฐานะ พอเปิดเทอมได้เดือนเศษ ๆ ผู้ปกครองกลุ่มนี้ก็เข้าพบผู้อำนวยการ และจะขอย้ายลูก 2 คนไปเรียนอีกห้องหนึ่ง ซึ่งเค้าให้เหตุผลว่าไม่อยากให้ลูกเป็นเกย์ เป็นกะเทย ผมเลยถูกผู้อำนวยการเรียกไปคุยแต่ท่านไม่ได้บอกเหตุผลเพราะกลัวผมเสียใจ แต่ผมทราบจากผู้ปกครองคนอื่นที่เค้าคุยกันในกลุ่มไลน์ ผมก็เลยมีความรู้สึกว่าแล้วเราผิดอะไรที่เราเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ผมตั้งใจสอนเด็กทุกคน ตลอดระยะเวลาที่ผมเป็นครูมา ผมก็ไม่เคยทำอะไรที่เสียหายหรือเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับเด็ก แล้วทุกวันนี้เด็ก 2 คนนี้ก็ถูกย้ายไปอยู่อีกห้องนึง แต่ผมก็เจอทุกวัน ล่าสุดผมเจอเหตุการณ์ที่ผมไม่ไหว คือ เด็ก 2 คนนี้ลงรถมาจากผู้ปกครอง แล้วเค้าวิ่งมาหาผมแล้วบอกว่า “อยากไปเรียนห้องครูคิม” แล้วผู้ปกครองก็เอาลูกเค้าไป แล้วเค้าตีลูกและบอกว่า “ให้เรียนอีกห้อง วิ่งไปห้องนั้นทำไม” นี่คือเหตุการณ์ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมก็ไม่อยากเกิดเป็นแบบนี้ ผมเลยคิดว่าเดือนตุลาคมนี้ผมจะลาออก เพราะเหตุการณ์นี้ ผมก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่าผมจะมูฟออนจากเหตุการณ์นี้ยังไง และจะดำเนินชีวิตต่อยังไง? ควรไปต่อหรือพอแค่นี้’ ซึ่ง “ดีเจอั๋น” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่คิดว่าถ้าเราอยากไปต่อเราไป ถ้าเรายังมีความสุขกับการเป็นครู แล้วมันยังเป็นความฝันความตั้งใจ เรายังรู้สึกว่ามันเป็นประโยชน์ตรงนั้น เราเห็นคูณค่าของตัวเองตรงนั้น “ทำ” แค่นั้นเอง อย่างแรกเลยพี่ไม่คิดว่าเราควรเอาคุณค่าของเราไปแขวนกับความคิดเห็นหรือความรู้สึกของคนอื่น เราไม่จำเป็นต้องให้ค่ากับทุกคน มันเป็นไปไม่ได้ในชีวิตที่จะทำให้ทุก ๆ คนรักเรา ชอบเรา แม้แต่เราทำถูกต้องทุกอย่าง ก็ยังสามารถมีคนบอกว่าเราผิดได้ แม้เราทำทุกอย่างเหมาะสม ก็มีคนบอกว่าเราไม่มีมารยาทได้ เพราะฉะนั้นมันคือเรื่องปกติของโลกที่เราจะต้องเจอกับความผิดปกติ รวมถึงเราอาจจะเจอกับความผิดปกติของทัศนคติของคนที่มาจากไหนก็ไม่รู้ และบางทีไม่ต้องหาเหตุผล พี่อั๋นก็ยังยืนยันว่ามันคือส่วนน้อย และเราควรมีภูมิคุ้มกันเพราะเราต้องเจอเรื่องแบบนี้อีกเยอะ และเราควรเป็นตัวอย่างให้เด็ก ๆ ได้เห็นว่าเราจะต้องเจอกับเรื่องอะไรได้อีกเยอะมากในโลกที่มันไม่มีเหตุผลเลย โดยไม่จำเป็นจะต้องเสรยเวลาอธิบายอะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่อง LGBTQ+ กันอีกต่อไป เพราะ ณ วันนี้อย่างแรกเลย คิมเองต้องไม่รู้สึกว่าสิ่งนี้ผิดปกติ ไม่มีใครด่าเราว่าเราผิกปกติได้ ถ้าเราไม่รู้สึกว่ามันผิดปกติเอง เราต้องไม่ทำร้ายตัวเองในสิ่งที่เราไม่ได้ผิด อย่าหยิบมีดมาแทงตัวเอง โลกมันเดินไปแล้ว แต่เราไม่สามารถบังคับให้ทุกคนเดินไปกับเราได้ ถ้าเค้าทุกข์ปล่อยเค้าทุกข์ เราแค่เอาใจช่วยว่าลูกเค้าหวังว่าลูกเค้าจะเติบโตมาดีกว่าพ่อแม่เค้า’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่พึ่งไปงานไพรด์ที่สวีเดน เค้าจะมีขบวนที่เป็นตัวแทนของครูและอาชีพต่าง ๆ สิ่งที่พี่รู้สึกคือเค้าทำให้เห็นว่ามันคือเรื่องธรรมดาและปกติ เพราะฉะนั้นเราไม่รู้สึกว่ามันคือสิ่งผิดปกติเลย เพราะว่าคิมเจอเหตุการณ์นี้และรู้สึกกับมัน พี่เป็นห่วงไม่อยากให้คิมคิดแบบนี้ เพราะพี่รู้สึกว่าสิ่งที่คิมเจอ คนอื่นก็เจอในแง่มุมอื่นเหมือนกัน พี่รู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับคิม ส่วนผู้ปกครองเราต้องเมตตาเค้าที่เค้าไม่รู้ว่าครู LGBTQ+ ไม่ได้ทำให้ลูกเป็น LGBTQ+ เท่ากับครูพละหล่อ ๆ พี่เสียดายถ้าคิมจะยุติอาชีพที่ทำมา 10 ปีและมีความสุขกับตรงนั้น เพราะฉะนั้นอยากให้คิมมีกำลังใจ และมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำ’ และสุดท้าย “ดีเจอ้อม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เห็นใจคิมนะ แต่ว่านั่นคือปัญหาของแม่เด็กนักเรียน ไม่ใช่ปัญหาเรา เพราะถ้าเป็นพี่ พี่แค่รู้สึกว่าคำว่าครูคิมมั่นใจว่าคิมทำได้ดี ขนาดที่เด็กโดนย้ายร้องไห้และอยากมาเรียนกับคิม แสดงว่าคิมต้องเป็นครูที่สอนเราได้ดี เราดีพอและเด็กรัก อวยพรให้แม่เค้าต้องย้ายลูกไปเรื่อย ๆ เพราะนั่นคือความรักของแม่ แม่ไม่ได้ผิด แต่ถ้าแม่เค้าเลือกที่จะย้ายลูกไปเรื่อย ๆ และไม่ยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็นก็ต้องเอาใจช่วยแม่เค้าจนกว่าจะพอใจ ปัญหาหลักคือเค้าไม่สามารถสอนลูกได้ด้วยตัวเอง จึงไปจัดการสิ่งแวดล้อมอื่น และคิดหรอว่าคนเราจะจัดการสิ่งแวดล้อมไปตลอดได้ เพราะฉะนั้นในหน้าที่การงานคิมไม่ได้บกพร่อง จงภูมิใจในสิ่งที่เราเคยทำและทำมันต่อไป แล้วปล่อยให้ปัญหานี้เป็นของมารดาเค้า’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin